อ่านละคร แรงเงา 2 ตอนที่ 6 วันที่ 15 พ.ค.62

อ่านละคร แรงเงา 2 ตอนที่ 6 วันที่ 15 พ.ค.62

นพนภาตัดสินใจพบจิตแพทย์บำบัดอาการหลงผิดทำร้ายใครต่อใครตามคำแนะนำของศรุต วิทยากรหนุ่มหล่อดีใจมากและเชิญเธอมากินข้าวที่บ้านเพื่อกระชับความสัมพันธ์

บรรยากาศร่มรื่นในบ้านทำให้ศรุตอารมณ์ดี นพนภาเห็นดังนั้นจึงลองถามเรื่องคาใจ “ถามหน่อยเถอะค่ะ...คุณมาช่วยฉันทำไม ฉันไม่มีอะไรดีที่คุณจะมาช่วยฉันสักนิด เจอกันครั้งแรกฉันก็ด่าคุณ ดูถูกคุณสารพัด”

“ก็เพราะคุณสุดขั้วไงครับผมถึงสนใจ”



คำตอบของเขาทำให้นพนภาเลิกคิ้ว ศรุตเข้าใจความสงสัยของเธอจึงขยายความ

“คุณเป็นตัวอย่างของคนที่สุดขั้ว คิดลบ คิดร้าย ทิฐิมานะ อคติ แถมก้าวร้าวใช้ความรุนแรงตัดสินปัญหาอีกต่างหาก ตรงข้ามกับทฤษฎีคิดบวกของผมทุกอย่างจริงๆ...นานๆผมจะเจอคนพิเศษอย่างคุณ”

“นั่นสิคะ...ก็ฉันร้ายขนาดนั้นแล้วคุณมาช่วยฉันทำไม”

ศรุตยิ้มแต่แววตาแอบเจ็บปวดวูบหนึ่ง “คงเพราะ... ผมเคยเป็นอย่างคุณมั้งครับ”

“เคยสุดขั้วอย่างฉัน”

“ครับ...อาจจะมากกว่าคุณด้วยซ้ำ”

ท่าทางที่เปลี่ยนไปของศรุตทำให้นพนภาไม่กล้าถามต่อ กลัวเขาเสียความรู้สึกแล้วจะพานเลิกบำบัดเธอ...

กำหนดงานเลี้ยงฉลองแต่งงานของวีกิจกับมุนินทร์ใกล้เข้ามาทุกที สองสามีภรรยาเจ้าของงานวุ่นวายตกแต่งเรือนหอ ทำห้องลูก โดยมีปราโมทย์เป็นผู้ช่วยเหมือนเคย ส่วนนพนภาก็ควงศรุตไปโน่นมานี่อย่างเปิดเผย เพราะหลังจากไปกินข้าวบ้านเขาและเปิดใจคุยกันเธอก็ขอเขาเดตอย่างเป็นทางการ

พวกรัชนกก็ไม่อยู่เฉย หลังถูกแฉแผนร้ายย่อยยับตอนไปป่วนวันถ่ายภาพของวีกิจกับมุนินทร์ก็วางแผนใหม่ให้พวกมาร์คกับปริมไปก่อเรื่องฉาวในงานเลี้ยงฉลองที่จะมาถึง แทนไทซึ่งแอบฟังและสังเกตการณ์ผ่านกล้องตัวจิ๋วบนไม้แขวนเสื้อที่ซื้อจากต้องไม่รอช้ารีบบอกพวกมุนินทร์ให้เตรียมตั้งรับ...

ooooooo

และแล้วงานเลี้ยงฉลองแต่งงานของวีกิจกับมุนินทร์ก็มาถึง เจ้าบ่าวเจ้าสาวง่วนรับแขกโดยมีลูกศรกับปราโมทย์คอยช่วยในฐานะเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาว สร้อยคำ พิณและแปลกยิ้มหน้าบานด้วยความสุขใจตามประสาพ่อแม่เจ้าบ่าวเจ้าสาว ตรงข้ามกับแทนไทที่หน้าเครียดเพราะกลัวพวกมาร์คก่อเรื่อง

