อ่านละคร รักพลิกล็อก ตอนที่ 10 วันที่ 9 ธ.ค.61
พอศรุดาเข้าไปเลือกธีมปาร์ตี้ก็ได้รับอีเมลจากเดวิดให้ออกคอลเลกชันใหม่ เธอดีใจมาก มากยิ่งกว่าตอนดูเรื่องงานแต่งเสียอีกพาทิศเปิดหนังสือดูไปเรื่อยๆมาถึงหน้าอุโมงค์ต้นไม้ก็ถามศรุดาอย่างตื่นเต้นว่า
“ดา...รูปตอนถ่ายพรีเวดดิ้ง ทิศอยากเอาธีมขี่มอเตอร์ไซค์ไปถ่ายอุโมงค์ต้นไม้ ดาโอเคไหม”
ศรุดารับไปดู นึกถึงตอนไปดูฝูงบิ๊กไบค์ในงานแล้วถามเขาว่า ถ้าเขาอยากขี่มัน จะชวนตนไหม คิดแล้วศรุดาสีหน้าลังเล ฝืนยิ้มถามว่า
“แน่ใจนะคะ ว่าเหมาะกับดา เหมาะกับเรา”
“นั่นสิ...คงไม่เหมาะ”
พาทิศปิดหนังสือฝืนยิ้ม ทั้งคู่ยิ้มกันฝืนๆ บรรยากาศฝืดฝืนไปหมด
ooooooo
ฝ่ายนวียากลับไปแล้วก็ฝึกซ้อมขี่ม้าอย่างบ้าคลั่ง จนโค้ชบอกว่าแบบนี้คงอกหัก กิตติยาบอกว่าถ้างั้นพี่ชายตนก็ต้องอกหักด้วย เพราะสภาพเดียวกันเลย
นวียาขี่ม้ากระโดดข้ามสิ่งกีดขวางได้ทั้งหมด กิตติพัศนั่งที่สนามขณะนวียาฝึกซ้อมตลอดเวลาแต่นั่งเหม่อเสียเป็นส่วนใหญ่ พอนวียาซ้อมเสร็จมานั่งข้างๆ ก็ชมว่า
“เก่งมากเลยวี ข้ามได้หมดเลย แบบนี้ต้องติดทีมชาติแน่ๆ”
“ดูเวลาสิ ยังช้าอยู่เลย นี่ก็เก็บคะแนนครบทุกสนามที่เขาให้เก็บแล้วด้วย ไม่มีเวลาให้แก้ตัวแล้ว”
กิตติพัศให้กำลังใจว่าสนามนี้เธอเก็บคะแนนได้มากกว่าทุกคนเลยไม่ใช่เหรอ เชื่อว่าเธอต้องทำได้แน่ หรือต่อให้ไม่สำเร็จตนก็จะเป็นคนปลอบเธอเอง
“วันนี้มาแปลก มาโหมดไหนเนี่ย” นวียามองหน้าเขาแปลกๆ
“แปลกตรงไหน เราก็มีกันอยู่แค่นี้มาตั้งกี่ปีแล้ว เดี๋ยวกิตไปสั่งน้ำให้นะ”
แม้กิตติพัศจะพยายามร่าเริงเอาใจแต่นวียาดูออกว่าเขาฝืน พอกิตติพัศลุกไปเธอเห็นนิตยสารที่เขาวางไว้ จึงหยิบดู เห็นข่าวในแวดวงสังคมประกาศการแต่งงานของพาทิศกับศรุดา กิตติพัศกลับมาพอดี เธอถามว่า
“สรุปว่ากิตได้ไปบอกคุณดาหรือยัง”
“เรื่องกิตกับคุณดามันจบไปแล้วล่ะวี กิตไม่อยากเสียเวลากับอะไรที่มันไม่ใช่แล้ว”
นวียามองเขางงๆ กิตติพัศจับแขนทั้งสองข้างของนวียาให้หันมองตน บอกว่า
“กิตอยากอยู่กับอะไรที่สบายใจ ไม่เหนื่อย...”
