อ่านละคร ชาติเสือพันธุ์มังกร ตอนที่ 10 วันที่ 10 ธ.ค.61

อ่านละคร ชาติเสือพันธุ์มังกร ตอนที่ 10 วันที่ 10 ธ.ค.61

ปิ่นมุกหน้าแดงก่ำ “เฮีย! นี่เฮียตามมาแอบฟัง อั๊วกับจ่าคุยกันเหรอ...ทำไมนิสัยอย่างนี้!”

ทรงวาดเบี่ยงตัวหลบกำปั้นน้อยๆของเธอ แกล้งโอด “อั๊วขอโทษ อั๊วยอมรับผิด ลื้อจะลงโทษอั๊วยังไงก็ได้...แต่อั๊วไม่รู้สึกผิดที่แอบฟังลื้อคุยกับอีเลยนะ อั๊วดีใจมากกว่าที่ได้รู้ว่าลื้อคิดยังไง”

พูดพลางสบตาหวาน ตั้งท่าจะบอกรักแต่ปิ่นมุกกลับชกท้องเขาแก้เขิน



“เฮียบอกเองนะว่าอั๊วจะลงโทษยังไงก็ได้...คนไม่มีมารยาท!”

ปิ่นมุกวิ่งหนีอายเข้าบ้านไปแล้ว ทิ้งทรงวาดให้นอนตัวงอแต่มีความสุขมากที่ได้เปิดใจกับเขาเสียที...

บรรยากาศบ้านทรงวาดอวลไปด้วยไอรักต่างจากบ้านพันเดชเต็มไปด้วยความร้อนใจของไต้เกียวที่ห่วงฮุ่ยเซี้ยง พันเดชแกล้งปลอบไปตามแกนก่อนหาโอกาสคุยกับฤทธิ์ตามลำพัง

“แกคิดว่าไอ้แก่นั่นมันจะกล้าหักหลังเราไหม”

“โอ๊วฮุ่ยเซี้ยงเป็นนักเลงเก่าย่อมรู้ดีว่าทำแบบนั้นจะเกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่แต่ตัวมัน...แม้แต่หลานสาวมันก็ไม่รอด”

“แต่ถ้ามันยังพูดได้ฉันก็ไม่ไว้ใจ”

“มีแต่คนตายเท่านั้นที่จะพูดไม่ได้”

“ถูก...แต่ฉันไม่อยากให้แกแค่ฆ่ามันทิ้ง” พันเดชแสยะยิ้มเมื่อนึกถึงคำพูดทวงบุญคุณของฮุ่ยเซี้ยงเมื่อวันก่อน สั่งเสียงเหี้ยม “ฉันอยากให้มันทุกข์ทรมานยิ่งกว่าตายจะได้เป็นตัวอย่างให้ลูกน้องคนอื่นไม่กล้าทำงานพลาดยังงี้อีก!”

ooooooo

ทรงวาดกลัวฮุ่ยเซี้ยงถูกฆ่าปิดปากรีบไปโรงพักเพื่อหว่านล้อมให้สารภาพเรื่องพันเดช ฮุ่ยเซี้ยงไม่ยินดียินร้ายที่เห็นทรงวาด ตอกไม่ไว้หน้าเมื่ออีกฝ่ายแกล้งถามสารทุกข์สุกดิบของตน

“ลื้อไม่ต้องอ้อมค้อม อั๊วไม่ให้การอะไรมากกว่านี้ทั้งนั้นแหละ ไม่ต้องมาเกลี้ยกล่อมอั๊ว”

เถ้าแก่เสือแห่งเยาวราชยิ้มบางๆไม่ถือสา “ฉลาดสมกับเป็นโอ๊วแปะแต่เคยคิดดูไหมครับว่าถึงโอ๊วแปะไม่พูดก็ใช่ว่าจะปลอดภัย บางทีการสารภาพทั้งหมดอาจจะดีกว่า”

