อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 9 วันที่ 30 ม.ค.61
“แล้วหายไปไหนมา! ตอนที่ฉันเจ็บ ตอนที่ฉันทุกข์ คุณไม่เคยอยู่เลย แต่คนที่อยู่ข้างๆฉัน คอยปลอบฉันเสมอ มีแต่เกิ่งคนเดียวเท่านั้น” บัวสวน ทำเอาชยุติอึ้งไปสักพัก“เพราะอย่างนี้คุณเลยต้องกอดกับมันอย่างนั้นเหรอ”
“คุณติ! ฉันกับเกิ่งเป็นพี่น้องกัน ทำไมฉันกับเขาจะกอดกันไม่ได้ เรารักกันด้วยความบริสุทธิ์ใจ”
“คุณบริสุทธิ์ใจฝ่ายเดียวรึเปล่า ผมว่าเกิ่งไม่น่าจะคิดเหมือนคุณ”
“ฉันไม่คิดเลยว่าคุณจะเป็นคนแบบนี้ ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณแล้ว ออกไปซะ!”
“ใช่สิ ก็คุณเกลียดผมนี่ คุณไม่เคยรักผมอยู่แล้ว ต่อให้ผมพยายามแค่ไหน ผมก็ไม่มีค่าในสายตาคุณ คุณไม่เคยสนอยู่แล้วว่าผมจะรู้สึกยังไง”
“ใช่ ฉันไม่สนหรอกว่าคุณจะรู้สึกยังไง ฉันต้องการพักผ่อน คุณออกไปได้แล้ว”
ชยุติยิ่งน้อยใจสุดๆ มองคนรักอย่างเจ็บปวดถึงกับสบถออกมาว่า “คุณใจร้ายมาก...บัว”
บัวน้ำตาไหลพรั่งพรู ชยุติเดินออกจากห้อง พวกวลีได้ยินเสียงถกเถียงกันกำลังสะใจสุดๆ ประตูเปิดออก ทั้งสามถลาเกือบล้ม ชยุติหน้าแดงมองครอบครัวตัวเองอย่างผิดหวังแล้วเดินไป ชูดวงถือกระเป๋าเสื้อผ้าและปิ่นโตเข้ามาอย่างงงๆ วลีจึงสั่งให้เอาไปไว้ห้องยิ่งจันทร์และบอกเขาว่าบัวคบชู้กับพี่ชายตัวเอง กอดรัดกันในโรงพยาบาลทำให้ชยุติโกรธ ชูดวงตาโพลงไม่อยากเชื่อ
ชยุติกลับถึงบ้าน มองคฤหาสน์หลังใหญ่ด้วยสายตาไม่มีความสุขเลย ทรุดนั่งที่ขั้นบันไดหน้าบ้านคิดถึงคำพูดของบัว คำพูดของวลี วลัยและกนกวิภา รวมทั้งภาพบาดตาที่เห็นแล้วปล่อยน้ำตาไหลรินออกมาด้วยความเจ็บปวดใจ มาลัยออกมาเห็นหลานชายก็เข้าไปนั่งข้างๆปลอบ “ร้องไห้เถอะ อยากร้องก็ร้องเลย...เราเสียใจ เราร้องได้ แต่เราจะยอมหมดหวังไม่ได้ ลื้ออย่าลืมนะว่าทุกปัญหามันมีทางออกของมันเสมอ”
ชยุติโผกอดร้องไห้ออกมาอย่างหนัก เขารู้สึกว่าบ้านหลังนี้ไม่มีความอบอุ่นเลยถ้าไม่มีอาม่าของเขา
เช้าวันใหม่ จ๊าดทำตามคำสั่งวลีด้วยการปล่อยข่าวบัวเป็นชู้กับดำเกิงไปทั่วตลาด จี๊ดได้ยินด่าว่าจ๊าดเป็นพวกกินบนเรือนขี้รดบนหลังคา ระวังสักวันจะกลายเป็นหมาจรจัด จ๊าดสวนว่าสักวันตนจะได้ดีมากกว่าเพราะเลือกข้างถูก เตือนจี๊ดให้ระวังจะติดร่างแหความซวยไปด้วย
