อ่านละคร ชาติเสือพันธุ์มังกร ตอนที่ 10 วันที่ 12 ธ.ค.61

อ่านละคร ชาติเสือพันธุ์มังกร ตอนที่ 10 วันที่ 12 ธ.ค.61

ฤทธิ์หนีไปได้ วิสูตรเจ็บใจมากและรีบโทร.บอกชาญยุทธที่รอฟังข่าวที่บ้าน เมื่อรู้ว่าทั้งพันเดชกับฤทธิ์รอดไปได้ก็โกรธจัด ก่อนฉุกใจคิดว่าเรื่องครั้งนี้ต้องมีคนแทรกแซง!

การันต์วางแผนแทรกแซงแผนของชาญยุทธด้วยการส่งทรงวาดไปช่วยพันเดชและพามาเจอเขาที่ตึกหกห้อง พันเดชไม่อยากเชื่อหูและสายตาตัวเองว่าพ่อแท้ๆจะช่วยเขาไว้ แอบดีใจแต่ทำเย็นชากลบเกลื่อน การันต์สะเทือนใจมาก รู้ตัวว่าผิดและพยายามไถ่โทษกับพันเดช

“ไม่มีพ่อคนไหนอยากเห็นลูกตายโดยไม่ยื่นมือเข้าช่วยหรอก”



“อย่าเรียกตัวเองว่าพ่อ คนอย่างคุณไม่คู่ควรหรอก คุณต้องการอะไรจากผม”

“ถ้าฉันขอแกได้  ฉันอยากให้แกหยุดแย่งชิงอำนาจกับอ้าย”

“ที่แท้ก็กลัวลูกรักจะตายน่ะเอง”

“ถ้าฉันกลัวอ้ายจะตายวันนี้ฉันคงไม่ช่วยแกหรอก”

พันเดชเถียงไม่ออก การันต์เห็นดังนั้นก็ตบบ่าลูกชาย “คนเป็นพ่อทนเห็นลูกเข่นฆ่ากันเองต่อหน้าต่อตาไม่ได้หรอก แล้วถึงแกจะไม่ยอมรับฉันเป็นพ่อแต่ยังไงแกก็คือลูกชายของฉัน ไม่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงมันได้หรอก”

“คุณพูดช้าไปยี่สิบปี ตอนนี้มันไม่มีความหมายอะไรกับผมอีกแล้ว...”

พูดจบก็เดินออกจากห้อง ทิ้งการันต์ให้ยืนกุมหน้าอกเพราะโรคหัวใจกำเริบ ทรงวาดรออยู่แล้ว ลุกยืนเมื่อเห็นว่าพันเดชเดินหน้าบึ้งออกมาจากห้อง

“คุณจะกลับเลยไหมครับ เดี๋ยวผมไปส่ง”

“ไม่ต้อง ฉันมีปัญญากลับเองได้...แต่ก็ต้องขอบใจที่ช่วยฉันเอาไว้”

“ไม่จำเป็น...ผมทำตามคำสั่งคุณพ่อ ส่วนเรื่องที่คุณสั่งให้ฤทธิ์ไปฆ่าอาเจ็กผม...ผมไม่มีวันลืม”

“พร้อมเอาคืนเมื่อไหร่ก็มา...ฉันจะรอ”

พันเดชท้าทรงวาดอย่างไม่กลัวก่อนผลักประตูตึกหกห้องไปเจอชาญยุทธกับวิสูตรที่ชักปืนเตรียมยิง การันต์ซึ่งตามมาปรับความเข้าใจกับพันเดชร้องห้าม ชาญยุทธน้อยใจมากตัดพ้อ

“คุณพ่อหักหลังผม แล้วนี่ยังคิดจะขวางผมอีกเหรอครับ”

“พ่อจำเป็นต้องทำ มันเป็นหน้าที่ของคนเป็นพ่อ”

“พ่อของไอ้ลูกนอกคอกที่เกิดจากเมียน้อยน่ะเหรอครับ”

คำพูดเหยียดหยามของชาญยุทธทำให้พันเดชหน้าตึง การันต์เห็นดังนั้นก็พยายามไกล่เกลี่ย “ไม่ว่าจะยังไง แกสองคนก็เป็นลูกพ่อ พ่อขอนะอ้าย...เลิกแล้วต่อกัน แกด้วยอ้น...เพื่อชีวิตของแกเอง สัญญากับพ่อได้ไหมว่าจะเลิก...”

