อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 8 วันที่ 14 ม.ค.62

อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 8 วันที่ 14 ม.ค.62

ทั้งหมดจึงพากันไปที่ปากน้ำโพเพื่อหาป่าน ซึ่งคาดกันว่าเวลานี้น่าจะอยู่ในวัย 80 แล้ว

ถึงปากน้ำโพเที่ยวถามคนในตลาดแต่ก็ไม่มีใครรู้จักป่านเลย จนรู้สึกหมดหวังจึงชวนกันเข้าไปไหว้พระในวัด เจอแม่ชีจึงถามว่ารู้จักป่านแม่ค้าขายผักที่ตลาดไหม จึงรู้ว่าแม่ชีในวัย 83 คือป่านนั่นเอง ทุกคนมองแม่ชีป่าน

อย่างปลื้มปีติ ขวัญพึมพำเหมือนฝัน



“ป่านลูกครูฉัตร”

เมื่อรู้เป้าหมายของพวกขวัญอุมา แม่ชีป่านยินดีเล่าอดีตในความทรงจำให้ฟัง แม่ชีเอารูปขาวดำในอดีตมาให้ดูชี้ที่ฉัตรชนกกับนวลอนงค์เล่าว่า

“แม่ฉัตรกับยายนวลค่ะ คุณสองคนคงทราบดีว่าท่านเป็นใคร”

ธีรัชถามว่ามีรูปปภาคินไหม แม่ชีป่านจึงเปิดให้ดู รูปวันแต่งงานของฉัตรชนกกับปภาคิน ถามว่าอยากรู้เรื่องราวที่ผ่านมาหรือ ขวัญอุมาบอกว่าอยากรู้เพราะเชื่อว่าฉัตรชนกไม่มีวันทำอะไรแบบนั้น

“คุณแม่ฉัตรท่านมีบุญมากและมีกรรมมาก

ในคราวเดียวกัน ในบั้นปลายชีวิตไม่เคยมีความสุขยังอยากรู้เรื่องที่ทำให้เจ็บปวดอีกหรือ”

“มีคนเอามาเขียนนิยาย เอามาทำเป็นละคร ฉัตรชนก ถูกกล่าวหาในเรื่องที่เลวร้ายมาก เป็นเรื่องไม่จริงทั้งสิ้น ฉันต้องล้างมลทินที่ทุกคนเข้าใจฉัตรชนกผิดคุณยอมได้ยังไงคะแม่ของคุณทั้งคน” ขวัญอุมาหว่านล้อม

“หากรู้แล้วจะทำอย่างไร”

ขวัญอุมาเล่าว่าตอนนี้ผู้จัดกับผู้กำกับละครเรื่องนี้ยอมแก้บทแล้ว เราต้องหาข้อเท็จจริงมาให้คนเขียนบท คนดูจะได้รู้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ฉัตรชนกไม่ได้ทำอะไรผิด คนที่เลวคือผู้หญิงคนนั้น ธีรัชสะกิดว่าขวัญพูดมากไป แต่แม่ชีป่านบอกว่าไม่เป็นไร ตนจะเล่าให้ฟัง

ooooooo

เหตุการณ์ขณะนั้นคือกนกแขทำเสน่ห์ใส่ปภาคิน ทำให้ปภาคินที่ได้สติคืนมาจากพระของท่านชายกลับไปหลงกนกแขอีก

ธีรัชอ่านบันทึกแล้วเล่าว่า โชคดีที่ปภาคินบันทึกไว้ว่าตัวเองป่วยมากรักษาอย่างไรก็ไม่หายโดยไม่บอกว่าเป็นอะไร เขาคิดถึงแต่กนกแข ราวกับว่าเขายิ่งอยู่ใกล้ฉัตรชนกก็ยิ่งป่วยหนัก

แม่ชีป่านแทรกว่าเวลานั้นความคิดท่านอาจจะสับสนเพราะบางเวลามีมนตร์ดำครอบคลุมท่านอยู่ ขวัญอุมาถามว่า กนกแขใช่ไหมที่เป็นคนทำเสน่ห์ แม่ชีไม่ตอบแต่บอกว่า

