อ่านละคร รักพลิกล็อก ตอนที่ 9 วันที่ 6 ธ.ค.61
เมื่อกลับไปคุยกันที่ร้านโค้ช กิตติพัศเสนอว่าเราต้องโปรโมตออกสื่อให้คนรู้จักอาชาบำบัดกันเยอะๆ นวียาเสนอว่า ลองเปิดให้เขามาใช้ฟรีไหม?“โอเค ดีเลย เอาตามนั้น”
โค้ชที่ฟังอยู่ด้วยโพล่งประชดว่าดี ทำเป็นการกุศลไปเลย พอนวียาถามว่าได้เหรอ
“ฉันประชด อารมณ์เสีย” กิตติพัศบอกว่าอาไม่เข้าใจหรอก เพราะอาไม่เคยมีฟีลของการเป็นพ่อคน “ย่ะ! คุณพ่อพระ ถ้าฉันเลือกเป็นพ่อคน ฉันไม่มาเป็นตุ๊ดแบบนี้หรอก” โค้ชค้อนปะหลับปะเหลือก
กิตติพัศกับนวียาหัวเราะอาการสะบัดสะบิ้งของโค้ชขำๆ
ฝ่ายศรุดา ธุรกิจขยายอย่างน่ายินดี วันนี้ก็ต้อนรับเดวิดที่มาเจรจาธุรกิจกันที่ร้านกาแฟ ต่างยินดีที่ได้ทำธุรกิจด้วยกัน
เมื่อศรุดามาส่งเดวิดที่หน้าร้าน พาทิศหยิบมือถือออกมาดูรูปพาย พอศรุดากลับมาเห็น บอกว่าพายเองก็คงคิดถึงเขา
“คงไม่หรอกครับ เขายังจำอะไรไม่ได้เลย ผมคงไม่ได้มีค่าอะไร...”
“ทิศมีค่าเสมอ...สำหรับดา” ทั้งสองสบตากันนิ่ง
ooooooo
นวียาจูงมือพายเข้าในห้องเล่นยิมนาสติกริบบิ้น โบวี่เห็นพายก็รีบเข้ามาหาถามพายว่าจำโบวี่ได้ไหม พายส่ายหน้า โบวี่บอกว่าคนที่โดนพายตัดหางเปียไง
“ใครแกล้งเธอเหรอ เด็กคนนั้นใจร้ายจัง นิสัยไม่ดีเลย”
โซดากับนวียาที่แอบฟังอยู่กลั้นหัวเราะไม่อยู่ โบวี่กำลังจะบอกว่าก็พายนั่นแหละแกล้งตน แต่โซดาเข้าไปขัดเสียก่อน บอกโบวี่ให้พาพายไปเล่นด้วยกัน โบวี่รับปากแต่ครูต้องบอกพายว่าห้ามตัดผมตนอีก โซดาลูบหัวโบวี่ปลอบ เมื่อโบวี่พาพายไปแล้ว โซดามานั่งคุยกับนวียา ถามว่าพายดีขึ้นแล้วหรือถึงกลับมาเรียนได้
นวียาบอกว่าก็เริ่มจำอะไรได้รางๆ แต่ยังจำได้ไม่มาก บอกโซดาจากใจจริงว่า
“เอาจริงๆนะ ใจนึงฉันก็อยากให้พายจำได้ แต่อีกใจก็กลัวว่าถ้าพายจำได้ แล้วพายเลือกที่จะกลับไปอยู่กับคุณพาทิศ...”
