อ่านละคร เพลิงพรางเทียน ตอนที่ 1 วันที่ 13 พ.ค.62

อ่านละคร เพลิงพรางเทียน ตอนที่ 1 วันที่ 13 พ.ค.62

คืนนี้ที่บ้านทรงไทย...กำลังถ่ายละครฉากสุดท้าย...เบน นายแบบชื่อดัง สูง ขาว หล่อ อยู่ในชุดท่านเจ้าคุณหน้าตาถมึงทึง เดินตรงมาที่กลินท์นางแบบชื่อดังในร่างนางจวน ทาสสาวที่อยู่บริเวณลานดินกว้างสภาพเนื้อตัวมอมแมม ตามตัวเต็มไปด้วยรอยแส้ เบนสั่งบ่าวที่อยู่ใกล้เสียงเหี้ยม

“เอาแส้มา!!!”

“ท่านเจ้าขา นังจวนมันเจ็บเจียนตายแล้วนะเจ้าคะ ได้โปรดเมตตามันด้วยเจ้าค่ะ” สายป่านที่เล่นเป็นทาส ไหว้อ้อนวอนหมอบแทบเท้าเบนน้ำตานอง



“คนสารเลวอย่างมันต้องเฆี่ยนให้ตาย เอาแส้มา!!” เสียงเบนเหี้ยมแม้ดวงตามีแววเสียใจ ทาสชายยื่นแส้ให้ กลินท์มองเบนด้วยแววตาที่เจ็บปวดน้ำตาไหลพรากแต่ไม่มีคำอ้อนวอนแม้แต่คำเดียว และสะดุ้งเฮือกทุกครั้งที่เบนหวดแส้ลงร่างไม่ยั้งเต็มแรง เลือดซึมไหลจากบาดแผลแตก

แพมซึ่งรับบทเป็นภรรยาท่านเจ้าคุณที่ยืนมองอยู่แอบยิ้มสะใจ

เบนมองกลินท์พูดอย่างเลือดเย็นก่อนหวดแส้ลงร่างกลินท์อีก

“สำหรับความรักที่กูมีให้มึง อีจวน!!!”

เบนทิ้งแส้ในมือเดินพรวดออกไป แพมที่ยืนมองอยู่อย่างเย้ยหยันทรุดนั่งข้างกลินท์เชยคางพูดเหี้ยม

“สำหรับความเจ็บปวดที่มึงแย่งความรักไปจากกู อีจวน!!” สิ้นเสียงก็ตบหน้ากลินท์ซ้ายขวาเต็มแรงก่อนลุกพรวดไป กลินท์มองตามเบนกับแพมไปด้วยแววตาเจ็บปวด แค้นใจ แม้กำลังจะสิ้นลม พึมพำอาฆาต

“กูขออธิษฐาน เกิดชาติหน้าฉันใด ขอให้กูมี บุญหนักศักดิ์ใหญ่ มีอำนาจเหนือกว่าพวกมึง” แม้กำลังจะสิ้นใจ แต่จิกตาแค้น “กูจะตามล้างตามผลาญอาฆาตพยาบาทพวกมึงทุกชาติไป” สิ้นเสียง กลินท์ก็สิ้นใจอนาถ

นั่นคือฉากสุดท้ายของละคร ที่โจ๊กผู้กำกับชมว่า

“โอ้โห!! สุดยอดมาก พวกคุณทุกคนสุดยอดจริงๆ เป็นซีนปิดกล้องที่ผมประทับใจจนไม่รู้จะพูดยังไง สุดยอดมากๆ ขอบคุณๆๆ”

เบนบอกว่าพวกเราก็ต้องขอบคุณพี่โจ๊กเหมือนกันที่ช่วยกำกับจนพวกเรารู้สึกเหมือนเป็นตัวละครในเรื่องเลย ส่วนกลินท์ขอพี่โจ๊กดูคลิปหน่อย ผู้กำกับโจ๊กจึงเดินนำทุกคนไปที่มอนิเตอร์

ooooooo

ทุกคนไปที่หน้าจอมอนิเตอร์เห็นซีนสุดท้ายที่กลินท์นอนตายลืมตาโพลง พริบตานั้นกลินท์เห็นภาพของเทียนคำตอนกำลังจะตายแว่บซ้อนขึ้นบนร่างตัวเอง กลินท์อุทานเบาๆ

“ว้าย!!”

ทุกคนหันมองว่าเกิดอะไรขึ้น เบนกับสายป่านถามว่ามีอะไร กลินท์จ้องมอนิเตอร์อย่างตกใจบอกว่าเมื่อกี้เหมือนมีรูปใครซ้อนขึ้นมาก็ไม่รู้ แป้งร่ำฝ่ายคอสตูมถามหน้าตาตื่นว่าผีเหรอ?? ให้พี่โจ๊กเพลย์แบ็กดูอีกที แต่พอพี่โจ๊กรีเช็กก็ไม่มีอะไรผิดปกติ กลินท์ยิ้มเฝื่อนบอกว่าตนอาจตาฝาด แต่ข้าวนึ่งเย้าว่า

“ก็ตะกี้ลินท์เล่นได้แบบเป็นนังจวนจริงๆ วิญญาณนังจวนเลยออกมาให้เห็นน่ะสิจ๊ะ”

พี่โจ๊กชมว่าลินท์มีสมาธิดีมาก สายป่านชมว่าลินท์เป็นคนตั้งใจจริง ทำอะไรจริง สมาธิดีมาก กลินท์ก็ชมว่าสายป่านก็เหมือนกันแหละ รับเชิญแค่เรื่องแรกแต่แย่งซีนตนไปหมดเลย