ตรึงจิตเอาข่าวมาบอกเจียงกับหลอ เจียงสะเทือนใจมากเรียกหาดำเกิงด้วยความโกรธ ขณะนั้นดำเกิงกวาดโรงงิ้วอยู่กับไหมฟ้า ไหมฟ้าเห็นดำเกิงถอนใจเฮือกๆ ก็เลียบเคียงถาม
“กลุ้มใจอะไรนักหนาวะ...” ดำเกิงว่าเรื่องของตน “สุภาษิตจีนว่า ถอนหายใจครั้งหนึ่ง จนไปเจ็ดปี นี่แกคงจนไปทั้งชีวิตแล้วมั้ง”
ดำเกิงย้ำเสียงขุ่นว่าเรื่องของตน ไหมฟ้าจึงเลิกยุ่ง ทันใดได้ยินเสียงเจียงเรียกดังลั่น เจียง หลอ ตรึงจิตและนกขมิ้นเดินมา เจียงเอ็ดดำเกิงทันที
“อั๊วบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่าไปยุ่ง”
ดำเกิงงงว่าเรื่องอะไร เจียงโกรธจัดตวาดอยากจะฆ่าเขาเสียจริงๆ เข่นเขี้ยวว่าเตือนแล้วอย่าไปยุ่งกับบัวแม้จะห่วงแค่ไหน ดำเกิงรีบถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับบัวอีก ตรึงจิตตอบแทน
“จะเกิดอะไรล่ะ ตอนนี้คนเขาพูดเรื่องที่แกกับนังบัวเป็นชู้กันทั้งตลาดแล้วโว้ย”
ดำเกิงตกใจปฏิเสธพัลวันว่าไม่จริง นกขมิ้นเสริมเขาว่ากันว่าจับได้คาหนังคาเขาว่าดำเกิงกอดกับบัวคาโรงพยาบาล ดำเกิงเดือดจัด
“เก๋าเจ้ง เฉาฉุ่ย! นินทากันมั่วๆไปทั้งตลาด ป๊า...เกิ่งก็แค่เป็นห่วงบัว เกิ่งก็แค่...”
“อั๊วบอกแล้วไง ว่าความเป็นห่วงของลื้อจะหาเรื่องเดือดร้อนมาให้อาบัวเข้าสักวัน แล้วมันก็จริง อาบัวต้องมาเสียหาย เสียชื่อเสียงก็เพราะแก ต้องถูกคนประณามหยามเหยียดว่าเป็นชู้กับพี่ชาย แกเห็นผลของความดื้อด้านไม่ฟังใครของแกรึยังไอ้เกิ่ง!”
ดำเกิงหน้าเจื่อนพร่ำขอโทษ หลอส่ายหน้าขอโทษตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์เพราะไฟลามทุ่งไปแล้ว ดำเกิงถามควรทำอย่างไร เจียงให้อยู่ในส่วนของตัวอย่าไปยุ่งกับบัวอีก ถ้ายังดื้อไม่ฟังก็ไม่ต้องมาพูดกันอีก ดำเกิงสะเทือนใจที่โดนเจียงตัดรอนขนาดนี้ ไหมฟ้าอดเห็นใจไม่ได้ปลอบว่าเจียงแค่โมโหเดี๋ยวก็เย็นลง...ดำเกิงเดินหนีมาหลบหลังศาลเจ้า ตีอกชกหัวตัวเองที่ทำให้บัวต้องเดือดร้อน และทำให้ป๊าต้องเสียใจ
จี๊ดกลับมาเล่าให้มาลัยฟังเรื่องที่จ๊าดไปโพนทะนา มาลัยรู้สึกหนักใจมาก ภาวนาขอให้ชยุติอย่าเชื่อ... มาลัยมาหาหลานชายถึงห้อง ชยุติกำลังเหม่อลอย หลุดจากภวังค์รีบเข้าประคอง
