อ่านละคร แรงเงา 2 ตอนที่ 4
นพนภาไม่เก็บอาการอีกต่อไป อารมณ์หึงหวงซึ่งไม่เคยหายไปไหนออกมาทำร้ายตัวเองและคนอื่นอีก มุนินทร์ประสาทเสียมากแต่ยังข่มใจถามเสียงเรียบ“งั้นบอกมาเถอะค่ะคุณนพนภา...ฉันต้องการอะไร”
“แก้แค้นไง” ทุกคนมองหน้ากัน มุนินทร์งงมาก “แก้แค้น...แก้แค้นอะไรคะ”
“แก้แค้นฉันไงหรือครอบครัวฉันทั้งหมด...หรือแม้แต่ผัวฉัน”
“คุณเอาความคิดแบบนี้มาจากไหน”
“จากไหน...ก็จากสิ่งที่เธอทำไงล่ะ ดูคลิปพวกนี้...ฉันเตรียมไว้หมดแล้ว”
จบคำคลิปก็ถูกโชว์ให้ทุกคนเห็น ภาพเจนภพกับมุนินทร์ยิ้มให้กัน รวมทั้งกิจกรรมมากมายที่ร่วมกันทำที่อังกฤษทำให้ทุกคนพูดไม่ออก คลิปแล้วคลิปเล่าที่นพนภาเปิดให้ทุกคนดูทำให้มุนินทร์เข่าอ่อน น้ำตาคลอ
วีกิจอึ้งมากแต่ยังไม่ปักใจเรื่องมุนินทร์เป็นชู้กับเจนภพ ต่างจากนพนภาที่ของขึ้นกู่ไม่กลับ
“ตอบสิมุนินทร์...ต่อหน้าวีกิจ ต่อหน้าทุกคนในห้องนี้ เธอไปหาคุณภพที่ลอนดอนตลอดสองปีที่ผ่านมาใช่ไหม...และเมื่อปีที่แล้วเธอไปพบผัวฉันถึงสองครั้ง”
มุนินทร์ไม่ตอบคำถามแต่กลั้นน้ำตาเงียบๆนพนภายิ้มเยาะ มั่นใจว่าตัวเองคิดถูก
“ทำไมไม่ตอบล่ะมุนินทร์...หรือจะให้ฉันตอบแทน...เธอลักลอบเล่นชู้กับผัวฉันมานานแล้วใช่ไหม วางแผนกันช่วงฉันนอนเป็นผักบนเตียง คุณภพอ้างว่าพายัยต้อมไปรักษาตัวที่อังกฤษ ส่วนเธอก็อ้างว่าไปดูงาน...ไปทีสองสามอาทิตย์หรือเป็นเดือน ที่แท้ทั้งคู่ก็ลอบไปได้เสียกัน เมืองไทยคงร้อนไปสินะ มันไม่สนุกเหมือนกกกันอยู่ในเมืองหนาว”
วีกิจเห็นสภาพมุนินทร์ก็สงสาร ขอร้องนพนภาให้หยุดคาดคั้นแต่อาสาวไม่จบง่ายๆ “ไม่ต้องมาห้าม...ฉันต้องการความจริงจากปากนังนี่ บอกมามันเป็นความจริงใช่ไหม...แกยังเล่นชู้กับผัวฉันอยู่มาถึงทุกวันนี้”
พิณร้อนใจมาก หันไปแหวลูกสาวคนโต กลัวต้องขายขี้หน้าเหมือนกรณีมุตตาลูกสาวคนเล็ก
“ไม่มีทาง...ไม่จริง นี่มันภาพปลอม ตกแต่งขึ้นมา พูดไปสินังนิน...เงียบอยู่ทำไม พูดไปว่ามันไม่จริง”
มุนินทร์เหนื่อยใจมาก ปรามแม่เสียงอ่อนแต่พิณไม่ยอม ตั้งท่าจะโต้แทนแต่ก็ช้ากว่านพนภา
“คลิปปลอมงั้นเหรอคะคุณแม่...ไม่มีทางค่ะเทคนิคฮอลลีวูดก็ไม่มีทางทำได้เนียนเท่านี้ อ้อ...มีคลิปที่สามไว้ยืนยันด้วยว่าลูกสาวแม่มีความสุขแค่ไหนเมื่อเจอผัวฉัน!”
นพนภาไม่รอให้ใครค้านเปิดคลิปต้นเรื่องที่ทำให้เธอสติหลุด มุนินทร์ยังไม่แก้ตัว นิ่งเงียบจนวีกิจใจไม่ดี
“บอกมาเถอะนิน...ผมเชื่อในคำพูดของคุณ”
สีหน้าไม่สบายใจของแฟนหนุ่มทำให้มุนินทร์ตัดสินใจยอมรับ
“ใช่ค่ะ...สองปีที่ผ่านมาฉันไปพบคุณเจนภพที่ลอนดอนสองครั้ง...คลิปทั้งหมดนั่นเป็นเรื่องจริง!”
ooooooo
คำสารภาพของมุนินทร์ทำให้ทุกคนช็อกมาก โดยเฉพาะวีกิจกับสร้อยคำ กระนั้นสองแม่ลูกก็ไม่ปักใจเพราะเชื่อว่ามุนินทร์ต้องมีเหตุผลบางอย่างจึงตัดสินใจปกป้องสุดความสามารถ
นพนภาสะใจที่ฉีกหน้ามุนินทร์ได้ พิณเต้นผางแหวลูกสาวคนโตลั่น “นังนิน...แกก็ไม่ควรหน้าด้านหน้าทนอยู่กับคนพวกนี้ รีบกลับไปซะ...การแต่งงานยกเลิกไปเลย ไม่ต้องต่งต้องแต่งกันแล้ว ฉันถือว่าเป็นโมฆะ!”