“งั้นวีเลิกขี่ม้าดีกว่า มันยาก แล้ววีก็เหนื่อย”
กิตติพัศมองหน้านวียาตกใจ ร้องเฮ้ย...ไม่ได้ นวียาย้อนว่า
“ก็ทีกิตยังยอมแพ้แค่เพราะเหนื่อยเลย วีว่านะ ชีวิตมันก็เหมือนการขี่ม้าข้ามรั้วนี่แหละ บางด่านที่เราผ่านไม่ได้ เราก็ต้องถามตัวเองว่า เราพยายามพอหรือยัง”
กิตติพัศฟังแล้วจุกเมื่อนึกถึงที่ศรุดาบอกว่า...ฉันไม่ได้รักคุณ...ถามนวียาว่า
“แต่ถ้าด่านนั้นเราพยายามเต็มที่แล้ว กิตว่าเราคงต้องไปลองในด่านใหม่ๆดูบ้างมันน่าจะดีกว่า”
กิตติพัศพูดและมองหน้านวียาจริงจังจนเธอหวั่นใจ
ooooooo
วันต่อมามณีไปคุยกับพาทิศและศรุดาที่บริษัทเล่าคอนเซปต์ให้ฟังว่า
“มณีสั่งจองสถานที่เรียบร้อยแล้วนะคะ เราจะใช้โบสถ์เล็กๆตามที่คุณดาอยากได้ โทนสีน้ำเงินทองนะคะ แล้วที่จะถ่ายพรีเวดดิ้งเอาธีม Great Gatsby นะคะ”
“โอเคใช่ไหมทิศ” ศรุดาถามเมื่อเห็นพาทิศมองลังเล เขายิ้มฝืนๆ ไม่ทันพูดอะไรแซนดี้ก็มาเคาะประตู บอกพาทิศว่ามีเอกสารเซ็นด่วน พาทิศจึงขอตัวบอกว่าเดี๋ยวมา ให้ดาจัดการเลย
พอพาทิศออกไป ศรุดาก็นั่งกังวล จนมณีถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า
“ดากำลังลังเลค่ะ จริงๆทิศเขาเสนอมาว่าอยากขี่มอเตอร์ไซค์ไปถ่ายที่ถนนอุโมงค์ต้นไม้น่ะค่ะ”
มณีอึ้งเมื่อนึกได้ว่านวียาเป็นคนชอบและเสนอ ตัดสินใจคุยกับศรุดาว่า
“คุณดาคะ อย่าหาว่ามณีเยอะเลยนะคะ มณีอยากให้คุณดาแน่ใจในทุกการตัดสินใจของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ ธีม แบบการ์ด มณีอยากแน่ใจว่าคุณดาเลือกในสิ่งที่อยากได้ และมีความสุขจริงๆ...และอีกอย่างมณีคิดว่าคุณพาทิศคงไม่ได้ชอบอุโมงค์ต้นไม้ขนาดนั้นหรอกมั้งคะ”
“ทำไมคะ”
“ก็คนที่ปลื้มไอเดียอุโมงค์ต้นไม้ไม่ใช่คุณพาทิศสักหน่อย แต่เป็น...คุณนวียาที่มากับคุณพาทิศน่ะค่ะ”
ศรุดารู้ความจริงถึงกับสะอึก
ooooooo
วันนี้พายเอาโทรศัพท์ของนนทวีโทร.คุยกับโซดาหน้าตาเจ้าเล่ห์
“พรุ่งนี้เจอกันนะคะครูโซดา ครูสัญญาแล้วนะว่าจะช่วยพาย ห้ามผิดสัญญาด้วย ไม่งั้นจะฟ้องพ่อนนไม่ให้ครูมาทำงาน”
พอพายวางสาย โซดาพึมพำ “เอาโทรศัพท์พ่อมาขู่เลยเหรอเนี่ย เฮ้อ...เอาก็เอา” แต่สีหน้าหนักใจ บ่นกับตัวเอง “คิดแผนขัดขวางงานแต่งคุณพาทิศกับศรุดาเนี่ยนะ เฮ้อ...”
