อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 1 วันที่ 24 ธ.ค.61

อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 1 วันที่ 24 ธ.ค.61

อรนภาจับมือขวัญอุมาหว่านล้อมว่าละครก็คือละคร เราเป็นนักแสดงอาชีพมีหน้าที่แสดงก็แสดงไป เรื่องนี้มีนางเอกสองคน แม้ว่าตอนจบพิมพ์แขที่ตนแสดงจะได้กับคุณปราน แต่ใครๆก็ว่าบทของโฉมเฉลาท้าทายมากกว่าเพราะเริ่มจากดีแล้วค่อยๆร้ายไปเรื่อยๆจนร้ายถึงที่สุด

ขวัญอุมาถามว่าเธอคิดว่าตนหัวโบราณขนาดนั้นเลยหรือ ถ้าไม่ได้กับพระเอกก็จะไม่เล่น อรนภาทำหน้าไร้เดียงสาตอบว่า

“บางทีสำหรับบางคน...นั่นก็เป็นคำจำกัดความของคำว่านางเอก...แต่ยุคนี้แล้ว เราเองก็ไม่ได้คิดอย่างนั้นแล้วล่ะ ขวัญก็เหมือนกันใช่ไหม ไม่อย่างนั้นก็คงไม่รับเล่นเรื่องนี้”



“ฉันไม่ได้กังวลเรื่องใครจะได้กับพระเอกแล้วเป็นนางเอกหรอก เพราะฉันชัดเจนว่าบทบาทใครมากแค่ไหนถึงจะเรียกได้ว่านักแสดงนำหญิงเรื่องนี้ ชัดเจนว่าบทบาทและการแสดงออกเสมอกันทั้งพิมพ์แขและโฉมเฉลา” อรนภารีบบอกว่าพี่เชนทร์กับคุณจี๊ดก็ย้ำแล้วย้ำอีก เรื่องนี้มีนางเอกสองคน “ถูกต้อง เรื่องนี้เราเข้าใจตรงกัน ประเด็นของฉันก็คือความเป็นตัวละครมีเลือดมีเนื้อของโฉมเฉลาในละครเรื่องนี้มันไม่สมจริง มันเลื่อนลอย ไม่น่าเชื่อเลย”

“แล้วไง...?” อรนภาถามงงๆจนขวัญอุมาอ่อนใจว่าแล้วจะพูดกันรู้เรื่องไหมเนี่ย?

ooooooo

ขวัญอุมาถูกทุกคนที่ร่วมงานหว่านล้อม เกลี้ยกล่อมกระทั่งเคี่ยวเข็นแกมบังคับให้รับบทโฉมเฉลาที่เธอเห็นว่าเป็นบทที่ไม่สมจริง เลื่อนลอยไม่น่าเชื่อ จึงพยายามทักท้วงกระทั่งคิดจะถอนตัวบอกว่าตนเล่นบทแบบนี้ไม่ได้ ลูกปลาท้วงติงว่า

ตกปากรับคำจนถ่ายฟิตติ้งไปแล้วจะถอนตัวได้ยังไง จะให้ตนแก้ข่าวไปถึงไหนมันหลายเรื่องเกินไปแล้ว

“แล้วนักแสดงแบบเราไม่เชื่อตัวละครนี่ ละครมันจะดีเหรอ ไม่ดีทั้งกับละครทั้งกับตัวเราเองแล้วทำใจรักตาปกป้องอีก คนยากส์”

“ปกป้องทำไมจ๊ะ...ปกป้องเขาเป็นหลานฉันเอง ฉันดูไม่พลาดหรอก ตอนนี้บทปรานในเรื่องรอยอดีต

ไม่มีใครเหมาะเท่าปกป้อง” จี๊ดเข้ามาพอดีถามขวัญอุมาอย่างไม่พอใจ ขวัญอุมาขยับจะเถียง แต่ถูกลูกปลากระทืบเท้าใส่เท้าเธออย่างแรงซ้ำถลึงตาใส่แล้วลากขวัญอุมาออกไปเลย

ฝ่ายปกป้องที่แสดงเป็นปรานในละครกำลังอ่านและซ้อมบทกับอรนภาที่ห้องอ่านบท ปกป้องจับมือทำก้อร่อก้อติกกับพิมพ์แขในบท จนคเชนทร์ทักท้วงว่า ตอนนี้ปรานยังไม่ได้รักพิมพ์แขเลย ออกจะขำด้วยซ้ำที่ทางบ้านเขาอยากให้แต่งงานกันเพราะฐานะสมกัน

