อ่านละคร แรงเงา 2 ตอนที่ 8 วันที่ 22 พ.ค.62
“สิ่งที่ผมรู้สึกคือคุณทำกับเด็กอย่างสุดขั้ว พอจะรักจะเวทนาก็ทุ่มสุดตัว แต่พอเด็กไม่เป็นอย่างที่คิดก็เกลียดชัง อคติเด็กถึงที่สุด...เมื่อกี้เด็กกำลังหนีออกจากบ้าน เพราะคุณออกปากไล่เธอ จิตใจเด็กน่ะกระเจิดกระเจิงไปหมดแล้ว นี่คือสิ่งที่คุณควรจะคิดถึงไม่ใช่มาหึงหวงเด็กอยู่แบบนี้”วีกิจหมุนตัวจะกลับห้องแต่มุนินทร์ไม่ยอม รั้งไว้
“เดี๋ยวคุณกิจ...ฉันกำลังเตือนคุณนะว่าเด็กคนนี้ไม่ปกติ เธอมีปัญหาทางจิตแน่ๆและเธอกำลังล่อลวงคุณอยู่”
“พอเถอะนิน...ผมเหนื่อยกับการตีความของคุณเต็มทีแล้ว ทั้งเรื่องเด็กทั้งเรื่องที่คุณกล่าวหาว่าผมข่มเหงทำร้ายคุณ ถ้ามันคือการข่มขืนและคุณเจ็บปวดกับมันนักคุณยอมแต่งงานกับผมทำไม!”
จบคำก็ผลุนผลันกลับห้อง ทิ้งมุนินทร์ให้มองตามเขา ด้วยน้ำตา พึมพำตอบไล่หลัง
“เพราะฉันรักคุณไง...ฉันรักคุณ”
ooooooo
มุนินทร์สะเทือนใจมากที่วีกิจไม่เข้าใจเธอ กระนั้นก็ตั้งสติได้เชิญศรุตมาช่วยคุยกับทัยเช้าวันต่อมา ทัยหรือฤทัยตีหน้าเศร้าบอกว่าหนีออกจากบ้านเพราะไม่อยากถูกส่งไปบ้านสงเคราะห์เด็ก
“แล้ว...คิดหรือเปล่าว่าเธอจะไปอยู่ที่ไหน ไปอยู่กับใคร”
“ไม่รู้ค่ะ...ถ้าคุณนินไม่เลี้ยงหนู คุณกิจไม่เลี้ยงหนูแล้วหนูจะไปอยู่ลำพังของหนูเอง”
ฤทัยตีบทแตก แทบไม่มีใครเห็นความผิดปกติ นอกจากมุนินทร์ที่เชื่อสัญชาตญาณตัวเอง ยิ่งเด็กสาวในอุปการะเผาตุ๊กตาหมีที่เธอให้เป็นของขวัญยิ่งปักใจว่าอาจมีบางอย่างปิดบัง
“หนูเกลียดตุ๊กตาหมี”
“เกลียดเพราะฉันเป็นคนให้เธอใช่ไหม เธอไม่ได้เกลียดตุ๊กตาหมีแต่เธอเกลียดฉัน!”
น้ำเสียงและท่าทางเหมือนจับผิดของมุนินทร์ทำให้ทัยหน้าเสีย ศรุตกับวีกิจต้องช่วยกันห้ามและทำหน้าที่ถามคำถามแทนมุนินทร์ ฤทัยแสร้งทำหน้าเสียใจก่อนเล่าสาเหตุที่เกลียดตุ๊กตาหมีว่าเพราะพ่อเลี้ยงชอบถือติดมือเวลาที่เข้าหาเธอในห้องนอน มันทำให้เธอนึกถึงความโหดร้ายและน่าขยะแขยงที่เคยโดนกระทำ
มุนินทร์ไม่ยอมแพ้คาดคั้นให้ทัยเล่าวีรกรรมเลวทรามของพ่อเลี้ยง ศรุตกับวีกิจอยากท้วงแต่ทัยก็ยอมเล่าทั้งน้ำตาว่าถูกทำร้ายแบบไหนบ้าง เรื่องราวของเด็กสาว ทำให้ทุกคนสลดหดหู่ โดยเฉพาะวีกิจที่ภูมิต้านทานอ่อนแอกับเรื่องแบบนี้ มีเพียงมุนินทร์ที่แม้จะเห็นใจเด็กสาว แต่ก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง...เหมือนมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล
ทัยกลับขึ้นห้องไปแล้ว ทิ้งศรุตให้สรุปความการพูดคุยกับมุนินทร์และวีกิจ
“ผมว่ามันเป็นแนวโน้มที่ดีนะ...นี่คืออดีตที่บาดเจ็บแต่เธอคืนความทรงจำกลับมาได้ ผมเสนอให้พวกคุณดูแลเธอไปก่อน ให้ความรัก ความเข้าใจเธอมากๆ เดี๋ยวเธอก็จะจำอดีตทั้งหมดได้เอง คุณก็จะหมดภาระ”
“แต่เราไม่รู้เลยนะคะว่าเมื่อไหร่เด็กจะจำได้ แล้วถ้าเด็กไม่พูดความจริงล่ะคะ เด็กไม่อยากกลับไปอยู่บ้านอีกแล้ว เด็กอยากอยู่กับเราที่นี่ อาจจะแกล้งทำเป็นจำไม่ได้...”