ต้องมางานเลี้ยงด้วย เห็นแทนไทก็อดเข้าทักทายไม่ได้ เพราะประทับใจความหล่อ หนุ่มเนิร์ดเลยได้รู้อย่างเป็นทางการว่าเธอไม่ใช่แค่แม่ค้าออนไลน์แต่เป็นหลานสาวคนโตของวีกิจด้วย

พวกมาร์คมาถึงงานเลี้ยงไม่นานหลังจากนั้น แทนไทจับตาอยู่แล้วและขอร้องให้ต้องช่วยติดเครื่องส่งสัญญาณตัวเล็กๆให้พวกมาร์คป้องกันไม่ให้ก่อเรื่อง ต้องยินดีช่วยเพราะอยากทำคะแนนกับหนุ่มเนิร์ด แต่แทนไทกลับไม่ได้สนใจมัวตั้งใจฟังสิ่งที่พวกมาร์คพูดคุยกันผ่านเครื่องส่งสัญญาณตัวเล็กๆ

ปริมก็อัญเชิญตัวเองมาร่วมงานนี้ตามแผนของรัชนกที่หวังฉีกหน้าวีกิจกับมุนินทร์กลางงาน ข้าราชการสาวแสร้งทำสำนึกผิดจนไม่มีใครถือสา ก่อนจะแอบไปนัดแนะพวกมาร์คเพื่อดำเนินการป่วนตามแผนขั้นต่อไป

งานเลี้ยงฉลองดำเนินไปเรื่อยๆกระทั่งถึงพิธีการบนเวที อรพิมกับทิพอาภารับหน้าที่เป็นพิธีกร เจ้าบ่าวเจ้าสาวถูกเชิญขึ้นมาตอบคำถามเรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มจากแขกเหรื่อ วีกิจปลื้มมากและไม่ลังเลจะบอกความในใจเกี่ยวกับความรักที่เขามีต่อมุนินทร์

“ที่เขาบอกกันว่ารักแท้ต้องพิสูจน์ด้วยกาลเวลา ตอนนี้ความรักของผมพิสูจน์แล้วว่าห้าปีที่ผ่านมาผมรักนินเพิ่มขึ้นทุกปี และยืนยันครับว่าหลังแต่งจะรักยิ่งๆขึ้นไปอีกเพราะ...ความรักของเราไม่มีวันหมดอายุครับ”

คำกล่าวของเจ้าบ่าวเรียกเสียงปรบมือได้อย่าง ล้นหลาม สองสาวพิธีกรรีบหันหาเจ้าสาวบ้าง มุนินทร์นิ่งคิดชั่วอึดใจก่อนเอ่ยเสียงเบาแต่หนักแน่น “สำหรับนิน...รักมีวันหมดอายุค่ะ”

ทุกคนชะงัก อ้าปากค้างกับคำกล่าวของเจ้าสาว มุนินทร์เห็นสีหน้าแขกก็ลอบถอนใจเบาๆ แล้วเอ่ยทีเล่นทีจริง

“รักหมดอายุแน่ค่ะถ้าเมื่อไหร่ฉันพบว่า...คุณซ่อนเบอร์โทร.ผู้หญิงอื่นในมือถือ”

พูดพลางส่งยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เจ้าบ่าว แขกเหรื่อเปลี่ยนมาหัวเราะเพราะชอบใจคำกล่าวของเจ้าสาว วีกิจก็ปลื้มใจมากและถือโอกาสดึงมุนินทร์มาหอมแก้มฟอดใหญ่

พวกมาร์คกับปริมทนดูภาพรักหวานชื่นไม่ไหวกระโจนขึ้นเวทีโดยไม่มีใครเชิญ อรพิมกับทิพอาภาถูกเบียดให้ลงจากเวทีก่อนที่มาร์คจะแย่งไมค์มาพูดอวยพรเจ้าบ่าวเจ้าสาว

“ผมมาร์คัส...ในฐานะเพื่อนร่วมงานที่รักน้องนินที่สุด...ขอแสดงความยินดีด้วยอ้อมกอดแข็งแรงของพี่ชายคนนี้ครับ”

