อ่านละคร ชาติเสือพันธุ์มังกร ตอนที่ 12 วันที่ 14 ธ.ค.61
ในขณะที่ชาญยุทธตกต่ำลง อิทธิพลของพันเดชกลับยิ่งใหญ่ขึ้น รณชิตและทุกคนในเยาวราชรู้ดีว่าเป็นเพราะค้ายาเสพติดแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะไม่มีหลักฐานเฮ้งเตี๋ยงพักที่ตึกหกห้องกับพวกทรงวาด ไม่ได้ใส่ใจเรื่องรอบตัวนักกระทั่งมีอดีตสมาชิกแก๊งหกห้องก่อเหตุชิงทรัพย์ที่ร้านข้าวต้มเพราะติดยา ปิ่นมุกจะแจ้งความแต่เฮ้งเตี๋ยงขอไว้และเรียกอดีตลูกน้องในแก๊งไปคุยอีกทาง
“ทำไมลื้อเป็นอย่างนี้ไปได้วะ ลื้อก็รู้ว่าผงมันไม่ดีติดเข้าไปแล้วก็เหมือนผียังไปยุ่งกับมันอีก”
“อั๊วไม่มีงานทำน่ะเฮีย ตั้งแต่หกห้องเลิกไป
อั๊วก็ไม่รู้จะไปทำอะไร จะทำงานสุจริตก็ไม่มีความรู้ จะเป็นนักเลงก็ไม่มีใครคุ้มกะลาหัว กลุ้มหนักๆเข้าเลยหันไปเล่นผง กะว่าสักครั้งสองครั้งให้หายเครียด ไม่คิดว่ามันจะติดขนาดนี้”
“เค้าแป๋! ชื่อมันก็บอกอยู่แล้วว่ายาเสพติด มีเหรอวะลองแล้วจะไม่ติด”
“เฮีย...เฮียออกจากคุกแล้ว จะฟื้นฟูหกห้องก็อย่าลืมอั๊วนะ”
“อั๊วไม่เอาแล้ว พ้นเรื่องรายงานตัวเมื่อไหร่อั๊วจะไปทำไร่ทำสวนอยู่บ้านนอก ถ้าลื้อสนใจจะไปทำกับอั๊วก็ได้นะ”
“ทำไร่...เราเป็นนักเลงนะเฮียจะไปทำงานอย่างนั้นได้ยังไง พวกอั๊วทุกคนนับถือเฮียนะ สมัยเฮียคุมหกห้องจะไปไหนก็มีแต่คนเกรงใจ เฮียลืมไปแล้วเหรอ”
คำพูดอดีตลูกน้องทำให้เฮ้งเตี๋ยงคิดหนัก ใจหนึ่งก็อยากกลับไปตั้งแก๊งใหม่แต่อีกใจก็ห่วงความรู้สึกพริ้มเพรา อดีตลูกน้องเห็นอาการเขาก็ตื๊ออีกรอบ
“เฮีย...กลับมาฟื้นฟูหกห้องเถอะ พวกเรามีความหวังอยู่ที่เฮียจริงๆนะ เฮียอย่าทิ้งพวกเราเลย ไหนจะเรื่องความแค้นของอาป๊าเฮียอีก...เฮียจะเป็นลูกอกตัญญูไม่ล้างแค้นแทนรึไง”
เฮ้งเตี๋ยงลังเล ไม่รู้เลยว่าพริ้มเพราแอบได้ยินทั้งหมดและเริ่มกังวลว่าผัวจะเดินทางเดิมอีก...