ปกป้องถามว่าทำไมหรือก็พิมพ์แขอายุเท่าๆกับโฉมเฉลาไม่ใช่หรือ คเชนทร์อธิบายว่าโฉมเฉลาเรียนจบทำงานแล้ว แต่พิมพ์แขยังเป็นนักเรียนอยู่ ปรานเลยมองว่าพิมพ์แขยังเป็นเด็กกว่าแบบนั้น ปกป้องเปรยบ่นๆว่า ผู้ชายสมัยก่อนนี่แปลกชอบมองผู้หญิงที่ดูแก่กว่าก่อน ถ้าเป็นสมัยนี้ต้องคว้าเด็กไว้ก่อน พูดแล้วหัวเราะร่าทำให้อรนภาพลอยหัวเราะไปด้วย คเชนทร์พยายามอดกลั้นอธิบายให้เป็นเรื่องเป็นราวว่า

“พอดีเราทำเรื่องนี้เป็นพีเรียดแล้วปรานเขาก็เป็นนักเรียนอังกฤษ ผมว่าเขาต้องมีหลักการพอสมควร”

เมื่อเริ่มซ้อมบทต่อเป็นบทของโฉมเฉลา แต่ปรากฏว่าขวัญอุมาไม่อยู่ในห้อง ทุกคนทำหน้าเซ็ง แต่แล้วก็สะดุ้งเมื่อลูกปลาผลักประตูและลากขวัญอุมาเข้ามา คเชนทร์โล่งอกบอกว่ามาพอดีเลยบอกดาวรายให้เอาบทให้ขวัญซ้อมเลย

ขวัญอุมาถูกลากมานั่งและลูกปลาเอาบทใส่มือให้ ทุกคนในห้องมองขวัญอุมาที่เรื่องมากอย่างระอา ขวัญอุมารับบทไปอ่านตามตัวหนังสืออย่างซังกะตาย...

“คุณปรานคะ ดื่มอะไรไหมคะ โฉมรินเครื่องดื่มมาเผื่อ”

ooooooo

ขวัญอุมากับลูกปลาพากันไปที่ร้านหนังสือในศูนย์การค้าเพื่อหาหนังสือ “รอยอดีต” มาอ่าน เพราะขวัญอุมาไม่เชื่อว่าโฉมเฉลาจะเลวร้ายตั้งแต่ต้นขนาดนี้ อ่านหนังสือแล้วจะได้รู้กันเสียทีว่าความจริงเป็นยังไงกันแน่

ขณะเข้าไปหาหนังสือที่ชั้นวางหนังสือนวนิยาย ขวัญอุมาเดินกวาดตามองหาหนังสือ “รอยอดีต” นั้น ชนเข้ากับธีรัชอย่างจังจนต่างเซจะชนชั้นหนังสือ ลูกปลาพุ่งเข้าคว้าร่างทั้งสองล็อกไว้จนทั้งสองหน้าเกือบชนกัน

พอได้สติขวัญอุมาก็สะบัดตัวออกด่า “บ้า...

เดินยังไงของนายนะ” ในขณะที่ธีรัชเอ่ยขอโทษก่อน พอโดนว่าด่าก็สวนไปว่า แล้วเธอเดินยังไงพรวดเข้ามาแบบนั้นหนังสือตนตกหมดเลย ลูกปลารีบขอโทษแทนขวัญอุมาแล้วชวนกลับ เดินไปถามที่เคาน์เตอร์จ่ายเงินว่าหนังสือรอยอดีตของปรานอยู่ตรงไหนช่วยหาให้ที

เจ้าหน้าที่บอกว่าหนังสือหมดกำลังพิมพ์ใหม่เดือนหน้าคงจะเสร็จ ลูกปลาชวนขวัญอุมากลับบอกว่าเดือนหน้าค่อยมาใหม่

ธีรัชเดินตามมาเพื่อจ่ายเงิน เขามองขวัญอุมาไม่วางตารู้สึกคุ้นหน้ามาก พนักงานเก็บเงินถามว่าคนนั้นนางเอกละครใช่ไหม สวยนะคะ ธีรัชพึมพำ “นางเอกเชียวหรือ?”

