อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 6 วันที่ 7 ม.ค.62

อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 6 วันที่ 7 ม.ค.62

กนกแขใช้เล่ห์เหลี่ยมมารยาด้านหนึ่งเป่าหูยุยงปฐมาให้รังเกียจและกีดกันฉัตรชนก แต่อีกด้านก็ทำเป็นนางเอกที่แสนดีเสียสละชายคนรักให้เพื่อนรัก เรียกร้องความสงสารจากปฐมา

วันนี้หลังจากการถ่ายละคร คเชนทร์ชมว่าธีรัชเล่นได้ดีมาก เมื่อถึงเวลาอาหาร อรนภาชวนธีรัชนั่งทานด้วยกัน ขวัญอุมาเห็นดังนั้นจึงเดินเลี่ยงออกไปที่สระบัว

ความงดงามของดอกบัวในสระและลมเย็นๆทำให้ขวัญอุมาหลับตาลง...ในดวงตาที่หลับนั้น...ปรากฏภาพในความรู้สึกคล้ายถูกดูดเข้าไปในอีกมิติหนึ่ง...



ที่สระบัว...ปภาคินพายเรือให้ฉัตรชนกเก็บสายบัวในสระ เขาบอกให้เอาไปแกงสายบัวเพราะแม่ชอบมาก ฉัตรชนกนิ่งไปแต่ก็ไม่ปฏิเสธ

แต่เพียงครู่เดียว ปฐมาและกนกแขก็กางร่ม

มายืนที่สระบัว ฉัตรชนกถามว่าคุณแม่เขามาตามเราหรือเปล่า ปภาคินมองสายบัวในเรือถามว่าพอแกงได้สักหม้อไหม ฉัตรชนกตอบเบาๆ “ค่ะ”

เมื่อพายเรือมาใกล้ฝั่งปภาคินถามว่า “คุณแม่ออกมาถึงนี่ มีอะไรหรือเปล่าครับ”

“น้องแวะมาหา แม่เลยพาออกมาดู อะไรแดดออกเปรี้ยง มาพายเรืออะไรกันตรงนี้”

ปฐมาถามเสียงกระด้างคอแข็ง ฉัตรชนกบอกว่าตนเป็นคนชวนคุณใหญ่มาเอง ปภาคินก็บอกว่าตนมาอยู่เมืองไทยตั้งหลายวันแล้วยังไม่เจ็บไม่ไข้ พูดเอาใจว่า “วันนี้คุณแม่จะได้ชิมแกงสายบัวฝีมือฉัตร”

“ขึ้นมาเถอะ แกงสายบัวน่ะหนูแขเอามาให้แล้ว แม่ให้เขาตั้งโต๊ะสำรับกลางวันแล้วด้วย”

พอมาถึงบ้านขณะกำลังจะก้าวถึงทางขึ้นบ้าน ปฐมาก็เดินเข้าไปขวาง บอกหน้านิ่งว่า

“สายบัวนั่นไม่ต้องเอามาแล้วพ่อใหญ่ แกงสายบัวนี่หนูแขเอามาตั้งโต๊ะแล้ว ไปกินได้เลย ครูฉัตรจ๊ะ วันนี้ยัยดาไม่อยู่ไปบ้านเพื่อน ว่าจะกลับเย็นๆ ครูไม่ต้องรอนะจ๊ะ” ปภาคินบอกว่าฉัตรเป็นแขกของตน ตนไปรับเธอมาเอง ปฐมาแก้เกี้ยวว่า “แม่ก็ไม่ได้คิดอะไร รู้แต่ว่าครูฉัตรเป็นครูยัยดาเท่านั้น”

กนกแขเร่งว่าโต๊ะจัดเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยวอาหารจะเย็นหมด แล้วทำเป็นชวนฉัตรชนกไปด้วยกัน

“ไม่เป็นไรจ้ะแข เราบอกแม่ว่าแวะมาประเดี๋ยวเดียว เดี๋ยวแม่เป็นห่วง”

ปภาคินมองฉัตรชนกอย่างเห็นใจ แล้วเดินไปควงแขนปฐมาอย่างเอาใจชวนแม่ไปกินข้าวกัน

พออยู่กันลำพัง กนกแขก็บอกฉัตรชนกว่าอย่าเข้าใจผิดตน แม่บังคับให้ตนมา เอาแกงสายบัวมาให้ ย้ำกับฉัตรชนกว่า

“ฉันบอกเธอหลายหนแล้วไง ว่าป้าปฐมาอยากได้ฉันเป็นลูกสะใภ้ แต่ทุกครั้งที่ฉันมา ฉันก็คอยบอกท่านเสมอว่าเธอเป็นคนดีและพยายามจะขอโอกาสให้เธอเสมอนะฉัตร”

“ขอบคุณมากแข เรื่องอย่างนี้มันอาจต้องใช้เวลา ฉันเข้าใจทุกคนดี...ขอบคุณ เธอเป็นเพื่อนที่ดีของฉันเสมอ” ฉัตรชนกโผเข้ากอดกนกแขอย่างซาบซึ้งในน้ำใจ

ปฐมากับปภาคินเดินไปแล้ว แต่ปฐมาหันมองมาทางสองสาวอีก ถามปภาคินอย่างไม่พอใจว่า

“สองคนนั้นอะไรกัน”

“เขาก็เพื่อนรักกันครับคุณแม่ ผมไปเรียกคนรถให้ไปส่งฉัตรก่อนนะครับ” แล้วปภาคินก็แยกไป

เมื่อมาถึงโต๊ะอาหาร ปฐมาถามกนกแขว่า “แม่คนนั้นคุยอะไรกับหนู” กนกแขตอบตะกุกตะกักว่า