พูดไม่ทันจบวีกิจก็ขัดขึ้น ไม่เชื่อว่าทัยจะเสแสร้งตบตา ศรุตเห็นท่าไม่ดีพยายามไกล่เกลี่ยขอให้สองสามีภรรยาช่วยดูแลทัยอีกสักพักเผื่อจะเรียกความทรงจำได้มากกว่านี้
วีกิจแยกตัวไปแล้ว ทิ้งหน้าที่ส่งศรุตให้มุนินทร์
“ใจเย็นๆนะครับคุณนิน เรื่องของเด็กผู้หญิงที่กำลังก้าวผ่านจากเด็กมาเป็นสาวแบบทัย แล้วยังมีประสบการณ์ร้ายๆถูกทำร้ายทางเพศแบบนี้เราต้องปฏิบัติกับเธออย่างเข้าใจและละเอียดอ่อนมากๆ”
“ค่ะ...แต่คุณศรุตคะ...ฉันไม่เข้าใจท่าทีของเธอกับคุณกิจแบบนั้น มันเห็นชัดว่าเธอกำลังให้ท่ากับเขา”
“คุณคงเคยได้ยินมาบ้างเรื่องเด็กสาวหลงรักหนุ่มใหญ่จนยอมตกเป็นเมียเก็บของเขาทั้งๆที่เขามีครอบครัวแล้ว นั่นแหละครับเด็กผู้หญิงขาดความรักจากพ่อมากๆ...บางทีก็โหยหาแบบนี้”
คำพูดวิเคราะห์ของศรุตทำให้มุนินทร์ฉุกใจคิดถึงมุตตา ปมในใจที่พยายามเก็บกดไว้ถูกสะกิดอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้จนต้องเอ่ยปากขอคำปรึกษากับเขาเป็นการส่วนตัว
“ฉันอยากคุยเรื่องพวกนี้อีก ฉันอาจจะเข้าใจทัยได้มากขึ้น จะให้คำปรึกษาฉันบ้างได้ไหมคะ”
“ยินดีครับ ที่ไหน เมื่อไหร่บอกมาเลย”
“ฉัน...เอ่อ...อยากปรึกษาเรื่องชีวิตสมรสฉันด้วย มันค่อนข้างส่วนตัวและฉันไม่อยากให้คุณกิจทราบเรื่องนี้”
“ได้ครับ...ไม่มีปัญหา งั้นผมกลับก่อนนะครับ”
ooooooo
สร้อยคำรับฟังเรื่องราวของทัยด้วยสีหน้าตกใจ อยากพาไปแจ้งความแต่วีกิจไม่เห็นด้วยเพราะอาการเด็กสาวยังไม่หายดี ความทรงจำยังไม่ฟื้น ทัยหรือฤทัยตีหน้าเศร้าเคล้าน้ำตา
“ที่จริงหนูไม่อยากจำได้หรอกค่ะ หนูไม่อยากกลับไปอยู่บ้านอีกแล้ว ที่บ้าน...แม่เกลียดหนูแล้วแม่จะออกไปจากบ้านทุกคืนที่มันเข้าหาหนู แม่รู้เห็นเป็นใจกับมัน อย่าส่งหนูกลับบ้านหรือส่งไปอยู่ที่อื่นเลยนะคะ ...หนูกลัว”
สีหน้าและแววตาน่าสงสารจนวีกิจกับสร้อยคำใจอ่อนยวบ ต่างจากมุนินทร์ที่คิดว่าเด็กสาวมัดมือชกพวกตน
“กล้ามากนะที่พูดแบบนี้...อ้อ...ถ้าไม่ยอมจะหนีเหมือนอย่างที่ทำเมื่อคืนใช่ไหม แล้วรู้ไหมผลมันออกมาเป็นยังไง ถ้าเธอถูกจับหรือสร้างคดีอะไรเข้าคนที่เดือดร้อนคือฉันกับคุณกิจเพราะเราเป็นผู้ปกครองเธอ เราต้องตามล้างตามเช็ดสิ่งที่เธอทำ ฉันคิดผิดแท้ๆเลยที่รับเธอมาอยู่ด้วย”
ทัยร้องไห้โฮ วีกิจพยายามห้ามแต่กลับทำให้มุนินทร์ยิ่งหัวเสีย
“ทำไมคะคุณกิจ จะปกป้องเด็กงั้นเหรอ”
“ใช่...เพราะคุณทำเกินกว่าเหตุแล้ว คุณศรุต