ส่วนปริมก็รออยู่แล้ว ขยับตัวเข้าหาวีกิจเจ้าบ่าวที่เธอหลงรักมาตลอดแล้วอวยพร “ปริมเป็นเพื่อนร่วมกระทรวงคุณกิจ ทั้งรักทั้งห่วงและหวงมานานก่อนเจ้าสาวอีกนะ...จูบนี้ปริมขอมอบให้คนเคย...รักกันนะคะ”

วีกิจเบี่ยงตัวหนีไม่ยอมให้ปริมจูบ มาร์คเห็นบรรยากาศเริ่มอึมครึมก็สะใจ ไล่เจ้าบ่าวเจ้าสาวรวมทั้งสองพิธีกรลงจากเวทีแบบเนียนๆก่อนเปิดมินิคอนเสิร์ตกับปริมเพื่อป่วนงาน

มุนินทร์ถอนใจเหนื่อยหน่ายกับวีรกรรมของมาร์คกับปริม แต่ไม่แปลกใจเพราะแทนไทเคยเตือนแล้วว่ารัชนกคงไม่ยอมจบแค่นี้และอาจส่งพวกมาร์คมาก่อกวน แล้วก็เป็นเรื่องจนได้เมื่อมีแขกคนสำคัญปรากฏตัวหลังจากนั้น...นพนภากับศรุตนั่นเองที่ควงกันมาแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว!

ooooooo

นพนภาอดประหม่าไม่ได้ สีหน้าเป็นกังวลจนศรุตที่มาร่วมงานเป็นเพื่อนต้องปลอบให้ใจเย็นๆ ก่อนช่วยเปิดบทสนทนาเพื่อคลี่คลายบรรยากาศให้

“สวัสดีครับ...ขอแสดงความยินดีกับบ่าวสาวด้วยครับ”

วีกิจไม่ไว้ใจนพนภา โพล่งไม่ไว้หน้า

“แน่เหรอครับ บอกเจตนามาก่อนครับว่าอาต้องการอะไร ไม่อย่างนั้นผมขอเชิญกลับไปเดี๋ยวนี้เลย”

“อย่าเพิ่งไล่ อาไม่ได้มาร้าย อามาดี อยากมาอวยพรให้เธอกับมุนินทร์”

“จะให้ผมเชื่อเหรอครับ สิ่งที่น่าเชื่อที่สุดตอนนี้ก็คืออาพกปืนมากราดยิงคนในงานรึเปล่า”

“ค้นตัวได้เลยจ้ะ อามาแสดงความยินดีกับเธอจริงๆ”

ศรุตเห็นท่าไม่ดีช่วยนพนภาพูด “คราวนี้ไม่มีอาวุธร้ายอะไรทั้งนั้น ผมยืนยันได้ คุณนพนภาขอให้ผมเป็นเพื่อนพาเข้างานแต่งของคุณเพื่อยืนยันความปรารถนาดีของเธอครับ”

แม้ศรุตจะยืนยันแต่ไม่มีใครเชื่อเพราะวีรกรรมล่าสุดของนพนภายังติดตา สร้อยคำ พิณและแปลกช่วยกันขอร้องให้นพนภาออกจากงานเพราะไม่อยากให้มีเรื่องอื้อฉาวอีก วีกิจก็ยืนกรานไม่ให้อาสาวร่วมงาน ศรุตสงสารนพนภามากหันไปขอความเห็นใจจากมุนินทร์

มุนินทร์ลำบากใจ แต่เห็นแววตาจริงใจของศรุตจึงยอมให้โอกาสนพนภา นพนภาดีใจมากไม่รอช้าบอกเจตนาการมาร่วมงานครั้งนี้

“คุณพ่อคุณแม่...พี่สร้อยคะ...หนูขอโทษที่ทำผิดไปทั้งหมด เข้าใจผิดมุนินทร์อย่างไม่น่าให้อภัย มันเป็นความโง่ ความเขลา ความหลงผิดของหนูเอง”

คำขอโทษจากปากนพนภาทำให้ทุกคนอึ้ง โดยเฉพาะมุนินทร์ที่อ้าปากค้าง

นพนภาเห็นดังนั้นก็เข้าใจดี รีบบอกสิ่งที่คิดมานาน “มุนินทร์...ฉันเชื่อที่เธอพูดทุกอย่าง เรากำลังถูกมือที่สามมันเสี้ยมให้เราเกลียดกัน ให้ทำสงครามน้ำเน่าเมียน้อยเมียหลวง...ฉันเชื่อเธอแล้ว”