มุนินทร์เสียใจมากผลุนผลันออกไป วีกิจกับสร้อยคำตามประกบด้วยความเป็นห่วง ต่างจากพิณที่โวยวายกับแปลกเรื่องมุนินทร์ทำงามหน้า
“มันไปเล่นชู้กับไอ้ ผอ. มันคิดอะไรของมัน น้องก็เสียท่าไปแล้ว อีพี่นึกว่าจะฉลาด...โง่กว่าน้องอีก ไปยอมเป็นเมียมันอีกคน ไอ้ ผอ.นี่มันเลี่ยมทองเหรอพ่อ ลูกเราถึงหลงมันนัก”
“เอาน่า...ลูกมันยังไม่ได้อธิบายอะไรเลย อย่าเพิ่งตีโพยตีพาย...กลับบ้าน”
พิณฮึดฮัดจะขึ้นรถกลับบ้านที่เพชรบูรณ์แต่ไม่วายชี้หน้าคาดโทษมุนินทร์
“นังนิน...ถ้าแกเล่นชู้กับไอ้ ผอ.จริง แกไม่ต้องมาเป็นลูกฉัน ไม่ต้องไปเหยียบบ้านฉันอีก”
แปลกเห็นท่าไม่ดีแยกสองแม่ลูกจากกัน ทิ้งวีกิจให้คุยกับมุนินทร์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“นิน...ยังไงมันต้องมีคำอธิบาย”
“คุณยังอยากฟังสิ่งที่ฉันพูดอีกเหรอคะ...ในเมื่อฉันไม่ได้พูดความจริงกับคุณ”
“คุณแค่ไม่ได้พูด...แต่คุณไม่ได้โกหก”
“คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่ได้โกหก”
วีกิจเชื่อใจมุนินทร์ว่าไม่ใช่คนโลเลและเจ้าชู้ ต่างจากนพนภาที่ปิดหูปิดตาไม่ฟังใครเพราะแรงหึง ตามมาตอกย้ำมุนินทร์ศัตรูหัวใจคนสำคัญถึงหน้าบ้าน
“นั่นสิ...นายกิจรู้ได้ยังไงว่าแฟนนายไม่ได้โกหก อย่าให้ความหลงทำให้นายตาบอดไปอีกคนเลย อาภพเธอมันก็โง่เป็นควายไปคนนึงแล้ว ยัยนี่โกหกหลอกลวงทั้งเธอทั้งอามาตลอดสี่ปี ทำเป็นล้างแค้นให้น้องสาวเกลียดคุณภพโน่นนี่นั่น...ที่แท้ก็แอบเอาเป็นผัวเสียเอง”
ถ้อยคำเหยียดหยามและดูหมิ่นของนพนภาทำให้วีกิจฉุนขาดประกาศกร้าวจะแต่งงานกับมุนินทร์ไม่เปลี่ยนแปลง สร้อยคำก็สนับสนุนคำพูดลูกชายเพราะเชื่อสายตาตัวเองว่ามองมุนินทร์ไม่ผิด
นพนภาโกรธมากโพล่งลั่น “ก็ตามใจแก...ถ้าแกยืนยันจะแต่ง ฉันไม่ขอเกี่ยวข้องอะไรกับนังนี่และตัวแกอีกต่อไป ถ้าจะให้เข้ามาในรั้วบ้านก็อ้อมไปเข้าทางประตูบ้านแก อย่าเข้ามาในส่วนบ้านฉันเด็ดขาด!”
วีกิจไม่สะทกสะท้านกับคำขู่ของนพนภา แถมตอกไม่ไว้หน้า “ที่จริง...ไม่ต้องสร้างรั้วหรอกครับอาเพราะถ้าผมแต่งกับนินผมจะไม่ให้นินเหยียบเข้ามาบ้านนี้เด็ดขาด บ้านที่เต็มไปด้วยอคติแบบนี้มีแต่เสื่อมครับ”
จบคำก็พามุนินทร์กับสร้อยคำออกไป ทิ้งนพนภาให้ทรุดฮวบ ทั้งโกรธทั้งสะเทือนใจกับท่าทีของหลานชาย นภางค์ยุยงให้ลูกสาวตัดขาดพวกวีกิจ ต่อกับต้องได้แต่มองแม่กับยายด้วยแววตาเหนื่อยหน่ายใจ พลางช่วยกันคิดหาทางเคลียร์ทุกอย่างกับนพนภาให้ได้
ooooooo
วีกิจส่งสร้อยคำที่บ้าน หลังจากนั้นจึงขับรถพามุนินทร์ออกนอกเมือง มุนินทร์หงุดหงิดมากแต่ไม่วายสงสัยท่าทีของแฟนหนุ่มเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมด
“คุณพูดจริงเหรอคะที่คุณยังยืนยันจะแต่งงานกับฉัน ทั้งๆที่ฉันปิดบังความจริง ฉันมีความลับที่ไม่ได้บอกคุณ”
“ผมไม่สนหรอกว่าคุณจะปิดบังหรือมีความลับอะไร เพราะในที่สุดความลับไม่มีในโลก เดี๋ยวผมก็ต้องรู้จนได้”
ความเชื่อมั่นของวีกิจทำให้มุนินทร์เริ่มรู้สึกผิดที่ปิดบังเขาแต่ยังไม่มีแก่ใจจะอธิบาย เปลี่ยนเรื่องดื้อๆ
“นี่คุณจะไปไหนคะ”
วีกิจส่งยิ้มอบอุ่นให้แฟนสาว “ไปที่ที่คุณควรไป...ที่ที่คุณจะสงบสติอารมณ์ได้ ที่ที่คุณจะเกิดสติและปัญญาพอจะไม่ถามคำถามซ้ำซากเรื่องการแต่งงานกับผมอีก”
ขณะที่วีกิจกับมุนินทร์ช่วยกันพยุงความสัมพันธ์ นภางค์ไม่หยุดปั่นหัวนพนภาเรื่องมุนินทร์
“อย่างที่แม่คิดไว้ไม่ผิด...นังมุนินทร์คือตัวก่อเหตุทั้งหมด มันวางแผนเข้ามาเป็นสะใภ้เพื่อทำลายครอบครัวเรา ทั้งคลิปยัยต้อม คลิปของแก แล้วมันนั่นแหละที่แต่งเลียนแบบนังนภิศมาหลอกแกที่รายการป้าแข”
“นั่นก็หมายความว่าที่คุณภพพายัยต้อมไปรักษาตัวอังกฤษก็เป็นแค่แผนหลอกหนูเพื่อไปเสพสุขกับมัน แล้วที่บอกว่าคุณภพเขาไปเพื่อรักษายัยต้อมมันก็คือเรื่องเท็จทั้งนั้น”
เรื่องราวเริ่มไปกันใหญ่ นภางค์ยุส่งให้นพนภาหย่าขาดจากเจนภพ ต้องทนไม่ไหวโพล่งแทรก
“ถ้าคลิปนั่นมาจากนายประพงษ์จริง แม่ก็ไม่ควรเชื่ออะไรแค่ที่ตาเห็น”
“แกจะบอกอะไรฉัน”
“ฟังความด้านพี่นินหน่อยเถอะค่ะ ที่พี่เขาไปพบพ่อเขาต้องมีเหตุผลแน่ ไม่ใช่เรื่องรักใคร่อย่างที่แม่คิดหรอก”
“แกเข้าข้างพ่ออีกแล้วใช่ไหม แล้วนี่ยังไปเข้าข้างนังเมียน้อยอีก”
“ไม่ใช่ค่ะ...แต่หนูไม่เชื่อไอ้สารเลวอย่างไอ้ประพงษ์ ตอนนี้มันน่าจะทำงานกันเป็นแก๊ง”
“แก๊งอะไรของแก”
“แก๊งยัยรัชนกไงคะ เท่าที่หนูรู้...ที่ไอ้นี่มันยังลอยนวลอยู่ได้เพราะยัยรัชนกมันอุปถัมภ์ไว้ ตอนนี้มันกำลังจองเวรทั้งแม่ทั้งพี่นิน ถ้าหูเบา ตามัว สมองเบลอ จะเป็นเหยื่อพวกมันได้ง่ายๆ”
พูดจบก็ผละไป ทิ้งนพนภาให้ยืนงงจับต้นชนปลายไม่ถูก ก่อนปรายตาไปทางต่อให้เล่าเรื่องรัชนก...หญิงสาวที่ตนไม่เคยรู้วีรกรรมให้ฟังทั้งหมด!
