อ่านละคร เพลิงพรางเทียน ตอนที่ 9 วันที่ 31 พ.ค.62

อ่านละคร เพลิงพรางเทียน ตอนที่ 9 วันที่ 31 พ.ค.62

“หมดไปหนึ่ง ที่เหลือฉันจะตีพวกแกให้กระเจิงทั้งคุ้มเลย คนเลว” กลินท์พึมพำสะใจ...

แพมบอกปติมาไม่ให้ทะเลาะกับอินทร์ ปติมาทำแล้วรู้สึกดีมาก บอกแพมว่าตนจะพยายามทำตามที่แพมบอก และหวังว่ากลินท์คงไม่ทำอะไรเพิ่มให้ตนสติแตกอีก

เวลานั้นกลินท์ยังอยู่เชียงใหม่ วนเวียนอยู่กับอดีตชาติ



กลินท์กลับบ้านอย่างสบายอกสบายใจ เจออุ่นเฮือนหน้าไม่สบายบอกว่าแม่ตัวร้อนมากเพ้ออยู่ในห้องรีบไปดูเร็ว กลินท์วิ่งขึ้นไปที่ห้องเห็นแม่นอนซมอยู่ ถามแม่เป็นยังไงบ้างตนกลับมาแล้ว แต่คำป้อไม่หือไม่อือเลยถามอุ่นเฮือนว่าที่บ้านมียาอะไรบ้าง มียาพาราลดไข้ไหม

อุ่นเฮือนบอกว่ามียาที่ต้มให้แม่กินทุกวันนั่นแหละส่วนยาอื่นไม่รู้จัก กลินท์บอกว่ายาที่พวกหมอฝรั่งให้ไง อุ่นเฮือนบอกว่าเราไม่มี แต่ที่เฮือนใหญ่เจ้าช่อเอื้องน่าจะมี หลายวันก่อนเห็นหมอฝรั่งที่เอ็งคุยด้วยมาที่นั่น

กลินท์จำได้ว่าเป็นหลุยส์ บอกอุ่นเฮือนให้เอาผ้าชุบน้ำเช็ดตัวให้แม่แล้วทำท่าจะไป อุ่นเฮือนถามจะไปไหน กลินท์บอกว่าไปขอยาเจ้าช่อเอื้องแล้วพรวดไปเลย

“อย่าไปสร้างเรื่องอีกนะเทียนคำ” อุ่นเฮือนเป็นห่วง กลินท์ไปถึงที่เรือนใหญ่ก็ตะโกน

“เจ้าช่อเอื้อง...เจ้าช่อเอื้อง”

พวกบ่าวไพร่ที่อยู่แถวนั้นมองขวับอย่างตกใจกับท่าทีที่ไม่ใช่เทียนคำคนเดิม มองหน้ากันต่างคิดว่าต้องมีเรื่องอีกแน่!

ooooooo

ไพคาออกมาเผชิญหน้ากลินท์ จนเมื่อเจ้าช่อเอื้องออกมาตวาดถาม

“มึงมาทำเสียงดังอะไรของมึง” กลินท์จ้องหน้า เจ้าช่อเอื้องฉุนขาดตวาดถามว่ากล้ามาขึ้นเรือนตนอีกหรืออีวอก กลินท์บอกว่าตนมาขอยาได้ยินว่าเจ้าแม่มียาหมอฝรั่งตนจะขอไปให้แม่กินหน่อย “มึงยังกล้ามาขอกูอีก อีเทียนคำ กูจะบอกอะไรให้...ต่อให้กูมีโอสถดียาทิพย์ ยาจัน ก็ไม่มีทางเอาให้มึง”

กลินท์อ้อนวอนว่าเจ้าแม่เกลียดตนก็เอาไว้ก่อน แต่ตอนนี้ขอเถอะ คนกำลังจะตาย เจ้าช่อเอื้องว่าคนบ้านนี้ตายเสียก็ดี ลำเลิกว่า “เจ้าน้อยไม่น่าช่วยชีวิตมึงไว้เลยอีสารเลว”

