อ่านละคร เพลิงพรางเทียน ตอนที่ 8 วันที่ 29 พ.ค.62

อ่านละคร เพลิงพรางเทียน ตอนที่ 8 วันที่ 29 พ.ค.62

แต่กลินท์ก็ถูกอุ่นเฮือนว่าเป็นคนผิด เพราะผู้หญิงที่ไม่ได้ตบแต่งไม่มีใครยอมรับว่าเป็นเมีย นอกจากนางบำเรอ ด่าเทียนคำว่า “เอ็งแค่คนใจง่ายมอบกายให้ท่านเชยชม แล้วเอ็งจะมาพูดหาพระแสงอะไร”

อุ่นเฮือนกับกลินท์โต้เถียงกันเสียงดังจนคำป้อออกมาดู อุทานตกใจว่า เทียนคำยังไม่ตาย ที่แตงสาว่าเอ็งถูกผีหักคอก็ไม่จริง กลินท์บอกว่าผีไม่ได้หักคอตนแต่คนหน้าเนื้อใจเสือต่างหากที่ตัดขั้วหัวใจตน ประกาศว่า

“ฉันกลับมาคราวนี้สนุกกันทั้งคุ้มแน่”



ทั้งอุ่นเฮือนและคำป้อตกใจ แปลกใจ กับท่าทีที่เปลี่ยนเป็นคนละคนของเทียนคำ

“ใช่...ฉันไม่ใช่เทียนคำ ฉันคือกลินท์คนที่จะมาแก้แค้นเจ้าน้อยเทวาฤทธิ์กับนังวงเดือน” กลินท์กร้าว

ไพคาแจ้นไปฟ้องเจ้าวงเดือนแต่เช้าว่าเทียนคำยังไม่ตายจริงๆ ชาวบ้านพูดกันว่ามันกลับมาอีกแล้ว เราจะทำยังไงดี เจ้าวงเดือนบอกว่าไม่ต้องทำอะไร ไพคากังวลว่าเทียนคำกลับมาเที่ยวนี้มันดุเป็นหมาบ้าขึ้นทุกวัน

“จะดุแค่ไหน ลองมันมายุ่งกับผัวข้าอีก มันได้ตายซ้ำสองแน่!” เจ้าวงเดือนนิ่งจนน่ากลัว

เจ้าน้อยออกมาที่ระเบียงเห็นกลินท์ทำทีเก็บ

ดอกกาสะลองก็ดีใจรีบลงไปหาถามว่าหายไปไหนมาตนคิดถึง กลินท์ปดว่าตนไปเยี่ยมอุ๊ยบัวจันทร์แม่ของคำป้อที่นอกเมืองมา เอาดอกกาสะลองทัดหูยั่วยวนให้มาดมเล่นหูเล่นตาจนเจ้าน้อยร้อนรุ่มเสน่หา กลินท์ล่อเจ้าน้อยให้ไปยังเป้าหมายที่รออยู่

ออกไปเจอหลุยส์กับกลุ่มมิชชันนารีเดินเข้ามา หลุยส์ตื่นเต้นดีใจที่ได้เจอกลินท์อีก แต่น้อยคำเข้ามาบอกว่า “เจ้าพ่อเชิญหมอฝรั่งด้านใน” หลุยส์ให้มิชชันนารีเข้าไปก่อนเดี๋ยวตนตามไป

ooooooo

กลินท์วางแผนยั่วยวนสิงห์ปั่นหัวเจ้าน้อยจนทั้งสองหึงหวงกลินท์กัน ส่วนแตงสาเห็นกลินท์ก็ผวาว่าเป็นผีเทียนคำ ร้องกลัวแล้ว...กลัวแล้ว หลุยส์

ยืนมองเหตุการณ์ระหว่างกลินท์กับแตงสาอย่างงุนงง แต่ถูกเพื่อนมิชชันนารีมาฉุดมือเข้าไป หลุยส์จึงจำต้องเข้าไปทั้งที่ยังมองเทียนคำกับแตงสาอย่างติดใจอยู่

