อ่านละคร แรงเงา 2 ตอนที่ 7 วันที่ 18 พ.ค.62

อ่านละคร แรงเงา 2 ตอนที่ 7 วันที่ 18 พ.ค.62

“นั่นยิ่งทำให้ฉันยิ่งรู้สึกต้องรับผิดชอบมากขึ้นไปอีก คุณกิจ...ตั้งแต่เกิดเหตุ ทุกครั้งที่ฉันนอน ฉันหลับตา ภาพของเด็กนั่นมันรบกวนฉันตลอด...ภาพเธอวิ่งมาหน้ารถ เธอมองมาที่รถแล้วกรีดร้อง เธอวิ่งออกมาเหมือนเธอกำลังหนีอะไรบางอย่าง...มีใครไล่ตามเธอมาแน่ๆ”

วีกิจเข้าใจภรรยาแต่ยังไม่เห็นด้วยเรื่องให้มาอยู่ด้วยกันในเรือนหอ

“คุณแค่รู้สึกผิดเท่านั้น เด็กนั่นก็แค่วิ่งตัดหน้ารถ”



“ไม่ค่ะ...เด็กนั่นวิ่งหนีคนที่ทำร้ายเธอ”

“นิน...นี่คุณกำลังมโนไปเองนะ”

“ฉันไม่ได้มโน เด็กนั่นถูกข่มขืน เข้าใจไหมว่าเด็กถูกข่มขืน!”

“มีหลักฐานไหม”

“หมอตรวจร่างกายของเธอพบร่องรอยการทำร้ายและการร่วมเพศก่อนหน้าที่จะถูกรถชน”

“นี่คือเหตุผลที่คุณไปนอนเฝ้าเธอสองสามคืน”

“ใช่ค่ะ...เด็กกรีดร้องตอนมีพายุ กลัวคนมาทำร้ายเหมือนคืนวันเกิดเหตุ ฉันเป็นห่วง เด็กต้องไปรับการเยียวยา”

“เข้าใจแล้วครับ แต่...ทำไมไม่บอกผมเสียแต่แรก”

“ไม่รู้ค่ะ...มันสะเทือนใจฉันจนฉันพูดกับคุณตอนนั้นไม่ได้”

ท่าทางจิตตกของภรรยาทำให้วีกิจใจอ่อน มุนินทร์ซึ้งใจมากโถมตัวกอดเขา “กิจคะ...ฉันอุปการะแกชั่วคราวเท่านั้น คุณหมอบอกว่าความทรงจำแกอาจคืนมาเร็วๆนี้ พอเราสืบหาครอบครัวแกได้เราก็ส่งเด็กคืน...เรื่องก็จบ”

“ครับ...หวังว่าชั่วคราวนะครับ”

วีกิจสังหรณ์ว่าเรื่องจะไม่จบแค่ชั่วคราวแต่ไม่อยากชวนทะเลาะ ปล่อยให้มุนินทร์ทำตามใจย้ายหญิงสาวผู้โชคร้ายซึ่งต่อมาสอบถามจนรู้ชื่อว่าทัยเข้ามาในเรือนหอ แถมให้นอนในห้องเด็กที่วีกิจตั้งใจทำให้ลูก แต่เขาก็พูดไม่ออกเพราะไม่อยากผิดคำพูดและหักหาญน้ำใจภรรยา

สร้อยคำรู้เรื่องหญิงสาวผู้โชคร้ายจากวีกิจ อดใจไม่ไหวไประบายกับนพนภา

“รับเด็กนั่นมาดูแล ตายจริง...มุนินทร์เขาคิดอะไรของเขา นั่นบ้านเรือนหอนะคะ เขาควรอยู่ลำพังสองคน”

“นั่นสิคะ...ไม่เข้าใจเหมือนกัน พี่มาบอกคุณนภาไว้ก่อนเพราะช่วงนี้พี่คงต้องเทียวไปเทียวมา”

นพนภาพยักหน้ารับ ไม่ได้คิดห้ามปรามเพราะไม่เห็นเป็นเรื่องลำบากลำบน แถมตัวเองก็มีความสุขเพราะได้บำบัดอาการทางจิตกับศรุต สร้อยคำไม่ได้ชอบใจความสัมพันธ์คลุมเครือระหว่างนพนภากับศรุตแต่ก็ทำได้แค่มองห่างๆเพราะนพนภายืนยันว่าบริสุทธิ์ใจและมีความสุขมากๆจากการบำบัด...

ooooooo

นพนภามีความสุขมากเพราะการบำบัดจากศรุต ทุกคนรอบตัวโดยเฉพาะต้องกับต่อ ลูกสาวคนโตกับลูกชายคนกลาง ไม่สบายใจเลยกับพฤติกรรมเหมือนนอกใจพ่อของแม่

วีกิจก็อึดอัดใจไม่น้อย ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของมุนินทร์ ย้ายทัยเด็กสาวผู้โชคร้ายมาอุปการะอยู่ร่วมเรือนหอ แล้วก็เป็นเรื่องจนได้เมื่อเขาดันโผล่มาเห็นเธอในสภาพเกือบเปลือยมีแค่ผ้าขนหนูพันกาย!