“เจ้าน้อยโกหก เจ้าน้อยไม่ได้ช่วยชีวิตฉัน คนที่ช่วยชีวิตฉันคือพ่อหนานแก้วต่างหาก เจ้าน้อยเองก็รู้แก่ใจ กล้าเอาดีใส่ตัวไม่มีความละอาย ไม่มีหัวจิตหัวใจ แม่ลูกเหมือนกันไม่มีผิด” ตราหน้าปรามาสว่า ที่เจ้าแม่หวังจะให้เจ้าน้อยเป็นหน่อเนื้อสืบสกุลของนครเชียงใหม่ไม่มีทางเป็นไปได้ “คุ้มแห่งนี้แทบจะไม่มีแม้แต่บันทึกในประวัติศาสตร์อีกร้อยปีข้างหน้าซะด้วยซ้ำ”

เจ้าช่อเอื้องตวาดถามว่ากล้าแช่งพวกตนหรืออีเทียนคำ กลินท์โต้ว่าไม่ได้แช่ง บอกว่า

“ฉันมาจากหน้าประวัติศาสตร์ที่พวกเธอไม่มีทางได้เห็น...รู้เอาไว้เลยนะ อีกไม่นานเชียงใหม่ก็จะเป็นอีกเมืองหนึ่งของสยาม”

ไพคาชี้หน้ากลินท์ด่าอีผีบ้าพูดจาอัปมงคลจะเข้าตบ กลินท์ว่าถ้าตบตนจะต่อยกลับเอาให้หนักกว่าด้วย ถามเจ้าช่อเอื้องว่าตกลงจะให้ยาตนไหม เจ้าช่อเอื้องยืนยันว่าไม่ให้ กลินท์บอกว่าไม่ให้ก็ไม่เอา แต่ลูกชายของเจ้าแม่ไม่มีทางได้ดีหรอก คอยดูก็แล้วกันว่าที่ตนพูดไว้จริงหรือเปล่า

เจ้าช่อเอื้องแช่งให้ครอบครัวเทียนคำวิบัติฉิบหาย กลินท์สวนทันควันว่าใครจะฉิบหายก่อนก็คอยดูแล้วสะบัดหน้าไปเลย เจ้าช่อเอื้องเอามือทาบอกทำท่าจะล้ม ไพคาปราดเข้าประคองพากลับไป ส่วนเจ้าเวียงสวรรค์ที่นอนป่วยอยู่เหนื่อยใจมาก เจ้าน้อยอยู่กับเจ้าวงเดือนมองหน้ากัน เจ้าวงเดือนถามว่า

“ข้าถามจริงๆ เทียนคำด่าว่าท่านขนาดนี้ ด่าเจ้าพ่อเจ้าแม่ขนาดนี้ ท่านยังอยากได้เทียนคำเป็นเมียอยู่หรือ”

เจ้าน้อยนิ่งจนเจ้าวงเดือนดูไม่ออกว่าเจ้าน้อยคิดอะไรอยู่

ooooooo

กลินท์มุ่งไปที่ประตูแสนปุง ถูกหลุยส์กระชากไว้อย่างแรงถามว่าจะรีบไปไหน กลินท์บอกว่าแม่ตนไม่สบาย กำลังจะไปซื้อยา แต่พอกลินท์บอกชื่อยาพาราเซตามอล หลุยส์ก็งง กลินท์บอกว่าเป็นยาลดไข้ หลุยส์จึงจะไปเอาที่ศาลาย่าแสงคำมา

“บ้านพักคุณอยู่ตั้งไกล งั้นฉันคงไม่มีเวลาแล้ว ฉันไปก่อนนะ” หลุยส์ถามว่าไปไหน “ที่ที่ฉันจากมาฉันไม่ได้เป็นคนเชียงใหม่ ฉันไม่ใช่เทียนคำที่คุณรู้จัก ฉันมาจากที่นี่เวลาผ่านคุณไปกว่าร้อยปีแล้ว ฉันมาจากอนาคต”

“มาจากอนาคตอะไรของคุณ”

“ฉันมาจากอนาคตจริงๆ ถ้าคุณอยากเจอฉันอีก คราวนี้คุณไปรอที่ประตูสวนดอกนะ ฉันจะไปที่ประตูนั้น รอฉันนะ ฉันจะกลับมา”