กลินท์พยายามบอกแตงสาว่าตนเป็นคน ไม่ใช่ผี แต่แตงสาที่บ้าบอไปแล้วร้องแต่ว่าผีๆ เทียนคำเป็นผี

กลินท์มองแตงสาอย่างเวทนาที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่แต่ต้องถูกกลุ่มเจ้าวงเดือนทำมนตร์ร้ายใส่จนบ้าบอไป

“แตงสา ฉันล่ะเวทนาจริงๆ แต่ฉันเชื่อว่าสักวันคนเลวๆจะได้รับผลกรรมอย่างสาสม”

ไพคามาเอาข้าวที่ยุ้งได้ยินกลินท์พูดก็แจ้นไปฟ้องเจ้าวงเดือน ยุรีบให้สิงห์จัดการเสียไม่อย่างนั้นกลัวว่ามันจะไปบอกเจ้าน้อยเรื่องที่เรา...

“ต่อให้มันไปบอกเจ้าน้อย...ข้าก็ไม่กลัว คนที่ข้ากลัวคือเจ้าพ่อต่างหาก เพราะถ้าเจ้าพ่อเวียงสวรรค์รู้ เรื่องต้องไปถึงหูเจ้าพ่อของข้าแน่”

“งั้นเจ้ารีบบอกให้ไอ้สิงห์จัดการอีเทียนคำเถอะเจ้าค่ะ ก่อนที่ไอ้สิงห์มันจะหลงเสน่ห์อีเทียนคำ”

กลินท์ในคราบของเทียนคำ หว่านเสน่ห์สิงห์เต็มที่ นอกจากเอาข้าวนึ่งกับจิ้นไปให้สิงห์ที่ซ้อมดาบอยู่แล้วยังเอาดอกกาสะลองไปให้ช่อหนึ่งบอกว่าเอาไว้ดมตอนพี่สิงห์หมดแรง

สิงห์มองช่อกาสะลองอย่างหลงใหล เจ้าวงเดือนมาเห็นถามว่าใครให้มา ทำเหมือนไม่เคยเห็นดอกกาสะลองอย่างนั้นแหละ พอสิงห์บอกว่าเทียนคำให้ เจ้าวงเดือนถามว่า

“เอ็งกับอีเทียนคำเป็นอะไรกันแน่ไอ้สิงห์” สิงห์ตอบอย่างมีพิรุธว่าไม่มีอะไร เจ้าวงเดือนคาดคั้นว่าแน่ใจนะ สิงห์ตอบไม่เต็มเสียงว่าแน่ใจ เจ้าวงเดือนเปลี่ยนเป็นถามว่า “แล้วอีเทียนคำมันเป็นผีหรือคนกันแน่”

“คนเจ้า...แต่มันเปลี่ยนไปเหมือนเป็นอีกคน”

“ถ้ามันเป็นคน มันก็เป็นคนเดิมนั่นแหละ คงไม่ต้องบอกนะว่าเอ็งควรจัดการกับมันยังไง” สิงห์ขอรอดูมันอีกสักพัก “รอให้มันมามีอะไรกับเจ้าน้อยบนหัวข้าอีกเหรอ?”

“จริงๆแล้วเทียนคำมันอาจจะไม่ได้สนใจเจ้าน้อยก็ได้นะ”

“แต่สนใจเอ็ง?” เจ้าวงเดือนดักคอ สิงห์อึกอัก “ดี งั้นถ้าเอ็งทำงานสำเร็จ ข้าจะยกมันให้เอ็ง”

สิงห์ถามว่างานอะไร เจ้าวงเดือนบอกว่าวันนั้นเทียนคำสาดน้ำใส่ ตนยังไม่ได้เอาคืน คืนนี้ตนกับไพคาจะบุกไปจับมันที่เรือน ให้สิงห์ไปช่วยด้วย สิงห์ถามว่าจะให้ช่วยอย่างไร

“จับมันมา...ข้าจะตบมันเอง หรือไม่ ก็เอามีดกรีดหน้ามันเสียหน่อย เอ็งอย่าลืมนะไอ้สิงห์ มาเจอข้าที่คุ้มคืนนี้” สั่งแล้วเจ้าวงเดือนเดินไปเลย สิงห์นิ่งพึมพำอย่างลำบากใจ

“เทียนคำมันไม่สนใจเจ้าน้อยแล้ว...เจ้าวงเดือนจะไปยุ่งอะไรกับมันอีกวะ?”