ooooooo
มุนินทร์ลืมเรื่องนพนภาชั่วขณะ มัวตื่นตาตื่นใจสถานที่ที่วีกิจเคยขอเธอแต่งงาน เขาพาเธอมาเพื่อทบทวนความจำและความรู้สึกตัวเอง โดยเฉพาะความรักที่มีต่อเธอ...ไม่ใช่มุตตา
“คุณจำได้หมด”
“จำได้หมดและจำได้ด้วยว่าผมต้องการแต่งงานกับคุณแค่ไหน...ผมรอมาสี่ปีแล้วนะ”
“ไม่โกรธที่ฉันไม่เล่าเรื่องคุณเจนภพให้คุณฟังเหรอ”
“คุณจะเล่าหรือไม่เล่า...มันเป็นสิทธิ์ของคุณ”
“ไม่อยากรู้เหรอคะ”
“อยาก...แต่ผมให้เกียรติคุณ”
“แล้วคุณไม่คิดว่าฉันเล่นชู้กับคุณภพอย่างที่คุณนพนภาคิด”
“โธ่นิน...คุณไปหาอาภพปีนู้นครั้งนึง ปีที่แล้วสองครั้ง แล้วคุณไปเพราะบริษัทส่งไปทำงาน ถ้าเป็นการเล่นชู้ก็ถือว่าอาภพมักน้อยจริงๆ แล้วอีกอย่าง...คุณไม่มีวันเล่นชู้กับอาภพแน่เพราะอาไม่ใช่สเปกคุณ”
แววตากรุ้มกริ่มของแฟนหนุ่มทำให้มุนินทร์รู้สึกเขิน รู้ดีว่าเขาจงใจแหย่ให้เธออารมณ์ดี ซึ่งมันได้ผลและทำให้เธอตัดสินใจเล่าเรื่องราวทั้งหมดว่าตั้งใจไปเจอเจนภพที่อังกฤษเพื่อเยี่ยมต้อม
มุนินทร์ถอนใจยาวก่อนยิ้มบางๆให้ตนเองเมื่อคิดถึงตอนเจอต้อมครั้งแรก เด็กสาวมีอาการทางจิต ก้าวร้าวและมีพฤติกรรมเลียนแบบ ผลกระทบจากอารมณ์รุนแรงของพ่อแม่ที่เห็นตั้งแต่เด็ก มุนินทร์สงสารและรู้สึกผิดต่อต้อมมากจึงอยากไปเยี่ยม รวมทั้งอยากเปิดใจกับเจนภพถึงเรื่องที่ผ่านมา
“คุณพาลูกมาอย่างนี้แถมลาออกจากราชการใครๆก็คิดว่าคุณจะแยกทางจากคุณนพนภา...จะหย่ารึเปล่าคะ”
เจนภพนิ่วหน้า แกล้งย้อนถาม “แล้วถ้าผมหย่า...”
“ฉันก็จะขอร้องคุณให้เปลี่ยนความคิด...กลับไปหาคุณนภาเถอะค่ะ เธอรักคุณมาก อีกอย่างฉันคงรู้สึกผิดไปจนตายเพราะฉันเป็นต้นเหตุที่ทำให้ครอบครัวคุณต้องแตกแยกแบบนี้”
“อย่าโทษตัวเองเลยครับนิน...ไม่ใช่ความผิดใครทั้งนั้น ต้นเหตุมันมาจากผม...ผมคนเดียว...ผมทำให้ทั้งเมียทั้งลูกเจ็บป่วยแบบนี้ผมถึงต้องชดใช้ ผมยอมลาออกจากงาน รักษายัยต้อมให้หาย และจะพายัยต้อมกลับไปหาแม่เขา”
“แล้วคุณจะกลับไปหาคุณนพนภาด้วยรึเปล่า”
“ไม่ต้องห่วงนะ...ผมไม่เคยคิดหย่าจากเขา ผมยังรักนพนภาอยู่ รอวันที่จะกลับไปหาเขานี่ล่ะครับ”
มุนินทร์ดึงตัวเองจากอดีต เธอกับเจนภพเคลียร์กันด้วยความเข้าใจ วีกิจฟังแล้วอดดุแฟนสาวไม่ได้
“แล้วทำไมไม่บอกทุกอย่างให้อานภาทราบล่ะครับ”
“คุณก็เห็นนี่คะ...อาคุณตั้งศาลเตี้ยพิพากษาฉันไปแล้ว เวลาที่ทุกคนพร้อมจะอคติพร้อมที่จะให้ฉันเป็นเหยื่อที่จะถูกพิพากษา แก้ตัวยังไงก็ไม่ขึ้นหรอกค่ะ”
“แล้ว...ทำไมต้องปิดผมด้วย”
“คุณเจนภพขอไว้ค่ะ...แม้แต่คุณก็ห้ามบอก”
ooooooo
ไม่ใช่แค่มุนินทร์ที่ยอมเปิดปากเรื่องที่อังกฤษ เจนภพซึ่งได้ยินเรื่องวุ่นวายที่บ้านจากต้องลูกสาวคนโตก็ทนเฉยไม่ไหวตัดสินใจโทร.ทางไกลมาอธิบายความจริงกับนพนภา
เจนภพยืนยันว่ามุนินทร์ไม่ได้เป็นชู้กับตนแต่เจอกันเพราะเธออยากมาเยี่ยมต้อม นพนภาไม่เชื่อ
“แล้วทำไมคุณต้องปิดเรื่องนี้เป็นความลับ ฉันพยายามติดต่อคุณก็ไม่รับสาย ขอคุยกับลูกคุณก็ปฏิเสธ”
“ผมให้คุณติดต่อไม่ได้...ยัยต้อมป่วยนะครับ แค่เห็นคุณนอนอยู่บนเตียงช่วยตัวเองไม่ได้ยัยต้อมก็ยิ่งทรุดหนักอาละวาดทำลายข้าวของผมถึงต้องพาลูกมารักษาตัวที่นี่”
“นั่นมันตอนที่ฉันป่วยแต่ตอนนี้ฉันหายดีแล้ว คุณก็ยังไม่ให้ลูกคุยกับฉันอยู่ดี”
“หมอสั่งผมไม่ให้ยัยต้อมคุยกับคุณ อย่าลืมนะ...อาการยัยต้อมเกิดจากที่เห็นเราทะเลาะตบตีกันแทบทุกวัน เด็กสะสมความรุนแรงมาตลอดถึงได้มีพฤติกรรมก้าวร้าวอย่างนั้น”
“อ้อ...โทษฉันทั้งหมด แม้แต่ตอนฉันป่วยก็ยังโทษฉัน...ฉันไม่เชื่อ ที่จริงแล้วคุณไปอยู่อังกฤษเพื่อไปหาเมียน้อยแล้วนังมุนินทร์ก็ไปปรนเปรอให้ถึงที่...ยอมรับมาเถอะ”
“ก็เพราะคิดอย่างนี้ไงผมถึงให้ลูกคุยกับคุณไม่ได้...คุณมันขาดสติ!”