“อาม่ามีอะไรให้พี่จี๊ดเรียกผมไปหาก็ได้นี่ครับ ไม่ต้องเหนื่อยเดินขึ้นชั้นสองมาแบบนี้”
“อั๊วอยากรู้ว่าลื้อเอาแต่หมกตัวทำอะไรอยู่ในห้อง”
“ผมแค่อยากอยู่คนเดียวครับอาม่า ผมรู้สึกว่าชีวิตมันวุ่นวายเหลือเกิน”
มาลัยเตือนว่าจะอยู่คนเดียวได้อย่างไรในเมื่อตอนนี้เขามีบัวอีกคน หลานชายส่ายหน้าบอกเขาคงไม่ได้อยู่ในชีวิตบัวเลย มาลัยแย้งพูดแบบนี้ได้อย่างไร คนเป็นผัวเมียกันก็เหมือนลิ้นกับฟัน ต้องอดทน เมื่อมีอุปสรรคเยอะก็ต้องจับมือกัน ช่วยกันฝ่าฟันแล้วมันก็จะผ่านไป
“หมอบอกว่าวันนี้อาบัวอีออกจากโรงพยาบาลได้แล้ว อั๊วจะไปรับอีกลับบ้าน ลื้อไปกับอั๊วนะไอ้ตี๋”
ชยุติไม่ตอบ สบตามาลัยด้วยความหนักใจ...สุดท้ายมาลัยมารับบัวออกจากโรงพยาบาลเอง บัวรู้สึกเศร้าใจที่ไม่เห็นชยุติมาด้วย...พอเข้าบ้านก็เจอวลี วลัย ไชโยและกนกวิภารอถากถางสารพัด มาลัยปลอบใจอย่าคิดมาก คิดเสียว่าเป็นเสียงนกเสียงกา วลีเต้นผาง มาลัยตอกกลับหรือจะให้บอกว่าเป็นเสียงหมาเสียงแมว
“อาม้าคะ! ถึงขนาดนี้แล้วม้ายังจะเข้าข้างมันอีก นังบัวมันมีอะไรดีนักคะ” วลีโวย
วลัยเสริมว่าบัวแย่งคู่หมั้นคนอื่นแล้วยังมีชู้ มาลัยย้อนถามแล้วทั้งสองมีอะไรดี คู่แฝดหน้าเสียบ่นว่าแม่ตัวเองเห็นกงจักรเป็นดอกบัว มาลัยเอือมระอากับความคิดของลูกๆ บอกจี๊ดให้พากลับห้อง ไชโยเปรยขึ้น หวังว่าครั้งนี้ชยุติจะไม่ทำให้ผิดหวัง
พอบัวเข้ามาในห้อง เห็นภาพวาดตัวเองตั้งหราอยู่ ก็เข้าไปหยิบดู รู้สึกถึงความรักที่ชยุติมอบให้ จังหวะนั้นชยุติเข้ามาสวมกอดข้างหลัง เธอสะดุ้งพยายามผลักออก
“คุณติ ปล่อยบัวนะคะ ปล่อยบัวเดี๋ยวนี้!”
“ไม่! ผมไม่มีวันปล่อยคุณ จนป่านนี้คุณยังไม่รู้อีกเหรอว่าผมรักคุณมากแค่ไหน”
“ฉันบอกให้ปล่อยไง!” บัวดิ้นรนใจเสีย
“ไม่! ทำไมคุณถึงใจร้ายกับผมนัก ทั้งๆที่ผมทั้งรักและจริงใจกับคุณ ทำไมคุณถึงไม่ยอมเปิดใจให้ผมสักที”
บัวขอร้องให้เขาปล่อย ชยุติขอแลกกับคำว่ารักจากปากเธอ บัวไม่ยอมพูด เขายิ่งสะเทือนใจถามเธอไม่เคยรักตนเลยใช่ไหม บัวโต้ว่า ถ้าเขาจะตัดสินแค่คำพูดคำเดียวก็สุดแล้วแต่
ชยุติสวน “คุณไม่เคยรักผมจริงๆ คุณถึงไม่เคยเปิดใจให้ผมเลย แม้ว่าผมจะพยายามแค่ไหน ทีกับคนอื่นล่ะเปิดทั้งใจเปิดทั้งตัว!”
บัวโกรธตบหน้าเขาฉาด “มันดูถูกกันเกินไปแล้ว!”
