อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 3 วันที่ 30 ธ.ค.61

อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 3 วันที่ 30 ธ.ค.61

คุณจี๊ดไปดูฉากบ้านโฉมเฉลาแล้วพยักหน้าพอใจ ขวัญอุมาเดินเข้ามาพูดกับคุณจี๊ดว่าดีขึ้นมาก

ดูเป็นบ้านทีเดียว คุณจี๊ดบอกว่า “ใช่...ดูใช่มากๆ”

เหล่านักแสดงเดินถือบทเข้ามาหาคเชนทร์
คเชนทร์กำกับการแสดงทันที ขวัญอุมามองบรรยากาศในฉากอย่างพอใจและเริ่มฉากที่ตัวเองอยู่กับแม่ที่แปลงผัก ขวัญอุมาบอกให้แม่ไปแต่งตัวก่อนตนล้างผักคนเดียวได้ คงเสร็จพอดีกับแม่แต่งตัวเสร็จ

พอแม่กลับถึงบ้านก็เจอปภาคินมากับวรดา เขาขับรถมาจอดหน้าบ้านพอดี ลงจากรถบอกว่าตนมาหาครูฉัตร แม่บอกว่าฉัตรยังอยู่ที่สวนผัก จึงขอไปดู แม่กลัวเสื้อผ้าจะเปรอะเปื้อน เขาบอกว่าตนมีชุดกีฬามา แม่จึงเอาหมวกให้ใส่ไปด้วย วรดาถามว่าแล้วน้องล่ะ ปภาคินบอกว่ารอในบ้านก็แล้วกัน



“นั่งรอในบ้านเถอะค่ะ แดดแรงคุณจะไม่สบาย เชิญทางนี้ค่ะ”

นวลอนงค์เชิญปภาคินเดินตามตนไป เขาไปหยิบกระเป๋าใบเล็กที่รถแล้วเดินตามไป

ปภาคินเปลี่ยนเป็นชุดกีฬาเดินไปหาฉัตรชนกที่กำลังล้างผักที่ร่องสวนถามว่าให้ตนช่วยอะไรไหม?

“ไม่เป็นไรค่ะ จวนเสร็จแล้ว”

ปภาคินนั่งลงตรงข้ามกับฉัตรชนกดูเธอล้างผัก อดไม่ได้เลยหยิบผักมาแกว่งกับน้ำในร่องสวนบ้างแต่ดินร่องสวนลื่นเขาเลยไถลลงในร่องสวน ฉัตรชนกตกใจที่เสื้อผ้าเขาเปื้อนหมดบอกให้ขึ้นมาเปลี่ยนเสื้อผ้าเสีย ปภาคินรู้สึกผิดที่ทำให้ผักเสียหาย บอกให้ส่งผักมาอีกตนจะช่วยล้าง แล้วนั่งพิงร่องผักสบายๆล้างผักอย่างคล่องแคล่ว

กลายเป็นสองคนช่วยกันล้างผัก และฉัตรชนกก็รับผักที่ล้างแล้วจากปภาคินมาจัดเรียงไว้ในตะกร้ากันอย่างมีความสุข

ความไม่คุ้นเคยกับชีวิตในชนบท พอถึงสะพานเล็กๆที่จะข้ามไปเข้าบ้าน ปภาคินก็ลังเล ฉัตรชนกจึงรับตะกร้าผักมาถือเอง กระนั้นเขาก็ยังตกน้ำจนได้

วรดาได้ยินเสียงตกน้ำวิ่งออกมาดู เห็นพี่ชายยืนอยู่ในน้ำหัวเราะเขินๆ พอตะกายขึ้นมาได้ก็จะมาช่วยถือตะกร้าผักอีก ฉัตรชนกบอกว่าตนถือเองได้

นวลอนงค์ในชุดพร้อมออกไปขายผัก ออกมาเห็นฉัตรชนกกับปภาคินช่วยกันถือตะกร้าผักคนละข้างหัวเราะกันร่าเริงก็นิ่งคิด

เมื่อฉัตรชนกมาช่วยแม่มัดตะกร้าผักกับจักรยาน นวลอนงค์เตือนลูกว่า

“ฉัตร...ระวัง รักษาตัว รักษาใจเราให้ดีนะ”

“โธ่แม่ ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คงมาเที่ยวดูบ้านเมืองเฉยๆ เพิ่งกลับจากเมืองนอก คงไม่เคยเห็นสวนผัก ดูสิคะ ตกน้ำตกท่าเป็นหลายหน”