“คนทำกรรมไว้ย่อมได้รับกรรมค่ะ...ทำกรรมดีย่อมได้ดี ทำกรรมชั่วก็ได้รับผลนั้น ไม่ช้าก็เร็ว”

ขวัญอุมาชวนไปบ้านรมย์ฤดีที่ศรีราชากันไหม แม่ชีบอกว่าอย่าไปเลย ที่นั่นไม่ใช่บ้านของตน ตนยินดีตอบคำถามเรื่องราวชีวิตของแม่จะใช้เวลานานเท่าไรก็ได้ แต่ตนก็ต้องทำภารกิจให้วัดตามที่ได้ปวารณาตัวไว้ หลังเพลแล้วคุยกันได้ทุกวัน แต่วันนี้ต้องขอตัวไปทำวัตรเย็นก่อน

ขวัญอุมากับธีรัชจึงนัดแม่ชีพรุ่งนี้พบกันที่นี่ แม่ชียินดีเพราะตนรอมานานแล้ว อีกไม่ช้าพวกเขาก็จะได้เข้าใจเรื่องทั้งหมด ขวัญอุมา ธีรัช กับลูกปลาจึงตัดสินใจค้างที่นี่

ธีรัชปลีกตัวไปจองห้องพัก และโทร.ชวนฉายฉานพรุ่งนี้มาฟังแม่ชีด้วยกัน ฉายฉานไปชวนอรนภา อรนภาหวังอ่อยฉายฉาน แต่ฉายฉานมีสติ มีความมุ่งมั่นในเป้าหมายของตนที่กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ก็ยากเย็นแสนเข็ญ ไม่ทำลายตัวเองแบบนี้ ไม่เออออด้วย และกลับไปอย่างไม่แยแสกับการยั่วยวนของอรนภา

อรนภาผิดหวังและเจ็บใจ ด่าฉายฉานว่าเห็นแก่ตัวเลว คิดแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง

ooooooo

กนกแขกลับบ้านเปิดดูของขลังที่ได้มาจากพ่อหมอหยิบสีผึ้งทาปากป้ายลิ้น หยิบตุ๊กตาลงอาคมเหมือนที่ฝังที่ทางสามแพร่งออกมาใส่กระเป๋าเอาผ้าปิดไว้แล้วออกจากห้องไป

กนกแขไปที่บ้านรมย์ฤดี บอกปฐมาว่าได้ข่าวจากคนที่โรงพยาบาลว่าพี่ใหญ่ไม่สบาย ตนเป็นห่วงเลยให้แม่ทำน้ำซุปบากหน้าเอามาเยี่ยม ระหว่างคุยกันก็แอบท่องมนตร์เป่าใส่ปฐมาที่ทำท่าจะไม่ให้ขึ้นไปหาปภาคินที่ห้อง พอปฐมาต้องมนตร์ก็อนุญาตให้กนกแขเอาน้ำซุปไปให้ปภาคินที่ห้อง

ไปถึงห้องเจอฉัตรชนกดูแลปภาคินอยู่ก็อ้างสิทธิ์เป็นเมียอีกคนจะมาดูแลสามี แล้วออดอ้อนเอาซุปป้อนปภาคิน หลอกให้ฉัตรชนกสนใจไปทางอื่นแอบเอาตุ๊กตายัดใส่ใต้หมอนปภาคิน ปภาคินต้องมนตร์ก็พร่ำเพ้อถึงแต่กนกแข จนฉัตรชนกลงไปนั่งที่สวน

ปพนมาเจอถามว่าทำไมมานั่งที่นี่ เกิดอะไรขึ้นหรือ ปฐมาบอกว่ากนกแขอยู่ข้างบนตั้งแต่บ่าย ปพนเห็นไม่ชอบมาพากลจึงจะพาฉัตรชนกขึ้นไปดูบอกว่าจะเอาเลือดหัวมันออกมาสักหน่อยเผื่อจะสำนึก