พูดจบกลินท์ก็วิ่งไปที่ประตูแสนปุง ยกมือไหว้แล้ววิ่งทะลุประตูไปท่ามกลางความตะลึงพรึงเพริดของหลุยส์

เจ้าน้อยถามคำแปงว่าคำป้อไม่สบาย เมื่อกี๊เทียนคำมาขอยาฝรั่งจากเจ้าแม่ถึงบนเรือน ถามว่าทำไมไม่บอกคำแปงให้มาบอกตน ตนจะได้แอบแบ่งยาเจ้าพ่อให้มาขอเจ้าแม่ตรงๆอย่างนี้รู้ก็รู้อยู่ว่าไม่มีทางได้

“เทียนคำร้อนใจขนาดนี้ คำป้อคงจะป่วยหนักจริงๆ”

“เลิกพูดมาก ทำตามที่ข้าสั่ง แล้วกลับมารายงานข้าด้วยล่ะ”

คำแปงพยักหน้ารีบวิ่งไป เจ้าน้อยมองตามอย่างเป็นห่วง

สายป่านจากไม่เคยเชื่อเรื่องที่กลินท์เล่าเลยก็เริ่มเชื่อเมื่อมีคนแชร์รูปกลินท์วิ่งออกมาจากประตูแสนปุงกลับมาแล้ว

กลินท์ตรงดิ่งไปที่ร้านขายยาสั่งทั้งยาลดไข้ ยาแก้อักเสบ ยาฆ่าเชื้อ ยาแก้เจ็บคอ ยาแก้ไอ พอได้ยาก็จะวิ่งกลับ เภสัชกรบอกยังไม่ได้จ่ายเงินทั้งหมด 569 บาท กลินท์หันมาหน้าแหยบอกขอติดไว้ก่อนเดี๋ยวตนจะกลับมาจ่าย เพื่อให้เชื่อถือบอกว่า “ฉันกลินท์ไงคะ จำได้หรือเปล่า”

เภสัชกรท่าทีอ่อนลงแต่เมียโผล่มาพูดเย้ยว่า ได้ข่าวว่าตอนนี้ถูกแบนไม่มีงาน เพราะไปเป็นเมียน้อยคุณอินทร์ กลินท์หน้าเสียเลยขอยืมโทรศัพท์บอกว่าจะโทร.ไปให้เพื่อนมาจ่ายให้ เมียเภสัชจึงยื่นโทรศัพท์ให้

กลินท์โทร.เข้ามือถือเบน พอดีเบนกำลังจะรีบไปที่ประตูแสนปุงเพื่อรับเธอ เห็นเบอร์แปลกๆเลยไม่รับ กลินท์จึงฝากข้อความ

“เบนคะ ฉันกลับมาแล้ว แต่ฉันต้องกลับไปอีก ฉันอยู่ที่ร้านขายยา...คุณช่วยมาจ่ายเงินค่ายาให้ฉันด้วยนะคะ ขอบคุณมากค่ะ”

เสียงเพจดังขึ้น ทันทีที่เบนเปิด เสียงกลินท์ก็บอกอย่างร้อนรนตามที่พูดไว้ สายป่านกับเน่ามองเบนเป็นตาเดียว เบนก็ตรงไปที่ร้านขายยาที่กลินท์บอก เภสัชกรบอกว่ากลินท์มาซื้อยาจริง แต่ไปไหนต่อตนไม่รู้ เบนจึงจ่ายค่ายาให้

ooooooo

ฝ่ายหลุยส์ไปยืนคอยอยู่ที่หน้าประตูสวนดอก แต่เบนนั่งเศร้ารออยู่ที่บ้านด้วยสีหน้าสับสน ร้อนใจ

กลินท์วิ่งจะกลับไปที่บ้านคำป้อเหนื่อยแทบหมดแรงแต่ก็กัดฟันกำซองยาร้องบอกทั้งที่ยังมาไม่ถึง

“ฉันกลับมาแล้ว...แม่”

หลุยส์มาถึงบ้านคำป้อพอดีเห็นกลินท์ก็ดีใจอุทาน “เทียนคำ”