ฝ่ายขวัญอุมายังอยากได้หนังสือมาก รอถึงเดือนหน้าไม่ไหวบอกลูกปลาว่าให้ไปเอาจากยายไก่คนเขียนบทก่อน ลูกปลาถามว่าถ้ายืมมาแล้วเขาเขียนบทไม่ทันจะว่ายังไง ขวัญอุมาก็เสนอให้ไปขอที่คนแต่ง ลูกปลาบอกว่าคนแต่งตายไปนานแล้ว ขวัญอุมาก็ให้ไปเอาจากเจ้าของลิขสิทธิ์ต้องมีแน่ๆ

“ยัยขวัญ...เดือดร้อนอะไรกับนิยายเรื่องนี้นักหนา”

“ขวัญจะเอามาดู เรื่องจริงของรอยอดีตไม่ได้เป็นอย่างนี้” ลูกปลาเสียงเข้มว่าจริงไม่จริงไม่เกี่ยวกับเรา เขาเขียนมายังไงก็เล่นไปอย่างนั้นสิ “ไม่...เล่นไม่ได้ เข้าใจไหม มันไม่จริง เล่นไม่ได้”

ลูกปลาปรามขวัญอุมาเสียงดังจนคนรอบข้าง

หันมองจึงดึงแขนขวัญอุมาออกไปอย่างเร็ว แต่ธีรัชตามมาติดๆได้ยินเสียงคนซุบซิบกันว่า “ขวัญอุมารึเปล่า ขวัญอุมา จันทรารักษ์น่ะ เมื้อนเหมือน...”

“รอยอดีต...ของปราน” ธีรัชพึมพำ นึกถึงตอนที่ถูกลูกปลาล็อกตัวจนหน้าเกือบชนกัน...พลันก็เหมือน

มีมนต์ขลังบันดาลให้กาลเวลาในอดีตหวนคืนมาในจิตใต้สำนึก...

ooooooo

ที่บ้านวิยาดาแม่ของธีรัชที่ศรีราชา วิยาดากำลังวาดรูปประกอบละครอยู่ที่บ้าน ธีรัชหิ้วขนมข้าวต้มกลับมาบอกแม่ว่าซื้อของมาฝากแม่เยอะเลย วิยาดาจึงเอาไปจัดใส่จานเพราะสุดใจกับแป้นไปตลาด

ขณะแม่เข้าครัวไปนั่นเอง ธีรัชเดินไปดูรูปที่แม่วาดบนขาตั้ง เขาถึงกับตะลึงอึ้งเหมือนต้องมนต์เมื่อเห็นรูปที่แม่วาดนั้นคือขวัญอุมาแต่งชุดย้อนยุคสำหรับละครรอยอดีต เมื่อแม่กลับมาเขาถามว่ารูปใครหรือ

วิยาดาบอกว่านางเอกละคร แม่รับวาดรูปประกอบละครเรื่องรอยอดีต พอดีรู้จักกับผู้กำกับคเชนทร์เลยช่วยเขาหน่อย ธีรัชได้ยินชื่อละครรอยอดีต ก็ถามแม่ว่าเรื่องเป็นยังไงแม่มีหนังสือไหม

“มีสิ แม่อ่านก่อนวาดรูป มันเป็นเรื่องชิงรัก

หักสวาทสมัยก่อนจ้ะ ช่วงก่อนเปลี่ยนแปลงการปกครอง ยุคนั้นแถวนี้ยังเป็นป่ากับทะเลอยู่เลย” ธีรัชจึงขออ่าน วิยาดาแปลกใจที่ลูกจะอ่านนวนิยายบอกว่า “ผู้เขียนบอกว่ามันเป็นเรื่องจริงนะ”

ธีรัชขออ่านหนังสือ แม่ถามว่าเรื่องรอยอดีต

นี่น่ะหรือ

“ครับ...รอยอดีต”

เย็นนี้ธีรัชจึงได้อ่านหนังสือ “รอยอดีต” เขานั่งอ่านหนังสือที่เก้าอี้ริมหน้าต่างเหมือนหลงเข้าไปในหนังสือ จนลมพัดแรงวูบเข้ามาที่หน้าต่างก็ไม่รู้สึกตัว

ภาพจากหนังสือปรากฏขึ้นในความนึกคิดของธีรัช...