“เดี๋ยวค่ะคุณ อย่าเพิ่งขึ้นไป” ปฐมาบอกว่าอาการของปภาคินกลับมาอีกแล้ว เหมือนไม่เป็นตัวของตัวเอง “ฉันเกรงว่าไม่ใช่เรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องธรรมดา ทำร้ายกันไปก็คงเจ็บตัวเปล่าๆ ถ้าหากไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ”

ฉัตรชนกบอกว่าตนอยากกลับบ้าน ปฐมาขออย่าไปไหนเลย อยู่ช่วยเหลือกันก่อน ปพนจึงพาฉัตรชนกขึ้นไปที่ห้องปภาคิน เข้าไปถามว่า

“พ่อใหญ่เป็นยังไงบ้าง หนูแขล่ะจะกลับหรือยังจะได้ให้รถไปส่งบ้าน” กนกแขให้ถามพี่ใหญ่ว่าอยากอยู่กับใคร ปพนย้ำว่า “ตาใหญ่จะต้องดูแลเมียแต่งคือหนูฉัตร”

กนกแขบอกว่าแต่ตอนนี้พี่ใหญ่ต้องการตนคนเดียว แล้วอ้อนให้ปภาคินพูด ปภาคินพูดเหมือนเพ้อว่า

“แข...อยู่กับพี่เถอะอย่าไปไหนเลย”

กนกแขทำเป็นอ้อนปภาคินว่าวันนี้ตนมาเยี่ยมด้วยความเป็นห่วง วันนี้จะกลับก่อน พรุ่งนี้จะมาเฝ้าใหม่ ปภาคินขอร้องอย่าไปนาน กนกแขบอกว่าไม่นาน พรุ่งนี้ก็จะมาพี่ใหญ่รอนะ ก้มหอมแก้มปภาคินแล้วบอก ปพนว่าตนพร้อมจะกลับแล้ว

ฉัตรชนกจะตามออกไปด้วย ปฐมาขอให้อยู่ ฝากดูแลพ่อใหญ่ด้วย ฉัตรชนกไปจับแขนปภาคินเรียก

“คุณใหญ่คะ...”

ปภาคินสะบัดออก พร่ำเพ้อเรียก “แข...แข...” แล้วเดินโซเซกลับไปที่เตียง

ฉัตรชนกชะงักหัวใจสลาย ร้องไห้จนต้องเอามือปิดปากไม่ให้เสียงออกมา

ooooooo

ปพนกับปฐมาไปหาหลวงพ่อ หลวงพ่อให้ขวดน้ำมนต์ ปฐมาบอกว่าน้ำมนต์เพียงแค่บรรเทาเท่านั้น

ปพนบอกว่าถ้าจะให้พ้นมนตร์ดำพวกนั้นจริงๆ

ก็ต้องมาบวช ปฐมาเห็นด้วยบอกหลวงพ่อว่าตนสองคนจะพยายามหว่านล้อมให้พ่อใหญ่มาบวช หลวงพ่อบอกว่าให้มาศึกษาก่อน 7 วันแล้วค่อยบวช

“เจ้าค่ะ” ปฐมาชวนปพนให้กลับก่อน บอกว่าตนไม่เคยห่วงลูกเหมือนครั้งนี้เลย

“เมื่อเราได้ช่วยเท่าที่จะช่วยได้แล้ว จากนั้นก็ต้องปล่อยเป็นเรื่องของกรรม” หลวงพ่อบอก

กลับถึงรมย์ฤดี ปฐมาถามฉัตรชนกว่าพ่อใหญ่เป็นยังไงบ้าง ฉัตรชนกบอกว่าไข้เดี๋ยวขึ้นเดี๋ยวลดเป็นมาตลอดทั้งคืน

“มนตร์ดำครั้งนี้มันแรงนัก น้ำมนตร์ที่บริสุทธิ์ด้วยความดีอาจจะช่วยบรรเทาได้ ฉัตร...หากจะพ้นบ่วงกรรม นี้ไป พ่ออาจจะต้องให้พ่อใหญ่บวชนะ อาจจะต้องบวชนานจนกรรมดีจูงให้เขาพ้นมนตร์ร้ายนี้ไปได้”