คำป้อกับอุ่นเฮือนเห็นเทียนคำกลับมาเป็นคนเดิมแล้วก็ดีใจ แต่คำป้อเกรงเทียนคำจะไม่ปลอดภัย

เพราะแตงสาเล่าว่าเทียนคำถูกฆ่า ถึงไม่บอกว่าใครฆ่าแต่คิดว่าคงเป็นคำสั่งของคนในคุ้ม

อุ่นเฮือนถามเทียนคำว่าแล้วคืนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกับเอ็ง เทียนคำบอกว่าตนถูกฆ่าจริงๆ

“แต่ฉันหนีมาได้ แม่กับพี่อุ่นเฮือนไม่ต้องห่วง ต่อไปนี้พวกมันทำอะไรฉันไม่ได้แน่ และฉันจะเอาคืนให้สาสมที่สุด”

“เทียนคำ...เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร ถ้าเอ็งดับความโกรธแค้นได้คนที่มีความสุขไม่ใช่คนอื่นแต่เป็นเอ็ง รู้ไหม?”

“รู้แม่ แต่ฉันทำไม่ได้...แล้วก็ไม่คิดจะทำด้วย”

“อ้าว อีนี่”

กลินท์ไม่สนใจฉวยกระบุงเดินออกไป คำป้อกับอุ่นเฮือนมองตามทั้งกังวลและเป็นห่วง

“ถ้าข้าโดนอย่างเทียนคำ ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน

นะแม่ ว่าจะให้อภัยได้ไหม ถึงกับจะฆ่าแกงกัน เป็นแม่ แม่ปล่อยวางได้รึเปล่า?”

“ได้สิ เพราะถ้าข้าปล่อยวางไม่ได้ เจ้าช่อเอื้องคงได้ตายด้วยมือของข้า ตั้งแต่วันที่เจ้าแม่ไม่ให้เทียนคำมันรำแก้บนที่หน้าพระธาตุจนทำให้พ่อหนานแก้ว

ของเอ็งต้องตายนั่นแหละ เกิดเป็นคนต้องเอาชนะใจตัวเองให้ได้ เอ็งเข้าใจที่แม่พูดไหม อุ่นเฮือน?”

อุ่นเฮือนพยักหน้าอย่างคล้อยตามแม่

ooooooo

คืนนี้ ไพคายกสำรับไปให้เจ้าน้อยบอกว่า

เจ้าวงเดือนให้เอามาให้ เจ้าน้อยขอบใจทำเป็นหยิบอาหารในสำรับแต่ตาชำเลืองมองกลินท์ที่ถือกระบุงจะไปตักน้ำที่บ่อน้ำใหญ่จนเดินลับสายตาไป

เจ้าน้อยหงุดหงิดที่ไพคาไม่ไปสักที บอกให้ไป ก็อ้างว่าไปไม่ได้เพราะเจ้าวงเดือนให้อยู่ดูแลเจ้าน้อย

เจ้าน้อยบอกว่าตนดูแลตัวเองได้ไล่ให้ไปเสีย

ไม่อย่างนั้นจะยกสำรับนี้สาดหน้า ไพคาจึงรีบลุกไป ส่วนเจ้าน้อยก็รีบลงบันไดไปทันที ไพคาเห็นก็รีบตาม

กลินท์ถือกระบุงเดินไปช้าๆ เพราะรู้ว่าเจ้าน้อยตามมาอย่างอยากรู้ว่าทำไมเทียนคำจึงมาตักน้ำในเวลาดึกดื่น กลินท์ยิ้มสะใจ นึกรู้ว่าต่อจากนี้...สนุกแน่!

