อ่านละคร แรงเงา 2 ตอนที่ 7 วันที่ 19 พ.ค.62
“แม่เตือนอย่างนะ...เด็กก็เป็นสาวแล้ว อย่าอยู่ใกล้ชิดมากเดี๋ยวมันจะดูไม่ดี”“ครับ...ผมก็คิดอย่างนั้นแหละ”
ไม่ใช่แค่สร้อยคำที่กระอักกระอ่วนใจกับเรื่องนี้ แม้แต่ลูกศรก็ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของมุนินทร์เพื่อนรัก
“คิดดีแล้วเหรอแก พาเด็กมาอยู่ร่วมบ้านน่ะ”
“แล้วจะทิ้งขว้างเด็กไปงั้นเหรอ”
“เข้าใจว่าเป็นเรื่องมนุษยธรรมแต่ทำไมแกต้องทุ่มทุนขนาดนี้ ไม่เห็นแก่คุณสามีบ้าง”
“ทำไมล่ะ...กิจเขาไม่มีปัญหาอะไรนี่ นอกจาก...”
พูดพลางฉุกใจคิดถึงเหตุการณ์เมื่อวานที่ทัยเจอวีกิจในห้องนอนหลังออกจากห้องน้ำ สีหน้าและท่าทางสั่นๆของทัยทำให้มุนินทร์เชื่อสนิทว่าเป็นเพราะสภาพจิตใจของทัยยังไม่หายดี
“เด็กยังไม่หายจากตกใจที่ถูกทำร้าย บางทีอยู่ลำพังกับคุณกิจก็มีกลัวๆอยู่บ้าง”
ลูกศรฟังแล้วยิ่งกังวล “พูดตรงๆ...ไม่ว่ากันนะ เด็กนั่นก็ไม่ใช่เด็ก ชีเป็นสาวแล้วแถมสวยด้วย แกระวังหน่อย ผัวหนุ่มกับเด็กสาวลำพังในบ้านสองต่อสอง”
“พูดเข้า...ที่ฉันพาทัยเข้าบ้านเพราะมั่นใจย่ะว่าสามีไม่มีทางและไม่มีวันมีชู้เด็ดขาด...มันไม่ใช่นิสัยเขา”
ooooooo
มุนินทร์เชื่อสัญชาตญาณตัวเองรวมถึงเชื่อใจวีกิจว่าไม่มีวันนอกใจ แต่คนรอบตัวโดยเฉพาะลูกศรกับสร้อยคำกลับคลางแคลงใจการมาของทัยว่ามีบางอย่างไม่ชอบมาพากล
สร้อยคำลองจับสังเกตทัยอย่างละเอียด เห็นทำอาหาร ทำงานบ้านและร้อยมาลัยได้อย่างคล่องแคล่วก็มีความหวังว่าอีกฝ่ายจะจำอะไรได้แต่ทัยกลับปฏิเสธ อ้างว่าทำได้ดีเพราะคิดว่าแม่อาจเคยสอน
มุนินทร์ไม่มีเวลาสะระตะเรื่องทัยและคำเตือนของผู้คนรอบข้าง มัวหงุดหงิดเมื่อจู่ๆมีคำสั่งไปดูงานที่อังกฤษ แถมต้องรับมืออารมณ์อิจฉาของมาร์คที่จงใจแดกดันเรื่องทัย
“ไงครับคุณนิน...ช่วงนี้ทำตัวเป็นนักบุญสาว บุญเลยหล่นทับแย่งโอกาสคนอื่นไปเที่ยวเมืองนอกเมืองนาอีกแล้ว”
“ฉันไม่ได้ไปเที่ยว ฉันไปทำงาน”
ลูกศรไม่แปลกใจที่มาร์คพาลใส่มุนินทร์แต่ติดใจคำว่านักบุญสาวมากกว่า มาร์คขยายความแบบเสียไม่ได้
“เขาลือกันแซ่ดตั้งแต่ผ่านฟ้าถึงห้าแยกปากเกร็ดว่ายัยนินรับอุปการะเด็กสาวที่เคยขับรถชนเกือบเสียชีวิตเข้ามาอยู่ร่วมบ้านเรือนหอ ใครๆเขาก็สงสัยในเจตนากันทั้งนั้น”
วาจาค่อนแคะของมาร์คทำให้มุนินทร์นิ่วหน้า “เจตนาอะไร”
“ตอนนี้ลือตั้งแต่แจ้งวัฒไปถึงรัตนาธิเบศร์...ก็เอาไปเลี้ยงไว้เป็นคนรับใช้เพราะหาคนใช้ต่างชาติไม่ได้ และเด็กไม่มีทางไป ความจำก็เสื่อม เข้าทางผัวเมียพอดี แล้ว...ยังมีอีกหนึ่งเจตนานะ”