ที่ตึกเย็นรมย์ฤดี...ปพน ปฐมา และวรดา พ่อแม่และน้องสาวของปภาคินที่โตเป็นสาวแล้วยืนรอรับปภาคินที่กลับจากไปเรียนที่อังกฤษตั้งแต่วรดาอายุเพียง 4-5 ขวบ เขากลับมาพร้อมกับข่าวดีว่าโรงพยาบาลยินดีรับเขาเข้าเป็นหมอ แต่พ่อกับแม่อยากให้เขาพักให้สบายให้พ่อแม่และน้องได้ชื่นใจก่อน

วรดาชวนพี่ชายไปดูห้องที่แม่จัดเตรียมไว้ให้อย่างดี สิ่งแรกที่เขาถามคือมีตู้หนังสือหรือเปล่า เพราะตนเอาหนังสือตำราและหนังสืออ่านเล่นมาด้วย เป็นของเก่าที่หาไม่ได้ในบ้านเมืองเราอีกแล้ว

พอขึ้นไปเห็นห้อง ปภาคินชมว่าสวยมาก วรดาอวดพี่ชายว่าพอแม่รับเมลว่าพี่ใหญ่จะเดินทางกลับบ้านแม่ก็จัดเตรียมห้องใหญ่เลย เพิ่งเสร็จเรียบร้อยเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง

วรดาบอกพี่ชายว่าตนอยากเป็นผู้ชายเหมือน

พี่ใหญ่อยากไปเรียนเมืองนอกบ้าง แต่แม่บอกว่าไม่ต้องไป

เป็นลูกผู้หญิงเรียนเท่านี้ก็มากแล้ว ปภาคินถามว่า

เรียนชั้นไหนแล้ว วรดาบอกว่าชั้น 7 จะขึ้นชั้น 8 แล้ว แล้วก็จะต้องเลิกเรียน

ปภาคินบอกว่าเรียนมหาวิทยาลัยก็ได้ ไปเรียนในพระนคร วรดาบอกงอนๆว่า

“แม่ไม่ให้ไปหรอก”

“ไม่ต้องเรียนหรอก ลูกผู้หญิงประเดี๋ยวก็แต่งงานมีลูกมีผัวแล้วจะเรียนไปทำไม พวกครูที่โรงเรียนยังจบแค่ชั้น 8 เอง”

วรดาบุ้ยใบ้กับพี่ชายเชิงฟ้องว่าเห็นไหม...เห็นไหม...

ooooooo

ปภาคินขับรถมาส่งวรดาที่โรงเรียน พอวรดาลงจากรถก็เจอฉัตรชนกกับธนากรเข็นรถจักรยานตามกันออกมาหน้าโรงเรียน ฉัตรชนกมองวรดาอย่างแปลกใจถามว่าทำไมมาเอาเวลานี้

“ครูขา พี่ชายของหนูเพิ่งกลับมาจากอังกฤษค่ะ” วรดาผายมือไปยังปภาคิน ฉัตรชนกยกมือไหว้ ถาม

วรดาว่ากลับมาถึงวันนี้หรือ “กลับมาตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วค่ะ แต่เมื่อเช้าพี่เอาของฝากมาแจกเลยตื่นเต้น กว่าจะกินข้าวเช้ากันเสร็จ สายเลยค่ะ”

วรดายกมือบ๊ายบายปภาคินที่กำลังเดินไปที่รถ หันมาไหว้ฉัตรชนกแล้วเดินเข้าโรงเรียน ธนาบอกฉัตรชนกว่าไม่ยักรู้ว่าวรดามีพี่ชาย ฉัตรชนกบอกว่าไปเรียนที่อังกฤษตั้งแต่ยังเล็กเห็นว่าเรียนหมอ คุณพ่อ

คุณแม่คงดีใจ เห่อน่าดู ธนาถามว่าเหมือนกับน้านวลดีใจตอนฉัตรกลับมาศรีราชาใช่ไหม

“แน่ล่ะสิ...ลูกห่างไปเรียนเป็นสิบปี กลับมาพ่อแม่ก็ต้องดีใจ”

ธนาเร่งให้รีบไปไปรษณีย์กันเถอะเดี๋ยวจะกลับไม่ทัน ขากลับยังต้องเอาหนังสือกลับมาด้วยไม่รู้ว่าจะขนมาได้หมดไหมเพราะเรามีแค่จักรยานไม่ใช่รถยนต์ แล้วทั้งสองก็ขี่จักรยานออกไปด้วยกัน