อิทธิพลของพันเดชทำให้พวกตำรวจนั่งไม่ติด รณชิตซึ่งได้เลื่อนยศบากหน้ามาขอความช่วยเหลือจากทรงวาดเพราะเชื่อว่าอีกฝ่ายรู้ตื้นลึกหนาบางเกี่ยวกับพันเดช ทรงวาดไม่อยากยุ่งบ่ายเบี่ยง
“หมวดจำได้ไหม...ตอนวุ่นวายมากๆผมเคยขอความช่วยเหลือแต่ทางตำรวจต้องการแค่ให้เหตุการณ์ทุกอย่างสงบลงโดยไม่สนว่าใครจะคุมก็เลยเลือกที่
อยู่เฉยๆ สุดท้ายก็เลยได้คุณพันเดชมาแทนพวกผม”
“ถ้าอย่างงั้นผมต้องทำยังไงเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดล่ะ”
“หมวดต้องคิดเอาเองครับ ตอนนี้ผมเป็นแค่พ่อค้าร้านข้าวต้ม สิ่งที่ผมรู้ผมก็บอกหมวดไปหมดแล้ว”
“เถ้าแก่...คุณเพิ่งโทษตำรวจไปหยกๆว่าอยู่เฉยๆ จนได้นายพันเดชมา แต่ตอนนี้คุณก็กำลังจะทำแบบเดียวกัน คุณคิดเหรอว่ายาเสพติดระบาดขนาดนี้แล้วจะไม่เดือดร้อนถึงคุณ ไม่ว่าทางตรงทางอ้อมก็ต้องมีบ้างล่ะ”
เหตุผลของรณชิตทำให้ทรงวาดเถียงไม่ออก ตำรวจหนุ่มเห็นดังนั้นก็รีบย้ำ
“ช่วยผมนะ ทางเราต้องการคุณ”
ทรงวาดคิดหนักแต่สุดท้ายก็ปฏิเสธ “ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรือฝ่ายไหนผมก็จะไม่เข้าข้างไหนทั้งนั้น!”
ooooooo
พันเดชกลายเป็นนักการเมืองใหญ่หลังได้วางตัวให้เป็นรัฐมนตรี วิสูตรรอจังหวะอยู่แล้วเมื่อพันเดชไปแจกของขอบคุณชาวบ้านกลางตลาดก็จัดการลอบยิง!
วิสูตรเป็นคนรอบคอบ แม้รู้ว่าแผนลอบสังหารครั้งนี้แทบไม่มีทางเป็นไปได้แต่ก็เลือกหนทางดีที่สุดคือจ้างคนไปทำร้ายพันเดชเพื่อล่อเหยื่อ พันเดชรอดตัวจากเหตุลอบทำร้ายครั้งแรกก็ลดความระมัดระวังตัวเปิดโอกาสให้วิสูตรเข้าถึงตัวได้ง่าย แต่ที่มือขวาคนสนิทของชาญยุทธคิดไม่ถึงคือฤทธิ์จะอารักขาพันเดชอีกทีจากมุมไกลๆ
ฤทธิ์จ่อปืนยาวสังหารวิสูตรจากมุมไกลๆตายคาที่ พันเดชตกใจมากแต่คงไม่เท่ากับทรงวาดที่ช็อกพูดไม่ออกเมื่อรู้ข่าว การตายของวิสูตรทำให้ชาญยุทธเสียศูนย์ ทรงวาดอดห่วงพี่ชายบุญธรรมไม่ได้แต่ไม่คิดกลับไปช่วยเพราะห่วงความรู้สึกของปิ่นมุกกับทุกคน ในบ้านมากกว่า
ทรงวาดตัดสินใจเด็ดขาดจะไม่ทิ้งทุกคนที่ร้านข้าวต้มไปเดินเส้นทางมาเฟียอีก ต่างจากเฮ้งเตี๋ยงที่คิดเรื่องล้างแค้นให้พ่อตลอดเวลา พริ้มเพราสังเกตอาการผัวตลอดกระทั่งจับได้คาหนังคาเขาว่าเขาซ่อนปืนไว้
“พี่เอาปืนมาทำไม จะกลับไปเป็นนักเลงฆ่าคนอีกอย่างนั้นเหรอ”
เฮ้งเตี๋ยงเฉไฉกลบเกลื่อน “ลื้อคิดมากไปแล้วพริ้มเพรา อั๊วก็แค่หาปืนไว้ใช้ป้องกันตัวเท่านั้นเอง บ้านเราที่บ้านนอกมันเปลี่ยวจะตายไปมีติดบ้านเอาไว้ไม่เสียหลายหรอก”
“ฉันไม่เชื่อ! พี่อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ใจพี่นะ พี่อยากกลับไปเป็นนักเลง ใจพี่คิดแต่เรื่องแก้แค้นตลอดเวลา”
“ไม่จริง...อั๊วสัญญาแล้วไงว่าอั๊วจะไม่ทำอีก ลื้อต้องเชื่อใจอั๊วสิ”
พริ้มเพราไม่เชื่อตัดพ้อน้ำตาคลอ “พี่รู้ไหมว่าสามปีที่พี่ติดคุกฉันทรมานใจแค่ไหน ฉันคิดถึงพี่ทุกวัน เฝ้ารอว่าเมื่อไหร่พี่จะออกมา แต่พอพี่กลับมาได้แล้วพี่ก็คิดจะทิ้งฉันไปอีกอย่างนั้นเหรอ”
เฮ้งเตี๋ยงสะเทือนใจสุดท้ายก็ยอมกลับต่างจังหวัดกับพริ้มเพราท่ามกลางความโล่งใจของทุกคน...