การันต์พูดไม่ทันจบพันเดชก็โพล่ง “ไม่! เรื่องอะไรต้องสัญญา ถ้าอยากฆ่าฉันก็ฆ่าเลย ฉันยอมตายดีกว่าอ้อนวอนขอชีวิตจากไอ้ลูกแหง่อย่างแก”

“ได้ยินไหมครับคุณพ่อ ไอ้เนรคุณนี่มันไม่ได้สำนึกบุญคุณคุณพ่อสักนิด แล้วคุณพ่อยังจะปกป้องมันทำไม”

ชาญยุทธโต้อย่างไม่ยอม การันต์เครียดจัด สุดท้ายก็หันปลายกระบอกปืนของลูกชายคนโตมาที่ตัวเอง

“วันนึงถ้าอ้ายเป็นพ่อคน  อ้ายจะเข้าใจสิ่งที่พ่อทำ แต่ตอนนี้ถ้าอ้ายจะยิงน้อง อ้ายต้องยิงพ่อก่อน”

พันเดชอึ้งมาก ไม่คิดว่าพ่อจะออกตัวปกป้องขนาดนี้ ชาญยุทธแค้นใจพยายามดึงมือพ่อที่ยึดปืนไว้สุดความสามารถ เขาส่งสัญญาณให้วิสูตรฆ่าพันเดชแทนแต่ไม่ทันลงมือการันต์ก็ทรุดฮวบ!

ooooooo

การันต์มีอาการเหมือนหัวใจจะวาย ทรงวาดกระวีกระวาดพาส่งโรงพยาบาลโดยมีชาญยุทธกับพันเดชตามประกบอย่างใกล้ชิด ลืมความขุ่นแค้นชั่วขณะเพราะสังหรณ์ว่าครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้อยู่กับพ่อ

หมอและบุรุษพยาบาลช่วยกันเข็นเตียงการันต์เข้าห้องผ่าตัด ชาญยุทธกับพันเดชตามติด การันต์ขอร้องลูกชายทั้งสองให้เลิกแล้วต่อกัน ลูกชายแท้ๆทั้งสอง

ไม่มีใครพูดอะไร บรรยากาศรอบตัวเต็มไปด้วยความกดดันเมื่อการันต์เข้าไปด้านใน จนกระทั่งชาญยุทธเริ่มโวยโทษว่าพันเดชเป็นต้นเหตุให้การันต์เจ็บหนัก

พันเดชไม่ยอมโต้กลับ สองพี่น้องทะเลาะกันเสียงดังจนทรงวาดทนไม่ไหวตวาดลั่น

“เอาเลยครับ ชกกันเลย ฆ่ากันก็ได้ คุณพ่อกำลังวิกฤติเป็นตายเท่ากัน มันไม่มีความหมายอะไรเลยใช่ไหมครับ”

ชาญยุทธกับพันเดชชะงัก ทรงวาดเห็นดังนั้น

รีบพูด “ในชีวิตผม...คนยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือคุณพ่อ แม้แต่ศัตรูของท่านก็ยังต้องยอมรับท่าน แล้วเมื่อกี้เห็นอะไร

ไหมครับ...เวลาของความเป็นความตายท่านไม่ได้นึกถึงตัวเองเลย ท่านนึกถึงแต่คุณสองคน พวกคุณคือคนที่ท่านห่วงใยมากที่สุด แล้วพวกคุณไม่คิดจะทำอะไรเพื่อท่านบ้างเลยเหรอครับ...”