กลินท์เดินไปเจอสิงห์ที่บ่อน้ำใหญ่ถามว่ามาได้ยังไง สิงห์ไปช่วยตักน้ำบอกน้ำเสียงจริงจังว่า

“สองยามเจ้าวงเดือนจะบุกไปหาเอ็งนะ” กลินท์ถามว่าทำไมต้องสองยามทำไมไม่มาจับตอนนี้เลย สิงห์ว่า “คงจะเกรงๆเจ้าพ่อเวียงสวรรค์น่ะ”

“ถือว่าบุญข้ายังมี ที่ข้ายังมีเจ้าพ่อเวียงสวรรค์คุ้มหัว แต่ข้าไม่เข้าใจจริงๆนะพี่สิงห์ ทำไมเจ้าวงเดือนถึงตามจองล้างจองผลาญข้า ในเมื่อข้าก็ยอมแพ้ ข้าไม่ได้ไปยุ่งเกี่ยวกับเจ้าน้อยอีก พี่ก็รู้”

“เจ้าวงเดือนก็คงหึงหวงผัวของท่าน”

กลินท์บอกว่าตนเข้าใจ ตนกลัวจริงๆ กลัวจะถูกทำร้ายอีก

“ถ้าเอ็งเลิกยุ่งกับเจ้าน้อยจริงๆ เอ็งก็ไม่ต้องกลัวหรอก ข้าว่าอีกไม่นาน เจ้าวงเดือนท่านก็จะเข้าใจ”

กลินท์เห็นเจ้าน้อยเดินมาก็ยิ่งปั่นหัวสองหนุ่ม ทำเป็นหว่านเสน่ห์จับแขนสิงห์บอกเสียงหวาน

“ข้าขอบคุณพี่สิงห์ที่เข้าใจข้า ข้าไม่รู้จะตอบแทนพี่สิงห์ยังไงที่มีน้ำใจออกมาปกป้องข้าเช่นนี้” กลินท์โน้มคอสิงห์เข้าใกล้ยั่วเต็มที่ เจ้าน้อยทนไม่ไหวตวาดลั่น

“พวกเอ็งสองคนทำอะไรกันน่ะ”

เจ้าน้อยเข้ากระชากสิงห์ไปชกหน้าโครม สิงห์ไม่ทันระวังตัวล้มลง กลินท์ถามเจ้าน้อยว่าทำอะไร ชกพี่สิงห์ทำไม เจ้าน้อยบอกว่าก็เห็นอยู่ว่ามันกำลังล่วงเกินเจ้า ถามว่า

“หรือพอไม่มีข้าก็อยากมีผัวใหม่ ถึงขั้นต้องมามีอะไรกันที่นี่”

“เจ้าน้อยเข้าใจผิด”

“เห็นตำตาแบบนี้ไม่ผิดหรอก”

กลินท์โต้ว่ามันไม่ใช่อย่างที่เจ้าน้อยคิด เจ้าน้อยกระชากกลินท์เข้าไปด้วยความหึงหวง กลินท์ตะโกนให้ปล่อย ทั้งสองยื้อยุดกันจนสิงห์ทนไม่ไหวบอกกลินท์ว่า

“บอกเจ้าน้อยไปสิเทียนคำ ว่าเอ็งคิดยังไงกับข้าตอนนี้ เจ้าน้อยจะได้ปล่อยเอ็ง”

“เจ้าคิดอะไรเทียนคำ” เจ้าน้อยถามเมื่อเห็นกลินท์ทำไม่รู้ไม่ชี้

“เทียนคำมันไม่ได้รักเจ้าน้อยน่ะสิ” สิงห์โพล่งออกไป “ยิ่งกว่านั้น เทียนคำมันยังกลัวเจ้าที่ใช้กำลังรังแกมัน”

