อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 3 วันที่ 27 ธ.ค.61

อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 3 วันที่ 27 ธ.ค.61

ปกป้องบอกว่าขวัญเขาไม่ค่อยแฮปปี้กับบท ฉายฉาน ที่ออกตัวว่าตนไม่รู้เพราะยังอ่านไม่ครบแต่ก็ติงว่า ที่จริงขวัญก็เล่นละครที่ไก่เขียนบทมาหลายเรื่องแล้วนี่ ตวงเสริมว่าไก่เขาก็เขียนตามนิยายนั่นแหละ

“อย่างงั้นนิยายก็เขียนไม่ถูกค่ะ” ขวัญอุมาแย้งจริงจัง มองทุกคนอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมไม่ยอมเข้าใจตนเลย

คเชนทร์พยายามคุยกับขวัญอุมาอย่างใจเย็นเพื่อให้ได้ข้อยุติจะได้ทำงานต่อไปอย่างไร้อุปสรรค คเชนทร์รับฟังเหตุผลของขวัญอุมาอย่างใจเย็น รับปากอย่างใจกว้างว่า



“ถ้าเราคุยกันด้วยเหตุผลว่าไอ้ที่มันอยู่ในบทไม่มีเหตุผลยังไง และที่ขวัญเห็นมันมีเหตุผลดีกว่ายังไง อันนี้แหละพี่ช่วยพูดกับคุณจี๊ดเอง เอาเป็นว่าถึงวันนั้นเขียนบทใหม่ไปเลยก็ได้”

ขวัญอุมาขอบคุณที่คเชนทร์ให้โอกาสตน แต่คเชนทร์ก็ขอความร่วมมือจากเธอว่าตอนนี้เรายังไม่มีหลักฐานอะไรใหม่ว่าแท้จริงแล้วเรื่องราวมันเป็นยังไง ตัวละครแต่ละตัวมันเป็นยังไง ฉะนั้น...

“พี่ขอให้ขวัญร่วมมือกับพี่ทำตามบทของยัยไก่เขาไปก่อน ไม่อย่างนั้นงานเราไม่ก้าวหน้า ทุกคนให้คิวมาแล้ว พี่ไม่อยากให้ขวัญต้องมารับผิดชอบกับเรื่องงานสะดุดหยุดไป นะขวัญนะ พี่ขอความร่วมมือ”

ขวัญอุมาขอโทษที่ทำให้มีปัญหา แต่ก็ขอบคุณพี่คเชนทร์ที่ให้โอกาสตน ขอไปดื่มกาแฟสักแก้วก่อนแล้วเดี๋ยวจะตามไปที่ห้องซ้อม

ที่ห้องซ้อม ฉายฉาน อรนภาและปกป้องกำลังวิพากษ์วิจารณ์ขวัญอุมากัน ฉายฉานว่าไม่รู้เป็นอะไร เล่นละครมาสามเรื่องแล้วไม่เห็นเป็นอะไร ส่วนอรนภาก็ผสมโรงแซะในทีว่าไม่รู้เหมือนกันเพราะไม่เคยทำงานด้วยกันเลย อาจจะเพิ่งรู้สึก ‘แปลก’ ที่เรื่องนี้ก็ได้

แต่ปกป้องเห็นว่าเป็นมาหลายครั้งแล้ว เรียกว่าตั้งแต่เริ่มอ่านบทก็ได้เห็นว่าปกติไม่ได้อ่านบทอย่างนี้ ฉายฉานว่าอาจเพราะคุณจี๊ดอยากให้อ่านบทกันก่อนเพราะเราสี่คนไม่เคยแสดงละครเรื่องเดียวกันมาก่อน

“ตอนแรกเอ้ก็คิดว่าขวัญโชคดีนะคะที่มีฉายเข้าใจ คอยแก้ต่างให้ขวัญ แต่ถึงตอนนี้เอ้คิดว่าเราโชคดีกันหมดเลยที่ละครเรื่องนี้มันเข้าใจทุกเรื่องทุกอย่างเป็นหลักในการทำงานอย่างฉายอยู่ด้วย”

อรนภาได้จังหวะชมจนฉายฉานเขิน ก็พอดี

คเชนทร์เปิดประตูเข้ามาบอกว่าขวัญดื่มกาแฟอยู่ให้เขาพักก่อน อรนภายิ้มหวานถามว่า ตกลงจะต่อหรือจะเลิก พอคเชนทร์บอกว่าต่อ ก็แซะอีกว่าแล้วจะต้องเบรกกันทุกหน้าอีกหรือเปล่า