ไม่มีอะไร “หนูแข...อย่าปดป้า หนูโกหกไม่เก่งหรอก มีอะไรสำคัญนักหนาถึงกับดึงกันเข้าไปกอดอย่างนั้น”

“ไม่มีอะไรจริงๆค่ะ ฉัตรเขาแค่ขอให้ไม่พบกับ

พี่ใหญ่อีก แล้วแขเองก็เห็นด้วย” กนกแขปั้นน้ำเป็นตัวได้หน้าตาเฉย แล้วหลบตา “แข...กลัวว่า ถ้าไม่ทำอย่างนั้น คนที่เจ็บก็จะเป็นแขเอง”

“บ้ากันใหญ่แล้ว” ปฐมาตบโต๊ะปัง “เรื่องแบบนี้ไปตกลงกันเองได้ยังไง”

“ได้โปรดเถอะค่ะคุณป้าขา ฉัตรกับแขเป็นเพื่อนรักกันไม่ควรมีปัญหาเพราะเรื่องผู้ชาย”

“ตักข้าว!” ปฐมาสั่นกระดิ่งเรียกคนใช้อย่าง

ไม่พอใจมาก พอดีปภาคินกลับมาเห็นอาการของทั้งสองแล้วอึดอัดทำท่าจะกินข้าวไม่ลงกันเสียแล้ว...

ooooooo

ที่บริเวณห้องแต่งตัว อรนภากำลังทำผมอยู่ ต้อยติ่งแต่งหน้าให้ฉายฉานเสร็จแล้วถามว่าขวัญ

หายไปไหน แอดดี้บอกว่ายังไม่เห็นมาเปลี่ยนชุดเลย ต้อยติ่งบ่นว่าฉากต่อไปก็มีด้วย แล้วหายไปไหนเนี่ย

ต้อยติ่งออกไปถามลูกปลา ลูกปลาก็ไม่รู้ว่า

ขวัญอุมาไปไหน สงสัยว่าอาจหลบไปนอนที่ห้อง แล้วเดินไปที่ห้องพักที่อยู่ทางหลังบ้าน ธีรัชผ่านมาได้ยินว่าตามหาขวัญอุมากันอยู่จึงเดินไปดูตามที่ต่างๆจนถึงบริเวณสระในบ้าน จึงเห็นขวัญอุมานั่งเอนหลับอยู่ที่เก้าอี้สนามที่เดิม

ธีรัชก้มไปจะปลุก เขาชะงักเมื่อเห็นน้ำตาไหลจากหางตาลงมาอาบแก้ม ขวัญอุมาฝันว่ากำลังเดินทางกลับบ้านอยู่ในความคิดคำนึงอันแสนเศร้า พลันก็รู้สึกตัวกะพริบตาถี่ๆเหมือนไม่แน่ใจว่าที่เห็นอยู่ข้างหน้าเป็นความฝันหรือความจริง

ธีรัชเห็นขวัญอุมาตื่นแล้วก็ยิ้มให้ ขวัญอุมานึกได้ว่าที่นี่คือบ้านของธีรัช จึงขยับตัวลุกขึ้นนั่งอย่างระแวดระวังกลัวลุกพรวดไปชนธีรัชเข้า

“ผมมาตาม ฉากต่อไปจะมีคุณแล้ว...ผมก็เคยหลับตรงนี้เหมือนกัน ที่นี่น่าสบายนะ ผมหมายถึงบ้าน

หลังนี้ มันสวยมาก ใครๆก็ชม แต่ผมกลับไม่ชอบ ไม่อยากอยู่ที่นี่เลย”

ขวัญอุมาบอกว่าตนรู้แล้ว แม่เขาบอกว่าเขาอยู่กรุงเทพฯและไม่ค่อยมาที่นี่ ธีรัชแซวยิ้มๆว่า

“รู้ดีจังนี่คุณ แล้วไง รอรับมรดกที่ตรงนี้เลยหรือเปล่า ท่าทางคุณจะชอบที่นี่มากๆเลยนะ วนเวียนไม่ห่าง”

ขวัญอุมาชักสีหน้าถามเสียงกระด้างว่าพูดอย่างนี้ต้องการอะไร “ก็แค่อยากรู้ว่าฝันหวานของคุณมันพาคุณไป

ถึงไหน คุณเคยคิดอยากอยู่ที่นี่ตลอดไปไหม”

“ไปเลย ไปให้ไกลๆเลย ฉันจะไม่ยุ่งกับสมบัติของคุณเป็นอันขาด” ขวัญอุมาคิดว่าธีรัชคิดว่าตนจะจับเขา พูดใส่หน้าแล้วลุกไปเลย แต่ธีรัชยืนขวางทางอยู่ เธอผลักเขาเต็มแรงอย่างไม่แคร์ แต่ธีรัชเบี่ยงหลบเหมือนหยอกล้อ ทำให้ขวัญอุมาเสียหลักไปสะดุดรากไม้ถลาพรวดตกน้ำไป

ธีรัชตกใจเห็นขวัญอุมาทะลึ่งพรวดขึ้นมาอย่างคนว่ายน้ำไม่เป็น ถอดรองเท้าพุ่งลงสระทันที

ธีรัชพยายามมองหาขวัญอุมาแต่ไม่มีวี่แววร่างของขวัญอุมาเลย เขาโผล่ขึ้นมาฮุบอากาศแล้วดำลงไปอีก มือควานเจอปลายผมเขารีบคว้าแล้วดำลงไปอุ้มร่างขวัญอุมาที่หมดสติอยู่ใต้น้ำพาขึ้นสู่ผิวน้ำ เป็นจังหวะที่ลูกปลากำลังเดินไปจากสระบัวได้ยินเสียงน้ำ หันมาเห็นธีรัชชูร่างขวัญอุมาขึ้นมาก็พุ่งเข้าไปช่วยรับ

ooooooo

เหตุการณ์ในปี 2474...กนกแขซึ่งก็คืออรนภาปัจจุบัน กับฉัตรชนกคือขวัญอุมา กำลังพายเรือในบึงบัว กนกแขถามฉัตรชนกว่าเธอไม่คิดจะตัดใจจากพี่ใหญ่ ซึ่งก็คือธีรัชในปัจจุบันหรือ ฉัตรชนกถามว่าทำไมหรือ