“ไม่เคยเห็น ไม่เคยมี เพราะเขาต่างจากเรา

พอต่างเขาก็สนใจเพราะมันแปลก ฉัตรต้องสัญญากับแม่นะว่าจะระมัดระวังใจของเราให้ดี ไม่ให้เผลอไปกับเขา” ฉัตรชนกบอกว่าตนเพิ่งรู้จักเขาได้ไม่กี่วันเอง แม่อย่ากังวลไปเลย “แม่ต้องกังวล แม่ห่วงทุกเรื่องนั่นแหละ ฉัตรก็รู้ แม่ไม่มีใครนอกจากฉัตร”

“แม่คะ...ฉัตรก็ไม่มีใครนอกจากแม่เหมือนกัน” ฉัตรชนกจับมือแม่เหมือนสัญญา นวลอนงค์ถอนใจแล้วขี่จักรยานออกไป

ooooooo

การถ่ายละครในฉากที่บ้านของโฉมเฉลาเริ่มขึ้นแล้ว คเชนทร์ถือบทกำกับโดยมีปกป้องและฉายฉานประคองอยู่ข้างๆและขวัญอุมายืนถือตะกร้าไข่คล้องแขนอยู่คนเดียว

“ตอนนี้โฉมเฉลาพยายามจะเรียกร้องความสนใจจากผู้ชายสองคนนี้นะ ถึงได้ชวนไปกินข้าวในบ้านว่า ‘ไปกินข้าวกันไหมคะ ไข่นี่โฉมเพิ่งเก็บมาจากเล้าเป็ด ยังอุ่นอยู่เลย’...”

“ในบทมีด้วยหรือคะ เรื่องเก็บไข่” ขวัญอุมาทักท้วง

“ก็ตอนที่คนเขียนเขาเขียน เขาไม่รู้ว่ามีเล้าเป็ดนี่จ๊ะ ตอนนี้มีเล้าเป็ดแล้วพี่ก็เติมให้ไง โฉมหยิบไข่เป็ดออกมาโชว์ด้วยนะ”

ปกป้องกับฉายฉานคุยกันจุ๊กจิ๊ก คเชนทร์เตือนให้มีสมาธิกันหน่อยแล้วกำกับต่อ

“ขวัญลองดูสิ ให้เขาตามเข้าไปด้านในแค่คนเดียว ที่เหลือก็ต้องตามมาแล้ว...เอ้า เข้าที่” คเชนทร์ถอยไปเห็นทุกอย่างเข้าที่แล้วก็สั่ง “แอ็กชัน!”

อรนภาลุกขึ้นชวน “กลับกันสักทีดีไหมคะ” ปกป้องกับฉายฉานรีบเข้าไปยืนขนาบทันที และขวัญอุมาก็หิ้วตะกร้าไข่เป็ดเข้ามา คเชนทร์สั่ง “โฉมมองเลย ให้เห็นเลยว่าพิมพ์แขเอาผู้ชายไปหมดแล้ว”

ขวัญอุมาเล่นตามคำสั่งเหมือนจะเดินเข้าบ้าน แต่แล้วหันกลับมาทำหน้าซื่อชวน

“ไม่กินข้าวเช้าด้วยกันก่อนหรือคะ ฉันอยากได้คนช่วยทำกับข้าวจริงๆ มีไข่เป็ดที่เพิ่งเก็บมายังอุ่นๆ

อยู่เลยนะคะ ธนกฤต...”

ฉายฉานที่เล่นเป็นธนกฤตรีบเดินมาหาขวัญอุมา อรนภาตามมาด้วย ปกป้องเลยต้องตามมาอีกคน

“คัต ดีมากขวัญ เดินเข้าไปด้านในเลยนะ เอาจริงเลย”

ที่หน้าจอมอนิเตอร์ คุณจี๊ดนั่งอยู่ ครู่หนึ่งคเชนทร์มานั่งที่เก้าอี้หน้าจอมอนิเตอร์ถามทุกคนพร้อมแล้วนะคุณจี๊ดถามว่า

“ไหนใครว่าขวัญเรื่องมาก ไม่เห็นมีอะไรเลย เล่นก็ดี๊ดี”

“พูดกันรู้เรื่องแล้วค่ะคุณจี๊ด ไม่มีอะไร เพียงแต่บางเรื่องที่ขวัญเขาคิดว่ามันไม่ใช่ตัวละคร แต่วันนั้นก็เคลียร์กับคุณเชนทร์แล้วนะคะว่าถ้ามีหลักฐานอะไรก็เอามาคุยกัน จริงไหมคะคุณเชนทร์” ลูกปลาถาม