งานศพวิสูตรถูกจัดอย่างเรียบง่ายและเงียบเหงา ชาญยุทธเสียใจและรู้สึกผิดมากแต่ไม่กล้าออกหน้าออกตาหรือแม้แต่รับเป็นเจ้าภาพงานศพเพราะกลัวถูกสาวถึงตัวเรื่องคดีลอบยิงพันเดช กระนั้นก็อดไม่ได้จะแอบไปร่วมงาน ทรงวาดเห็นเข้าก็อดไม่ได้จะเตือนสติพี่ชายบุญธรรม
“จริงๆพี่อ้ายไม่ควรมาที่นี่นะครับ พวกมันอาจจะใช้ศพวิสูตรล่อพี่มาทำร้ายก็ได้”
“ต่อให้ตายพี่ก็ต้องมา เพราะถ้าพี่ไม่กดดันวิสูตรเขาก็ไม่ต้องลงมือแล้วก็คงไม่ต้องตาย แถมตายแล้วพี่ยังปล่อยให้เขาเป็นศพไร้ญาติเพื่อไม่ให้พวกมันฉวยโอกาสเล่นงานพี่อีก พี่ไม่เคยรู้สึกว่าตัวเองเลวเท่านี้มาก่อนเลย”
ทรงวาดถอนใจยาว “มันผ่านไปแล้วครับพี่อ้าย เราแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ตอนนี้เท่าที่ทำได้ก็แค่ทำสิ่งที่อยู่ตรงหน้าให้ดีที่สุดแล้วก็อย่าทำผิดพลาดซ้ำอีกเท่านั้นเอง”
“พี่คนเดียวทำไม่ได้หรอกเสือ นอกเสียจากเสือจะยอมช่วยพี่”
“มันเป็นไปไม่ได้แล้วครับพี่อ้าย ผมไม่ได้อยากเดินทางนี้ตั้งแต่แรก เมื่อคุณพ่อตายแล้วและผมก็ชดใช้บุญคุณให้พี่แล้วผมก็ขอเลือกทางเดินของผมเองครับ”
“ถ้าเป็นไปไม่ได้แล้วเสือมาที่นี่ทำไม เสือมาไหว้ศพวิสูตรก็เพราะยังผูกพันกับพี่อยู่ใช่ไหมล่ะ”
คำพูดแทงใจดำของพี่ชายบุญธรรมทำให้ทรงวาดอึกอักลำบากใจแต่ก็ยืนยันความตั้งใจเดิม
“ผมยังห่วงพี่ ยังคิดถึงพวกเรา...แต่ผมก็ไม่มีวันกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีกแล้ว พี่อ้ายอย่าเสียเวลาอีกเลยครับ”
“เพราะเด็กคนนั้นใช่ไหมเสือถึงได้ตีตัวออกห่างพี่ พี่เคยคิดว่าถ้าเสือรักเด็กนั่นพี่จะทำดีด้วยเพื่อผูกใจเสือไว้แต่นังเด็กนั่นกลับดึงเสือออกไปแทน ถ้าพี่รู้ว่าจะเป็นอย่างนี้พี่ฆ่ามันทิ้งตั้งแต่วันแรกที่เสือรับเข้ามาแล้ว”
ชาญยุทธโพล่งด้วยความโมโห ทรงวาดเข้าใจความรู้สึกอีกฝ่ายและไม่ถือสา
“ผมทราบว่าพี่อ้ายพูดเพราะอารมณ์แต่ผมก็ไม่อยากได้ยินอยู่ดี อาจูมีความหมายกับผมมากกว่าที่พี่อ้ายคิด”
ทรงวาดพูดจบก็ผละไป ทิ้งชาญยุทธให้มองตามเซ็งๆ หงุดหงิดมากที่น้องชายบุญธรรมไม่กลับมาช่วย