คำพูดทรงวาดช่วยเตือนสติชาญยุทธกับพันเดชไม่ให้เกรี้ยวกราดใส่กันจนกระทั่งหมอแจ้งข่าวร้ายเรื่องการันต์ที่ยื้อชีวิตไว้ไม่ได้ ทรงวาดเสียใจมาก สะเทือนใจไม่แพ้ลูกชายแท้ๆอย่างชาญยุทธกับพันเดช แปะฮ้อเห็นท่าทางเหน็ดเหนื่อยของทรงวาดก็อดไม่ได้ พูดปลอบ

“เข้มแข็งไว้ เถ้าแก่เป็นเสาหลักของทุกคนที่นี่... อย่าลืมซะล่ะ”

“อั๊วไม่ลืมหรอกแปะ แต่อั๊วเจอแต่เรื่องสูญเสียติดๆกันมันก็เลยทำใจลำบากหน่อย โดยเฉพาะคุณพ่อ... อั๊วไม่เคยคิดว่าคุณพ่อท่านจะจากไปเร็วชนิดตั้งตัวไม่ทัน ทั้งๆที่ยังมีเรื่องค้างคาใจอยู่อย่างนี้”

“คนเราไม่ว่าจะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็มองไม่เห็นขนตาตัวเองโดยไม่ส่องกระจกหรอก”

ทรงวาดนิ่งคิดตาม แปะฮ้อถือโอกาสมอบบทเรียนสำคัญเตือนใจ

“คนที่ไม่หมั่นทบทวนข้อผิดพลาดของตัวเอง

จะรู้ตัวว่าผิดก็ต่อเมื่อทุกอย่างมันสายเกินไปแล้ว”

“จริงครับ...ถ้าคุณพ่อไม่ทำสิ่งที่ผิดพลาดหรือแก้ไขข้อผิดพลาดที่ทำไปแล้วเร็วกว่านี้ คนเก่งอย่างคุณพ่อก็คงไม่ต้องพบจุดจบแบบนี้ ตอนนี้อั๊วก็ได้แต่หวังว่า

การตายของคุณพ่อจะทำให้เขาสองคนหันมาจับมือกันได้...”

ooooooo

การตายของการันต์ทำให้ชาญยุทธกับพันเดชอ่อนท่าทีลง โดยเฉพาะพันเดชเลิกคิดจะชิงอำนาจกับพี่ชายคนละแม่ แต่ยังทำใจไปร่วมงานศพพ่อไม่ได้

ปิ่นมุกซึ่งมาช่วยทรงวาดในงานศพเห็นพันเดชแวบๆจึงตามไปคุยด้วย

“ฉันคงไม่กล้าก้าวก่ายเรื่องของคุณ แต่ฉันคิดว่าวิญญาณท่านการันต์คงดีใจที่คุณมาค่ะ”

“ใครจะมาดีใจกับลูกนอกคอกอย่างฉัน”

“ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่ไม่รักลูกหรอกนะคะ แค่แสดงออกต่างกันเท่านั้นเอง”

“เด็กเมื่อวานซืนอย่างเธอจะมาเข้าใจอะไร”

“คุณจะคิดยังไงก็เรื่องของคุณ แต่ถ้าเป็นฉันตอนนี้ฉันขอแค่ได้กราบศพพ่อเป็นครั้งสุดท้ายก็พอ”

พันเดชนิ่งคิดตาม ปิ่นมุกไม่ยอมแพ้คะยั้นคะยอ

“เข้าไปข้างในเถอะค่ะ ฉันคิดว่าวันนี้คงไม่มีใครไม่ยินดีต้อนรับคุณหรอก”

“อย่าเลย...ฉันเป็นส่วนเกินมานานแล้ว นานจนไม่มีทางรวมเป็นเนื้อเดียวกับพวกเขาได้อีกแล้วล่ะ”

จนแล้วจนรอดพันเดชก็ทำใจกราบศพพ่อไม่ได้ ไต้เกียวเห็นความอ่อนไหวของพันเดชตั้งแต่การันต์ตายจึงคิดหาทางโหมไฟแค้นระหว่างพี่น้องให้ลุกโชนอีกครั้งด้วยการซ้อนแผนส่งคนไปดักทำร้ายพันเดชที่วัด

ไต้เกียวคิดเสี้ยมให้พันเดชโกรธแค้นชาญยุทธจึงจ้างคนไปแทงพันเดชแล้วโยนความผิดให้ชาญยุทธ พันเดชไม่รู้เรื่องและคิดไม่ถึง เชื่อสนิทว่าชาญยุทธไม่ยอมจบ

“ฉันมันโง่เองที่คิดจะหยุดแค่นี้ ในเมื่อมันไม่หยุดฉันก็ไม่จบเหมือนกัน!”