“เอาน่า...แกก็ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว พายต้องรู้สึกถึงสิ่งที่แกทำ เชื่อฉันสิ” โซดาโอบไหล่นวียาถามว่าแล้วจะเอายังไงต่อ นวียาบอกว่ายังตกลงกันไม่ได้ ทางบ้านตนก็พยายามยื่นรับรองบุตรอยู่ ส่วนทางโน้นไม่รู้ว่าจะมาไม้ไหน โซดาเชื่อว่ายังไงเขาก็ต้องเข้าใจว่าพายควรอยู่กับใคร บ่นว่า
“บ้านนั้นยิ่งบ้าๆบอๆ อยู่ไปก็ประสาทเสีย สู้สมองเสื่อมแล้วอยู่บ้านแกดีกว่า”
“แกนี่” นวียาส่ายหัวมองหน้าเพื่อนขำๆแกมตำหนิ
ฝ่ายบ้านพาทิศก็คิดกันอย่างเคร่งเครียดว่าทำอย่างไรจึงจะได้สิทธิ์การเลี้ยงดูพาย ทนายพูดแง่กฎหมายให้ฟังว่า การที่จะทำให้เด็กที่เกิดนอกสมรสกลายเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของบิดาสามารถทำได้คือ
1. บิดามารดาสมรสกันภายหลัง 2.บิดาจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตร แต่จะจดได้ก็ต่อเมื่อมารดาและบุตรยินยอม 3. ถ้าฝั่งนั้นไม่ได้มีหลักฐานว่าฝั่งเราไม่เหมาะสมที่จะเลี้ยงดูบุตรก็ไม่น่ามีปัญหา
อรจิราไม่พอใจลุกพรวดไปตั้งแต่ทนายพูดข้อแรกแล้ว พาทิศบอกแม่ว่าปล่อยเขาไปเถอะ เขาจะอยู่หรือไม่อยู่ก็ไม่สำคัญอะไรอยู่แล้ว แม่ไล่ส่งว่าจะไปไหนก็ไปเลย ตนจะไม่ให้ดูแลอะไรทั้งนั้น ทั้งพายและกิจการของวิชิตภากร
แต่พอทนายพูดถึงข้อสุดท้าย แม่กับพาทิศก็มองกันหน้าเครียด
ฝ่ายพ่อของนนทวี พอดูคลิปที่อรจิราอาละวาด ความประพฤติและผลการตรวจเลือดของพายแล้ว พ่อบอกว่าเท่านี้ก็น่าจะพอเป็นหลักฐานได้ว่าอรจิราเป็นคนที่ใช้อารมณ์รุนแรงก้าวร้าว ไม่เหมาะกับการเลี้ยงดูบุตร
“มาคิดดูดีๆ เผลอๆ ถ้าพายจำได้ พายก็จะบอกได้ว่าใครเป็นคนทำให้พายเข้าโรงพยาบาล” แม่ยิ้มดีใจ พ่อเสริมว่าถ้าอย่างนั้นก็เท่ากับพายมีสิทธิ์ได้มาอยู่ที่บ้านเราแบบถาวรเลย แม่เห็นด้วย
“ผมว่าเราเลิกหาหลักฐานเถอะครับ” นนทวีขัดขึ้น พ่อกับแม่หันมองตกใจ พ่อบอกว่าแต่เราได้หลักฐานพอแล้วนะ “ผมว่ามันไม่พอ มันไม่พอกับสิ่งที่ผมทำลงไปวันนั้น ถ้าวันนั้นไม่ได้เป็นเพราะผมฉวยโอกาสตอนที่อรเมา เรื่องพวกนี้ก็จะไม่เกิดขึ้น”
“แต่ลูกก็ไม่ควรโทษตัวเองฝ่ายเดียว ลูกควรนึกถึงพายนะลูก”
“ผมไม่อยากขุดคุ้ยเรื่องนี้ขึ้นมา เรื่องจริงที่ว่าพายเกิดมาจากพ่อที่ฉวยโอกาส ผมจะเป็นพ่อที่ดีของพายได้ยังไง”
“โถ...ลูกแม่”
“ได้ เชื่อพ่อนะนน คนเป็นพ่อทุกคนต่างก็ทำผิดมาทั้งนั้น อดีตมันแก้ไขไม่ได้ แต่จากนี้ไปต่างหากที่เราจะต้องมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ลูกของเรา เพื่อชดเชยความผิดที่เราได้ทำไป”
เมื่อนนทวีขอร้องพ่อแม่เช่นนี้ ทั้งพ่อและแม่โผกอดลูกชายอย่างเห็นใจ...เข้าใจ...