“แต่ไม่มีใครแย่งซีนตัวแม่อย่างลินท์ได้หรอก เวลาเล่นละครลินท์เหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในโลกละครยังไงยังงั้น” เบนชื่นชม แพมยิ้มเยาะแอบกัดว่า

“โดยเฉพาะเล่นเป็น ‘เมียน้อย’ ลินท์เล่นได้เหมือนยังกับชีวิตจริงเป็นเมียน้อยยังไงยังงั้นแหละ เหมือนชนิด ‘เมียหลวง’ หลับไม่ลงเลย ร้ายยยยย...จริงๆ”

กลินท์ยิ้มแต่แววตามีเลศนัย ตอบเนียนๆว่าเราเป็นนักแสดงก็ต้องอินกับบทแล้วเข้าไปอ้อนเบน แกล้งถองท้องเขาเบาๆทำเสียงหวาน “คุณพี่เจ้าขา...” เบนก็ดึงกลินท์ไปกอดแนบสนิท พี่โจ๊กรีบตัดบทขอบคุณทุกคนที่ช่วยกันทำงานเป๊ะขนาดนี้ ทีมงานต่างกอด จับมือแสดงความยินดีกัน พี่โจ๊กบอกทุกคนว่า

“เรื่องหน้าต้องเจอกันอีกนะ กลินท์ เบน!!”

ทั้งสองยินดี แป้งร่ำหยอกว่า หวังว่าเรื่องหน้าตอนเช็กมอนิเตอร์จะไม่มีอะไรแว่บๆเข้ามาให้กรี๊ดอีก นักข่าวเดินมาหากลินท์ขอคุยด้วย กลินท์ยินดีทั้งที่ยังไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า ยิ้มหวานถามว่า “ว่าไงคะมีอะไร”

“มีคนตาดีแอบเห็นลินท์ไปเป็นตุ๊กตาหน้ารถของใครก็ไม่รู้” นักข่าวสาวถาม

แพมแอบยิ้มอย่างสะใจ กลินท์หยอกว่าตุ๊กตาหน้ารถของตัวเองหรือเปล่า บอกว่าตนมีสายป่านเป็นคนขับรถ สายป่านอยู่กับตนตลอด สายป่านท่าทางมีพิรุธแต่รีบทำหน้าปกติ นักข่าวแซะต่อไปว่า มีคนเห็นจริงๆว่ามีคนมารับมาส่งลินท์ หมี่ซั่วพูดแทรกว่าหน้าตาคล้าย...

หมี่ซั่วพูดไม่ทันจบกลินท์ก็ทำเป็นหนาวขอตัว เมื่อนักข่าวตาม ก็จิกเบาๆว่า

“จะเอาอะไรอีก อย่าจับผิดค่ะ ขอร้องอย่าจับผิด อย่าคิดอะไรกันไปเอง ถ้ามีอะไรลินท์บอกอยู่แล้วไม่ปิดบัง” ทำท่าหนาวจนสั่นแล้วขอตัว สายป่านบอกนักข่าวขอพากลินท์ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน แล้วรีบจูงไปเลย

นักข่าวมองตามอย่างสงสัย แต่แพมที่มองอยู่ตลอดเวลาแอบเบ้ปากใส่กลินท์แล้วโทร.เล่าให้ปติมาฟัง ด่าต่อท้ายว่า “มันก็ตอแหลเหมือนทุกครั้งนั่นแหละว่าไม่มีอะไร” ปติมาบอกว่าอาจจะไม่มีอะไรจริงมั้ง

“ไม่มีได้ยังไงติ๊ แกก็รู้ว่านัง ‘แบ๊วตกมัน’ มันกำลังจะแย่งผัวแก ตะกี้ฉันก็ลุ้นให้นังหมี่ซั่วพูดชื่อ ‘อินทร์’ ออกมา อยากรู้นังกลินท์จะตอแหลต่อยังไง? เฮ้อ...แต่ก็ไม่มีใครพูด แล้วนี่อินทร์อยู่รึเปล่า”

ปติมาบอกว่าอยู่ หยอกเสียงกลั้วหัวเราะว่า “แกถามยังกับเป็นเมียอินทร์มากกว่าฉันเสียอีกรู้ไหมแพม”

“ก็ตอนนี้เลิกกองแล้ว อินทร์อยู่ก็แล้วไป แต่ถ้าไม่อยู่ เดาได้เลย แบ๊วจอมฉกตกมันเป็นคนฉกเอาไป!” แพมทิ้งระเบิดแล้ววางสายอย่างหงุดหงิดมาก

ปติมาเรียกมะยงชิดให้หาอะไรให้คุณอินทร์กินที่ห้องทำงาน มะยงชิดบอกว่าคุณอินทร์ออกไปแล้ว ปติมาถามเร็วปรื๋อว่าเมื่อไหร่ พอรู้ว่าออกไปราวชั่วโมงแล้ว ปติมาหน้าเจื่อนไปทันที

ooooooo

แต่บรรยากาศที่กองถ่ายบ้านทรงไทย เบนกำลังถูกแป้งร่ำกับข้าวนึ่งสองตุ๊ดซ่ามะรุมมะตุ้มจนสายป่านเหน็บว่าถ้าสิงได้พวกเธอคงสิงเบนไปแล้ว

เบนบอกไม่ต้องแย่งกัน ดันแป้งร่ำกับข้าวนึ่งออกเบาๆ แล้วขอตัวกลับ นัดเจอกันวันเลี้ยงปิดกล้อง พอดีแพมเดินสวนมา เข้าไปถามว่าแล้วกลินท์ล่ะ เบนชะงักกึก สายป่านบอกว่ากลินท์เปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในห้อง แพมยิ้มอย่างมีเลศนัยแล้วเดินไปกระชากประตูออกอย่างแรง!