ooooooo
พันเดชส่งฤทธิ์ไปสอดแนมงานศพวิสูตรจนรู้เรื่องทรงวาดปฏิเสธจะกลับไปหาชาญยุทธ ไต้เกียวซึ่งนั่งฟังอยู่ด้วยสะใจมากและคิดแผนร้ายยุแยงให้สองพี่น้องแตกคอกันจริงๆจังๆ
ไต้เกียวรู้ดีว่าจุดอ่อนของทรงวาดคือปิ่นมุก ตัดสินใจสวมบทเป็นหญิงสาวน่าสงสารไปหาทุกคนที่ร้านข้าวต้มโดยเอาเรื่องเยี่ยมเฮ้งเตี๋ยงเป็นข้ออ้างบังหน้า ไม่มีใครสงสัยเหตุผลของไต้เกียวยกเว้นปิ่นมุกซึ่งสังหรณ์ใจตามสัญชาตญาณผู้หญิงว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล
สังหรณ์ของปิ่นมุกรุนแรงกว่าที่คิดเมื่อเช้าต่อมาก็เกิดเหตุมีคนร้ายลอบยิงเธอแต่พลาดโดนก๊กไช้ที่เอาตัวปกป้องเธอแทน ทรงวาดรีบพาส่งโรงพยายบาลแต่ก็สายเกินไปก๊กไช้ขาดใจตายระหว่างทาง!
การตายของก๊กไช้นำมาซึ่งความเสียใจของปิ่นมุกและความเจ็บแค้นของทรงวาด พันเดชสาแก่ใจมากแม้เป้าหมายอย่างปิ่นมุกจะรอดไปได้แต่การตายของก๊กไช้ก็เป็นเชื้อเพลิงที่ดีให้ทรงวาดแตกกับชาญยุทธ
พันเดชร่วมกับไต้เกียวคิดแผนขั้นถัดไปคือทำให้ทรงวาดเข้าใจผิดชาญยุทธ “ฉันทิ้งเบาะแสไว้ตามที่เธอบอกแล้ว ยังไงเราใส่ร้ายไอ้ชาญยุทธได้แน่แต่จะถึงขั้นให้มันฆ่ากันตายเองคงไม่ไหว เธอมีแผนอื่นอีกไหม”
“ขอคิดก่อนค่ะ จริงๆถ้ายิงนังเด็กนั่นได้เฮียโฮ่ว คงแล่นไปเป่ากบาลไอ้ชาญยุทธแล้ว ผิดแผนหมดเลย”
“ก็เธอจะให้ยิงต่อหน้าไอ้เถ้าแก่เสือมันก็มีโอกาสพลาดบ้างล่ะน่า แค่ไอ้คนยิงไม่ถูกจับตัวได้ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว”
“คุณเคยอยากได้เฮียโฮ่วมาเป็นลูกน้อง ตอนนี้ยังอยากได้อยู่รึเปล่าคะ...ฉันมีวิธีที่คุณจะใช้ประโยชน์จากเฮียได้ แต่คุณก็ต้องออกแรงเล่นละครซะหน่อย”
แววตาเจ้าเล่ห์ของไต้เกียวทำให้พันเดชอดกระเซ้าไม่ได้
“ฉันชักจะกลัวเธอขึ้นทุกวันแล้วสิ”
“อย่ามากลัวฉันเลยค่ะ เปลี่ยนจากกลัวมาเป็นรักฉันขึ้นทุกวันจะดีกว่า”
แผนของพันเดชกับไต้เกียวคือทิ้งเบาะแสให้ทรงวาดกับพวกตำรวจเข้าใจว่าคนร้ายยิงก๊กไช้คือคนของชาญยุทธ ทรงวาดข้องใจว่าชาญยุทธจะสั่งฆ่าปิ่นมุกหรือก๊กไช้เพื่ออะไร...