เมื่อปพนกับฉัตรชนกช่วยกันรดน้ำมนต์ให้ปภาคิน เขาสะดุ้งดิ้นรนตะเกียกตะกายหนี แต่พอได้รับน้ำมนต์เต็มที่ก็สงบลงล้มฟุบไปกับหมอน เมื่อเห็นฉัตรชนกดูแลตนอยู่ก็จับมืออ้อนวอน

“ฉัตร...ฉัตรอย่าทิ้งพี่ไปไหนอีกนะ”

“สาธุ สาธุ ความดีงามแห่งธรรมะ ล้างอธรรมชั่วช้าได้จริง” ปพนพนมมือไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างปลื้มปีติ

กนกแขอยู่ที่ห้องนอน รู้สึกสังหรณ์ใจเหมือนมีฤทธิ์แรงอะไรบางอย่างกลับเข้ามาหาตัว ทันใดดวงตาก็ดุดัน คำรามเสียงเหี้ยม

“นังฉัตร!!”

กนกแขเปลี่ยนเป็นคนดุดัน คว้ากระเป๋ายกเดินออกไปอย่างทนอยู่ไม่ได้แล้ว

กานติมากับพระยาสารประดิษฐ์เห็นกนกแขถือกระเป๋าเสื้อผ้าเดินออกมา กานติมาเข้าไปถามอย่างเป็นห่วงว่า “แขแน่ใจหรือว่าจะกลับไปบ้านนั้น”

“ค่ะ แขต้องไป พี่ใหญ่ต้องการแข แขสัญญากับพี่ใหญ่แล้วว่าแขจะไป แขก็ต้องไป”

กนกแขแววตากร้าว เสียงแข็ง จนพระยาสารประดิษฐ์กับกานติมาสบตากันเชิงปรึกษา...

ooooooo

พระยาสารประดิษฐ์ถามกนกแขว่า เมื่อไหร่ผู้ใหญ่ทางปภาคินจะมาพูดจาให้เป็นเรื่องเป็นราว เทียวไปเทียวมาอย่างนี้มันไม่งาม ใครเขาจะว่าเราได้

พอดีธนาขี่จักรยานผ่านมา จอดจักรยานเข้าไปไหว้กานติมากับพระยาสารประดิษฐ์ ทั้งสองรับไหว้อย่างเสียไม่ได้ กานติมาถามว่ามีธุระอะไรหรือ ธนาบอกว่าตนเห็นแขอยู่บ้านเลยเข้ามาทัก ไม่ได้เจอกันนานทีเดียว ถามว่าแขสบายดีหรือ มองกระเป๋าในมือถามว่าแขจะไปไหน

กนกแขสะบัดเสียงว่าอย่ามายุ่งกับตน พระยา

สารประดิษฐ์ก็ปรามธนาว่าอย่ามายุ่งกับแขดีกว่าเพราะ

แขออกจากโรงเรียนนานแล้ว ธนาบอกว่าตนห่วงที่แขเข้าไปเกี่ยวข้องกับปภาคินและครอบครัวเขา

“ถ้าครูห่วงปภาคินกับเมียเขา ครูก็ควรจะไปบ้านปภาคิน ไม่ต้องมายุ่งกับยัยแขเข้าใจไหม หมดธุระแล้วก็กลับไปเสีย” พระยาสารประดิษฐ์ไล่ไม่อ้อมค้อม

ธนาไปที่จักรยานพอรถของกนกแขออกไปก็ขี่รถตาม

“ครูธนานี่ชอบกลจริง” พระยาสารประดิษฐ์บ่น มองตามธนาไป

“คงจะห่วงยัยฉัตรล่ะค่ะ เขารักของเขาจริงๆอย่างที่ยัยแขว่าไว้ไม่ผิด”

กนกแขไปถึงบ้านรมย์ฤดีก็หิ้วกระเป๋าขึ้นไปที่ห้องปภาคินทันทีจนปฐมาห้ามไม่ทัน พอปพนรู้ก็รีบขึ้นไป เกรงกนกแขจะทำอะไรปภาคินอีก ปฐมารีบตามไปอีกคน