ชยุติหน้าชาเลือดขึ้นหน้า รุกเข้าพยายามจะจูบบัวเป็นการพิสูจน์ บัวตกใจผลักไสแต่เขาสติหลุดซุกไซ้พัลวัน บัวรวบรวมกำลังผลักเขาออกแล้วตบหน้าอีกฉาด เขากลับเจ็บใจมากกว่าเจ็บหน้า บัวต่อว่าเขาผิดสัญญา เขาพูดออกมาด้วยความเสียใจไม่แพ้กัน
“ใช่ ผมผิดสัญญา ผมรักษาสัญญาไว้ไม่ได้ แล้วมันเพราะอะไรล่ะ ก็เพราะว่าผมรักคุณไงบัว ผมรักคุณไง”
“รักเหรอ? คนรักกันเขาทำกันแบบนี้เหรอ” บัวสะอื้นตัวโยน
“แล้วจะให้ผมทำยังไง ให้ผมทำยังไงคุณถึงจะรักผมบ้าง บอกมาสิให้ผมทำยังไง”
“คุณไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น เราหยุดแค่นี้จะดีกว่า เพราะฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณอีกต่อไปแล้ว!” บัวถอดแหวนทองออกปาใส่ชยุติแล้ววิ่งไปเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋า
ชยุติเห็นเช่นนั้น ยื้อยุดไม่ให้เธอไป บัวประกาศกร้าวว่าเขาห้ามตนไม่ได้ และสัญญาจะหาเงินมาคืนเขาให้เร็วที่สุด...บัวคว้ากระเป๋าวิ่งลงมาชั้นล่าง มาลัยเห็นถามด้วยความตระหนกว่าจะไปไหน วลี วลัย ไชโยและกนกวิภาวิ่งมาดูสีหน้าระรื่น บัวยกมือไหว้ลามาลัย ชยุติตามลงมายื้อไม่ให้เธอไป แต่เธอไม่ฟังเดินออกไปท่ามกลางเสียงหัวเราะดีใจของคนอื่นๆในครอบครัว
ooooooo
บัวถือกระเป๋าเดินผ่านตลาดร้านรวง ชาวบ้านซุบซิบนินทาจนเธอแปลกใจ กระทั่งได้ยินธานีกับขวดเม้าท์เรื่องเธอกับแม่ค้าที่กำลังเก็บดอกเบี้ยว่าเจียงเลี้ยงลูกอย่างไรให้ทำบัดสีกันเอง บัวหันไปจะเอาเรื่องแต่ไหมฟ้าโผล่มาด่ากราดแทน และให้บัวกลับบ้านไปก่อน
ไหมฟ้าด่าธานีจนเขาเถียงไม่ทัน ตรึงจิตอยู่แถวนั้นหมั่นไส้ไหมฟ้าที่ทำเป็นคนดี นกขมิ้นชื่นชมที่ไหมฟ้าช่วยบัวกลับถูกตรึงจิตเล่นงานไปด้วย
เจียงกำลังไหว้พระให้คุ้มครองบัวผ่านเรื่องเลวร้ายเหล่านี้ไปได้ ทันใดบัวก้าวเข้ามาคุกเข่ากราบเจียง ขอโทษที่ทำให้ขายหน้า เจียงกลั้นความรู้สึกทุกข์ใจ กอดปลอบบัวแทน
“บัวจะทำยังไงดีป๊า บัวจะทำยังไงดี...”
“ใจเย็นๆ อาบัว ตั้งสติเอาไว้ ไม่มีปัญหาไหนที่แก้ไม่ได้ ไม่มีอุปสรรคใดที่ผ่านไปไม่ได้”
“บัวไม่รู้เลย บัวจะผ่านความเจ็บปวดครั้งนี้ไปได้ยังไงป๊า”
“อดทนไงล่ะ อดทนไว้ ลื้อต้องอดทนรอเวลา สักวันความจริงจะปรากฏถ้าเราไม่ได้ทำ ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว จริงไหม”
บัวสะอื้นบอกชยุติไม่เชื่อใจ เจียงย้อนถามแล้วเธอเชื่อใจเขาไหม ทั้งสองต้องเรียนรู้กันอีกมาก ต้องหนักแน่นรู้จักให้อภัย ไม่ใช้อารมณ์ในการตัดสินปัญหา บัวบอกครั้งนี้ตนไม่ได้ใช้อารมณ์แต่ตนทนอยู่กับคนผิดสัญญาไม่ได้ คนที่คิดถึงแต่ใจตัวเองไม่เคยคิดถึงใจตน
ดำเกิงแอบฟังอยู่นานยิ่งโกรธชยุติมากขึ้น บุกไปที่บ้านเขา แต่ได้แค่เกาะรั้วทะเลาะกับกนกวิภา ดำเกิงให้ไปตามชยุติออกมา เธอกลับย้อนว่าจะทำอะไรพี่ชายตน ในเมื่อเขาก็ได้คนรักกลับคืนไป แต่ถ้าอยากจะบอกความจริงว่าบัวบริสุทธิ์ผุดผ่อง อยากให้พี่ชายตนตามไปง้อก็ได้...ดำเกิงชะงักแต่ยังไม่พอใจที่บัวเสียหาย กนกวิภาเยาะ จะสนใจทำไม ไม่นานเรื่องก็ซาไปเอง ดำเกิงยืนอึ้งไม่รู้ว่าตัวเองควรดีใจหรือเสียใจกันแน่
ในคืนนั้น ทั้งบัวและชยุติต่างเจ็บปวดใจไม่แพ้กัน มาลัยยืนมองหลานชายด้วยความห่วงใย แต่อยากให้เขาทบทวนเรื่องราวด้วยตัวเอง...