ภาพที่เห็นคือกลินท์กำลังถอดเสื้อออกเหลือแต่ชุดชั้นใน สายป่านพุ่งไปกระชากประตูปิด ด่าแพมว่าไม่มีมารยาท แพมอ้างว่าตนเรียกแล้วทำไมกลินท์ไม่ตอบ กลินท์ออกมาสวนไปทันควันอย่างไม่พอใจว่า พี่แพมเป็นญาติผู้ใหญ่ฝ่ายไหนของตน จะขี้จะเยี่ยวถึงต้องรายงาน

กลินท์กับแพมมองหน้ากันอย่างพร้อมมีเรื่อง กลินท์พูดต่อพลางคว้ากระเป๋าว่า แต่เผอิญไม่ใช่ญาติ บอกให้แพมไปหาซื้อหนังสือ “มารยาทผู้ดี” มาอ่าน

ถ้าไม่มีเวลาตนจะแวะซื้อมาให้ เผื่อแพมจะได้ลืมตาอ้าปากเป็นผู้ดีกับเขาบ้าง พูดแล้วจะไป ถูกแพมคว้ามือไว้บอกว่าเรามีเรื่องต้องคุยกัน เพราะลินท์กำลังไปยุ่งกับสามีของติ๊ จ้องหน้ากลินท์ด่า

“ลินท์กำลังทำตัวแบบผู้หญิงบางจำพวก หน้าด้าน ไม่มียางอาย คำว่า ‘ผัวแห่งชาติ’ มันถึงได้เกิดขึ้นเพราะวันๆ จ้องแต่จะจับผู้ชายมาทำผัวโดยไม่สนลูกเขาผัวใคร แต่จำเอาไว้ อินทร์เป็นผัวของติ๊คนเดียว ลินท์อย่ายุ่งกับอินทร์”

“พี่แพมกำลังหมิ่นประมาทลินท์อยู่นะคะ” สายป่านจ้องหน้าปราม

“ถือว่าเตือน ป่านเป็นผู้จัดการส่วนตัวของลินท์ก็น่าจะรู้ ถ้าเรื่องมันแดงขึ้นมาว่าลินท์จงใจแย่งผัวติ๊ ลินท์จะไม่มีที่ยืนอีกต่อไป”

เบนได้ยินทั้งหมด หน้านิ่วคิ้วขมวดรีบเดินออกไป แพมกับสายป่านจ้องหน้ากัน แล้วแพมก็สะบัดเข้าห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า ทุกคนมองสายป่านที่ยืนอึ้งแล้วหลบสายตาทุกคนอย่างมีพิรุธ

กลินท์รีบเดินออกไป เบนทำท่าจะร้องเรียก แต่แล้วก็ชะงักเมื่อรถหรูคันหนึ่งแล่นมาจอด กลินท์รีบขึ้นรถไปอย่างมีพิรุธ แล้วรถหรูก็แล่นออกไปอย่างเร็ว

เบนที่เพ่งมองตาม ทันเห็นเสี้ยวหน้าของอินทร์ที่หันมาทางกลินท์ เบนตกใจอย่างคาดไม่ถึง!!!

ข้าวนึ่งกระซิบกับแป้งร่ำว่างานนี้ลินท์กับคุณอินทร์มีซัมติงรองจริงใช่ไหม...ต้องใช่แน่ๆ ลินท์ต้องทำตัวเป็นแมวขโมยอย่างที่พี่แพมสงสัยแน่ แป้งร่ำยิ้มตาเป็นประกาย แล้วสองตุ๊ดก็เม้าท์กันแสบแซ่บตามประสา

ooooooo

สายป่านโทร.หากลินท์ถี่ๆ แต่ถูกกลินท์กดตัดสายทิ้งจนอินทร์ถามแซวว่า หนุ่มที่ไหนโทร.มากลินท์บอกว่าสายป่านโทร.มา คงเป็นห่วงที่ตนมากับคนที่มีครอบครัวแล้ว

อินทร์บอกกลินท์ว่าตนไม่มีครอบครัว ตนกับปติมาแยกกันอยู่นานแล้วและไม่ได้จดทะเบียนกันด้วย

กลินท์บอกว่าตอนนี้เริ่มมีคนเห็นเราแล้ว ตนถูกด่าว่าแย่งผัวพี่ติ๊ ถูกพี่แพมตามจิกกัดแทบทุกวัน

“สนใจทำไม แพมก็แค่ผู้หญิงที่หาแฟนไม่ได้ถึงได้เที่ยวอิจฉาคนที่เขามีความรัก” อินทร์จูบหน้าผาก กลินท์สัญญาว่าจะไม่มีวันทำให้ลินท์เสียหาย “ลินท์รอผมอีกนิดนะ ผมจะพยายามจัดการเรื่องของผมกับคุณติ๊ให้เร็วที่สุด...นะลินท์ ผมรักลินท์ รักมาก รักจนอดคิดไม่ได้ว่าผมกับลินท์ต้องเป็นเนื้อคู่กันมาแต่ชาติปางก่อนแน่ๆ”