ทิเหล็งเสียใจมากที่ก๊กไช้น้องชายคนเดียวตายเพราะเหตุลอบยิง ร้องไห้ฟูมฟายกับป่วยซัง
“ควรจะเป็นอั๊ว คนอย่างอั๊วไม่มีค่าอะไร เทียบไม่ได้กับอาไช้เลยซักนิด ทำไมไม่เป็นอั๊วแทน”
“อย่าคิดอย่างนี้สิอาเหล็ง ไม่มีชีวิตใครที่ไม่มีค่า ลื้ออาจมองว่าตัวเองไม่สำคัญแต่ลื้อรู้ไหมว่าลื้อสำคัญกับอั๊ว”
ป่วยซังสงสารทิเหล็งและหลุดปากเผยความในใจที่เพิ่งเกิดระยะหลังที่ได้ใกล้ชิดกัน ทิเหล็งอึ้งมากยิ้มทั้งน้ำตา ท่ามกลางบรรยากาศเศร้าๆก็มีเรื่องดีๆเป็นกำลังใจ
ooooooo
งานศพก๊กไช้ถูกจัดอย่างเรียบง่ายในอีกหลายวันต่อมา พันเดชแวะมาร่วมงานเผาศพ แสร้งทำดีจนทรงวาดสงสัยลากอีกฝ่ายไปคุยตามลำพังเมื่อจบงาน
“คุณมีอะไรก็พูดมาเถอะครับเพราะคุณคงไม่ได้ตั้งใจมาเผาศพอาไช้อยู่แล้ว”
“ตรงๆอย่างนี้ก็ดี ฉันมาที่นี่ก็เพราะจะมาชวนแกเป็นพวกเหมือนที่เคยชวนเมื่อสามปีก่อน”
“ถ้าอย่างนั้นผมก็คงต้องตอบคำตอบเดิม”
“คิดก่อนแล้วค่อยพูดเถอะ สถานการณ์มันไม่เหมือนเดิมแล้ว แกก็น่าจะรู้นี่ว่าใครอยู่เบื้องหลังยิงเด็กก๊กไช้นั่น”
ทรงวาดช้ำใจ รู้ดีว่าหลักฐานชี้ไปทางชาญยุทธแต่ไม่ยอมพูดอะไร พันเดชคิดว่าอีกฝ่ายลังเลจึงเสี้ยม
“อดีตพี่บุญธรรมแกมันกลายเป็นหมาบ้าไปแล้ว โดนฉันไล่ต้อนจนกัดมั่วไปหมด มันคงโกรธแกที่ตีตัวออกห่าง ก็เลยทำร้ายคนที่แกรักเป็นการแก้แค้น และคนเดียวที่ช่วยแกได้ตอนนี้ก็คือฉัน แต่ถ้าแกไม่ตกลงก็เตรียมใจจัดงานศพเอาไว้ได้เลย ถ้าฉันเดาไม่ผิดคนรักแกคือศพต่อไป!”