ก็บอกว่าให้เราดูแลต่อเพราะเด็กกำลังจะหายป่วยคุณไม่ได้ยินรึไง”
“ได้ยินค่ะ...แล้วคุณก็คงได้ยินที่ฉันพูดใช่ไหมว่าเด็กอาจไม่ได้ป่วย ไม่ได้ลืมความจำ แต่แกล้งทำเป็นลืม”
มุนินทร์อารมณ์ขึ้นแล้ว หันไปคาดคั้นเด็กสาวในอุปการะเสียงเข้ม
“บอกความจริงมาทัย...เธอแกล้งทำทั้งหมดใช่ไหม เธอวางแผนจะอยู่ที่นี่ถาวร สร้างเรื่องว่าถูกทำร้าย ทำเป็น น่าสงสารแล้ววางแผนยั่วยวนคุณกิจไปด้วย พูดความจริงมา ...ฉันดูออกนะว่าเธอเสแสร้งทุกอย่าง...พูดความจริงมา!”
วีกิจเห็นเรื่องไปกันใหญ่โพล่งลั่นใส่ภรรยา
“คุณเป็นบ้าไปแล้วเหรอนิน...เด็กแค่ขอร้องจะอยู่กับเราคุณก็ตีความไปใหญ่โตว่าเด็กเสแสร้ง”
“ฉันไม่ตีความ ไม่ได้คิดไปเอง คุณกำลังโดนเด็กผู้หญิงคนนี้หลอก ไม่รู้ล่ะ...หลังเรากลับจากลอนดอนเด็กต้องไปอยู่บ้านสงเคราะห์ทันที!”
มุนินทร์สวนอย่างไม่ยอมแพ้ วีกิจเหลืออดมากประกาศกร้าว
“ผมตัดสินใจแล้ว ผมไม่ไปลอนดอนกับคุณ”
ไม่ใช่แค่มุนินทร์ที่ตะลึง สร้อยคำก็พลอยอึ้ง
วีกิจเห็นดังนั้นก็อธิบายแม่กับภรรยา
“ผมไม่ไปไหนทั้งนั้น ผมจะส่งทัยไปอยู่บ้านสงเคราะห์เองแล้วจะคอยดูแลจนกว่าทัยจะคุ้นกับบ้านใหม่”
“ไม่ได้นะคุณกิจ เราวางแผนกันไว้แล้วว่าเราจะไปฮันนีมูน”
“ไม่มีฮันนีมูนอะไรทั้งนั้นถ้าเรายังขัดแย้งกันทุกเรื่องแบบนี้”
“ทำไมมันเป็นแบบนี้”
“มันต้องเป็นแบบนี้เพราะคุณ...ทุกอย่างมันมาจากคุณ!”
ooooooo
สร้อยคำอยากช่วยแก้ปัญหาให้วีกิจกับมุนินทร์จึงเสนอตัวรับทัยไปอยู่ที่บ้านตัวเอง วีกิจจะได้หมดห่วงไปฮันนีมูนกับมุนินทร์ที่อังกฤษ แต่วีกิจปฏิเสธและผลุนผลันออกจากบ้าน
มุนินทร์เสียใจมาก บากหน้าไปปรึกษาศรุตที่เชื่อว่าวีกิจต้องกลับมาหาเธอตามคำสัญญาในวันแต่งงาน
“พูดจริงๆนะครับ...ผมไม่เคยเห็นสามีคนไหนเทิดทูนภรรยาเท่าเขา อีกเหตุผลที่ผมยืนยันว่าเขาต้องกลับมาปรับความเข้าใจกับคุณแน่ๆคือคำสาบานในวันแต่งงานของคุณสองคนไงครับ...รักของเราไม่มีวันหมดอายุ”
สีหน้ามุนินทร์ดีขึ้นเมื่อคิดถึงคำสัญญาของสามี
“ใช่ค่ะ...รักของเราไม่มีวันหมดอายุ เขาเคยพูดว่าเขาไม่เคยหมดรักในตัวฉัน...ยิ่งรักเพิ่มขึ้นทุกวันด้วยซ้ำ”
“จำคำเขาไว้นะครับและเชื่อมั่นมากๆ มันจะทำให้คุณไม่หวั่นไหวและสับสนในความรักของเขาที่มีต่อคุณอีก”
มุนินทร์รู้สึกดีขึ้นมากหลังคุยกับศรุต ไม่รู้เลยว่าเวลาเดียวกันนั้นเองวีกิจที่กลับไปอยู่บ้านสร้อยคำกำลังตกตะลึงเพราะดันเห็นทัยยืนเปลือยในห้องน้ำ!