“ฉันไม่อยากได้ชื่อว่าแย่งคนรักของเพื่อน เธอก็รู้ว่าตอนนี้เรื่องมันบานปลายไปใหญ่โต คุณพ่อจับได้ว่าฉันคบกับธนา ท่านเลยบังคับให้เลิกกัน ยังไงเสียฉันก็ต้องแต่งงานกับพี่ใหญ่”

ฉัตรชนกนิ่งอึ้งใจลุกเป็นไฟกับคำถามนี้ กนกแขเร่งขอคำตอบ ฉัตรชนกบอกว่า

“คุณใหญ่กับฉัน เรารักกัน...คุณใหญ่บอกฉันตลอดเวลาว่าเขารักฉัน แข...ถ้าเขารักฉันและฉันรักเขา เรายินดีที่จะต่อสู้ร่วมกัน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ความรักที่เธอมีต่อธนาทำให้เธอต่อสู้ร่วมกับเขามา ทำไมไม่สู้ต่อไป?”

“แต่ฉันเลือกพ่อกับแม่ของฉันแล้วไง ฉัตรสิ...

เคยรักกับครูธนา ทำไมไม่กลับไปหาเขาแทนล่ะ เริ่มต้นกันใหม่ ที่เดิม...”

“แข! เธอพูดเหมือนเธอไม่ได้รักธนาเลย” กนกแขถามว่าถ้าตนบอกว่ามันเป็นอย่างนั้นล่ะ “แข...มันจะเป็นอย่างนั้นไปได้อย่างไร ในเมื่อ...” ฉัตรชนกจะพูดว่าเธอมีอะไรกันขนาดนั้นแล้วแต่ไม่พูด กลับถามว่า “เธอล้อฉันเล่นใช่ไหม”

“ถ้าฉันบอกว่าฉันไม่ได้รักธนา แต่รักพี่ใหญ่ เธอจะยอมถอยให้ฉันอย่างที่ผ่านมาไหม”

กนกแขหยุดพายเรือมองหน้าฉัตรชนกตรงๆ

ฉัตรชนกรู้สึกคล้ายมีสายฟ้าฟาดมาตรงหน้าจนตัวทรุดไปข้างหนึ่งทำให้เรือเอียง กนกแขโยกตัวไปข้างเดียวกันทำให้เรือเอียงวูบ ฉัตรชนกเสียหลักตกน้ำไปทันที แต่ก่อนที่เรือจะพลิกคว่ำ กนกแขขืนเรือไว้ได้ไม่ล่ม

ฉัตรชนกทะลึ่งขึ้นมาเพราะว่ายน้ำไม่เป็น กนกแข

มองอย่างเลือดเย็นแล้วพายเรือออกไป

ธนาทิ้งจักรยานสลัดรองเท้ากระโดดลงน้ำร้องเรียก “ฉัตร...ฉัตร...” กนกแขตกใจที่ธนามาเห็นเหตุการณ์ เอาพายวางไว้ที่ตักนั่งนิ่ง

ที่ริมบึงบัว พอฉัตรชนกรู้สึกตัว กนกแขเรียกอย่างเป็นห่วง ฉัตรชนกจับธนาพยายามจะลุกขึ้น บอกธนาว่า

“เราไม่เป็นไรแล้วธนา ขอบคุณมาก ถ้าไม่ได้เธอ...เราคง...”

“พอเห็นเป็นฉัตรเราก็ตกใจจะแย่แล้ว ฉัตรว่ายน้ำไม่เป็นเราจำได้...แข ทำไมไม่ช่วยฉัตร”

กนกแขบอกว่าตนกำลังจะโดดลงไปช่วย ธนา

บอกว่าแค่ยื่นพายไปให้ฉัตรจับก็ได้แล้ว กนกแขแก้ตัวว่าตนตกใจทำอะไรไม่ถูก แล้วตำหนิว่า “ฉัตรตกไปได้ยังไง ไม่ระวังตัวเลย”

ฉัตรชนกรู้ว่ากนกแขตั้งใจทำร้ายตนแต่ไม่พูด บอกธนาให้พากลับบ้าน ธนาจึงพาซ้อนท้ายจักรยานไป

เหตุการณ์ปัจจุบัน...ที่บ้านวิยาดา วิยาดาวิ่งมาดูขวัญอุมาเห็นธีรัชกำลังช่วยผายปอดอยู่แบบเม้าท์ทูเม้าท์ พอรู้ว่าขวัญอุมาตกน้ำก็บอกให้พาไปหาหมอ ธีรัช

จะช้อนตัวแต่ขวัญอุมาเดินหนีไปหาลูกปลา วิยาดาจึงบอกให้ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน

“อย่าดื้อสิขวัญ พวกเราจะช่วยคุณนะ” ธีรัช

อุ้มขวัญเดินไปด้านในเลย

ขวัญอุมาหลับตาลงอย่างเจ็บปวดเพราะคิดถึงอดีตที่ตามมาหลอกหลอน อรนภามองธีรัชที่อุ้มขวัญอุมาเข้าบ้าน จิกตามองเบ้ปากพึมพำก่อนเดินเข้าห้องแต่งตัว

“ออเซาะล่ะสิ”