เจ้าน้อยถามกลินท์ว่าที่ไอ้สิงห์มันพูดจริงหรือ กลินท์ตอบทันทีว่าจริง เจ้าน้อยยิ่งโมโหตวาดแล้วบีบแขนกลินท์อย่างแรง

“ปล่อยข้า เลิกทำกับข้าอย่างนี้เสียที เลิกเห็นข้าเป็นทาสเสียที” กลินท์บีบน้ำตา สะบัดหลุดวิ่งหนีไปแต่แอบมองว่าเจ้าน้อยตามมาหรือไม่ เจ้าน้อยตะโกนเรียก สิงห์จะตามถูกเจ้าน้อยหันมาชี้หน้า

“หยุดอยู่ตรงนั้นเลยไอ้สิงห์ เรื่องของผัวๆเมียๆ มึงไม่ต้องเสือก!”

คำว่าเรื่องของผัวเมียทำให้สิงห์ชะงักงัน

เจ้าวงเดือนนั่งร้องไห้อย่างน่าสงสาร ในขณะที่เจ้าช่อเอื้องหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธขณะฟังไพคาเล่าอย่างเมามัน

“กลางค่ำกลางคืนใครจะไปตักน้ำ นอกจากอีเทียนคำ มันตั้งใจจะยั่วเจ้าน้อย ข้าเห็นกับตาเลยนะเจ้าคะเจ้าแม่ มันส่งสายตาให้ท่าเจ้าน้อยชัดๆเจ้าค่ะ”

เจ้าช่อเอื้องด่าเทียนคำอีหน้าด้าน ส่วนเจ้าวงเดือนก็เอาแต่น้ำตาไหลพรากๆ บอกว่าตนไม่รู้จะทำยังไง

ถึงจะไม่ให้เจ้าน้อยไปยุ่งกับมัน

“โทษเจ้าน้อยไม่ได้หรอก เจ้าน้อยเป็นผู้ชาย มีผู้หญิงให้ท่าก็ต้องเผลอไผลเป็นเรื่องธรรมดา แต่

อีเทียนคำนี่สิที่มันมักใหญ่ใฝ่สูง ตีตนเสมอนาย”

เจ้าวงเดือนยังเอาแต่ร้องไห้น่าสงสาร จนเจ้าช่อเอื้องหมั่นไส้

“คนอ่อนแออย่างเจ้าจัดการอีเทียนคำไม่ได้หรอก เอาเป็นว่าข้าจะจัดการมันเอง อีเทียนคำมันช่างหาเรื่องให้ข้าไม่ได้หยุดได้หย่อน อีสารเลว” เจ้าช่อเอื้องเดินไปบ่นไปอย่างหงุดหงิด

เจ้าวงเดือนกับไพคาแอบหันมายิ้มให้กัน แล้วเดินตามเจ้าช่อเอื้องไป มุ่งไปด้านล่างที่ไพคาบอกว่าเจ้าน้อยตามเทียนคำไป

ooooooo

กลินท์รู้ว่าเจ้าน้อยตามมาก็เร่งฝีเท้าย้อนกลับไปที่คุ้ม เจ้าน้อยคว้ากลินท์ไว้สั่งให้หยุด กลินท์ถามว่ามายุ่งอะไรกับตน เจ้าน้อยอ้างว่าตนเป็นผัว กลินท์ในร่างเทียนคำสวนทันควันว่าตนไม่ใช่เมีย

เจ้าวงเดือนต่างหากที่เป็นชายาของเจ้าน้อย

 ขณะยื้อยุดโต้เถียงกัน เจ้าช่อเอื้องมาเห็นพอดี ตวาด

 “หยุดนะเจ้าน้อย!” พอเจ้าน้อยผละออก เจ้าช่อเอื้องก็หันเล่นงานกลินท์ “ข้านึกแล้วอีเทียนคำ สันดานเอ็งยังไงก็จะเอาลูกข้าเป็นผัวให้ได้...เอ็งนี่ช่างไม่รู้จักเข็ดจักหลาบ อีไพคา เอาไม้มา!”