มาร์คจงใจพูดยั่วประสาท สีหน้าสะใจมากเมื่อเห็นท่าทางเอาเรื่องของมุนินทร์
“ก็เด็กนั่นกำลังแตกเนื้อสาว คุณผัวอาจจะติดใจขอคุณเมียเลี้ยงไว้ฝึกทำหน้าที่ผู้ช่วยภรรยา วันไหนคุณเมียเหนื่อยไม่อยากทำการบ้านก็ให้เด็กที่แตกเนื้อสาวดังเปรี๊ยะคอยปรนนิบัติจนไปถึงโน่น...แยกมไหศวรรย์”
ขาดคำมุนินทร์ก็สาดกาแฟใส่หน้ามาร์คด้วยความโมโห แหวเสียงเขียว
“จำไว้นะไอ้มาร์ค...ถ้าแกรู้จักพูด รู้จักคิดอะไรที่ดีกับฉันสักนิด ฉันอาจให้โอกาสแกไปลอนดอนกับเขาบ้างก็ได้”
มุนินทร์ผลุนผลันจากไปแล้ว ทิ้งมาร์คให้ยืนอึ้ง ก่อนเต้นผางเมื่อเห็นสายตาเย้ยหยันของแทนไท
“ยิ้มหาบรรพบุรุษเหรอวะไอ้แทน ไปบอกนังนิน นังศรนะ...อย่าว่าแต่ลอนดอน คนอย่างข้าน่ะขั้วโลกเหนือขั้วโลกใต้ข้าอยากจะไปก็ไปได้โว้ย”
“เชื่อครับ...แต่ตอนนี้เขามีทัวร์ดาวอังคารแล้ว พี่น่าจะไปนะ แต่ไปเที่ยวเดียวไม่มีตั๋วกลับ...ไปตายที่นั่นเลยพี่!”
ooooooo
ทัยหรือตัวจริงคือฤทัยเก็บอาการสุดความสามารถ ไม่ยอมบอกความจริงว่าแท้จริงเธอเป็นใคร รวมถึงสาเหตุแท้จริงที่เธอเข้ามาอยู่ในเรือนหอของวีกิจกับมุนินทร์
ฤทัยช่วยงานบัวสาวใช้ที่สร้อยคำพามาด้วยอย่างคล่องแคล่วจนอีกฝ่ายไว้ใจยอมให้เธอเอาเสื้อผ้าของมุนินทร์กับวีกิจเข้าไปเก็บในห้อง และที่นั่นเองทำให้เธอได้เห็นภาพมุตตาน้องสาวฝาแฝดของมุนินทร์เป็นครั้งแรก
นอกจากรูปถ่ายของมุตตา ฤทัยยังมีโอกาสสัมผัสข้าวของของวีกิจอย่างรักใคร่...หลงใหล เกือบผิดสังเกตอยู่แล้วถ้าบัวจะไม่มาตาม บัวไม่ทันสังเกตท่าทางแปลกๆ ของอีกฝ่ายหลุดปากเล่าเรื่องมุตตา
“คุณมุตตาเธอเสียแล้ว...ผูกคอตาย...แต่อย่าพูดไปนะ...ฆ่าตัวตายทั้งๆที่ลูกอยู่ในท้อง”
“ตายจริง...แล้วฆ่าตัวตายทำไม”
“เรื่องมันยาว แต่อย่ารู้เลย...มันเรื่องส่วนตัวของเขา”
“จ้ะ...แต่บอกหนูหน่อยสิ...ฆ่าตัวตายทำไม”
ฤทัยหลอกถามบัวจนรู้ว่ามุตตาน้องสาวฝาแฝดของมุนินทร์เคยเป็นเมียน้อยของเจนภพ สามีของนพนภา จนมีเรื่องราวฉาวโฉ่ทั่วกระทรวง กระทั่งมุตตาฆ่าตัวตายเพราะเจนภพไม่ยอมรับลูกในท้อง มุนินทร์จึงกลับมาล้างแค้นกลายเป็นเรื่องราวมหากาพย์ที่หลายคนจดจำได้ดี
บัวเล่าเรื่องมุนินทร์กับมุตตาอย่างมันปาก สร้อยคำผ่านมาได้ยินเลยถูกเอ็ดที่พูดเรื่องไม่ควรพูด ฤทัยเจ็บใจมาก อยากซักไซ้เรื่องราวอีกหน่อยแต่ต้องปั้นหน้านิ่ง ก่อนยิ้มบางๆเหมือนสาวเรียบร้อยเมื่อสร้อยคำเอาชุดของมุนินทร์มาให้...โดยไม่รู้เลยว่าชุดพวกนั้นไม่ใช่ของมุนินทร์แต่เป็นของมุตตา!