ขวัญอุมาบอกว่าตนไม่เป็นไรแล้ว ธีรัชดุว่าอย่าดื้อ บอกลูกปลาให้ช่วยจัดการด้วยตนจะรอ

ฝ่ายแอ๊ดดี้ก็ภาวนาขออย่าให้มีอาถรรพณ์อะไรอีกเลย ต้อยติ่งด่าว่าปากเสีย ส่วนฉายฉานบอกว่าทำงานก็ต้องมีอุปสรรคบ้าง เราต้องช่วยกันข้ามอุปสรรคไปให้ได้ ต้อยติ่งกับแอ๊ดดี้เห็นด้วย

“ขออย่าให้มีอะไรร้ายๆเกิดขึ้นอีกเลยนะคะ เจ้าประคู้ณ...” แต้วแร้วพนมมือภาวนาแล้วลุกวิ่งออกไป

อรนภายิ้มพอใจอย่างรู้กันว่าแต้วแร้วจะไปทำอะไร

ooooooo

ธีรัชมานั่งรอขวัญอุมาอยู่กับวิยาดาที่ระเบียงวาดรูป รอนานจนธีรัชจะไปตาม ก็พอดีขวัญอุมาเดินจามออกมา ธีรัชทักว่าเป็นหวัดแล้ว ตัวร้อนหรือเปล่า ขวัญอุมาก็ยังบอกว่าตนไม่เป็นอะไร

“อย่าอวดดี ถ้าโชคดีก็ถือว่าดี แต่เช็กให้ชัวร์ดีกว่า ลูกปลาฝากบอกทีมงานด้วย”

ขวัญอุมาจะไม่ยอมไปอ้างว่างานยังค้างอยู่ ธีรัชบอกว่าคุณเชนทร์คงงดฉากเธอไปก่อน ลูกปลาบอกให้ไปเถอะ ถ้าไม่เป็นอะไรจริงๆกลับมาจะได้สบายใจ

พอดีสุดใจเอาน้ำชามาให้ขวัญอุมา ธีรัชบอกให้เอาใส่กระติกไปเลยเดี๋ยวจะได้จิบไปในรถ

แต้วแร้วที่มาแอบสืบอยู่ พอได้ความก็หลบแว้บไป

ooooooo

ระหว่างไปโรงพยาบาล ธีรัชย้ำกับขวัญอุมา

ว่าให้จำไว้ มีอุบัติเหตุอะไรอย่าอวดดี ทำงานอย่างเราสุขภาพเป็นเรื่องสำคัญมาก ถามว่าเธอว่ายน้ำไม่เป็นหรือ ขวัญอุมาหงุดหงิดถามว่าทำไมคิดว่าตนมารยาหรือ

“แปลกใจเท่านั้น เป็นนักแสดงแต่ว่ายน้ำไม่เป็น... นักแสดงต่างประเทศเขาต้องหัดให้เป็นทุกอย่างก่อนมาเล่นละคร อย่างคุณนี่ อาจจะได้เป็นนางเอกง่ายเกินไปก็เลยมาเป็นภาระของทุกคนแบบนี้”

ขวัญอุมาโมโหที่ถูกปรามาสลืมตัวทุบธีรัชที่กำลังขับรถ ทำให้รถส่ายแม้ธีรัชจะพยายามประคองรถไว้ แต่รถก็พุ่งเข้าชนต้นไม้ข้างทางจนหม้อน้ำรั่วน้ำไหลโจ๊ก ธีรัชลงไปดูบอกว่ารถไปต่อไม่ได้แล้ว หงุดหงิดเลยดุว่าเลิกทำตัวงี่เง่าแบบนี้สักทีได้ไหม ทำอะไรเอาแต่ใจตัวเองคิดถึงคนอื่นบ้าง เห็นไหมว่ารถพังไปไม่ได้แล้ว

ขวัญอุมาบอกให้โทร.ไปเรียกอู่ให้มาลากรถไป แต่พอธีรัชจะโทร.ก็แบตหมดอีกถามว่าโทรศัพท์เธออยู่ไหน ขวัญอุมาบอกว่าไม่ได้เอากระเป๋ามาเอาแต่กระติกน้ำร้อนมา

“โธ่เอ๊ย...” ธีรัชหัวเสีย ขวัญอุมาเสียงอ่อยถามว่าแล้วจะทำยังไง “ก็ต้องรอคนผ่านมาสิ เรียกให้เขาช่วยแต่ก็ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ ถ้ารอไม่ได้ก็ต้องเดินกลับไปเพราะเรามาไม่ไกลจากบ้านสัก 5-6 กิโลเอง”

ขวัญอุมามองไปที่ถนนเห็นประกายแดดระยิบ เธอคว้ากระติกน้ำร้อนเดินไปยืนที่ใต้ร่มไม้...

ลูกปลาถือกระเป๋าของขวัญอุมาบ่นกับวิยาดาว่ารีบไปจนลืมโทรศัพท์ ไปเป็นชั่วโมงแล้วหายเงียบไปเลย วิยาดาจึงโทร.เข้าเครื่องธีรัชแต่ปิดเครื่อง

ธีรัชถามขวัญอุมาว่าจะเดินไปหาชาวบ้าน

แถวนี้ไหม คอยเป็นชั่วโมงแล้วยังไม่มีรถผ่านมาเลย ขวัญอุมาเปรยว่าหรือเราย้อนกลับไปในอดีตเมื่อ