 ไพคาคว้าไม้คานยื่นให้ทันที เจ้าช่อเอื้องรับไม้คานฟาดและด่ากลินท์ไม่ยั้ง เจ้าน้อยขอให้เจ้าแม่หยุด

ทำให้เจ้าช่อเอื้องยิ่งโกรธทั้งด่าและฟาดกลินท์จะเอา

ให้ตาย กลินท์จับไม้คานไว้ เจ้าช่อเอื้องให้ไพคามาช่วย ไพคาถลามาช่วยยื้อไม้คาน พริบตานั้นกลินท์ปล่อยไม้คานทำให้ทั้งสองล้มหงายไม่เป็นท่า

 เจ้าช่อเอื้องยิ่งโกรธลุกขึ้นมาได้ก็โผนใส่กลินท์จะเอาให้ตาย กลินท์ตะโกนสุดเสียง

 “เจ้าเวียงสวรรค์ช่วยข้าด้วย ทุกคนในคุ้มนี้กำลังจะฆ่าฉัน เจ้าเวียงสวรรค์ช่วยด้วย...ช่วยด้วยเจ้าค่ะ”

 เจ้าช่อเอื้องกับพวกตกใจ ไม่คิดว่ากลินท์จะกล้าเรียกเจ้าเวียงสวรรค์ให้ช่วย

 เจ้าเวียงสวรรค์ได้ยินเสียงร้องบอกของกลินท์ลุกมา เจ้าช่อเอื้องตวาดจะตบให้เทียนคำหุบปาก กลินท์ไม่ยอมโต้ว่าตบมาก็ตบไป ใครกล้าก็เข้ามา ประกาศลั่นว่า

 “ถ้าฉันเป็นอะไรไป เจ้าเวียงสวรรค์จะได้มีอันเป็นไปเหมือนอย่างพ่อหนานแก้ว!”

เจ้าเวียงสวรรค์ตกใจกลัวมากรีบลุกไปดู เห็น

เจ้าช่อเอื้องกับไพคากำลังรุมกลินท์ แม้เจ้าน้อยจะร้องบอกให้พอ หยุด! แต่ไม่ได้ผล เจ้าเวียงสวรรค์เดินเข้ามาตวาด

“หยุด!”

กลินท์เห็นเจ้าเวียงสวรรค์ก็วิ่งไปซ่อนข้างหลังฟ้องว่าตนถูกเจ้าช่อเอื้องกับเจ้าวงเดือนรุมทำร้าย เจ้าเวียงสวรรค์มองชายาอย่างตำหนิ ถามว่า

“ข้าเคยขอท่านแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่าไปทำร้ายมัน ทำไมไม่เชื่อฟังกันบ้าง”

เจ้าช่อเอื้องตะแบงว่าไม่ได้ทำร้ายแต่อบรมสั่งสอน มันนั่นแหละทำร้ายตน พอกลินท์เถียงก็บอกเจ้าเวียงสวรรค์อย่าไปฟังมัน

“หยุดได้แล้ว! ข้าเคยบอกแล้วว่าอย่ายุ่งกับเทียนคำอีก ทำไมท่านถึงได้ไปวุ่นวายกับมันนัก ไปเทียนคำ

กลับเรือนไปเสีย แล้วจำไว้ ถ้าใครมาทำร้ายเอ็งอีกให้มาบอกข้า และถ้าเอ็งตาย มันผู้นั้นก็ต้องตายเหมือนกัน”

เจ้าช่อเอื้องไม่พอใจถามว่าทำไมเราถึงลงโทษเทียนคำไม่ได้ เจ้าเวียงสวรรค์นิ่งไปก่อนตัดสินใจตอบว่า