ฝ่ายพายคุยโทรศัพท์เสร็จก็คืนเครื่องให้นนทวีขอบคุณและย้ำว่า
“พรุ่งนี้เนื่องจากพ่อนนติดงาน พ่อนนต้องบอกอาวีตามแผนนะคะ”
พอดีเห็นนวียาเดินเข้ามา พายวิ่งไปกอดอ้อน ถามว่าพรุ่งนี้วันอะไร
“พรุ่งนี้ก็วันอาทิตย์ยังไงล่ะคะพาย อาวีเลยเตรียมอุปกรณ์ไปงานอาชาฟันเดย์ไงคะ”
พายร้องดีใจขอไปด้วย แม่กับพ่อเดินมายิ้มเอ็นดู พ่อถามว่าแล้วปู่ไปด้วยได้ไหม
“ทุกคนต้องไปค่ะ เพราะมันคือแฟมิลี่เดย์”
“งั้นเราก็ไปกันหมดนี่เลยค่ะ” นวียาบอกนนทวีบอกว่าให้ชวนพาทิศไปด้วย เพราะพรุ่งนี้ตนติดงาน
“นะคะ...นะค้า...” พายอ้อนนวียาสุดฤทธิ์
“แต่ต้องสัญญาก่อนว่าจะเป็นเด็กดี” พอนวียาพูดจบ พายก็เกี่ยวก้อยสัญญาทันที
นนทวีมองหน้านวียาแล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
ooooooo
หลังรู้เรื่องพาทิศกับนวียาจากมณีแล้ว ศรุดาไม่มีสมาธิ คิดงานไม่ออก สเกตช์แล้วขยำกระดาษทิ้งแผ่นแล้วแผ่นเล่าจนรู้สึกว่าสเกตช์ไม่ถนัดเพราะแหวนจึงถอดออก พอถอดแหวนแล้วค่อยวาดภาพถนัดขึ้น
ในงานอาชาฟันเดย์ ครอบครัวนวียากับครอบครัวพาทิศมาเจอกันในงาน ต่างทักทายกันอย่างไว้เชิง แย่งกันเป็นย่าพายออกนอกหน้า พายเบื่อเลยจูงมือนวียากับพาทิศชวนไปเที่ยวกัน
ที่ซุ้มกาแฟ กิตติยากับเบดช่วยกันจัดซุ้ม เบดสะกิดกิตติยาให้ดูสองครอบครัว ถามว่าเขาดีกันแล้วหรือ
“ฉันว่าดีกันก็ดีแล้ว มันจะอะไรนักหนา” โค้ชแทรกขึ้น แล้วทำเอะใจถามกิตติยา “เออ แล้วไหนบอกว่าวันนี้โซดาแฟนเธอจะมาช่วยยะ”
“บ้า...พูดอะไรก็ไม่รู้บอกว่าเพื่อนสนิท...เพื่อนสนิท” กิตติยาตีแขนโค้ชเพียะเขิน บิดตัวแทบเป็นเกลียว
เบดกับโค้ชมองเซ็ง
ฝ่ายแม่พาทิศกับแม่ของนนทวี ต่างแย่งความเป็นย่า แม่พาทิศอ้างว่าตนเป็นย่ามาก่อน ส่วนแม่ของนนทวีอ้างว่าตนเป็นของจริง ต่างแย่งกันบอกพายที่ปิดตาติดหางม้าจนเถียงกันเอง นวียากับพาทิศมองแม่ของตัวเองแล้วปวดหัว
นวียาชะโงกดูพายเผลอสะดุดรองเท้าพาทิศเซไป ดีแต่พาทิศประคองไว้ทันหน้ากับหน้าห่างกันแค่ฝ่ามือกั้น ต่างตกอยู่ในภวังค์รสสัมผัสของกันและกัน แต่ต้องสะดุ้งหลุดจากภวังค์เมื่อเสียงเฮดีใจที่พายติดหางม้าได้ถูก นวียารีบดันตัวออกมา บอกพาทิศเขินๆว่า