ooooooo
ที่นิทรรศน์รัตนโกสินทร์ พาทิศกับศรุดาเดินดูงานด้วยกัน ศรุดาชอบมาก แต่พาทิศดูเนือยๆ ถามว่า
“นี่เหรอข้อแลกเปลี่ยนที่ผมขอให้ดากลับไปทำงานที่ Hook’s”
“ค่ะ...ดาอยากเติมแรงบันดาลใจหน่อย” ศรุดาเดินดูไปเรื่อยๆจนมาเจอรูปม้า เธอหยุดมองอึ้ง นึกถึงอดีตที่เคยมาดูแกลเลอรีกับกิตติพัศ เธอสลัดความคิดนั้นออก มองหาพาทิศ
พาทิศเดินไปดูการแสดงชุดภาพมอเตอร์ไซค์ เขาปลีกตัวไปดูรูปฝูงบิ๊กไบค์อยู่นาน จนศรุดาเดินมายืนข้างๆ พาทิศคิดถึงที่ศรุดาเคยห้ามเขาขี่มอเตอร์ไซค์ ศรุดามองหน้าเขาถามว่า
“ถ้าทิศอยากกลับไปขี่มอเตอร์ไซค์อีกครั้ง ทิศจะชวนดาอีกไหม”
“ดาจะไม่ห้ามผมเหรอ” พาทิศถามอย่างมีความหวัง ศรุดามองเขาเต็มตาและส่ายหน้า “ผมคงเป็นผู้ชายที่โชคดีที่สุดในโลกอย่างที่เดวิดว่าจริงๆ”
ทั้งสองกุมมือกันอย่างมั่นใจเป็นหนึ่งเดียวกัน
ศรุดายังมองภาพถ่ายรูปม้าที่อยู่ใกล้ๆ
ฝ่ายคู่กิตติพัศกับนวียา...กิตติพัศมองป้าย “อาชา Fun day” ที่อาชาคลับ อธิบายให้นวียา เชน กับอิคคิวฟังว่า เราจะเปิดอาชา Fun day วันอาทิตย์ นวียาเสริมว่าเราจะเปิดให้เด็กๆทุกคนได้ทำอาชาบำบัดฟรี
เชนเสนอว่าเราควรมีกิจกรรมบนเวทีด้วยไหมจะได้สนุก อิคคิวเสนอให้แจกตุ๊กตาอาชาคลับท่าจะดีเด็กๆจะได้นึกถึงเราเวลาอยู่บ้าน โค้ชเบรกว่าชักจะไปกันใหญ่แล้ว เบดบอกว่าตุ๊กตาของเราจะหมดสต๊อกแล้วคงไม่พอแจก กิตติพัศสั่งทันทีว่าให้ไปทำเพิ่มอีก
โค้ชช็อกกับโครงการแจกฟรีที่คุยกันอย่างคึกคัก ร้องให้พอ พังหมดแล้ว ถามทุกคนว่า
“นี่คิดแต่จะแจก จะแจก...ไหนล่ะรายได้เข้าคลับ นี่มันการกุศลยิ่งกว่าสภากาชาดอีกนะ” หยุดหายใจเฮือกแล้วคิดออก “อาคิดออกแล้ว เราทำแบบงานกาชาดเลยสิ จัดบูธขายของไปเลย อย่างน้อยก็ได้ค่าเช่าแล้วค่าแคทอริ่งไม่ต้องจ้าง ฉันจัดการเอง โฮะๆ ตามนั้น” โค้ชลิงโลดใจมาก
เบดถามว่างานนี้เราต้องเตรียมติดต่อใคร ทำอะไรบ้าง โค้ชโยนกลองหน้าตาเฉยว่าคิดกันเอาเองสิ ตนคิดเยอะแล้ว เชนถามนวียาว่าเอายังไงดี แผนการตลาดตนก็ไม่ค่อยรู้จักเสียด้วย
