อ่านละคร แรงเงา 2 ตอนที่ 10 วันที่ 28 พ.ค.62

อ่านละคร แรงเงา 2 ตอนที่ 10 วันที่ 28 พ.ค.62

มุนินทร์สะเทือนใจมากที่สามีไม่เชื่อใจ ปมลึกๆที่อยู่ในใจมานานแผลงฤทธิ์อีกครั้ง ศรุตเป็นกังวลมากอยากให้มุนินทร์ปรับความเข้าใจกับสามีโดยเร็วที่สุด โดยเฉพาะเรื่องคลิปที่เป็นประเด็นสำคัญเวลานี้

“ไม่ค่ะ...อย่างที่บอก...ถ้าเขาไม่คิดจะพูดความจริงเราก็อยู่กันบนความหลอกลวงแบบนี้แหละ!”

ooooooo

อมรตัดสินใจกลับบ้านที่กรุงเทพฯคืนนั้นเองโดยปราศจากพงศกรคู่ขาหนุ่มอย่างเคย เนตรนภิศ



รอดูผลงานของตัวเองกับพวกรัชนกอยู่แล้วที่บ้าน ส่งเสียงทักเย้ยหยันทันทีที่เจอหน้า

“ทำไมกลับบ้านมาคนเดียวล่ะคะ ไม่พาคนรัก

กลับมาด้วย...หรือเพราะคนรักแอบไปเล่นชู้กับคนรักอีกคน”

“อ้อ...รู้นี่...ไอ้รูปที่ส่งมาให้ผมฝีมือไอ้ศักดิ์ชายใช่ไหม นายกรบอกผมหมดแล้ว”

“เราทำงานกันเป็นทีมค่ะ อีนังต่อมันก็ได้รับรูปไอ้ก้องผัวมันเหมือนกัน ดีนะคะ...ชาวเก้งอย่างคุณเล่นชู้แลกคู่กันเอง คราวนี้คู่เกย์ทั้งสองก็เลยหึงหวงกลางที่สาธารณะ ทั้งชกทั้งแลกหมัดซัดกันนัว...สนุกจะตาย”

เนตรนภิศสาแก่ใจมากที่เอาคืนสามีที่จงใจฉีกหน้าเธอด้วยการขอหย่าได้ อมรเจ็บใจมากแต่ต้องสะกดอารมณ์

“คุณมาก็ดีแล้ว...คงได้อ่านเอกสารที่ทนายส่งให้คุณแล้วนะ ถ้าคุณไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่ก็ไปเซ็นใบหย่ากันให้เรียบร้อย เราก็เป็นอิสระต่อกันเสียที”

“เสียใจค่ะ...ฉันไม่หย่า ถ้าจะหย่าสมบัติทุกชิ้นต้องเป็นของฉัน...ทั้งบ้านทั้งรถ เพื่อเป็นค่าชดเชยที่ฉันต้องทนทุกข์ที่โดนผัวหน้าตัวเมียหลอกมาตลอดชีวิตแต่งงาน”

“หยุดพูดแบบนี้นะ คุณก็หลอกให้ผมแต่งงานด้วย ไอ้ท้องหลอกๆของคุณน่ะ แล้วยังขู่จะฟ้องครอบครัวผมอีก”

“ตอนนั้นฉันไม่รู้นี่คะว่าแค่มอมเหล้าเกย์สักกรึ๊บสองกรึ๊บมันจะทำหน้าที่สามีให้ฉันได้ด้วย...บอกตามตรงคุณให้ความสุขฉันเสียจนฉันคิดไม่ถึงว่าคุณจะเป็น...