ทัยตกใจมาก ถอยหนีเข้าห้องน้ำ แต่กลับทำให้สถานการณ์ยิ่งล่อแหลมเมื่อเธอสะดุดล้มผ้าขนหนูหลุดจากตัว วีกิจใจเต้นไม่เป็นส่ำ ภาพเด็กสาวตรงหน้าทำให้ต้องเบือนหน้าหนี ก่อนจะสติแตกเมื่อเธอร้องไห้สะอึกสะอื้นและเหมือนมีอาการทางจิตกลัวคนทำร้าย

วีกิจกระอักกระอ่วนใจมากกับเหตุการณ์ล่อแหลมกับทัยแต่ไม่กล้าบอกมุนินทร์กลัวจะไม่สบายใจ ปล่อยให้ภรรยาคนสวยจัดแจงเรื่องสมาชิกคนใหม่ของเรือนหอตามลำพัง

มุนินทร์กระตือรือร้นเรื่องทัยมาก อาสาพาไปซื้อเสื้อผ้าใหม่

“คุณซื้อให้หนูเถอะค่ะ”

“ไปเลือกเองดีกว่าจะได้ถูกใจ เสื้อผ้าสวยๆจะทำให้เธอสดใสขึ้นนะ...ใช่ไหมคะคุณกิจ...เด็กสาวๆต้องใส่แนวสาวแรกรุ่น มีจีบมีระบาย...จริงไหม”

 วีกิจสะอึกเมื่อถูกภรรยาเย้าแต่ตีหน้านิ่งเหมือนไม่รู้สึกรู้สา “ถามผมทำไมครับ”

“แหม...ก็ตอนนั้นคุณจีบมุตตา ตาก็ใส่ชุดแบบนี้ไม่ใช่เหรอ”

“นิน...ตาเขาใส่ของเขาเอง”

“รู้ค่ะ...แต่คุณก็ชอบนี่”

มุนินทร์ฝังใจเรื่องมุตตาน้องสาวฝาแฝดซึ่งมีนิสัยตรงข้ามเธอทุกอย่าง แม้วีกิจผู้เป็นสามีจะยืนยันว่ารักเธอคนเดียวก็ไม่ทำให้เลิกคิด ลึกๆแล้วเธอยังระแวงเสมอว่าเขาอาจยังรักมุตตา

วีกิจเข้าใจปมของภรรยาแต่ไม่มีแก่ใจจะปลอบ มัวกังวลถึงฉากล่อแหลมในห้องน้ำจนต้องโพล่งขอโทษทัยต่อหน้ามุนินทร์ ทัยมีสีหน้าอึกอักก่อนเล่าว่าตนตกใจที่เห็นวีกิจในห้องนอนหลังออกจากห้องน้ำ แต่ไม่ยอมเล่าถึงสภาพเกือบเปลือยของตน มุนินทร์ไม่ได้ติดใจเข้าใจสภาพจิตใจของทัยดี ต่างจากวีกิจที่ข้องใจว่าทำไมทัยถึงเล่าไม่หมด...

ooooooo

พฤติกรรมน่าสงสัยของทัยทำให้วีกิจคิดไม่ตก หน้านิ่วคิ้วขมวดจนมุนินทร์อดถามไถ่ไม่ได้

“กิจคะ...เป็นอะไร...ดูเหม่อๆเครียดๆตั้งแต่กินข้าวแล้ว”

“ผมกำลังคิดเรื่องทัย...เด็กทำท่าตื่นตกใจเหมือนผมจะเข้าไปทำร้าย แสดงว่าเด็กยังหลอนเรื่องในอดีตอยู่”

“ค่ะ...คุณกำลังจะบอกอะไร”

“เด็กควรอยู่ในความดูแลของหน่วยงานที่เหมาะสมนะ...ที่ที่มีหมอ มีพยาบาล”

วีกิจสบโอกาสกล่อมมุนินทร์ให้ส่งทัยไปอยู่ที่อื่นเพราะสังหรณ์ใจว่าอาจมีเรื่องไม่งามในเรือนหอ แต่มุนินทร์ไม่เข้าใจ ยืนยันว่าการดูแลอย่างใกล้ชิดจะเป็นผลดีกับทัยมากกว่า