ร้อยกว่าปีมาแล้ว เลยถูกธีรัชบ่นว่ามัวแต่วิ่งตามอดีต

ตนว่าบางทีมันก็มากเกินไป มันเข้ามายุ่งกับชีวิตของเรามากเกินไป

“คนเดี๋ยวนี้ก็คิดแค่นี้ เรื่องที่จะไม่ให้ตัวเองต้องวุ่นวาย ลืมไปว่าคนบางคนยังไม่ได้รับความยุติธรรม ลองนึกถึงหัวใจของเขาบ้าง กี่สิบกี่ร้อยปี มีแต่คำประณามหยามเหยียดซ้ำเติม ทั้งๆที่คิดดีทำดีมาตลอด”

“ผมไม่คิดนะว่าในโลกนี้จะมีใครดีงามขนาดนั้นถ้าเป็นคนจริงๆ คุณเล่นละครมามาก คนดีๆอาจมีแต่ในละครก็ได้”

“เขาไม่ได้เป็นคนผิดในเรื่องที่ถูกกล่าวหา คำกล่าวหานั้นไม่จริง การตามหาความยุติธรรมให้ใครสักคนนี่มันเป็นภาระมากนักหรือคะ...ก็เพราะเชื่อตามๆกันไปโดยไม่ยอมหาความจริง ไม่นึกเลยว่าคนอย่างคุณจะมักง่ายขนาดนี้ ไม่สู้จนถึงที่สุด เอาตัวรอด รักแต่ความสบาย”

“เยอะ...อยู่ตรงนี้ไปไหนไม่ได้ ยังจะวนอยู่กับเรื่องของใครก็ไม่รู้เมื่อร้อยปีก่อน ฮึ่ยยย...”

“เพราะคนใจดำอย่างนี้ยังไงล่ะ”

ทั้งสองต่างตำหนิแล้วจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร แต่เสียงแตรรถทำให้ต่างหลุดออกมามอง

ลูกปลานั่นเอง...ลูกปลาขับรถตามมาพอเจอสองคนยืนอยู่ใต้ต้นไม้ก็บ่นว่ามาจอดรถคุยกันอยู่นี่เองไม่ไปหาหมอหรือ พอรู้ว่ารถเสียและธีรัชแบตหมด ลูกปลาก็เอาสายชาร์จให้ ตัวเองพาขวัญอุมาไปโรงพยาบาล

ไปถึงโรงพยาบาล หมอตรวจขวัญอุมาแล้วบอกว่ามีไข้นิดหน่อยให้ดื่มน้ำมากๆ พักผ่อนมากๆ ถ้าอาการไม่ดีขึ้นมีไข้อีกก็กลับมาหาหมอ

ระหว่างทางกลับลูกปลาถามว่าทำไมรถถึงไปชนอย่างนั้น ขวัญอุมาบอกว่าทะเลาะกันนิดหน่อย ลูกปลาถามว่าทะเลาะกันอีกแล้วหรือ ขวัญอุมาบ่นว่าคนอะไรใจดำ เห็นแก่ตัว ลูกปลาดักคอว่าเขาไม่อินเรื่องนิยายเหมือนขวัญน่ะสิ ขวัญอุมาบอกว่าไม่ใช่นิยาย นิยาย

ไม่พอแล้วให้เอาบันทึกของปภาคินมาให้ตนอ่านต่อเลย ตนอยากรู้ว่าเขาเขียนอะไรไว้อีก

ลูกปลาบ่นว่าอะไรมันจะวุ่นวายขนาดนั้น แต่ก็เอาบันทึกให้ขวัญอุมา วิยาดาถามว่าบันทึกอะไร ลูกปลาบอกว่าบันทึกที่มาเป็นเรื่องรอยอดีต วิยาดามองบันทึกทึ่ง

พอขวัญอุมาได้รับบันทึกก็รีบจะกลับไปอ่านที่ห้อง เลยชนเข้ากับธีรัชที่เพิ่งกลับมาจนตัวเองเกือบล้ม ดีที่ธีรัชกอดไว้ทัน แต่บ่นว่าซุ่มซ่ามอีกแล้ว

ลูกปลาเห็นธีรัชมาก็เอาบันทึกที่ยึดไปพร้อมกับขวัญคืนให้ ธีรัชมองเฉยๆ ขอบคุณที่เอามาคืนแต่ไม่รับเพราะตนอ่านหมดแล้ว ลูกปลางงถามว่าเอาที่ไหนอ่าน

“ก็ต้นฉบับไง แต่มันยังไม่จบนี่ครับ”

ooooooo

ขวัญอุมาเอาบันทึกไปอ่านจนตีสาม ลุกขึ้นมาเขย่าปลุกลูกปลาที่หลับแล้วบอกว่ามันยังไม่จบใครฉีกทิ้งไปหรือเปล่า บันทึกนี่มันจบแค่งานแต่งงาน แล้วเรื่องที่ต่อจากนี้หนังสือนิยายเอามาจากไหน แล้วยัยไก่เอามาจากไหน

ลูกปลาบอกว่ายัยไก่เอามาจากนิยาย แต่คุณภิรมย์เอามาจากไหนไม่รู้

“ถ้าเอามาจากบันทึกของลุงคุณภิรมย์จริง ก็แปลว่าเขาให้บันทึกเราไม่ครบ ต้องมีบันทึกเล่มอื่นอีก”

ขวัญอุมาบอกว่าตนต้องโทร.ถามคุณภารดี วันรุ่งขึ้นจึงโทร.ไปถาม ภารดีบอกว่าตนก็จำไม่ได้ แต่จะหาให้แล้วจะโทรศัพท์บอก เนื้อเย็นแม่ของภารดีถามว่าใคร ดาราคนนั้นหรือ

“อื้อ...เขาบอกว่าบันทึกของปู่ปภาคินยังไม่จบเรื่อง...คุณขวัญอุมานี่แกสนอกสนใจเรื่องรอยอดีตมากๆ เลยนะ พ่อเราควรจะภูมิใจที่ดาราเห็นความสำคัญของหนังสือของพ่อขนาดนี้”