“หลุยส์...คุณมารอฉันจริงๆด้วย” หลุยส์ส่งมือรับกลินท์ขึ้นเกวียน “ผมมารอคุณตั้งนาน นี่ก็ว่าจะกลับแล้ว แต่ห่วงเลยวนไปวนมาอยู่แถวนี้”

กลินท์ขอโทษสงสัยตนจะเหนื่อยมากจนหมดสติแต่ไม่เป็นไรแค่คิดว่าแม่จะได้กินยา ตนไม่เป็นอะไรแล้ว หลุยส์บอกว่าตนคิดว่าเธอจะเอายาไปให้เจ้าน้อยเสียอีก กลินท์ถามว่าทำไมตนต้องเอาไปให้เขา

“หลายวันก่อนผมเข้าไปที่คุ้ม ผมเห็นคุณ เจ้าน้อย แล้วก็ผู้ชายอีกคนนึงดูเหมือนมีเรื่องกัน...” กลินท์แซวว่าเขาไปเป็นหมอดูด้วยเลย “หนึ่งหญิงสองชายไม่ต้องเป็นหมอดูก็เดาออก”

“ใครบอกว่าหนึ่งหญิงสองชาย สามชายต่างหาก...

อีกหนึ่งคือคุณไง เสียดายวันนั้นฉันไม่เห็นคุณ ไม่งั้นทั้งเจ้าน้อย นายสิงห์ถูกปั่นหัวหนักกว่านี้แน่”

“คุณเห็นผู้ชายเป็นเหยื่อเหรอ?”

กลินท์บอกว่าคนอื่นอาจจะใช่แต่ไม่ใช่เขาและเบน หลุยส์งงว่าเบนคือใคร กลินท์บอกว่าผู้ชายอีกคนที่หน้าตาเหมือนเขา และเขากำลังรอตนอยู่ที่โลกของตน

กลินท์มองหลุยส์ดวงตาหวามไหว ดวงตาที่หลุยส์มองทีไรก็ใจสะท้านทุกที...

ขณะที่กลินท์ไปกับหลุยส์ในอีกมิติหนึ่งนั้น เบนในโลกของความเป็นจริงก็ยืนตากน้ำค้างรอกลินท์อย่างอดทน มองดวงจันทร์พึมพำ

“เคยแต่เล่นละคร...ไม่คิดจริงๆ ชีวิตจริงจะต้องมายืนทำเอ็มวี”

ooooooo

กลินท์ให้หลุยส์มาส่งที่บ้านคำป้อแล้วเดินนำเข้าไป หลุยส์มองรอบบ้านอย่างแปลกใจ ถามว่าเธอไม่ได้อยู่ที่คุ้มหรือ กลินท์ถามหยอกว่าจะหลอกถามตนว่าอยู่กับเจ้าน้อยหรือเปล่าล่ะสิ บอกหลุยส์ว่าตนไม่ได้เป็นเมียใครอย่างที่เขาเข้าใจ

หลุยส์เงียบ กลินท์ถอนใจบอกว่าก็น่าที่เขาจะเข้าใจอย่างนั้น เพราะที่เทียนคำถูกจิกหัวตบกลางตลาด ก็เพราะข้อหาเมียน้อย แล้วเดินขึ้นเรือนไป หลุยส์รีบตาม

ที่อีกด้านหนึ่ง คำแปงถือหม้อต้มยาโผล่มา เห็นเทียนคำขึ้นเรือนมากับหมอฝรั่งก็แปลกใจ คำแปงถือหม้อยาลังเล ในที่สุดก็ตัดสินใจเอาหม้อยากลับไป

กลินท์รีบเข้าห้องคำป้ออย่างเร็วด้วยความเป็นห่วงแม่ อุ่นเฮือนดีใจร้องทัก

“เทียนคำ พี่นึกว่าเอ็งจะไม่กลับมาแล้ว...แถมยังพาหมอฝรั่งมาด้วยคงได้ยาดีแน่ๆ”

