อ่านละคร เพลิงพรางเทียน ตอนที่ 2 วันที่ 14 พ.ค.62
แม่ชีบอกว่าในเมื่อเราควบคุมคนอื่นไม่ได้ก็มีแต่ต้องปล่อยวาง เพราะบางอย่างมันเป็นเรื่องของเวรกรรมที่ผูกกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน แม่ชีขอบใจสายป่านที่ช่วยดูแลกลินท์แทนแม่ สายป่านถามว่าเมื่อไหร่แม่ชีจะให้อภัยและกลับไปอยู่กับลินท์“ไม่ว่าชาตินี้ชาติไหนแม่ให้อภัยลินท์เสมอ แม่ถึงได้ถือศีลภาวนาเพื่อให้ลินท์หลุดพ้นจากการหลงผิดทั้งปวง อดทนหน่อยนะป่าน วันไหนที่ลินท์พ้นวิบากกรรมลินท์จะรู้เองว่าสิ่งที่ลินท์ทำมันคือความผิดอย่างมหันต์”
สายป่านกลัวว่ากว่าจะถึงวันนั้นลินท์จะเดือดร้อนจนอยู่ในวงการอีกไม่ได้
ดุษฎีแม่ของอินทร์รู้เรื่องอินทร์กับกลินท์จากสื่อก็เตือนอินทร์ขณะกินข้าวกันโดยมีปติมาอยู่ด้วย ดุษฎีเตือนอินทร์ แต่อินทร์ก็ปฏิเสธว่าไม่มีอะไร ถ้าเป็นจริงติ๊คงเอาตนตายแน่ ปติมาก็ยิ้มแย้มพูดปกป้องอินทร์ว่าข่าวบันเทิงก็แบบนี้แหละตีข่าวใหญ่ให้ดูน่าสนใจ
แต่พอลับหลังดุษฎี ปติมาก็สวมวิญญาณโหดถามอินทร์ว่ารู้แล้วใช่ไหมถ้าเป็นเรื่องจริงตนเอาเขาตายแน่และ “ไม่ใช่แค่คุณที่ตาย แต่กลินท์จะตายด้วย” พูดแล้วเดินไปเลย อินทร์ยิ้มอย่างไม่ยี่หระกับคำขู่ของปติมา
แพมถามปติมาว่ากล้าพูดกับอินทร์ขนาดนี้เชียวหรือ ถามว่าปล่อยอินทร์ให้อยู่เชียงใหม่อย่างนั้นไม่กลัวหรือว่าเขาจะแปลงร่างไปไหนมาไหนกับกลินท์ ปติมาเชื่อว่าอินทร์กลัวแม่มากคงไม่กล้าทำอย่างนั้น
สายป่านบอกกลินท์ว่าเมื่อวานตนไปหาแม่ชีมา แม่ชีบอกว่าการที่คนเราได้มาเจอกันมันเป็นเพราะกรรมเก่า เปรยๆว่า
“ไม่รู้ว่าชาติก่อนเธอกับแม่ชีทำเวรทำกรรมอะไรต่อกันไว้ ชาตินี้เธอถึงได้ทำผิดต่อท่านอย่างมหันต์” กลินท์บอกว่าพ่อต่างหากเป็นคนผิดไม่ใช่ตน “แต่ถ้าเธอไม่เลือกที่จะไปอยู่กับเมียใหม่ของพ่อเธอที่รวยกว่า มีทุกอย่างที่เหนือกว่าแม่ชี ท่านก็คงไม่เจ็บปวดถึงขั้นต้องปลีกวิเวกไปบวชอยู่แบบนี้ เฮ้อ...เรื่องอินทร์ก็เหมือนกัน”
“พอเหอะ! ด่าฉันทีละเรื่อง แค่นี้ฉันก็สำนึกผิดไม่ทันแล้ว และขอร้อง อย่าพูดถึงอินทร์อีกได้ไหม วันที่เธอมีความรัก เธอจะเข้าใจว่าความรักมันห้ามกันไม่ได้”
“ได้สิ ทำไมจะไม่ได้ เหมือนอย่างตอนนี้ที่ฉันไม่คิดจะรักใคร เพราะฉันกลัว กลัวจะหลงผิดอย่างเธอ”
สายป่านเดินออกจากห้องไป กลินท์มองตามอย่างขัดใจสุดๆ