“อ่า...ครับ ที่แน่ๆฉากนี้ไม่มีปัญหาครับ...” แล้วคเชนทร์ก็สั่งในวิทยุให้นับไปเลย

พอเริ่มนับถอยหลังถึง 1 ขวัญอุมาก็เดินเข้าฉากมาเหมือนที่ซ้อมไว้

คุณจี๊ดพอใจมากกับฉากละครพีเรียดที่ใช้ของเก่าโบราณบอกว่างดงามและใกล้ธรรมชาติจริงๆ ขวัญอุมามองอาหารบนโต๊ะแล้วเปรยว่าที่นี่สวนผัก ไม่มีผัดผักสักจานหรือ คุณจี๊ดเห็นด้วยสั่งให้ไปหาผัดผักร้อนๆ สักจาน พร็อพวิ่งออกไปทันที อรนภามองอึ้ง ทึ่ง ที่คุณจี๊ดทำตามขวัญอุมา

ฉายฉานยักคิ้วให้อรนภาทำนองว่า ใครๆก็ฟังความเห็นขวัญอุมา

ooooooo

เวลาเดียวกัน...ที่บ้านฉัตรชนก เธอชวนปภาคินกับวรดากินข้าวเช้าด้วยกัน ฉัตรชนกเข้าครัวครู่เดียวก็มีทั้งผัดผักและไข่เจียวร้อนๆหอมฉุยมาตั้งโต๊ะโดยมีวรดาช่วยจัดจานช้อนส้อมมาพร้อม

“ผักของเรา ไข่ก็เก็บมาเมื่อเช้านี้เองค่ะ เสียดายว่าไม่มีปลาเลยวันนี้”

ปภาคินพูดอย่างเกรงใจว่าแค่นี้ก็รบกวนครูฉัตรมากแล้ว วรดาบอกว่าครูฉัตรทำคนเดียวเดี๋ยวเดียวก็เสร็จ ฉัตรชนกบอกว่าของง่ายๆแม่เตรียมให้หมดแล้วเหลือให้ทำเองร้อนๆเท่านั้น ปภาคินชมว่าคุณแม่ครูมีเมตตามากไม่ทราบว่าท่านทำอะไรในห้างฝรั่ง

ฉัตรชนกบอกว่าแม่ทำอาหารทั้งไทย ฝรั่ง และทำงานบ้านให้ฝรั่ง ปภาคินชมว่าเก่งจัง แม่เรียนจากที่ไหนหรือ

“ฉันก็ไม่รู้ค่ะ เกิดมาก็เห็นท่านทำอยู่แล้ว ทั้งรับจ้างทำงานบ้านแล้วก็ทำสวนผักอีกด้วย แม่ทำงาน หนักมากแล้วก็เก่งมากๆด้วย”

วรดาชมว่าครูก็เก่งเหมือนกัน ปภาคินพยักหน้าเห็นด้วย ฉัตรชนกตักไข่เจียวให้วรดากับปภาคินชวนกินข้าวกันเถอะ ปภาคินตักข้าวใส่ปาก มองฉัตรชนกชมว่าอร่อยมาก ฉัตรชนกต้องก้มหน้าทำเป็นกินข้าวแก้เขิน

ส่วนที่กองละคร กำลังถ่ายฉากห้องอาหารบ้านโฉมเฉลา มีขวัญอุมาแสดงเป็นโฉมเฉลา อรนภา ปกป้อง และฉายฉาน แสดงเป็นพิมพ์แข ปรานและธนกฤต กำลังกินข้าวอยู่เหมือนกัน

ขวัญอุมารู้สึกเหมือนเห็นภาพที่เกิดขึ้นในอดีตครั้งนั้น เธอมองและยิ้มให้ปกป้องเหมือนยิ้มให้กับปภาคิน เอ่ยอย่างจริงใจ

“ขอบคุณค่ะ...ฉันหวังว่าจะได้ทำอาหารให้คุณปรานบ่อยครั้งกว่านี้”

อรนภามองขวับขยับจะค้านการแสดงของขวัญอุมาแต่คนอื่นต่างมีสมาธิในการกินเลยต้องเงียบไป

ที่หน้าจอมอนิเตอร์ คเชนทร์ดูการแสดงแล้วชมว่าลื่นไหลดีจัง คุณจี๊ดเอ่ยปลื้มว่า

“นี่แหละขวัญอุมา ใช่เลยกับบทนี้ โฉมเฉลามาเองแท้ๆ”