“ไม่หรอกจ้ะ เราก็ไปเรื่อยๆกัน ให้เวลาขวัญเขาสักนิด พี่คิดว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ขวัญเป็นคนตั้งใจทำงาน เอาจริงเอาจังกับงานเสมอ”

“เหมือนขวัญเขาไม่ค่อยมั่นใจ เขาไม่มั่นใจอะไรหรือคะ พี่คเชนทร์ทราบไหม” อรนภาหาเรื่องแซะอีก

“อันนั้นพี่ไม่ได้สนใจนะจ๊ะ พี่ให้ขวัญเขามั่นใจในบทบาทของเขากับการทำงานของเรามากกว่า ให้ลูกปลาไปจัดการก่อนแล้วกัน มาทำงานต่อดีกว่า”

อรนภาผิดหวังที่คเชนทร์ไม่เออออกับตน และทุกคนก็เริ่มเปิดบทเตรียมอ่านต่อกัน

ooooooo

หนังสือรอยอดีตที่ธีรัชอ่านเกือบจบแล้วหายไปอย่างไร้ร่องรอย ถามใครก็ไม่มีใครเห็น

แต่แล้วจู่ๆวันนี้ช่วง แม่ของสุดใจก็เดินมาที่ระเบียงวาดรูปของวิยาดาท่าทางกลัวๆกล้าๆ พอมาหยุดที่หน้ารูปวาดของขวัญอุมาก็มองตะลึงเหมือนเจอคนรู้จักกันมานาน พึมพำ

“มาถึงนี่เทียวรึ”

วิยาดาเดินนำสุดใจเข้ามาพร้อมกับกระดาษ

ที่เตรียมมาห่อรูป สุดใจถามแม่ว่ามาถึงนี่ทำไม แม่ย้อนถามว่า

“เขามาถึงนี่กันตั้งแต่เมื่อไหร่?”

สุดใจบอกแม่ว่าไม่มีใครมาหรอก นี่คือรูปวาดคุณผู้หญิงจะเอาไปให้คณะละคร ช่วงถามว่ามีละครมาหรือ วิยาดาเหลือบเห็นหนังสือรอยอดีตในมือช่วง ทักว่าหนังสืออยู่ที่ช่วงนี่เอง ตารัชตามหาอยู่หลายวันแล้ว สุดใจจึงเอาหนังสือจากมือแม่บอกว่าเอาไปคืนคุณผู้หญิงก่อนแล้วแม่กลับไปห้องพร้อมตน ทีหลังอยากทำอะไรก็ไปช่วยในครัว ช่วงบอกว่า “ไม่มีสายบัว”

“ผักอะไรก็เด็ดได้ ล้างได้แม่...คุณคะ ขอพาแม่ไปก่อนนะคะ”

“จ้ะสุดใจ พาป้าช่วงไปห้องก่อน ตรงนี้เดี๋ยวฉันค่อยๆทำเอง”

สุดใจพาแม่ออกไป แต่ช่วงยังหันมองรูปวาดขวัญอุมาเหมือนสะกิดความทรงจำอะไรบางอย่าง...ฝ่ายวิยาดาก็เอาหนังสือรอยอดีตไปให้ธีรัชที่ห้อง

ธีรัชดีใจถามว่ามันหายไปไหนมา วิยาดาก็ไม่รู้ว่าป้าช่วงไปเอามาจากไหน เปรยว่าช่วงสองสามปีมานี่แกหลงๆลืมๆมากจนสุดใจต้องคอยดูกลัวจะเดินหาย

ไปไหน ธีรัชถามว่าแกไม่มีญาติที่ไหนหรือ

“ไม่มีหรอก สุดใจเป็นลูกสาวคนเดียว แต่แกอยู่กับเรามาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ แกก็เป็นเหมือนญาติเรานะยังไงก็คงต้องดูแลกันจนถึงที่สุด”

ธีรัชชมว่าแม่ใจดีเสมอ แล้วรับหนังสือไปอ่านต่อ บอกว่าอีกนิดเดียวก็จบแล้ว ตนอยากรู้ตอนจบ

ooooooo

เช้านี้ขณะกนกแขนั่งกินข้าวเช้าอยู่ กานติมา

ก็ลงมาถามว่าวันนี้ไปโรงเรียนได้แล้วหรือ กนกแข

ตอบอย่างเด็กรักเรียนว่าไม่อยากขาดเรียน ถามว่าเมื่อคืนพ่อกับแม่กลับดึกมากไหม ตนหลับเลยไม่ได้ยินเสียงรถ