วันนี้กลินท์นัดเบนที่ร้านกาแฟ ขณะรอเบน กลินท์อ่านข่าวจากไอแพด “กลินท์ฉาว มือดีแฉไม่หยุด มั่วผัวรุ่นพี่” แต่ข้อความคอมเมนต์ส่วนใหญ่ยังเข้าข้างกลินท์ว่ากลินท์เป็นนางเอกไม่มีทางทำอย่างนั้นแน่...ใครจะบ้าแย่งผัวคนอื่น ฯลฯ แต่ข้อความต่อมากลับตำหนิ กระทั่งด่าว่า เห็นเงียบๆนางอาจฟาดเรียบก็ได้...คอนเฟิร์มว่าจริงหลักฐานออกมาเมื่อไหร่กลินท์ตายแน่...ทีมติ๊
คนรอบข้างในร้านกาแฟต่างมองกลินท์ด้วยสายตาแปลกๆ พอดีเบนเข้ามาเห็นกลินท์ก็รีบเดินเข้าไปนั่งด้วย แกล้งขอโทษที่ปล่อยให้คอยแล้วโอบเบาๆอย่างสนิทสนมเหมือนคู่รัก สร้างภาพให้ดูเหมือนคนรักแล้วจับมือพากลินท์ลุกไป ท่ามกลางสายตางุนงงของคนในร้านมองอย่างสงสัยว่า...ยังไงกันแน่
พอเดินออกมานอกร้านกลินท์บอกให้ปล่อยมือตนได้แล้ว เบนเย้าว่าลืมไปว่าตนไม่ใช่อินทร์เตือนว่า
“คุณก็รู้ว่าถูกจับตามองอยู่ แล้วคุณจะเอาชื่อเสียงของคุณไปเสี่ยงกับเรื่องพรรค์นี้ทำไม” เบนยอมรับว่าที่ตนยุ่งกับเรื่องของเธอเพราะเป็นห่วง ห่วงเพื่อนร่วมอาชีพของตน ขืนมีแต่เรื่องฉาวๆแบบนี้ผู้ชมจะว่าเอาได้ว่าวงการบันเทิงมีแต่เรื่องฉาวๆคาวๆ
เบนพูดแล้วเดินไปเลย กลินท์มองตามฮึดฮัดขัดใจ จนผู้คนที่เดินผ่านไปมาพากันมอง
คืนนี้กลินท์โทร.ไปหาอินทร์บอกว่าตนทนไม่ได้แล้ว อยากหนีไปที่ไหนก็ได้ไกลๆ ไปในที่ที่มีเราเพียงสองคน อินทร์รับสายกลินท์แต่พอดีดุษฎีเดินมาเขาจึงทำเป็นพูดเป็นการเป็นงานว่า วันนี้ตนอยู่เชียงใหม่ไม่สะดวกจริงๆ เดี๋ยวจะดูเวลาให้ พรุ่งนี้จะได้ไหม อินทร์พูดเป็นการเป็นงานไม่กล้าหวาน
กลินท์ดีใจรีบบอกว่าวันไหนก็ได้ ดุษฎีมองอินทร์อย่างสงสัย รุ่งขึ้นก็ให้ปติมาเช็กว่าพรุ่งนี้อินทร์มีงานที่ไหน เพราะได้ยินว่านัดกับใครสักคนถ้าเป็นเรื่องงานก็ไม่ว่าอะไรกลัวแต่จะเป็นข่าว “อินทร์กับกลินท์”
ปติมาให้แต้วรุ่นน้องช่วยเช็ก รู้ว่าอินทร์จะไปภูเก็ต ส่วนผู้หญิงคนนั้นมีรายชื่อสำรองที่นั่งแต่คนละไฟลท์แต่ไปภูเก็ตเหมือนกัน ปติมาฟังแล้วแววตาโกรธแค้นกำมือแน่น
ooooooo
คืนนี้กลินท์นอนหลับโดยมีปิ่นทองที่อินทร์ให้วางอยู่ข้างหมอน ท่ามกลางความมืด ปิ่นทองส่องแสงกระทบกับใบหน้ากลินท์แวววาว
กลินท์ฝันเห็นเหตุการณ์ในอดีต...เทียนคำ อดีตชาติของกลินท์ซุกตัวอยู่ในซอกหลังกำแพงดินรอบๆเต็มไปด้วยต้นไม้รกทึบ ร่างบอบบางของเทียนคำเต็มไปด้วยบาดแผลจากการโบย ผมกระเซิงปิดใบหน้าจนมองไม่เห็นใบหน้าที่แท้จริง เทียนคำในสภาพสาหัสร้องแผ่วเบาเหมือนจะขาดใจ
“เจ้าน้อย...ช่วยด้วย...เจ้าน้อย...ช่วยด้วยยยย”