พูดจบก็ผลุนผลันเข้าห้อง ทิ้งไต้เกียวให้มองตามด้วยแววตาสาแก่ใจ

“คุณจะจบตอนนี้ได้ยังไงล่ะคะ ผลประโยชน์ของฉันทั้งนั้น”

ทรงวาดไม่รู้เลยว่าสมรภูมิรบระหว่างชาญยุทธกับพันเดชจะไม่จบ มัวกลุ้มใจเมื่อปิ่นมุกบอกเรื่องเจอพันเดชที่วัดแต่อีกฝ่ายไม่ยอมเข้าไปกราบศพพ่อ

“ถ้าคุณพันเดชยอมไปกราบศพคุณพ่อทุกอย่างก็คงจะดีขึ้น...น่าเสียดาย”

“แล้วพี่บุญธรรมเฮียว่ายังไงบ้าง”

“พี่อ้ายเสียงอ่อนลงแล้ว คงเห็นกับคุณพ่อ แต่มาคิดได้ตอนคุณพ่อเสียแล้วก็ไม่รู้ว่าจะสายเกินไปรึเปล่า”

“แต่มันก็ยังดีกว่าคิดไม่ได้เลยไม่ใช่เหรอเฮีย ในความโชคร้ายมันก็ยังมีความโชคดีอยู่นะ”

“โชคดียังไง พ่อบุญธรรมอั๊วเพิ่งเสียไปนะ”

“อั๊วไม่ได้ดีใจในความตายของคนอื่นนะเฮีย แต่เฮียลองคิดดูว่าชีวิตเฮียเคยทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง คำว่าบุญคุณมันรัดคอเฮียมาทั้งชีวิต ถ้าอาเจ็กกับพ่อบุญธรรมเฮียยังอยู่เฮียก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนบุญคุณ

ไม่มีวันจบสิ้น”

ปิ่นมุกชี้ให้เขาเห็นเรื่องดีๆท่ามกลางความสูญเสีย ทรงวาดเห็นด้วยแต่ไม่วายรู้สึกผิดต่อพ่อกับพี่ชายบุญธรรม เขาดึงเธอมากอดเหมือนขอกำลังใจ ปิ่นมุกซุกตัวแต่โดยดี เอ่ยเสียงอ่อน

“อั๊วไม่ได้หมายความว่ากตัญญูรู้คุณเป็นเรื่อง

ไม่ดีแต่การตอบแทนบุญคุณด้วยการทำเรื่องผิดๆมันก็ไม่ถูกต้อง”

“ลื้อพูดถูก อั๊วเข้าใจที่ลื้อพูดทุกอย่าง ตอนนี้ก็เหลือแต่เรื่องของพี่อ้ายเท่านั้นล่ะ ถ้าอั๊วชดใช้หนี้บุญคุณพี่อ้ายหมดเมื่อไหร่  อั๊วสัญญาว่าอั๊วจะพาลื้อไปให้พ้นจากวังวนนี้ให้ได้”

“เมื่อไหร่จะชดใช้กันหมดก็ไม่รู้นะเฮีย...แต่อั๊วก็จะรอวันนั้นแหละ”

ooooooo

พันเดชเริ่มแผนโต้กลับชาญยุทธด้วยการยึดอำนาจแก๊งในเยาวราช ยุแยงให้บรรดาหัวหน้าแก๊งไม่จ่ายค่าคุ้มครองนายเหมือนเคย เมื่อชาญยุทธรู้เรื่องจากวิสูตรก็หัวเสีย

“ไม่จ่ายค่าคุ้มครอง...พวกมันกล้าขนาดนี้เลยเหรอ”

“มีคนไปปล่อยข่าวว่านายตายแล้ว กลุ่มทุกกลุ่มก็เลยถือโอกาสแข็งข้อไม่จ่ายเงินครับ”

“ใครล่ะจะปล่อยข่าวถ้าไม่ใช่ไอ้ลูกสารเลวของคุณพ่อ คิดผิดจริงๆที่จะปล่อยมัน...โดนแว้งกัดจนได้”