กลินท์ถามว่าจริงหรือ อินทร์บอกว่าจริง ความรู้สึกมันแปลกประหลาด แปลกมากๆทั้งที่ตนไม่เคยเชื่อเรื่องพวกนี้ จับมือกลินท์อ้อนให้รอ เราจะสร้างครอบครัวใหม่ด้วยกัน

“ค่ะ...ลินท์จะรอคุณค่ะอินทร์” กลินท์ตอบด้วยความลุ่มหลง อินทร์ดึงกลินท์เข้าไปจูบที่หน้าผาก พอดีมีแสงไฟหน้ารถที่สวนมาสาดเข้ามาในรถ กลินท์สะดุ้งรีบผละออกบอกว่ากลัวถูกคนตามมาแอบถ่ายรูป อินทร์ได้ทีเสนอว่างั้นเราไปในที่ที่ไม่มีคนแอบถ่ายกันนะ กลินท์มองอินทร์ตาเป็นประกาย ต่างมองกันอย่างหลงใหล

ทั้งสองไปที่ห้องกลินท์นอนซบกันอย่างลุ่มหลง อินทร์จูบกลินท์ชวนไปเที่ยวกันสักพัก ตนอยากอยู่อยากกอดลินท์อยากใช้ชีวิตอยู่กับลินท์โดยไม่ต้องกลัวว่าจะทำให้ลินท์เสียหาย ออดอ้อน...

“นะลินท์ ลินท์ไปกับผมนะ ความรู้สึกมันบอกว่า อยากให้ผมย้อนกลับไปช่วงเวลาที่เราเคยอยู่ด้วยกันจริงๆ”

กลินท์เคลิ้ม...และค่อยๆหลับ ฝันอย่างมีความสุขว่าเจ้าน้อย เจ้าชายแห่งคุ้มเวียงสวรรค์ อดีตชาติของอินทร์กำลังกอดเทียนคำซึ่งก็คืออดีตชาติของกลินท์ เจ้าน้อยหยิบปิ่นทองออกมาปักลงบนเรือนผมของเทียนคำจูบหน้าผากนุ่มนวล เอ่ยอ่อนหวาน

“ข้าขอสัญญา ไม่ว่ากี่ภพกี่ชาติ ข้าจะรักแต่เจ้า มีแต่เจ้าเพียงคนเดียวตลอดไป”

เทียนคำน้ำตารื้นมองเจ้าน้อยด้วยความจงรักภักดี เจ้าน้อยจูบไล่ลงมาหยุดที่ริมฝีปากนิ่ง...นาน

กลินท์สะดุ้งตื่นจากฝัน จำคำสาบาน คำสัญญาของอินทร์ฝังใจ ตอกย้ำแต่คำว่าทุกภพทุกชาติไป เอามือแตะริมฝีปากที่ในฝันเพิ่งโดนอินทร์จูบ ที่ยังดื่มด่ำฉ่ำหวานอยู่ในความรู้สึก...

ooooooo

กลินท์กลับมาบอกสายป่านว่าจะไปปารีสสักอาทิตย์ สายป่านขอไปด้วย กลินท์บอกให้อยู่รับงานที่นี่ สายป่านดักคอว่าไม่อยากให้ตนไปเป็นก้างขวางคอใช่ไหม ถามเสียงเข้มว่า

“เธอจะไปปารีสกับผัวชาวบ้านใช่ไหม?...จะไปกับคุณอินทร์??” กลินท์ทำท่าจะเถียง สายป่านดักคอว่า

“เมื่อคืนเธอก็ไปกับเขามา ดีนะคนที่เห็นคือเบน เพราะถ้าเป็นคนอื่นป่านนี้เธอเละไปแล้ว”

กลินท์ด่าเบนว่าผู้ชายปากเปราะ สายป่านปรามว่าอย่าโทษคนอื่นถ้าจะโทษก็โทษตัวเอง มองหน้าถาม

“นี่! ฉันถามจริงๆ เธอไม่รู้ผิดชอบชั่วดีบ้างรึไงลินท์ ถึงได้ไปยุ่งกับคนที่มีเจ้าของแล้ว”

กลินท์เถียงว่าอินทร์ไม่มีเจ้าของ กับพี่ติ๊ก็ไม่ได้จดทะเบียนกัน ที่สำคัญอินทร์ไม่ได้รักพี่ติ๊ เขาอยู่กันด้วยหน้าที่ทางสังคมและอินทร์กำลังหาทางเลิกกับพี่ติ๊อยู่ สายป่านพูดอย่างสมเพชว่า

“ผู้ชายเจ้าชู้มันแต่งเรื่องขึ้นมาหลอกผู้หญิงไร้สติ แต่ก็แปลกที่ยังมีผู้หญิงหน้าโง่เชื่อลมปากพล่อยๆของผู้ชายพวกนั้นทุกยุคทุกสมัย รวมทั้งเธอด้วย”

กลินท์แก้ต่างว่าอินทร์ไม่ได้แต่งเรื่องหลอกตน เขารักตนจริง เขาบอกว่า “ฉันกับเขาเหมือนเนื้อคู่กันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน...ฉันก็รู้สึกเหมือนกันกับคุณอินทร์” สายป่านมองกลินท์อย่างผิดหวัง ในขณะที่กลินท์ยังพูดจริงจังว่า “จริงนะป่าน ฉันรู้สึกว่าฉันเกิดมาเพื่อเขา...เขาก็เกิดมาเพื่อฉัน เราสองคนเกิดมาเพื่อกันและกัน”