นวียาดูทีวีเห็นข่าวศรุดากลับไปทำงานที่ Hook’s แถมยังกลับมาในฐานะบรรณาธิการบริหารของวิชิตภากรด้วย ทุกคนจ้องทีวีอย่างสนใจเหมือนได้คำตอบที่กำลังค้นหา มีความหวังจะให้ศรุดาช่วยโปรโมตงาน
“ผมไม่เห็นด้วย” กิตติพัศโพล่ง ทุกคนชะงักหน้าเจื่อน “ผมว่า...เราทำกันเองได้ อย่าไปยุ่งกับเขาเลย อย่าลืมสิ ตอนผมไปขอให้เขาช่วยเรื่องพาย เขายังปฏิเสธ เดี๋ยวผมหาทางเอง” กิตติพัศหน้าตึงเดินออกไปเลย
ทุกคนงง ถามกันว่าเป็นอะไรของเขา? กิตติยาบอกว่าสงสัยเสียดายถ่าน โค้ชรีบตะปบปากกิตติยาด้วยความเกรงใจนวียา
แล้วนวียาก็โทรศัพท์นัดคุยกับศรุดาที่ร้านกาแฟ ศรุดาถามว่ากิตขอให้เธอมาหรือ
“เปล่าค่ะ กิตไม่รู้เรื่อง และฉันคิดว่าเขาไม่ควรรู้เรื่องนี้ด้วย ฉันอยากขอคุณให้มันเป็นความลับระหว่างเรา” นวียามองหน้าศรุดาด้วยแววตามุ่งมั่น ศรุดาท่าทีอึกอัก
เมื่อนวียาพูดธุระของตนเสร็จ ศรุดาถามว่า “ช่วยเหรอ...ในโลกธุรกิจไม่มีอะไรได้มาฟรีๆหรอกนะ”
พอนวียาบอกว่าตนพอมีเงินเก็บไม่มาก แต่...ศรุดาก็ขัดขึ้นทันทีว่า
“ฉันขอพายคืน...ให้ทิศ” นวียาช็อกคาดไม่ถึง ศรุดาลุกขึ้นพูดอย่างไม่ยี่หระว่า “กลับไปคิดดูนะ คิดเสียว่าฉันช่วยเธอเพิ่มแล้วกันนะ ถ้าพาทิศได้พายคืน เธอกับพาทิศตัดขาดจากกัน ไม่ดีเหรอ ไม่ได้อยากเจอกันอยู่แล้วนี่” พูดแล้วเดินกระแทกส้นสูงไปเลย
นวียานั่งเครียดอยู่ตรงนั้น พูดไม่ออก
ooooooo
กลับไปที่อาชาคลับ นวียาอัดอั้นไปปรับทุกข์กับบีเลิฟว่าทำไมต้องกลายเป็นตนที่ต้องเลือก กิตติพัศอยู่อีกด้านของบีเลิฟกำลังกลุ้มเรื่องจะทำอย่างไรดีกับอาชาคลับ บอกว่าเลือกไม่ได้ก็ไม่ต้องเลือก
นวียาได้สติบอกเขาว่าไม่มีอะไร ตนทำตัวเองอยู่ๆก็เอาตัวเข้าไปหาเรื่องทั้งที่มันเป็นเรื่องของเขาเรื่องที่เขาก่อขึ้นเองแท้ๆ กิตติพัศยิ่งสงสัยถามว่ามันเกี่ยวกับตนยังไง
“ช่างเถอะ กิตก็คือกิต โลเลไม่เคยตัดสินใจอะไรให้ชัดเจน กิตไม่เคยรู้หรอกว่า ตลอดมาวีทำเพื่อกิตแค่ไหน และทุกครั้งคนที่เจ็บก็มีแต่วีมาตลอด แล้วครั้งนี้ก็เป็นอีกครั้ง”