“คราวนี้ยัยขวัญคงเลิกบ่นเรื่องบทสักทีจริงๆนะฮะพี่จี๊ด เวลาทำละครที่มันใช่เนี่ย มันมีความสุขจริงๆ ลืมเหนื่อยเลย”

“แน่นอน...พี่เนี่ยโชคดี ได้พบนักแสดงดี ผู้กำกับดี ละครมันถึงใช่เสียทุกเรื่องไงล่ะจ๊ะ”

ลูกปลานั่งอยู่ใกล้ๆ ทีแรกก็ยิ้มปลื้ม แต่แล้วทำปากขมุบขมิบทำนองว่าไม่ใช่หรอกไม่มีทางเลิกบ่นแน่

แต่ที่ห้องแต่งตัว อรนภากระฟัดกระเฟียดเข้ามาบ่นว่าเราแสดงเกือบตายไม่ยักกะตัดรับเรา ฉายฉานบอกว่าฉากนี้เป็นฉากที่โฉมเฉลาใส่เสน่ห์ปรานสำเร็จไม่ใช่หรือก็ต้องเน้นเขาสองคนสิ พอถูกติงเรื่องนี้ อรนภาก็หันไปบ่นเรื่องอื่นว่า วันนี้เพิ่งเห็นชัดๆว่าพี่เชนทร์ปลื้มยัยขวัญผิดปกติ ฉายฉานก็แก้ให้อีกว่า พี่เชนทร์แกปลื้มทุกคนแหละ ถ้าฉากไหนเอ้เด่นแกก็ปลื้มเอ้ ไม่ต้องกังวลใจ ทำงานของเราไปตามหน้าที่

“เราทำตามหน้าที่ แต่คนอื่นทำให้เราทำหน้าที่ไม่ได้เต็มที่น่ะสิคะ” อรนภาตะแบงไปเรื่อย

“เราก็อย่ายอมสิจ๊ะ ขัดข้องอะไรก็บอกพี่เชนทร์ แกใจกว้างพร้อมรับฟังเสมอ ที่สำคัญแกเป็นคนชอบแก้ปัญหาให้ใครต่อใครได้ทุกคนเลย”

เมื่อหาพวกไม่ได้ อรนภาก็ชมว่าฉายฉานมองโลกในแง่ดีมากๆเสมอ ถามว่าเคยบวชเรียนมาหรือยัง

ฉายฉานเล่าว่าเคยบวชสามเณรฤดูร้อน แต่ตอนนั้นไม่เข้าใจธรรมะอะไรเท่าไหร่ แต่ตนสนใจเรื่องศาสนา อ่านและศึกษาธรรมะจากพระเกจิอาจารย์เสมอ บอกว่าถ้าเอ้ชอบจะแบ่งมาให้อ่าน ทั้งเซ็นและเต๋านี่คุยกับตนได้เลย อรนภาบอกว่าวันหลังสอนตนบ้าง ตนยังไม่รู้เลยว่า ต่างกันยังไง เซ็นกับเต๋าเป็นศาสนาอะไร

“เต๋าเป็นลัทธิความเชื่อเกี่ยวกับพลังธรรมชาติ ส่วนเซ็นเป็นนิกายหนึ่งในศาสนาพุทธ” อรนภาถามว่าแล้วจะช่วยให้เราแสดงได้ดีขึ้นไหม “ต้องลองดูนะ ลองค้นหาดูว่าความเชื่อต่างๆเหล่านี้จะช่วยในการทำงานของเราได้ไหม”

อรนภารบกวนฉายฉานให้ช่วยสอนตนด้วย ฉายฉานบอกว่ายินดี ยิ้มให้อรนภาอย่างถูกชะตากันมาก

ooooooo

คืนนี้หลังถ่ายละครเสร็จ ลูกปลาขับรถพาขวัญอุมากลับบ้าน ขวัญอุมาหลับมาตลอดทาง ถึงบ้านแล้วปลุกให้ลงจากรถยังเดินครึ่งหลับครึ่งตื่นเข้าบ้านไปนั่งหลับๆตื่นๆที่ห้องนั่งเล่น

ลูกปลาขนของเข้ามาถามว่าทำไมยังไม่ไปนอนพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า เล่าว่าวันนี้ทั้งคุณจี๊ดและคุณคเชนทร์ชมขวัญกันใหญ่เลยว่าเล่นดี พูดกันว่าขวัญทำเป็นบ่นแต่ก็สวมบทลื่นปรื๊ดดด พูดขำๆว่า

