อ่านละคร เพลิงพรางเทียน ตอนที่ 6 วันที่ 23 พ.ค.62

อ่านละคร เพลิงพรางเทียน ตอนที่ 6 วันที่ 23 พ.ค.62

“แม่คิดว่าข้าจะห้ามมันได้เหรอ ตั้งแต่แตงสามันพูดว่าเทียนคำมันตายแล้ว เทียนคำมันก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย” คำป้อยืนยันว่าเทียนคำไม่ใช่ผี แต่ทำไมมันเปลี่ยนไปขนาดนี้ แต่ก็ไม่อยากพูดถึง กำชับอุ่นเฮือนว่ายังไงก็ต้องช่วยแม่ดูแลน้องอย่าให้มันไปยุ่งกับเจ้านายเป็นอันขาด

กลินท์เดินมาเห็นแม่คุยกับอุ่นเฮือน ถามว่ามีอะไรให้ตนช่วยไหม

“เคยทำอะไรเอ็งก็ทำแบบนั้นล่ะเทียนคำ แต่ไม่ต้องทำให้คนที่เรือนใหญ่แล้ว” กลินท์งงๆ คำป้อบอกว่า



“หลังจากพ่อหนานแก้วของเอ็งตาย เจ้าพ่อเวียงสวรรค์ท่านก็ให้เราหากินกันเอง ห้ามไปยุ่งกับเรือนใหญ่เด็ดขาด แม่กับอุ่นเฮือนก็ปลูกฝ้าย ทอผ้าไปแลกกับข้าวของ”

กลินท์ถามว่าเขาเกลียดเราหรือ คำป้อบอกว่าไม่ได้เกลียด อุ่นเฮือนบอกแม่ว่าไหนๆมันก็ถามแล้วบอกมันไปเถอะ แล้วบอกกลินท์ว่า ข้อแรกที่ท่านไม่ให้เราไปยุ่งกับเรือนใหญ่เพราะมีบ่าวเยอะ ไหนจะบ่าวเดิม ไหนจะบ่าวของเจ้าวงเดือนอีก กลินท์ถามว่าเจ้าวงเดือนที่เป็นคู่หมั้นเจ้าน้อยหรือ

อุ่นเฮือนบอกว่าเจ้าวงเดือนเป็นชายาของเจ้าน้อย ท่านแต่งงานเป็นคู่ครองกันเมื่อเดือนยี่เป็งที่ผ่านมา

“พี่ติ๊กับอินทร์” กลินท์พึมพำ คำป้อปลอบใจว่า

“อย่าคิดมากเลยเทียนคำ ข้าบอกเอ็งแล้ว เจ้าน้อยท่านเป็นนาย แต่เราเป็นแค่บ่าว ท่านอยู่สูง เราอยู่ต่ำ ยังไงก็ไม่มีทางที่จะมารักกันได้หรอก”

“ฉันกับเจ้าน้อยรักกัน” กลินท์ทวนคำ ยิ่งสงสัย อุ่นเฮือนชี้แจงว่า “เจ้าน้อยจะรักเอ็งหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่เอ็งน่ะรักเจ้าน้อยแน่ๆ รักจนยอมตายถวายชีวิตให้ได้ จำได้ไหม”

กลินท์นิ่งอึ้งไปทันทีถามตัวเองว่า “นี่เรารักอินทร์ตั้งแต่ชาตินี้เลยเหรอ??”

ooooooo

ปติมารู้จากแพมว่าอินทร์ไปเชียงใหม่เพราะเห็นแชร์กันว่อนในเน็ตว่ากลินท์ไปอยู่ที่นั่นแถมยังไปอยู่กับเบนด้วย ลมเพชรหึงเลยพาอินทร์ลอยไปเชียงใหม่ทันที

ปติมาพึมพำเครียดว่า สรุปแล้วกลินท์แกล้งพูดให้ตนตายใจ?