นวียาพูดแล้วเดินหนีไปพร้อมเสียงสะอื้น กิตติพัศมองตามงงๆ ได้แต่ร้องเรียก แต่นวียาก็ไม่แม้แต่จะหยุดฟัง
ooooooo
วันนี้ศรุดาพาพาทิศไปที่โรงเรียนนนทวี พาทิศถามว่ามาที่นี่ทำไม เธอย้อนถามว่าก็เขาอยากเจอพายไม่ใช่เหรอ
นนทวีออกมาต้อนรับถามว่ามาหาพายหรือ พอดีเสียงออดเลิกเรียน พายวิ่งออกจากห้องเรียน นนทวีบอกพายว่ามีคนอยากเลี้ยงไอติมถามว่าพายโอเคไหม พายหันมองพาทิศ เขาลุ้นอย่างมีความหวังว่าพายจะจำตนได้
“คุณ...น้า...จะพาพายไปเหรอคะ”
พาทิศผิดหวังแต่ฝืนยิ้มชวนพายไปกินไอติมกัน พายยิ้มสดใสดีใจที่จะได้กินไอติม
เข้าร้านแล้วพาทิศสั่งไอติมรสที่พายชอบ พายกินพลางถามว่าคุณน้ารู้ได้ไงว่าตนชอบไอติมรสนี้
พาทิศนั่งดูพายกินอย่างมีความสุข ไม่ได้แตะของตัวเองเลย พอพายกินของตัวเองหมดก็ถามว่า
“คุณน้าไม่ทานเหรอคะ” พาทิศบอกว่าน้าไม่หิว “งั้น...คุณน้าจะว่าอะไรไหมคะ ถ้าพายขอแย่งของคุณน้า” พาทิศบอกไม่ว่า แต่ทานไอติมเยอะๆแล้วจะไม่สบายนะ “รู้ค่ะ พ่อนนก็บอก แต่ว่าพายอยากกินอีก...”
พาทิศนั่งดูพายกินไอติมถ้วยที่สองอย่างเอ็นดู พายกินไปอ้อนไปว่า
“คุณน้าเก็บเรื่องนี้เป็นความลับของเราสองคนนะ อย่าบอกพ่อนนนะคะ”
ยิ่งฟังพาทิศก็ยิ่งเศร้าที่ตัวเองกลายเป็นคุณน้าในความทรงจำของพายไปแล้ว...
เมื่อมาส่งพายที่โรงเรียน พาทิศเห็นนนทวี ศรุดา และนวียายืนรออยู่ พายปล่อยมือพาทิศวิ่งไปหานนทวี ร้องเรียก “พ่อนน...” พาทิศเศร้า และยิ่งเศร้า
เมื่อเดินมาเจอนวียา ทั้งสองสบตากันและหลบตากัน
ศรุดาชวนพาทิศกลับ แล้วเข้าควงแขนพาทิศเดินออกไป นวียามองตามแอบเจ็บจี๊ดๆในใจ
ระหว่างที่พาทิศพาพายไปกินไอติมนั้น ศรุดากับนวียาไปนั่งคุยกันที่ม้านั่งสนามของโรงเรียน นวียาระแวงข้อแลกเปลี่ยนที่ศรุดาเสนอ ถามว่าคิดจะทำอะไร ตนยังไม่ได้บอกเลยว่าจะคืนพายให้
ที่แท้ศรุดาเอาแผนการตลาดมาให้บอกว่า
“นี่เป็น Action plan ทั้งหมดของอาชาฟันเดย์ ถือซะว่ามันเป็นคัมภีร์แล้วกัน มันจะบอกคุณว่าคุณควรเริ่มโปรโมตยังไงและคุณควรทำอะไรต่อ ถ้าไม่เข้าใจคุณก็แค่โทร.หาฉัน”