“พอ...พอได้แล้วลินท์ฉันไม่อยากฟังเรื่องระลึกชาติปัญญาอ่อน ของคนที่กำลังจะเดินหน้าไปเป็นเมียน้อย” กลินท์โต้ว่าตนไม่ใช่เมียน้อย ตนเป็นคนที่อินทร์รัก

“ถ้าคิดอย่างนั้นแล้วสบายใจก็ตามใจเธอ”

สายป่านตัดบทแล้วจะเดินไป กลินท์เรียกไว้บอกว่าตนจะไปปารีสกับอินทร์ สายป่านถอนใจถามว่าตนพูดให้ตายเธอก็ไม่เชื่อใช่ไหม งั้นตนจะไปด้วย อย่างน้อยตอนนักข่าวถามตนก็จะได้เป็นไม้กันหมาให้

กลินท์โผกอดสายป่านดีใจสุดๆ สายป่านได้แต่ถอนใจกลุ้มไม่รู้จะห้ามยังไง

เมื่อถึงวันเดินทาง สายป่านนั่งเครื่องชั้นประหยัด ส่วนอินทร์กับกลินท์นั่งชั้นเฟิสต์คลาสกะหนุงกะหนิงกันประสาคนที่อยู่ในความรักความหลงจนเหมือนโลกทั้งใบมีแต่เราสองคน

อินทร์ยังคงหวานประสาคนเจ้าชู้ และเพื่อให้กลินท์เชื่อว่าตนรักจริง อินทร์ถามว่าตนจะเอาปิ่นปักอกพิสูจน์รักเลยดีไหม แล้วหยิบกล่องปิ่นทองออกมา กลินท์มองอย่างคาดไม่ถึง มันช่างเหมือนความฝันของตนคืนนั้นจริงๆ! กลินท์เล่าความฝันหมือนตกอยู่ในภวังค์

“ในฝันคุณกับลินท์เหมือนอยู่ในโลกอดีต คุณเอาปิ่นมาให้ลินท์ สัญญาว่าจะรัก มีลินท์คนเดียวทุกชาติไป...ลินท์ไม่คิดจริงๆว่าคุณจะเอาปิ่นทองมาให้ลินท์เหมือนในฝัน”

อินทร์ฟังอย่างไม่รู้สึกซึ้งอะไรกับความฝันที่กลินท์เล่า ถามว่าแล้วยังไงต่อ?? กลินท์เขินอายไม่กล้าตอบ อินทร์โน้มหน้าเข้าไปจนหน้าสัมผัสหน้า ถามอีกแต่ไม่รอคำตอบ อินทร์ก้มจูบกลินท์ดูดดื่ม กลินท์เคลิ้มในอ้อมกอดและรสจูบ ทั้งที่มือยังกำปิ่นแน่น

เมื่อมาถึงโรงแรมหรู สายป่านเดินนำไปเหมือนไม่อยากเห็นภาพหวานของทั้งสอง มาหยุดยืนหน้าห้องรอกลินท์ หันไปเห็นอินท์โอบกลินท์แสดงความเป็นเจ้าของเต็มที่ มาส่งที่หน้าห้องบอกกลินท์ว่า

“พักผ่อนก่อนนะลินท์ ค่ำๆเจอกัน เดี๋ยวผมมารับไปดินเนอร์” พอกลินท์รับคำก็จุ๊บแก้มเบาๆ ปรายตามองสายป่านอย่างผู้ชนะ แล้วเดินไปที่ห้องตัวเอง สายป่านมองอินทร์อย่างไม่พอใจนัก

เมื่อเข้าห้องพักกลินท์ยังตกอยู่ในภวังค์รัก จนสายป่านเหน็บเอาตรงๆว่า

“มากับผัวคนอื่นเนี่ยความสุขมันทะลักออกมาเลยนะลินท์” กลินท์พูดอย่างไม่พอใจว่านี่มาเที่ยวกันนะ ตนไม่อยากมีเรื่อง “ยังไง ‘เรื่องต้องมี’ ตั้งแต่เธอมากับผัวคนอื่นแล้วล่ะลินท์”

กลินท์หงุดหงิดถอดเสื้อดึงปิ่นปักผมวางที่โต๊ะกระแทกกระทั้นจนปิ่นตกไม่รู้ตัว กลินท์หันมาโต้สายป่านอย่างหงุดหงิดว่า

“ฉันถามทีเถอะ คนเราไม่มีสิทธิ์เริ่มต้นใหม่เลยเหรอ ในเมื่ออินทร์กับพี่ติ๊เขาไม่ได้รักกันแล้ว”

“เริ่มได้ถ้าเขาเลิกกันแล้วจริงๆ แต่นี่เขายังไม่เลิกกันเธอทำอย่างนี้ยังไงมันก็แย่งผัวคนอื่นลินท์ แล้วถ้าอินทร์เขารักเธอจริงๆ เขาจะไม่มีวันทำให้เธอ ‘เสื่อมเสีย’

นี่อะไรชวนมาเที่ยวปารีส ถ้าฉันไม่มาด้วย ป่านนี้เธอกับเขาเป็นอะไรกันไปแล้ว เธอก็ชอบกินปลานะ อย่าโง่สิลินท์ อย่าโง่!!”