“คุณเชื่อจากอะไรคะ อะไรทำให้คุณเปลี่ยนความคิด”

“มีคนเตือนฉันอยู่ตลอดแต่ฉันมันขาดสติเอง จนกระทั่งได้เห็นหลักฐานจากคุณศรุตที่ยืนยันได้ว่าพวกมือที่สามมันสมคบคิดกันจริงๆฉันถึงคิดได้ ตอนนี้ฉันตาสว่างแล้ว...อภัยให้ฉันเถอะนะ”

จบคำก็ยกมือไหว้ขอโทษทุกคน ท่าทางสงบเสงี่ยมและสำนึกผิดจนมุนินทร์อดใจอ่อนไม่ได้

“ถ้าคุณพูดจริงอย่างที่ว่า...ฉันก็ให้อภัยคุณค่ะ”

“ฉันต้องการเท่านี้แหละ ขอให้เธอกับวีกิจมีชีวิตสมรสที่มีความสุขตลอดไป”

อวยพรเสร็จก็จะกลับ ศรุตรั้งไว้เพราะรู้ว่าเธอมีบางสิ่งที่ไม่ยอมพูด มุนินทร์เห็นดังนั้นจึงเปิดโอกาสให้นพนภาอีกครั้งเพื่อบอกสิ่งที่ค้างคาใจ นพนภาจึงขอกลับไปเป็นครอบครัวเดียวกันรวมทั้งทำหน้าที่ผู้ใหญ่ฝ่ายชายสู่ขอมุนินทร์ให้วีกิจอย่างเป็นทางการตามที่ตั้งใจแต่แรก

พิณตาวาวเมื่อคิดถึงจำนวนเงินสินสอดหลักล้านที่เคยขอ แต่มุนินทร์ก็ตัดบทโดยไม่เอ่ยถึงสินสอด

“ไม่มีปัญหาค่ะ...เราจะเป็นครอบครัวเดียวกัน... เหมือนเดิม”

นพนภาตื้นตันใจมาก วีกิจเห็นอาสาวสำนึกผิดจึงเอ่ยปากเชิญให้อยู่ร่วมงานจนจบและกล่าวอวยพรบ่าวสาวต่อหน้าแขกเหรื่อ อรพิมกับทิพอาภาทำหน้าที่พิธีกรและเชิญนพนภาขึ้นเวที

เสียงปรบมือเรียกกำลังใจให้นพนภา “ขอบคุณค่ะที่ให้เกียรติและให้โอกาสดิฉันอีกครั้ง และครั้งนี้ดิฉันคิดว่าจะไม่ทำพลาดอีกเพราะงานแต่งงานของบ่าวสาววันนี้เป็นวันสำคัญของตระกูลของเรา...วันที่เราได้ต้อนรับสมาชิกใหม่เข้าสู่ครอบครัว...สะใภ้คนใหม่...มุนินทร์...อาขอต้อนรับสู่อภิบาลบดินทร์จ้ะ”

ooooooo

บรรยากาศงานเลี้ยงฉลองดำเนินอย่างเรียบง่ายแต่อบอุ่น แขกเหรื่อดื่มด่ำกับความรักแสนหวานจนวีกิจเกือบวางใจว่าพวกมาร์คจะไม่ก่อเรื่อง แต่มุนินทร์ยังระแวงเพราะรู้จักนิสัยเจ้าคิดเจ้าแค้นของรัชนกดีว่าคงไม่จบแค่นี้

แล้วก็จริงตามที่มุนินทร์คาด ระหว่างที่แขกเหรื่อสนุกสนานกับงานเลี้ยงและการรับประทานเค้กงานแต่ง มาร์คกับปริมก็ออกมาเต้นรำกลางงานพร้อมโชว์นายแบบเปลือยท่อนบน

วีกิจกับมุนินทร์ รวมทั้งคณะเพื่อนเจ้าบ่าวเจ้าสาวงุนงงมากเพราะไม่มีในกำหนดการ นพนภาก็ตะลึงไม่ต่างกันก่อนเบิกตาโพลงเมื่อนึกได้ว่าเคยเห็นโชว์นี้เมื่อสี่ปีก่อน