“เดี๋ยว...ฉันไปเตรียมซุ้มก่อนแล้วกัน”
ที่ซุ้มวาดรูประบายสี นวียามาเตรียมอุปกรณ์วาดรูประบายสีอย่างใจลอยคิดถึงอ้อมกอดของพาทิศ
กิตติพัศย่องมากอดนวียาจากข้างหลัง พอหันไปเขาถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า นวียาบ่นว่ามาไม่ให้สุ้มเสียง แล้วกิตติพัศก็ช่วยจัดเตรียมของ ถามว่าแล้วพายล่ะ
“เล่นเกมอยู่ที่ซุ้มน่ะ ไม่ต้องห่วง วันนี้มีคนดูแลเยอะ ทั้งย่า ยาย วีปวดหัวจนต้องหนีมาเนี่ย”
“งั้นเดี๋ยวกิตช่วยนะ”
แม่นนทวีกับแม่ของพาทิศ ยังชิงไหวชิงพริบแย่งซีนกัน แม่นนทวีชวนพายไปเล่นระบายสีกับอาวี ส่วนแม่พาทิศก็ชวนไปดูของที่ระลึกกัน
แต่ทั้งสองต้องผิดหวังเมื่อพายเห็นโซดาแล้วสะบัดมือจากสองแม่วิ่งไปหาโซดา สองแม่มองกันทำหน้าไม่ถูก พาทิศเลยชวนแม่ไปดูของที่ระลึกกัน พ่อเลยบอกให้แยกกันตรงนี้เลย
พาทิศกับพ่อของนวียาเลยจูงสองแม่แยกไปกันคนละทาง
ooooooo
พายเห็นกิตติยากับโซดาถือน้ำมาก็ตรงเข้าไปถามโซดาว่าคิดแผนออกหรือยัง โซดาส่ายหน้า ติงว่า มันจะดีเหรอ กิตติยาหูผึ่งอยากรู้ว่าทั้งสองวางแผนอะไรกัน พายบอกกิตติยาว่า
“ก็พายไม่อยากให้พ่อพาทิศแต่งงานกับน้าดานี่คะ ถ้าพ่อพาทิศแต่งงานกับน้าดา น้าดาก็ต้องไปอยู่บ้านพาย พายคงไม่กล้ากลับไปอยู่กับพ่อพาทิศแล้ว”
“อ๋อ...ตกลงที่โซดามาวันนี้ก็เพราะน้องพายอยากให้ช่วยวางแผนขัดขวางการแต่งงานเหรอคะ”
พอพายพยักหน้า กิตติยายื่นมือไปจับพายร้อง “ดีล! เห็นพี่กิตเป็นแบบนี้ ฉันจะสบายใจได้ไง”
กิตติยาชี้แจงกับโซดาที่ทำหน้างง
“โอ๊ย...แล้วจะทำไง” โซดาทำท่าปวดหัว
แล้วทั้งสามก็ช่วยกันคิดแผน พายมองไปเห็นกลุ่มเด็กแสบที่แต่งตัวก๋ากั่นก็ทำหน้าตื่นเต้นอย่างคิดอะไรออก
กิตติพัศอยู่กับนวียาที่ซุ้มวาดรูป กิตติพัศถามนวียาว่าส่งคะแนนให้ทางสมาคมหรือยัง นวียาบอกว่าส่งแล้ว เหลือแต่รอประกาศผล ไม่รู้จะได้ไหม
ขณะนั้นเองพาทิศเดินเข้ามา กิตติพัศเห็นก็หมั่นไส้ ถามเหน็บ
“อ้าว...คุณพาทิศ ไม่นึกนะครับว่าว่าที่เจ้าบ่าวจะมีเวลามาเดินเล่นแบบนี้”
นวียาเห็นบรรยากาศจะไม่ดี ถามว่าแล้วพายล่ะ พาทิศบอกว่าไปกับกิตติยากับโซดา