สองสามีภรรยาเปิดฉากทะเลาะกันในรอบหลายปี เรียกต้อมเหยื่ออารมณ์ของทั้งคู่ให้ออกมาเห็นด้วยตาตัวเอง นพนภาเห็นลูกสาวคนเล็กก็เรียกมาคุยไม่สนคำเตือนของสามีที่ว่าลูกสาวยังไม่พร้อม แล้วก็เกิดเรื่องจนได้
เมื่อเธอหลุดปากเรื่องพ่อกับแม่อาจหย่ากัน
ต้อมสติแตก ภาพเก่าๆตอนมุนินทร์มาเยี่ยมลอยวนเวียนในหัว “พ่อโกหกหนูใช่ไหม หนูเคยถามว่าพ่อจะหย่าแม่รึเปล่า...พ่อบอกเปล่าแต่แม่พูดอย่างนี้แสดงว่ามันเรื่องจริง...พ่อโกหกหนู!”
เจนภพอธิบายลูกสาวอย่างใจเย็น “พ่อไม่ได้โกหกหนูนะครับ พ่อไม่ได้โกหก”
ต้อมไม่สน อารมณ์รุนแรงที่ยังควบคุมไม่ได้ทำให้ไม่มีสติจะฟังเหตุผล “ไม่จริง! พ่อหย่าแม่แล้วไปอยู่กับพี่ยัยมุตตาใช่ไหมพ่อถึงให้ยัยนั่นเข้ามาในบ้านตั้งหลายครั้ง พ่อให้นังเมียน้อยมาหาหนูทำไม มันบอกว่าจะมาอยู่ในครอบครัวเรา มันไม่ได้แต่งกับพี่กิจ มันจะแต่งกับพ่อใช่ไหม แล้วมันจะตบแม่เหมือนเมื่อก่อนอีกใช่ไหม”
นพนภาอ้าปากค้างเมื่อเห็นอาการลูกสาวคนเล็กครั้งแรก จากที่ดีใจได้คำยืนยันเรื่องมุนินทร์กลับพูดไม่ออกเมื่อต้อมออกอาการกรี๊ดไม่หยุดจนครูเมย์ ครูสาวซึ่งรับหน้าที่บำบัดอาการต้องพาตัวไปสงบสติอารมณ์ในห้อง
เจนภพโกรธมากที่นพนภาทำให้ต้อมสติแตกเอ็ดลั่น
“เห็นไหม...อาการลูกมันเป็นยังไง ผมถึงให้คุณคุยกับยัยต้อมไม่ได้ คุณมันขาดสติแล้วจะทำให้ลูกเสียสติเหมือนคุณ อย่ามายุ่งกับลูกอีก ถ้ายัยต้อมไม่หายสิ่งที่คุณคิดมันจะเป็นเรื่องจริง...ผมจะหย่าจากคุณวันนี้พรุ่งนี้เลย!”
จบคำก็ตัดสาย ทิ้งนพนภาให้ถือหูค้าง ต้องได้ยินทุกอย่าง อดบ่นแม่ไม่ได้ที่ใจแคบและไม่มีเหตุผล นพนภาทนรับความจริงไม่ได้ แหวลูกสาวคนโตเสียงเขียว หวังกลบเกลื่อนอาการเสียหน้าของตนเอง
“ทำไมฉันต้องฟังพ่อแก พ่อแกมันคนโกหก เล่นชู้กับนังเมียน้อยจนลูกมันเห็นเต็มตามันถึงเอามาพูด”
“แม่ไปฟังยัยต้อมทำไม ยัยต้อมป่วยทางจิตนะคะแม่ แล้วสาเหตุก็มาจากแม่นั่นแหละ!”
ต้องโต้อย่างอดรนทนไม่ไหวก่อนผละไป ทิ้งนพนภาให้อาละวาดพังข้าวของเหมือนที่เคยทำเมื่อหลายปีก่อน ก่อนทรุดฮวบ มีอาการเกร็งเหมือนจะชักจนต่อต้องเรียกรถพยาบาลมารับตัว...
ooooooo
วีกิจรับฟังเรื่องราวทั้งหมดจากมุนินทร์แล้วโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก ดีใจที่แฟนสาวมีจิตใจงดงามอย่างที่คิด กระนั้นก็อดไม่ได้จะช่วยแก้ต่างข้อกล่าวหาของนพนภาให้เธอ
“เรากลับไปหาอานภาอีกดีไหม แล้วเล่าทุกอย่างให้อาฟัง”
“อย่าเลยค่ะ...ตอนนี้ฉันขอถอยห่างจากเธอให้มากที่สุด อีกอย่าง...ก็เป็นเรื่องดีด้วยที่เธอจะไม่เข้ามาเป็นผู้ใหญ่ฝ่ายคุณแล้วยอมจ่ายแม่ฉันตั้งสามล้านน่ะเป็นเรื่องไร้สติที่สุดเลย...เราแต่งกันจนๆน่ะดีสุดแล้ว”
“ตามนั้นครับ...แต่ต่อไปนี้ผมขอสักเรื่องนะนิน...เราไม่ควรมีความลับต่อกัน ยิ่งแต่งงานแล้วยิ่งต้องไม่มีใหญ่เลย เพราะเราคือคนคนเดียวกันแล้ว เราต้องรับรู้กันทุกเรื่อง”
มุนินทร์รับปากด้วยความเต็มใจ และเรื่องแรกที่ว่าที่บ่าวสาวต้องช่วยกันเคลียร์คือแผนชั่วของรัชนกที่ไม่ยอมจบจนกว่าจะจับได้คาหนังคาเขา ไหนจะเรื่องประพงษ์โจทย์เก่าของนพนภาที่ต้องเพิ่งโทร.บอกว่าก่อเรื่องปลุกปั่นจนนพนภาเชื่อสนิทว่ามุนินทร์เป็นชู้กับเจนภพ
นพนภานอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล ฟื้นมาก็ร้องบอกนภางค์จะกลับบ้าน นภางค์ไม่ยอมเพราะอาการลูกสาวไม่น่าไว้ใจก่อนซักไซ้ลูกสาวเรื่องประพงษ์ที่เพิ่งรู้จากต้อง
ต้องไม่ยี่หระสายตาตำหนิของแม่ โพล่งอย่างไม่ไว้หน้าว่าตัดสินใจบอกนภางค์เพราะไม่ไว้ใจประพงษ์
“แต่ฉันไม่เชื่อว่าเรื่องทั้งหมดมาจากยัยรัชนก...มันจะมาแค้นอะไรฉัน ไม่ได้สร้างเวรสร้างกรรมกับมันสักหน่อย”
“แล้วที่ชีก่อคดีไว้ที่กระทรวงจนหายนะกันไปทั่วก็ไม่เห็นว่าชีแค้นใครส่วนตัวนี่คะ คนประเภทนี้โรคจิตค่ะ ...เห็นความหายนะของคนอื่นเป็นความสนุกและถ้าพวกเราไม่มีสติ เราจะตกเป็นเหยื่อนังคนนี้กันอีกครั้ง”
นภางค์หูผึ่ง ถามสอดด้วยความอยากรู้ “แล้วจริงเหรอที่นายประพงษ์กับนังนภิศไปอยู่ในบ่อนของนังรัชนก”
“จริงค่ะคุณยาย...เรากำลังโดนยุแยงให้แตกกัน เพราะฉะนั้นแม่เลิกคิดเถอะค่ะเรื่องพ่อแอบกุ๊กกิ๊กพี่นิน พ่อก็บอกแล้วว่าพี่นินไปเยี่ยมเพราะเป็นห่วงยัยต้อม”
นพนภาส่ายหน้าไม่เชื่อ “อย่าเลยนังต้อง...แกเข้าข้างพ่อแกกับนังเมียน้อยไม่เคยเข้าข้างฉัน แม่คะ...คุณภพเขาขู่หนูว่าเขาจะหย่า ถ้าหย่าจริงหนูจะเอายัยต้อมกลับมาแล้วเขานั่นแหละจะไม่เหลืออะไรเลย...คอยดู!”