“แล้วคุณอ้ายจะทำยังไงต่อครับ”

“ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเสือแล้ว ถ้าเสือชนะการเลือกตั้งแล้วยืนยันว่าจะอยู่กับเรา กลุ่มอื่นก็ต้องคิดหนัก”

ชาญยุทธคิดฝากความหวังกับทรงวาด แต่กว่าจะถึงวันเลือกตั้งก็ต้องของขึ้นเมื่อได้รับของขวัญจากพันเดชเป็นข้อมือของสายข่าวที่ส่งไปสอดแนม

พันเดชรอฟังข่าวจากฤทธิ์ เมื่อรู้ว่าของขวัญถึงมือพี่ชายคนละแม่ก็สะใจมาก

“แกทำดีมากฤทธิ์ ป่านนี้ไอ้ลูกแหง่นั่นคงกลัวขี้ขึ้นสมองไปแล้ว ก็ดี...ถือเป็นการกำราบไม่ให้คนอื่นกล้าทรยศ”

“ตอนนี้ก็ถือว่าเรากับมันเสมอกันแล้วนะครับ”

ไต้เกียวนั่งฟังอยู่ด้วยโพล่งแทรก “เสมอที่ไหนกันล่ะ เราได้เปรียบชัดๆ ไม่มีอาเจ็กฮงสักคนก็ไม่มีคนคอยประสานให้ ตอนนี้พวกมันก็หวังพึ่งแค่ให้เฮียโฮ่วชนะเลือกตั้งเท่านั้นแหละ”

“ก็ได้แค่หวังเพราะมันไม่มีทางชนะเราได้หรอก จบเลือกตั้งเมื่อไหร่ก็ปิดตำนานเจ้าพ่อเมืองกรุงไปพร้อมกันเลย!”

ขณะที่เกมชิงอำนาจระหว่างชาญยุทธกับพันเดชร้อนระอุอีกครั้ง การหาเสียงเลือกตั้งก็ดำเนินต่อกระทั่งถึงวันลงคะแนน ทรงวาดไม่ตื่นเต้นกับผลการนับคะแนนแต่แวะไปตึกหกห้องของปิ่นมุกแทน

ปิ่นมุกยืนมองทรงวาดที่ทำอาหารด้วยสีหน้าเรียบเฉย พยายามอ่านใจเขา

“อั๊วดีใจนะที่เฮียเห็นร้านข้าวต้มอั๊วสำคัญกว่าผลเลือกตั้ง แต่ถ้าเฮียจะไปปรากฏตัวหน่อยก็ไม่เป็นอะไรหรอกนะ”

ทรงวาดส่ายหน้า ถอนใจปลงๆ “ไม่จำเป็น อั๊วทำเต็มที่แล้ว ทั้งหมดก็เพื่อให้พี่อ้ายสบายใจและเพื่อรักษาสัญญาที่ให้ไว้  แต่หลังจากนั้นใครจะแพ้ชนะ

ไม่เกี่ยวกับอั๊วแล้ว”

“แต่ถ้าเฮียชนะเฮียก็ต้องเกี่ยวข้องกับพี่บุญธรรมเฮียต่ออีกยาวเลยแหละ เขาคงไม่ปล่อยเฮียง่ายๆหรอก”

ปิ่นมุกพูดพลางคีบอาหารเข้าปาก ทรงวาดมองมาด้วยความขำปนเอ็นดูก่อนบอกแผนชีวิตของตนจะยอมทำตามสิ่งที่ชาญยุทธต้องการเป็นครั้งสุดท้าย หากเลือกตั้งสำเร็จจะค่อยๆถอยออกมาเพื่ออยู่กับเธอ

ooooooo

ในที่สุดผลการเลือกตั้งก็ออก ทรงวาดกับสมพลแพ้คะแนนทั้งคู่  ไม่มีใครได้เป็นตัวแทนท้องถิ่น เป็นไปตามแผนของพันเดชทุกอย่างคือส่งผู้สมัครพรรคเดียวกันไปแย่งคะแนนกันเอง