ทั้งพ่อและแม่เล่าถึงงานเมื่อคืนอย่างตื่นเต้น

แม่บอกว่าได้ฟังแผ่นเสียงที่ปภาคินซื้อจากเมืองนอกกระหึ่มดีเหลือเกิน

“เห่อลูกเขยเสียจริง” พ่อหยอก

“คะ?!” กนกแขตกใจ

กานติมาหน้าชื่นขึ้นมาทันทีชมปภาคินว่าหน้าตาดี รูปร่างดี สง่าผ่าเผย สมกับลูกแม่เป็นที่สุด เมื่อคืนทุกคนบ่นเสียดายที่แขไม่ได้ไป แต่ป้าปฐมาบอกว่าจะต้องจัดใหม่อีกครั้ง คราวนี้เป็นงานใหญ่เลยเชิญทุกคนไปถือเป็นการแนะนำปภาคินให้สังคมศรีราชาได้รู้จัก พ่อพูดต่อทันทีว่า

“แต่จริงๆแล้วเป็นงานที่จัดให้เจ้าหญิงของพ่อได้พบกับคนที่คู่ควร คราวนี้ลูกขาดไม่ได้เลยนะ”

กนกแขฟังแล้วกังวลมาก กลัวถูกพ่อกับแม่จับคลุมถุงชน จึงรีบไปหาฉัตรชนกขอให้ช่วยตนด้วย ถามว่าฉัตรชนกยังรักธนาอยู่หรือเปล่า และฉัตรเห็น

เรื่องความรักเป็นอย่างไร

“ถ้าเรารักใครจริงๆสักคน เราคงจะถอนใจจากเขายากมาก มันคงจะเป็นความเจ็บปวดที่ทิ่มแทงหัวใจเราจนตราบชีวิตหาไม่”

ฟังฉัตรชนกแล้ว กนกแขบอกว่าตนรักธนา รักมากอย่างที่จะรักใครไม่ได้แล้ว ฉัตรชนกข่มความเจ็บปวดของตัวเอง เตือนสติกนกแขว่า

ทั้งแขและธนามีอนาคตของตัวเอง อย่าเพิ่งเอาความรักมาเป็นเครื่องผูกอนาคต ถ้าจำเป็นที่จะต้องไปพบกับคุณปภาคินจริงๆ เธอก็ควรไปพบกับเขาก่อน ถ้าทนเขาไม่ได้ค่อยอธิบายให้คุณแม่ฟัง

กนกแขถามฉัตรชนกว่าตนจะยกปภาคินให้

เอาไหม ฉัตรชนกตกใจบอกว่าเธอจะเที่ยวยกใครต่อใครให้ใครไม่ได้หรอก แขเองก็รู้ไม่ใช่หรือว่าความรักบังคับไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นบังคับให้รักหรือบังคับให้เลิกรัก

นวลอนงค์ไปเก็บผักกลับมาพอดีถามว่าแข

ไม่ไปโรงเรียนหรือ กนกแขบอกว่ากำลังจะไป ชวน

ฉัตรชนกไปด้วยกัน แต่ฉัตรชนกจะช่วยแม่จัดผักก่อน พอกนกแขไป นวลอนงค์กอดฉัตรชนกเตือนว่า เรื่องรักน่ะอย่าไปวุ่นวายกับมันมากนัก รักษาใจของเราไว้ให้ดี

ถ้ามีความสุขก็แล้วไป แต่ถ้าเจ็บเราจะรู้ว่านรกบนโลกนี้มีอยู่จริง

“จ้ะแม่ ฉัตรกลัวนรกมากเลย ฉัตรจะไม่ยอมให้ตัวเองเจ็บปวดเพราะความรักเป็นอันขาด”

นวลอนงค์ตบแก้มฉัตรชนกเบาๆด้วยความรักยิ่ง

ooooooo

ฝ่ายขวัญอุมายอมโอนอ่อนอ่านบทตามที่

คเชนทร์ชี้แจงและขอร้อง แต่พอวันต่อมาเธอก็เก็บกระเป๋าเตรียมเดินทาง ลูกปลาถามว่าจะไปไหน