ฮุ่ยเซี้ยงยิ้มเยาะ “แล้วจะให้อั๊วสารภาพด้วยไหมล่ะว่าพ่อบุญธรรมลื้อเป็นใครทำชั่วอะไรไว้บ้าง อย่ามาเล่นลูกไม้กับอั๊วเลยอาโฮ่ว ลื้ออยากลากคอไอ้พันเดชออกมาแต่กลัวตำรวจจะสาวไปถึงพ่อกับพี่บุญธรรมลื้อก็เลยต้องอาศัยอั๊วซัดทอดว่าไอ้พันเดชอยู่เบื้องหลังการฆ่าอาเง็ก อั๊วไม่หลงกลลื้อหรอก”

“โอ๊วแปะไม่หลงกลอั๊วแต่เต็มใจจะหลงกลคุณพันเดช ระวังนะครับโอ๊วแปะ...กว่าจะคิดได้มันอาจสายเกินไป”

คำพูดทิ้งท้ายของทรงวาดทำให้ฮุ่ยเซี้ยงหวาดระแวงไม่น้อย เมื่อไต้เกียวหลานสาวคนสวยมาเยี่ยมพร้อมอาหารชุดใหญ่จากบ้านพันเดชก็ยอมตัดใจยกอาหารทั้งหมดให้นักโทษคนอื่น ส่วนตัวเองกินข้าวคุกอย่างขมขื่นเพราะไม่อยากเสี่ยง กลัวใจพันเดชกับฤทธิ์จะรวมหัวกันวางยาพิษเขา

ทรงวาดหนักใจมากเรื่องฮุ่ยเซี้ยงแต่ออกตัวมากไม่ได้เพราะไม่อยากให้ตำรวจสาวถึงการันต์หรือชาญยุทธ กระนั้นเขาก็ไม่ทิ้งประเด็นของฤทธิ์จึงส่งทิเหล็งปลอมตัวไปประฝีมือด้วย ฤทธิ์ระวังตัวอยู่แล้วไม่แสดงฝีมือแต่ยอมเจ็บตัวให้คนอื่นเข้าใจว่าเป็นแค่ตำรวจลาดตระเวนธรรมดา

แม้ฤทธิ์จะไม่เผยตัวตนแท้จริงแต่ทรงวาดก็ไม่วางใจคิดหาทางอื่นพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของอีกฝ่าย แต่ก่อนจะถึงเวลานั้นเขาต้องไปดูอาการเม่งฮงที่เมาแอ๋ตั้งแต่ลูกสาวตายและลูกชายเข้าคุก

ปิ่นมุกตามทรงวาดมาโรงน้ำชาด้วย รู้สึกอึดอัดและคับแค้นใจอย่างบอกไม่ถูกเมื่ออยู่ในบ้านเก่าของพ่อแม่ซึ่งถูกพวกเม่งฮงแย่งไป ทรงวาดมัวปลอบใจเม่งฮงที่เมาจนเพ้อถึงลูกชายกับลูกสาว กว่าจะรู้ตัวว่าปิ่นมุกอาการไม่ดีเพราะบรรยากาศในบ้านเก่าก็เห็นเธอยืนร้องไห้กลางโรงน้ำชา

ทรงวาดสะเทือนใจ รู้สึกผิดที่พาเธอมาบ้านเก่าที่เธอฝังใจกับอดีตอันโหดร้าย

“อั๊วขอโทษ...อั๊วไม่น่าให้ลื้อเข้ามาเลย คิดแค่ว่าโรงน้ำชาปิดไปแล้วลื้อคงไม่รังเกียจอีก อั๊วลืมนึกไปว่าเคยเกิดอะไรที่นี่บ้าง...อั๊วขอโทษจริงๆนะอาจู”

“ช่างเถอะเฮีย...นี่โรงน้ำชาปิดแล้วเหรอ”

“มันปิดๆเปิดๆมาพักนึงแล้ว เสียลูกค้าไปไม่น้อย พอเกิดเรื่องอาเง็กอาเจ็กก็ไม่มีกำลังใจทำต่อเลยปิดถาวรเลย”