“เพราะข้าเคยสาบานกับหนานแก้วไว้ก่อนตาย ห้ามใครทำร้ายสามแม่ลูกนั้นเป็นอันขาด หากข้าผิดคำสาบาน ข้านี่แหละจะต้องตายตามหนานแก้ว...หรือเจ้าอยากให้ข้าตาย เจ้าช่อเอื้อง”

เจ้าช่อเอื้องหน้าซีดเผือด กลินท์ยิ้มเยาะอย่างสะใจ

ooooooo

สายป่านบ่นกับเน่าและเบนที่บ้านเบน ด่ากลินท์ว่างี่เง่าไม่สนใจเลยว่าเราเป็นห่วง

เบนบอกว่าลินท์ไม่ได้งี่เง่า เราเองต่างหากที่งี่เง่า ที่ผ่านมาเราได้ยินสิ่งที่ลินท์บอกเล่าแต่เราไม่คิดจะฟัง แต่คืนนั้นตนเห็นลินท์หายไปกับตาจริงๆ ลินท์ผ่านประตูแสนปุงไปแล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย

เน่าเอะใจว่าหรือลินท์มีอะไรเกี่ยวข้องกับประตูเชียงใหม่พวกนี้ ตั้งแต่ประตูท่าแพ...ที่กลินท์นั่งบนเสลี่ยงตัวแข็งเหมือนไม่มีสติก่อนล้มลงในงานบูชาขุนเม็งราย กลินท์บอกว่าตัวเองคือเทียนคำ เทียนคำถูกฆ่าตายที่นี่

เน่าพูดจริงจังว่า “ฉันว่าลินท์ต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกับเชียงใหม่ในอดีตจริงๆว่ะ” แล้วค้นหาข้อมูลในคอมฯจริงจัง

รุ่งขึ้นอุ่นเฮือนได้ฟังกลินท์เล่าเรื่องที่เกิดขึ้น

เมื่อคืนก็ถามว่าเอ็งไปหาเรื่องพวกเขาหรือเปล่า กลินท์เล่าอย่างสะใจว่าคนทางโน้นหาเรื่องทำร้ายตนก่อน แต่คราวนี้เจ้าเวียงสวรรค์ออกโรงห้ามทัพเอง แล้วถามหาแม่ว่าตั้งแต่เช้ายังไม่เห็นเลย อุ่นเฮือนบอกว่าแม่ไม่ค่อยสบาย เห็นว่าหนาวสงสัยจะเป็นไข้ กลินท์เป็นห่วง

รีบเข้าไปหา

กลินท์ในร่างเทียนคำไปหาคำป้อบอกว่าเป็นห่วงเพราะที่ผ่านมาตนทำไม่ดีกับแม่ไว้มาก คำป้อเตือนเรื่องเจ้าน้อยว่าเอ็งต้องทำใจให้ได้ไม่อย่างนั้นจะทุกข์หนักมากกว่านี้ แม่ห่วงแม่คงอยู่ไม่นาน เพราะฝันเห็น

พ่อเอ็งบ่อยๆ เพราะฉะนั้นจะทำอะไรก็ให้คิดดีๆ

ฝ่ายแม่ชีธารทองที่นั่งสมาธิอยู่ก็ส่งกระแสจิต

“ขอให้บุญบารมีที่แม่บำเพ็ญเพียรมา ช่วยลูกให้พ้นวิบากกรรมโดยเร็วเถิดนะเทียนคำ”

สายป่าน เบน และเน่า ไปหาพ่อน้ำทิพย์ เจอคนทรงซึ่งเป็นหญิงชราใจดีที่พวกเบนเรียกว่าแม่อุ๊ย

แม่อุ๊ยรู้ว่าทั้งสามมาตามหาผู้หญิงคนนั้น บอกว่า

“ทุกสิ่งทุกอย่างมันมีจังหวะ มีเวลาของมัน ผู้หญิงคนนั้นเขากลับไปยังที่ที่เขาเคยอยู่ จิตเขาเคยสั่งให้เขาหนี แต่เมื่อถึงเวลาเขาก็จะกลับไปแก้แค้น” แม่อุ๊ยบอกว่าเมื่อก่อนเขาถูกฆ่าอย่างทรมาน ตอนนี้จิตเขา