พันเดชสะใจมากส่งฤทธิ์ไปหว่านล้อมบรรดาหัวหน้าแก๊งในเยาวราชเป็นครั้งสุดท้าย ไต้เกียวเฝ้ามองด้วยความสาแก่ใจยิ่งกว่าเพราะเชื่อว่าชาญยุทธคง

ไม่อยู่เฉยปล่อยให้ผลประโยชน์ถูกเปลี่ยนมือง่ายๆ

ชาญยุทธเต้นผางอย่างที่ไต้เกียวคิด ตั้งท่าจะกวาดล้างบรรดาแก๊งโทษฐานที่แปรพักตร์ วิสูตรต้องเตือนให้ใจเย็นเพราะเวลานี้ไม่มีแก๊งหนุนหลังหากดึงดันสู้ตรงๆคงไม่มีทางชนะ

“แล้วจะปล่อยให้มันหยามน้ำหน้าฉันอย่างนี้น่ะเหรอ”

“ถ้าท่านยังอยู่ท่านก็ต้องบอกให้คุณอดทนครับ ตอนนี้มีทางเดียวเท่านั้นก็คืออดทนและรอโอกาส”

โอกาสของชาญยุทธมาถึงเร็วกว่าที่คิดเมื่อทางพรรคแจ้งเรื่องวิกฤติน้ำมันโลกซึ่งจะมาถึงในสองสัปดาห์ สินค้าต่างๆทั้งของกินของใช้จะมีราคาสูงลิบตามราคาน้ำมันที่ปรับขึ้น เขาจึงฉวยโอกาสนี้เอาคืนพันเดชและสั่งสอนบรรดาหัวหน้าแก๊งที่แปรพักตร์จากเขาด้วยการยืมมือทรงวาดกักตุนข้าวสารเพื่อกุมอำนาจซื้อขาย

“ใช้เงินทั้งหมดซื้อข้าวกักตุนไว้ให้มากที่สุด ส่วนพี่จะซื้อน้ำมันกับพวกยารักษาโรคตุนไว้เอง เกิดวิกฤติเมื่อไหร่ เราจะรวยชนิดนับเงินไม่ทันเลย”

“แต่ถ้าทำแบบนั้นจะมีคนเดือดร้อนอีกเยอะเลยนะครับ”

ชาญยุทธไม่สนคำค้านของน้องชายบุญธรรม “ต้องสนใจทำไม โอกาสมาถึงแล้ว  ใครไม่ทำก็โง่ แล้วไม่ใช่แค่เรื่องเงินเท่านั้นนะ เราจะใช้โอกาสนี้พลิกกลับไปเล่นงานไอ้พันเดชให้จมดินไปเลย”

“พี่อ้ายจะใช้วิกฤตินี้บีบพวกนักเลงเหรอครับ”

“ฉลาดสมเป็นเสือ นักเลงไม่ว่าจะมือแน่แค่ไหนก็ต้องกินข้าว ถ้าข้าวยากหมากแพงขึ้นมาก็เดือดร้อนกันทุกคน คนที่กลับมาเข้าข้างเราจะได้ของไปกินไปใช้แล้วยังเอาไปขายต่อทำกำไรได้อีก ไอ้พันเดชไม่มีปัญญาทำแบบนี้ได้หรอก”

ทรงวาดอ้าปากจะปฏิเสธแต่ชาญยุทธก็ยกเรื่องเขาสอบตกเลือกตั้งมากดดัน

“เสือเลือกตั้งแพ้คราวนี้ทำให้พี่เสียหายไปมากนะ ยังไงพี่ก็ต้องถอนทุนคืน เสือต้องช่วยพี่!”

ooooooo

ทรงวาดไม่มีทางเลือกต้องทำตามคำสั่งชาญยุทธใช้เงินกว้านซื้อข้าวเพื่อกักตุนไว้ในโรงสี ห้ามไม่ให้มีการซื้อขายจนกระทั่งเกิดข่าวใหญ่บนหน้าหนังสือพิมพ์สองสัปดาห์ต่อมา ปิ่นมุกอ่านแล้วเข้าใจทุกอย่าง  รีบไปเอาเรื่องทรงวาดที่ยอมทำตามคำสั่งพี่ชายบุญธรรมแบบไม่สนว่าเป็นเรื่องผิดหรือถูก