ขวัญอุมาบอกว่าไปบ้านคนเขียนนิยายเพราะ

พี่คเชนทร์บอกว่าถ้าตนหาหลักฐานใหม่ได้เขาจะยอมเปลี่ยนบท ตนจึงต้องไปหาต้นตอที่ลพบุรี ที่เตรียมกระเป๋าไปเพราะ “ต้องไปให้ได้เรื่อง” ถ้าลูกปลาไม่ไปด้วยตนไปคนเดียวก็ได้ ทีแรกลูกปลาบ่น แต่พอขวัญอุมา

บอกว่าถ้าลูกปลาไปด้วยงานนี้เพิ่มเป็น 35 เปอร์เซ็นต์ลูกปลาก็ไปด้วยทันที

ทั้งสองไปถึงบ้านผู้เขียนหนังสือตามที่อยู่ที่ให้ไว้แต่บ้านเงียบจนน่ากลัว ครู่หนึ่งภารนีในชุดขาวโผล่มาถามว่ามาหาใครหรือ ลูกปลาบอกว่ามาหาผู้เขียนเรื่องรอยอดีต คุณปรานอยู่ไหม ภารนีจำขวัญอุมาได้จึงเชิญเข้าไปคุยกันในบ้าน

ภารนีเชิญทั้งสองไปนั่งคุยกันที่ระเบียง บอกว่าดีใจที่ขวัญอุมาผู้แสดงเรื่องรอยอดีตของคุณพ่อมาเยี่ยมทั้งสองจึงรู้ว่าปรานเป็นนามปากกาของคุณพ่อคุณภารนี ชื่อจริงท่านคือภิรมย์ ท่านเป็นนักเขียนเรื่องสั้นหลายเรื่อง

แต่เรื่องยาวมีเรื่องรอยอดีตเรื่องเดียว

ขวัญอุมาถามว่ามีหนังสือรอยอดีตอยู่ไหม รบกวนขอยืมอ่านหน่อยเพราะหนังสือหมดกำลังพิมพ์อยู่ ภารนีบอกว่าต้องหาเพราะเดี๋ยวนี้ก็ไม่ค่อยได้อ่านหนังสือกันแล้วอ่านสื่ออื่นมากกว่า ห้องหนังสือมีแต่ฝุ่นตนแพ้ฝุ่นด้วย

พอดีเนื้อเย็นแม่ของภารนีกลับมา บอกว่าเรื่องละครอะไรนี่ตนไม่รู้และขอตัวไปหาอะไรมาเลี้ยง

ลูกปลาถามภารนีว่าที่ว่าเรื่องนี้เขียนจากเรื่องจริงใช่ไหม ภารนีบอกว่าน่าจะจริง พ่อเคยบอกว่าเขียนจากบันทึกของคุณลุง เป็นชีวิตของคุณลุงซึ่งตนก็ไม่เคยพบท่านและคุณพ่อก็เสียไปหลายปีแล้ว

“อ้าว...แล้วใครจะรู้ความจริงเรื่องนี้ล่ะ” ขวัญอุมาถาม พอภารนีบอกว่าตนคิดว่ามันเป็นเพียงนิยาย ขวัญอุมาถามว่า “เอ่อ...ไม่ทราบว่าบันทึกของคุณลุงยังอยู่ไหมคะ”

ทั้งขวัญอุมาและลูกปลาช่วยกันพูดว่าเรื่องนี้

สนุกมาก เลยอยากเก็บข้อมูลของละครให้มากที่สุด

เพื่อเข้าถึงตัวละครได้มากขึ้น ภารนีจึงขอให้ขวัญอุมา

ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ ตนหาพบเมื่อไหร่จะโทร.ไปบอก ลูกปลารีบลุกขึ้นยื่นนามบัตรของตัวเองให้บอกว่า

คุณภารนีโทร.ได้ตลอดเวลาเลย

เมื่อออกมานั่งดื่มกาแฟกันที่ร้านอาหารหน้ารีสอร์ตกลางทาง ลูกปลาบ่นว่าเหนื่อยใจในที่สุดก็ไม่ได้เรื่อง

“ไม่รู้สิ ยังไม่ได้เรื่องตอนนี้ แต่ฉันไม่ยอมแพ้นะ ต้องหาหลักฐานมายืนยันกับพี่คเชนทร์ให้ได้ว่านิยายไม่ถูกต้อง” ลูกปลาตกใจถามว่าจะเปลี่ยนเรื่องให้ได้จริงๆหรือ