“คนตอแหลพอจนตรอกก็ชอบสาบาน นี่ถามจริง เธอเชื่อมันเหรอ พอจับได้มันก็บอกเลิกแล้ว ไม่ยุ่งแล้วแต่สุดท้ายฉันก็เห็นมันกลับไปฟาดผัวเธอตลอด ถ้าทนไม่ไหว...เลิกเหอะติ๊”

ปติมาเสียงเข้มว่าไม่เลิก ตนจะเอาคืนกลินท์ให้เจ็บที่สุด แพมถามว่าแล้วอินทร์ล่ะ? เพราะถ้ามีคนเสนอไม่มีคนสนองมันก็จบ เธอจ้องแต่จะจัดการนังกลินท์แต่ปล่อยให้อินทร์ลอยตัว ยังไงเรื่องก็ไม่จบหรอก

ดุษฎีบอกปติมาว่าถ้าไม่อยากจัดการก็ปล่อยไป เพราะชีวิตคู่ถ้าใส่ใจกันไม่มากพอก็อย่าโทษมือที่สาม

ปติมาตัดพ้อว่าคุณแม่พูดเหมือนอยากให้อินทร์มีเมียใหม่

“ถึงไม่อยากแล้วฉันห้ามอินทร์ได้ไหมล่ะ ขนาดเธอนอนเตียงเดียวกันทุกวันยังห้ามไม่ได้เลย แล้วฉันจะไปห้ามได้ยังไง”

ปติมาคิดไม่ตก เล่าให้แพมฟัง แพมถามว่า

“นี่ไม่ใช่แค่ผัว ตกลงแม่ผัวเขาก็ไม่ชอบเธอใช่ไหมเนี่ย? ถึงได้จิกกัดเธอขนาดนี้”

“ฉันก็ยังงงอยู่เหมือนกัน ก็เคยดีๆกันอยู่ จู่ๆทำไมคุณแม่พูดอย่างนี้กับฉัน หรือว่าโกรธที่ฉันไม่ให้อินทร์มีนังกลินท์ หรือฉันทำอะไรให้ไม่พอใจ”

“เธอดีกับเขาฝ่ายเดียวหรือเปล่า จริงๆเขาอาจไม่เคยชอบเธอเลยก็ได้...ฉันว่าทุกคนก็เคยเจอกันมาหมดแหละ คนเคยดีต่อกัน พออีกวันก็เปลี่ยนไปโดยไม่มีสาเหตุ หรือมีสาเหตุแต่ไม่บอกเรา เพราะฉะนั้นสิ่งที่เธอต้องทำคือทำใจ”

“ก็จริง...แต่ยังไงฉันก็ต้องรู้ให้ได้ว่าฉันทำอะไรให้คุณแม่ไม่พอใจ” ปติมาทั้งเครียดและงง

ooooooo

ที่คุ้มเวียงสวรรค์ เจ้าช่อเอื้องเห็นเจ้าวงเดือนนั่งอยู่กับไพคา ถามว่าเจ้าน้อยล่ะ? เจ้าวงเดือนบอกว่าไปเดินเล่น เจ้าช่อเอื้องถามว่าทำไมเจ้าวงเดือนไม่ไปกับเจ้าน้อย

“ข้าไม่อยากกวนใจเจ้าน้อยเจ้าค่ะ”

“กวนใจอะไร เจ้าเป็นเมีย เจ้ามีสิทธิ์ ขืนปล่อยปละ ละเลย ทำเป็นไม่สนใจ ผัวมันจะไปหาเมียน้อยได้ เจ้าก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าอีเทียนคำมันสลิดนัก เล่นหูเล่นตาให้เจ้าน้อยอยู่ตลอดเวลา”

“เจ้าค่ะ”

“รู้แล้วทำไมยังปล่อยเจ้าน้อย”

“ข้าไม่กล้า”

“เจ้าต้องกล้า ไม่งั้นผัวเจ้าจะไปเป็นผัวคนอื่นแน่ๆ เชื่อแม่”