ชายชาตินักรบผู้ชำนาญ...กระบี่กระบอง”

อมรหัวเสียมากผลุนผลันขึ้นห้องเพราะไม่อยากทะเลาะกับภรรยา เนตรนภิศไม่ยอมตามราวีถึงห้อง แกล้งลูบไล้กล้ามเป็นมัดๆของสามีก่อนเอ่ยเสียงหวานปนยั่วยวน

“คุณอมรคะ...ที่จริงฉันให้อภัยคุณนะ เพราะถึงคุณจะมีเพศสภาพแบบนี้แต่คุณก็ให้ความสุขฉันได้...เราจะกลับมาอยู่กันแบบเดิมก็ยังได้นะ ขออย่างเดียว อย่าเอาไอ้กล้ามยักษ์นั่นเข้าบ้าน อยากกินกันเอง...โน่นไปกินข้างนอก อย่าให้ฉันรู้เห็นอย่างนี้ฉันรับได้ ขอแต่ยังเป็นสามีเชิดหน้าชูตาฉันอยู่”

คำขอของภรรยาทำให้อมรพะอืดพะอม ตอก

ไม่ไว้หน้า “ผมทำหน้าที่สามีไม่บกพร่องอยู่แล้วแต่กับคนที่ผมรักเท่านั้น สำหรับคุณ...บอกตามตรงแค่อยู่ใกล้ผมก็ขยะแขยงแล้ว”



เนตรนภิศโกรธมากแหวลั่น “ได้! ถ้าจะหย่าสมบัติทุกชิ้นในบ้านนี้ต้องเป็นของฉัน ไม่งั้นไม่หย่า”

“งั้นก็สู้กันในศาล”

“กล้าเหรอ...ฉันมีหลักฐานพร้อมนะจะทำให้แกกลายเป็นตุ๊ดเน่าๆหลอกผู้หญิงดีๆอย่างฉันมาแต่งงานด้วย”

อมรไม่กลัวโต้เสียงกร้าว “ผมก็มีหลักฐานเหมือนกันว่าชะนีเน่าๆอย่างคุณหลอกผู้ชายดีๆอย่างผมแต่งงาน แถมยังเอาหลักฐานปลอมมาหลอกว่าคุณท้อง”

“เฮ้อ...ไม่อยากทำอย่างนี้เลยนะ แต่เพื่อความไม่ยืดเยื้อ หลักฐานของฉันมันน่าจะยุติข้อพิพาทของเราได้”

จบคำเนตรนภิศก็เปิดคลิปอมรพลอดรักกับพงศกรในรีสอร์ตของศักดิ์ชายเมื่อหลายปีก่อน อมรโมโหมากเงื้อมือจะตบแต่เนตรนภิศไม่กลัวแถมขู่จะเอาคลิปสามีระเริงรักกับก้องแฟนหนุ่มของต่อไปประจาน

อมรชะงักมือ ทรุดตัวอย่างอ่อนแรง “อย่านะ...คุณอย่าเอากรกับคนอื่นมาเกี่ยวข้องด้วย”

“แหม...ห่วงไอ้กรมันจริงนะ ก็ถ้าคุณยังยืนยันจะหย่าภาพพวกนี้หลุดแน่นอน”

“ถ้าคุณปล่อยคลิปผมเอาเรื่องคุณแน่”

“คลิปไม่ได้เป็นของฉันค่ะคุณผัว มันหลุดจากที่ไหนก็ได้ในโลกนี้และตามรอยไม่เจอด้วย หรืออาจจะเจอแต่ตอนนั้นยอดกดไลค์ ยอดวิว ยอดแชร์ก็พุ่งไปเป็นล้านๆแล้วมั้ง เอ...คำโปรยจะเป็นอะไรนะ...หนุ่มผู้ดี

มาดแมนคลิปหลุด เผยธาตุแท้ตุ๊ดทั้งแท่งแสดงความรัก

ล้นปรี่กับคู่ขาหนุ่มแทบล้นหม้อถั่วดำ”

อมรเหลืออดตบหน้าภรรยาฉาดใหญ่ “แกต้องการเงินทอง บ้านนี้ใช่ไหม ได้...ฉันจะยกให้แกทั้งหมด!”

เนตรนภิศถูกตบหน้าชาแต่สะใจมาก ยิ้มยียวน “เรื่องสมบัติน่ะมันต้องเป็นของฉันอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ฉันต้องการมากกว่าคือพันธนาการของแก แกไม่มีวันเป็นอิสระตราบที่ฉันยังมีชีวิต แล้วแกก็ต้องจมอยู่ใน

กองทุกข์ไปจนวันตาย!”