“ฉันยังขำเลย ฉากเก็บไข่ ทำไร่ แหม ไม่รู้แอบไปทำไร่มาตั้งแต่เมื่อไหร่”

“เปล่าหรอก ฉันไม่ได้ทำ โฉมเฉลาไงเป็นคนทำ” แล้วขวัญอุมาก็หมุนคอทั้งหน้ามาหาลูกปลา ลูกปลาร้องกรี๊ดจะหนีไปทางไหนก็ปิดประตูหมดแล้ว ขวัญอุมาหัวเราะขำ ลูกปลาบอกว่าอย่าเล่นอย่างนี้ “ก็มันจริงนี่พี่ลูกปลาเล่นละครเรื่องนี้แปลกจัง บางทีเหมือนเรากำลังมองสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยสายตาของคนอื่น ใครก็ไม่รู้ที่เป็นเจ้าของเรื่องนี้”

“อื๊ย...ไม่เอา อย่าพูด กลัว ไม่เอา โอ้ยต้องไปทำบุญกันแล้ว พรุ่งนี้ตื่นแต่เช้าแวะไปใส่บาตรก่อนไปกองกันเถอะ” พูดแล้ววิ่งขึ้นชั้นบนไปเลย ขวัญอุมาหัวเราะเดินไปปิดไฟแล้วตามขึ้นไป

ooooooo

รุ่งขึ้นแดดส่องจ้าแล้ว ขณะลูกปลาในชุดพร้อมเดินทางกำลังค้นหาบทละครที่จะถ่ายวันนี้ที่ห้องทำงานบ้านขวัญอุมาอยู่ ขวัญอุมาในชุดนอนก็ถือโทรศัพท์เข้ามา บอกว่าพี่ตวงโทร.มา

ลูกปลารับโทรศัพท์ไปบ่นว่าโทร.มาตามแต่เช้า แต่พอพูดโทรศัพท์ก็กลายเป็นว่า ตวงโทร.มาบอกว่าเมื่อคืนไฟไหม้โลเกชันบ้านปรานวอดทั้งหลังต้องหาโลเกชันใหม่ การถ่ายละครจึงต้องเลื่อนไปก่อน

ลูกปลาเลยชวนขวัญอุมาว่าว่างสามวันเราไปเที่ยวต่างจังหวัดกันดีไหม ถามว่าจะไปไหนดี ขวัญอุมาเสนอให้ไปศรีราชา ลูกปลาโอเคทันที

วันเดียวกันนี้ บ้านวิยาดาที่ศรีราชาก็เกิดเรื่องตกอกตกใจเมื่อธีรัชนอนไม่ตื่น วิยาดาไปเคาะประตูก็ไม่มีเสียงตอบรับประตูก็ล็อก จึงบอกให้สุดใจไปตามช่างพงษ์ลูกชายลุงหวายให้เอาบันไดมาปีนหน้าต่างที่เปิดอยู่

ที่แท้ธีรัชกำลังฝันถึงเรื่องราวในอดีต ในฝันธีรัชที่กำลังหลับถูกทับซ้อนโดยร่างของปภาคินที่กำลังกระสับกระส่ายหน้าตาหมองคล้ำผมเผ้าหนวดเครารุงรังอย่างไม่ได้ดูแลตัวเองเพราะต้องมนตร์ดำที่กนกแขทำใส่

ปภาคินรู้สึกมีผ้าขาวชุบน้ำวางบนใบหน้าและลูบไล้อย่างแสนรัก ทะนุถนอม เขาเพ้อ

“ฉัตร...สุดที่รัก...ฉัตร” พลันก็เหมือนมีอะไรบางอย่างทำให้เขาเพ้อเป็น “แข...แขมาหาพี่ก่อน...แข”

แต่พอลืมตากลายเป็นวิยาดากำลังเช็ดหน้าให้อยู่ พอวิยาดาถาม “เป็นยังไงบ้างลูก” ธีรัชก็เหมือนถูกเรียกกลับมา แต่ยังรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นใครอีกคนหนึ่ง เขาลุกขึ้นแต่ยังเวียนหัวจนเอามือกุมหัวไว้

