อ่านละคร แรงเงา 2 ตอนที่ 6 วันที่ 16 พ.ค.62
“นกยอมรับความพ่ายแพ้ครั้งนี้อย่างดุษณี คงเพราะนกไม่เชื่อในรักแท้มั้งคะเลยลองทดสอบพี่กิจกับพี่นินว่าถ้าเกิดอุปสรรคขัดขวางความรักอย่างหนักหนาสาหัสทั้งสองคนจะยังรักกันอยู่ไหม แล้วในที่สุดทั้งคู่ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าคือรักแท้จริงๆ รักกันมั่นคงยิ่งกว่าเดิมจนมีวันนี้...วันที่ได้แต่งงานกันอย่างสมรัก นกเชื่อแล้วค่ะว่ารักของคุณสองคนไม่มีวันหมดอายุ...ขอปรบมือให้อย่างบริสุทธิ์ใจค่ะ”รัชนกนำร่องให้แขกเหรื่อตบมือแต่ไม่มีใครทำตาม นพนภาโมโหแทนหลานชายกับหลานสะใภ้โพล่งเสียงเข้ม
“บริสุทธิ์ใจเหรอ...กล้าพูดนะ เธอมีสิทธิ์อะไรเหรอถึงมาทดสอบความรักของเขา เธอทำเหมือนกับว่าเขาสองคนเป็นของเล่นของเธอที่จะปั่นหัวไปทางไหนก็ได้ อ้อ...ไม่ใช่เขาสองคน...แม้แต่ฉันด้วย”
“ก็นี่ไงคะ...นกถึงมาแสดงความยินดีกับพวกคุณที่ยังครองสติอยู่ได้ ยังใช้ปัญญาใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ ถึงแม้คุณนพนภาจะขาดสติสตังอยู่พักใหญ่”
ถ้อยคำเยาะเย้ยถากถางของรัชนกทำให้นพนภาเดือดพล่าน กำไม้เท้าของตัวแน่นจนศรุตอดระแวงไม่ได้กลัวเธอก่อเรื่อง รัชนกไม่สะทกสะท้านส่งยิ้มยั่วให้นพนภาก่อนอวยพรบ่าวสาวทิ้งท้าย
“ขอให้มีความสุขกับความรักที่ไม่มีวันหมดอายุของคุณทั้งคู่นะคะ...ลาค่ะ”
นพนภาไม่ยอม รั้งไว้ “เดี๋ยว...ยังไปไม่ได้ เพราะคดีที่เธอทำไว้มันยังไม่ได้รับการชำระ”
“ยังไงคะคุณนพนภา”
“ก็สิ่งที่เธอทำกับพวกเราเหมือนพวกเราเป็นของเล่นน่ะสิ แต่บังเอิญพวกเราเป็นคน มีหัวจิตหัวใจ เพราะฉะนั้นฉันมีสิทธิ์ทวงคืนบาดแผลที่พวกแกก่อไว้กับฉัน คนในครอบครัวของฉัน โดยเฉพาะลูกสาวคนเล็กของฉันที่พวกแกทำร้ายเด็กอย่างให้อภัยไม่ได้ เพราะฉะนั้น ...ฉันขอคืน!”
ขาดคำก็เงื้อมือจะฟาดไม้เท้าใส่รัชนก ประพงษ์กับศักดิ์ชายต้องยึดมือไว้ พร้อมกับที่มุนินทร์ วีกิจและศรุตถลามาปกป้องนพนภา ปราโมทย์กับลูกศรก็มายืนข้างนพนภาด้วย ก่อนที่เหตุการณ์จะชุลมุนเมื่อวีกิจเปิดศึกต่อยศักดิ์ชาย
ปราโมทย์จะช่วยเพื่อนเลยมีเรื่องชกต่อยกับประพงษ์ นพนภาไม่สนใจใครย่างสามขุมหารัชนกที่ถอยกรูด
“ทีอย่างนี้มาทำกลัว รู้รสชาติของการถูกทำร้ายบ้างนะ...นังโรคจิต!”