ที่หน้าโรงเรียน กนกแขในชุดนักเรียนโผล่มองตามฉัตรชนกกับธนาที่ขี่จักรยานไปด้วยกันอย่างหมั่นไส้

กนกแขไปยืนคอยวรดาที่ทางเดินเข้าห้องน้ำ

ยิ้มให้วรดาถามว่าครูฉัตรเขารักกับครูธนาหรือ วรดา

บอกว่าตนไม่ทราบแต่ทั้งสองเช่าบ้านอยู่ใกล้กัน

“เรียนมาด้วยกัน ตามมาสอนด้วยกัน แล้วยังไปไหนต่อไหนด้วยกันตลอด”

“ถ้าเขารักกันก็ไม่ผิดปกติอะไรนะคะ ครูฉัตรเป็นคนดี ครูธนาก็เป็นคนดี แต่ถ้าครูเขาจะรักใคร่ชอบพอ

อะไรกัน เราเป็นนักเรียนก็ไม่น่าจะไปวิจารณ์อะไรหรอกค่ะ”

“คนเป็นครูมันสูงเกินคนอื่นไปหมด” กนกแขไม่พอใจ วรดาติงว่าทั้งพ่อแม่ทั้งที่โรงเรียนสอนให้เราเคารพครู แล้วขอตัวไปเพราะยังจดงานไม่เสร็จ กนกแข

มองตามพึมพำอย่างไม่พอใจ...

“ฉัตร เธอเป็นเพื่อนฉันไม่ใช่เหรอ จะมาเป็นครูให้ฉันต้องกราบกรานเชียวเหรอ มากไปแล้วนะฉัตร”

ตกเย็นเลิกเรียนแล้ว กนกแขถือกระเป๋าออกมายืนหน้าโรงเรียนรอรถมารับ ธนาออกมาซื้ออาหารสำหรับมื้อเย็น ถามว่าทำไมไม่คอยในโรงเรียน กนกแข

ย้อนถามว่าแล้วครูยังไม่กลับหรือ พอธนาบอกว่าหาข้าวมื้อเย็นกินก่อน กนกแขก็ทำเสียงแปลกใจว่า

“อ้าว...ครูธนาไม่กินข้าวเย็นกับฉัตรหรือคะ” พอธนาบอกว่าไม่ ก็เปรยว่า “คนรักกันเขาไม่กินข้าวด้วยกันหรือคะ” ถูกธนาดุว่าเป็นเด็กเป็นเล็กทำไมถึงพูดอย่างนี้ ก็ทำเป็นก้มหน้าแต่ช้อนสายตาขึ้นบอกว่า “แขไม่ใช่เด็กค่ะ แขเป็นเพื่อนกับฉัตร เรียนด้วยกันมาตั้งแต่เล็ก แต่ฉัตรเขาไปเรียนในกรุงเทพฯแล้วสอบเทียบชั้นเลยจบชั้น 8 ก่อน”

ธนาเห็นกนกแขถือเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ เลยบอกว่าต่อไปครูจะไม่ว่าแขเป็นเด็กอีกแล้ว กนกแขยิ้มหวานขอบคุณที่ครูให้เกียรติตน แต่พอธนาจะไปกนกแขบอกว่าบ้านตนกับข้าวอร่อยทุกอย่างวันหลังจะเอามาฝากครู พอเห็นธนาอึกอักก็พูดให้สบายใจว่า

“แขเคยเอาข้าวไปให้ฉัตรเขาบ่อยๆ สมัยก่อนเขาลำบากมากไม่มีกิน ครูเช่าบ้านอยู่แถวนั้นเหมือนกันไม่ใช่หรือคะ ไว้แขเอาไปเยี่ยมฉัตรแล้วเลยไปเยี่ยมครูด้วยค่ะ นั่นรถมาแล้ว แขไปนะคะ”

กนกแขไหว้ธนาแล้ววิ่งไปขึ้นรถ ธนามองตามอย่างแปลกใจท่าทีของเธอ

เมื่อเจอฉัตรชนกที่ทางเข้าบ้านเช่า ธนาถามว่าเขาเป็นเพื่อนกับกนกแขลูกสาวพระยาสารประดิษฐ์หรือฉัตรชนกจึงเล่าให้ฟังบอกว่าดีใจที่เขายังจำได้ ตั้งแต่ตนมาเป็นครูที่นี่ยังไม่ได้คุยกันอย่างเพื่อนเลย ดูเขาเลี่ยงๆ ไม่อยากคุยกับตนด้วยซ้ำ ธนาบอกว่าอีกหน่อยก็คงกลับมาสนิทกันเหมือนเดิม เพราะกนกแขบอกตนอย่างนั้น