กลินท์หงายนอนบนเตียงเครียด ร้องออกมาอย่างอึดอัดขัดใจว่า

“โอ๊ยยยย! อธิบายจนตายเธอก็ไม่เข้าใจ”

“แน่นอน! ฉันไม่มีทางเข้าใจตรรกะของพวกเมียน้อย เลิกหาข้ออ้างเข้าข้างตัวเองเพื่อแย่งผัวคนอื่นได้แล้วลินท์” สายป่านตัดบทแล้วเดินออกจากห้องปิดประตูโครม

แต่ขณะเดินผ่านหน้าห้องอินทร์ สายป่านได้ยินเสียงประตูห้องอินทร์เปิด พอหันไปมองเห็นอินทร์เดินออกจากห้องตรงไปที่ห้องกลินท์ สายป่านหน้าเครียดเดินย้อนกลับไปที่ห้องอย่างเร็ว

ooooooo

กลินท์นอนก่ายหน้าผากมองเพดานห้องอย่างกลุ้มใจมาก ปิ่นทองยังตกอยู่ที่พื้นตามเดิม

ครู่หนึ่งเพดานห้องที่สวยหรูของโรงแรมค่อยๆกลายเป็นสีเทาก่อนที่จะเป็นสีดำไปทั้งเพดานอย่างเร็ว

กลินท์ตกใจเบิกตากว้าง ในขณะที่ร่างกายก็เหมือนถูกตรึงอยู่กับที่!

พริบตานั้นเพดานค่อยๆหย่อนลงมา กลายเป็นต้นไม้ใหญ่ทะมึนน่ากลัว พร้อมกับร่างของเทียนคำในชุดสกปรกมอมแมมเต็มไปด้วยบาดแผล หน้าตาโกรธแค้นเละเทะจนไม่อาจรู้ได้ว่าเค้าโครงหน้าเดิมเป็นอย่างไร เทียนคำพุ่งตัวออกมา ทิ้งร่างเหมือนผูกคอตาย!

กลินท์กรี๊ดสุดเสียงเมื่อหน้าของเทียนคำที่ห้อยลงมาห่างจากหน้ากลินท์เพียงแค่ฝ่ามือ! ดวงตาเทียนคำจ้องกลินท์อย่างโกรธแค้น กลินท์ได้แต่ร้องกรี๊ดๆๆ ตัวสั่นอยู่บนเตียง

ทันใดนั้นอินทร์เปิดประตูเข้ามา เห็นกลินท์ร้องกรี๊ดตัวสั่นก็พุ่งเข้าไปกอดเรียกกลินท์ๆๆ พอกลินท์รู้สึกตัวก็กอดอินทร์แน่น พอดีสายป่านเข้ามาเห็นทั้งสองกอดกันกลมอยู่บนเตียง

พนักงานโรงแรมเข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น

สายป่านบอกว่าไม่มีอะไร พนักงานโรงแรมมองเข้าไปในห้อง เห็นหนุ่มสาวกอดกันกลมอยู่บนเตียงจึงเดินกลับไป

สายป่านเดินเข้าไปในห้อง แต่อินทร์กับกลินท์ก็ยังกอดกันอยู่อย่างนั้น อินทร์ถามกลินท์ว่าเกิดอะไรขึ้น กลินท์ตอบเสียงสั่นสะท้านว่า

“ลินท์...ลินท์เห็นผี น่าเกลียดน่ากลัวมาก เหมือน... เหมือนคนผูกคอกับอะไรสักอย่าง แล้วทิ้งตัวลงมา”

“ผีจากนรกกำลังมาเตือนคุณสองคนอยู่รึเปล่า” สายป่านถามเตือนสติ

กลินท์มองสายป่านค่อยๆคลายมือผละจากอินทร์ อินทร์ก็ค่อยๆคลายมือถอยออกมา สายป่านพูดกับอินทร์ว่า “ลินท์อาจจะ Jet lag” แล้วพูดกับกลินท์ “ฉันว่า...เธอไปอาบน้ำแล้วพักผ่อนดีกว่า เผื่อจะสดชื่นขึ้น”

สายป่านพูดหน้านิ่ง แต่สายตาติติงอย่างรุนแรง จนอินทร์ต้องผละจากกลินท์บอกให้พักผ่อนเยอะๆ ตนเป็นห่วง แล้วเดินออกไป กลินท์ลุกขึ้นมานั่งที่ปลายเตียง สายป่านไม่สนใจเดินตามอินทร์ออกไปติดๆ

ooooooo

วันต่อมา แพมโทร.ถามปติมาว่ารู้เรื่อง “นังแบ๊วตกมัน” ไปปารีสกับอินทร์หรือยัง ปติมาใจเย็นบอกว่าอินทร์ไปทำงาน ตนคุยกับอินทร์ตลอดรู้หมดว่าวันๆเขาทำอะไรบ้าง

แพมถามว่านี่เธอหลงผัวหรือปิดหูปิดตาตัวเองกันแน่

“ฉันเชื่อผัวฉัน”

“แต่ฉันไม่เชื่อนังแบ๊วตกมันนั่น”

ปติมาเชื่อว่ากลินท์เป็นทั้งนางแบบและซุปตาร์ไม่คิดสั้นยุ่งกับผัวคนอื่นให้เปลืองตัว ขอบใจแพมหยอกว่านี่เธอห่วงอินทร์ยิ่งกว่าตนเสียอีก แพมหัวเสียมากเตือนว่า แล้วเธอจะเสียใจที่ถูกฉกผัวแบบเนียนๆ