กลินท์เข้าไปนั่งข้างๆคำป้อ หยิบยา ประคองแม่ขึ้นกินยา หลุยส์มองอย่างสงสัย

“แม่...ฉันได้ยามาจากหมอฝรั่งแม่กินหน่อยเถอะ จะได้หายไวๆ...พี่อุ่นเฮือนเอาน้ำให้แม่หน่อย” คำป้อถามว่ายาอะไรหน้าตาประหลาด “กินเถอะแม่รับรองว่าหายแน่ มันก็เหมือนยาลูกกลอนนั่นแหละ แม่กลืนเข้าไปแล้วก็กินน้ำตาม เดี๋ยวแม่ก็หาย”

หลุยส์ก็บอกให้กินเลย กลินท์ถามคำป้อว่ามีน้ำมูกหรือเปล่า

“ขี้มูกน่ะเหรอ? มี! นี่แม่ก็หายใจไม่ค่อยออก”

“งั้นก็กินยานี้อีกเม็ดนะแล้วก็นอนพักอย่าเพิ่ง

ลุกขึ้นไปไหน เพราะยานี้จะทำให้แม่ง่วงนอนมาก”

กลินท์เอายาลดน้ำมูกให้คำป้อกิน ทั้งหลุยส์และอุ่นเฮือนมองท่าทางคล่องแคล่วของกลินท์ หลุยส์มองฉลากยาอย่างสงสัย ส่วนอุ่นเฮือนบอกว่าไม่ยักรู้ว่าเอ็งรู้เรื่องยากับหมอฝรั่งด้วย กลินท์ตามน้ำไปว่าก็หมอฝรั่งเขาบอกอย่างนั้น ถามหลุยส์ว่าใช่ไหม

หลุยส์บอกว่าใช่ ไม่ต้องห่วง ยาของพ่อครูหลวงหายเร็ว อุ่นเฮือนเอ่ยทึ่งว่าเทียนคำเก่งจริงๆ บางทีเก่งจนตนคาดไม่ถึง

“ฉันพร้อมทำทุกอย่างเพื่อครอบครัวของเรานะพี่”

หลุยส์เห็นครอบครัวอยู่กันอย่างห่วงใยรักใคร่ก็ขอตัวกลับ แม่เธอจะได้พักผ่อน

“ขอบคุณนะหมอ” อุ่นเฮือนมองตามหลุยส์กับกลินท์อย่างโล่งใจ

เป็นสายตาแบบเดียวกับที่สายป่านมองกลินท์ขณะอยู่กับเบนผิดกับที่มองกลินท์ขณะอยู่กับอินทร์

ooooooo

กลินท์เดินมาส่งหลุยส์ ทันทีที่อยู่กันสองคน

หลุยส์ถามว่าตกลงยาพวกนั้นเธอได้มายังไง กลินท์บอกว่าเรื่องมันยาวเขาพร้อมจะฟังหรือเปล่า ดูออกจะบ้าไปหน่อยแต่สำหรับตนมันคือความจริง

“เล่าให้ผมฟัง แล้วผมจะบอกเองว่าคุณบ้าหรือไม่บ้า”

พอฟังกลินท์เล่าแล้ว หลุยส์บอกว่ามันมหัศจรรย์เหลือเกิน ถามว่าเธอมาจากโลกอนาคตจริงหรือ? กลินท์ถามว่า “แล้วคุณเชื่อในสิ่งที่ฉันเล่าหรือเปล่าล่ะ?”

“เชื่อ หลายอย่างมันบอกผมอย่างนั้น แล้วผมก็ไม่รู้ว่าคุณจะโกหกผมทำไม”

กลินท์ขอบคุณหลุยส์ที่เชื่อตน เล่าว่าในยุคของตนมีความก้าวหน้าพัฒนาไปทุกๆด้าน คุยด้านต่างๆให้ฟังแล้วคาดฝันว่าอีกไม่กี่ปีโลกของตนก็จะมีโรงแรมอยู่กลางอวกาศให้คนพัก หลุยส์ถามว่า

“พวกคุณขึ้นไปถึงดวงจันทร์แล้วพระเจ้ายังอยู่กับพวกคุณไหม”

“พระเจ้าหรือแม้แต่พระพุทธเจ้าไม่เคยไปไหน มีแต่มนุษย์เรานี่แหละทำตัวไกลจากพระองค์ การที่ฉันได้กลับมายุคนี้ทำให้ฉันได้เรียนรู้ว่าคนเรามีอดีต