ยังวนเวียนอยู่กับการแก้แค้น ถ้าจิตเขาปล่อยวางความแค้นได้ เขาก็จะกลับมาเอง ตอนนี้ก็ได้แต่ต้องทำบุญให้เขามากๆ ตั้งจิตอธิษฐานให้เขาปล่อยวาง

ความแค้นได้เร็ว เขาก็จะกลับมาทำเรื่องที่ยังค้างอยู่

คือความรักที่ไม่ใช่ของตัวเองกลับคืนให้เจ้าของเขาไป แม่อุ๊ยมองทั้งสามบอกย้ำว่า

“พวกเจ้าเคยร่วมกินร่วมตายด้วยกันมา ก็ควรจะช่วยผู้หญิงคนนั้นต่อไป”

กลินท์วางแผนแก้แค้นทีละคน อ่อยให้ท่าสิงห์แล้วฟ้องเจ้าน้อยว่ากลัวเจ้าช่อเอื้องกับเจ้าวงเดือนจะยกตนให้สิงห์เหลือเกิน ซ้ำบอกว่าสิงห์เคยบอกว่าถ้าตน

ไม่ยอมมันก็จะใช้กำลัง อ้อนวอนเจ้านายให้ช่วยตนด้วย

เป่าหูจนเจ้าน้อยหึงแล้วกลินท์ก็ออดอ้อนสิงห์ที่ปกป้องตนคืนนั้นและยั่วยุว่าเจ้าน้อยก็จะเอาตนเป็นเมียอีกคน ทอดสายตายั่วยวนแล้วจะผละไป สิงห์เคลิ้ม

คว้ามือไว้ แต่พอกลินท์ทำจริตวิ่งหนีสิงห์เพ้อวิ่งตาม

เจ้าน้อยที่แอบดูอยู่คว้าไม้ฟาดสิงห์จนล้ม ตะคอกว่าคิดจะแย่งเมียตนหรือ! แล้วหวดสิงห์ไม่ยั้ง ไพคาเห็นก็จ้ำอ้าวไปฟ้องเจ้าวงเดือนว่า “เจ้าน้อยกับสิงห์กำลังต่อยตีแย่งอีเทียนคำกัน”

เจ้าวงเดือนไปถึงตวาดให้สิงห์หยุด ทำให้เจ้าน้อยได้โอกาสคว้าไม้หวดสิงห์จนทรุด บอกเจ้าวงเดือนว่าสิงห์หลงเทียนคำจนทำร้ายตน เช่นนี้อีกไม่นานมันก็ทำร้ายเจ้าเช่นกัน บอกเจ้าวงเดือนว่าตนอยู่กับสิงห์ไม่ได้แล้วให้เจ้าตัดสินใจเองว่าจะทำยังไงกับคนของท่าน

เจ้าวงเดือนให้สิงห์กลับไปอยู่กับเจ้าพ่อที่เชียงจัน ตนให้อยู่ที่นี่ไม่ได้แล้วเพราะคิดจะทำร้ายเจ้าน้อยก็คือทำร้ายตนนั่นเอง

“หมดไปหนึ่ง ที่เหลือฉันจะตีพวกแกให้กระเจิงทั้งคุ้มเลย คนเลว” กลินท์พึมพำสะใจ...

อ่านละคร เพลิงพรางเทียน ตอนที่ 8 วันที่ 29 พ.ค.62

ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน บทประพันธ์โดย หัสวีร์
ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน บทโทรทัศน์โดย ปานตะวัน
ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน กำกับการแสดงโดย วรวิทย์ ศรีสุภาพ
ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน ผลิตโดย บริษัท กู้ด ฟีลลิ่ง จำกัด
ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน ควบคุมการผลิตโดย สมจริง ศรีสุภาพ
ที่มา ไทยรัฐ