เจ้าช่อเอื้องสีหน้าไม่พอใจก่อนเดินผละไป

ooooooo

ความอยากรู้อยากเห็นอยากได้คำตอบ กลินท์แอบเข้าไปในบ้านของเจ้าเวียงสวรรค์ เจอเจ้าน้อยเข้าอย่างจังเลยบอกว่าเพิ่งกลับมา กลับมาก็ตั้งใจมาหาเจ้าน้อยเลย เจ้าน้อยกอดกลินท์ ระดมจูบเมามัน

เจ้าวงเดือนเข้ามาพร้อมไพคาถามว่าเจ้าน้อยคุยกับใคร เจ้าน้อยบอกว่ากับลมกับฟ้าไปเรื่อยแหละ กลินท์ถอนหายใจแล้วเดินเลี่ยงไปจากตรงนั้น

ฝ่ายอินทร์ก็สร้างภาพ ข่าว ลงไอจีว่ากลินท์อยู่กับตน พวกเบนอ่านแล้วเชื่อว่าคืนนั้นกลินท์หลอกว่าผ่านประตูไปสู่อดีต ที่แท้หลบไปอยู่กับอินทร์ สายป่านถึงกับด่าตัวเองว่าบ้าที่เชื่อว่ากลินท์ข้ามมิติไปได้จริงๆ กระทั่งว่า “ถ้าลินหลอกพวกเราจริงๆ ฉันว่าเกินเยียวยาแล้วล่ะ” ส่วนเบนก็หวังว่ากลินท์ไม่ทำร้ายตัวเองขนาดนั้น ได้แต่คิดห่วงและเศร้า

ส่วนกลินท์นอนอยู่กับอุ่นเฮือนก็กรีดร้องตกใจกับฝันร้าย บอกอุ่นเฮือนว่าพ่อคงห่วงพวกเรามาก อุ่นเฮือนบอกว่าใช่พ่อห่วงพวกเราถ้าวันนั้นเจ้าแม่ให้เอ็งรำแก้บนพ่อคงไม่จากพวกเราไป อุ่นเฮือนพูดถึงเรื่องอดีตว่าเทียนคำปกป้องเจ้าน้อย โกหกเพื่อหาความดีให้เจ้าน้อย ทั้งที่ทุกคนห้ามไปยุ่งกับเจ้าน้อยเพราะรู้ว่าเจ้าน้อยไม่ได้รักเอ็งจริง อุ่นเฮือนบอกว่าอย่างนี้เองเอ็งถึงมีคนตามเข่นตามฆ่า ถามว่าเอ็งทำตัวเองรู้หรือเปล่าเทียนคำ

“อีแตงสามันพูดน่ะไม่ผิดหรอก เอ็งถูกตามฆ่าจนสติฟั่นเฟือน พอได้แล้วนะเทียนคำ หยุดได้แล้ว อย่าได้ทำเรื่องอะไรที่มันเลวร้ายไปกว่านี้เลย” กลินท์ถามว่าแล้วคนที่ทำกับตนล่ะ จะให้ตนรับกรรมคนเดียวหรือ

อุ่นเฮือนถามว่าพูดเพ้อเจ้ออะไรอีก “ฉันจะบอกพี่ว่า ถ้าฉันผิดจริง ฉันจะยอมรับผิด แต่ถ้าไม่...ใครที่มันทำกับฉัน ฉันจะเอาคืนให้สาสม!”

เจ้าน้อยทักเทียนคำว่าดูแปลกตาไป เห็นเทียนคำใส่ปิ่นปักผมที่ตนให้ไว้ก็ดีใจ กลินท์บอกว่าเพราะตนรักเจ้าน้อยยิ่งชีวิต ขอเจ้าน้อยอย่าทำให้ตนเสียใจ

“ข้าไม่มีวันทำให้เจ้าเสียใจ จำไม่ได้รึ เจ้าเป็นเมียของข้า เป็นก่อนเจ้าวงเดือนเสียอีก เทียนคำยอดรัก... เมียของข้า”

ขณะเจ้าน้อยกำลังตกอยู่ในภวังค์หลงเทียนคำนั้น อีกมุมหนึ่งไพคาที่แอบดูอยู่ก็ตาโต ผละไปฟ้องเจ้าวงเดือนแต่บังเอิญเจ้าช่อเอื้องมาได้ยิน ถึงกับคำราม “อีเทียนคำ เอ็งบังอาจนัก!”