ขวัญอุมายืนยันว่าตนไม่ได้ต้องการเปลี่ยนเรื่องแต่ตนต้องการความจริง และพี่คเชนทร์ก็รับปากว่า

ถ้าตนหาความจริงมาได้เขายินดีเปลี่ยนบท บอกลูกปลาอย่างมุ่งมั่นว่า

“ยังไงเราก็ต้องตามเรื่องนี้ต่อ ฉันอยากเห็นบันทึกนั่นจริงๆ”

ooooooo

ธีรัชจะกลับกรุงเทพฯแล้ว วิยาดาจึงฝากรูปขวัญอุมากับอรนภาที่วาดให้เอาไปใส่กรอบและให้ช่างเอารูปไปส่งด้วยเพราะละครกำลังจะเปิดกล้องแล้ว

ฝ่ายกนกแข พอกลับจากโรงเรียนถึงบ้านก็ถูกแม่บอกให้ไปวัดตัวเพื่อจะได้สั่งเสื้อจากพระนครไปงานวันเกิดปภาคินพร้อมงานเลี้ยงฉลองการกลับมาเมืองไทยด้วย กานติมาบอกว่างานนี้เป็นงานใหญ่ ป้าปฐมาบอกว่าจะเชิญหลายคน พวกหมอ พวกทำไม้และ

พวกครูโรงเรียนด้วย

กนกแขถามทันทีว่าจะเชิญฉัตรชนกด้วยหรือ เพราะวรดาเป็นศิษย์โปรดของฉัตร กานติมาบอกว่า

ไม่เฉพาะครูฉัตรเท่านั้นหรอก เห็นว่าแขกมาหลาย

สิบคน เพราะอย่างนั้นลูกแม่ต้องสวยที่สุดในงาน

“ค่ะ...แม่ ลูกจะต้องสวยที่สุดในงาน แต่ว่าลูกไม่รับรองว่าลูกจะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับลูกชายป้าปฐมานะคะ” กนกแขเชิดหน้าอย่างยโส กานติมาได้แต่มองอย่างอ่อนใจ

บ่ายนี้วรดาเห็นพี่ชายนั่งดื่มชาก่อนกินอาหารค่ำก็ทักว่ายังดื่มชาอยู่อีกหรือ ตนเห็นพวกฝรั่งที่ห้างทำไม้ก็ดื่มกันอย่างนี้ ที่เห็นเพราะแม่ของครูฉัตรทำอาหารให้พวกนายห้างฝรั่งอยู่ ปภาคินได้ยินชื่อฉัตรก็รู้สึกคุ้นหู

วรดาบอกว่าครูฉัตรเป็นครูประจำชั้นของตน จบชั้น 8 จากกรุงเทพฯเป็นคนดีที่สุด สวยด้วย บอกว่างานวันเกิดพี่ใหญ่ตนเชิญครูฉัตรมาด้วย อวดว่าครูฉัตรสอนตนและยัยแขลูกพระยาสารประดิษฐ์เต้นรำด้วย

“งั้นดีเลย พี่จะจัดงานเต้นรำด้วย”

วรดายังบอกว่าแม่หมายตากนกแขไว้ให้พี่ใหญ่ด้วย ปภาคินปรามขำๆว่าพูดเลอะเทอะ เที่ยวจับคู่ให้เขาได้ไง ผู้หญิงสมัยนี้มีการศึกษา เขาคงอยากจะเลือกผู้ชายที่เขารักมากกว่าผู้ชายที่พ่อแม่จัดให้ วรดาบอกว่าตนอยากรู้เหมือนกันว่าเรื่องนี้จะลงเอยยังไง เพราะเขาตอบรับกันแล้วว่าจะมากันทั้งครอบครัว

วรดานัดฉัตรชนกไปรู้จักกับปภาคิน ทันทีที่เห็นฉัตรชนก ปภาคินก็รู้สึกถูกชะตามาก

ฝ่ายนวลอนงค์เมื่อรู้ว่าลูกจะไปงานธรรมเนียมฝรั่งก็ถามเรื่องเสื้อผ้า ฉัตรชนกบอกว่าตนมีแล้ว คือชุดที่ใส่กลับจากพระนครตอนเรียนจบ แม่บอกว่าเดี๋ยวจะแปลงให้ ฉัตรชนกว่าแม่ทำงานเหนื่อยแล้วตนไม่รบกวนดีกว่า จะใส่เท่าที่มีไป แม่บอกว่าไม่ได้ ไปงานทั้งที ถึงเราจะไม่แข่งกับใครแต่ก็อย่าให้ใครมาเหยียดหยามเราได้

ooooooo

คืนวันงาน กานติมา พระยาสารประดิษฐ์ และกนกแขมางาน ปภาคินไปต้อนรับแต่เขาไม่ทันเห็นกนกแขเพราะเธอแอบๆอยู่หลังพ่อแม่ แต่พอกนกแขเห็นปภาคินก็ตะลึงเหมือนต้องมนตร์