กนกแขพรวดเข้าไปในห้อง ฉัตรชนกลุกยืนทันที แต่ไม่ทันทำอะไร กนกแขก็เข้าไปที่เตียงปภาคินกอดจูบและท่องมนตร์ทันที ฉัตรชนกเข้าไปดึงกนกแขออกมา แต่เหมือนยิ่งยั่วยุให้กนกแขเอาชนะให้ได้ ผลักฉัตรชนกออกไปจึงยื้อยุดกันอยู่หน้าเตียงทำให้ปภาคินตื่น มองทั้งสองงงๆ

ปพนกับปฐมาขึ้นไปถึงพยายามแยกทั้งสองออกจากกัน กนกแขร้องไห้ทำเป็นเซไปที่หมอนของปภาคินยกหมอนขึ้นซับน้ำตาเผยให้เห็นตุ๊กตาคู่ที่ใต้หมอน  กนกแข หยิบตุ๊กตาขึ้นมาบอกว่าฉัตรชนกเอาตุ๊กตาซ่อนไว้ใต้หมอนเพื่อกักตัวพี่ใหญ่เอาไว้ ปฐมาถามว่านี่มันอะไรกัน กนกแขชี้หน้าฉัตรชนกด่า...

“ก็นังฉัตรนี่สิ ทำเสน่ห์ให้พี่ใหญ่หลงรัก แกแย่งพี่ใหญ่ไปจากฉัน!”

ปพนกับปฐมาเห็นหลักฐานที่กนกแขอ้างก็หลงเชื่อ ปพนสั่งฉัตรชนกลงไปข้างล่างกลับไปบ้านสวนเดี๋ยวนี้ ปฐมาก็ลงไปบอกนายสุขให้เอารถออก

ฉัตรชนกน้ำตาไหลพราก หัวใจแตกสลาย ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ปพนกับปฐมารีบพาฉัตรชนกออกไป ปล่อยให้กนกแขกับปภาคินอยู่ในห้องตามลำพังเป็นโอกาสให้กนกแขเสกมนตร์ซ้ำไปที่ปภาคินโดยเขาไม่รู้ตัว จากนั้นปภาคินก็กลับไปพร่ำเพ้อหาแต่กนกแขอีกครั้ง...กนกแขก้มจูบปภาคินยิ้มอย่างผู้ชนะ

ooooooo

ธนาขี่จักรยานมาถึงบ้านปภาคินเจอปพนกำลังกึ่งจูงกึ่งลากฉัตรชนกออกมาพอดี ปพนไม่พอใจถามว่า ครูมาที่นี่ทำไม ธนาถามว่ากนกแขมาที่นี่ใช่ไหม

ปพนบอกว่าใช่ ต้องการอะไร ปฐมาที่ตามมาสั่งนายสุข ให้พาฉัตรชนกไปส่งที่บ้านสวนเดี๋ยวนี้

ธนาถามว่ามีเรื่องอะไรกันหรือ ปพนเอาตุ๊กตาทำเสน่ห์ให้ดูบอกว่ามันอยู่ใต้หมอนในห้องนอนเขียนชื่อฉัตรชนกตัวหนึ่งและปภาคินตัวหนึ่ง ถามธนาว่า “มันต้องชิงความรักของผู้ชายด้วยวิธีนี้หรือ”

ธนามองอย่างไม่เชื่อ ปพนหันหลังกลับเข้าข้างใน ส่วนปฐมาก็บอกให้ธนากลับไปเสียถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องมาที่นี่อีก แล้วเดินกลับเข้าข้างในไปอีกคน

ธนาไม่อยากเชื่อ เขาคิดถึงที่เห็นกนกแขฝังหุ่นที่ทางสามแพร่งเมื่อวันก่อนทันที ธนาต้องการรู้ความจริงจากปากฉัตรชนก จึงไปที่บ้านนวลอนงค์ถามหาฉัตรชนก

นวลอนงค์บอกว่ารถที่บ้านนั้นมาส่ง ฉัตรมาถึงก็เอาแต่ร้องไห้เข้าห้องปิดประตูเลย ถามธนาว่ามีเรื่องอะไรหรือ เห็นตุ๊กตาในมือธนาถามว่าไปเอาของอุบาทว์นี้มาจากไหน เอามันเข้ามาบ้านทำไม