เจ้าน้อยลุ่มหลงความงามของเทียนคำ นัดคืนนี้ให้ออกมาเจอกันที่ใต้ต้นกาสะลองข้างบ้าน กอดกลินท์อ้อนว่าคืนนี้ตนจะทบทวนความหลังให้เมียสักหน่อย

เจ้าน้อยออดอ้อนโดยหารู้ไม่ว่าหายนะกำลังมาเยือน

“อีเทียนคำ” เจ้าช่อเอื้องตวาดลั่น เจ้าน้อยผละออกจากกลินท์ทันที เจ้าวงเดือนทำเป็นถามว่าไพคาบอกว่าเอ็งกลับมาแล้ว เจ้าน้อยบอกเจ้าช่อเอื้องว่าเทียนคำกลับมาแล้วปลอดภัยดีแต่พูดจาท่าทีแปลกตาไปหน่อย

เจ้าช่อเอื้องด่าอีกชุดใหญ่แล้วบอกเจ้าน้อยว่าเจ้าพ่อรออยู่ที่ห้องหนังสือมีเรื่องจะถาม พอเจ้าน้อยไป ทั้งไพคาและช่อเอื้องก็รุมกันเล่นงานกลินท์ว่าอย่าทำให้เจ้าวงเดือนต้องเจ็บปวดด้วยการคิดจะมาเป็นเมียน้อยเจ้าน้อยอีกคน กลินท์ย้อนถามว่าคนที่มาก่อนเรียกว่าเป็นเมียน้อยหรือ คนที่มาทีหลังต่างหากที่เป็นเมียน้อย

กลินท์โต้เถียงกับเจ้าช่อเอื้องแบบตาต่อตาฟันต่อฟันจนเจ้าช่อเอื้องเถียงไม่ทันด่าอีผีบ้าพูดอะไรของมัน ทั้งสามคนรุมกันด่าจนกลินท์บอกว่าตนอาจไม่ใช่เทียนคำก็ได้ แต่เป็นผีที่จะมาหักคอคนที่มาขวางเทียนคำไม่ให้ฟ้อนพระธาตุครั้งนั้น เจ้าวงเดือนบอกเจ้าช่อเอื้องว่า เทียนคำคงไม่สบายให้ไปพักก่อนเถอะ

“จะเอาไงก็เอา ตกลงกันได้เมื่อไหร่แล้วค่อยไปเรียกฉันแล้วกันนะจ๊ะ” กลินท์ยิ้มกวนประสาท ถูกเจ้าช่อเอื้องด่าอีผีบ้าก็ยิ่งหัวเราะสะใจ

พอกลับบ้านก็ถูกคำป้อตำหนิว่าไปต่อปากต่อคำกับเจ้าแม่อีกแล้ว กลินท์เซ็งที่ตนถูกตัดสินว่าเป็นฝ่ายผิดอีก คำป้อปรามว่าเมื่อรู้ว่าตัวผิดก็กลับตัวใหม่เสียอย่าสร้างเรื่องสร้างปัญหาอะไรขึ้นมาอีกเข้าใจไหม

กลินท์รับไม่ได้ที่เทียนคำถูกด่าถูกรังแกสารพัด กลับมายังถูกแม่กับพี่ตัวเองเกลียดอีก นี่มันอะไรกัน? คำป้อบอกว่าก็เพราะเราเป็นขี้ข้าไง อุ่นเฮือนตัดบทให้เทียนคำไปต้มน้ำอาบเสียจะได้นอนสบาย