ต้องละเหี่ยใจมากอดบ่นไม่ได้ “แม่ก็ยังมีแต่อคติกับทิฐิเหมือนเดิม”
“ไม่ต้องมาสอน ทำเป็นปรัชญา ถ้าฉันหย่า แกไปอยู่กับพ่อแกเลย ไปอยู่กับนังเมียน้อยมุนินทร์นั่นน่ะ”
“ได้ค่ะแม่...เอาอย่างที่แม่พอใจเลยค่ะ”
นภางค์ไม่สนใจว่าเรื่องจะใหญ่โตแค่ไหน ยุส่งลูกสาวด้วยความสะใจ
“ดี...หย่าไปเลยลูก ทนอยู่ทำไม เดี๋ยวเรียกทนายมาเลย ทั้งเรื่องฟ้องหย่าทั้งเรื่องสินสมรส ต้องให้รัดกุมที่สุด!”
ooooooo
วีกิจพามุนินทร์กลับกรุงเทพฯ ลูกศรกับปราโมทย์ไปเจอทั้งคู่ที่คอนโดพร้อมหลักฐานที่ล้วงมาจากคอมพิวเตอร์ของมาร์คซึ่งลำพองใจว่าแผนสำเร็จทำให้งานแต่งงานของวีกิจกับมุนินทร์ล่ม!
รัชนกร่วมมือกับศักดิ์ชายตัดต่อคลิปใส่ร้ายปราโมทย์ว่าเป็นเกย์ ส่งให้มาร์คไปเปิดให้ลูกศร แต่กลายเป็นช่องโหว่ให้ลูกศรล้วงความลับแผนการทั้งหมด...โดยเฉพาะเรื่องใครเป็นคนสลับการ์ดงานแต่ง
ปราโมทย์ร่วมกับอรพิมและทิพอาภาจับปริมมือสลับการ์ดได้คาหนังคาเขา แถมสืบเสาะจนรู้ว่าแทนไทเป็นคนติดตั้งกล้องตัวจิ๋วในห้องทำงานของมุนินทร์เพื่อขโมยข้อมูลงานแต่ง มุนินทร์โกรธมากหาทางเอาคืนด้วยวิธีหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง โดยมีวีกิจ ปราโมทย์และลูกศรร่วมมือด้วยเต็มที่...
นพนภายังไม่ได้กลับบ้านและถูกส่งตัวไปแผนกจิตเวชเพื่อบำบัดอารมณ์รุนแรง สาวใหญ่โมโห ไม่ชอบและไม่ยอมรับว่าตัวเองมีปัญหาโทร.เรียกต่อลูกชายคนรองมารับ แถมอาละวาดเหล่าหมอและพยาบาลจนใครก็เข้าหน้าไม่ติด
ศรุต หนุ่มหล่อ วิทยากรและนักจิตบำบัด ผ่านมาเห็นนพนภาอาละวาดก็แอบถ่ายคลิปเก็บไว้ก่อนไปโผล่หน้าในห้องสัมมนาเพื่อพูดเรื่องอคติกับทิฐิ
“มันเหมือนโปรแกรมไวรัสครับ...มันเข้ามาเกาะกินคุณแทบไม่รู้ตัวและทำให้คุณมีแต่ความโกรธ ความเกลียด ทุกข์ร้อน ไม่รู้จักละวาง บางคนนะครับ...ควบคุมเจ้าความโกรธนี่ไม่ได้ อาละวาดปาข้าวของ เพื่อนผมเล่าเรื่องญาติเขาคนนึง เวลาเธอโกรธเธอปาข้าวของรอบตัวเลยครับ ทั้งแจกันทั้งชุดถ้วยชากาแฟของแพงๆทั้งนั้น”
นพนภาได้ยินคำว่าอคติกับทิฐิก็ชะงัก ตัดสินใจแอบเข้าไปสังเกตการณ์ ทันได้ยินเรื่องราวของหญิงบ้าคลั่ง อาละวาดปาข้าวของอย่างไร้สติ ศรุตยังไม่เห็นนพนภาพูดต่อเรื่องวิธีจัดการอคติกับทิฐิ
“ทีนี้เราจะจัดการไอ้เจ้าไวรัสอคติและทิฐิให้ออกจากจิตเราได้ยังไง...บอกก่อนนะครับว่าเราไม่มีทางกำจัดมันไปได้หมดเพราะดูเหมือนธรรมชาติจะสร้างให้มันติดตัวเรามาตั้งแต่เกิด แต่เรา...มนุษย์ผู้สูงส่งย่อมมีอะไรครับ...ปัญญา ครับ...ปัญญานี่ละครับที่เราจะใช้เป็นโปรแกรมในการกำจัดมันไปได้”
สีหน้าและท่าทางของศรุต วิทยากรหนุ่มหน้าตาดีไม่ทำให้นพนภาหลงเชื่อหรือศรัทธา อคติในใจทำให้มองเขาอย่างจับผิด ยิ่งเขาได้รับเสียงชื่นชมจากผู้ร่วมสัมมนายิ่งหมั่นไส้ กระนั้นก็อยากรู้ทนนั่งฟังต่อโดยไม่รู้ตัว...
ooooooo
แผนหนามยอกต้องเอาหนามบ่งของมุนินทร์คือถ่ายคลิปวีกิจสวมแหวนเพชรเม็ดโตขอเธอแต่งงานพร้อมแผนฮันนีมูนส่งผ่านกล้องตัวจิ๋วของแทนไทไปให้พวกรัชนก
พวกรัชนกที่กำลังฉลองความสำเร็จร่วมกับประพงษ์ มาร์ค และเนตรนภิศ แนวร่วมล่าสุด เจ็บใจมาก ศักดิ์ชายเห็นน้องสาวนอกไส้โมโหเลยเสนอให้หาทางเอาคืน!