กลินท์ที่นอนหลับอยู่พึมพำประโยคเดียวกันจนสะดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์จากภายนอกดังเข้ามา
สายป่านวิ่งออกมาจากห้องน้ำมารับสาย เธอตกใจเมื่อปลายสายคือปติมา ปติมาที่หน้าตาอิดโรยเหมือนไม่ได้นอนมาทั้งคืนบอกสายป่านว่า เพื่อนบอกว่าคุณอินทร์จะบินไปภูเก็ตเย็นนี้ มีชื่อกลินท์ไปด้วย ถามว่าวันนี้ป่านมีงานที่นั่นเหรอ สายป่านอึกอักตั้งตัวไม่ทัน ปติมาตัดบทว่า
“ถ้าป่านไม่ได้พาบินไปทำงานที่ภูเก็ต พี่ขอร้องนะป่าน พี่ไม่อยากทำอะไรรุนแรงกับลินท์จริงๆ”
“ค่ะพี่ติ๊...ป่านขอโทษแทนลินท์ด้วยนะคะ”
สายป่านตอบ ทั้งเจ็บทั้งอายแทนกลินท์
สายป่านเข้าไปหากลินท์ที่ห้องทันที เห็นมือกลินท์ถือชุดบิกินีกำลังจะใส่กระเป๋าเดินทางก็ตรงเข้าปัดอย่างโกรธจัด เสียงเข้มใส่ว่า
“หยุดได้แล้วลินท์ จะหน้าด้านไปถึงไหน...พี่ติ๊โทร.มาขอร้องไม่ให้เธอไปภูเก็ตกับผัวเขา”
“แล้วทำไมพี่ติ๊ไม่ขอร้องผัวเขาล่ะ หรือว่าขอแล้วแต่ผัวไม่ยอม” สายป่านโกรธสุดขีดคว้าบิกินีปาใส่หน้ากลินท์อย่างจัง “ฉันอยากจะรู้ กินหมามุ่ยเข้าไปรึไง เธอถึงได้คันขนาดนี้”
สายป่านเขย่าตัวกลินท์อย่างแรงแล้วผลักออกไป กลินท์มองสายป่านพูดอย่างตัดพ้อ
“ฉันก็แค่อยากอยู่กับคนที่ฉันรัก จริงๆคนที่เธอควรขอร้องไม่ใช่ฉัน แต่ต้องเป็นพี่ติ๊ เธอต้องไปพูดกับพี่ติ๊ให้เขาออกมาแถลงข่าวนะป่าน ว่าเขาเลิกกับอินทร์แล้ว เขาไม่ได้เป็นอะไรกับอินทร์แล้ว ฉันจะได้ไม่ต้องอยู่ในสภาพนี้อีก”
ooooooo
การโต้เถียงอย่างดื้อรั้นของกลินท์ถูกสายป่านโกรธจนตบหน้าหันพูดน้ำตาคลอว่าไม่คิดว่ากลินท์จะเป็นได้ถึงขนาดนี้แล้วร้องไห้โฮออกมาจนกลินท์ก็ร้องไห้ไปด้วย อ้อนขอให้สายป่านเห็นใจตนบ้างตนไม่ได้ทำอะไรผิด สายป่านถามว่าไม่ผิดแล้วทำไมต้องหลบๆซ่อนๆ
สายป่านขอกลินท์รอให้อินทร์บอกเลิกกับพี่ติ๊ก่อนถึงวันนั้นตนจะไม่ห้ามเลย แต่ตอนนี้อย่าทำให้คนทั้งประเทศด่าเลย ถ้าพี่ติ๊ออกมาแฉว่าเธอคบกับผัวเขาเมื่อไหร่เธอจะไม่มีที่ยืนจริงๆ ย้ำเมื่อเห็นกลินท์อึ้งสับสนว่า
“ที่สำคัญ ถ้าอินทร์เขารักเธอจริงๆ เขาต้องเป็นคนเทกแอ็กชันที่จะเลิกกับเมียเขา ไม่ใช่เธอ”
ฝ่ายปติมาบินไปหาดุษฎีที่เชียงใหม่เล่าเรื่องอินทร์กับกลินท์ให้ฟังบอกว่าตอนนี้ตนไม่ไหวแล้วจริงๆ ดุษฎีบอกว่าแม่เข้าใจ และถ้าเป็นแม่ แม่จะไม่มานั่งร้องไห้อย่างนี้ แต่แม่จะบุกไปฉีกหน้าผู้หญิงคนนั้นเลย บอกให้ปล่อยมันสำเริงสำราญไปก่อนเดี๋ยวแม่จะจัดการเอง ดูซิว่ามันจะทำหน้ายังไงถ้าเห็นว่าติ๊กับอินทร์ยังรักกัน
