อ่านละคร แรงเงา 2 ตอนที่ 3

อ่านละคร แรงเงา 2 ตอนที่ 3

นพนภาพยายามไม่ใช้อคติเดิมๆตัดสินมุนินทร์แต่ภาพถ่ายกับคลิปของอีกฝ่ายกับเจนภพสามีสุดที่รัก ซึ่งถูกถ่ายที่อังกฤษระหว่างเวลาสองปีที่เธอนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลก็ทำให้อดหวั่นไหวไม่ได้

แม้ว่าภาพเหล่านั้นสร้อยคำจะยืนยันว่าไม่มีอะไรเกินเลยแต่นพนภาก็ระแวงเพราะดันไปได้ยินบทสนทนาของนภางค์กับต้อมเรื่องเธออาละวาดกลางสตูดิโอรายการเมื่อวันก่อน

“เรื่องที่แม่แกเห็นยัยนภิศมาเดินแว่บๆในรายการวันนั้นน่ะยายว่าแม่แกมโนไปเอง จริงๆไม่ใช่นังนภิศหรอก มันต้องนังมุนินทร์นี่แหละ”



“หา...คุณยายขา คุณยายมโนมากกว่าแม่แล้วมั้งคะ”

“ไม่มโนยัยต้อง...เรื่องแม่แกโดนรังควานทั้งหมดนี่คนที่คิดแค้นมีอยู่คนเดียวคือนังมุนินทร์ คิดสิ...คลิปยัยต้อมที่ไปหลุดในรายการของยายมันลีลาเดียวกับที่นังมุนินทร์มันเคยทำไว้...วันแม่แกเปิดผับเดอะซ่องไง”

“เดอะซองค่ะยาย ใช่ค่ะ...คลิปพ่อซื้อรถให้คุณพี่เขาแล้วนัวเนียกันในรถต้องยังจำติดตา มีคำโปรยด้วยว่ารถใหม่เมียน้อยกับรถอีแก่เมียหลวง”

“เออ...จำแม่นนะ...ยายว่าต้องนังนี่แน่ๆ”

นภางค์คาดเดาเป็นตุเป็นตะแบบไม่มีตรรกะ โดยไม่รู้เลยว่าทำให้นพนภาประสาทเสียแค่ไหน ยิ่งย้อนเปิดดูคลิปของมุนินทร์ที่บันทึกตอนไปเที่ยวอังกฤษครั้งล่าสุดยิ่งอารมณ์เสีย

“มาลอนดอนครั้งนี้มีความสุขที่สุดเลยค่ะ กลับไปเมืองไทยคงคิดถึงคนที่นี่น่าดู”

รอยยิ้มของมุนินทร์ในคลิปยิ่งทำให้นพนภาคลุ้มคลั่ง สติเหือดหายเพราะแรงแค้นแรงหึงหวง แล้วก็เหมือนโชคชะตาจะเป็นใจมีโทรศัพท์ปริศนาโทร.มาแนะนำตัว

“สวัสดีครับคุณนพนภา...ผมคือคนที่ถ่ายคลิปมุนินทร์กับสามีคุณที่ลอนดอนครับ”

“หา! มันเป็นเรื่องจริงเหรอ”

“ทั้งภาพทั้งเสียงขนาดนี้ไม่มีปลอมหรือตกแต่งภาพเด็ดขาดครับ”

“แล้วแกเป็นใคร...บอกมาแกเป็นใคร!”

ooooooo

มุนินทร์ยังไม่รู้ว่านพนภาผุดความแค้นครั้งใหม่หลังโดนยุแยงทั้งจากคนรอบข้างและคนรอบนอกที่ส่งรูปกับคลิปมาปั่นหัว มัวรับมือพิณแม่แท้ๆที่ทำหน้าบอกบุญไม่รับเมื่อเธอกับวีกิจแฟนหนุ่มแวะไปแจกการ์ดงานแต่ง

“ดีนะ...กำหนดฤกษ์ยามกันเองเรียบร้อยไม่ต้องให้ทางฉันรับรู้เลย...เหมือนไม่ให้ความสำคัญ”

วีกิจยิ้มเจื่อนกับคำพูดทักทายของว่าที่แม่ยาย มุนินทร์ถอนใจเอือมๆแต่ไม่ทันพูดอะไรพิณก็โพล่ง

“แล้วมันเกิดผิดสำแดงอะไรขึ้นมาคุณนายนพนภาถึงได้มาเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายคุณทั้งๆที่เป็นแค่อาสะใภ้ของตระกูล”

“อาคงอยากต้อนรับนินเข้ามาเป็นหลานสะใภ้อย่างสมเกียรติ สมฐานะน่ะครับ”

พิณนิ่วหน้าเหมือนไม่เชื่อ “แน่นะ...นึกว่าจะอวดร่ำอวดรวยโชว์ฐานะตัวเองมากกว่า ฉันบอกคุณก่อนนะ...ตอนนี้พวกคุณจะมาย่ำยีเราอย่างแต่ก่อนไม่ได้แล้ว ตอนนี้ฐานะเราไม่ใช่กระจอกๆ กิจการดอกไม้ของเราตอนนี้เป็นอันดับหนึ่งของจังหวัด เรากว้านซื้อที่ดินอีกเป็นร้อยไร่เพื่อที่จะ...”

มุนินทร์เห็นท่าไม่ดีตัดบทแม่แต่พิณไม่ยอมยกเรื่องมุตตามาขยี้ ตอกย้ำให้เป็นความผิดครอบครัววีกิจต้องรับผิดชอบที่ทำให้ลูกสาวฝาแฝดคนเล็กฆ่าตัวตายหนีความอับอาย

บรรยากาศเริ่มตึงเครียดหลังจากนั้น มุนินทร์แทบข่มใจไม่ไหวแหวแม่เสียงเข้ม

“แม่คะ...อย่าเพิ่งไปเรื่องอื่น เอาเรื่องสินสอดทองหมั้นก่อน คุณนพนภาเขายอมจ่ายตามที่แม่เรียกแต่หนูจะไม่รับไว้ค่ะ หนูจะเอามาแค่ประกอบพิธีหมั้นเท่านั้น เสร็จพิธีแล้วเราจะคืนเขาทั้งหมด”

“ไม่คืน...คืนได้ยังไง”

“ได้สิคะ...ที่เราทำเพราะเห็นแก่หน้าพ่อแม่โดยเฉพาะแม่ที่กลัวชาวบ้านจะนินทา”

“ต้องนินทาแน่นอนถ้าแกจะทำตัวเป็นสะใภ้ของฟรีแบบนี้”

“สะใภ้ของฟรี...ยังดีกว่าสะใภ้หน้าเลือดนะคะ”

มุนินทร์ตอกแม่ไม่ไว้หน้า วีกิจต้องจับแขนปรามแล้วยืนยันตามความต้องการของนพนภาคือไม่รับสินสอดคืนไม่ว่ากรณีใดๆ แปลกกลัวเรื่องไม่จบช่วยตัดบทว่าให้เป็นตามที่ทางว่าที่ลูกเขยต้องการ...

ooooooo

นอกจากความแค้นครั้งใหม่ของนพนภาที่รอวันเอาคืนจากมุนินทร์ รัชนกก็เริ่มแผนขั้นต่อไปด้วยการเรียกตัวปริม ข้าราชการกระทรวงสาวขาเม้าท์คู่กัดของมุนินทร์มาพบและจ้างวานให้ทำการบางอย่าง

ปริมตกใจมากที่เห็นรัชนก ไม่คิดว่าสาวแอ๊บแบ๊วประจำกระทรวงจะกล้าโผล่มาเจออีกหลังก่อเรื่องฉาวจนทุกคนเกลียดขี้หน้า รัชนกไม่แคร์สายตาและถ้อยคำเหยียดหยามของปริม ยื่นข้อเสนอเย้ายวนใจให้ปริมได้เอาคืนมุนินทร์บ้างด้วยการสลับการ์ดงานแต่งของอีกฝ่าย!