อมรอึ้งมาก ทั้งแค้นทั้งเจ็บใจที่เสียท่า เนตรนภิศหัวเราะเยาะก่อนโบกมือ “ไปละค่ะ...รังเกียจจะนอน

ร่วมเตียงกับผัวเพศสภาพบกพร่อง พรุ่งนี้โอนเงินเข้าบัญชีสักล้านสองล้านนะจะเอาไปลงทุนในบ่อนนังนกเสียหน่อย”

ooooooo

วีกิจโกรธมุนินทร์มากหนีไปดื่มเหล้าย้อมใจจนเมามาย ก่อนตามตอแยภรรยาสาวให้อยู่ต่อด้วยกันเพื่อปรับความเข้าใจ มุนินทร์ไม่ยอมอยากกลับกรุงเทพฯแต่ศรุตไม่เห็นด้วยและเป็นคนปล่อยให้เธอไปกับวีกิจ

มุนินทร์หัวเสียมากดึงดันจะกลับเอง วีกิจที่เมาแอ๋ไม่ยอมประกาศเสียงห้วน

“ทำไมผมจะบังคับคุณไม่ได้ ผมบังคับได้

ในฐานะที่ผมเป็นสามีหรือเป็นผัวคุณ”

“คุณเมามากนะ”



“ก็ใช่...ผมเมา...เมาเพราะคุณไม่พูดความจริงกับผมแต่เลือกจะพูดกับผู้ชายอย่างนายศรุต แล้วยังแอบมาพบกันโดยที่ผมไม่รู้ไม่เห็น ทำไม...มันมีเสน่ห์นักรึไง หรือว่าวาทะมันทำให้คุณหลงใหลหรือเพราะความหล่อของมัน!”

“หยุดเลยคุณกิจ คุณเพ้อใหญ่แล้ว ฉันจะกลับเดี๋ยวนี้!”

“ถ้ากลับก็ต้องกลับกับผม”

“ไม่...ฉันจะกลับคนเดียว ถึงกรุงเทพฯฉันจะย้ายไปอยู่คอนโด เราควรแยกกันสักพักจนกว่าคุณจะรู้ใจตัวเอง”

“รู้ใจตัวเอง...คืออะไรนิน โอ๊ย...ผมตามคุณไม่ทันแล้ว ผู้หญิงอย่างคุณมันซับซ้อนเหลือเกิน”

คำพูดตัดพ้อของวีกิจทำให้มุนินทร์สะเทือนใจมาก ปมคิดเทียบตัวเองกับมุตตาย้อนมาในหัว โพล่งลั่นอย่างเหลืออดเรื่องเขาย้ายไปนอนบ้านสร้อยคำโดยไม่บอกเธอ แถมพลอดรักกับทัยอย่างไม่อายฟ้าดิน

“บอกมาสิ...คุณแกล้งทำเป็นโกรธฉันเพื่อไปค้างบ้านแม่ รอจังหวะให้ยัยเด็กทัยไปอยู่บ้านพอดี มันแนบเนียนมากจนฉันคิดไม่ถึง ไงคะ...คืนนั้น

ได้ปลุกปลอบโอ้โลมกันถึงสวรรค์ชั้นไหน”

วีกิจโกรธมาก เขย่าร่างภรรยาหัวสั่นหัวคลอน “หยุดพูด หยุดพูด คุณมันบ้าไปแล้ว!”