“แล้วเตรียมงานแต่งถึงไหนแล้วครับเนี่ย ผมอยากเห็นการ์ดจะแย่ อ้อ...หวังว่าจะไม่ตรงกับวันที่วีแข่งนะครับ เพราะถ้าเป็นวันนั้น ผมคงต้องเลือกไปเชียร์วี” พูดแล้วกิตติพัศเมินใส่พาทิศ พาทิศอึ้งเมื่อรู้ว่านวียาจะลงแข่ง
กิตติพัศแสดงความสนิทสนมกับนวียาอย่างมากต่อหน้าพาทิศ เขาขยี้หัวนวียาอย่างเอ็นดู อวดว่าตนสั่งพลุมาจุดให้วีคืนนี้เตรียมฉลองชัยล่วงหน้าเลย นวียายิ้มเจื่อนทำหน้าไม่ถูก พอดีมือถือพาทิศดังขึ้น เป็นสายจากศรุดาโทร.มาถามว่าว่างไหม อยากคุยเรื่องงานแต่ง กิตติพัศหน้าเสียเมื่อรู้ว่าเป็นสายจากศรุดา
พาทิศบอกศรุดาว่าว่าง ตอนนี้ตนพาพายมาอาชาฟันเดย์ ศรุดาบอกว่าเดี๋ยวจะมา
ขณะที่ทุกคนกำลังอึดอัดนั้น เชนวิ่งมาหากิตติพัศบอกว่าพลุมาแล้วจะให้เอาไปไว้ที่ไหน กิตติพัศบอกให้เอาไว้ที่โกดังก่อน อิคคิวที่ตามมาบอกว่าคุณกิตต้องไปเซ็นเบิกจ่ายด้วย เขารออยู่ กิตติพัศจึงต้องขอตัวไป ทำให้นวียาต้องอยู่กับพาทิศตามลำพัง ต่างพูดอะไรไม่ออก
“ขอให้คุณโชคดีในการแข่งขันนะ” พาทิศเอ่ยขึ้นก่อน
นวียาขอบคุณแล้วทำท่าจะขอตัว พวกเด็กแสบกลุ่มนั้นก็วิ่งกรูเข้ามาเต็มซุ้ม อ้อนครูวีว่าอยากระบายสี อีกคนเข้ากอดขาพาทิศให้สอนตนด้วย พาทิศอึกอักบอกว่าตนไม่ใช่ครู
เด็กเบะทำท่าจะดิ้น พาทิศเลยต้องเป็นครูจำเป็นสอนเด็กวาดรูป
อึดใจต่อมา กิตติยา โซดา และพาย ก็ค่อยๆโผล่หน้ามาทีละคน พายเอามือแปะกิตติยาและโซดาหัวเราะคิกคักที่แผนสำเร็จ
ooooooo
เชนกับอิคคิวให้เบื๊อกมาช่วยขนพลุเข้าไปเก็บในโกดัง แต่เบื๊อกก็เบื๊อกสมชื่อนอกจากช่วยขนเข้าไปเก็บแล้วยังลองจุดดูว่ามันดีจริงไหม พอโดนอิคคิวดุก็โยนพลุที่จุดแล้วเหยียบไฟดับตามอิคคิวออกไปแต่ไฟดับไม่สนิท ค่อยๆคุขึ้นมา
โค้ชยักษ์อยากทำแครมบูเล่โชว์เด็กแต่ไม่ได้เอาที่พ่นไฟมา ขอแรงนวียาให้ไปหยิบให้ที่โกดัง นวียาจึงปั่นจักรยานสีฟ้าเทอร์ควอยซ์ไปจอดหน้าโกดังแล้วรีบเข้าไป เจอไฟที่เบื๊อกดับไม่สนิทลามไหม้อย่างรวดเร็ว นวียาตกใจจะวิ่งออกไปเอาน้ำดับไฟ แต่ถูกของหล่นขวางทาง
ฝ่ายศรุดามารอพาทิศที่ใกล้โกดังแล้วโทร.บอกพาทิศ ระหว่างรอพาทิศก็เดินไปรอบๆ พลันก็ได้กลิ่น แปลกๆเหมือนไฟไหม้ เธอเห็นจักรยานของนวียาจอดอยู่หน้าโกดัง ร้องถามอย่างเป็นห่วง
“นวียา...นวียา เธออยู่ในนั้นหรือเปล่า!”