แม่บอกว่าถ้าพ่อเขายังอยู่คงดีใจมาก ภารดีจึงมุ่งมั่นที่จะไปรื้อห้องสมุดพ่ออีกครั้งทั้งที่ฝุ่นเต็มห้อง

หลังจากโทร.บอกภารดีแล้วขวัญอุมายังถามธีรัช ธีรัชบอกว่าใครจะไปรู้ว่าบันทึกมันจะมีเรื่องแค่นิดเดียว ขวัญอุมาถามว่าแล้วเรื่องที่เหลือหายไปไหน ธีรัชถามว่าทำไมไม่ถามคุณภารดี

ขวัญอุมาบอกว่าตนถามแล้วเขาบอกว่าไม่รู้ ตนคงต้องไปลพบุรีอีกครั้งแล้ว

ขณะนั้นเองลูกปลามาตามขวัญอุมาเร่งให้ไปแต่งตัวเพราะยัยเอ้มาแล้วเดี๋ยวเขาก็เม้าท์เธออีกหรอก

“ไปเดี๋ยวนี้แหละ ฉากอะไร”

“ก็ฉากที่เธอแกล้งทำเรือคว่ำแล้วยัยเอ้ตกน้ำไง” ขวัญอุมาหน้าซีดถามว่าตกน้ำอีกแล้วหรือ “ตอนนี้เธอไม่ได้ตก ยัยเอ้ตก ไปเร็วๆ”

ลูกปลาคว้ามือขวัญอุมาเร่งให้รีบไป แต่แล้วก็แปลกใจที่มือขวัญเย็นเฉียบ หยอกว่าอย่ากลัวจนขี้ขึ้นสมองไปหน่อยเลย คุณจี๊ดกับคุณคเชนทร์เขาสั่งทีมเซฟมาเต็มที่แล้ว มองไปเห็นธีรัช ถามว่ายังไม่กลับกรุงเทพฯหรือ ธีรัชตอบเซ็งๆว่าจะไปไหนได้รถพัง แล้วมองลูกปลาลากขวัญอุมาไปรู้สึกสังหรณ์อะไรบางอย่าง...

ooooooo

เมื่อขวัญอุมาไปถึงห้องแต่งตัว ฉายฉานบอกให้มาแต่งก่อนตนเลยเพราะขวัญเข้าฉากก่อน มองหน้าถามว่าไม่เป็นไรแล้วใช่ไหม ขวัญจับมือเชิงขอบคุณบอกว่าไม่เป็นไรแล้ว

แต่อรนภาทำเสียงว่าอยู่บ้านนี้แท้ๆ ตนมาจากโรงแรมยังแต่งหน้าเสร็จแล้วเลยมัวทำอะไรอยู่ ขวัญบอกว่านอน เพราะหมอบอกให้พักผ่อนมากๆก็ต้องพัก

“ตกลงหายแล้วหรือยังป่วยอยู่เนี่ย ทำไมไม่บอกพี่เชนทร์ไปตรงๆเดี๋ยวไข้กลับ สุขภาพไม่ดีกองจะพลอยซวยไปด้วย” ขวัญอุมาบอกว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก

“นั่นสินะไม่ได้เป็นอะไรมาก ทำไมงอแงจัง”

“เป็นเรื่องของขวัญและกำลังใจ ไม่ใช่เรื่อง

ขวัญอุมา” ฉายฉานเล่นมุกคลายเครียด พูดเองหัวเราะเอง “ผมว่า พี่เชนทร์ก็อยากปล่อยให้สบายๆไปก่อน

ยังไม่ต้องเร่งรีบนะขวัญนะ ทำใจให้สบายๆ อย่าทำหน้าไม่แฮปปี้อย่างนั้น”

“แต่ขวัญว่าฉากนี้ไม่เข้าท่า ไม่มีเหตุไม่มีผล”

“อะไรอีกล่ะขวัญ” ลูกปลาถามอย่างอ่อนใจ

“ก็จริงไหมล่ะพี่ลูกปลา ตอนนี้โฉมเฉลาจะแต่งงานกับปรานอยู่แล้ว จะไปอิจฉายัยพิมพ์แขแล้วล่มเรือทำไม ไม่เข้าท่าที่สุด ไม่มีเหตุผลเลย”

ลูกปลาเห็นขวัญอุมาเริ่มเยอะ เร่งเบาๆว่าแต่งตัวต่อไปเถอะ แต้วแร้วแขวะว่าเมื่อวานหมอตรวจอะไรมาบ้าง ได้ตรวจสมองด้วยหรือเปล่า ลูกปลากัดทันทีว่าตนดูแลคุณขวัญ ตัวเองดูแลนักแสดงของตัวให้ดีก็แล้วกัน

“ฉายคะ ดูยัยขวัญสิ น่าจะเพี้ยนไปจริงๆแล้วล่ะ มีไอเดียใหม่ๆมาทุกวัน” อรนภาหาพวก

“ใจเย็นน่ะเอ้ สงสารขวัญเถอะ คงขวัญเสียเรื่องเมื่อวาน นะเอ้นะผมขอล่ะ ผมรู้ว่าเอ้ใจดีจะตาย”

ฉายฉานหยอดลูกยอจนอรนภายิ้มตีแขนเขาหยอกอารมณ์ดี

ooooooo

ที่ห้องนั่งเล่นบ้านปฐมาวันนี้ ขณะที่ทุกคนอยู่กันพร้อมหน้า ปภาคินบอกพ่อกับแม่ว่า

“คุณพ่อคุณแม่ครับ ลูกจะแต่งงาน”