“มันเป็นคำสั่งพี่อ้าย แล้วเงินที่เอามาใช้หมุนก็เป็นเงินของพี่อ้ายทั้งนั้นจะให้อั๊วทำยังไง”

คำตอบของทรงวาดยิ่งทำให้ปิ่นมุกหัวเสีย โต้เสียงเข้ม “แล้วพวกชาวบ้านหาเช้ากินค่ำล่ะเฮีย ของแพงขึ้นชั่วข้ามคืนอย่างนี้เขาจะทำยังไง ของอื่นยังพอทนแต่ข้าวนะเฮีย ไม่มีข้าวกินก็อดตาย”

“อั๊วขอย้ำอีกครั้ง เงินส่วนของอั๊ว อั๊วไม่เคยเอาไปซื้อสินค้ากักตุน แต่เงินพวกนี้เป็นของพี่อ้าย อั๊วไม่มีสิทธิ์ไปห้ามเขา ข้าวทั้งโกดังก็ของพี่อ้ายกว้านซื้อไว้ทั้งนั้น อั๊วจะทำอะไรได้”

“รู้ว่าคนอื่นทำผิดแล้วยังช่วย ถึงไม่ทำเองก็ไม่ต่างกันเท่าไหร่หรอกเฮีย”

ปิ่นมุกแหวด้วยความโมโห ทรงวาดเถียงไม่ออกเพราะสิ่งที่เธอพูดเป็นจริงทุกอย่าง

สถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆ โรงสีข้าวของทรงวาดกักตุนข้าวสารไว้จนล้นในขณะที่ชาวบ้านรวมกำลังอดตาย ทุกคนในบ้านทรงวาดโดยเฉพาะปิ่นมุกไม่มีใครสบายใจกับเรื่องนี้ หวิดขโมยข้าวไปขายหลายครั้งเพราะทนเห็นความลำบากของพวกชาวบ้านไม่ไหว สุดท้ายก็บากหน้าไปพูดกับทรงวาดอีกครั้ง

“อั๊วไม่รู้นะว่าลื้อไปเจออะไรมา   แต่จะพูดกี่ครั้งอั๊วก็พูดเหมือนเดิม มันไม่ใช่เงินอั๊ว อั๊วตัดสินใจอะไรไม่ได้ทั้งนั้น”

“อั๊วก็ไม่อยากพูดซ้ำเหมือนกัน อั๊วแค่จะบอกว่าตอนที่อั๊วถูกอาเจ็กของเฮียทำร้ายเฮียก็เลือกปกป้องอาเจ็ก ตอนนี้มีคนโดนทำร้ายเพราะการกักตุนสินค้าของพี่ชายเฮีย เฮียก็เลือกปกป้องพี่ชาย สิ่งที่เฮียทำมันคือความกตัญญูแต่ไม่ได้ยืนอยู่บนคุณธรรม อั๊วอาจจะอภัยให้เฮียได้แต่ตราบาปครั้งนี้มันจะไม่มีวันหายไปจากใจเฮียเลยตลอดชีวิต!”

ปิ่นมุกยังช่วยอะไรใครไม่ได้ แม้แต่อรุณรุ่งรุ่นพี่สาวคนสนิทที่ต้องช่วยพ่อรับศึกหนักลูกค้าแห่มาขายทองคืนเพราะสภาวะข้าวยากหมากแพง เหตุการณ์ที่ร้านทองทำให้ปิ่นมุกทนไม่ไหวหว่านล้อมก๊กไช้และสมาชิก

ที่เหลือในบ้านยกเว้นทรงวาดให้ขโมยข้าวในโรงสีไปขาย!

อ่านละคร ชาติเสือพันธุ์มังกร ตอนที่ 10 วันที่ 12 ธ.ค.61

ละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร บทประพันธ์โดย ปราณธร
ละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร บทโทรทัศน์โด: บทกร
ละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร กำกับการแสดงโดย กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร ผลิตโดย บริษัท ทีวีซีน แอนด์ พิคเจอร์ จำกัด
ละครเรื่อง ชาติเสือพันธุ์มังกร ออกอากาศทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