“ฉันไม่ได้บ้า...ทุกอย่างมันเป็นอย่างที่ฉันคิดมาตั้งแต่แรก เด็กทัยมันคล้ายเหลือเกิน ยิ่งวันนั้นที่คุณดุมันฉันเพิ่งเข้าใจวันนี้เองว่าคุณไม่เคยลืม”

มุนินทร์ร่ำไห้อย่างหมดสภาพ พรั่งพรูสิ่งที่ติดใจมานาน “คุณไม่เคยลืมมุตตา คุณยังรักมุตตาอยู่ แล้วยัยทัยมันก็ละม้ายมุตตาเหลือเกิน...เป็นเด็กสาว แสนซื่อถูกทำร้ายทั้งร่างกายทั้งจิตใจ สมควรที่ผู้ชายแสนดีอย่างคุณจะดูแลปกป้องเหมือนที่คุณดูแลตา

ตอนถูกคนทั้งกระทรวงทำร้าย”

“นิน...ไม่ใช่นะ คุณมโนไปใหญ่แล้ว”

“ไม่...ฉันไม่ได้มโน ทุกอย่างมันเป็นเรื่องจริง ฉันยังจำได้ ครั้งแรกที่เจอคุณ...คุณเทกแคร์ดูแลฉันอย่างดีเพราะคุณคิดว่าฉันคือตา ยิ่งคุณเจนภพเข้ามาหาฉันคุณก็รีบเข้ามาปกป้อง”

“ไม่จริงนิน เราเคลียร์เรื่องนี้กันไปหมดแล้ว”

“ไม่หรอกค่ะ...คุณแค่หลอกตัวเองว่าคุณรักผู้หญิงอย่างฉัน ยอมรับมาเถอะค่ะว่าคุณเอายัยทัยมาเป็นตัวแทนของมุตตาคนที่คุณไม่เคยลืม ส่วนฉันมุนินทร์เป็นแค่ร่างเงาที่คุณไม่เคยรักแม้แต่นิด”

วีกิจพูดไม่ออก จับต้นชนปลายไม่ถูก มุนินทร์ไม่ยี่หระจะผละไปแต่ไม่วายทิ้งท้าย

“นี่ไงคะที่ฉันเตือนคุณให้คุณรู้ใจตัวเองเสียก่อน แล้วเราค่อยมาตกลงว่าจะเอายังไงกับชีวิตแต่งงานของเราดี”

จบคำมุนินทร์ก็คว้ากระเป๋าจะกลับกรุงเทพฯ

วีกิจทนไม่ได้รั้งไว้และลงมือข่มขืนภรรยาตัวเอง!

ooooooo

ขณะที่มุนินทร์ตกสถานการณ์ลำบากโดนสามีตัวเองข่มขืน นพนภาช็อกสุดขีดเพราะถูกศรุตปฏิเสธรัก ศรุตไปกินมื้อค่ำกับนพนภาเพื่อตัดปัญหา ไม่อยากให้เธอคิดมากแต่กลับทำให้เรื่องไปกันใหญ่เพราะสาวใหญ่ดันสารภาพความในใจว่าหลงรักเขาเข้าอย่างจัง

ศรุตลำบากใจมากแต่ไม่ลังเลจะปฏิเสธเพราะรักอารยาภรรยาผู้ล่วงลับคนเดียว

“คุณศรุตไม่มีความรักให้ใครอีกแล้ว...หมายความว่ายังไง”

“ผมหมายความตามนั้นจริงๆ ความรักของผมเหลือเพียงแค่ความทรงจำกับภรรยาผมเท่านั้น”

ศรุตเข้าใจความรู้สึกนพนภาแต่เขาตอบรับความรู้สึกเธอไม่ได้จริงๆ นพนภาส่ายหน้าไม่ยอม

“แต่คุณต้องมีใครสักคนนะคะ จะช่วยให้คุณลืมอดีตที่เจ็บปวดของคุณได้บ้างและฉันยินดีจะเป็นคนนั้นค่ะ”

“ขอบคุณครับคุณนภา แต่อย่างที่บอก...ผมจบความรักของผมกับภรรยาไปแล้ว”

“แล้วที่คุณตามตื๊อฉัน เข้ามาแนะนำ เข้ามาแสนดีกับฉัน นั่นไม่ใช่ความรักหรอกเหรอคะ”

“ผมผิดเองที่ให้ความปรารถนาดีกับคุณเกินไปจนทำให้คุณเข้าใจผิด...ผมขอโทษ”