มุนินทร์ลืมเรื่องรัชนกสนิท มัวปรับอารมณ์ตัวเองหลังเจอฤทธิ์เดชพิณแม่แท้ๆที่ดึงดันเอาแต่ใจ แถมยกเรื่องความขัดแย้งในอดีตมาพูดจนบรรยากาศไม่ดี วีกิจไม่สบายใจช่วยเป็นทนายแก้ต่างกับพิณให้มุนินทร์กับนพนภา

“คุณแม่ครับ...เรื่องอานภากับนินมันไม่ใช่เรื่องแย่งอาภพจริงๆนี่ครับ นินแค่สร้างสถานการณ์เพื่อทวงคืนความยุติธรรมเท่านั้น แล้วตอนนี้ต่างฝ่ายต่างก็ให้อภัยอโหสิกรรมกันไปแล้วด้วย”

“นั่นมันตอนที่อาคุณป่วยไม่มีเรี่ยวแรงจะมาต่อกรกับยัยนิน แต่ตอนนี้หายดีแล้ว ฉันกลัวแรงแค้นจะกระพือขึ้น”

“อานภาหลังหายป่วยเปลี่ยนเป็นคนใหม่แล้วครับ ใจเย็นขึ้น สงบขึ้น คงเพราะฝึกสมาธิ ทำบุญตลอด”

พิณเหยียดยิ้มก่อนเปิดคลิปนพนภาตบตีหญิงสาวกลางสตูดิโอเมื่อวันก่อน

“ไหนล่ะ...ใจเย็นขึ้นสงบขึ้น แหม...ฝึกสมาธิ ฉันว่าฝึกวิชาสังหารโหดเอาไว้ฆ่ายัยนินมากกว่านะ”

มุนินทร์อยากทึ้งหัวตัวเองกับเรื่องบ้าๆ พวกนี้ ทุกอย่างประจวบเหมาะจนใครต่อใครใส่สีตีใครมั่วไปหมด แปลกถอนใจยาวเห็นใจลูกสาวฝาแฝดคนโต แต่ไม่ทันอ้าปากคลี่คลายสถานการณ์ก็เกิดเสียงเอะอะจากชั้นบนของบ้าน

เสียงเอะอะดังมาจากคณะแม่ชีร่างทรงที่พิณนับถือมากในระยะหลังนั่นเอง ถึงขั้นเชิญมาทำพิธีไล่วิญญาณมุตตาออกจากบ้าน ห้อยกับโหนสมุนแม่ชีช่วยกันทำพิธีปัดเป่าวิญญาณร้าย มุนินทร์กับวีกิจขึ้นมาดูถึงกับเบิกตาโพลง ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเองว่าแม่จะงมงายกับเรื่องพวกนี้

แม่ชีร่างทรงเห็นหน้ามุนินทร์ก็ทำนายเรื่องแต่งงานว่าจะล่มและเกิดเรื่องยุ่งเพราะคดีเก่า มุนินทร์ฟังแล้วปรี๊ดแตก อารมณ์ร้อนที่ข่มมานานระเบิดออกแหวไล่คณะแม่ชีออกจากบ้านโดยไม่ไว้หน้าแม่

วีกิจสนับสนุนคำพูดแฟนสาวเพราะจำหน้าแม่ชีลวงโลกได้ว่าเพิ่งถูกจับที่กรุงเทพฯเมื่อหลายเดือนก่อน แปลกผสมโรงเพราะไม่เคยเห็นด้วยกับเมีย มุนินทร์เห็นดังนั้นก็ช่วยกันกับวีกิจลากแม่ชีออกจากบ้าน

พิณร้องลั่น “ว้ายตายแล้วนังลูกบาป ไปทำกับแม่ชีแบบนั้น แกนับถืออะไรบ้างในโลกนี้”

“หนูนับถือความดีค่ะ และแม่ต้องเชื่อนะคะว่ามุตตาไม่ใช่คนบาป ไม่ใช่วิญญาณร้ายอะไรทั้งนั้น หนูเคยบอกแม่แล้วไงคะ ถึงตาเป็นดวงวิญญาณแต่ถ้าจิตของตาคิดได้ ตาก็หลุดพ้นได้เหมือนกัน”

“ยังไงคนที่ฆ่าตัวตายก็ต้องใช้กรรมในนรกไปอีกห้าร้อยชาติ”

“ก็ให้แม่คิดเสียว่านี่คือชาติที่ห้าร้อยของตาตาหมดเวรแล้วค่ะแม่”

มุนินทร์โต้อย่างอ่อนใจก่อนขู่ทิ้งท้าย

“ถ้าแม่ยังวุ่นวายไม่เลิกหนูจะหนีไปแต่งงานที่เมืองนอกให้รู้แล้วรู้รอดไป”

“ได้...ตามใจ อยากทำอะไรตามใจ ฉันไม่ยุ่งกับแกแล้ว”

พูดจบก็สะบัดหน้าหนี ทิ้งมุนินทร์ให้ทรุดกับพื้น เหลือบมองรูปถ่ายมุตตาแล้วพึมพำเสียงสั่นเครือ

“ตา...ช่วยพี่ด้วยเถอะ ช่วยให้พี่รอดจากทุกเรื่องที่มันกำลังรุมเร้าพี่เข้ามา...พี่จะทนไม่ไหวอยู่แล้ว”

ooooooo

ปริมเห็นแก่ค่าจ้างก้อนโตและความแค้นเก่าๆ ที่อยากเอาคืนมุนินทร์จึงรับข้อเสนอของรัชนกเอาการ์ดที่ศักดิ์ชายออกแบบใหม่ให้เหมือนการ์ดมรณบัตรไปสลับกับการ์ดที่เพิ่งพิมพ์เสร็จซึ่งปราโมทย์กับลูกศรเพิ่งช่วยกันเขียนชื่อแขกหน้าซองและนำไปใส่ในล็อกเกอร์ กระทรวงของวีกิจ