มาร์คหน้าซีดเมื่อรู้ว่าแผนแตก ไหนจะแทนไทที่ถูกพวกมุนินทร์เรียกไปเค้นคอจนรู้ว่าทั้งหมดเป็นแผนของรัชนก เริ่มตั้งแต่ลวงให้แทนไทเป็นหนี้พนัน จงใจเข้ามาเป็นลูกค้าใหม่ของบริษัท ล่อลวงมาร์คให้ติดบ่วงเสน่ห์แล้วหลอกใช้ให้ล้วงข้อมูลงานแต่งของวีกิจกับมุนินทร์
แทนไทตัดสินใจสารภาพทุกอย่างกับมุนินทร์ รู้สึกผิดมากที่ทำให้เธอผิดหวัง มุนินทร์แค้นใจมากและวางแผนร่วมกับวีกิจ ปราโมทย์และลูกศรอีกครั้งจะส่งคลิปหวานๆจากงานแต่งไปเย้ยพวกรัชนก
รัชนกยังไม่รู้แผนเอาคืนของมุนินทร์ มัวหงุดหงิดที่แผนพังไม่เป็นท่า ประพงษ์หนึ่งในคู่ขาของเธอเข้ามานัวเนียปลอบ มาร์คซึ่งยังป้วนเปี้ยนในคอนโดของศักดิ์ชายเห็นแล้วของขึ้น เนตรนภิศยิ้มเยาะ เย้ยว่ามาร์คเป็นไก่อ่อนรู้ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมของรัชนกที่เข้าใกล้ผู้ชายคนไหนก็ใช้เสน่ห์หลอกใช้ได้หมด...รวมทั้งศักดิ์ชายพี่ชายนอกไส้!
นพนภานั่งฟังศรุตวิทยากรหนุ่มหล่อพูดเรื่องอคติและทิฐินานนับชั่วโมง แปลกใจตัวเองไม่น้อยที่นิ่งเฉยได้แม้ว่าเขาจะพูดเรื่องใช้ปัญญาจัดการอคติกับทิฐิซึ่งขัดกับความคิดของเธออย่างมาก
“เมื่อพิจารณาแล้วก็ลองเปิดใจ ให้โอกาสเขาชี้แจงหรือมองเขาในแง่บวกมากขึ้น อคติและทิฐิของคุณจะหมดไปหรือคลายจางไป ความโกรธความเกลียดที่มันหนักอึ้งมันก็จะทุเลาเบาบางไปด้วย”
สุดท้ายนพนภาก็ทนไม่ไหวโพล่งถามเรื่องตนกับมุนินทร์แต่ยังไม่ยอมเผยชื่อตัวเอง
“แล้วถ้าไอ้คนที่เราเกลียดก็เลวและทำร้ายเราอยู่อย่างนั้น เราจะมองมันแง่บวกหรือให้โอกาสมันชี้แจงทำไมคะ”
ศรุตเห็นหน้านพนภาก็ยิ้มบางๆ ดีใจมากกว่าตกใจที่เห็นเธอในห้องนี้ เขาตอบคำถามเธออย่างใจเย็น
“ถ้าเขาเลวอย่างนั้น...ต้องให้อภัยครับ แล้วถอยห่างออกมา”
นพนภาเบ้หน้า ไม่เชื่อถือแม้แต่น้อย “คิดแล้วว่าต้องตอบแบบนี้ ฉันให้อภัยหรือถอยห่างคนแบบนี้ไม่ได้ค่ะ เพราะมันเป็นคนใกล้ชิดฉัน เป็นบ่อนทำลายครอบครัวฉันอยู่ตลอด”
“แล้วคุณคิดว่าคุณจะจัดการคนคนนี้ยังไงล่ะครับ”
“ก็แก้แค้นไงคะ...ใช้วิธีสะสมความโกรธความเกลียดเอาไว้ให้เต็มอัตราศึกเลยแล้วหาทางทำลายมันให้ย่อยยับ”
“ทำแล้วคุณมีความสุขเหรอครับ”
“มีสิคะ...ทุกครั้งที่ได้ทำลายคนเลวๆพวกนี้ ฉันมีความสุขที่สุดเลยค่ะ หลับฝันดีเลยล่ะ โทษนะคะที่คิดต่าง เพราะฉันไม่เชื่อในทฤษฎีของคุณ ฉันคิดว่าวิธีคิดของคุณมันมาแนวทฤษฎีโลกสวยหรือที่เขาเรียกว่าพวกหลอกตัวเอง!”
ooooooo
สีหน้าเอาเรื่องของนพนภาไม่ทำให้ศรุตหวาดหวั่น แกล้งยั่วประสาทอีกต่างหาก
“คุณผู้หญิงผู้ไม่ประสงค์ออกนามครับ...การหลอกตัวเองคือการมองไม่เห็นความจริงแท้เพราะหลงในอัตตาตัวเองเกินไป สิ่งที่ผมกำลังอธิบายคือการละอัตตาครับ เพื่อให้เห็นความจริงอย่างถ่องแท้และประเมินมันได้อย่างถูกต้อง”
“อัตตงอัตตาอะไรฉันไม่รู้เรื่อง แต่ฉันก็ประเมินตัวเองได้ถูกต้องและแม่นยำด้วย”
นพนภาเหวี่ยงไม่แคร์สายตาใครแต่ศรุตไม่ถือสา “ความคิดผมอาจจะไม่เหมาะสำหรับคุณ ไม่เป็นไรครับ...ลองอ่านหนังสือของผมดูไหม คุณผู้หญิงอาจจะเข้าใจอะไรๆได้มากขึ้น”
คำพูดของศรุตทำให้นพนภายิ้มเหยียดเพราะคิดว่าเขาก็แค่อยากขายหนังสือ “แหม...ที่ปรึกษาชีวิตอย่างคุณนี่ที่สุดแล้วก็พ่อค้าขายของนั่นแหละ ไม่เป็นไรค่ะ...เดี๋ยวจะขอยืมเพื่อนอ่าน ไม่ซื้อนะคะเพราะไม่คิดบวก”
เสียงฮือฮาของผู้ร่วมสัมมนาดังขึ้น นพนภาไม่ยี่หระเดินหนี ศรุตรีบตามไปรั้งไว้ “เดี๋ยวครับ...หนังสือของผมวันนี้แจกฟรีและที่มาพูดที่โรงพยาบาลวันนี้ผมก็มาฟรีเพื่อคนไข้และผู้สนใจเรื่องการใช้ชีวิตคิดบวกโดยเฉพาะ กรุณาอย่าตัดสินด้วยอคติและทิฐิส่วนตัวเลยนะครับเพราะจะทำให้คุณไม่เห็นความจริงในชีวิตเลยสักอย่าง”
นพนภาเสียหน้ามาก ผลุนผลันเดินออกจากห้องสัมมนาเจอกับอมรและพงศกร น้องเขยกับเพื่อนสนิท หน้าห้องสัมมนา ทั้งคู่มาพร้อมช่อดอกไม้เพื่อแสดงความยินดีตามประสาแฟนคลับของศรุต นพนภาได้ยินเสียงชื่นชมศรุตก็หงุดหงิดแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากฮึดฮัดคนเดียว...
แผนเอาคืนรัชนกของมุนินทร์ได้ผลดีเกินคาด
วีกิจสะใจมากและภูมิใจในตัวแฟนสาวที่เข้มแข็งและแกร่งกว่าที่คิด แต่ถึงจะเคลียร์และปกป้องตัวเองแค่ไหนเมื่อเจนภพโทร.มาเคลียร์เธอก็อดหนักใจไม่ได้
“ผมอยากให้นินไปอธิบายเรื่องทั้งหมดให้นภาฟังเรื่องของเราสองคน”
“ถ้าเธออคติสุดๆแบบนี้ฉันว่าไม่มีประโยชน์อะไรหรอกค่ะ”
“ต้องมีสิ...นภาน่ะถ้าเข้าใจแล้วก็ไม่มีปัญหาอะไร จะกลับมารักใคร่นับญาติกับคุณเหมือนเดิม นิน...คุณจะเข้ามาเป็นสะใภ้ของตระกูลอภิบาลบดินทร์ มันเป็นหน้าที่ของผมและทุกคนในตระกูลที่ต้องต้อนรับคุณให้สมฐานะ ผมไม่ยอมหรอกที่จะเห็นการแตกแยกแบบนี้”
“ขอบคุณค่ะ...ไม่นึกเลยว่าคุณจะแคร์ความรู้สึกฉันมากขนาดนี้”
“ต้องแคร์สิครับ...คุณคือสะใภ้คนใหม่นะ นี่ถ้าไม่ติดยัยต้อม ผมจะไปหาคุณที่กรุงเทพฯเดี๋ยวนี้เลย”
มุนินทร์กับเจนภพยิ้มให้กันผ่านกล้องมือถือเข้าใจและเห็นใจกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นตามประสาพวกผ่านอะไรด้วยกันเยอะ แต่ต้อมซึ่งได้ยินทุกอย่างโดยบังเอิญไม่เข้าใจ แอบถ่ายคลิปพ่อคุยกับมุนินทร์ส่งไปให้นพนภา
นพนภายังไม่รู้เรื่องคลิปของต้อม มัวหัวเสียเมื่อรู้จากศรุตว่าอมรกับพงศกรเป็นคนเล่าวีรกรรมเธอสมัยอาละวาดหึงหวงเจนภพเมื่อหลายปีก่อนจนกลายเป็นตัวอย่างกรณีศึกษาที่เขาพูดถึงวันนี้ ศรุตไม่ได้รู้สึกผิดแต่ก็ขอโทษเธอตามมารยาทก่อนมอบหนังสือของเขาพร้อมเบอร์มือถือให้เผื่อเธอสนใจอยากคุยกับเขาหลังจากนี้...
ooooooo
จนแล้วจนรอด นพนภาก็ไม่โทร.หาศรุตเพราะอคติและทิฐิ กระทั่งศรุตตัดสินใจโทร.หาเธอเองเพราะอยากให้เธอเข้าโครงการบำบัดของเขาเพราะอยากศึกษากรณีของเธอ นพนภาโกรธมากเพราะคิดว่าโดนดูถูกว่าเป็นโรคจิต ศรุตต้องอธิบายอย่างใจเย็นและขอร้องให้เธอมาฟังเขาพูดเรื่องบำบัดความเครียดในวันต่อมา
ลูกล่อลูกชนของศรุตทำให้นพนภาใจอ่อนโดยไม่รู้ตัว อดเปิดหนังสืออ่านบทความแบบไม่เป็นวิชาการของเขาไม่ได้ แม้จะไม่เห็นด้วยทุกอย่างแต่ก็อ่านเรื่อยๆจนจบ...
ในที่สุดงานแต่งงานของวีกิจกับมุนินทร์ก็มาถึง ทั้งสองจัดงานแบบไทยๆรวมทั้งจดทะเบียนสมรสที่เพชรบูรณ์ บ้านเกิดของมุนินทร์เพื่อให้พิณกับแปลกเป็นพยาน ส่วนงานฉลองที่กรุงเทพฯจะกลับไปจัดภายหลัง ลูกศรกับปราโมทย์มาช่วยงาน ร่วมด้วยเจนศึก ผอ.คนใหม่ แจงจิต อรพิม และทิพอาภา สามสาวช่างเม้าท์ประจำกระทรวง
ลูกศรมาช่วยมุนินทร์แต่งชุดไทยในห้อง อดทึ่งกับความสวยสดงดงามของเพื่อนรักไม่ได้
“จำได้ไหมนิน...สมัยเรียนนิวยอร์ก ตอนเราไปทำบุญที่บ้านพี่หน่อง แกแต่งชุดไทยคนฮือทั้งงาน เป็นครั้งแรกครั้งเดียวที่ฉันเห็นแกแต่งแบบนี้แล้ววันนี้ฉันก็เห็นแกแต่งไทยอีกครั้ง...วันที่แกจะเป็นเจ้าสาว...งดงามได้ใจ”
มุนินทร์ยิ้มบางๆพลางคิดถึงมุตตาน้องสาวฝาแฝด “คนที่แต่งชุดไทยแล้วงามได้ใจคือตาต่างหาก ตอนรุ่นๆแม่จับตาเดินสายประกวดนางนพมาศทุกปี เสียดาย...ตาไม่ได้แต่งทั้งๆที่การเป็นเจ้าสาวเป็นฝันสูงสุดของตา”
สีหน้าเศร้าหมองของมุนินทร์ทำให้ลูกศรพลอยเศร้า เข้าใจและเห็นใจมาตลอดแต่ไม่ทันพูดอะไรพิณก็มาบอกให้เตรียมตัวเพราะพิธีกำลังจะเริ่ม วีกิจมาถึงแล้วพร้อมขบวนขันหมากโดยมีเจนศึกเป็นผู้ใหญ่ช่วยแจกซองผ่านประตู
บรรยากาศงานเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ทำให้แขกไม่ได้รับเชิญอย่างฤทัยกับป้างซึ่งแอบเนียนเข้ามาขโมยอาหารอิจฉาและช่วยกันวางแผนขโมยขนมมงคลของงาน...
ooooooo
นพนภาไม่ได้ไปร่วมงานแต่งของวีกิจกับมุนินทร์แต่โผล่ไปดูศรุตพูดเรื่องบำบัดความเครียด ศรุตดีใจที่เห็นเธอ แม้เจ้าตัวจะทำท่าเหมือนไม่ยินดียินร้ายแต่เขาก็ตะล่อมให้เธอไปกินข้าวด้วยจนได้
“ฉันยอมรับก็ได้...ฉันตั้งใจมาพบคุณ เพราะอ่านบทความของคุณแล้วสงสัยว่ากรณีฉันมันน่าศึกษาตรงไหน”
“อืม...อย่างยิ่งยวดเลยครับ เพราะความคิดของคุณมันค้านกับทฤษฎีผมหมดเลย คุณไม่เชื่อในเรื่องมองโลกอย่างเป็นธรรม คุณไม่เชื่อในเรื่องการปล่อยวางและคุณเชื่อว่าความรุนแรงเท่านั้นคือทางออกของปัญหา”
“ใช่...ฉันเชื่ออย่างนั้น ตาต่อตา ฟันต่อฟันนั่นแหละทำให้ฉันล้างบางศัตรูได้ราบคาบ ทำให้ฉันมีความสุขที่สุด”
“มีความสุขเหรอครับ...ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณถึงมานอนโรงพยาบาลและถูกส่งมาแผนกจิตเวชล่ะครับ”
“นี่คุณสืบเรื่องของฉันเหรอ”
ศรุตยิ้มยอมรับก่อนเปิดคลิปเธอตบตีกับมุนินทร์ ยืนยันว่าเห็นทุกอย่างจริงๆ นพนภาอึ้งมาก พูดไม่ออกศรุตเห็นดังนั้นจึงรีบพูดเข้าเรื่องที่ตัวเองสนใจ
“ช่วยเล่าหน่อยได้ไหมครับ มันเกิดอะไรขึ้นถึงต้องทำรุนแรงกันถึงขนาดนั้น”
“นี่...ฉันยังไม่ตกลงให้คุณมาเป็นที่ปรึกษาฉันเลยนะ”
“โธ่...บอกแล้วไงครับ ผมจ่ายคุณเอง คิดเป็นชั่วโมง”
“ไม่ใช่เรื่องเงิน...ประวัติคุณน่ะที่ฉันติดใจ คุณไม่ได้เรียนทางจิตวิทยา ไม่ได้เป็นจิตแพทย์จะมาบำบัดฉันได้ยังไง ประวัติเดิมคุณครีเอทีฟโฆษณาไม่ใช่เหรอ”
คำถามของนพนภาทำให้ศรุตหน้าเจื่อนเล็กน้อยก่อนเปลี่ยนเป็นยิ้มรับ “ครับ...ผมไม่ได้เรียนมาทางนี้โดยตรงแต่ก็ศึกษาเรื่องจิตวิทยามาบ้าง...ก็อย่าเรียกว่าบำบัดเลยครับ ให้ผมเป็นเพื่อนพูดคุยรับฟังคุณก็แล้วกัน”
“แล้วจะเยียวยาอะไรฉันได้”
“บางครั้งการมีเพื่อนไว้รับฟังปัญหามันเยียวยาจิตใจได้มากกว่าการบำบัดใดๆเลยนะครับ”
ooooooo
มุนินทร์ไม่สนเรื่องนพนภา วุ่นวายถ่ายคลิปงานแต่งพร้อมใบทะเบียนสมรสร่วมกับวีกิจส่งให้รัชนก สร้างความแค้นใจให้รัชนกมากแต่ยังโต้ตอบไม่ได้ ได้แต่รอคอยเวลาเอาคืนครั้งต่อไป...ในงานเลี้ยงฉลองที่กรุงเทพฯ!