แม้จะไม่เจริญแต่ความเชื่อในศาสนาที่เคร่งครัด ไม่ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้า พระเจ้า หรือแม้แต่ผีบ้านผีเรือน

สิ่งเหล่านี้กลับเป็นกรอบที่ทำให้คนปฏิบัติแต่สิ่งดีไม่กล้าทำสิ่งที่ผิด”

“มันก็ไม่ทุกคนหรอก ไม่อย่างนั้นคุณจะโดนทำร้ายหรือ”

“ฉันหมายถึงพ่อแม่พี่สาวฉันต่างหาก อ้อ...และคุณด้วยหลุยส์ ศรัทธาที่เข้มแข็งของคุณทำให้คุณเป็นคนดี ในขณะที่โลกที่ฉันจากมา ผู้คนเริ่มขาดศรัทธาที่จะทำความดี จึงทำผิดกันมากมาย รวมทั้งฉันด้วย...”

หลุยส์มองงงๆ กลินท์ขอบใจหลุยส์ สัญญาว่าไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนตนจะคิดถึงเขา เขาจะอยู่ในใจตนตลอดไป หลุยส์ถามว่าเธอพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง

“ฉันอาจจะเหลือเวลากลับมาที่นี่อีกเพียงครั้งเดียวก็เป็นได้ ที่ฉันศึกษามา เชียงใหม่มี 5 ประตู คือ 1.ประตูเชียงรากหรือประตูท่าแพ 2.ประตูเชียงใหม่ 3.ประตูแสนปุง ประตูที่เกิดเรื่องราวจนทำให้ฉันต้องกลับมาที่นี่ 4.ประตูสวนดอก และ 5.ประตูช้างเผือก ที่ผ่านมาฉันใช้มันไปแล้ว 4 ประตู”

หลุยส์ถามว่าเหลืออีกแค่ประตูเดียวที่เธอจะต้องกลับไป ตนไม่อยากให้เธอกลับไปเลยเพราะคุยกับเธอแล้วสนุก ตนอยากรู้เรื่องอนาคต

“เอาไว้ฉันจะเล่าให้ฟังนะ แต่รู้ไว้...ในโลกของอนาคต ‘คุณก็ยังอยู่กับฉัน’ เหมือนเดิม”

หลุยส์ฟังแล้วเขินอย่างไม่รู้สาเหตุ ไพคาแอบดูทั้งสองแล้วแจ้นไปฟ้องเจ้าช่อเอื้องว่า

“อีเทียนคำมันอยู่กับหมอฝรั่งเจ้าค่ะ”

เจ้าช่อเอื้องตาเขียวปั้ดลิ่วไปที่บ้านคำป้อทันที ด่ากลินท์ว่าสำออยร้อยเล่ห์ พอตนไม่ให้ยาก็มาเอายากับหมอฝรั่ง กลินท์โต้ว่าถึงเป็นฝรั่งมังค่าแต่ยังมีน้ำใจช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ผิดกับคนที่อยู่ในเขตรั้วคุ้มเดียวกันแต่ไม่คิดช่วยแถมยังแช่งให้ตายกันทั้งบ้านอีกด้วย

เจ้าช่อเอื้องด่ากลินท์ว่าอีโคมเขียว ยั่วเจ้าน้อยจนอดใจไม่ได้ ถามหลุยส์ว่าแล้วหมอฝรั่งมาที่นี่พ่อครูหลวงท่านไม่ว่าอะไรหรือ หลุยส์บอกว่าไม่ ก็ถามว่า ไม่ว่าเพราะท่านไม่รู้ที่เอายามาแจกคนอื่นไปเรื่อยระวังท่านรู้แล้วจะด่าเอา หลุยส์บอกว่าพ่อครูหลวงไม่เคยหวงยา คราวที่แล้วก็มาแจกเชื้อพระวงศ์หลายคนรวมทั้งเจ้าเวียงสวรรค์ด้วย

“เจ้าช่อเอื้องมีเยอะ แต่จะเก็บไว้กินเองเวลาป่วยใกล้ตายน่ะหลุยส์” กลินท์แช่งแล้วชวนหลุยส์กลับ ขอบคุณเรื่องยาและหวังว่าเราจะได้เจอกันอีกเร็วๆนี้