อรพิมกับทิพอาภา สองข้าราชการสาวประจำกระทรวง เพื่อนมุตตาและมุนินทร์ แอบเห็นท่าทางลับๆล่อๆของปริมลงจากรถของรัชนกก็สังหรณ์ใจไม่ดีกลัวเกิดเรื่องไม่ดีกับมุนินทร์และวีกิจ

ปริมไม่รู้ตัวว่าถูกอรพิมกับทิพอาภาเห็น กรีดเงินสดปึกใหญ่ที่ได้จากรัชนกเล่นก่อนไปจ้างวานพรรคพวกอย่างนักรบ เลอลักษณ์และฉกรรจ์เป็นลูกมืองัดแงะตู้ล็อกเกอร์ของวีกิจเพื่อสลับการ์ดงานแต่ง

ในที่สุดกำหนดวันแจกการ์ดคนในกระทรวงก็มาถึง มุนินทร์ควงมากับวีกิจเรียกเสียงฮือฮาจากผู้คนมากมาย โดยเฉพาะพวกปริมที่รอเวลานี้มานาน แสร้งทำยิ้มแย้มไปทักทายเหมือนเป็นเพื่อนที่รักกันมาก

“นิน...มาเมื่อไหร่ ทำไมไม่บอกกันก่อน...คิดทึ้งคิดถึง”

มุนินทร์รู้จักฤทธิ์เดชพวกปริมดี ตีหน้านิ่งถามคำตอบคำแบบขอไปที กระนั้นพวกปริมก็ไม่ย่อท้อแกล้งตัดพ้อว่าอยากไปร่วมงานแต่งด้วย อรพิมกับทิพอาภามองมาด้วยความหมั่นไส้ มุนินทร์ก็คิดแบบเดียวกันแต่ไม่อยากมีปัญหาในที่ทำงานแฟนหนุ่มเลยตัดใจเชิญพวกปริมไปงานด้วยแต่ไม่ได้ให้การ์ด

ปริมไม่หวั่น รอเวลาฉีกหน้ามุนินทร์อย่างใจเย็น แสร้งพูดดีด้วยสารพัด กระนั้นท่าทางนั้นก็ผิดปกติ ดูเสแสร้งจนแม้แต่ปราโมทย์ยังทนดูไม่ไหวเปรยกับวีกิจ

“งงว่ะ...แกเคยเล่าว่ายัยปริมกับแก๊งขายของนั่นไม่ถูกกับมุนินทร์นี่หว่า แล้วนี่ทำไมทำท่าเหมือนรักกันจะตาย”

“โลกของตัวร้ายอย่างยัยปริมกับแก๊งน่ะไม่มีมิตรไม่มีศัตรูถาวรโว้ย อยู่ที่คบกับใครแล้วได้ประโยชน์มากกว่า”

วีกิจพูดอย่างคนที่รู้จักพวกปริมดี มุนินทร์ก็คิดแบบเดียวกันแต่ไม่อยากออกอาการมาก กระทั่งปริมอดใจ ไม่ไหวเองแกล้งกระแนะกระแหนมุนินทร์เรื่องเก่าๆ

“คุณปลอมตัวเข้ามา ใช้ความเป็นฝาแฝดเหมือนหลอกพวกเราทุกคน”

“ฉันใช้ประโยชน์จากแฝดเหมือนเพื่อสืบเรื่องจากผู้ไม่หวังดีต่างหาก...ผู้ไม่หวังดีที่รังแกน้องฉัน แล้วฉันก็ได้รับรู้ว่าในสังคมที่ดูเหมือนจะอบอุ่นรักใคร่ที่จริงแล้วมันเสแสร้งมีคนใจบาปหยาบช้าที่จ้องทำลายน้องสาวฉันอยู่ตลอดเวลา”

มุนินทร์ตอกไม่ไว้หน้า ปริมหน้าเจื่อนแต่ยังทำไม่สะทกสะท้าน

“นี่ไงคะ...ฉันถึงได้ถามไงว่าสี่ปีผ่านไปคุณมุนินทร์จะกลับมากระทรวงด้วยแรงแค้นเหมือนเดิมรึเปล่า”

 “มันไม่ได้อยู่ที่ตัวฉันหรอกค่ะ มันอยู่ที่คนใจบาปเหล่านั้นว่ามันยังแค้นและจะเล่นงานฉันอีกไหม”

“แล้วถ้ายังมีคนใจบาปเหล่านั้นอยู่อีกล่ะคุณจะทำยังไง”

“พวกสวะชั้นต่ำก็ปล่อยให้มันเน่าหนอนไปตามน้ำปนวัชพืชเถอะค่ะ พวกนี้ไม่ระคายแม้แต่ปลายเล็บของฉัน!”

ooooooo

พวกปริมอยู่ต่อปากต่อคำกับมุนินทร์พอหอมปากหอมคอจึงผละไปทำงาน มุนินทร์ไม่ถือสาเพราะเชื่อว่ารับมือพวกปริมได้เหมือนที่ผ่านมา วีกิจเห็นดังนั้นจึงพาเธอไปแจกการ์ดกับเพื่อนร่วมงานคนอื่น เริ่มด้วยแจงจิต ข้าราชการสาวใหญ่ประจำกระทรวงที่หวังดีกับทั้งคู่เสมอ

“พี่มีคติชีวิตคู่อยู่เรื่องหนึ่งที่บ่าวสาวควรจะนำไปปฏิบัติ...เมื่อเราตกลงจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันแล้วต่างฝ่ายต่างก็ต้องยอมเสียสละพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองให้อีกฝ่ายนะจ๊ะ อย่ายึดเอาตัวเองเป็นที่ตั้งแต่ฝ่ายเดียว ชีวิตรักมีทั้งให้และรับ เมื่อรู้จักแบ่งปันพื้นที่ให้กันและกันเธอจะครองคู่กันอย่างมีความสุขตลอดไป”

คำอวยพรของแจงจิตจับใจว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวมาก แจงจิตก็ปลื้มใจที่ทั้งคู่ได้ลงเอยหลังผ่านเหตุการณ์เลวร้ายเมื่อหลายปีก่อน กระนั้นก็ไม่ลืมเตือนเรื่องสำคัญคือให้วีกิจพามุนินทร์ไปแจกการ์ดเจนศึก ผอ.คนใหม่

เจนศึก ผอ.ใจสาวประจำกระทรวงเซ็งมากที่วีกิจลูกน้องสุดหล่อจะสละโสดอย่างเป็นทางการ กระนั้นก็ไม่วายแสดงความยินดีกับว่าที่บ่าวสาว มุนินทร์อึ้งมากแต่ก็สบายใจมากกว่าเพราะเชื่อว่าเจนศึกคงไม่ก่อเรื่องเหมือนเจนภพ

วีกิจพามุนินทร์ไปแจกการ์ดแผนกอื่น อรพิมกับทิพอาภาได้แต่มองตามยิ้มๆก่อนสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงร้องโหยหวนของเจนศึก รวมทั้งแจงจิตที่เพิ่งเปิดการ์ดออกดูแบบการ์ดแต่งงานที่ถูกปรับเปลี่ยนใหม่จนเหมือนการ์ดมรณบัตรทำให้ทุกคนตกใจมาก พวกแจงจิตรีบวิ่งไปบอกมุนินทร์กับวีกิจแต่ก็จะสายเกินไป...แทบทุกคนที่ได้การ์ดเชิญตกตะลึงไปหมดแล้ว!