“ผมเข้าใจ แต่...คุณก็ต้องเข้าใจด้วยนะ ผมเป็นผู้ชาย...แค่อยู่กันลำพังสองต่อสองเขาก็เกิดอาการแล้ว”

“งั้นก็ต้องระวังหน่อย คุณอาจจะต้องเลี่ยงบ้างเวลาอยู่กับเธอลำพัง”

“ต่อไปคงถอดเสื้อใส่บ็อกเซอร์ตัวเดียวเดินโทงเทงในบ้านไม่ได้ หรือไม่...อยากจะกอดจะจูบคุณต้องหลบเข้าห้องนอน เข้าหลังครัวหรือสวนหลังบ้าน”

มุนินทร์หัวเราะขำ “บ้า...สวนหลังบ้าน...คิดได้ไง เอาน่า...พรุ่งนี้คุณแม่ก็มาอยู่เป็นเพื่อนแล้ว ไม่มีปัญหาหรอกค่ะ เอ...แต่แม่มาอยู่คุณยิ่งประเจิดประเจ้อไม่ได้ใหญ่”

“กำลังจะพูดนี่แหละ...เฮ้อ...บ้านเรือนหอ กลายเป็นกรงขังไปแล้ว”

“เอาน่า...เดี๋ยวทุกอย่างก็ดีขึ้นนะค้า...เชื่อน้องนินนะ”

ท่าทางออดอ้อนของมุนินทร์ทำให้วีกิจผ่อนคลาย ปัดเรื่องทัยทิ้งและหยอกล้อกับภรรยาคนสวยตามประสาคู่ข้าวใหม่ปลามัน ทัยได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกของสองสามีภรรยาเจ้าของบ้านก็ออกมาดู สีหน้าตกตะลึงแต่มุนินทร์ไม่ทันเห็น วีกิจเสียอีกที่ถึงกับผงะเมื่อเห็นท่าทางของเธอจากเงามืด!

ooooooo

ค่ำคืนแรกในเรือนหอของวีกิจกับมุนินทร์ผ่านพ้นไปในที่สุด ทัยหรือตัวจริงคือฤทัยยังมีอาการเหมือนคนจำความไม่ได้ สร้อยคำแวะมาทำข้าวเช้าให้ลูกชายกับลูกสะใภ้ พยายามจับสังเกตสมาชิกคนใหม่แต่ไม่พบอะไรผิดปกติ

มุนินทร์เอ็นดูทัยมาก ต่างจากวีกิจตะขิดตะขวงพฤติกรรมของเด็กสาวเหลือเกิน และดูเหมือนเจ้าตัวจะจับทางเขาได้พยายามหาโอกาสคุยกับเขาตามลำพัง

“คุณกิจคะ...หนูจะขอคุณสักเรื่อง”

“ทำไมต้องกระซิบ”

“เรื่องเมื่อวานที่หนูตกใจจน...ผ้าขนหนูมัน... เอ่อ...คุณอย่าเล่าให้คุณมุนินทร์ฟังนะคะ...หนูอาย”

“ไม่เล่าหรอก ตอนกินข้าวเมื่อคืนเธอก็บอกนินเขาแล้วนี่”

“ค่ะ...หนูรีบบอกเพราะกลัวคุณจะเล่าเรื่องทั้งหมด”

“ฉันไม่เล่าหรอก”

“เป็นความลับระหว่างเรานะคะ”

วีกิจหันมามองทัย เห็นแววตาใสซื่อจึงยอมรับปาก “ได้...เป็นความลับระหว่างเรา”

ทัยยิ้มดีใจ วีกิจเอะใจไม่ทันทักสร้อยคำก็โผล่มาตามทัยเข้าบ้าน บรรยากาศแปลกๆทำให้สร้อยคำไม่ค่อยสบายใจและอดเตือนลูกชายคนเดียวไม่ได้

“แม่เตือนอย่างนะ...เด็กก็เป็นสาวแล้ว อย่าอยู่ใกล้ชิดมากเดี๋ยวมันจะดูไม่ดี”

“ครับ...ผมก็คิดอย่างนั้นแหละ”

อ่านละคร แรงเงา 2 ตอนที่ 7 วันที่ 18 พ.ค.62

ละครเรื่อง แรงเงา 2 บทประพันธ์โดย นันทนา วีระชน
ละครเรื่อง แรงเงา 2 บทโทรทัศน์โดย Anonymous
ละครเรื่อง แรงเงา 2 กำกับการแสดงโดย ชนินทร ประเสริฐประศาสน์
ละครเรื่อง แรงเงา 2 ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่อง แรงเงา 2 ควบคุมการผลิตโดย อรุโณชา ภาณุพันธุ์
ที่มา ไทยรัฐ