วิยาดาเข้าประคองบอกว่าเดี๋ยวจะให้ลุงหวายเอารถออกพาไปหาหมอ ธีรัชบอกว่าตนไม่เป็นอะไรเพียงแต่นอนเพลินไปหน่อยเท่านั้น วิยาดาติงว่าเพลินอะไรแม่เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ได้ยินจนต้องให้ตาพงษ์เอาบันไดมาปีนหน้าต่างเข้ามาเปิดประตู

“อย่างนั้นหรือครับ...นอกจากตาพงษ์แล้วมีใครเข้ามาในห้องนี้อีกไหมครับ”

ธีรัชงงๆเพราะรู้สึกว่ายังมีใครอีกคนที่อยู่กับตน แต่พอวิยาดาบอกว่าไม่มี ก็บอกแม่ว่าตนไม่เป็นอะไร

วิยาดาบอกว่าลูกตัวร้อนมากซ้ำยังเพ้อเรียกชื่อแข...ถามว่าเป็นใคร

“ชื่อมันแว่บเข้ามาในหัวเอง อะไรบางอย่างทำให้ผมคิดถึงชื่อนี้ขึ้นมา แต่ผมไม่รู้ว่าคนคนนี้เป็นใคร”

วิยาดาถามว่าหรือจะเป็นพิมพ์แขจากรอยอดีต “รอยอดีตหรือฮะแม่...รอยอดีต”

วิยาดาจับตัวธีรัชเพื่อให้ได้สติ แต่แล้วก็แปลกใจเอามืออังหน้าผากอุณหภูมิกลับเป็นปกติอย่างน่าแปลกใจ ธีรัชถามว่า “เป็นอะไรหรือฮะแม่”

“เหมือนไข้จะหายไปหมดแล้วนะ” คำตอบของวิยาดาทำให้ทุกคนมองกันไปมาอึ้ง

เมื่อวิยาดาเอาน้ำต้มผักมาให้กินจะได้ชื่นใจ ธีรัชถามแม่ว่าตนเป็นอะไรหรือเปล่า ตนเองก็ไม่รู้ตัวตอนนี้มันก็เลือนๆไปแล้ว คงฝันไปว่าตัวเองป่วยมาก เป็นอะไรก็ไม่รู้ เหมือนอะไรบางอย่างที่ร้ายกาจมันเข้ามาเกาะกุมทำให้สับสน วิยาดาสังหรณ์ถามว่า

“นึกถึงผู้หญิงจากเรื่องรอยอดีตน่ะหรือลูก” สุดใจพึมพำว่าเหมือนโดนเสน่ห์ “เสน่ห์อะไรกันมันเรื่องนิยายไม่ใช่คนจริงๆสักหน่อย” สุดใจชี้ไปที่รูปขวัญอุมาบอกว่าคุณคนนั้นเป็นคนจริง

วิยาดาดุว่าเพ้อเจ้อ ขวัญอุมาเป็นนักแสดงจะมาทำเสน่ห์ใส่ธีรัชทำไม สุดใจบอกว่าอาจเป็นรูปลงอาคมเหมือนในลิเก วิยาดาเอ็ดว่าบ้าไปใหญ่แล้ว รูปนั้นตนเขียนเองใครจะไปลงอาคมล่ะ สุดใจเลยถามว่าแล้วจะให้ลุงหวายไปนิมนต์พระที่วัดอยู่ใช่ไหม

“ใช่...ไปเดี๋ยวนี้เลย” ธีรัชถามว่าพระอะไร “จะให้รัชไปถวายสังฆทานที่วัดหน่อยไงลูก”

ธีรัชฟังแล้วครุ่นคิดอะไรบางอย่าง เขาเดินไปที่ห้องวาดรูป ดูรูปขวัญอุมาที่ชำรุด บอกแม่ว่า

“รอยอดีต...น่าแปลกนะครับแม่ ในฝันของผมผู้หญิงคนนี้ไม่ยักร้ายกาจเหมือนโฉมเฉลาในนิยาย เธอมีความเยือกเย็น ไม่รุ่มร้อนอย่างนี้สักนิด” วิยาดาติงว่าลูกเคยบอกว่าไม่ชอบเขา “จริงครับแม่ เขาอาจจะหน้าซื่อใจคดก็ได้”

“โฉมเฉลาในนิยายก็เป็นคนอย่างนั้นจริงๆ จริงไหม หลอกผู้ชายรอบข้างให้รักเธอได้ทุกคน ทั้งปราน และธนกฤต ยอมทำทุกอย่างเพื่อเธอได้ทั้งสิ้น”

ธีรัชรู้สึกถึงความเจ็บปวดเหมือนแผลกรีดใจที่เจ็บปวดได้ทุกเวลา...