ลูกศรเพื่อนสาวไฮโซของมุนินทร์แวะมากระทรวงด้วยเพราะมีนัดกับมุนินทร์ไปดูชุดแต่งงานหลังแจกการ์ด แทนไทซึ่งมีชนักติดหลังเรื่องแอบส่งแบบการ์ดให้พวกรัชนกใจไม่ดี อดใจไม่ไหวโทร.หาลูกศรเหมือนจะสอดแนมมุนินทร์ว่าเห็นการ์ดหรือยัง แต่ไม่ทันได้เรื่องลูกศรก็วางสายเพราะเจอปราโมทย์เสียก่อน

ปราโมทย์กับลูกศรถูกอัธยาศัยกันดีเพราะช่วยเตรียมงานหลายเรื่องตามประสาเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว มุนินทร์เห็นท่าทางสนิทสนมก็อดระแวงไม่ได้ รอจนกระทั่งลูกศรกับวีกิจแยกตัวไปทักทายและแจกการ์ดปลัดกระทรวงจึงเปิดฉากพูดกับปราโมทย์ตรงๆ

“ยัยศรเป็นเด็กดี ฉันไม่อยากให้ชีได้ผู้ชายที่...”

“เอ้า...ว่ามา...จะด่าอะไรผมอีก ผมเป็นผู้ชายยังไง”

มุนินทร์ไม่สนท่าทางกวนประสาทโพล่งตามตรง “ก็...มองผู้หญิงในแง่ลบ ไม่ให้เกียรติ อคติ แล้วยังมีมุมจุกจิกยิ่งกว่าผู้หญิงเสียอีก ที่ฉันเตือนเพราะฉันเป็นห่วงเพื่อนแสนดีของฉันน่ะ”

“ผมก็ไม่ต่างจากคุณนะ ผมก็เป็นห่วงเจ้ากิจมันเหมือนกันที่ต้องมาแต่งงานกับผู้หญิงอย่างคุณ”

ปราโมทย์ไม่ยอมแพ้ตอกกลับบ้าง

“กิจเป็นคนดี มองโลกสวยเกิน บางทีมันอาจจะอ่อนหัดจนตามไม่ทัน ผู้หญิงที่เต็มไปด้วยความมั่นในอัตตาอย่างคุณ...มั่นว่าตัวเก่งมั่นว่าตัวถูกเสียทุกอย่างแล้วก็ข่มให้สามีอยู่ในโอวาทนี่ก็ไม่ให้เกียรติผู้ชายเหมือนกัน”

“อย่าเข้าใจผิด ฉันให้เกียรติสำหรับผู้ชายที่มีเกียรติพอ”

สองหนุ่มสาวจ้องตาเอาเรื่องแต่ไม่ทันได้ทะเลาะเหมือนเคยพวกแจงจิตก็วิ่งหน้าตั้งมาบอกเรื่องแบบการ์ดที่เปลี่ยนไป แถมด้วยเสียงตะโกนโหวกเหวกของปลัดกระทรวงที่เพิ่งเห็นการ์ดเช่นเดียวกัน!

ooooooo

มุนินทร์สติแตกเมื่อได้เห็นการ์ดใหม่เต็มตา วีกิจก็ร้อนรนไม่ต่างกัน พวกปริมสะใจมากฉวยจังหวะนี้หาเรื่องป้ายความผิดให้มุนินทร์ว่าคงอยากล้างแค้นครอบครัววีกิจจนไม่แคร์สายตาใคร มุนินทร์เดือดมากแต่ไม่คิดว่าพวกปริมจะเป็นตัวการ กลับปักใจว่าปราโมทย์ต่างหากที่มีแรงจูงใจเรื่องนี้

วีกิจไม่คิดเหมือนแฟนสาวแต่สงสัยว่าพวกปริมที่แสดงท่าทีแปลกๆตั้งแต่เช้าเป็นคนก่อเรื่อง อรพิมกับทิพอาภาก็เชื่อเช่นนั้นผสมโรงกับวีกิจเล่นงานจนปริมทนไม่ไหวโพล่งลั่น

“หยุดกล่าวหาฉันนะ! ฉันจะไปมีปัญญาทำเรื่องชั่วๆแบบนี้ได้ยังไง ฉันเป็นคนดีคนสวย อีกอย่างฉันไม่เอาเงินเดือนเท่าขี้ตาหมัดไปลงทุนทำการ์ดอุบาทว์แบบนี้หรอก มันลงทุนตั้งเท่าไหร่”

เหตุผลของปริมฟังขึ้นไม่น้อยเพราะเธอเป็นข้าราชการเงินเดือนน้อยคงไม่มีปัญญาก่อเรื่องขนาดนี้ ถ้าแค่แชร์คลิปหรือนินทาทั่วกระทรวงอาจฟังขึ้นมากกว่าเพราะมีประวัติ มุนินทร์ก็คิดแบบนี้เลยคิดว่าปราโมทย์น่าจะเป็นผู้ร้ายตัวจริงมากกว่า ปราโมทย์ร้องลั่นว่าไม่เคยคิดทำลายชื่อเสียงและกิจการตัวเองด้วยวิธีนี้

วีกิจกับลูกศรก็ไม่เชื่อว่าปราโมทย์จะเป็นตัวการแต่มุนินทร์มั่นใจว่าปราโมทย์อาจหึงหวงเธอกับวีกิจ

ลูกศรส่ายหน้าไม่เชื่อ “มันไม่มีเหตุผลเลยนะนิน”

“ใช่...ไอ้โมทย์มันไม่ได้หวงผมขนาดนั้นหรอกนะ นี่คุณพูดเหมือนมันเป็นโรคจิตอย่างนั้นน่ะ”

วีกิจช่วยปกป้องปราโมทย์เพื่อนรักด้วย มุนินทร์ยังไม่เปลี่ยนใจโพล่งข้อสันนิษฐานของตน

“ก็อาจจะเป็นได้ไม่ใช่เหรอคะ ยอมรับไหมว่าคุณเกลียดฉันมากพอที่จะแกล้งฉันแบบนี้ ยอมทำลายงานของตัวเองเพื่อทำลายการแต่งงาน เมื่อกี้คุณก็พูดเองว่าวีกิจไม่ควรแต่งงานกับผู้หญิงอย่างฉัน”

มุนินทร์ยกเรื่องมีปากเสียงกับเขาก่อนหน้ามาอ้าง ปราโมทย์โกรธมากแต่ยังปล่อยให้เธอพล่ามต่อ

“อีกเหตุผลนึงที่คุณหวงวีกิจขนาดนี้เพราะในใจลึกๆหลงรักเพื่อนอยู่อย่างไม่รู้ตัวรึเปล่าคะ...”