กลิ่นไฟไหม้และควันไฟลอยไปถึงซุ้มที่โค้ชรอเตรียมทำแครมบูเล่ พอมองไปเห็นควันพวยพุ่งออกมาจากโกดังก็ตะโกนบอกกันด้วยความตกใจ ไฟไหม้! ไฟไหม้!!
กิตติพัศเข้ามาถามว่าอะไร พอโค้ชบอกว่าไฟไหม้โกดัง ยัยวีอยู่ที่นั่น ทั้งกิตติพัศและพาทิศต่างวิ่งไปโกดังทันที
ไฟที่โกดังลุกลามอย่างรวดเร็วล้อมนวียาไว้จนสำลักควันและค่อยๆทรุดลง ส่วนศรุดาอยู่ข้างนอกก็ร้องเรียกนวียาตลอดเวลาแต่ไม่มีเสียงขานรับเลย
กิตติพัศวิ่งมาเจอศรุดาอยู่หน้าโกดังถามว่าเธอมาทำอะไรที่นี่ แล้วรีบวิ่งเข้าโกดังไป ครู่เดียวทั้งโค้ชและแม่พาทิศก็วิ่งมาถึง แม่จับมือพายให้กำลังใจว่าอาวีต้องไม่เป็นอะไร
ศรุดาตะโกนเรียกนวียาพลางเดินเข้าไปหาในโกดังด้วยความเป็นห่วงจนตัวเองก็เข้าไปอยู่ในอันตราย
พาทิศตะโกนเรียกนวียาและกิตติพัศตะโกนเรียกศรุดาพลางวิ่งเข้าไปหาในโกดัง กิตติพัศไปเจอศรุดาที่สำลักควันหมดสติอยู่ เขาโผเข้ากุมมือขึ้นจูบ คร่ำครวญความรู้สึกจากหัวใจ...
“คุณดา...คุณต้องตื่นนะ ตื่นมาฟังผมก่อน ผมยังไม่ได้บอกคุณเลยว่าผมรักคุณมากขนาดไหน...ผมขอโทษที่ผมมันขี้ขลาดไม่ยอมบอกไปตั้งแต่วันที่ยังมีโอกาสผมมันคือคนเห็นแก่ตัวที่ไม่อยากให้คุณไปรักกับใคร นอกจากผม ผมมันงี่เง่าที่ไม่เคยบอกรักคุณเลย ขอร้องเถอะคุณดา ให้ผมได้ดูแลคุณเถอะนะ คุณคือคนเดียวที่ผมรักแล้วผมจะรักคุณไปชั่วชีวิต ผมไม่มีคุณไม่ได้คุณได้ยินไหม...ได้ยินไหม”
ศรุดายังสลบอยู่ กิตติพัศกอดเธอไว้ร้องไห้แทบขาดใจ...
อีกด้านหนึ่งพาทิศอุ้มนวียาออกมา พยาบาลรีบเอาเปลไปรับ ทุกคนมองลุ้นด้วยความเป็นห่วง
เมื่อเข้าโรงพยาบาลแล้ว กิตติพัศเฝ้าศรุดาอยู่ข้างเตียงตลอดเวลา พาทิศก็เฝ้านวียาไม่ห่าง
จนวันใหม่ทั้งกิตติพัศและพาทิศต่างมานั่งข้างนอก พยาบาลเดินมาจะเข้าห้องศรุดาถามว่า
“กดเรียกพยาบาลหรือเปล่าคะ ทั้งสองห้องเลย”
สองหนุ่มมองหน้ากันอย่างรู้ว่าศรุดากับนวียาฟื้นแล้ว กิตติพัศเดินเข้าห้องศรุดาและพาทิศเดินเข้าห้องนวียา แล้วทั้งสองก็ชะงักที่ประตู เมื่อนึกได้ว่าที่จริงตัวเองควรอยู่ตรงจุดไหน?