“สมควรแล้ว โกงอาป๊าอาม้าอั๊ว สุดท้ายก็เจ๊ง  ไม่เรียกเวรกรรมตามสนองแล้วจะเรียกว่าอะไร”

น้ำเสียงเกลียดชังปนสะใจทำให้ทรงวาดหน้าเจื่อน ปิ่นมุกเห็นสีหน้าเขาก็ขอโทษเสียงอ่อย

“ไม่เป็นไร...ลื้อมีสิทธิ์จะแค้น”

พูดแล้วชวนกลับบ้านเพราะทรงวาดมีเรื่องฤทธิ์ต้องจัดการ แต่คราวนี้เขาจะไม่รออีกต่อไป ฉวยจังหวะฤทธิ์เข้าเวรกล่อมรณชิตให้พาเขากับทิเหล็งไปค้นหอพักตำรวจ!

ooooooo

ฤทธิ์ยังไม่รู้เรื่องตัวเองจะถูกแฉสถานะหนอนบ่อนไส้ เพราะพวกทรงวาดค้นเจอปืนอย่างดีใต้ฟูกของเขา มัววางแผนก่อความวุ่นวายบนโรงพักเพื่อฆ่าปิดปากฮุ่ยเซี้ยง

ฮุ่ยเซี้ยงมองเหตุการณ์ชุลมุนตรงหน้าแล้วเข้าใจสถานการณ์ของตัวเอง เมื่อฤทธิ์มาเปิดห้องขังก็ป้องกันสุดความสามารถปากก็ตะโกนขอความช่วยเหลือ

“ช่วยด้วย ช่วยอั๊วด้วย มันจะฆ่าปิดปากอั๊ว!”

“แหกปากเข้าไปเถอะ ตอนนี้โรงพักมีแต่มึงกับกูเท่านั้นล่ะ”

“นายลื้อสัญญากับหลานอั๊วแล้วว่าจะไม่ปิดปากอั๊ว ทำไมทำอย่างนี้วะ”

“คนอย่างคุณพันเดชเวลาเลี้ยงใครก็เลี้ยงเต็มที่แต่ก็ไม่รักใครมากกว่าตัวเองหรอก แกรับใช้เขาโดยที่ไม่รู้นิสัยเลยรึไง แต่ไม่ต้องกลัวนะเพราะแกไม่ได้รับอนุญาตให้ตาย!”

ฤทธิ์ซ้อมฮุ่ยเซี้ยงจนแทบคลานก่อนควักมีดพกตัดลิ้นอีกฝ่ายให้พูดไม่ได้ แถมยังตัดนิ้วทีละนิ้วอย่างโหดเหี้ยมป้องกันไม่ให้ฮุ่ยเซี้ยงไปเขียนคำสารภาพที่ไหน

ฮุ่ยเซี้ยงร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัสก่อนรวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายกระโจนกัดกระดุมเสื้อฤทธิ์

อมไว้ในปากหวังเก็บเป็นหลักฐานโดยที่ฤทธิ์ไม่ทันรู้ตัว

กว่าทรงวาดกับรณชิตจะรู้ว่าโรงพักเกิดเรื่องฮุ่ยเซี้ยงก็นอนจมกองเลือดแล้ว ทรงวาดปราดไปดู ฮุ่ยเซี้ยงรีบพ่นเลือดพร้อมกระดุมเสื้อฤทธิ์ใส่ทรงวาดทันทีหวังสุดใจว่าอีกฝ่ายจะรู้เจตนาของเขา

ไต้เกียวไม่รู้แผนฆ่าปิดปากฮุ่ยเซี้ยงของพันเดชกับฤทธิ์ เมื่อเห็นสภาพลุงแท้ๆที่โรงพยาบาลก็ร้องไห้โฮ พันเดชลอบยิ้มร้ายก่อนตีหน้าเศร้าปลอบใจ