ข้อสันนิษฐานแบบแพะชนแกะของมุนินทร์ทำให้ปราโมทย์เหลืออดตอกกลับ “ผมเสียดายมากเลย...เสียดายที่ไม่ได้เป็นคนทำการ์ดนี้ด้วยตัวผมเอง เพราะการ์ดงานศพมันเหมาะสำหรับผู้หญิงความคิดทรามๆอย่างคุณ!”

ขาดคำปราโมทย์ก็หน้าหันเพราะถูกมุนินทร์ตบเต็มแรง ทุกอย่างและทุกคนหยุดชะงักก่อนที่ปราโมทย์จะผลุนผลันจากไปโดยมีลูกศรตามติดแต่ไม่วายตำหนิมุนินทร์ทิ้งท้าย

“นิน...นี่มันไม่เข้าท่าเลยนะ”

มุนินทร์ขาดสติไปแล้ว วีกิจรู้ดีลากตัวแฟนสาวไปสงบสติอารมณ์อีกด้าน รอเวลาให้เย็นลงจึงจะพาไปขอขมาบรรดาแขกที่ได้รับการ์ดวันนี้ พวกปริมสะใจมากก่อนหน้าซีดเผือดเมื่อถูกอรพิมกับทิพอาภาคาดโทษพร้อมแฉว่าเห็นพวกเธอลงจากรถของรัชนกพร้อมเงินปึกใหญ่เมื่อวันก่อน!

ooooooo

วีกิจพามุนินทร์ไปสงบสติอารมณ์ที่ร้านกาแฟข้างกระทรวง สาวมั่นไปไม่เป็นกับเรื่องวุ่นวายที่เกิดขึ้น วีกิจต้องปลอบให้ใจเย็นก่อนบอกเรื่องปราโมทย์จะถอนตัวจากการเป็นเพื่อนเจ้าบ่าว คนออกแบบการตกแต่งเรือนหอ รวมทั้งอาจเลิกคบเขาเป็นเพื่อนเหมือนเดิมด้วย

มุนินทร์อึ้งมาก พึมพำ “คุณกิจ...หรือฉันเข้าใจผิดทั้งหมด”

“ใช่ครับ...ไอ้โมทย์ถึงมันจะไม่ชอบคุณแต่มันไม่ใช้วิธีแบบนี้กับคุณหรอก”

“ทำไมคุณแน่ใจ”

“มันไม่ได้เกลียดคุณขนาดนั้น ไอ้คนที่ทำแบบนี้ได้มันต้องโรคจิตของแท้ อีกอย่าง...ผู้ชายไม่ทำผู้หญิงแบบนี้หรอกครับ ยิ่งเพื่อนรักกันด้วยแล้ว...ไม่มีทาง อ้อ...ยืนยันนะครับว่ามันไม่ใช่เกย์มันชายแท้”

“ฉันอคติด้วยมุมมองผู้หญิงของฉันงั้นเหรอคะ”

วีกิจตอบรับตามตรง ครั้งนี้เขาคิดจริงๆว่าแฟนสาวตัดสินปราโมทย์ด้วยอารมณ์หุนหันพลันแล่นล้วนๆ มุนินทร์ก็รู้สึกผิดแต่ยังไม่ตัดข้อสันนิษฐานตัวเองทิ้ง ได้แต่ขอร้องแฟนหนุ่มเสียงเรียบ

“คุณกิจ...พาฉันกลับบ้านเถอะ ฉันอยู่ที่นี่ต่อไม่ไหวแล้ว”

พูดจบก็ลุกพรวดจะออกจากร้านแต่ไม่ทันก้าวก็หน้ามืด วีกิจตกใจถลาประคอง กลายเป็นเรื่องเม้าท์ในกระทรวงอีกครั้งว่าว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวคนดังโอบกอดกันไม่อายฟ้าอายดิน!

พวกมาร์คและรัชนกชอบใจมากเรื่องมุนินทร์สะเทือนใจจนเป็นลม วีกิจไม่แคร์สายตาคนอื่นพาแฟนสาวกลับไปพักที่คอนโดโดยมีลูกศรซึ่งเพิ่งรู้เรื่องดูแลไม่ห่าง มุนินทร์รู้สึกตัวไม่นานหลังจากนั้น สีหน้าเศร้าหมองเมื่อคิดถึงเรื่องวุ่นวายก่อนงานแต่งของตัวเอง

ลูกศรตกใจมากเมื่อมุนินทร์เปรยอย่างซังกะตายว่าเริ่มไม่มั่นใจกับการแต่งงานครั้งนี้

“นิน...ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะ”

“ไม่รู้สิศร...มันมีแต่เรื่องแต่ราวไม่รู้จักจบสักที หรือมันเป็นการบอกเป็นนัยว่าฉันยังไม่ควรแต่งงาน”

“อย่าพูดให้คุณกิจเขาได้ยินเชียวนะ เดี๋ยวเขาเสียใจ”

“เสียใจตอนนี้ดีกว่าเสียใจตอนแต่งงาน...จริงไหม”

มุนินทร์เสียใจเกินกว่าจะใส่ใจความรู้สึกแฟนหนุ่ม วีกิจแอบได้ยินทุกอย่าง เสียความรู้สึกไม่น้อยแต่ไม่ทันพูดอะไรปราโมทย์ก็โทร.บอกข่าวจากอรพิมกับทิพอาภาว่าปริมอาจเป็นตัวการเรื่องสลับการ์ด!

ooooooo

ขณะที่มุนินทร์กับวีกิจเจอมรสุมก่อนงานแต่ง นพนภาถูกไฟแค้นแผดเผาให้นั่งไม่ติดเพราะระแวงเจนภพสามีสุดที่รักจะเป็นชู้กับมุนินทร์ ยิ่งได้รับสายจากบุคคลปริศนาที่อ้างว่าเป็นคนถ่ายภาพกับคลิปของเจนภพกับมุนินทร์ที่อังกฤษยิ่งร้อนรน ตอบตกลงไปเจอโดยไม่ลังเล

นพนภากำลังเดินทางไปพบความจริงเกี่ยวกับที่มาภาพและคลิปของเจนภพกับมุนินทร์ เช่นเดียวกับมุนินทร์กับวีกิจที่กำลังอ้าปากค้างเมื่อได้ยินเรื่องราวจากอรพิมกับทิพอาภาว่าเห็นปริมเดินนับเงินลงจากรถของรัชนก!