“ทุกคนให้แต่ฉันหยุด ไม่มีใครคิดจะบอกอะไรฉันเลย เพราะเจียมตัวว่าเป็นขี้ข้า เทียนคำ ฉันรู้ว่าเธออยู่ที่นี่ ถ้าเราคือดวงจิตดวงเดียวกัน เธออยากให้ฉันช่วย เธอต้องทำให้ฉันรู้ทุกอย่างนะ ได้ยินไหมเทียนคำ”

กลินท์ที่ได้รู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดบอก ทันใดนั้น ท้องฟ้าก็เกิดแสงสว่างวาบขึ้น กลินท์ร้องลั่นแล้วหมดสติไป พอฟื้นขึ้นมาเป็นดวงจิตอีกดวงลุกขึ้นมามองตัวเอง พลันท้องฟ้าที่มืดเมื่อครู่ก็กลายเป็นกลางวัน กลินท์เห็นอุ่นเฮือนกับเทียนคำถือตะกร้าจูงมือกันออกไป จึงรีบตามไป

สองพี่น้องไปถึงตลาดเจอเจ้าวงเดือนด่าว่าแย่งผัวตน เจ้าวงเดือนถึงกับตบตีเทียนคำกลางตลาดและไพคาก็เอาน้ำล้างเท้าสาดใส่ เจ้าวงเดือนด่าว่าถ้าอยากได้ผัวตนให้มากราบตีนแล้วจะยอมให้ใช้ผัวร่วมกัน เทียนคำค่อยๆคลานเข้าไปกราบเท้าเจ้าวงเดือน เอ่ยน้ำตานองว่าตนยอมทุกอย่าง ขอแต่ให้ตนกับเจ้าน้อยได้รักกัน ก็ถูกเจ้าวงเดือนใช้ปลายเท้างัดเข้าปลายคางจนร่างเทียนคำกระเด็นไปฟุบกับพื้นแล้วด่าไม่ซ้ำคำ

ทันใดนั้นหลุยส์เข้ามาขอให้เจ้านางหยุดเถอะ เจ้าวงเดือนจำต้องหยุด หลุยส์จึงพาเทียนคำออกไป

พอเทียนคำกลับถึงบ้าน เจ้าวงเดือนกับสิงห์ก็ตามไปจับและรุมกันตบจนคำป้ออ้อนวอนให้พอเถอะ แค่นี้เทียนคำมันก็กลายเป็นผีบ้าไปแล้ว พวกเจ้าวงเดือนกลัวผีสั่งให้สิงห์ปล่อย กลินท์แค้นวิ่งเข้าไปเอาน้ำที่ต้มเดือดนานแล้ววิ่งมาสาดใส่พวกเจ้าวงเดือนจนร้องลั่น

“ไอ้สิงห์จับมันไว้ เอ็งเอาน้ำร้อนสาดข้า ข้าจะจับเอ็งเผาไฟอีเทียนคำ!”

คำป้อกับอุ่นเฮือนตะโกนให้เทียนคำรีบหนีเร็ว กลินท์เห็นพวกสิงห์กรูกันเข้ามาก็โกยแน่บ วิ่งไปชนหลุยส์จนตัวเองล้มลง กลินท์ยื่นมือไปจับหลุยส์ เขาพาวิ่งฝ่าฝูงชนออกไปอย่างเร็ว แล้วพาวิ่งลัดเลาะไปตามแนวป่าอย่างคุ้นทาง กลินท์วิ่งตามไปทั้งงงและอุ่นใจ นาทีนี้กลินท์ไม่นึกกลัวอะไรเลย

ooooooo

สิงห์กับพวกวิ่งตามพลางตะโกนเรียกเทียนคำ ไพคาวิ่งออกมาถามว่าอีเทียนคำอยู่ไหน สิงห์บอกว่าวิ่งๆมามันก็หายไปเสียเฉยๆ ไพคาถลกผ้าถุงถีบด่า

“ไอ้จ๊าดง่าว”