ธนาบอกว่าเอามาจากบ้านโน้น ตุ๊กตาเขียนชื่อฉัตรกับปภาคิน นวลอนงค์บอกว่าเป็นไปไม่ได้ฉัตรไม่ทำเรื่องอย่างนี้ ธนาบอกว่าตนก็ไม่เชื่อแต่ตนเห็นอะไรแปลกๆเมื่อวันก่อน แล้วเล่าว่าเห็นกนกแขที่ทางสามแพร่งแต่แขหนีไปก่อนที่ตนจะไปถึงตัว

ธนาบอกว่าตนไม่รู้ว่าเขาทำอะไรและไม่รู้ว่าตุ๊กตาบ้าๆนี่ไปอยู่ที่ท่านนายพลปพนได้ยังไงเลยอยากมาคุยกับฉัตร

“บ้านโน้นเขาคิดว่าฉัตรเป็นคนทำเรื่องเลวร้ายแบบนี้หรือ...ครูธนาช่วยหน่อยเถอะ พังประตูให้หน่อย น้ากลัว...กลัวว่าฉัตรจะคิดสั้น เรื่องนี้มันเลวร้ายเกินไป ช่วยหน่อยเถอะ”

ธนาวางตุ๊กตาแล้วไปหยิบชะแลงที่พิงอยู่ข้างฝาในสวน

ooooooo

ปภาคินต้องมนตร์จนมีอาการเหมือนคนป่วยหนัก ปพนกับปฐมาเห็นอาการของปภาคินไม่ดีจึงพาไปกราบหลวงพ่อ รดน้ำมนต์ให้พ้นมนตร์ดำ

หลวงพ่อให้ปภาคินดื่มน้ำมนต์จนอาการดีขึ้นถามว่าจะอยู่เป็นศิษย์วัดไหม ลองเรียนเรื่องธรรมะบ้างเผื่อจะรู้จักตัวเองดีขึ้น ปพนบอกว่าตนยินดีที่สุด ปฐมาก็อนุโมทนาสาธุบอกปภาคินว่าแม่จะได้เห็นผ้าเหลืองสักครั้งให้ชื่นใจ

“ครับ ผมจะบวชให้แม่ให้พ่อครับ”

เมื่อทุกคนยินดี หลวงพ่อจึงให้ปภาคินอยู่ที่วัดวันนี้เลย ปฐมาจึงกลับไปจัดมุ้งหมอนและเสื้อผ้าให้และบอกกนกแขให้กลับบ้านเสีย บอกว่าต่อไปนี้ห้องนี้จะมีแต่ของส่วนตัวของปภาคินเท่านั้น สิ่งไหนที่ไม่ใช่ของปภาคินตนจะเก็บเผาให้หมด กนกแขจึงกลับไปด้วยความแค้นแต่ไม่อาจแสดงออกได้ อาฆาตว่าจะต้องหาทางกำจัดปฐมาให้ได้

เมื่อกนกแขไปแล้ว วรดาบอกแม่กับพ่อว่าตนไม่เชื่อว่าครูฉัตรจะทำอะไรอย่างนั้น แต่สำหรับยัยกนกแขนี่ ตนไม่ไว้ใจ ปพนว่าเรายังไม่รู้ความจริงแต่พ่อกับแม่ก็อยากให้บ้านนี้สงบสุข และพ่อก็ทนไม่ได้ที่ปภาคินเป็นหมอมีอนาคตอีกไกลต้องมาเสียหายเพราะผู้หญิงหน้าด้านพวกนี้

ฉัตรชนกกลับบ้านสวนอย่างคนหัวใจสลาย บอกแม่กับธนาว่าตนไม่เหลือใครแล้ว จนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป นวลอนงค์กับธนาปลอบและให้กำลังใจว่าฉัตรยังมีแม่และตนอยู่ ฉัตรชนกกอดแม่ร้องไห้โฮจนธนาที่ดูอยู่คอตกเสียใจไปด้วย

ooooooo

แม่ชีเล่าเรื่องในอดีตให้ขวัญอุมากับธีรัชและเพื่อนฟังแล้วบอกว่า แม่ซึ่งก็คือฉัตรชนก ก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้แต่ว่าตัวเองไม่ได้ทำอย่างที่ถูกกล่าวหาและจะรออยู่ที่นั่นจนกว่าความจริงจะเปิดเผย