ปราโมทย์เป็นคนพาอรพิมกับทิพอาภามาเจอวีกิจกับมุนินทร์ที่คอนโด ช่วยให้ว่าที่บ่าวสาวตาสว่างและเพื่อแก้ต่างให้ตัวเอง ทั้งเรื่องที่มุนินทร์กล่าวหาว่าเขาเป็นคนสลับการ์ดและเป็นเกย์

มุนินทร์กับลูกศรช่วยกันปะติดปะต่อเรื่องราวจนได้ผู้ต้องสงสัยแรกคือแทนไทซึ่งมีท่าทางแปลกๆเหมือนมีอะไรปิดบัง วีกิจไม่ชอบหน้าหนุ่มเนิร์ดที่แอบชอบแฟนสาวเป็นทุนปักใจว่าเป็นตัวการแต่มุนินทร์ยังไม่เชื่อ

“ยิ่งรักก็ยิ่งแค้น หลงรักคุณเสียขนาดนั้นก็เลยหึงที่จะแต่งงานกับผมเลยแกล้งซะเลย”

“คุณกิจ...พูดอย่างกับว่านายแทนมันรักฉันแบบนั้น ...ไม่ใช่นะคะ”

“ดูจากท่าทางมันผมตีความเป็นรักอย่างอื่นไม่ได้หรอก”

“นี่คุณ...ที่พูดนี่หึงเด็กเหรอคะ”

“ถ้ามันทำจริง...ไม่ว่าจะโดนบังคับหรือทำเองผมเล่นงานมันแน่”

ไม่ใช่แค่แทนไทที่เป็นผู้ต้องสงสัยเรื่องสลับการ์ด พวกมาร์คกับรัชนกก็เป็นอีกพวกที่วีกิจกับมุนินทร์มั่นใจว่ามีส่วนร่วมกับเรื่องบ้าๆทั้งหมด ปราโมทย์เห็นทุกอย่างคลี่คลายก็โล่งใจ แกล้งเปรย

“ถ้าอย่างนั้นงานนี้ผมก็พ้นข้อกล่าวหาใช่ไหมครับ”

ทุกคนส่งสายตาไปทางมุนินทร์ที่ยืดอกยอมรับผิดอย่างไม่ขัดเขิน

“ค่ะ...ถึงไม่มีเรื่องยัยปริม ยัยรัชนก ฉันก็จะขอโทษคุณอยู่แล้ว”

“หืม...ทำไมครับ”

“ฉันกล่าวหาคุณโดยขาดสติ ไม่คิดให้รอบคอบเสียก่อนและยังตบหน้าคุณต่อหน้าเพื่อนร่วมงานด้วยทำให้คุณเสื่อมเสียเกียรติ ฉันขอโทษและยินดีไถ่โทษทุกอย่างที่คุณต้องการ”

ปราโมทย์อึ้งมากไม่เคยเจอภาคนี้ของมุนินทร์ ก่อนยิ้มยอมรับ นับถือใจเธอจริงๆ

“คุณนินครับ...ไม่ต้องไถ่โทษอะไรหรอก แค่คุณขอโทษผม เข้าใจผม ผมก็ปลื้มจะแย่แล้วล่ะครับ”

“ถ้าอย่างนั้นกรุณากลับมาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวและกรุณาอย่าทิ้งโปรเจกต์ตกแต่งเรือนหอฉันนะคะ”

“ไม่มีปัญหาครับ”

ooooooo

แม้จะหาทางตอบโต้แทนไท มาร์คและรัชนกได้แต่มุนินทร์ก็ไม่หายเครียด สารพัดเรื่องก่อนงานแต่งรุมเร้าเหมือนจะวัดใจให้เธอรับมือ วีกิจสงสารและเห็นใจ กล่อมให้เธอกินยาคลายเครียดและพักผ่อนมากๆ

“หลับให้สบาย...ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งนั้น ผมกับไอ้โมทย์วางแผนเอาคืนไว้หมดแล้ว ผมจะจัดการพวกมันทั้งแก๊งเลย...อาจจะเริ่มต้นที่ไอ้แทนก่อนเลยก็ได้”

“ปัญหาคือพวกมันไม่ต้องการให้เราแต่งงานกันนะคะ พอแต่งไปพวกมันก็คุกคามพวกเราไม่เลิก”

“มันเล่นงานเราแบบเด็กเล่นมาก ไม่เห็นน่ากลัวเลย มันทำอะไรเรามากกว่านี้ไม่ได้หรอกนิน...เลิกกลัวเถอะนะ...แล้วพรุ่งนี้เราจะไปพบอานภาด้วยกัน”

มุนินทร์พยักหน้ารับ ซึ้งใจความห่วงใยของเขา

วีกิจเห็นดังนั้นก็โล่งใจแต่ไม่วายตัดพ้อ

“แล้วก็...เลิกคิดได้แล้วเรื่องเลื่อนงานแต่งหรือเลิกแต่ง ถ้าคุณคิดอย่างนั้นผมจะเข้าใจว่าคุณไม่รักผมแล้ว”

วีกิจพูดด้วยความน้อยใจ มุนินทร์รีบกอดเขาซบหน้ากับไหล่กว้าง

“อย่าคิดอย่างนั้นสิคะ...ฉันรักคุณ...รักจะแย่อยู่แล้ว”

“งั้นเราต้องสู้เพื่อความรักของเราสิครับ และเชื่อผมนะ...อุปสรรคอะไรก็ทำลายความรักเราไม่ได้!”

นพนภาแทบข่มอารมณ์ตื่นเต้นไม่ไหวจะได้เจอคนถ่ายภาพกับคลิปของเจนภพกับมุนินทร์ แล้วก็ต้องตกใจอ้าปากค้างเมื่อเห็นประพงษ์ หนุ่มใหญ่โจทย์เก่า อดีตหุ้นส่วนเปิดผับที่ทำเธออับอายขายขี้หน้าเมื่อหลายปีก่อน

จากที่เคยคิดจะเชื่อได้หมดใจนพนภากลับเปลี่ยนท่าทีเป็นระแวงเพราะคดีเก่าของประพงษ์

“มันจะไม่บังเอิญไปหน่อยเหรอที่นายจะไปเจอมุนินทร์ที่อังกฤษแล้วไปแอบถ่ายมาอย่างนั้น...ฉันไม่เชื่อ นายทำภาพมาหลอกฉันแน่ๆ”

“จะว่าบังเอิญก็ใช่...ช่วงนั้นผมหนีคดีไปอยู่ลอนดอน พอรู้ข่าวว่ามุนินทร์มาดูงานผมก็เลยแอบตามแล้วก็ได้ภาพมาอย่างที่คุณเห็น ครั้งแรกอาจจะบังเอิญแต่ครั้งที่สองไม่บังเอิญแล้วละครับ ปีนั้นเขาพบกันถึงสองครั้งเลยนะ”

ประพงษ์ไม่รอช้าเปิดภาพคู่ของเจนภพกับมุนินทร์ให้ดูอีกรอบ นพนภาเริ่มคล้อยตาม

“นายเอาคลิปพวกนี้มาให้ฉันดูทำไม”

“อ้าว...ยัยมุนินทร์กำลังจะมาเป็นสะใภ้บ้านคุณ ร่วมนามสกุลเดียวกับคุณ ผมเลยต้องเตือนคุณให้ระวังแม่นี่สักหน่อย ยังติดต่อกับผัวคุณลับๆแบบนี้มันต้องคิดไม่ดีกับคุณแน่ๆ ผมเตือนเพราะหวังดีนะครับ”

“ไม่ต้องหวังดีกับฉัน ฉันไม่เชื่อคนที่เคยโกงฉันเป็นร้อยล้านแถมยังหลอกลวงลูกสาวฉัน ทั้งซ้อม ข่มขืน รุมโทรมแล้วยังทำให้มันติดยา!”