สิงห์ไม่ทันระวังล้มคะมำไปแล้วรีบลุกขึ้น ไพคาหยุดไม่ทันเลยชนกันล้มคะมำไปด้วยกัน ไพคาตะคอกว่าหยุดทำไมวะ สิงห์บอกว่าหยุดจะเตะก้านคอเอ็งนี่แหละ ไพคาผวาไปแอบหลังเจ้าวงเดือน เจ้าวงเดือนขู่จะส่งสิงห์กลับเชียงจัน

สิงห์เสียงอ่อยว่าตนไม่ได้เหิมเกริมแต่ถ้าโดนผู้หญิงถลกผ้าซิ่นถีบอย่างนี้กลัวเวทมนตร์ตนจะเสื่อมหมด เจ้าก็รู้ตั้งแต่ ‘วันนั้น’ ตนใช้พลังเวทมนตร์ไปมากจน...

สิงห์พูดไม่ทันจบก็ถูกเจ้าวงเดือนตวาด “หุบปากเดี๋ยวนี้! ประเดี๋ยวเถอะเอ็ง!”

“ข้าจงรักภักดีต่อเจ้าเสมอ...ภักดีจนกระทั่ง...ยอม...”

“ไอ้สิงห์! ข้าบอกให้เอ็งหยุดเดี๋ยวนี้” สิ้นเสียง เจ้าวงเดือนก็ตบผัวะ “หุบปาก! แล้วรีบไปหาอีเทียนคำมาให้ข้า ถ้าไม่เจอเอ็งไม่ต้องกลับมาให้ข้าเห็นหน้าอีก” ตวาดสั่งแล้วสะบัดหน้าเดินกลับไปเลย

“พวกมึง หาอีเทียนคำให้เจอ” สิงห์สั่งลูกน้องแล้วช่วยกันออกตามหาเทียนคำ

หลุยส์จูงมือกลินท์วิ่งลัดเลาะมายังช้างที่อยู่กับควาญ หลุยส์มองไปรอบๆบอกกลินท์ว่าเธอน่าจะปลอดภัยแล้ว มองมือตัวเองที่จับมือกลินท์เขินๆ ขอโทษแล้วพูดกลบเกลื่อนว่าเจอกันทีไรเธอต้องหนีทุกที กลินท์บอกว่าตนก็ไม่รู้ว่าต้องหนีอีกนานแค่ไหน ก็คงจนกว่าจะเอาคืน ขอบคุณหลุยส์อีกครั้งที่ช่วยตน ถามว่าแล้วเขาจะไปไหน หลุยส์บอกว่ากลับบ้าน กลินท์หน้าเศร้าบอกว่าตอนนี้ตนคงกลับบ้านไม่ได้ หลุยส์จึงชวนไปพักที่บ้านตนก่อนพรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่ กลินท์ถามว่าเราต้องขึ้นช้างใช่ไหม ขอให้ช่วยพาตนไปด้วยก่อนที่จะมีคนมาตามเอาตัวไปต้มยำทำแกง

หลุยส์ยื่นมือไปจับมือกลินท์เอ่ยขอโทษอย่างสุภาพ กลินท์ตอบเขินๆว่า “ด้วยความเต็มใจค่ะ”

ฝ่ายสิงห์ตามหากลินท์ไม่เจอบ่นกับลูกน้องว่า “ถ้าตามมันไม่เจอ ซวยแน่ๆ”

จริงอย่างสิงห์ว่า กลับไปก็ถูกเจ้าวงเดือนด่าว่า บอกแล้วว่าถ้าหาตัวอีเทียนคำไม่เจอไม่ต้องกลับมา แล้วมาทำไมอีก หยิบของใกล้มือเขวี้ยงใส่หน้าสิงห์อย่างจัง สิงห์ว่าต้องมีคนมาช่วยมันแน่ๆ หรือจะเป็นหมอฝรั่ง ตนถึงหาไม่เจอ บอกไพคาว่าจำไม่ได้หรือว่าทุกครั้งที่มีเรื่องหมอฝรั่งจะมาป้วนเปี้ยนแถวอีเทียนคำตลอด