วีกิจเครียดมากเมื่อรู้จากมุนินทร์เรื่องเธอต้องไปดูงานที่อังกฤษ เป็นกังวลเพราะต้องอยู่ลำพังกับทัย มุนินทร์ไม่คิดมากเพราะมีสร้อยคำอยู่ด้วย และเธอเชื่อใจสามีว่าไม่มีวันนอกใจ กระนั้นเมื่อกลับถึงบ้านเธอกลับต้องผงะเมื่อทัยออกมาต้อนรับในชุดและภาพลักษณ์ที่เหมือนมุตตาไม่มีผิด
“ทัย...เธอใส่ชุดนี้ทำไม แล้ว...ไปเอามาจากไหน”
“ป้าสร้อยค้นเสื้อเก่าๆของคุณในห้องเก็บของน่ะค่ะ ให้หนูใส่ไปก่อน”
“แม่สร้อยให้เธอใส่ชุดนี้เหรอ”
“ที่จริงมีหลายชุดแต่หนูเลือกชุดนี้...มันสวยดี”
มุนินทร์นิ่วหน้า รำพึงกับตัวเอง “ฉันมีชุดของมุตตาเก็บไว้ด้วยเหรอ”
ฤทัยสังเกตอาการของมุนินทร์ ลอบยิ้มร้ายก่อนแกล้งถามถึงมุตตา มุนินทร์แปลกใจที่อีกฝ่ายรู้เรื่องมุตตาแถมมีลักษณะและท่าทางหลายอย่างเหมือนน้องสาวฝาแฝดอย่างบอกไม่ถูกแต่กลับไม่ติดใจสงสัย เชื่อว่าเป็นโชคชะตาด้วยซ้ำที่ได้เจออีกฝ่าย ทำให้เธอมีโอกาสได้ใกล้ชิดและไถ่โทษ...เหมือนที่อยากทำกับมุตตามาตลอด
ooooooo
ไม่ใช่แค่มุนินทร์ที่ตกใจ วีกิจก็ถึงกับอ้าปากค้างเมื่อเห็นชุดใหม่ของทัย
มุนินทร์แกล้งเย้าสามียิ้มๆ “เหมือนไหมคะกิจ”
“ยังไง...นั่นมันชุดของมุตตา คุณให้ทัยใส่เหรอ”
“เปล่าค่ะ...ทัยใส่เอง บังเอิญจริงๆ แม่สร้อยไปค้นเสื้อเก่าๆแล้วมีชุดของตาติดมา ทัยเลยเอามาใส่...ฉันไม่รู้เลยนะว่ามีชุดของตาติดมาบ้านนี้ด้วย”
“งั้น...เราก็ควรหาชุดใหม่ให้ทัยใส่ได้แล้วนะ ชุดนี้ก็ควรเก็บ...เธอรีบเปลี่ยนเลย”
วีกิจประสาทเสียอยู่แล้วเพราะเหตุการณ์และสถานการณ์ล่อแหลมกับทัย ยิ่งเห็นสภาพอีกฝ่ายเหมือนมุตตายิ่งเครียดจัด เผลอหลุดใส่อารมณ์จนมุนินทร์ต้องตามไปคุยด้วย
“ไปดุเด็กทำไมคะกิจ เด็กไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย”
“คุณแน่ใจนะว่ามันเป็นเรื่องบังเอิญ”
“คุณกิจ...อย่าบอกนะว่าคุณคิดว่าเด็กนั่นตั้งใจใส่ชุดของตา เขาเห็นว่าสวยก็เลยใส่...เท่านั้นเอง”
“หรืออาจจะเห็นในรูปแล้วก็แต่งเลียนแบบ”
“ไม่มีเหตุผลเลยคุณ เด็กจะทำไปทำไม”
“ผมก็ไม่รู้”
“เมื่อไม่รู้ก็ไม่ควรด่วนสรุปแล้วไปดุเด็กแบบนั้น”