ฉัตรชนกแปลกใจ แต่ธนายกมือบ๊ายบายแล้ว

ขี่จักรยานไปแล้ว

ooooooo

ฝ่ายขวัญอุมาวันนี้มีการนัดซ้อมอ่านบทรอยอดีตบ่ายโมง แต่เกือบเที่ยงแล้วขวัญอุมายังนอนฝันถึง

ฉายฉานกับอรนภาอยู่ บ่นกับลูกปลาที่มาทุบประตูเรียกว่า สงสัยเพราะเล่นละครเรื่องเดียวกันเลยฝันร้าย

ขวัญอุมายังฝันเห็นผู้ชายที่เจอกันที่ร้านหนังสือเมื่อวานด้วย บ่นว่าเข้ามาด้วยได้ไง ลูกปลาชมว่าหน้าตาเขาใช้ได้แต่ไม่รู้เป็นพวกฉวยโอกาสหรือเปล่า เตือนว่า

“ฉันว่าเขาต้องพยายามหาทางเข้ามาใกล้ชิดเธอนะ แต่ถ้าเธอฝันถึงเขา ก็น่าจะเป็นเอามาก”

“บ้าน่ะสิ ใครก็ไม่รู้จัก คนที่ฉันฝันถึงไม่ใช่นายคนนี้หรอก แค่คนหน้าเหมือนน่ะเข้าใจไหม” แล้วถามว่าลูกปลาเข้าบ้านมาได้ไง ลูกปลาบอกว่าตนมีกุญแจรั้วแต่ประตูห้องเธอไม่ได้ล็อก บ่นว่าอันตรายมากรู้ไหม ยิ่งอยู่คนเดียวด้วย สงสัยจะต้องตามมากำกับเธอที่นี่เสียแล้ว

ที่ห้องซ้อมบริษัทคุณจี๊ด ปกป้อง คเชนทร์ อรนภา ดาวรายและตวงมากันพร้อมแล้ว อรนภาบอกว่ายังขาดแต่ตัวโฉมเฉลาคนเดียว ถามว่าขวัญเขาอยากเล่นละครเรื่องนี้หรือเปล่า คเชนทร์บอกว่าอยากไม่อยากก็รับเล่นแล้ว อรนภายักไหล่เบ้ปากยุแหย่ว่า

“นัดบ่ายโมง นี่บ่ายสองครึ่งแล้ว คนอยากเล่นละครเขาทำอย่างนี้กันหรือคะพี่คเชนทร์”

คเชนทร์บอกว่าเขาก็ต้องปรับตัวแต่ปกติขวัญ

ไม่ใช่คนเหลวไหล ลูกปลาก็ช่วยดูแลเด็กของเขาดี อรนภา

แย้งว่ารางวัลเขายังไม่รับเลย บทที่แก้ไม่ได้ดั่งใจเขาอาจจะไม่อยากเล่นก็ได้ คเชนทร์ถามว่าเขาจะแก้เป็นอะไร

ปกป้องบอกว่าแก้ให้ตัวเขาเป็นนางเอกไง เขาอยากเป็นนางเอกที่ได้กับพระเอกในตอนจบ

พอดีตวงที่โทร.ตามขวัญอุมามาเข้ามาบอกว่าโทร.ไม่ติด พูดไม่ทันขาดคำประตูก็เปิดผลัวะ ลูกปลาจูงขวัญอุมาเข้ามา รีบขอโทษทุกคนที่มาช้าเพราะขวัญไม่ค่อยสบายแต่ตอนนี้โอเคแล้วอ่านบทได้เลย

อรนภากับปกป้องบอกว่าตนทั้งสองไม่มีปัญหาเพราะมืออาชีพอยู่แล้ว ถามขวัญอุมาว่าเราจะเริ่มกัน

ได้หรือยัง นี่เขาซ้อมกันไปเยอะแล้ว พูดเอาใจขวัญอุมาว่า “ละครเรื่องนี้สนุกจริงๆ ใครๆก็ต้องติดใจนางร้าย

ยอดฝีมืออย่างขวัญอุมาลงมาเล่น รับรองจะจี๊ดจ๊าดแซ่บยิ่งกว่าเดิม”