“ดีเลย แม่จะได้ไปสู่ขอกับน้ากานต์ ทาบทามเขาไว้บ้างแล้ว” ปฐมาดีใจมาก

“แม่ครับ ผมรักฉัตรชนกจะไม่แต่งงานกับใครนอกจากฉัตรชนก” ปภาคินไม่อ้อมค้อม ทำเอาปฐมาชักสีหน้าไม่พอใจบอกว่าแม่อุตส่าห์ทาบทามหนูแขไว้ให้แล้วเพราะเหมาะสมกันทั้งชาติตระกูล หน้าตาแกรึก็น่ารัก “การที่เราแต่งงานกับใครหมายความว่าเรารักเขาและต้องการอยู่กับเขาไปชั่วชีวิต สำหรับผม ผู้หญิงคนนั้นคือฉัตรชนกเพียงคนเดียว”

ปฐมาฟ้องปพนให้ดูลูกชายเขา แล้วตัดพ้อต่อว่าปภาคินว่า “แม่พูดเท่านี้ไม่เข้าใจหรือ ลูกจะไปคว้าลูกแม่ค้าขายผักมาเป็นเมียทำไม ในเมื่อหนูแขเป็นลูกพระยา สมกับพ่อใหญ่ยิ่งกว่ากิ่งทองใบหยก”

ปพนกระแอมปรามปภาคินว่าทำไมไม่ฟังแม่เขาบ้าง ปภาคินอยากให้พ่อกับแม่ฟังตนบ้าง ยืนยันว่าตนรักฉัตรชนกไม่ใช่กนกแข แต่ที่สำคัญแขเขามี

คนอื่นที่เขารักอยู่แล้ว

ปฐมาหาว่าปภาคินไปฟังเรื่องโกหกจากที่ไหนมา ผู้หญิงที่รักกับครูต๊อกต๋อยนั่นคือครูฉัตรต่างหาก แขเขาไม่เล่นด้วย จนขนาดนั้น จะเอาอะไรมาเลี้ยงเขา

ปภาคินย้ำกับแม่ว่าเรื่องของแขไม่เกี่ยวกับตน ตนรู้แต่ว่าตนรักฉัตร เรารักกัน ถ้าเราไม่ได้แต่งงานกัน เราก็จะไม่แต่งงานกับใครอื่นอีก

ปฐมาโวยวายว่ากล้าพูดกับพ่อแม่อย่างนี้เชียวหรือ ปพนเตือนว่า

“พ่อใหญ่ ตอนนี้ความรักของลูกมันกำลังแรง แต่พ่ออยากให้ลูกเปิดใจรับคำแนะนำของแม่บ้าง แม่เขาจะเข้าใจดีว่า ใครเหมาะสมคู่ควรกับลูก”

“ผมเปลี่ยนใจรักคนอื่นไม่ได้หรอกครับ ต่อให้จะต้องตาย ก็จะไม่เปลี่ยนใจ” ปฐมาทำท่าจะเป็นลม วรดารีบประคองแม่แต่ปภาคินก็ยังยืนยืนว่า “ถ้าผมไม่ได้แต่งงานกับฉัตรชนก ผมก็คงจะไม่แต่งงานกับใครอื่นอีก”

ปฐมาโกรธมากถามว่านังคนนั้นทำเสน่ห์ใส่หรือไงถึงรักถึงหลงกันได้ขนาดนี้

“ใช่ครับ ผมรัก ผมหลงความดี ความจริงใจของฉัตร”

“แม่คะ แม่เห็นใจพี่ใหญ่เถอะนะคะ ครูฉัตร

เป็นคนดีจริงๆ ดายังรักครูฉัตรมากที่สุดในโรงเรียนเลย แม่อย่าห่วงเรื่องจน เรื่องนั้นตัดไปก่อนนะคะ”

“นะครับ คุณพ่อ...ความรักมันสำคัญมากสำหรับการแต่งงาน หมดสมัยเรื่องการคลุมถุงชนแล้ว คนที่เขาจะต้องแต่งงานกันโดยที่เราไม่ได้รักเขาเลย เขาจะมีความสุขได้ยังไง”

ปภาคินคุกเข่าวิงวอนพ่อ ปพนตบบ่าลูกชายพูดอย่างเข้าใจ ตัดใจว่า

“เอาเถอะ ถ้ารักกันมากนัก พ่อก็จะตบแต่งให้เป็นเรื่องเป็นราว”

“คุณพี่!”

“พอเถอะ ปลูกเรือนตามใจผู้อยู่ ไม่อย่างนั้นบ้านมันจะร้อนเป็นไฟ ให้ลูกได้แต่งงานกับผู้หญิงที่ลูกรักเถอะ”

“กราบขอบพระคุณคุณพ่อจริงๆครับ” ปภาคิน

กราบเท้าพ่อยิ้มอย่างมีความสุข แต่ปฐมาอกแทบระเบิด จนวรดาต้องประคองไว้อย่างห่วงใย

เมื่อปฐมากับปภาคินไปแจกการ์ดแต่งงานให้

กานติมา กนกแขเห็นการ์ดแต่งงานของปภาคินกับ

ฉัตรชนกถึงกับช็อก แม้กานติมาจะปลอบว่าพ่อใหญ่กับลูกคงไม่ใช่เนื้อคู่กัน ก็อาฆาตด่าฉัตรชนกว่า

“นังเพื่อนเจ้าเล่ห์ นี่คงไปสุมหัวอะไรกับนาย

ธนา พี่ใหญ่ถึงได้จะต้องเร่งแต่งงานกับมัน” กานติมาถามว่าเรื่องครูธนาเกี่ยวกับพ่อใหญ่ด้วยหรือ “นังฉัตรมันฉลาดเป็นกรด แขจะรู้ไหมคะว่ามันทำยังไง ถ้ารู้แขคงไม่มานั่งตรงนี้หรอก” กนกแขเสียงกระด้างน้ำตาพรู