ไพคาเอะใจว่าหรือหมอฝรั่งจะชอบเทียนคำ

เจ้าวงเดือนทนไม่ได้ตวาดถาม

“ใจคอผู้ชายทุกคนจะรักนังสลิ๊ดด๊กเทียนคำหมดคุ้มเลยเหรอ ไอ้สิงห์ เอ็งรีบไปตามตัวอีเทียนคำที่เฮือนย่าแสงคำมาเดี๋ยวนี้!”

“จะดีหรือครับเจ้า เฮือนย่าแสงคำมาไม่ใช่มีแต่หมอฝรั่ง แต่พ่อครูหลวงท่านก็อยู่ที่นั่น”

ไพคาติงว่าเดี๋ยวเรื่องจะถึงหูเจ้าพ่อเวียงสวรรค์ เจ้าวงเดือนยืนยันต้องไปเอาตัวเทียนคำมาให้ได้ ถ้าไม่ได้พวกเอ็งเจอดีแน่ ไพคาโมโหก่นด่า “อีเทียนคำ มึงนี่ทำความเดือดร้อนให้กับทุกคนจริงๆ”

ooooooo

หลุยส์พากลินท์ไปพักที่เฮือนย่าแสงคำมา ที่นั่นกลินท์เห็นรูปเจ้าหลวงกาวิโลรสเจ้าหลวงผู้ครอง เชียงใหม่ รู้จากหลุยส์ว่าพ่อครูหลวงเป็นผู้เผยแผ่คริสต์ศาสนามาที่นี่ คนเชียงใหม่เรียกศาสนาจารย์ เดเนียลว่าเป็นพ่อครู ส่วนตนท่านเปรียบเหมือนพ่อแท้ๆ

กลินท์มองไปรอบๆอย่างรู้สึกอบอุ่น เอ่ยกับหลุยส์ว่า

“ที่นี่สมกับชื่อเฮือนย่าแสงคำมาจริงๆ เพียงแค่เข้ามาฉันก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น ขอบคุณมากนะคะหลุยส์ ขอบคุณที่อยู่เคียงข้างฉันตลอดมา”

หลุยส์บอกให้นอนเสียพรุ่งนี้จะพาไปเที่ยวตลาดเช้าหน้าวัดพระสิงห์ กลินท์ขอบคุณ บอกว่าตนจะจดจำเรื่องราวที่นี่ไว้ทุกอย่างโดยเฉพาะคุณ “หลุยส์”

หลุยส์ยิ้มเขินหลบตากลินท์...

คืนนี้ปติมามานอนที่โรงแรม ปติมานอนไม่หลับมือถือโทรศัพท์ดูไอจีปริศนาที่อินทร์สร้างขึ้น บ่นกับแพมว่าตนไม่รู้จะทำอย่างไรกับมันแล้ว

“ง่ายๆ รออินทร์เบื่อ ผู้ชายพอเบื่อเมียน้อยก็จะใช้มือเมียหลวงนี่แหละกำจัดเมียน้อยออกไปจากชีวิตอย่างเนียนๆ ยิ่งเธออาละวาดอินทร์ยิ่งเข้าทางกลินท์ เห็นว่าสองสามวันนี้จะหนาว ไปที่ระเบียงไหม”

แพมกอดปติมาพาไปที่ระเบียงแต่พอปติมาออกไปเห็นวิวเชียงใหม่ที่ดูสว่างไสวสวยงามก็หน้าไม่ดี แพมที่ยืนดูวิวดวงตาหวานฉ่ำค่อยๆเอื้อมมือมาโอบปติมา

ปติมาบ่นว่ารู้สึกร้อน ยิ่งเห็นแสงไฟส่องสว่างรอบเมืองก็ยิ่งรู้สึกร้อนเหมือนถูกไฟเผายังไงไม่รู้ แพมจึงชวนเข้าห้อง บอกอย่าคิดมาก