“ใช่แล้ว...คืนนั้นที่อาเผชิญหน้ากับหนูกับคุณภพ”

“ค่ะ...คืนที่เราถอดหน้ากากและสงครามเมียน้อยเมียหลวงกำลังใกล้จะระเบิด”

มุนินทร์ก็จำได้เพราะเหตุการณ์คืนนั้นจบไม่สวย แถมเป็นคืนที่ทำให้วีกิจเข้าใจเธอผิดใหญ่โต นพนภาสะเทือนใจมาก กวาดตามองรอบๆหาตัวคนบงการอย่างรัชนกแต่ก็ไม่เห็น

“มันต้องการอะไร จัดฉากแบบนี้ขึ้นมาทำไม”

“เน้นย้ำว่าสงครามระหว่างเรายังไม่จบมังคะ... เดี๋ยวมันคงเฉลย”

ในที่สุดคำเฉลยก็มาถึง ตัวบงการงานโชว์ที่แท้จริงอย่างรัชนกปรากฏตัวในชุดราตรีกรุยกรายควงประพงษ์และศักดิ์ชายเหมือนเคย รัชนกเดินมาประจันหน้ามุนินทร์ด้วยท่วงท่าถือดีและท้าทาย

“ขอตอบข้อสงสัยของทุกคนนะคะว่านกมาทำอะไรงานนี้ นกมาแสดงความยินดีให้กับบ่าวสาวไงคะ”

“ยังใช้มุกเดิม เหตุผลเดิมๆ เก็บความหวังดีของเธอไว้เถอะ ที่เธอทำลายชีวิตฉันกับคุณนพนภามาตลอดสองสามเดือนมานี่ฉันถือว่าเธอแสดงเจตนาชัดเจนแล้ว”

วีกิจเห็นท่าไม่ดีไล่รัชนกออกจากงาน แต่มุนินทร์รั้งไว้เพราะคิดว่ารัชนกคงไม่ยอมจบหากไม่ได้พูดสิ่งที่เตรียมมา รัชนกเหยียดยิ้มเย็นก่อนแสร้งตีหน้าเศร้าเหมือนรู้สึกผิด

“ขอบคุณค่ะที่ยังอยากฟังคนโรคจิตอย่างนก สิ่งแรกที่นกจะพูดก่อนก็คือ...นกแพ้แล้วค่ะ”

จบประโยคพร้อมเสียงฮือฮาจากแขกเหรื่อ วีกิจกับมุนินทร์ก็มองหน้ากันแบบไม่อยากเชื่อหู ก่อนจะตัวสั่นด้วยความโกรธจัดเมื่อได้ยินประโยคขยายความของรัชนก

“นกยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้อย่างดุษณี คงเพราะนกไม่เชื่อในรักแท้มั้งคะเลยลองทดสอบพี่กิจกับพี่นินว่าถ้าเกิดอุปสรรคขัดขวางความรักอย่างหนักหนาสาหัสทั้งสองคนจะยังรักกันอยู่ไหม แล้วในที่สุดทั้งคู่ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าคือรักแท้จริงๆ รักกันมั่นคงยิ่งกว่าเดิมจนมีวันนี้...วันที่ได้แต่งงานกันอย่างสมรัก นกเชื่อแล้วค่ะว่ารักของคุณสองคนไม่มีวันหมดอายุ...ขอปรบมือให้อย่างบริสุทธิ์ใจค่ะ”

อ่านละคร แรงเงา 2 ตอนที่ 6 วันที่ 15 พ.ค.62

ละครเรื่อง แรงเงา 2 บทประพันธ์โดย นันทนา วีระชน
ละครเรื่อง แรงเงา 2 บทโทรทัศน์โดย Anonymous
ละครเรื่อง แรงเงา 2 กำกับการแสดงโดย ชนินทร ประเสริฐประศาสน์
ละครเรื่อง แรงเงา 2 ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่อง แรงเงา 2 ควบคุมการผลิตโดย อรุโณชา ภาณุพันธุ์
ที่มา ไทยรัฐ