“แข...ตัดใจซะเถอะลูก”

“ก็ไหนคุณแม่บอกแขว่าพี่ใหญ่คือผู้ชายที่ลูกควรรัก คุณแม่เป็นคนสนับสนุนให้ลูกรักพี่ใหญ่ แล้วทำไม? ทำไม!” กนกแขร้องไห้และฉีกการ์ดทิ้ง “ป้าปฐมา

มาถึงบ้านเรา ทำไมแม่ไม่ช่วยพูดให้แข แม่ไม่รักแขแล้วใช่ไหม”

แม้กานติมาจะพยายามปลอบและชี้แจงว่าป้าปัทคงไม่กล้าขัดใจลูกจนต้องตัดเป็นตัดตายลูกชายคนเดียวขอให้ลูกแม่ตัดใจเสียเถิด

“แต่แขรักพี่ใหญ่ ได้ยินไหมคะแม่ แขรักพี่ใหญ่ นังฉัตรแกแย่งทุกอย่างไปจากฉัน ฉันเกลียดแก!”

 กนกแขร้องไห้ตะโกนแทบคลั่ง กานติมาได้แต่ลูบหลังปลอบใจลูกน้ำตาตกไปด้วย

ooooooo

ในการถ่ายละครรอยอดีตที่บ้านวิยาดาวันนี้ เป็นฉากที่อรนภากับขวัญอุมาจะต้องลงพายเรือในสระบัวด้วยกัน พอถึงเวลาที่จะต้องลงเรือ ขวัญอุมาก็หน้าซีดมือเย็นเฉียบ จนธีรัชถามว่าเป็นไข้หรือปลอบใจว่า

“คุณคเชนทร์แกสั่งทีมกู้ภัยมาดูแลออกเต็มสระ ไม่ต้องกลัวเลยคุณ มา ผมจะพาไปลงเรือ เดี๋ยวคอยดูแลตรงนี้ รถพยาบาลก็สั่งมาคอยอยู่แล้ว”

ธีรัชให้ขวัญอุมาเกาะแขนพาไปลงเรือ อรนภานั่งรออยู่ในเรือพูดหวานอย่างหมั่นไส้ว่า

“แหม...นึกว่ารออะไร รอพระเอกมาส่งลงเรือนี่เอง”

“ขวัญคงยังเข็ดอยู่ ตกน้ำไปเมื่อคราวก่อน”

คเชนทร์เอ่ย แล้วเรียกขวัญอุมาลงเรือ กำกับทั้งสองในฉาก เรือล่มในสระบัวแล้วขอคิวซ้อม บอกอรนภาว่าเอาแค่เอียงเรือยังไม่ต้องโดดจริง พร้อมแล้วสั่ง “แอ็กชัน!”

ขวัญอุมาจึงพายเรือออกไปกลางน้ำ อรนภาทำเป็นเอื้อมเด็ดสายบัว คเชนทร์ตะโกนให้ขวัญโคลงเรือหน่อย ขวัญเอนตัวเพียงเล็กน้อย คเชนทร์ชมว่าดีมาก สั่งให้กลับมาตั้งต้นใหม่ พูดกับตัวเองขำๆว่า

“ไอ้คนที่ถูกแกล้งหน้าระรื่นเชียว ไอ้คนจะแกล้งเขานี่ หน้าซีดเป็นไก่ต้ม” เมื่อธีรัชบอกว่าขวัญกลัวตกน้ำมาก คเชนทร์ก็ย้ำว่า “ขวัญจ๋า ขวัญไม่ต้องกังวลนะ คนตกน้ำไม่ใช่ขวัญ แต่เป็นพิมพ์แขน่ะ ขวัญไหวไหม”

“นั่นสิ จะเล่นไหวไหม...หรืออยากให้แก้บทก่อน” อรนภาเหน็บทันที ขวัญอุมาฮึดขึ้นมาบอกว่าไหว!

“ถ้างั้น พี่ถ่ายนะคะ ขอเทกเดียวผ่านนะ เก่งมากทั้งสองคนเลย”

เมื่อถ่ายจริง ขวัญอุมาข่มความกลัวพายเรือไปตามบท อรนภายิ้มร้ายลึกแต่แสดงไปตามบท พอถึงจุดที่เรือจะคว่ำตามที่ซ้อมไว้ ทีมงานโดยเฉพาะทีมรักษาความปลอดภัยที่จะต้องช่วยอรนภาขณะตกน้ำก็เตรียมพร้อมไปอยู่ฝั่งอรนภา

อรนภาแอบส่งสัญญาณกับแต้วแร้วอย่างรู้กัน พอถึงจุดที่อรนภาต้องตกน้ำ เธอก็เหนี่ยวกราบเรือให้คว่ำทันที ทีมงานเข้าไปช่วยอรนภาแต่ฝั่งขวัญอุมา

ไม่มีใครเลย!

พอคเชนทร์สั่งคัต แต้วแร้วก็ร้องเสียงดังให้พาอรนภามาทางนี้ตนเตรียมผ้ามารับแล้ว เสียงของแต้วแร้วทำให้ทุกคนหันมาสนใจ เลยไม่มีใครดูขวัญอุมาที่ตกน้ำและว่ายน้ำไม่เป็น

อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 6 วันที่ 7 ม.ค.62

ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต บทประพันธ์โดย ลินิน
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต บทโทรทัศน์โดย นลินี สีตะสุวรรณ
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต กำกับการแสดงโดย สำรวย รักชาติ
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ผลิตโดย บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ควบคุมการผลิตโดย วรายุฑ มิลินทจินดา
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