“ฉันไม่เชื่อ ที่คุณพูดแบบนี้เพราะคุณเกรงใจฉันต่างหาก...คุณเกรงใจเพราะฉันยังไม่หย่าจากคุณภพ ถ้าฉันหย่า คุณก็พร้อมจะรักฉันใช่ไหมคะ”

“คุณนภาครับ...ผมว่าผมเคลียร์ตัวเองกับคุณจนหมดข้อสงสัยแล้วนะครับ อย่าเข้าใจผมผิดอีกเลย”

“ฉันเข้าใจคุณถูกต่างหาก เมื่อฉันหย่าจากคุณภพฉันจะมาทวงถามความรักจากคุณอีกครั้งและฉันแน่ใจว่าคุณเตรียมคำตอบว่าผมรักคุณไว้ให้ฉันแน่ๆ”

นพนภาคิดเองเออเอง ศรุตอ่อนใจมากคร้านจะอธิบายเหตุผล แล้วก็เหมือนโชคช่วยเมื่อมีสายเข้าจากมุนินทร์ทำให้วิทยากรหนุ่มถือโอกาสปลีกตัวจากนพนภา

มุนินทร์สะอิดสะเอียนตัวเองยิ่งนัก เพราะแม้จะรักวีกิจแค่ไหนแต่เธอไม่เคยรับได้กับการใช้กำลังข่มขืนเหมือนที่เขาเคยทำกับเธอเมื่อหลายปีก่อน และครั้งนี้ก็ทำให้เธอเหลืออดตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากศรุตเพื่อกลับกรุงเทพฯ โดยไม่รู้เลยว่าการพบปะระหว่างเขากับเธอ...นพนภารู้เห็นทุกอย่าง!

ooooooo

วีกิจตื่นมาไม่เจอมุนินทร์ก็ตกใจมาก ก่อนความรู้สึกผิดจะถาโถมเพราะสำนึกได้ว่าตนทำร้ายใจเธออีกครั้งด้วยการใช้กำลังข่มขืน เขาไม่รอช้าตามไปง้อถึงกรุงเทพฯแต่มุนินทร์ไม่เปิดโอกาส ย้ายกลับคอนโด เปลี่ยนรหัสเข้าห้องและกำชับผู้จัดการคอนโดไม่ให้วีกิจเข้าพบเด็ดขาด!

ลูกศรกับปราโมทย์เห็นใจวีกิจมาก พยายามช่วยแต่ทำอะไรไม่ได้มากนอกจากขอให้วีกิจรอ ปล่อยให้มุนินทร์ได้สงบสติอารมณ์สักพัก เมื่อพร้อมคงออกมาให้เห็นเอง

มุนินทร์รู้ทุกอย่างว่าวีกิจแวะมาหาที่คอนโด แอบฟังจากในห้องด้วยความสะเทือนใจ ศรุตที่แวะมาให้คำปรึกษากับเธอถึงห้องมองมาด้วยความอ่อนใจ อยากแนะให้เคลียร์กันให้รู้เรื่องแต่ดูท่าจะยากเพราะมุนินทร์ยังโกรธและมีแนวโน้มจะใช้อารมณ์มากกว่าเหตุผลตัดสินเรื่องชีวิตคู่...

นพนภากลับกรุงเทพฯพร้อมกับศรุตแต่ไม่ได้นัดเจอเขาอีก มัวหมกมุ่นเรื่องมุนินทร์ที่ตนเห็นตำตาว่านัดเจอกับศรุตที่โรงแรมริมชายหาด นภางค์นิ่วหน้ารับฟังข้อสันนิษฐานแบบจับแพะชนแกะของลูกสาว

“แม่คะ...มุนินทร์ไปงานบริษัทที่ลอนดอนแล้วอยู่ดีๆก็กลับมาหาคุณศรุตอย่างลับๆ ใส่แว่นดำปิดหน้าปิดตา สวมฮู้ดไม่ให้ใครเห็นทั้งกลางวันกลางคืน แถมคุณศรุตยังช่วยปิดบังไม่ให้หนูรู้ด้วยว่านั่นคือมุนินทร์”