“แล้วคุณเห็นดีเห็นงามด้วยเหรอให้เด็กใส่เสื้อผ้าคนตายแล้วเดินไปมาอยู่ในบ้านเหมือนผีหลอก”
เพราะอารมณ์พาไปแท้ๆทำให้วีกิจพลั้งปากเรียกมุตตาเป็นผี มุนินทร์ฉุนกึก ไม่ชอบใจอย่างแรงที่ได้ยินใครพูดถึงน้องสาวฝาแฝดแบบนี้ โพล่งเสียงห้วน
“อย่าพูดถึงตาแบบนี้อีกนะคะกิจ...ฉันไม่ชอบ!”
พูดจบก็สะบัดหน้าหนี ทิ้งให้วีกิจกุมหัวด้วยความรู้สึกผิด ทัยหรือตัวจริงคือฤทัยรอจังหวะอยู่แล้ว ลอบยิ้มร้ายก่อนก้าวจากห้องน้ำในสภาพใส่เสื้อรัดรูปจงใจปั่นหัวให้วีกิจยิ่งคลั่ง...และหลงใหลตัวเธอในไม่ช้า
ooooooo
วีกิจหงุดหงิดมาก อึดอัดใจไม่อยากอยู่ใกล้ทัยแต่ขัดมุนินทร์ไม่ได้ สร้อยคำเข้าใจความรู้สึกลูกชายดีและรู้สึกผิดไม่น้อยที่ถือวิสาสะหยิบเสื้อผ้าของมุนินทร์ไปให้ทัยโดยไม่รู้ว่าจริงๆเป็นเสื้อผ้าของมุตตา
กระนั้นสร้อยคำก็ไม่ได้คิดมากเพราะเชื่อว่าทัยไม่ได้มีเจตนาร้ายนอกจากชอบชุดแนวหวานๆเหมือนมุตตา เช่นเดียวกับมุนินทร์ที่ไม่ได้สนใจเรื่องชุดของทัยอีก โทร.หานพนภาเพื่อบอกเรื่องไปดูงานที่อังกฤษ
นพนภาตื่นเต้นมากตัดสินใจจะพาต้องกับต่อไปเยี่ยมเจนภพกับต้อมที่อังกฤษด้วย และถือโอกาสชวนมุนินทร์จัดงานเลี้ยงที่บ้าน มุนินทร์ตอบรับด้วยความยินดีและรับปากจะชวนวีกิจไปเที่ยวด้วยกัน
เจนภพดีใจมากเมื่อมุนินทร์โทร.บอกเรื่องนพนภาจะพาต้องกับต่อไปเยี่ยมที่อังกฤษ แถมวีกิจก็จะลางานมาเที่ยวกับมุนินทร์ด้วย ถือเป็นการรวมครอบครัวครั้งแรกในรอบปี
มุนินทร์มีความสุขมาก ทุกอย่างทำท่าจะลงตัวอย่างที่หวังมานาน เจนภพก็คิดไม่ต่างกัน
“ผมยังไม่ได้กล่าวต้อนรับสะใภ้คนใหม่เลยนะ อภิบาลบดินทร์ขอต้อนรับนะครับ หวังว่าคุณจะมีความสุขและเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวเรา”
“ขอบคุณค่ะ...และยินดีมากค่ะ”
“ที่จริงผมต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณ คุณทำให้นภาคิดได้และกลับมาปรองดองกับเราอีกครั้ง”
“ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนะคะ”
“ทำ...และทำมากด้วย ยัยต้องเล่าให้ฟังหมดแล้วที่คุณชกเธอหมดสติไปหนึ่งหมัด...”