พอปติมาวางสายจากแพมก็โทร.หาอินทร์ถามเสียงหวานว่ากินอะไรหรือยัง

ปรากฏว่าภาพในไอจีของกลินท์ที่เบนกำลังเปิดดูเป็นภาพที่กลินท์ถ่ายคู่กับสายป่านที่หอไอเฟลและค่ำคืนก็มีแก้วไวน์สุดหรูสองแก้วพร้อมข้อความที่กลินท์ลงว่า

“บางทีคนเราก็ต้องปกปิดเก็บซ่อนความรู้สึกที่แท้จริงเอาไว้เพราะสายตาคนอื่น แต่ฉันเข้าใจคุณแค่รู้ว่าคุณรักฉันก็พอ”

เบนอ่านแล้วเต็มไปด้วยความสงสัยว่าเจ้าของไวน์อีกแก้วไม่น่าจะเป็นสายป่าน

เมื่อแพมอ่านไอจีของกลินท์ให้ปติมาฟังที่ร้านสปาของปติมา เธอกลับแก้ต่างให้ว่าไม่ใช่อินทร์ จนแพมอ่อนใจเตือนแกมปรามว่า เอาที่เธอสบายใจก็แล้วกัน แต่ถ้าถูกฉกผัวไปอย่ามาร้องไห้กับตนเพราะตนเตือนแล้ว แม้ปติมาจะน้ำตาคลอแต่ก็บอกแพมด้วยน้ำเสียงปกติว่า

“ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันจะพยายามรักษาสถานภาพครอบครัวของฉันไว้ให้ดีที่สุดแพม” และยังเชื่อว่ากลินท์น้องร่วมวงการจะไม่สวมเขาให้ตน แพมได้แต่มองเพื่อนทั้งเห็นใจและหมั่นไส้มาก

แต่ขณะกลินท์กับอินทร์กำลังดื่มไวน์กันอย่างสวีตหวาน โทรศัพท์ดังขึ้นเขาบ่นว่ามาอยู่ถึงนี่ลูกค้ายังโทร.มาตามงาน แล้วขอตัวไปคุยโทรศัพท์ สายป่านที่อยู่ใกล้ๆ เดินมาเปรยๆกับกลินท์ว่าออกไปคุยงานหรือเมียโทร.มาตาม ก็ถูกกลินท์หาว่ามองโลกในแง่ร้ายเกินไป สายป่านบอกว่าตนกำลังดูคนโง่ที่ถูกหลอกต่างหาก

“ฉันไม่ได้โง่ ฉันแค่รักอินทร์ แล้วการที่ฉันเชื่อใจไว้ใจอินทร์ มันผิดเหรอ”

สายป่านบอกว่าผิดตรงที่เขามีเมียแล้ว ตัดบทอย่างอ่อนใจว่าดื่มด่ำกับความสุขให้เต็มที่เพราะกลับไปนรกมันรอเธออยู่ ย้ำเตือนว่า

“ป้าก็อตติดต่อให้เธอกับพี่ติ๊ไปเดินแบบคู่กัน แล้วคราวนี้ฉันก็เลี่ยงไม่ได้เพราะข่าวมันออกมาหนาหูมากว่าเธอแอบมาปารีสกับอินทร์”

แม้กลินท์จะไม่แคร์กับอะไร แต่คำเตือนของสายป่านทำให้กลินท์แอบเครียดเหมือนกัน

วันนี้กลินท์กลับแล้ว เพียงลงจากเครื่องนั่งรถออกจากสนามบิน กลินท์ก็ได้รับโทรศัพท์จากลูกโซ่นักข่าวที่กัดไม่ปล่อยเรื่องกลินท์กับอินทร์ก็โทร.เข้ามือถือกลินท์ทันที สายป่านสงสัยว่าทำไมไม่โทร.ถึงตนที่เป็นผู้จัดการ กระซิบเตือนกลินท์ว่าหรือเขาจะเลียบเคียงเรื่องเธอไปเที่ยวกับผัวชาวบ้าน กลินท์โต้หน้าเครียดว่า

“คนมาทีหลังไม่จำเป็นต้องเป็นคนร้าย ขณะเดียวกันคนมาก่อนก็อาจจะไม่ใช่คนที่แสนดีอย่างที่ใครๆคิดกัน”

“เขาจะดีหรือร้าย ยังไงเขาก็มาก่อน ที่สำคัญฉันเกลียดเหตุผลปัญญาอ่อนของพวกที่แย่งผัวชาวบ้านแล้วโยนความผิดให้เมียหลวงทุกคน”

สายป่านโต้กลินท์อย่างเผ็ดร้อน ทั้งสองจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร

ooooooo

หลายวันต่อมา ในงานเดินแบบธีมผ้าไทยเพื่ออนุรักษ์ผ้าไทยและวรรณคดีไทย กลินท์กับปติมานางแบบรุ่นพี่รุ่นน้องชื่อดังเดินแบบในงานเดียวกัน จึงเป็นเหมือนเหยื่อโอชะของบรรดานักข่าวสายบันเทิงที่จะขุดคุ้ยจิกทึ้งกัน

แต่ทั้งกลินท์และปติมาปฏิเสธด้วยยิ้มหวานหน้าใสว่าไม่มีอะไร ปติมายืนยันว่าตนจับเข่าคุยกับคุณอินทร์แล้ว อินทร์ยืนยันว่าเขารักตนคนเดียว ตอนไปปารีสก็เฟซไทม์คุยกันตลอด ไม่มีอะไร