เมื่อปภาคินพาเข้าไปในห้องรับแขกแล้วก็ขอตัวไปรับแขกอื่น กานติมากับพระยาสารประดิษฐ์มองหน้ากนกแขเหมือนจะบอกให้ตามไป แต่กนกแขวิ่งตามปภาคินไปแล้ว ทั้งสองยิ้มให้กันมั่นใจว่างานนี้สำเร็จแน่

เมื่อฉัตรชนก ธนากับพวกครูมาถึง วรดาออกไปต้อนรับ ปภาคินเดินมาเอ่ยต้อนรับครูทุกคน พอสบตาฉัตรชนก แววตาปภาคินก็เป็นประกายหวานทันที

“แฮปปี้เบิร์ธเดย์ค่ะคุณใหญ่” ฉัตรชนกเอ่ย ปภาคินนิ่งงันเหมือนเสียงนั้นก้องกังวานไปทั้งหัวใจ

ooooooo

ที่สถานีโทรทัศน์กำลังจัดเตรียมงานพิธีบวงสรวงกันอยู่ ธีรัชเอารูปที่ใส่กรอบแล้วไปให้ด้วยตัวเอง

ขวัญอุมากับเพื่อนๆก็ยังซ้อมบทกันอยู่ ขวัญอุมาแกล้งทำท่าจะบีบคอหลอกเพื่อนๆจนวิ่งหนีกันกระจาย ขวัญอุมาวิ่งตามมาเลยชนเข้ากับธีรัชอย่างจังจนรูปตกกรอบแตกรูปเสียหายและธีรัชได้รับบาดเจ็บที่มือ ขวัญอุมาหายามาทำแผลให้ ก็พอดีตวงเข้ามาตามบอกว่า

พี่เชนทร์เรียกไปทำพิธีแล้ว ลูกปลาจึงดูแลธีรัชแทน

ขวัญอุมาและธีรัชต่างจำกันได้ว่าเคยเจอและ

มีเรื่องกันที่ร้านหนังสือ ขวัญอุมามองอย่างขอโทษก่อนที่จะออกไปทำพิธีบวงสรวงบอกว่าหวังว่าเราคงได้พบกันอีก

เมื่อรูปได้รับความเสียหาย คเชนทร์จึงส่งไปให้วิยาดาซ่อมเป็นการด่วน...

ที่บ้านปภาคิน งานคลาคล่ำไปด้วยแขกจาก

ส่วนต่างๆ ปภาคินต้อนรับแขกกลุ่มแล้วกลุ่มเล่าโดยมี

กนกแขตามติดแจ ปภาคินบอกวรดาให้พาเพื่อนไปนั่งกนกแขก็ไม่ยอมไปบอกว่าจะอยู่เป็นเพื่อนพี่ใหญ่

ธนาเห็นกนกแขตามปภาคินแจก็สงสัยเดินเข้าไปข้างหลังถามว่า “แขสนิทสนมกับคุณปภาคินเร็วจังนะ” กนกแขบอกว่าก็พ่อแม่เราเป็นเพื่อนกัน ธนาถามว่าแขจะทำตามที่พ่อแม่วางอนาคตไว้ให้ใช่ไหม

“ครูคะ...ครูไปนั่งกับวรดาเถอะค่ะ แขต้องขึ้นไปหาคุณพ่อคุณแม่ก่อน” กนกแขตัดบทอย่างไม่ไยดี

แขกที่มาในงานต่างพูดกันว่าใครได้ครองหัวใจปภาคินคงเป็นผู้หญิงที่โชคดีแน่ๆ จับตาดูว่าใครจะเต้นรำเปิดฟลอร์กันตามธรรมเนียมฝรั่ง แต่พอเปิดฟลอร์ ปภาคินก็ไปขอฉัตรชนกเต้นรำด้วย ธนาจึงไปชวนกนกแข