“เข้าไปเยี่ยมลุงเธอไหวไหม ถ้าไม่ไหวกลับไปก่อนได้นะ เอาไว้เข้มแข็งขึ้นแล้วค่อยมาก็ได้”

“ไหวค่ะ ฉันอยากดูแลอาแปะมากกว่ากลับไปอยู่บ้านเฉยๆ”

“ไม่ต้องห่วงนะ ความแค้นครั้งนี้ฉันจะสะสางให้เธอแน่”

“คุณว่าเป็นฝีมือใครคะ”

“ไม่ต้องคิด ถ้าเป็นคนอื่นหรือแม้แต่ไอ้เม่งฮงก็แค่ฆ่าทิ้งให้จบๆ แต่ทำขนาดนี้เพื่อทรมานและประกาศศักดามากกว่า คนอื่นจะได้ไม่กล้าทรยศอย่างนี้อีก”

พันเดชฉวยโอกาสนี้โยนความผิดให้ชาญยุทธ ไต้เกียวแค้นมากประกาศต่อหน้าฮุ่ยเซี้ยงที่ยังนอนไม่ได้สติ

“แปะ...อั๊วขอสาบาน ถ้าอั๊วล้างแค้นให้แปะไม่ได้อั๊วไม่ใช่คนแซ่โอ๊ว!”

“เรื่องล้างแค้นต้องทำแน่ แต่คนอย่างไอ้ชาญยุทธไม่ใช่จะถึงตัวได้ง่ายๆเธอต้องอดทนหน่อยนะ”

“ฉันทนรอได้แน่ค่ะ นานเท่าไหร่ฉันก็จะรอล้างแค้นมันให้ได้!”

ฮุ่ยเซี้ยงค่อยๆรู้สึกตัวเพราะได้ยินเสียงคนคุยกัน เมื่อลืมตาเห็นพันเดชก็เบิกตาโพลงส่งเสียงร้องไม่เป็นคำเสียงดังจนไต้เกียวเอะใจ จนเมื่อได้สัมผัสตัวซึ่งเกร็งแน่นพร้อมสังเกตแววตาแข็งกร้าวของลุงแท้ๆไต้เกียวก็ตัวแข็ง เริ่มฉุกใจคิดบางอย่างว่าเหตุการณ์ครั้งนี้อาจมีเบื้องหลังซับซ้อนมากกว่าที่เห็น!

ooooooo

ชะตากรรมของเม่งฮงกับฮุ่ยเซี้ยงทำให้หลายคนในเยาวราชตกใจไม่น้อย แม้แต่ปิ่นมุกซึ่งรอกรรมตามสนองทั้งสองที่โกงบ้านพ่อแม่เธอมาตลอดยังใจหาย

แปะฮ้อซึ่งรู้จักปิ่นมุกดีกว่าใครเห็นท่าทางสาวน้อยที่เห็นตั้งแต่เด็กก็สงสารปนเห็นใจแต่อยากเตือนสติ ชี้ให้เธอดูคนงานโรงสีแบกข้าวสารหนักๆหน้าดำคร่ำเครียด

“ความแค้นมันก็เหมือนกระสอบข้าวที่แบกไว้บนบ่านั่นแหละ...ทั้งหนักทั้งทุกข์ พอวางกระสอบลงก็เบาสบาย ถ้าลื้อไม่มีความสุขทำไมไม่ลองวางความแค้นของลื้อลงล่ะ”

ปิ่นมุกเข้าใจความหมายคำพูดของแปะฮ้อแต่ยังทำใจไม่ได้ พ่อแม่ต้องตายแถมเธอต้องลำบากหลายปี หากไม่มีทรงวาดยื่นมือช่วยเธอคงถูกขายซ่องที่ไหนก็ไม่รู้...