สภาพเปลือยเปล่าของทัยทำให้วีกิจเกิดอารมณ์กำหนัดอย่างช่วยไม่ได้ แต่เขาก็พยายามข่มใจไว้และหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเด็กสาวในอุปการะให้มากที่สุดเพราะไม่อยากทำผิดกับมุนินทร์
นพนภายังตามหาต่อไม่พบแถมเรื่องเจนภพก็ยังไม่เคลียร์ จึงแวะไปหาศรุตให้เขาบำบัดทุกวัน แต่วันนี้ระหว่างทางดันเห็นรถของมุนินทร์ขับสวนมาจากทางเข้าบ้านศรุต เรียกความสงสัยแก่สาวใหญ่มาก...มุนินทร์มาทำอะไรที่นี่
ต่อไม่กลับบ้านแต่ตระเวนเมาไปทั่ว ทั้งโกรธแม่งอนก้องที่หายหน้าหายตาไปหลายวัน ก้องเบื่อหน่ายที่โดนตามจิกแต่ไม่ยอมบอกความจริงว่าที่ตนหายหน้าหายตาไม่ได้ไปทำงานแต่แอบไปอยู่กับชู้อย่างพงศกร
ต้องเป็นห่วงต่อไม่น้อยลากแทนไทไปตามหาและเจอน้องชายในบาร์เกย์ที่มักไปประจำกับก้อง มังกรคู่ปรับก้องเห็นต่อก็ถูกใจพยายามจีบและเผยความลับเจ้าชู้ของก้องจนเกิดเรื่องตีกันชุลมุนวุ่นทั้งบาร์!
แทนไทกับต้องช่วยกันพาต่อในสภาพสะบักสะบอมไปทำแผลที่โรงพยาบาลแล้วกลับบ้าน เมื่อนพนภารู้เรื่องก็ลืมเรื่องน่าสงสัยที่เห็นมุนินทร์แถวบ้านศรุต ผลุนผลันกลับบ้านโดยมีศรุตตามไปด้วยเพราะเธอขอร้อง
นพนภาหัวใจแทบสลายเมื่อเห็นสภาพต่อ ยิ่งได้ยินเรื่องก้องนอกใจยิ่งสงสารลูก ศรุตเห็นต่ออาการไม่ดีบ่นอยากตายเลยถือโอกาสช่วยบำบัด
“น้องต่อครับ...เราต้องอยู่ให้ได้ครับ เราอยู่เพื่อความรักไงครับ”
“ก็พี่ก้องเขาไม่รักผมแล้ว คุณจะพูดอีกทำไม”
“ความรักที่ผมว่าคือความรักที่คุณแม่ คุณพ่อ พี่ต้อง น้องต้อมมีให้คุณไงครับ”
ต่อนิ่งฟัง ศรุตเห็นดังนั้นก็สำทับ “นั่นคือความรักที่มั่นคงที่สุด บริสุทธิ์ที่สุดและไม่มีอะไรจะทำลายหรือเปลี่ยนแปลงได้ ต่อต้องอยู่เพื่อรักษาทะนุถนอมความรักนี้ไว้เพราะมันมีค่าที่สุดในชีวิตเราแล้วครับ”
ooooooo
กำหนดการเดินทางไปอังกฤษใกล้เข้ามาทุกที มุนินทร์ทนอึดอัดใจไม่ไหวบุกไปเจอวีกิจที่กระทรวงโดยมีลูกศรไปเป็นเพื่อน แต่ก็คลาดกันกับวีกิจเพราะถูกพวกมาร์คกับปริมรวมหัวกันแกล้ง
วีกิจก็เข้าใจผิดมุนินทร์เพราะโดนพวกมาร์คกับปริมปั่นหัว เมาแอ๋กลับบ้านสร้อยคำในคืนเดียวกัน ปราโมทย์เป็นคนหอบร่างเพื่อนรักไปส่งด้วยตัวเองและถือโอกาสลอบสังเกตท่าทางของทัยที่ดูไม่น่าไว้ใจ