ถูกปฏิเสธทันทีว่าเหนื่อย อยากพัก วรดาจึงไปเต้นกับธนาแทน

ooooooo

เมื่อปภาคินเปิดฟลอร์กับฉัตรชนก จึงมีเสียงถามกันว่าเธอเป็นใคร โดยเฉพาะปพน ปฐมาตอบเสียงเครียด

ว่าลูกแม่บ้านที่บริษัทและแม่ค้าขายผัก ปพนพูดอย่างไม่พอใจว่า “งั้นเหรอ” ปฐมาย้ำเสียงเครียดว่า

“สำหรับตาใหญ่ ต้องหนูกนกแขเท่านั้นค่ะ”

ไม่เพียงเต้นรำกันอย่างหวานชื่น เมื่อจบเพลงแล้วปภาคินยังก้มจูบหน้าผากฉัตรชนกด้วย

ส่วนที่บ้านของปรานที่กำลังจัดฉากละครรอยอดีตอยู่เป็นฉากโฉมเฉลากำลังเต้นรำอยู่กับปกป้องที่เล่นเป็น

ปราน อรนภาในบทพิมพ์แขเต้นกับฉายฉานอยู่ ดาวรายที่ดูจอมอนิเตอร์อุทานทึ่งว่า

 “โห พี่เชนทร์ ไม่ยักรู้ว่าขวัญอุมาเต้นรำเก่งขนาดนี้ เหมือนเจ้าหญิงเลย” คเชนทร์ชมว่าสวยสง่ามาก “แต่ลูกแม่ค้าขายผักทำไมเต้นรำเก่งล่ะพี่ ไม่ผิดบทหรือ”

คเชนทร์บอกว่าไม่รู้ล่ะ แต่ตนซื้อ จะบอกคุณจี๊ดว่าเรื่องหน้าพีเรียด เต้นรำกระจายต้องเอายัยขวัญมาเล่น พอเพลงจบ คเชนทร์ปรบมือชมว่า “สวยงาม ทั้งภาพ ทั้งแสง ทั้งเสียง นักแสดงยอดเยี่ยม เป็นการเปิดฉากกล้องที่ประสบความสำเร็จจริงๆ รอเช็กสัญญาณภาพและเสียงก่อนแป๊บนะจ๊ะ”

แต่ปรากฏว่าพอเต้นรำจบขวัญอุมาก็โงนเงน

ซบกับปกป้อง ปกป้องตกใจ ฉายฉานคาดว่าคงเป็นลม

บอกให้พามานั่งก่อน

เมื่อขวัญอุมารู้สึกตัวก็งงว่าตนเป็นอะไร ลูกปลากับตวงจะพาไปโรงพยาบาล ขวัญอุมาบอกว่าตนไม่ได้เป็นอะไร งงๆไปนิดเดียว ถามว่า

“ขวัญทำอะไรผิดหรือเปล่าคะ” ลูกปลาบอกว่าไม่ คเชนทร์ปลื้มมากชมว่าขวัญเต้นรำสวยมากจริงๆ “ขวัญน่ะเหรอคะ...เต้นรำได้สวยอย่างนั้นเชียว สวยเหมือนใคร เหมือนโฉมเฉลาหรือฉัตรชนก” ขวัญอุมายังถามงงๆ

ฉายฉานรู้สึกแปลกแต่ไม่พูดอะไร แต่ลูกปลา แต้วแร้ว ต้อยติ่ง และแอ๊ดดี้ต่างวิพากษ์วิจารณ์กันว่าบางทีเห็นขวัญอุมาตาแข็งด้วย เขาลือกันว่าเป็นเรื่องจริงไม่ใช่หรือ แต่แล้วก็พากันทำท่ารูดซิปปากว่าไม่พูดไปจะดีกว่า สมัยนี้อะไรแปลกๆมีเยอะ

อ่านละคร บ่วงนฤมิต ตอนที่ 3 วันที่ 27 ธ.ค.61

ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต บทประพันธ์โดย ลินิน
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต บทโทรทัศน์โดย นลินี สีตะสุวรรณ
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต กำกับการแสดงโดย สำรวย รักชาติ
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ผลิตโดย บริษัท ฮูแอนด์ฮู จำกัด
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ควบคุมการผลิตโดย วรายุฑ มิลินทจินดา
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น
ละครเรื่อง บ่วงนฤมิต ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