ฮุ่ยเซี้ยงยอมรับชะตากรรมพิการตลอดชีวิตของตนไม่ได้ ส่งสายตาขอความช่วยเหลือจากไต้เกียวจนเธอต้องยอมตัดใจเอามีดปอกผลไม้ไปวางในห้องตอนเยี่ยมไข้ให้เขาฆ่าตัวตายในคืนเดียวกัน

ฤทธิ์ไม่ยี่หระความตายของฮุ่ยเซี้ยงแต่รีบทำลายหลักฐานคือเสื้อและอาวุธที่เขาใช้ตอนตัดนิ้วตัดลิ้นอีกฝ่าย โชคดีที่ทรงวาดรู้ทันและพารณชิตมาจับได้คาหนังคาเขา!

รณชิตไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองแต่จำนนด้วยหลักฐานตรงหน้าที่ฤทธิ์เตรียมมาเผาทิ้ง ทรงวาดสืบทั้งหมดจากกระดุมที่ฮุ่ยเซี้ยงจงใจพ่นใส่หน้าเขาจนรู้ว่าเป็นกระดุมเสื้อของฤทธิ์

“แกเป็นคนระมัดระวังตัวมาตลอดจนฉันเกือบจะหลงกลด้วยซ้ำ ครั้งนี้ถ้าแกฆ่าโอ๊วแปะซะเลยฉันอาจจะหาหลักฐานมัดตัวแกได้ยากกว่านี้ แต่เพราะแกต้องการสร้างความหวาดกลัวให้ลูกน้องคนอื่นเลยมีช่องโหว่มากกว่าปกติ”

“เก่ง...ฉันรู้ว่าแกเริ่มสงสัยฉันตั้งแต่ตอนที่ยิง

ไอ้แก่นั่นครั้งแรกแล้วแต่ก็ยังพลาดจนได้”

“ถ้าทบทวนดีๆฉันรู้ตัวช้าไปด้วยซ้ำ”

ฤทธิ์รู้ตัวว่าจะถูกจับวิ่งหนี รณชิตตามติดแต่ไม่กล้ายิงลูกพี่ลูกน้องหนุ่ม ทรงวาดกับทิเหล็งไปช่วยแต่ฤทธิ์ฝีมือฉกาจจนไม่มีใครเข้าถึงตัว กระนั้นทรงวาดก็รู้สึกคุ้นตาท่าทางของฤทธิ์จนถึงบางอ้อว่าอีกฝ่ายน่าจะเป็นคนเดียวกับชายลึกลับที่ขี่มอเตอร์ไซค์ไปช่วยพันเดชตอนเหตุวางระเบิดรถเมื่อหลายวันก่อน

ทรงวาดตั้งท่าท้าฤทธิ์ “ฉันขอแก้มือคราวก่อน”

“ยังจำได้เหรอ เก่งนี่...ขนาดไม่เห็นหน้า”

ฤทธิ์แสยะยิ้มไม่หวั่นหากต้องประมือกับทรงวาด ทั้งสองฝีมือสูสีไม่มีใครเพลี่ยงพล้ำจนกระทั่งพวกตำรวจยกกำลังมาช่วยทำให้ทรงวาดเสียจังหวะปล่อยฤทธิ์หนีไปได้

ooooooo

รณชิตคาใจท่าทางระหว่างทรงวาดกับฤทธิ์ เชื่อว่าทั้งสองน่าจะเคยประมือแต่ไม่รู้เมื่อไหร่และเพราะอะไร ทรงวาดไม่เล่าเพราะจะพาดพิงพ่อกับพี่ชายบุญธรรม ปิ่นมุกก็ช่วยพูดจนรณชิตต้องยอมถอย

พันเดชโกรธมากที่ถูกทรงวาดกับรณชิตตลบหลัง ส่วนไต้เกียวก็เข้าใจว่าฤทธิ์เป็นคนฆ่าปิดปากฮุ่ยเซี้ยงจะฆ่าให้ตายแต่พันเดชห้ามไว้และกล่อมให้เธอเชื่อว่าฤทธิ์โดนป้ายข้อหาตามแผนของทรงวาดกับรณชิต