นวียายังระแวงบอกว่าเอาตรงๆดีกว่า ตนเหนื่อยที่จะเล่นเกมแล้ว ถามศรุดาว่าเธอต้องการอะไร
“ไม่ได้ต้องการอะไร แล้วก็ไม่ต้องแลกอะไรด้วย ฉันติดค้างกิตไว้เยอะ ถือเป็นการขอโทษแล้วกัน...อีกสองวันเตรียมงานแถลงไว้ด้วย ฉันจะส่งนักข่าวไป”
โค้ช กิตติยากับเบด รุมกันดูแผนการตลาดที่นวียาเอามาให้ต่างชมว่าเยี่ยม ไม่คิดว่านวียาจะทำได้ กิตติพัศเดินเข้ามาถามว่าดูอะไรกันอยู่ พอรู้ว่าเป็นแผนการตลาดที่นวียาเอามาให้ก็บอกโค้ชว่า
“วันก่อนยังงอนผมอยู่เลย บางที...วีอาจเป็นผู้หญิงที่ดีที่สุดในชีวิตผม อาว่าไหม”
“รีบเลือกก่อนจะไม่มีโอกาสเลือกแล้วกัน และก็อย่าลืมไปขอบคุณวีด้วยล่ะ คงจะนั่งทำทั้งคืน”
คืนนี้กิตติพัศจึงไปขอบคุณนวียาที่บ้าน นวียาสงสัยว่าขอบคุณเรื่องอะไร
“ก็เรื่องแผนการตลาดอาชาฟันเดย์ไง นี่กิตเร่งมือทำตามคัมภีร์ทุกขั้นตอนเลย และกิตก็ขอโทษวีด้วยนะ เรื่องวันก่อน กิตไม่รู้หรอกว่าวีเป็นอะไร กิตอาจจะไม่เข้าใจ แต่กิตไม่สบายใจเลยที่วีโกรธกิต วีไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน กิตแค่อยากบอกวีว่า กิตแคร์วีนะ”
นวียาฟังกิตติพัศพรรณนาจึงรู้ว่าเขามาขอบคุณเรื่องอะไร แต่ไม่กล้าบอกความจริง เมื่อฟังกิตติพัศพูดจนหมด เธอได้แต่ยิ้มออกมาคนเดียว
อรจิรากลับบ้านคืนนี้ ดูทีวีมีข่าวกอสซิปเซเลบ พาทิศดูอยู่เขาเร่งเสียงขึ้น พิธีกรกำลังสัมภาษณ์ศรุดาในงานแถลงข่าวว่าหนักใจไหมที่ต้องมากู้ชื่อเสียงของ Hook’s คืนมา
“ไม่ค่ะ ของแบบนี้เขาวัดกันที่ผลงาน และทีมงานของ Hook’s ก็เป็นทีมงานมืออาชีพ ไม่นานก็จะคืนยอดขายได้แน่นอนค่ะ”
อรจิราคำรามในคอว่าเอามันกลับมาทำงานจนได้สินะ พาทิศรำคาญพี่สาวตัวเองจะปิดทีวี แต่มีเสียงพิธีกรแลบออกมาก่อนว่า
“มาต่อกันอีกเรื่องนึงค่ะ ขวัญใจเจ๊ เซเลบหนุ่มไม่ใช่ใคร คุณกิตติพัศ รูปหล่อแถมใจดีอีก เปิดงานอาชาฟันเดย์ให้เด็กๆเข้ามาทำอาชาบำบัดฟรีทุกวันอาทิตย์ เป็นไงคะ รูปหล่อใจบุญขนาดนี้ เจ๊อยากได้...”
ภาพบนจอค้างที่รูปของกิตติพัศ...อรจิรามองกิตติพัศในจอทีวีอย่างอาลัยอาวรณ์...