“โธ่คุณนภา...ผมมือสะอาดแล้วนะครับ กลับมาคราวนี้จะขอไถ่โทษให้คุณทุกคดีเลย”

“ไม่ต้องพูดฉันไม่อยากฟัง ถ้ามุนินทร์ไปพบคุณภพจริงก็ต้องมีเหตุผลบางอย่าง...ไม่ใช่เรื่องชู้สาวแน่ๆ”

“ก็เป็นไปได้เพราะผมก็ไม่เชื่อว่ายัยมุนินทร์จะรักใคร่สามีคุณ...นั่นยิ่งน่ากลัวใหญ่นะครับ”

นพนภาชะงัก ฉุกใจคิดว่าคำพูดอีกฝ่ายอาจมีมูล ประพงษ์ย่ามใจยุส่ง

“คิดสิครับ...ในเมื่อไม่ได้รักใคร่แต่ยังมีสัมพันธ์กันอยู่ มันคิดไปทางอื่นไม่ได้แล้วครับนอกจากความแค้น!”

สีหน้าซีดเผือดของนพนภาทำให้ประพงษ์สะใจมาก แกล้งยั่ว

“จะเป็นยังไงน้า...ถ้าแม่คนนี้เป็นหลานสะใภ้แล้วทำให้ครอบครัวคุณบ้านแตกอีกครั้ง คุณกับคุณเจนภพอาจถึงขั้นหย่า เด็กๆแยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง แล้วคุณเองเครียดมากๆอาจกลับไปเป็นอัมพาตอัมพฤกษ์อีกครั้งก็ได้”

แม้คำพูดของประพงษ์จะน่าเชื่อแค่ไหนแต่เรื่องเก่าๆที่เขาเคยทำก็ทำให้นพนภาไม่เชื่อง่ายๆ แหวลั่น

“อย่ามายุ่งกับเรื่องของฉันหรือคนในบ้านฉันอีก ...ไม่งั้นแกตาย!”

ooooooo

การกลับมาของประพงษ์อดีตหุ้นส่วนและแฟนหนุ่มของต้อมทำให้นพนภาประสาทเสีย   ต่อลูกชายคนรอง ของเธอก็มีอาการไม่ต่างกันเพราะจำได้ดีว่าประพงษ์เคยก่อวีรกรรมไว้ขนาดไหน

นพนภาเครียดมาก แม้ไม่อยากเชื่อสิ่งที่ประพงษ์พูดแต่หลักฐานทุกอย่างชัดเจนจนเธอมั่นใจว่ามุนินทร์ไม่ได้รักวีกิจแต่อยากแต่งงานเพราะต้องการล้างแค้นเธอมากกว่า กระนั้นก็ยังไม่แพร่งพรายเรื่องนี้ให้ว่าที่บ่าวสาวรู้  แต่กลับรับนัดวีกิจให้มุนินทร์มาเจอเธอเพื่อแจกการ์ดและคุยเรื่องสินสอด...

ฤทัย สาวน้อยจากสลัมต่างจังหวัดทนถูกเกษมพ่อเลี้ยงใจทรามข่มขืนทุกครั้งที่มีโอกาสไม่ไหว ฉวยมีดปอกผลไม้ซึ่งแอบเก็บไว้ในห้องจ้วงแทงเขาหลายแผลก่อนหนีเตลิดเข้าป่า โชคดีที่ป้างหนุ่มแว้นเพื่อนสนิทของเธอมาพบเลยพาไปซ่อนตัวในตึกร้างไม่ไกลจากบ้านเธอมากนัก

ป้างสงสารฤทัยมาก รับปากจะดูแลเธอนับจากนี้ ฤทัยตัดสินใจไม่กลับบ้านเพราะทนอยู่กับละออแม่แท้ๆ และเกษมพ่อเลี้ยงใจทรามไม่ไหว แต่จะไปตายดาบหน้าและหาทางล้างแค้นคนที่ฆ่าพ่อแท้ๆของเธอ

“พ่อจากฉันไป แม่ถึงพาไอ้ลุงเข้าบ้าน มันถึงทำร้ายฉัน ถ้าพ่อยังอยู่คงไม่เกิดเรื่องแบบนี้”

“อย่าไปโทษที่พ่อตาย ต้องโทษแม่แก แม่บ้าอะไรวะยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้กับลูก”

“แม่ไม่เคยรักฉันอยู่แล้ว ทุกครั้งที่ไอ้ลุงทำร้ายฉันแม่ไม่เคยอยู่บ้าน!”

ระหว่างที่ฤทัยกับป้างหาทางเอาตัวรอดจากสลัมต่างจังหวัด วีกิจกับมุนินทร์ ร่วมด้วยลูกศร ปราโมทย์ อรพิมและทิพอาภาช่วยกันวางแผนเปิดโปงความชั่วร้ายของแทนไท มาร์คและรัชนก ด้วยการแกล้งทะเลาะกันเหมือนจะเลิกคบ ลวงให้คนร้ายแท้จริงชะล่าใจและเผยตัวตนในไม่ช้า

มุนินทร์มั่นใจว่าแผนของตนกับวีกิจจะสำเร็จ อดทนรอเวลาอย่างใจเย็นและควงแฟนหนุ่มไปหานพนภาที่บ้านเพื่อแจกการ์ดและคุยเรื่องสินสอดตามนัด

ไม่รู้เลยว่าทุกคนที่บ้านนพนภาแทบร้อนเป็นไฟเมื่อรู้ว่านพนภาได้ภาพถ่ายกับคลิปของเจนภพและมุนินทร์มาจากประพงษ์

ooooooo

แม้จะมั่นใจเรื่องเอาคืนพวกมาร์คกับรัชนกแต่เมื่อย่างเท้าเข้าบ้านนพนภา มุนินทร์ก็อดใจเสียไม่ได้ วีกิจเห็นท่าแฟนสาวเครียดๆก็อดถามไถ่ด้วยความเป็นห่วงไม่ได้

“บอกตามตรงฉันมาบ้านนี้ทีไรความรู้สึกเก่าๆมันตามมารบกวนทุกที”

“ความรู้สึกเก่าๆ...”