ไต้เกียวนิ่วหน้าก่อนปลอบพันเดชที่ทำท่าจะถอดใจจากเกมชิงอำนาจนี้

“เรายังพอมีทางอยู่...ฉันรู้มาว่าโรงน้ำชาหกห้องปิดแล้ว บ่อนของหกห้องก็ซบเซาลงเพราะคนไม่เชื่อบารมีเจ็กลิ้มเหมือนเดิม ตอนนี้กลุ่มต่างๆกำลังดูเชิงกันอยู่เพราะใครๆก็อยากขึ้นมาแทนหกห้องกันทั้งนั้น ตอนนี้ก็แค่รอเชื้อไฟสงครามปะทุแน่ๆ”

“ไม่ได้ผลหรอก ช่วงแรกๆก็อาจจะยุ่งหน่อยแต่พ่อ...เอ่อ...ท่านการันต์คุมอยู่แน่ สุดท้ายก็แค่เปลี่ยนหัว”

“ถ้าอย่างนั้นคุณคงยังไม่รู้ว่าตอนนี้ท่านการันต์สุขภาพไม่ดี เข้าๆออกๆโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น คุณคิดว่าคนอย่างนายชาญยุทธจะเก่งเท่าพ่อไหมล่ะ...”

ฤทธิ์หายตัวอย่างไร้ร่องรอย ทิ้งไว้เพียงความบอบช้ำทางใจของรณชิตซึ่งไม่อยากเชื่อว่าลูกพี่ลูกน้องหนุ่มจะทรยศอาชีพตำรวจ และความบอบช้ำทางกายของทรงวาดกับทิเหล็ง ปิ่นมุกกับป่วยซังต้องช่วยกันดูแลสร้างความปลื้มใจแก่สองหนุ่มมากโดยเฉพาะทิเหล็งเพราะป่วยซังหายโกรธและพูดกับตนแล้ว

เม่งฮงไม่สนเรื่องฮุ่ยเซี้ยง หลังตัดพี่ตัดน้องก็เมาแอ๋หมดสภาพหัวหน้าแก๊งหกห้อง ปิ่นมุก ป่วยซัง และก๊กไช้เจอเขานอนคว่ำหน้ากลางถนนก็อดไม่ได้ช่วยพยุงกลับโรงน้ำชา

ป่วยซังรีบไปตามทรงวาดมาช่วยดูเม่งฮง ส่วนก๊กไช้ก็โดนอ้วกเม่งฮงเดินไปล้างตัวข้างนอก ทิ้งปิ่นมุกให้ยืนมองต้นตอความแค้นตั้งแต่เด็กด้วยความรู้สึกบอกไม่ถูก อยากฆ่าให้ตายแต่คำพูดเตือนสติของแปะฮ้อเมื่อวันก่อน

ก็ทำให้เธอคิดได้และยอมปล่อยวางความแค้นแต่โดยดี

ทรงวาดกระวีกระวาดเข้ามาในโรงน้ำชาทันทีที่รู้เรื่องจากป่วยซัง กลัวใจปิ่นมุกจะฆ่าเม่งฮงแต่กลับต้องอึ้ง เมื่อเห็นเธอนั่งเช็ดตัวให้อาแท้ๆของเขาอย่างไม่รังเกียจเหมือนเคย ปิ่นมุกที่คิดได้แล้วเอ่ยเสียงเบาแต่หนักแน่น

“อั๊วไม่ใช่ยอดคนอะไรหรอก อั๊วแค่ไม่อยากเป็นต้นเหตุทำให้เฮียต้องเสียใจอีก ชีวิตเฮียมีเรื่องเสียใจมามากพอแล้ว...พอปล่อยวางความแค้นลงอั๊วก็เบาสบายอย่างที่แปะฮ้อบอกจริงๆด้วย”

“ขอบใจมากนะ...อั๊วมีความสุขมากที่ลื้อคิดได้แบบนี้ มีความสุขซะจน...อยากจะหอมแก้มลื้อแทนคำขอบคุณ”