แม่นวียากับพายเดินมาจะเข้าห้องนวียา พ่อถามกิตติพัศว่าเห็นพยาบาลบอกว่าฟื้นแล้วเหรอ กิตติพัศพยักหน้ามึนๆแล้วเดินตามพ่อแม่และพายเข้าไปในห้องนวียา พาทิศก็เดินเข้าห้องศรุดาไปโดยปริยาย
พาทิศเข้าไปเกาะเตียงถามศรุดาว่าอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหม เธอขอบคุณแต่อยากกลับบ้านมากกว่า พาทิศบอกให้พักก่อนเดี๋ยวตนจะไปส่ง
ศรุดาถามพาทิศว่านวียาเป็นยังไงบ้าง เขาตอบเศร้าๆว่าปลอดภัยแล้ว ศรุดาบอกให้ไปเยี่ยมตนเป็นห่วง พาทิศอึกอักบอกว่า “ผมเป็นห่วงว่าที่เจ้าสาวของผมมากกว่า”
“งั้นขอดาไปเยี่ยมนะ”
พาทิศอึ้งอย่างคิดไม่ถึง แต่ก็ประคองศรุดาออกไป
ooooooo
ฝ่ายนวียา พ่อ แม่และพายห้อมล้อมอยู่รอบเตียง พอพยาบาลเข้ามาพ่อถามว่ากลับเลยได้ไหม พยาบาลบอกว่า คุณหมออยากให้พักอีกสักหน่อยเย็นๆถึงจะให้กลับ กิตติพัศบอกแม่ว่าเดี๋ยวตนพาไปส่งเองก็ได้
มีเสียงเคาะประตูดังขึ้น ทุกคนมองไปเห็นพาทิศประคองศรุดาเข้ามา นวียามองงงๆ แล้วทุกคนก็ออกไปนั่งรอหน้าห้อง ปล่อยให้ศรุดากับนวียาคุยกันตามลำพัง แต่คอยชำเลืองเข้าไปในห้องเห็นสองสาวคุยและยิ้มให้กัน อย่างสนิทใจ
ครู่หนึ่งศรุดาเดินออกมาบอกพาทิศให้ช่วยไปส่งนวียาแทนได้ไหม พาทิศอึ้งๆพูดไม่ออก พ่อที่อุ้มพายอยู่กระซิบถามแม่ว่า คุณพาทิศจะแต่งงานกับหนูดาไม่ใช่หรือ มันจะดีหรือถ้าไปส่งลูกสาวเรา
“ดีสิคะ” พายแย่งตอบ จนปู่กับย่ามองหน้าหลานงงๆ
ศรุดาเดินไปหากิตติพัศถามว่า “รบกวนอะไรหน่อยได้ไหมคะ” กิตติพัศมองหน้าเธองงๆ
ศรุดาให้กิตติพัศไปส่งตนที่บ้าน พอถึงเธอถามว่าจะให้คนป่วยเดินเข้าบ้านเองหรือ เขาจึงเข้าพยุงพาเข้าไปแล้วบอกเขินๆขอกลับเลย
“จะรีบไปไหน ไหนคุณบอกจะดูแลตลอดชีวิต”
กิตติพัศอึ้ง พอนึกได้ว่าตนพูดกับเธอตอนสลบก็เขินจนหน้าแดง ศรุดาพูดให้เขาหายเขินว่า
“ฉันฝันน่ะ ฝันว่าคุณบอกรักฉัน จะดูแลฉันไปตลอดชีวิต ยังฝันอีกว่า คุณเอาแต่โทษตัวเองที่ไม่ได้บอก”
อ่านละคร รักพลิกล็อก ตอนที่ 10 วันที่ 9 ธ.ค.61
ละครเรื่อง รักพลิกล็อก บทประพันธ์โดย เทพิตาละครเรื่อง รักพลิกล็อก บทโทรทัศน์โดย เหนือดาว
ละครเรื่อง รักพลิกล็อก กำกับการแสดงโดย สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร
ละครเรื่อง รักพลิกล็อก ผลิตโดย บริษัท นอร์ธสตาร์ โปรดักชั่น จำกัด
ละครเรื่อง รักพลิกล็อก ควบคุมการผลิตโดย กัญญารัตน์ จิรรัชชกิจ
ละครเรื่อง รักพลิกล็อก ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