ปราโมทย์จำต้องกลับบ้านหลังส่งวีกิจ ทัยหรือฤทัยรอจังหวะอยู่แล้วแอบเข้าไปเช็ดตัวให้เขา วีกิจเริ่มสร่างเมาสะดุ้งสุดตัวเมื่อเห็นเด็กสาวในอุปการะอยู่ในห้องกับเขาในสภาพล่อแหลม
ทัยหรือฤทัยย่ามใจ สัมผัสได้ว่าท่าทางลุกลี้ลุกลนของวีกิจเป็นเพราะเขาหวั่นไหวกับเสน่ห์เด็กสาวของเธอ พยายามลูบไล้และยั่วยวนเต็มที่ แต่วีกิจไม่สนใจแถมไล่ออกจากห้องอีกต่างหาก
วีกิจอึดอัดใจมาก ไม่อยากอยู่ลำพังกับเด็กสาวในอุปการะ ทัยหรือฤทัยไม่ยอมออกแต่แกล้งถามเรื่องสายคาดเสื้อคลุมของเขาที่เธอเก็บได้หน้าห้องเมื่อคืน
“หนูแค่อยากถามว่าคุณเห็นหนูรึเปล่า ตอนนั้นหนูเปลี่ยนเสื้อผ้า คุณคงไม่ได้แอบดูหนูนะคะ”
แววตาใสซื่อไม่ทำให้วีกิจใจอ่อนในครั้งนี้ โพล่งลั่นเพราะถูกกดดัน
“ใช่! ฉันเห็นเธอเปลี่ยนเสื้อผ้าแต่ฉันไม่ได้ตั้งใจแอบดู มันบังเอิญที่ฉันเห็น แล้วเธอนั่นแหละที่เปิดประตูห้องไว้เหมือนเธอ...ตั้งใจ ฉันขอเตือนนะทัย...เธอเป็นสาวแล้ว อย่าทำประเจิดประเจ้อให้มันมาก ไม่งั้น...”
ทัยหรือฤทัยยิ้มยั่ว แกล้งย้อนถาม “ไม่งั้นอะไรคะ”
“ไม่งั้นเธอจะเป็นอย่างที่นินเขาสงสัย...เธอกำลังให้ท่าฉัน...เอ๊ะ...หรือว่าที่เธอทำทั้งหมดเธอตั้งใจยั่วฉัน!”
ท่าทางเกรี้ยวกราดของวีกิจทำให้ฤทัยต้องเปลี่ยนแผน แสร้งโอดครวญ
“หนูคิดว่าคุณกิจคงไม่แอบมองหนูเหมือนผู้ชายคนอื่น...ไม่ฉวยโอกาสกับหนู ไม่คิดร้ายกับหนูเหมือนอย่างไอ้พ่อเลี้ยง เพราะหนู...หนูไว้ใจคุณ หนูรักคุณกิจเหมือนพี่ชาย เหมือนพ่อ เวลาหนูอยู่กับคุณหนูรู้สึกปลอดภัย”
วีกิจพ่ายมารยาเด็กหญิงอีกครั้ง จนด้วยเหตุผลจะค้านเพราะยังเชื่อจริงๆว่าเธอป่วย
ฤทัยลอบยิ้มร้ายก่อนแกล้งบีบน้ำตา “หนูแค่สงสัยว่าคุณคิดไม่ดีกับหนูรึเปล่า...ตอนนี้หนูรู้แล้วว่าคุณไม่เคยคิดดีกับหนูเลย ได้ค่ะ...ถ้าคุณเห็นว่าหนูทำไม่ดี ยั่วยวนคุณ ให้ท่าคุณ หนูจะอยู่ห่างจากคุณให้มากที่สุด... หนูขอโทษค่ะ”
อ่านละคร แรงเงา 2 ตอนที่ 8 วันที่ 22 พ.ค.62
ละครเรื่อง แรงเงา 2 บทประพันธ์โดย นันทนา วีระชนละครเรื่อง แรงเงา 2 บทโทรทัศน์โดย Anonymous
ละครเรื่อง แรงเงา 2 กำกับการแสดงโดย ชนินทร ประเสริฐประศาสน์
ละครเรื่อง แรงเงา 2 ผลิตโดย บริษัท บรอดคาซท์ ไทย เทเลวิชั่น จำกัด
ละครเรื่อง แรงเงา 2 ควบคุมการผลิตโดย อรุโณชา ภาณุพันธุ์
ที่มา ไทยรัฐ