ปิ่นมุกเขินจัด ทรงวาดดึงตัวไปกอด “ขอบคุณลื้อมาก ขอบคุณจริงๆอาจู”

“ความทุกข์ใจตลอดชีวิตของอั๊วมันหายไปหมดสิ้นแค่อั๊วให้อภัย...เหมือนง่ายแต่มันทำยากมากนะเฮีย”

เฮ้งเตี๋ยงต้องขึ้นศาลเพื่อพิจารณารับโทษ รณชิตกับทรงวาดไปรับเขาด้วยตัวเองจากเรือนจำโดยมีพริ้มเพราตามไปด้วย แต่ทั้งหมดต้องแวะโรงน้ำชาก่อนเพราะ

เฮ้งเตี๋ยงฝันร้ายถึงเม่งฮงจึงอยากไปเห็นหน้าสักครั้ง

เม่งฮงก็คิดถึงลูกชายคนเดียวแต่งตัวเตรียมไปศาลแต่ไม่ทันออกจากบ้านก็ได้ต้อนรับไต้เกียวซึ่งตีหน้าเศร้าเคล้าน้ำตาเข้ามาในโรงน้ำชาพร้อมฤทธิ์

การแสดงของไต้เกียวจบทันทีที่ประตูโรงน้ำชาปิด ฤทธิ์ไม่รอช้าเสียบมีดที่ท้องเม่งฮง หัวหน้าแก๊งหกห้องข่มความเจ็บปวดจนไต้เกียวอดชมแกมประชดไม่ได้

“สมเป็นนักเลงจริง โดนแทงเป็นแผลขนาดนี้ยัง

ไม่ร้องให้ศัตรูได้ยินแม้แต่นิดเดียว อาแปะอั๊วสู้ลื้อไม่ได้จริงๆ”

“อีแพศยา! อั๊วหลงเมตตาลื้อที่แท้ลื้อมันก็เลวพอๆกับแปะของลื้อนั่นแหละ”

“คนเดินบนเส้นทางนี้ได้ยังจะมีคนดีอีกเหรอลื้อเองก็ไม่ต่างกันหรอก”

ไต้เกียวยิ้มเยาะ ฤทธิ์ดึงมีดที่เสียบคาท้องเม่งฮงออก ก่อนเอ่ยเสียงเย็น

“แกควรจะขอบใจฉันนะที่ฉันให้แกได้ตายด้วยมีดเล่มเดียวกับลูกสาวแก”

เม่งฮงตาเหลือกร้องลั่น “ลื้อ! ลื้อเป็นคนฆ่าอาเง็ก!”

ฤทธิ์ไม่สะทกสะท้านหรือรู้สึกผิด ยอมรับกับเม่งฮงอย่างภาคภูมิใจว่าเป็นคนแทงลี่เง็กก่อนทิ้งให้ฮุ่ยเซี้ยงกับลูกน้องคนอื่นจัดการโยนเธอลงคลองเพื่อป้ายความผิดให้รณชิต

เม่งฮงแค้นจัด ยิ่งรู้ว่าไต้เกียวมีส่วนกับเรื่องทั้งหมดก็รวบรวมแรงเฮือกสุดท้ายคว้าเก้าอี้ฟาดฤทธิ์แล้วหันปลายแหลมของขาเก้าอี้ไปทางไต้เกียว ไต้เกียวหน้าซีดก่อนเบิกตาโพลงเมื่อฤทธิ์จ้วงแทงเม่งฮงจากด้านหลัง เม่งฮงกระอักเลือดแต่ไม่ทิ้งลายนักเลงฮึดจับขาเก้าอี้ที่หักแทงแขนฤทธิ์จนเลือดอาบ!