ooooooo
วันนี้เป็นวันเปิดงานอาชาฟันเดย์ ผู้ปกครองต่างพาเด็กๆมาชมงานกันอย่างคับคั่ง นวียากำลังดูงาน โค้ชถือน้ำเข้ามาถาม “น้ำไหมคนเก่ง”
กิตติพัศมาจากไหนไม่รู้คว้าแก้วน้ำไปก่อน โค้ชตีมือบอกว่าให้นวียา เขาจึงยื่นแก้วน้ำให้นวียา
“อะๆ ยกให้ก็ได้ กิตไม่รู้ว่าวีทำงานนี้ออกมาได้ยังไง แต่สุดยอดไปเลยนะวี”
นวียายิ้มแห้งๆ รับแก้วน้ำแล้วรีบดูดกินกลบเกลื่อนความกระอักกระอ่วนใจ
พ่อกับแม่นวียาพาพายมาเที่ยวงานด้วย พายอ้อนพ่อนนว่าอยากไปเล่นซุ้มโน้น นนทวีอุ้มพายพาพุ่งไปเหมือนขี่จรวด เลยชนพาทิศเข้าอย่างจัง พายเห็นพาทิศก็ยิ้มกว้าง นนทวีจึงปล่อยพายลงพื้น
“คุณน้ายีราฟมาด้วยเหรอคะ” พายเรียกอย่างที่เคยเพราะพาทิศคอยาวเหมือนยีราฟ พอพาทิศบอกว่าเพิ่งมาถึง พายอ้อนให้พาไปซุ้มเกม ตรงนั้นมีร้านขายของด้วย หันไปขอนนทวีว่า “คุณพ่อคะ พายอยากพาคุณน้ายีราฟไปเดินดูรอบๆ” พอนนทวีอนุญาต พายร้อง “เย้...” จับมือพาทิศไปด้วยกัน
ooooooo
ศรุดาไม่ได้ไปงานอาชาฟันเดย์ เธอวิ่งออกกำลังกายบนลู่วิ่งอยู่ที่คอนโด พลางก็เปิดทีวีดูข่าวงานอาชาฟันเดย์
กิตติพัศกำลังแถลงข่าวพอดี มีนวียากับโค้ชอยู่ด้วย เขาหน้าตาสดชื่นแจ่มใสมาก อรจิราอยู่ในงานก็ดูทีวีช่องเดียวกับศรุดาอยู่
“ก่อนอื่นผมขอขอบคุณแขกทุกท่านและพี่ๆ นักข่าวที่สนใจให้ความสำคัญงานเล็กๆแบบนี้...งานนี้เกิดขึ้นเพราะทุกคนในอาชาบำบัดอยากมอบวันพิเศษให้กับเด็กทุกๆคน”
“ที่มาของการจัดงานนี้ขึ้นคืออะไรคะ”
“แน่นอนครับ นอกจากแรงบันดาลใจจะมาจากเด็กๆแล้ว อีกคนหนึ่งที่ถือว่าเป็นแรงบันดาลใจสำคัญที่ช่วยให้งานนี้เกิดขึ้นก็คือ...”
ศรุดาเดินบนลู่วิ่งดูทีวีหน้าตายิ้มแย้ม อรจิราก็จ้องทีวีที่งานเขม็ง
“คนนี้ครับ...” กิตติพัศหันคว้านวียาไปกอด
นวียาตั้งตัวไม่ทันยิ้มเขิน นักข่าวถ่ายรูปกันรัว พาทิศอยู่กับพายที่ซุ้มเกม มองภาพกิตติพัศกอดนวียาให้ช่างภาพถ่ายรูปแววตาช้ำ
ศรุดาที่เดินบนลู่วิ่ง พอเห็นภาพในทีวีก็เร่งความเร็วเครื่องเป็นวิ่งอย่างเร็ว...และไม่มีทีท่าว่าจะหยุดพาทิศเดินออกไปอย่างเร็ว
ส่วนอรจิราจิกตาดูทีวีตาแดงเดือด
ooooooo
อ่านละคร รักพลิกล็อก ตอนที่ 9 วันที่ 6 ธ.ค.61
ละครเรื่อง รักพลิกล็อก บทประพันธ์โดย เทพิตาละครเรื่อง รักพลิกล็อก บทโทรทัศน์โดย เหนือดาว
ละครเรื่อง รักพลิกล็อก กำกับการแสดงโดย สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร
ละครเรื่อง รักพลิกล็อก ผลิตโดย บริษัท นอร์ธสตาร์ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง รักพลิกล็อก ควบคุมการผลิตโดย กัญญารัตน์ จิรรัชชกิจ
ละครเรื่อง รักพลิกล็อก ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