คำยุแยงของพันเดชไม่ได้ทำให้ทรงวาดแค้นจนอยากฆ่าชาญยุทธ แต่ทำให้ใคร่ครวญหนักขึ้นว่าเหตุใดเรื่องราวถึงกลายเป็นแบบนี้ ปิ่นมุกเห็นด้วยแต่ไม่วายวิตกกลัวเขาคิดล้างแค้นหรือเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง
“ไม่ว่าจะฝ่ายไหนอั๊วก็ไม่ยอมให้เฮียกลับไปทั้งนั้น”
“อั๊วไม่ได้จะกลับไป อั๊วเพียงแต่เล่าให้ฟัง แต่ที่คุณพันเดชพูดก็ถูก ถ้าอั๊วไม่ทำอะไรก็ต้องมีคนรับเคราะห์ซึ่งอาจจะเป็นลื้อ ลื้ออาจจะไม่โชคดีอย่างวันนี้นะอาจู”
“อั๊วรู้ว่าเฮียพยายามจะปกป้องพวกเรา แต่เฮียรู้ไหมว่าพวกเราก็เป็นห่วงเฮียไม่แพ้กันหรอก...เมื่อก่อนเวลาเฮียออกไปข้างนอกตอนกลางคืนอั๊วไม่เคยนอนหลับเลย เพราะอั๊วไม่รู้ว่าเฮียไปแล้วจะได้กลับมาอีกรึเปล่า อั๊วเพิ่งจะมาหลับได้สนิทก็ตอนมาเปิดร้านข้าวต้มนี่เอง แล้วเฮียก็กำลังจะทำให้ทุกอย่างกลับไปเป็นเหมือนเดิมอีก”
ทรงวาดใจอ่อนยวบดึงเธอมากอด ปิ่นมุกอ้อนวอนทั้งน้ำตา
“อย่าไปนะเฮีย เราอยู่ของเราอย่างนี้แหละ ใครจะแย่งชิงอะไรกันก็ปล่อยเขาไป”
“แล้วถ้าต้องมีคนรับเคราะห์แบบอาไช้อีกล่ะ”
“เราจะสู้กับพวกมันด้วยกันแต่เฮียต้องรับปากอั๊วก่อนว่าเฮียจะไม่กลับไปเดินเส้นทางเดิมอีก”
ooooooo
รณชิตเรียกชาญยุทธไปสอบสวนเพราะมีหลักฐานบ่งชี้ว่าเป็นผู้ว่าจ้างคนร้ายยิงก๊กไช้ ชาญยุทธยืนกรานไม่รู้เรื่องจนกระทั่งทรงวาดปรากฏตัวที่โรงพัก
“เสือคงไม่ได้เชื่ออีกคนนะว่าพี่จะทำอะไรแบบนั้น”
“ถ้าเป็นเมื่อก่อนผมไม่มีวันเชื่อหรอกครับ”
“ถ้าเป็นเมื่อก่อนงั้นเหรอ แสดงว่าตอนนี้เสือเชื่อสิว่าเป็นฝีมือพี่...ให้มันได้ยังงี้สิวะ!”
ทรงวาดไม่แยแสท่าทางหงุดหงิดของพี่ชายบุญธรรมเอ่ยถามตรงๆ “คนยิงมันไม่ได้ตั้งใจฆ่าอาไช้หรอกครับ เป้าหมายคืออาจูแต่อาไช้เข้าไปขวางเลยต้องรับเคราะห์แทน แล้วพี่อ้ายก็ไม่ชอบอาจูไม่ใช่เหรอครับ”
“ใช่! ผู้หญิงคนนั้นทำให้เราสองคนพี่น้องแตกกันพี่ก็ต้องไม่ชอบมันอยู่แล้ว พูดตรงๆถ้านังนั่นตายซะได้พี่ก็ดีใจแต่พี่ไม่ได้ทำ เราเป็นพี่น้องกันมากี่ปี ถ้าเสือยังไม่รู้จักนิสัยพี่เราก็ไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้ว!”
คดีก๊กไช้ไม่ทันคลี่คลาย รณชิตต้องเร่งจัดการเรื่องพันเดชที่สายข่าวรายงานว่าจะมีกำหนดส่งยาเสพติดในอีกไม่กี่วัน ปัญหาคือฤทธิ์ที่ตำรวจหนุ่มรู้ฝีมือดีเลยไปขอความช่วยเหลือจากทรงวาดให้ร่วมเล่นละครฉากใหญ่ตบตาพันเดชและส่งฤทธิ์ไปไกลๆเพื่อง่ายต่อการจับกุม
ทรงวาดลังเลเพราะไม่อยากยุ่งเรื่องพันเดช แต่สุดท้ายสำนึกผิดชอบชั่วดีก็ทำให้ทนไม่ไหวยอมร่วมมือกับรณชิตเล่นละครตบตาพันเดช แสร้งทำดีเป็นพวกและหลอกให้ส่งฤทธิ์ไปสังหารญาติห่างๆของชาญยุทธเพื่อล้างแค้น