เจนภพเล่าขำๆ ไม่ถือสาเพราะรู้จักนิสัยและอารมณ์รุนแรงของนพนภาดี มุนินทร์พลอยหัวเราะเพราะไม่ติดใจเรื่องที่ผ่านมา ไม่รู้เลยว่าต้อมแอบมองจากมุมห่างๆ...สีหน้าเคียดแค้นเพราะคิดว่าพ่อเป็นชู้กับมุนินทร์
มุนินทร์เข้านอนด้วยความสุข ยินดีที่ทุกอย่างจบลงด้วยดี วีกิจก็เช่นเดียวกัน กระทั่งเสียงฟ้าร้องกลางดึกทำให้เขาตกใจตื่นและเจอกับทัยที่ยืนตัวสั่นอยู่นอกห้อง!
ooooooo
ทัยหรือตัวจริงคือฤทัยตกใจกลัวเสียงฟ้าร้องจริงๆเพราะหลอนตอนเกษมบุกเข้าห้อง และคืนนี้เสียงฟ้าร้องก็ทำให้เธอหวาดผวา กระทั่งวีกิจโผล่มาปลอบด้วยความเป็นห่วงตามประสาสุภาพบุรุษ
“ทัย...ไม่มีอะไรนะ แค่ฟ้าร้องฟ้าแลบเท่านั้นเอง”
“มันจะทำร้ายหนู เงาดำๆมันเข้ามาในห้อง มันจะทำร้ายหนู”
“ไม่มีอะไรหรอก บ้านนี้ปลอดภัย”
ฟ้าแลบอีกครั้ง ฤทัยโผกอดวีกิจแน่น วีกิจทำอะไรไม่ถูก
“ช่วยหนูนะคะ...ช่วยหนู”
“กลับไปที่ห้องเถอะนะ”
“ไม่...หนูกลัว...มันซ่อนอยู่ในนั้น”
วีกิจเห็นท่าไม่ดีอาสาสำรวจในห้องให้ ไม่คิดแม้แต่น้อยว่าทัยจะมีเจตนาแอบแฝงให้เขาออกมาเจอเธอตามลำพังกลางดึกแบบนี้ ทัยมองตามเขานิ่งๆแต่ใจเต้นแรงด้วยความหวั่นไหวเพราะไม่เคยสัมผัสความห่วงใยจากผู้ชายคนไหนนอกจากพ่อแท้ๆกับป้างหนุ่มแว้นเพื่อนสนิท
เสียงฟ้าร้องดังอย่างต่อเนื่อง ทัยหรือฤทัยโถมตัวกอดวีกิจ ทั้งเป็นแผนยั่วยวนและหัวใจเรียกร้อง วีกิจสงสารและเห็นใจแต่สำนึกผิดชอบชั่วดีทำให้ตัดใจผละตัวออก พาเธอไปส่งถึงเตียง ปิดหน้าต่าง ปิดม่านในห้องพร้อมบอกว่าจะไปเรียกบัวสาวใช้มานอนเป็นเพื่อน
แต่ที่วีกิจคิดไม่ถึงคือมุนินทร์ก็สะดุ้งตื่นเพราะเสียงฟ้าร้อง และออกจากห้องทันเห็นฉากเด็ดตอนเขาพยุงทัยไปนอนที่เตียง กระนั้นความไว้ใจก็ทำให้เธอปัดความสงสัยทิ้งแม้จะทำได้ยากเต็มที...