หลังเอาคืนรัชนกอย่างสาสม วีกิจกับมุนินทร์ก็ทำพิธีแต่งงานต่อแต่ไม่ทันได้ป้อนขนมมงคลให้กันและกัน ทั้งงานก็ต้องแตกตื่นเมื่อมีโจรแปลกหน้าหนุ่มสาวขโมยขนมมงคลต่อหน้าต่อตา
ฤทัยกับป้างนั่นเองโจรขโมยขนมหวานในงานแต่งงานของวีกิจกับมุนินทร์ ทั้งคู่ขี่รถมอเตอร์ไซค์ไปนั่งกินบริเวณริมแม่น้ำแห่งหนึ่งในจังหวัดเพชรบูรณ์ ไม่รู้เลยว่าเกษมพ่อเลี้ยงใจทรามของฤทัยแอบดูด้วยแววตาโกรธแค้น!
ศรุตนั่งฟังเรื่องความขัดแย้งระหว่างมุนินทร์กับนพนภาด้วยท่าทีนิ่งสงบ ต่างจากนพนภาที่ยิ่งเล่ายิ่งแค้น
“ไงคะ...ฟังเรื่องฉันแล้วยังอยากให้ฉันมองโลกสวยให้อภัยสามีกับนังเมียน้อยอยู่ไหม เขาลาออกจากงานราชการ พรากลูกฉันไปเมืองนอกเพื่อเป็นข้ออ้างไปเล่นชู้กับนังเมียน้อยแถมยังขู่จะหย่าฉันอีก มันเลวร้ายสุดๆ ฉันไม่มีวันให้อภัยพวกมันเด็ดขาด!”
“คุณไม่เชื่อที่สามีบอกว่าไปอังกฤษเพื่อดูแลลูกสาวที่ป่วยเลยเหรอครับ”
“ทำไมต้องเผ่นไปอังกฤษคะ...ไปประเทศใกล้ๆนี่ก็ได้ ก็เพราะเขาไม่อยากให้ฉันจับได้ จะได้นัดพบนังเมียน้อยได้สะดวก เพราะนังนั่นก็ไปดูงานที่นั่นปีละหนสองหนหรืออาจจะหลายๆหน ที่เขาอ้างเรื่องลูก...ฟังไม่ขึ้น!”
นพนภาหัวเสียมาก ศรุตไม่ได้แสดงความเห็นใดๆ
นอกจากจดข้อมูลสำคัญลงสมุดโน้ตเพื่อวิเคราะห์ กระทั่งมีเสียงเตือนข้อความภาพจากต้องเข้ามือถือนพนภา เป็นคลิปไลฟ์งานแต่งของวีกิจกับมุนินทร์ที่ตั้งใจส่งให้รัชนก นพนภาหงุดหงิดมากเพราะเข้าใจว่ามุนินทร์จงใจเยาะเย้ยตนที่ทำสำเร็จ...แต่งงานกับวีกิจจนได้
ศรุตไม่เต้นตามอารมณ์รุนแรงของนพนภาแต่หาข้อมูลเพิ่มด้วยการมาเยี่ยมบ้านเธอวันต่อมา ได้เจอมุนินทร์ซึ่งเพิ่งกลับจากเพชรบูรณ์พร้อมวีกิจสามีหมาดๆ นพนภาเห็นดังนั้นก็อาสาไปพาตัวมุนินทร์มาให้ศรุตจับสังเกต
มุนินทร์แปลกใจมากเมื่อจู่ๆนพนภาก็มาขอคุยเป็นการส่วนตัว
“คุณจะคุยอะไรคะ”
“ก็เรื่องผัวของเราทั้งคู่ไง ไม่ใช่ผัวคนนี้นะ ผัวฉันน่ะ...คุณเจนภพ...เขาแก้ต่างให้เธอแล้ว ที่เธอไปหาเขามันเต็มไปด้วยความบริสุทธิ์ใจ อยากไปเยี่ยมยัยต้อม ไปดูแลอาการป่วยของมัน แหม...ปรารถนาดีเหลือเกิน ฉันก็เลยอยากฟังจากปากของเธอมากกว่าว่ามันจริง มันเฟก หรือตอแหลทั้งหมด”
“งั้นก็ถามมาเลย ฉันมีเวลาเหลือเฟือให้คุณเลยล่ะ เอาเรื่องไหนก่อนดีคะ...เรื่องจริงหรือเรื่องแหล”
วีกิจเห็นท่าไม่ดีรั้งตัวภรรยาหมาดๆไว้ มุนินทร์ตบมือเขาเบาๆแล้วหันไปพูดกับนพนภา
“ไม่เป็นไรค่ะ...ฉันพร้อมแล้ว ไม่มีอะไรต้องกลัว เราเป็นญาติร่วมตระกูลกันแล้ว...ใช่ไหมคะคุณอานพนภา”
ooooooo
อ่านละคร แรงเงา 2 ตอนที่ 4
ละครเรื่อง แรงเงา 2 บทประพันธ์โดย นันทนา วีระชนละครเรื่อง แรงเงา 2 บทโทรทัศน์โดย Anonymous
ละครเรื่อง แรงเงา 2 กำกับการแสดงโดย ชนินทร ประเสริฐประศาสน์
ละครเรื่อง แรงเงา 2 ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่อง แรงเงา 2 ควบคุมการผลิตโดย อรุโณชา ภาณุพันธุ์
ที่มา ไทยรัฐ