นพนภาตบหน้ารัชนกฉาดใหญ่ ก่อนส่งไม้ให้มุนินทร์เล่นงานต่อ
“นั่นสำหรับลูกสาวอานภา แต่นี่สำหรับฉันที่ถูกแกทำร้ายมาโดยตลอด”
รัชนกหน้าซีด กรีดร้องขอความเห็นใจ “พี่นิน... อย่าตบนกเลย นกขอค่ะ...เพิ่งไปร้อยไหมมาค่ะ”
“อ้อ...คงเพิ่งร้อยไหมหนังหน้ามาใช่ไหม ได้...งั้นแบบนี้ก็แล้วกัน”
มุนินทร์ทำตามขอ จิกผมรัชนกจิ้มเค้กแต่งงานของตน เสียงกรี๊ดของรัชนกเรียกประพงษ์ให้ละมือจากปราโมทย์ก่อนจะชะงัก เมื่อต้องถลามาขวางพร้อมมีดในมือ
“เข้ามาฉันจิ้มแกแน่...ไอ้สารเลว!”
แทนไทมองคนโน้นคนนี้งงๆ โดยเฉพาะต้องหลานสาววีกิจที่ท่าทางโหดเหี้ยมเอาจริงกว่าที่เขาเคยเห็น วีกิจกับมุนินทร์ไม่ยี่หระสภาพงานของตนช่วยกันไล่พวกรัชนกออกจากงานจนวุ่นวายไปหมด ศรุตกวาดตามองบรรยากาศรอบตัวงงๆพลางพูดกับนพนภาที่ยืนหอบไม่ไกลกันนั้น
“แน่ใจนะครับว่านี่คืองานแต่งงาน”
“นั่นสิคะ...หรือจะเรียกว่างานล้างบางก็ได้นะ”
“เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ”
ooooooo
กว่างานเลี้ยงฉลองอันแสนชุลมุนจะจบ เจ้าบ่าวเจ้าสาวหมาดๆก็แทบหมดแรง วีกิจพามุนินทร์กลับไปนอนที่เรือนหอ สีหน้าระรื่นและสะใจไม่เหมือนคนที่งานแต่งโดนถล่มแม้แต่น้อย
“ตกลงมันเป็นการแต่งงานใช่ไหมเนี่ยคุณกิจ”
“มันคือการแต่งงานครับ...แต่เป็นงานแต่งงานที่ดุเด็ดเผ็ดมันที่สุด”
สองสามีภรรยาหัวเราะให้กันก่อนที่มุนินทร์จะเอ่ยถึงนพนภา
“ไม่นึกเลยนะคะว่าเรื่องจะพลิกหน้ามือเป็นหลังมือแบบนี้”
“อานภากลับมาญาติดีกับเราเหมือนเดิม”
“ฉันไม่ต้องกลัวเธออีกแล้วนะ”
“นิน...ไม่มีอะไรต้องกลัวอีกแล้ว ยัยรัชนกคงทำอย่างที่บอก เธอยอมแพ้ไม่มายุ่งกับชีวิตพวกเราอีกแล้ว”
“ขอให้เป็นอย่างนั้นเถอะ”
“งั้นเราก็เข้านอนได้แล้วล่ะ...พรุ่งนี้ต้องไปเพชรบูรณ์แต่เช้า”
วีกิจพามุนินทร์เข้าหออย่างสุขสมกระทั่งเช้าตรู่จึงปลุกเธอไปเพชรบูรณ์เพื่อเยี่ยมหลุมศพมุตตา สองสามีภรรยาไม่ได้แวะบ้านพิณกับแปลกแต่ตรงไปสุสานเลย
มุนินทร์วางดอกไม้หน้าที่เก็บอัฐิของมุตตาน้องสาวฝาแฝด สีหน้ามีความสุขตามประสาคนเพิ่งแต่งงาน
“ตา...พี่แต่งงานกับคุณกิจแล้วนะ ทุกอย่างลงเอยด้วยดี เป็นกำลังใจให้พี่ด้วยนะ”
วีกิจยืนยิ้มข้างๆก่อนชวนกลับเพราะต้องจัดกระเป๋าไปฮันนีมูนในอีกไม่กี่วัน มุนินทร์ยอมกลับแต่โดยดีกระนั้นก็ไม่วายแวะนั่งเล่นกลางทางชมสวนดอกไม้
สองสามีภรรยาพูดคุยเรื่องแผนฮันนีมูนเงียบๆ ก่อนจะยิ้มกว้างเมื่อจู่ๆมีเด็กชายตัวเล็กวิ่งมาหา มุนินทร์ชอบเด็กเป็นทุนเห็นอีกฝ่ายทำท่าเอียงอายเลยขอกอดด้วยความมันเขี้ยว วีกิจมองภาพนั้นด้วยแววตาตื่นตะลึงปนเอ็นดู