ภาพวีกิจประคองทัยเข้าห้องนอนหลอกหลอนมุนินทร์จนนอนไม่หลับ คาใจมากเพราะจนแล้วจนรอดเขาก็ไม่เล่าเรื่องเข้าไปในห้องนอนของทัย แต่เพราะอยากให้เกียรติเขาในฐานะสามีเลยไม่อยากซักไซ้ ได้แต่จับสังเกตอาการสามีกับเด็กสาวในอุปการะไปเรื่อยๆ
กระนั้นความระแวงก็ทำให้มุนินทร์อดใจไม่ไหวแกล้งถามเรื่องเมื่อคืนกลางโต๊ะอาหารเช้าวันต่อมา
“แล้ว...ทัยกลับเข้าไปนอนอีกครั้ง คราวนี้ไม่กลัวเหรอ”
ทัยหรือฤทัยมีสีหน้าอึกอัก วีกิจไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ตัดสินใจตอบแทน
“ทัยบอกว่ามีคนซ่อนอยู่ผมเลยเข้าไปตรวจในห้อง...ไม่มีอะไรหรอก แค่ทัยกลัวความมืดน่ะ ผมเลยเปิดไฟให้ ปิดม่านด้วยจะได้บังแสงฟ้าแลบ พอเรียบร้อยถึงออกมาเรียกทัยเข้าไปนอนใหม่แล้วก็ตามบัวมานอนเป็นเพื่อน”
สร้อยคำนั่งฟังอยู่ด้วยโล่งใจที่ทัยไม่เป็นอะไรมาก ต่างจากมุนินทร์ที่ตัวชาเพราะวีกิจโกหกไม่ยอมเล่าเรื่องเข้าห้องนอนของทัย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากนอกจากหันไปคุยกับเด็กสาวในอุปการะ
“อาการเหมือนทัยกลัวตอนอยู่ที่โรงพยาบาล”
“ค่ะ...พอคุณกิจเข้าไปตรวจในห้อง ไม่มีใครซ่อนอยู่หนูถึงกล้ากลับไปนอน”
คำตอบของทัยทำให้มุนินทร์ชะงัก ใจเสียกว่าเดิมเพราะไม่ใช่แค่วีกิจที่โกหก...ทัยก็เช่นกัน
ooooooo
มุนินทร์ต้องข่มใจไม่ให้คิดมากหรือระแวงเรื่องวีกิจกับทัย กระทั่งถึงวันนัดหมายที่นพนภาจะมากินข้าวที่บ้าน วีกิจไม่ได้มีท่าทีผิดปกติ ทัยก็เช่นกัน กระนั้นลูกศรกับปราโมทย์ซึ่งมาร่วมงานด้วยก็สำเหนียก ได้ถึงบรรยากาศแปลกๆ รวมถึงท่าทางของทัยที่เหมือนมุตตาอย่างน่าเหลือเชื่อ
มุนินทร์อดใจไม่ไหวระบายกับลูกศรเรื่องวีกิจโกหก แต่ก็ไม่ซักไซ้หรือฉีกหน้าเขาเพราะไม่อยากทะเลาะให้เสียบรรยากาศ ลูกศรสงสารและเห็นใจเพื่อนรักแต่ไม่ทันปลอบนพนภาก็ปรากฏตัวพร้อมศรุต
ต่อหงุดหงิดอยู่แล้วเพราะก้องแฟนหนุ่มไม่มาด้วย เมื่อเห็นแม่ควงมากับศรุตในมาดใหม่เป็นสาวนักซิ่งมอเตอร์ไซค์ก็พาลหัวเสีย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากฮึดฮัดกับต้องพี่สาวคนโต
บรรยากาศงานเลี้ยงเต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ไม่มีใครสำเหนียกคลื่นใต้น้ำที่ก่อตัวอย่างช้าๆ นพนภาก็ไม่ได้ติดใจสงสัยท่าทางเหมือนไม่ประสาของทัย ชื่นชมด้วยซ้ำที่อีกฝ่ายมีความเป็นแม่ศรีเรือน
ทัยหรือตัวจริงคือฤทัยย่ามใจที่ตบตาทุกคนได้ หาจังหวะจะคุยกับวีกิจตามลำพัง
“คุณกิจคะ...วันนี้หนูแต่งตัวแบบนี้คุณกิจว่ายังไงบ้าง”