“งั้นต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากลแล้วล่ะ”

“แล้วนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หนูเห็นมุนินทร์อยู่กับคุณศรุตนะคะ”

เรื่องราวเมื่อหลายวันก่อนผุดในหัว วันที่นพนภาเห็นรถมุนินทร์แถวบ้านศรุต ไหนจะท่าทางพิรุธของวิทยากรหนุ่มตอนเธอไปหาหลังจากนั้น กระนั้นนภางค์ก็ยังไม่เชื่อว่ามุนินทร์จะมีแผนร้าย

“คิดในแง่ดีเขาก็คงเหมือนแกมั้ง คือไปปรึกษาปัญหาชีวิตแต่งงานกับพ่อศรุต เพราะก่อนไปลอนดอนก็ทะเลาะกับนายกิจเรื่องนังเด็กคนนั้นอยู่ไม่ใช่เหรอ”

“ใช่ค่ะแม่...แต่ถ้ามาปรึกษาปัญหาทำไมต้องโกหกหนูด้วยแถมยังตัดบทหนูทุกอย่างโดยเฉพาะตอนที่ ...เอ่อ...หนูสารภาพรักกับเขา”

นภางค์มองลูกสาวอย่างเอือมระอา “เฮ้อ...ฉันละอ่อนใจกับความอ่อนปัญญาของแกจริงๆ ไปสารภาพรักกับผู้ชายก่อนได้ยังไง...แก่จนป่านนี้”

นพนภาทำหน้ามุ่ยก่อนตัดพ้อแม่ “แหม...แม่คะ ...หนูยังไม่แก่ แล้วหนูก็ไม่ประสีประสาเรื่องความรักสักเท่าไหร่ รักแรกคือคุณภพ แล้วหนูก็ไม่มีใครอีกจนมาถึงคุณศรุตนี่ล่ะค่ะ”

“ย่ะ...แม่อ่อนต่อโลก ในเมื่อผู้ชายปฏิเสธไม่ได้รักแกจะทู่ซี้อยู่ทำไม”

“เขารักหนูค่ะแม่ แค่รอหนูหย่าเท่านั้นเอง แต่ตอนนี้เขาเกิดลังเลเพราะ...เฮ้อ...หนูไม่อยากคิดในแง่ร้ายเลย”

“ถึงไม่คิดแกก็ร้ายอยู่แล้ว...พูดมาเถอะ”

“เพราะเขามีมุนินทร์นี่ไงคะ เขาถึงลังเลกับหนู”

ooooooo

นพนภามโนเรื่องราวระหว่างศรุตกับมุนินทร์ไปไกลมาก ทั้งเรื่องเขารักเธอแต่ต้องซ่อนความรู้สึกไว้เพราะเธอยังไม่ได้หย่าขาดจากเจนภพและเรื่องเขาลังเลเพราะมีมุนินทร์แทรกกลาง ศรุตกับมุนินทร์ไม่รู้เรื่องด้วย มัวคุยกันจริงจังเรื่องปัญหาชีวิตคู่ของฝ่ายหลังที่ทำท่าจะสั่นคลอนเพราะวีกิจอาจปันใจให้ทัยเด็กสาวในอุปการะ

มุนินทร์เล่าเรื่องมุตตาฝาแฝดคนน้องให้ศรุตฟังอย่างหมดเปลือก โดยเฉพาะประเด็นที่มุตตามีบุคลิกและท่าทางเหมือนทัยราวกับเป็นคนเดียวกัน นั่นทำให้ปมซึ่งเคยเป็นปัญหาก่อกวนหัวใจเธออีกครั้งว่าวีกิจอาจฝังใจกับมุตตา...เขาไม่ได้รักเธอแต่แต่งงานด้วยเพราะเธอหน้าเหมือนมุตตา