“แน่ใจนะคะว่ามันจะเป็นอย่างนั้น” ขวัญอุมาถามอย่างจะต่อเป็นเรื่องยาว คเชนทร์เลยรีบตัดบทว่า

“เอ้าๆ อย่ามัวคุย อ่านๆๆ”

ลูกปลารีบเอาบทใส่มือขวัญอุมาแล้วถอยออกไปนอกห้อง ทุกคนจึงเตรียมอ่านงานของตน

ooooooo

ธีรัชได้หนังสือรอยอดีตจากแม่แล้วก็อ่านราวกับต้องมนต์จนไม่กินไม่นอน พอวิยาดารู้ก็แปลกใจที่ปกติลูกไม่เคยชอบหนังสือนิยายแต่คราวนี้อ่านจนลืมกินลืมนอน ถามหยั่งว่านางเอกเรื่องนี้สวยไหม

ธีรัชตอบเหมือนไม่สนใจว่าก็หน้าตาดี แม่ถามอีกว่าเคยเห็นตัวจริงไหม พูดดักว่า

“หวังว่าลูกแม่คงไม่ได้เป็นวิหยาสะกำหลงรูปนางบุษบานะ”

ธีรัชถามว่าจากเรื่องอะไร แม่บอกว่าอิเหนา วรรณกรรมประจำชาติ ทำเสียงตกใจที่ธีรัชไม่รู้จักเรื่องนี้ เขาบอกแม่ว่าต่างกันตรงไหนหรือ เป็นเรื่องแต่งขึ้นทั้งเพ แม่บอกว่าบางเรื่องก็มาจากเรื่องจริง

“ผมอยากรู้จริงๆ ว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไง”

“พูดถึงเรื่องอิเหนาหรือรอยอดีต”

“รอยอดีตสิครับแม่ มันใกล้ตัวเราจริงๆเลย”

ธีรัชพูดจริงจังจนวิยาดายิ่งงง

ooooooo

ฝ่ายพวกที่นัดซ้อมละครกัน กำลังเตรียมจะเริ่มซ้อมตามบทของตัวเอง แต้วแร้วก็นั่งเล่นมือถือห่างออกไป แต่แล้วจู่ๆก็ทำเสียงตกอกตกใจร้องว่า ได้เวลาที่คุณเอ้ต้องทานยาแล้ว

แต้วแร้วหาเหตุถือโทรศัพท์ลุกเดินออกไปอ่านข้างนอก ลูกปลาจับตามองอย่างสงสัยจึงลุกตามไป

ขณะที่ในห้องซ้อมกำลังซ้อมบทกัน แต้วแร้วก็เข้ามากระซิบอรนภาว่าอีเวนต์คอนเฟิร์มด่วนมาว่าบ่ายนี้คุณเอ้ต้องไป ถามว่าจะเอายังไงดี อรนภาถามเขาให้ค่าตัวเท่าไหร่ พอแต้วแร้วยกนิ้วทำโอเค อรนภาบอกทันที

“งั้นไป”

แต้วแร้ววางแผนให้อรนภาทำเป็นปวดท้องต้องขอกลับบ้านก่อน ถูกลูกปลาดักคอว่าคุณอรนภาไม่อ่านบทแล้วหรือ อรนภากับแต้วแร้วเล่นสดเข้ากันเป็นปี่

เป็นขลุ่ยว่าเพราะไม่ได้กินยาตามหมอสั่งเลยปวดท้องมาก ต้องขอกลับไปก่อนแล้วแต้วแร้วก็รีบเข้าไปเอาของ

ของอรนภาในห้องซ้อม

ลูกปลาทำท่าจะพูดอะไรอีกแต่นึกอะไรได้จึงนิ่งแล้วตามแต้วแร้วเข้าไปในห้องซ้อม บอกขวัญอุมาว่าระหว่างที่ขวัญซ้อมตนขอไปเดินเล่นที่ศูนย์การค้าก่อนเลิกแล้วให้โทร.บอกด้วย แล้วออกไปเนียนๆ

อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 1 วันที่ 24 ธ.ค.61

ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต บทประพันธ์โดย ลินิน
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต บทโทรทัศน์โดย นลินี สีตะสุวรรณ
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต กำกับการแสดงโดย สำรวย รักชาติ
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ผลิตโดย บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ควบคุมการผลิตโดย วรายุฑ มิลินทจินดา
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