ฝ่ายปภาคินเข้าไปอยู่วัดแล้วแต่ยังบวชไม่ได้เพราะจิตยังกระเจิดกระเจิงไม่มีศรัทธา

ขวัญอุมาถามว่าแล้วฉัตรชนกไม่กลับไปเป็นครูอีกหรือ แม่ชีบอกว่าแม่กลับไปช่วยทำสวนผัก ส่วนยายก็ไปทำงานนอกบ้านแต่ไม่ได้ตำแหน่งเดิม ค่าจ้างน้อยกว่าจึงลำบากมาก

“อย่างที่เคยพูดไว้ คนเราเวลามีเคราะห์ดวงตกเหมือนความทุกข์จะซ้ำเติมตลอดเวลา”

“เกิดอะไรขึ้นอีกคะ”

ขวัญอุมาถาม ซึ่งทุกคนก็อยากรู้ แม่ชีเล่าคราวเคราะห์ซ้ำกรรมซัดของยายกับแม่เวลานั้นว่า...

หลังจากฉัตรชนกไปอยู่บ้านสวนช่วยแม่ปลูกผักขาย ธนาก็แวะเวียนไปหา แล้ววันหนึ่งธนาก็เอาหนังสือพิมพ์มาให้ดูข่าวที่ท่านชายศักดินัยไปฝรั่งเศสแล้วเครื่องบินตกเสียชีวิต นวลอนงค์กับฉัรตรชนกกอดกันร้องไห้น้ำตาแทบเป็นสายเลือด

ส่วนยุพากับฐิติพาติดต่อไปทางกระทรวงเรื่องศพของท่านชาย ทางกระทรวงแจ้งว่าคงต้องจัดการที่โน่นเพราะไม่สามารถส่งอะไรกลับมาได้เลย สองแม่ลูกจึงรีบเรียกทนายมาจัดการสมบัติเพื่อกันไม่ให้นวลอนงค์กับฉัตรชนกมาเรียกร้องอะไร

นอกจากจัดการเรื่องสมบัติยึดทุกอย่างหมดแล้ว ยังไล่อิ่มที่เป็นคนสนิทของนวลอนงค์ออก เป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู ปรามพวกที่เหลืออยู่ว่าให้จำเอาไว้พวกเลี้ยงไม่เชื่องต้องโดนอย่างนี้

ไล่อิ่มออกแล้วให้ช่วงจัดคนมีอาวุธครบมือตามไปเพื่อสาวไปถึงนวลอนงค์กับฉัตรชนกเพราะเชื่อว่าอิ่มไม่มีญาติที่ไหนต้องไปพึ่งพิงสองแม่ลูกเป็นแน่

จัดการฮุบสมบัติและกำจัดเสี้ยนหนามแล้ว ฐิติพาบ่นว่ากนกแขไม่รู้ว่าไปถึงไหนแล้ว เราลงทุนไปมากแต่เรื่องก็เงียบหายไป

นวลอนงค์กับฉัตรชนกเตรียมเดินทางไปวังโสภณเพื่อถามข่าวคราวท่านชาย เตรียมสัมภาระเสร็จเปิดประตูก็เจออิ่มยืนหน้าเศร้าอยู่ อิ่มเล่าว่าตนถูกไล่ออกแล้วและยุพากับฐิติพาก็เร่งโอนสมบัติฮุบทุกอย่างไปหมดแล้ว ส่วนเรื่องท่านชาย...คงไม่มีอะไรส่งกลับมา...

ooooooo

อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 8 วันที่ 14 ม.ค.62

ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต บทประพันธ์โดย ลินิน
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต บทโทรทัศน์โดย นลินี สีตะสุวรรณ
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต กำกับการแสดงโดย สำรวย รักชาติ
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ผลิตโดย บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ควบคุมการผลิตโดย วรายุฑ มิลินทจินดา
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