“ไม่ให้คิดได้ยังไง ฉันน่าสมเพชแค่ไหน เชียงใหม่ก็บ้านแม่ผัว ตอนนี้ผัวฉันก็อยู่แต่ฉันต้องระเห็จมาอยู่โรงแรม”

“เอาน่าใจเย็นๆ ฉันมั่นใจว่าเธอจะเอาชนะใจอินทร์ชนะใจแม่ผัวเธอได้ ไม่ต้องห่วง ยังไงฉันจะอยู่เคียงข้างเธอ ไป...ไปนอน” แพมกอดปติมาพาเข้าด้านใน

แพมกอดปติมาพาเข้านอน ปติมาซุกอกแพมหลับไป แพมมองปติมาทั้งรักและสงสาร คิดในใจ...“ถ้าฉันเป็นอินทร์...” แพมก้มจูบปติมาที่ซุกอยู่ในอกแผ่วเบา...

อินทร์นั่งดื่มอยู่ในบ้านคนเดียว มือกดโทรศัพท์โทร.หากลินท์แต่ไม่มีสัญญาณ เขาสงสัยว่าเธออยู่ไหน?

หลุยส์พากลินท์นั่งช้างออกชมตลาดแต่เช้ามืด เมื่อมาถึงวัดสิงห์ กลินท์มองอึ้งพึมพำ

“ที่นี่เหมือนที่เราฝันเลย...ฉันเคยฝันถึงที่นี่ ฉันฝันว่าถูกทำร้ายที่นี่ ทั้งถูกทำร้ายดูหมิ่นเหยียดหยามสารพัด แต่โชคดีที่ในฝันยังมีคุณมาช่วย”

หลุยส์บอกว่าเธอไม่ได้ฝัน กลินท์จึงลำดับเหตุการณ์อย่างจำได้ บอกหลุยส์ว่ารู้แล้วว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นจริง มีโอกาสเมื่อไหร่ตนเอาคืนพวกมันแน่ๆ

เจ้าวงเดือนให้ไพคาออกตามหาเทียนคำกับสิงห์ หลุยส์เห็นรีบกระตุกมือกลินท์ให้เดินเลี่ยงไป แต่กลินท์กลับยืนจ้องไพคากับสิงห์ที่เดินคุยกันมา

ไพคาเชื่อว่าเทียนคำต้องถูกผีเข้าแน่ๆ หรือไม่ก็เล่นของมนตร์ดำมามันถึงได้เปลี่ยนไปขนาดนี้ สิงห์ว่ามันอาจเป็นผี จู่ๆมันถึงได้โผล่มาที่นี่อีก

“เออ! ข้าเป็นผี กลับมาหนนี้จะมาหักคอเอ็งให้ตาย” กลินท์โพล่งขึ้น

ไพคาหันมาชี้หน้าด่า ถูกกลินท์ด่าสวนทุกคำ ไพคากระโจนเข้าจะเล่นงาน กลินท์วิ่งหนีอึดใจเดียวได้ยินเสียงแปลกๆ หันไปดูเห็นไพคาเหยียบขี้ช้างล้มคว่ำหน้าทิ่มลงกองขี้ช้าง หลุยส์เร่งกลินท์ให้รีบไป พอไพคากับสิงห์ปัดขี้ช้างออกมองหาอีกทีกลินท์ก็หายไปแล้ว

อ่านละคร เพลิงพรางเทียน ตอนที่ 6 วันที่ 23 พ.ค.62

ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน บทประพันธ์โดย หัสวีร์
ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน บทโทรทัศน์โดย ปานตะวัน
ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน กำกับการแสดงโดย วรวิทย์ ศรีสุภาพ
ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน ผลิตโดย บริษัท กู้ด ฟีลลิ่ง จำกัด
ละครเรื่อง เพลิงพรางเทียน ควบคุมการผลิตโดย สมจริง ศรีสุภาพ
ที่มา ไทยรัฐ