“เป็นอะไรคะ ทำไมมองฉันแบบนั้น”
“เพิ่งเห็นวันนี้ที่คุณ...รักเด็ก”
“คุณกิจ...ฉันก็รักเด็กนะคะ เอ๊ะ...คุณนี่...เห็นฉันเป็นนางยักษ์นางมารรึไง”
“เขาวิ่งมาหาคุณเลยนะ เหมือนรู้จักคุณอย่างนั้นแหละ”
“นั่นสิคะ...เรารู้จักกันมาก่อนใช่มะ หนูถึงวิ่งมาหา ลูกเต้าเหล่าใครเอ่ย”
เด็กชายไม่ทันอ้าปากก็มีเสียงตอบแทน รินลดา เพื่อนสาวในหมู่บ้านของมุนินทร์นั่นเอง มุนินทร์อึ้งมาก จำได้ดีว่าตนเคยช่วยเพื่อนคนนี้ไม่ให้กระโดดน้ำฆ่าตัวตายเพราะท้องไม่มีพ่อเมื่อหลายปีก่อน
วีกิจเห็นเพื่อนเก่าได้เจอกันอีกครั้งจึงปล่อยให้คุยกันจะได้หายคิดถึง ส่วนตัวเองอุ้มต้นธารหรือเด็กชายตัวน้อยที่กอดหอมกับมุนินทร์ไปเล่นไม่ไกลกันนั้น มุนินทร์เห็นดังนั้นเลยถือโอกาสถามสารทุกข์สุกดิบของรินลดา
“เราก็ค้าขายอยู่ที่นี่แหละ รายได้ก็พอเลี้ยงตัว”
“สุขภาพเป็นยังไง”
“เหมือนที่นินว่านั่นแหละ เรารักษาสุขภาพอย่างดี ทานยาก็อยู่ได้ แต่สำคัญที่สุดลูกเราแข็งแรงปกติดีทุกอย่างไม่ได้ติดเชื้อจากแม่อย่างที่เราคิด”
“ดีใจด้วยที่รินกลับมาสู้ได้อีก...แล้วรินก็ชนะ”
“ขอบคุณนินมาก...ถ้านินไม่ช่วยเราที่บึงน้ำวันนั้นเรากับลูกคงไม่มีวันนี้”
รินลดาส่งยิ้มให้มุนินทร์ก่อนเอ่ยถึงที่มาของชื่อลูกชายคนเดียว
“เราถึงตั้งชื่อลูกว่าต้นธาร...เพราะเขารอดมาจากบึงน้ำวันนั้น...วันที่แม่ของเขาสิ้นคิดเหลือเกิน”
“อย่าคิดอย่างนั้นสิริน...ชีวิตมันเหมือนเหรียญสองด้านนั่นแหละ อยู่ที่เราจะเลือกด้านที่คว่ำหรือด้านที่หงาย เห็นไหมเมื่อเรามีหวังกับมัน...เราสู้ เราเชื่อว่าเราทำได้ ทุกอย่างก็เป็นของเรา”
“จ้ะ...ได้ข่าวว่าแต่งกับคุณกิจแล้ว ดีใจด้วยนะ... ยินดีด้วยนะคะคุณวีกิจ”
วีกิจได้ยินคำอวยพรก็หันไปยิ้มรับ รินลดาเห็นลูกชายเข้ากับสองสามีภรรยาได้ดีเลยตัดสินใจฝากไว้เพราะตัวเองต้องกลับไปดูร้านขายของ มุนินทร์รับคำด้วยความเต็มใจ วีกิจก็ยินดีไม่ต่างกัน ยิ้มกว้างให้ต้นธาร
“น่ารักจริงๆ นินครับ...อยากมีตัวเล็กแบบนี้แล้วล่ะ จะฟัดทั้งวันเลย”
“คุณกิจ...ให้เวลาภรรยาบ้างสิคะ”
“ไม่รู้ล่ะ...แต่ตอนนี้จะฟัดภรรยาทั้งวันเหมือนกัน ด่านไหนก็เอาไม่อยู่เพราะจะเอาลูกแล้ว”
ต้นธารไม่รู้เรื่องแต่หัวเราะเมื่อเห็นท่าทางกระเง้ากระงอดของสามีภรรยาแปลกหน้าที่รู้สึกไว้ใจ อย่างบอกไม่ถูก มุนินทร์เห็นดังนั้นก็เขิน เอ็ดวีกิจเสียงเขียว
“เด็กได้ยินแล้ว...ทะลึ่ง!”