ด้านดำเกิงนั่งดื่มจนเมาอยู่ในตลาด ไหมฟ้าตามให้กลับบ้าน เขารำพันจนเธอรู้ว่า เขารักบัวฉันชู้สาวจริง ไหมฟ้าเตือนสติที่เหลือเพียงน้อยนิดของเขาว่า บัวแต่งงานไปแล้ว ทะเลาะกันตามประสาผัวเมีย ไม่นานผัวก็ต้องมาง้อเมีย ดำเกิงไม่ยอมให้บัวกลับไปตกนรกอีก ไหมฟ้าถาม
“นรกรึสวรรค์มันไม่ได้อยู่ที่แกเป็นคนตัดสินหรอกนะ ถ้าบัวมันสบายใจที่จะอยู่กับผัวมัน อยู่ที่ไหนมันก็คือสวรรค์ทั้งนั้นแหละ แกตัดใจซะเถอะ ไปแยกผัวเมียเขาน่ะมันบาป”
“บาปอะไร บัวไม่ได้รักมันซะหน่อย”
“ถ้าไม่รัก นังบัวมันจะต้องทุกข์ใจขนาดนี้ไหมวะ แกเลิกหลอกตัวเองซะที แล้วถามหน่อยเถอะ การที่แกรั้งบัวไว้ไม่ยอมปล่อยเขาไป มันจะทำให้แกมีความสุขได้จริงเหรอ...แกบอกว่าแกรักบัว แต่แกจะมีความสุขบนน้ำตาของคนที่แกรักได้เหรอ”
ดำเกิงถึงกับอึ้งกิมกี่
ooooooo
เช้าวันใหม่ ชยุติยังนั่งซึมสภาพไม่ได้นอนทั้งคืน มาลัยเวทนาเข้ามาให้สติ ทำเหมือนคนขาดหัวใจแล้วทำไมไม่ไปตามหัวใจคืนมา เขากลัวบัวไม่ยอมเป็นหัวใจของเขา มาลัยให้ลองดูอีกสักครั้ง ทำให้เป็นเรื่องของคนแค่สองคนจริงๆเสียทีอย่าปล่อยจนสายเกินไป ชยุติยิ้มออกมาได้
บัวกำลังไหว้พระที่ศาลเจ้า ดำเกิงตามมาคุยด้วย ระหว่างนั้นชยุติไปหาบัวที่บ้าน ขอโทษเจียงที่ทำให้บัวเสียใจเพราะความหึงของตัวเอง เจียงถามคำเดียวว่าไม่เชื่อใจบัวหรือ เขาปฏิเสธ
“เปล่าครับ ผมพูดตรงๆนะครับ ผมไม่ได้ไม่เชื่อใจ ผมแค่อิจฉาเกิ่งที่บัวให้ความสำคัญมากกว่าผม ผมบ้าไปเองครับ ผมคิดอะไรเด็กๆ”
“อาบัวกับอาเกิ่งเป็นพี่น้องกัน ไม่มีอะไรมาทำให้เปลี่ยนแปลงไปได้หรอก”
ชยุติยอมรับถึงได้มาขอโทษบัว เจียงเห็นใจถามย้ำว่าเขาใจเย็นลงพอที่จะคุยกับบัวแล้วหรือ ชยุติสัญญาขอโอกาสอีกสักครั้ง
อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 9 วันที่ 30 ม.ค.61
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว บทประพันธ์โดย กราตร ศักตาละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว บทโทรทัศน์โดย ยิ่งยศ ปัญญา, สรรัตน์ จิรบวรวิสุทธิ์
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว กำกับการแสดงโดย ธนากร โปษยานนท์
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ผลิตโดย บริษัท ดู เอนเตอร์เทนเมนต์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ควบคุมการผลิตโดย ธัญญา-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