พอหลุยส์ลากลับ เจ้าช่อเอื้องก็จะตบกลินท์ กลินท์สะอึกท้าว่าเอาสิตบมาตนตบกลับ เจ้าช่อเอื้องชะงักเรียกไพคาให้ตบแทน แต่ไพคาบอกว่าไว้วันหลังเถอะ ป่านนี้เจ้าพ่อเวียงสวรรค์คงรอแล้ว

“จะนัดตบวันไหนก็นัดมา...จะรอ” กลินท์ตะโกนเย้ย เจ้าช่อเอื้องสะบัดไปอย่างหัวเสีย

เจ้าเวียงสวรรค์ป่วยหนัก เจ้าวงเดือนบอกเจ้าช่อเอื้องว่า

เจ้าพ่อบอกว่ายาหมดตั้งแต่เมื่อคืน ตนจะไปขอยาจากหมอฝรั่ง เจ้าช่อเอื้องเข้าไปดูเจ้าเวียงสวรรค์ เห็นนอนซมก็จะไปขอยาหมอฝรั่งมาให้ เจ้าเวียงสวรรค์บอกว่าตนกินยาสมุนไพรแล้วเดี๋ยวก็คงหาย “แต่ที่ข้ากลัวมากกว่า...”

“เรื่องคำสัญญาที่ท่านให้ไว้กับหนานแก้ว??” เจ้าเวียงสวรรค์พยักหน้า “ท่านไม่ต้องห่วงหรอก อีเทียนคำมันแข็งแรงจะตาย มันไม่ตายด้วยฝีมือใครง่ายๆ ดีไม่ดีมันนั่นแหละจะมาฆ่าพวกเราให้ตาย ท่านไม่น่ารับมันมาเลี้ยงไว้เลย มันไม่เคยสำนึกบุญคุณพวกเราเลย แถมยังเถียงฉอดๆว่าให้ไปถามเจ้าน้อยว่าใครกันแน่ที่ช่วยมันรอดพ้นจากคมเขี้ยวเสือในป่า...อีเนรคุณ”

“เพราะทุกคนไม่รู้ความจริงไงล่ะช่อเอื้อง ต่างคนต่างพูด ความจริงคืออะไรเลยไม่มีใครรู้ แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านรู้ ท่านก็เลยลงโทษ และพิสูจน์ให้เห็นว่าคนไหนเป็นคนพูดจริง พูดเท็จ” เจ้าช่อเอื้องเปรยว่าท่านพูดเหมือนไม่เชื่อใจลูก “ท่านก็ลองนึกดูสิเจ้าช่อเอื้อง เด็กน้อยขี้คุยอย่างเจ้าน้อยเทวาฤทธิ์น่ะเหรอ จะสามารถไล่เสือได้

ข้าว่า...ที่ข้าต้องมานอนซมด้วยพิษไข้แบบนี้เพราะข้าผิดสัญญาที่เคยให้ไว้กับหนานแก้ว”

“เพ้อเจ้อ”

“ข้าไม่ได้เพ้อเจ้อ ข้าทำตามที่รับปากกับหนานแก้วไม่ได้ ข้าเลยต้องนอนซมรอวันตาย”

“จะแช่งตัวเองทำไม เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ข้าจะให้บ่าวไปขอยาที่คุ้มหลวงมาให้ ยังไงยาที่คุ้มหลวงก็คงดีกว่ายาสมุนไพร”

เจ้าเวียงสวรรค์เงียบแต่แววตาเต็มไปด้วยความเครียด ...กังวล

ooooooo

อ่านละคร เพลิงพรางเทียน ตอนที่ 9 วันที่ 31 พ.ค.62

ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน บทประพันธ์โดย หัสวีร์
ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน บทโทรทัศน์โดย ปานตะวัน
ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน กำกับการแสดงโดย วรวิทย์ ศรีสุภาพ
ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน ผลิตโดย บริษัท กู้ด ฟีลลิ่ง จำกัด
ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน ควบคุมการผลิตโดย สมจริง ศรีสุภาพ
ที่มา ไทยรัฐ