“ก็...สวยดี นินเขาพาเธอไปซื้อชุดใหม่แล้วนี่”
“ค่ะ...แต่กระโปรงนี่ยังคล้ายของพี่มุตตาอยู่นะคะแต่ไม่ใช่ตัววันนั้น...วันที่คุณ...ดุหนู”
ท่าทางเหมือนรู้สึกผิดจริงๆของทัยทำให้วีกิจใจอ่อน ส่งยิ้มบางๆให้ ทัยลำพองใจแกล้งพูด
“หนูชอบกระโปรงสวยๆแบบนี้ พี่นินก็เลยซื้อให้”
“ถ้านินเขาโอเคฉันก็ไม่ว่าอะไรหรอก”
“หนูกลัวคุณดุหนูอีก”
“ฉันดุแต่ฉันไม่โกรธอะไรเธอ...ไม่ต้องกลัว”
วีกิจยอมพูดดีด้วยเพราะคิดว่าทัยคงรู้สึกผิดจริงๆ ที่ใส่กระโปรงของมุตตา และทัยหรือตัวจริงคือฤทัยก็จับจุดนี้ได้ หาเรื่องคุยกับเขาต่อตามลำพังเพื่อเรียกร้องความสงสารและเห็นใจ
“คืนวันนั้นที่หนูกลัวฟ้าฝน ทำให้คุณต้องตื่นมาช่วยหนู คงไม่ทำให้คุณรำคาญจนไม่อยากให้หนูอยู่ที่นี่นะคะ หนูกลัวคุณเกลียดแล้วไล่หนูไป หนูอยากอยู่ที่นี่รับใช้คุณกับพี่นิน คุณใจดีกับหนู อย่าส่งหนูไปอยู่ที่อื่นเลยนะคะ”
ฤทัยแสร้งส่งสายตาอ้อนวอนจนวีกิจใจแข็งต่อไม่ไหว ตอบรับเสียงอ่อน
“ไม่ต้องกลัว...ฉันไม่ส่งเธอไปอยู่ที่อื่นหรอก เราจะดูแลเธอจนกว่าเธอจะหายดี”
“แล้วถ้าหนู...ไม่หาย ยังจำอะไรไม่ได้ คุณจะทิ้งหนูไหม”
“ไม่หรอก...ฉันจะดูแลเธอนะ”
“คุณกิจสัญญานะคะ”
วีกิจอึ้ง แววตาทัยแปลกๆแต่ไม่อยากคิดมากจึงยอมรับปาก “สัญญาสิ”
ooooooo
วีกิจคาใจท่าทางแปลกๆของทัยแต่พยายามไม่คิดมาก พร่ำบอกตัวเองว่ายอมสัญญากับเธอเพราะมนุษยธรรมและเพื่อความสบายใจของมุนินทร์ ไม่รู้เลยว่าภาพและบทสนทนาแบบสองต่อสองของเขากับทัยมีใครบางคนแอบเห็น!
ลูกศรนั่นเองที่หลบมาโทรศัพท์และเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง อดรนทนไม่ไหวต้องรีบไปบอกมุนินทร์ มุนินทร์ตัวชาเพราะกลัวสามีจะหวั่นไหวกับเด็กสาวเรียบร้อยอย่างทัย แต่ไม่ทันสะระตะก็ต้องเพิ่มความคลางแคลงใจในตัวเด็กสาวที่ตนอุปการะเมื่อเธอกับลูกศรดันแอบได้ยินทัยเรียกตัวเองว่าฤทัย
ความระแวงสงสัยทำให้มุนินทร์ตัดสินใจทดสอบ ประกาศต่อหน้าแขกทุกคนให้ทัยแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการ โดยมีศรุตช่วยสนับสนุนเพราะคิดว่าการพูดต่อหน้าคนเยอะๆจะช่วยฟื้นความจำ
อ่านละคร แรงเงา 2 ตอนที่ 7 วันที่ 19 พ.ค.62
ละครเรื่อง แรงเงา 2 บทประพันธ์โดย นันทนา วีระชนละครเรื่อง แรงเงา 2 บทโทรทัศน์โดย Anonymous
ละครเรื่อง แรงเงา 2 กำกับการแสดงโดย ชนินทร ประเสริฐประศาสน์
ละครเรื่อง แรงเงา 2 ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่อง แรงเงา 2 ควบคุมการผลิตโดย อรุโณชา ภาณุพันธุ์
ที่มา ไทยรัฐ