พันเดชเชื่อสนิทว่าทรงวาดเปลี่ยนใจมาเข้ากับตนส่งฤทธิ์ไปจัดการญาติของชาญยุทธ เปิดโอกาสให้รณชิตนำกำลังดักจับการส่งยาเสพติดครั้งใหญ่ ส่วนทรงวาดไม่ได้ตามไปช่วยรณชิตแต่พาฤทธิ์ไปหาญาติชาญยุทธ ก่อนเริ่มลงมือตลบหลังฤทธิ์ด้วยการแกล้งพูดจากดดันชาญยุทธเรื่องคดีก๊กไช้
“ไอ้เด็กร้านข้าวต้มนั่นมันสำคัญมากนักรึไงเสือถึงต้องคาดคั้นเอาเป็นเอาตายกับพี่ให้ได้”
“อาไช้ไม่ใช่แค่เด็กร้านข้าวต้มครับแต่เป็นคนในครอบครัวของผม”
“แล้วพี่ล่ะ หรือเสือคิดว่าแตกหักกับพี่แล้วก็ไม่ต้องนับพี่นับน้องกันอีก”
“ไม่ครับ...สำหรับผมแล้วพี่อ้ายยังเป็นพี่ชายผมเสมอ ผมเพียงแต่ต้องการปกป้องคนที่ผมรักเท่านั้นเอง”
จบคำก็แกล้งยั่วยุให้ชาญยุทธโกรธ ลวงให้ฤทธิ์ตายใจเป็นครั้งสุดท้ายก่อนส่งสัญญาณให้อีกฝ่ายออกจากที่ซ่อนมาให้เขาสังหารเพื่อปิดเกม!
พันเดชย่ามใจว่าทุกอย่างต้องเป็นตามหวังทั้งเรื่องส่งยาลอตใหญ่และล้างแค้นชาญยุทธ ไม่รู้เลยว่าทรงวาดวางแผนตลบหลังร่วมกับชาญยุทธและรณชิตจะจัดการทั้งฤทธิ์และยาเสพติด
ไต้เกียวเสียอีกสังหรณ์ใจและอดทักท้วงไม่ได้ที่พันเดชไม่ให้ฤทธิ์ไปคุมการส่งยา พันเดชยักไหล่ไม่ยี่หระเพราะเชื่อสายข่าวของตนเองที่เพิ่งกระซิบบอกแผนดักจับของพวกตำรวจทำให้เขาเตรียมแผนรับมือทัน
พันเดชไม่ได้สงสัยเรื่องข่าวดักจับของพวกตำรวจเพราะทุกอย่างเป็นไปตามคาด รณชิตหน้าแตกยับเมื่อมาถึงโกดังของเขาแล้วไม่พบยาเสพติด ต่างจากฝั่งฤทธิ์ที่โดนทรงวาดยิงไม่ทันตั้งตัว
ชาญยุทธซึ่งร่วมมือกับทรงวาดเล่นละครเหยียดยิ้มเมื่อเห็นสภาพฤทธิ์นอนแน่นิ่ง ก่อนตกใจแทบผงะเมื่อฤทธิ์ฟื้นเพราะสวมเสื้อเกราะกันกระสุนและจู่โจมพวกเขา!
ทรงวาดเจ็บใจไล่ตามออกไปข้างนอก ฤทธิ์หลบกระสุนในมุมมืด ร้องท้าทรงวาดเสียงดัง
“เข้ามาสิวะ เข้ามาเลย ฉันจะส่งแกไปอยู่กับอาแกไงล่ะ เจ้าพ่อเยาวราชแต่ตายเหมือนหมาข้างถนน!”
ฤทธิ์รู้ตัวว่าเสียเปรียบพยายามหลอกล่อทรงวาดจนหนีสำเร็จ กว่าพันเดชจะรู้เรื่องฤทธิ์ก็หลายอึดใจต่อมาเมื่อลูกน้องที่รอดมาได้โทร.รายงานเรื่องถูกทรงวาดตลบหลัง พันเดชเดือดจัดโวยกับไต้เกียวอย่างเหลืออด
“ไอ้สารเลว! มันกล้าหักหลังฉันเหรอ”
อ่านละคร ชาติเสือพันธุ์มังกร ตอนที่ 12 วันที่ 14 ธ.ค.61
ละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร บทประพันธ์โดย ปราณธรละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร บทโทรทัศน์โด: บทกร
ละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร กำกับการแสดงโดย กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร ผลิตโดย บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
ละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