กว่าทรงวาด เฮ้งเตี๋ยง พริ้มเพราและรณชิตจะมาถึงโรงน้ำชา เม่งฮงก็ขาดใจตายแล้ว ฤทธิ์พาไต้เกียวหนีทิ้งไว้แต่เพียงคราบเลือดบนปลายขาเก้าอี้ซึ่งทรงวาดจะใช้เป็นหลักฐานสืบหาตัวการและคราบน้ำตาของเฮ้งเตี๋ยงที่ร่ำไห้อย่างหมดอาย ทรงวาดสงสารปลอบลูกพี่ลูกน้องหนุ่มเสียงอ่อนแต่หนักแน่น

“อั๊วให้สัญญาอาเตี๋ยง อาเจ็กต้องไม่ตายเปล่า!”

พันเดชพอใจผลงานมากให้เงินรางวัลฤทธิ์ก้อนใหญ่ ไต้เกียวมองมาด้วยความหมั่นไส้ปนไม่ชอบใจ

แต่รอกระทั่งอีกฝ่ายลับตาจึงโวยวายกับพันเดช

“คุณไม่น่าให้เงินมันเลย เพราะความประมาทของมันแท้ๆทำเอาฉันเกือบซวยไปด้วย”

“อย่าคิดมากน่า ความผิดพลาดนิดหน่อยถ้าเทียบกับผลงานที่ออกมาก็ถือว่ารับได้”

ไต้เกียวยังงอน พันเดชแอบรำคาญแต่จำต้องปั้นหน้าง้อเพราะยังต้องใช้ประโยชน์จากเธอ

“อย่างอนไปหน่อยเลยน่าบอกมาซิว่าฉันต้องทำยังไงต่อ”

“ฉันจัดการทุกอย่างหมดแล้ว คุณรอดูเยาวราชลุกเป็นไฟได้เลย!”

การตายของลิ้มเม่งฮงทำให้สถานการณ์ระหว่างแก๊งในเยาวราชระส่ำระสาย ทรงวาดหนักใจมากแต่ยังไม่มีเวลาหารือกับชาญยุทธเพราะต้องจัดงานศพของอาแท้ๆ

ปิ่นมุกเห็นสภาพเครียดจัดของเขาก็อดปลอบไม่ได้

“ขอบใจมากนะอาจู ความจริงลื้อจะไม่มางานศพอาเจ็กก็ได้แต่นี่ลื้อกลับจัดการทุกอย่างให้หมดเลย”

“อั๊วบอกแล้วไงว่าอั๊วไม่เคยลืมสิ่งที่ลิ้มเม่งฮง

ทำไว้กับอั๊วแต่อั๊วก็ปล่อยวางความแค้นไปหมดแล้ว ที่อั๊วช่วยงานศพก็เพราะคนคนนี้เป็นอาเจ็กของเฮีย...ก็เท่านั้นเอง”

“ลื้อรู้ไหมว่าอาเจ็กเคยพาอั๊วมาที่วัดนี้ตอนเด็กๆ ด้วยนะ”

ปิ่นมุกทำหน้าไม่เชื่อ ตั้งท่าจะพูดแต่ถูกทรงวาดดักคอ “ไม่ต้องตีรวนอั๊ว...คนอย่างอาเจ็กไม่ได้มาไหว้พระแน่ อาเจ๊กพาอั๊วมาขอข้าววัดที่นี่กิน ตอนนั้นบ้านอั๊วจนมาก อาม้าตายอาป๊าก็ไม่ค่อยสบาย อาเจ็กคนเดียวหาเลี้ยงทั้งครอบครัว ถึงอีจะเลวร้ายแค่ไหนแต่สำหรับอั๊วอีมีบุญคุณเทียบเท่ากับอาป๊าเลยด้วยซ้ำ”

อ่านละคร ชาติเสือพันธุ์มังกร ตอนที่ 10 วันที่ 10 ธ.ค.61

ละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร บทประพันธ์โดย ปราณธร
ละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร บทโทรทัศน์โด: บทกร
ละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร กำกับการแสดงโดย กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร ผลิตโดย บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
ละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