“น้องเขาคงรู้นะว่าคุณช่วยชีวิตเขาไว้”
“หืม...จะรู้ได้ยังไงตัวแค่นี้”
“ผมว่าเด็กมีสัญชาตญาณเร้นลับที่ผู้ใหญ่อย่างพวกเราลืมเลือนไปหมดแล้ว ผมว่าเขารู้เขาถึงเดินมาหาคุณ”
“คุณกิจ...ฉันขนลุกเลย เขารู้อะไรคะ”
“รู้ว่าคุณให้กำเนิดเขาอีกครั้งไง เปรียบไปคุณก็เหมือนแม่น้องต้นธารแล้วนะ”
“คุณเพ้อแล้วล่ะค่ะ”
“ไม่เพ้อครับ ให้กำเนิดชีวิตใหม่ให้เขาไง เห็นไหมในเรื่องร้ายๆคุณก็ยังสร้างสิ่งงดงามขึ้นมาได้ ชีวิตเหมือนเหรียญสองด้าน...คุณคือด้านที่สว่างที่สุดของผม”
ooooooo
ขณะที่ชีวิตคู่ของวีกิจกับมุนินทร์เริ่มต้นด้วยความสุข ชะตากรรมของฤทัยตกต่ำอย่างหนักเพราะหนีเกษมไม่พ้นถูกหลอกให้จนมุมในบ้านเช่าแห่งหนึ่ง ป้างถูกสมุนของเกษมซ้อมปางตาย ฤทัยกลัวมากถดตัวหนีแต่ไปได้ไม่ไกลก็ถูกเกษมกระชากตัวมากอดพร้อมถกเสื้อให้เห็นแผลเป็นที่สีข้าง
“นี่...ดูซะ...รอยแผลที่หนูฝากไว้ให้พ่อ ตอนนี้พ่อต้องขอคืนบ้างละ”
สมุนของเกษมไม่รอช้าซ้อมป้างจนฤทัยหน้าเสีย ร้องไห้ขอร้องพ่อเลี้ยงใจทราม
“หนูยอมแล้ว...หนูยอมทุกอย่างแล้ว”
“มันต้องอย่างนั้น...”
วันเดียวกันที่บ้านนพนภา ศรุตมาเป็นแขกประจำอย่างที่เคยในระยะหลัง สร้อยคำแวะมาคุยด้วย นพนภาเลยถือโอกาสชวนอีกฝ่ายให้ย้ายมาอยู่ด้วยกัน สร้อยคำยังไม่ได้ให้คำตอบแต่นพนภาฝันไปไกลว่าการย้ายมาของสร้อยคำจะทำให้บรรยากาศในบ้านและบนโต๊ะอาหารดีขึ้นเพราะอีกฝ่ายทำอาหารเก่ง
ศรุตได้ยินชื่อตัวเองเพราะนพนภาอยากให้เขาได้ชิมฝีมือสร้อยคำด้วยก็อดเย้าไม่ได้
“ว้าว...พูดเหมือนคุณนภาจะเชิญผมมาเป็นแขกประจำที่นี่”
อ่านละคร แรงเงา 2 ตอนที่ 6 วันที่ 16 พ.ค.62
ละครเรื่อง แรงเงา 2 บทประพันธ์โดย นันทนา วีระชนละครเรื่อง แรงเงา 2 บทโทรทัศน์โดย Anonymous
ละครเรื่อง แรงเงา 2 กำกับการแสดงโดย ชนินทร ประเสริฐประศาสน์
ละครเรื่อง แรงเงา 2 ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่อง แรงเงา 2 ควบคุมการผลิตโดย อรุโณชา ภาณุพันธุ์
ที่มา ไทยรัฐ