ลูกปลาขับรถพาขวัญอุมาบ่ายหน้าไปศรีราชา ระหว่างทางขวัญอุมาหลับฝันร้ายจนร้องกรี๊ด พอตื่นก็ถามว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน ลูกปลาถามว่าเป็นบ้าอะไรอีกแล้วล่ะ ขวัญอุมาบอกว่าไม่รู้ฝันเลอะเทอะอีกแล้ว ฝันซ้ำๆ ลูกปลาถามว่าท่องบทมากไปหรือเปล่า บอกให้ลุกนั่งดีๆและช่วยดูทางให้หน่อย

ooooooo

ขวัญอุมาดูทางสายตาเหลือบเห็นเป็นตึกเย็น บ้านของวิยาดา บอกลูกปลาให้หยุด แล้วเปิดประตูรถพรวดออกไปที่หน้าบ้านกดออดเรียก ลูกปลาบ่นว่าบ้าไปแล้วบ้านใครก็ไม่รู้

วิยาดาออกมาเปิดประตู พอเห็นขวัญอุมาก็ตาโตดีใจเรียก “คุณขวัญอุมา” ลูกปลารีบขอโทษบอกว่านึกว่าเป็นบ้านเพื่อนแล้วเร่งขวัญอุมาให้ไปกันเถอะ

วิยาดาเชิญเข้าบ้านให้ไปดูรูปที่ตนวาดสักหน่อย บอกว่าตนเป็นคนวาดรูปขวัญอุมาที่แสดงในเรื่องรอยอดีต กำลังคิดอยู่ว่าถ้าได้เห็นคุณขวัญตัวจริงจะวาดให้สวยกว่าเดิม

พอขวัญอุมาเข้าไปดูรูป สุดใจที่เป็นแฟนคลับตัวจริงดีใจมากจัดขนมข้าวต้มมาต้อนรับมากมาย ขวัญอุมาถามวิยาดาว่าจะให้ตนเป็นแบบตอนไหนดี วิยาดาว่าสะดวกตอนไหนก็วาดตอนนั้นเลย ถามว่าวันนี้จะพักที่ไหนกันถ้าไม่รังเกียจที่บ้านมีห้องพักแขกว่างอยู่สองห้อง ตนจะได้ให้คนเตรียมอาหารเย็นไว้ให้จะได้แก้งานให้เสร็จเพราะจะต้องขอแสงตอนเช้าด้วย ขวัญอุมาบอกว่าให้ตนนอนห้องเดียวกันก็ได้ แล้วชวนลูกปลาไปดูห้องกัน

ระหว่างเดินไปดูห้อง บังเอิญสวนกับธีรัชพอดี พอเจอหน้ากันก็เกิดปฏิกิริยาทันที ธีรัชถามว่าสองคนมาที่นี่ทำไม สุดใจรีบแนะนำว่าธีรัชเป็นลูกคุณวิยาดา ขวัญอุมาเสียความรู้สึกมากชวนลูกปลากลับ ลูกปลาบอกให้สุดใจพาไปดูห้องก่อน บอกขวัญอุมาว่าใจเย็นๆ เข้าไปคุยกันในห้องก่อน แล้วดึงขวัญอุมาตามสุดใจไปเลย

ขวัญอุมาจะกลับแต่ลูกปลาติดใจเสียแล้ว กล่อมว่าเราเป็นคนของประชาชนและเขาก็ต้อนรับเราอย่างดีขนมก็กินแล้วน้ำชาก็ดื่มแล้ว มาถึงตอนนี้แล้วทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินหน้าต่อไป

ขวัญอุมาบ่นว่าทีแรกนึกว่าธีรัชเป็นเมสเซนเจอร์ส่งของ ไม่คิดว่าจะมีสง่าราศีเป็นถึงลูกเจ้าของคฤหาสน์ ถ้ารู้แต่แรกก็ไม่รับคำชวนเป็นแบบให้วาดรูป ไม่ยอมรับคำชวนให้พักค้างคืนที่นี่หรอก

ลูกปลาหว่านล้อมว่าเมื่อเราออกเดินทางมาเส้นนี้แล้วเพราะฉะนั้นเราต้องเดินหน้าต่อไปไม่ถอยหลัง