อินทร์ได้รับโทรศัพท์จากกลินท์บอกว่าตนไปภูเก็ตกับเขาไม่ได้แล้วเพราะพี่ติ๊โทร.มาขอร้องกับป่านไม่ให้ตนไปกับเขา บอกให้เขาต้องรีบไปคุยกับพี่ติ๊ ถ้าเขาทำไม่ได้ตนก็จะไม่พบเขาอีก ต้องประกาศให้รู้กันว่าเขากับพี่ติ๊ไม่ได้เป็นอะไรกัน
สายป่านยืนอยู่ด้านหลังกลินท์ปรบมือชมว่ามันต้องอย่างนี้สิ กลินท์ถามว่าถ้าอินทร์อยากเลิกแต่พี่ติ๊ไม่ยอมเลิกล่ะ? สายป่านบอกว่าถ้าอินทร์ทำไม่ได้ เธอก็อย่าใจอ่อนออกไปพบเขา แต่ก็มีเหตุที่เหมือนโชคชะตาเล่นตลกเมื่อป้าก็อตจัดงานที่เชียงใหม่และขอคิวลินท์ด้วย กลินท์ตาเป็นประกายอย่างมีความหวังขึ้นมาทันที
เป็นงานบูชาพ่อขุนเม็งราย งานนี้เบนอยากเรียนรู้งานเบื้องหลัง ป้าก็อตจึงให้เบนมาช่วยบรีฟสคริปต์ให้ลินท์ พวกนักข่าวที่ตามจิกข่าวกลินท์มากันเพียบงานนี้เบนเลยทำตัวสนิทสนมกับกลินท์กลบเกลื่อนกระแส แต่นักข่าวไม่เชื่อ ตูบศักดิ์ถามว่าเป็นการสร้างกระแสเพื่อเบี่ยงเบนรักสามเส้าของกลินท์หรือเปล่า
ขณะกลินท์กำลังถูกนักข่าวจิกแซะอยู่นั้น ป้าก็อตก็มาเรียกไปแต่งตัวช่วยชีวิตไว้
เมื่อป้าก็อตหยิบเครื่องประดับออกมา เจ้ากรรม! ปิ่นที่จะให้กลินท์ปักเกี่ยวเครื่องประดับชิ้นอื่นหัก แต่โชคดีที่กลินท์เอาปิ่นทองของตนมาด้วย ป้าก็อตดีใจมากรับไปดูอุทานว่าสวยมาก นี่เป็นปิ่นทองของโบราณแบบล้านนา ถามว่าลินท์ได้มาจากไหน กลินท์บอกว่ามีคนให้มา ป้าก็อตเดาว่าต้องเป็นคนพิเศษแน่เลย คำว่า “คนพิเศษ” ทำเอากลินท์ยิ้มปลื้มมาก
ป้าก็อตจะปักปิ่นที่ผมกลินท์ ขณะนั้นเองดุษฎีเดินเข้ามาพร้อมกับปติมาและแพม ทันทีที่ปักปิ่นที่ผม สายตาของกลินท์ก็พร่าเห็นดุษฎีกับปติมาในชุดโบราณเดินเข้ามาดูยิ่งใหญ่มี แต่แพมที่แต่งตัวในชุดบ่าวไพร่ ดวงตาของทั้งสามบอกถึงความเป็นศัตรูกับกลินท์อย่างเปิดเผย! ทุกคนพุ่งเข้าหากลินท์อย่างประสงค์ร้าย
ที่แท้ทุกคนที่มาเจอกันล้วนเกี่ยวพันกันในอดีตชาติ ดุษฎีคือเจ้าช่อเอื้อง ปติมาคือเจ้าวงศ์เดือน และแพมคือไพคา ทั้งสามพุ่งเข้าหากลินท์ ป้าก็อตปักปิ่นที่ผมให้กลินท์ เธอเจ็บปวดกรีดร้องออกมาสุดเสียงร่างทรุดลง เบนที่อยู่ใกล้กระโจนเข้าประคองก่อนจะล้มหัวฟาดพื้น ป้าก็อตให้เบนอุ้มร่างกลินท์ไปอีกห้องหนึ่ง ในขณะที่ดุษฎี ปติมาและแพมมองหน้ากันงงๆแบบว่ากลินท์จะมาไม้ไหน
เบนอุ้มกลินท์ไปยังอีกห้อง ทั้งสายป่านและเบนถามกลินท์ว่าเกิดอะไรขึ้น กลินท์ตอบงงๆว่าเมื่อกี๊รู้สึกเหมือนคนจะฆ่าตน คลำที่หน้าอกเหมือนยังรู้สึกเจ็บ