“ค่ะ...วันที่ฉันพาคุณเจนภพมาวางกองไว้ที่นี่ไงแล้วก็เผชิญหน้ากับทั้งครอบครัว”

“อ้อ...วันนั้น...ไม่ต้องกลัวน่า ทุกอย่างเป็นอดีตแล้ว คุณมาในฐานะใหม่นะครับ...สมาชิกคนใหม่ของตระกูล”

นพนภารอเวลานี้มานาน เมื่อตัดสินใจจะเล่นงานมุนินทร์ก็เริ่มแผนแรกคือเตรียมเซอร์ไพรส์เชิญพิณกับแปลก พ่อแม่ของมุนินทร์มาที่บ้านโดยไม่บอกเจ้าตัวให้รู้ก่อน

มุนินทร์สังหรณ์ใจไม่ดี รู้สึกประหม่าแต่ยังปั้นหน้ายิ้มแย้มเมื่อเจอหน้านพนภา สาวใหญ่อดีตคู่กรณีที่กำลังจะกลายเป็นปัจจุบันอีกครั้ง  แสร้งทักทายด้วยสีหน้าท่าทางเป็นกันเอง

“เป็นยังไงบ้างมุนินทร์...นี่ถือเป็นครั้งแรกนะที่อาได้พบเธอหลังจากหายดี เมื่อก่อนที่เธอมาเยี่ยมอาได้แต่ นอนเตียงใช้แค่ภาษามือสื่อสาร”

“ค่ะ...แต่ตอนนี้ดูสวยสดใสกว่าเดิมอีก เหมือนไม่เคยป่วยมาก่อนเลยด้วยซ้ำ”

“จำเป็นต้องแข็งแรงเพราะยังมีภาระหน้าที่ต้องรับผิดชอบ ทั้งเรื่องลูก...เรื่องผัว”

น้ำเสียงแปลกๆของนพนภาทำให้มุนินทร์ชะงัก วีกิจก็เอะใจแต่ยังทำไม่รู้เรื่อง ส่งการ์ดให้อาสาว เชิญไปงานแต่งของตนกับแฟนสาวอย่างเป็นทางการ

“ผมกราบขอบคุณอานภาด้วยนะครับที่อาเสนอเป็นผู้ใหญ่ไปสู่ขอนินในวันหมั้นและรวมทั้งค่าสินสอดด้วยครับ”

มุนินทร์ก็ไม่อยากให้เสียบรรยากาศเอ่ยเรื่องสินสอดที่ตนหาทางแก้ไว้แล้ว

“ที่จริงหนูคุยกับแม่แล้วล่ะค่ะว่าสินสอดทองหมั้นจะคืนคุณอาทั้งหมด แค่เอามาใช้ประกอบพิธีเท่านั้นเอง”

“จริงเหรอมุนินทร์...สินสอดทองหมั้น เขาไม่คืนกันหรอกนะ ตามธรรมเนียมเขาถือ เดี๋ยวจะอยู่กันไม่ยืด”

“บังเอิญนินไม่ค่อยถือเรื่องธรรมเนียมสักเท่าไหร่ค่ะ”

นพนภาเหยียดยิ้มก่อนแกล้งเปรยเบาๆ “ก็ยังดีนะ...ใช้แล้วก็เอามาคืน...ยังดีที่รู้จักคืน”

คำพูดแปร่งหูของนพนภาทำให้มุนินทร์หน้าเจื่อน สัมผัสว่ามีบางอย่างผิดปกติโดยเฉพาะจากนพนภา แล้วลางสังหรณ์ของเธอก็เป็นจริงเมื่ออีกฝ่ายเปิดฉากถามตรงๆกลางโต๊ะอาหารว่าง

“ถามอย่างหนึ่งสิมุนินทร์...ค่าสินสอดทองหมั้นเป็นเงินล้านน่ะเธอคิดว่ามันน้อยไปไหม”

มุนินทร์กับวีกิจอึ้งไปอึดใจกว่าจะตั้งสติตอบกลับ

“ทำไมคะ...นินคิดว่ามันมากเกินไปด้วยซ้ำ”

“งั้นเหรอ...แต่คุณแม่เธอไม่คิดอย่างนั้น...แม่เธออยากได้มากกว่านี้ตั้งสามเท่า และ...ไม่คืนด้วยนะ”

นพนภาพูดพลางยื่นรายการสินสอดที่พิณต้องการให้ก่อนส่งสายตาบอกสาวใช้ให้เชิญแขกพิเศษมาหามุนินทร์ พิณกับแปลกปรากฏตัวหลังจากนั้น มุนินทร์อึ้งมากก่อนตั้งสติได้หันไปพูดกับแม่

“แม่คะ...ขอคุยส่วนตัวได้ไหม”

“ไม่ต้อง! คุยกันตรงนี้ให้รู้เรื่องกันไปเลย จะได้ไม่ต้องมาพูดต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง”

พิณไม่ชอบหน้านพนภาอยู่แล้ว ท่าทางพร้อมมีเรื่องจนมุนินทร์ใจไม่ดี ต่างจากนพนภาที่สะใจมาก

“แหม...เป็นสิ่งที่ฉันต้องการพอดี เพราะคุณแม่เรียกสามล้านแต่คุณลูกบอกว่าจะคืนให้ทุกบาททุกสตางค์ มันยังไงกันแน่คะ...แม่ลูกเตี๊ยมมาไม่ตรงกันรึไง”

“นี่คุณ...พูดดีๆนะ ฉันไปเตี๊ยมอะไรกับลูก”

มุนินทร์จับต้นชนปลายไม่ถูกแต่คิดว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล โดยเฉพาะท่าทีของนพนภา

“คุณจัดฉากขึ้นมาวันนี้...เรียกพ่อแม่ฉันมาต้องการอะไรคะ”

นพนภาจ้องหน้ามุนินทร์เขม็ง “ฉันต้องย้อนถามเธอด้วยคำถามเดียวกัน...เธอต้องการอะไรกันแน่ ไม่ใช่แค่แต่งงานกับนายกิจหรอก...เธอต้องการมากกว่านั้น”

วีกิจงงมากโพล่งถาม “อาครับ...นี่มันเรื่องอะไรกันครับ”

“นายกิจ...เธอไม่รู้เรื่องอะไรเลยใช่ไหมที่ยัยคนนี้ต้องการเข้ามาในตระกูลเราเพราะอะไร”

“ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้นครับ วันนี้ผมมาแจกการ์ดแต่กลับมาเจอเรื่องแบบนี้ ผมงงไปหมดแล้ว”

“งั้นวันนี้เธอก็ควรตาสว่างได้แล้วว่าคนรักของเธอ มันต้องการอะไรกันแน่!”

ooooooo

อ่านละคร แรงเงา 2 ตอนที่ 3

ละครเรื่อง แรงเงา 2 บทประพันธ์โดย นันทนา วีระชน
ละครเรื่อง แรงเงา 2 บทโทรทัศน์โดย Anonymous
ละครเรื่อง แรงเงา 2 กำกับการแสดงโดย ชนินทร ประเสริฐประศาสน์
ละครเรื่อง แรงเงา 2 ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่อง แรงเงา 2 ควบคุมการผลิตโดย อรุโณชา ภาณุพันธุ์
ที่มา ไทยรัฐ