ฝ่ายธีรัชก็ไปโวยกับแม่ว่าทำไมให้ยัยคนนี้มาพักที่บ้าน วิยาดาบอกว่าตนเคยบอกแล้วว่าอยากได้ขวัญอุมามาเป็นแบบให้ เมื่อเขามาแล้วจะไม่ให้แม่ต้อนรับและขอให้เป็นแบบให้แม่ทำงานอย่างที่ต้องการหรือ และเมื่อขวัญอุมายอมเป็นแบบแม่เลยชวนค้างเพราะแสงตอนเช้าตรงนี้สวยมาก กล่อมธีรัชว่า

“ลูกลองเปิดใจกว้างสักหน่อย ลองฟังเสียง... พรหมลิขิต ขวัญอุมาอาจเป็นสิ่งที่ชะตาชีวิตกำลังจะบอกอะไรเรา” ธีรัชสวนทันทีว่าบอกว่าเราจะซวย “แต่แม่ไม่เชื่ออย่างนั้น เรามาดูกันไหม...”

ooooooo

ธีรัชทำตามคำขอร้องของแม่ ค่ำนี้เขาจึงเข้าครัวทำอาหารมื้อเย็นต้อนรับขวัญอุมากับลูกปลา มีทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่ง วิยาดาบอกขวัญอุมาว่าเลือกตามใจชอบเลย

ลูกปลาถามว่าคุณธีรัชเป็นพ่อครัวด้วยหรือ วิยาดา บอกว่าพ่อครัวสมัครเล่นเพราะตอนอยู่เมืองนอกก็ทำอาหารกินเอง แล้วเชิญไปที่ห้องอาหารกันเลย

เมื่อไปถึงห้องอาหาร ลูกปลาชมว่าบรรยากาศเหมือนย้อนยุคเลย เหมือนในวังเก่า วิยาดาเล่าว่าบ้านหลังนี้คุณตาซื้อมาจากเจ้าของเดิมเพราะรำคาญพวกก่อสร้างตึกแถวโรงแรมที่กรุงเทพฯเลยขายเสียเลย แล้วออกมาอยู่ต่างจังหวัด ส่วนตารัชยังเรียนอยู่ก็ให้อยู่หอพัก พอทำงานก็ไล่ขึ้นคอนโดไปเสีย ขวัญอุมาชมว่า

“บ้านเก่าแต่สภาพบ้านยังดีอยู่เลยนะคะ”

“พอดีคุณตาเป็นช่างเลยเรียกให้เขามาดูมาซ่อมไป ตึกนี่สร้างตั้งแต่สมัยปลายรัชกาลที่ 6 หรือต้นรัชกาลที่ 7 โครงสร้างยังแข็งแรงอยู่มาก” ขวัญอุมามองไปรอบๆ บอกว่าเหมือนยังมีชีวิตอยู่ในอดีต “เป็นเสน่ห์ของตึกเก่า สร้างบ้านเพื่ออยู่จริงๆ...พรุ่งนี้จะเดินชมให้ทั่วเลยทีเดียว”

ธีรัชเข้ามาถามว่าอาหารถูกปากไหม ลูกปลาชิงตอบว่าอร่อยมาก ยอดเยี่ยมมากทั้งอาหารและที่พักจนอยากอยู่ยาว ธีรัชถามขวัญอุมาว่ามีความเห็นยังไงเกี่ยวกับสเต๊กปลาของตนบ้าง

“อร่อยมาก จนฉันรู้สึกเหมือนย้อนยุคไปกินอาหารที่ไหนสักแห่ง ดีที่ไม่มีเรื่องลึกลับอะไร”

“ดีที่คุณนางเอกชอบ” ขวัญอุมาบอกว่าตนชื่อขวัญอุมาจะเรียกว่าขวัญเฉยๆก็ได้ ธีรัชบอกว่าตนชื่อธีรัชบอกว่าให้เธอเรียกตนว่ารัชเฉยๆก็ได้เพราะเป็นคนคุ้นเคยกัน ลูกปลาเลยขอแจมด้วยว่าตนชื่อลูกปลาเป็นชื่อที่คนสนิทเรียกกันในวงการ ชื่อเดียวไม่มีชื่ออื่น ทุกคนเลยหัวเราะกันอย่างมีความสุข

อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 3 วันที่ 30 ธ.ค.61

ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต บทประพันธ์โดย ลินิน
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต บทโทรทัศน์โดย นลินี สีตะสุวรรณ
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต กำกับการแสดงโดย สำรวย รักชาติ
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ผลิตโดย บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ควบคุมการผลิตโดย วรายุฑ มิลินทจินดา
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