แพมเดินเข้ามามองกลินท์พูดอย่างสมเพชว่า สงสัยจะเป็นเจ้ากรรมนายเวรซะละมั้ง สายป่านไม่พอใจถามว่าทำไมพูดอย่างนี้
“เอ๊า! ก็หรือไม่จริง กลินท์ก็ไม่ใช่คนดีซักหน่อย ตั้งหน้าตั้งตาแย่งผัวชาวบ้านเขา มันก็เป็นเรื่องปกติที่จะต้องมี ‘เจ้ากรรมนายเวร’ คอยตามมารังควาน”
แพมจงใจฉีกหน้ากลินท์ต่อหน้าเบน พูดลอยๆว่านี่ถ้าลินท์รู้ว่างานนี้คุณแม่ของอินทร์จัดขึ้นเพื่อให้ลินท์เห็นกับตาว่าคุณอินทร์กับติ๊ยังรักกันอยู่ ลินท์จะกลั้นใจตายหรือเปล่า แฉว่ากลินท์ทำตัวเป็นแมวขโมยจะงาบคุณอินทร์ไปภูเก็ต
แพมแฉจนกลินท์กับสายป่านหน้าเสีย ก็หัวเราะเยาะว่าทุกคนยังเมตตาลินท์จึงไม่ปล่อยให้ไปภูเก็ตกันเลยจ้างป้าก็อตจัดงานขึ้นมาเตือนสติกลินท์ ท่านจึงเลือกให้ลินท์มาร่วมงานเพื่อฉีกหน้าลินท์โดยเฉพาะ
แพมแฉแล้วหมุนตัวออกไป กลินท์โกรธจนกำมือแน่น จิกตามองตามอย่างเดือดดาล
ดุษฎียังเร่งให้อินทร์มางานเพื่อประกาศให้สังคมรู้ว่าอินทร์กับติ๊ยังรักกันดี ไม่ได้แยกกันอยู่ ปรามว่า
“ถ้าไม่อยากให้แม่โกรธก็รีบมาเดี๋ยวนี้!”
กลินท์ในชุดล้านนาสวยงาม แต่สีหน้าหม่นหมองเป็นทุกข์เมื่อคิดถึงเรื่องที่เห็น สายป่านเดินเข้ามากระซิบว่า เห็นไหมว่าการกระทำทุกอย่างส่งผลต่อผู้กระทำทั้งนั้น ชี้ตรงๆว่า
“ถ้าเธอไม่ไปยุ่งกับผัวเขา เธอก็ไม่ต้องตกอยู่ในเกมของพวกเขาแบบนี้หรอก” พูดแล้วเห็นกลินท์ทำหน้าเหมือนไม่สนใจถามว่าเธอฟังอยู่หรือเปล่า กลินท์ขอทำงานก่อนได้ไหมได้เวลาแล้ว เมื่อกลินท์พร้อม เบนจึงส่งมือให้ รับพาออกไปยังเสลี่ยงที่รออยู่ เบนบอกกลินท์ก่อนไปถึงเสลี่ยงว่า
“เต็มที่นะลินท์ ขบวนกลอง ขบวนช่างฟ้อนจะพาคุณข้ามถนนผ่านประตูท่าแพ พอไปถึงเขาจะวางเสลี่ยงลง คุณก็เดินจากเสลี่ยงถือพานเดินผ่านขบวนนางรำขึ้นไปบนเวที”
กลินท์พยักหน้ารับทั้งที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวนัก
ooooooo
อ่านละคร เพลิงพรางเทียน ตอนที่ 2 วันที่ 14 พ.ค.62
ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน บทประพันธ์โดย หัสวีร์ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน บทโทรทัศน์โดย ปานตะวัน
ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน กำกับการแสดงโดย วรวิทย์ ศรีสุภาพ
ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน ผลิตโดย บริษัท กู้ด ฟีลลิ่ง จำกัด
ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน ควบคุมการผลิตโดย สมจริง ศรีสุภาพ
ที่มา ไทยรัฐ