ส่วนกลินท์ก็ตอบนักข่าวอันมีตูบศักดิ์กับลูกโซ่เป็นหัวหอกด้วยใบหน้ายิ้มแย้มว่า เรื่องไอจีที่เหมือนกำลังอินเลิฟว่าไม่มีอะไร บรรยากาศปารีสพาไปแค่นั้นเอง

แล้วทั้งปติมากับกลินท์ก็กอดกันยิ้มแย้มให้นักข่าวถ่ายรูป แต่สายป่านที่ติดตามเหตุการณ์ตลอดมองอย่างไม่สบายใจในสิ่งที่กลินท์ใส่หน้ากากกับสังคม

แต่เมื่อปติมากับกลินท์เจอกันในห้องน้ำ ปติมากับกลินท์ก็เชือดเฉือนกันเลือดสาด ปติมาบอกกลินท์ว่าตนเป็นคนให้ข่าวเรื่องอินทร์อัปเกรดตั๋วเครื่องบินให้กลินท์เอง กลินท์บอกว่าตนทราบ ต้องขอชมว่าพี่ติ๊เล่นละครเก่งที่ให้ข่าวทำลายตนแล้วยังทำตัวเป็นนางเอกที่แสนดี

“ความจริงพี่ก็เป็นนางเอกแต่นางร้ายอย่างลินท์มองไม่เห็นต่างหาก พี่ทำเพื่อเตือนสติให้ลินท์รู้ว่า ไม่ว่าลินท์จะทำอะไร มีคนรู้ มีคนเห็นทุกอย่าง เลิกยุ่งกับคุณอินทร์นะลินท์ อย่ารอให้ความแตก เพราะวันนั้นลินท์จะไม่มีที่ยืน”

“ถ้าถึงวันที่ความแตก ลินท์อาจจะมีที่ยืนพร้อมทะเบียนสมรสกับคุณอินทร์ก็ได้นะ” กลินท์ยิ้มเย้ย

ทั้งสองเชือดเฉือนกันแล้วเดินหน้าถมึงทึงออกจากห้องน้ำสวนกับสายป่านและเบนก็เดินผ่านไปไม่แม้แต่จะมอง เบนกับสายป่านมองหน้ากันเครียด

เมื่อกลับถึงบ้านเข้าห้องนอน สายป่านเข้าไปตำหนิกลินท์เสียงดังรุนแรงว่า เก็บอาการที่อยากได้ผัวคนอื่นจนตัวสั่นไว้บ้างเถอะ ถูกกลินท์ปรามว่าอย่ามาหยาบคายกับตน สายป่านเดินเข้ามาถามว่า

“ฉันอยากรู้จริงๆจิตใจเธอทำด้วยอะไร ถึงกล้าปฏิเสธนักข่าวต่อหน้าเมียเขาว่าไม่มีอะไรกับอินทร์ ทั้งๆที่ความจริง เธอกำลังแย่งอินทร์จากพี่ติ๊”

กลินท์เสียงแข็งว่าไม่มีใครแย่งใคร เพราะ “อินทร์รักฉัน ฉันรักอินทร์ เรารักกัน ฉันกับอินทร์เกิดมาเพื่อเป็นของกันและกัน เมื่อไหร่จะเข้าใจซักที” กลินท์ขยุ้มผมตัวเองตะโกน “โว้ยยยยยย!!” แต่ก็ถูกสายป่านตะโกนให้สำนึกว่านั่นมันผัวคนอื่นและคนก็ด่าเต็มบ้านเต็มเมืองไปหมดแล้วตะโกน “โว้ยยยยย!!” แล้วปิดประตูปัง

ooooooo

กลินท์ร้องไห้อย่างหนักโทษว่าทำไมไม่มีคนเข้าใจว่าอินทร์รักตน ซ้ำหลับไปยังฝันร้ายว่าถูกเสือขย้ำ ตกใจตื่นยังตัวสั่นด้วยความกลัว ถามตัวเองว่าทำไมมันเหมือนความจริงอย่างนี้ แล้วร้องเรียกสายป่าน ลุกไปหาก็ไม่เห็น บ่นงึมงำ “ไปไหนแต่เช้า??”

สายป่านไปหาแม่ชีธารทองแม่ของกลินท์ที่เชียงใหม่ เล่าพฤติกรรมของกลินท์ให้แม่ชีฟังอย่างอัดอั้น

แม่ชีบอกว่าในเมื่อเราควบคุมคนอื่นไม่ได้ก็มีแต่ต้องปล่อยวาง เพราะบางอย่างมันเป็นเรื่องของเวรกรรมที่ผูกกันมาตั้งแต่ชาติปางก่อน แม่ชีขอบใจสายป่านที่ช่วยดูแลกลินท์แทนแม่ สายป่านถามว่าเมื่อไหร่แม่ชีจะให้อภัยและกลับไปอยู่กับลินท์

อ่านละคร เพลิงพรางเทียน ตอนที่ 1 วันที่ 13 พ.ค.62

ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน บทประพันธ์โดย หัสวีร์
ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน บทโทรทัศน์โดย ปานตะวัน
ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน กำกับการแสดงโดย วรวิทย์ ศรีสุภาพ
ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน ผลิตโดย บริษัท กู้ด ฟีลลิ่ง จำกัด
ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน ควบคุมการผลิตโดย สมจริง ศรีสุภาพ
ที่มา ไทยรัฐ