ศรุตเครียดไม่น้อยเพราะไม่เชื่อว่าวีกิจจะไม่รักมุนินทร์ หนุ่มหล่อประจำกระทรวงอาจแสดงออกด้วยวิธีที่ผิดอย่างใช้กำลังข่มขืน แต่ทั้งหมดอาจเป็นเพราะอารมณ์หึงหวง ไม่ใช่อยากทำร้ายจิตใจอย่างที่มุนินทร์เข้าใจ

วีกิจกระวนกระวายใจเพราะไม่ได้เคลียร์กับมุนินทร์ บากหน้ากลับบ้านหาแม่โดยมีปราโมทย์ไปด้วย นพนภากับนภางค์ถือโอกาสสืบเรื่องมุนินทร์จากสองหนุ่ม วีกิจบ่ายเบี่ยงไม่ยอมตอบ ขอตัวไปทำงานดื้อๆ ทิ้งนพนภาให้มองตามด้วยความสงสัย...กลัวหลานชายจะมีปัญหากับภรรยาและตนอาจมีเรื่องทะเลาะเพราะหึงหวงศรุต

สร้อยคำสังเกตเห็นความผิดปกติของลูกชายคนเดียว พยายามซักไซ้ด้วยความเป็นห่วงแต่วีกิจเลือกโกหกว่าไม่มีปัญหาเพราะไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจ พวกรัชนกเห็นพฤติกรรมของวีกิจจากกล้องตัวจิ๋วที่แอบติดไว้เมื่อวันก่อน สาแก่ใจมากและคิดแผนถัดมาจะยุให้นพนภากลายเป็นเมียหลวงใจยักษ์อีกครั้งให้ได้!

ฤทัยกลายเป็นเครื่องมือล้างแค้นอีกครั้งของพวกรัชนก ด้วยการเล่นละครตบตานพนภากับนภางค์เป็นเด็กสาวน่าสงสารโดนมุนินทร์ใส่ร้ายให้เป็นมือที่สามในครอบครัว มุนินทร์ยังไม่รู้ตัว เดินไปส่งศรุตหน้าห้องพักหลังปรึกษาเสร็จ

“ฉันส่งแค่นี้นะคะ ไม่อยากออกไปไหนเดี๋ยวคนเห็น”

“ดีครับ...แต่ยังไงเรื่องมุตตาน้องสาวฝาแฝดของคุณยังเป็นประเด็นที่ผมต้องสรุปกับคุณอีกที”

“ยังไงฉันก็คิดไม่ผิดหรอกค่ะเรื่องที่วีกิจรักตามากกว่าฉัน”

“ให้ผมหาข้อมูลก่อนนะครับ งานนี้คงต้องปรึกษาผู้รู้หลายด้าน...ทำใจให้เป็นกลางนะครับ แล้วระลึกเสมอว่าคุณไม่ได้โดดเดี่ยวอยู่ลำพังในโลกนี้”

ศรุตปลอบประโลมเสียงอ่อนแล้วผละไป ทิ้งมุนินทร์ให้มองตามนิ่งๆแต่ในใจทุกข์ทรมานเหลือเกินเพราะช้ำใจไม่หายกับพฤติกรรมของสามี พวกรัชนกแอบสังเกตการณ์ตลอดและตัดสินใจส่งสมุนของเกษมไปติดกล้องในห้องที่คอนโดของมุนินทร์ด้วยการปลอมตัวเป็นช่างซ่อมแอร์

ooooooo

อ่านละคร แรงเงา 2 ตอนที่ 10 วันที่ 28 พ.ค.62

ละครเรื่อง แรงเงา 2 บทประพันธ์โดย นันทนา วีระชน
ละครเรื่อง แรงเงา 2 บทโทรทัศน์โดย Anonymous
ละครเรื่อง แรงเงา 2 กำกับการแสดงโดย ชนินทร ประเสริฐประศาสน์
ละครเรื่อง แรงเงา 2 ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่อง แรงเงา 2 ควบคุมการผลิตโดย อรุโณชา ภาณุพันธุ์
ที่มา ไทยรัฐ