อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 13 วันที่ 3 ม.ค.61

อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 13 วันที่ 3 ม.ค.61

ไตรทศพักฟื้นที่โรงพยาบาลหลายสัปดาห์จนอาการดีขึ้น หมอจึงอนุญาตให้กลับบ้าน เขมิกาตามดูแลด้วยความเป็นห่วงปนรู้สึกผิด และอดไม่ได้จะระบายความหงุดหงิดใจที่ชาคริตหายเงียบ ไม่โวยวายเรื่องญาดา

แต่ที่ทุกคนในบ้านเมธาสิทธิ์ไม่รู้และคิดไม่ถึง โดยเฉพาะญาดา คือชาคริตแอบไปจองห้องพักและคอร์สสำหรับว่าที่คุณแม่ที่สถานพยาบาลแห่งหนึ่งที่เน้นความเป็นส่วนตัว ก่อนจะลักพาตัวญาดาเมื่อถึงกำหนดนัด!

ญาดาวางใจว่าชาคริตจะไม่โผล่มาวุ่นวายเรื่องลูก แต่ต้องผิดคาดเมื่อเขาลวงให้เธอขึ้นรถไปฝากท้อง หญิงสาวหน้าซีด แต่ยังปากแข็งไม่ยอมรับเรื่องท้องและไม่ยอมให้เขาจับตัว



“ถ้าคุณแตะตัวฉัน ฉันจะกรี๊ด”

“เป็นแม่คนแล้ว ทำตัวเป็นผู้ใหญ่หน่อยสิ”

“ฉันไม่ได้ท้อง!”

“งั้นก็ลงมาสู้ความจริงกัน ถ้าคุณไม่กล้า ผมจะถือว่าคุณท้อง...ท้องกับผม!”

“ก็ได้...ฉันเบื่อเกมไล่ล่าของคุณเต็มทนแล้ว”

ชาคริตยิ้มอย่างสมใจ พาเธอไปลงทะเบียนตามประวัติที่เขากรอกทิ้งไว้ก่อนหน้า ญาดาทึ่งมาก ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะเจ้าแผนการและเตรียมพร้อมทุกอย่างขนาดนี้ แถมตามประกบทุกฝีก้าวจนเธออ่อนใจ

เจ้าหน้าที่เฝ้ามองสามีภรรยาลูกค้าวีไอพีคู่ล่าสุดด้วยสายตาชื่นชม โดยเฉพาะตัวสามีที่เป็นห่วงเป็นใยภรรยาแบบออกนอกหน้า ญาดาต้องข่มใจไม่ให้อาละวาด แล้วก็ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อถูกพามาเจาะเลือด

“ถ้าจะให้รู้ผลถูกต้องร้อยเปอร์เซ็นต์ต้องตรวจเลือดนะคะ น่าจะรู้ผลพรุ่งนี้เช้า แต่ถ้าตรวจปัสสาวะก็รู้ผลวันนี้”

ชาคริตเลือกวิธีตรวจเลือดเพื่อให้ชัวร์ ก่อนจะแกล้งเย้าภรรยาเรื่องกลัวเข็มฉีดยา

ญาดาเหลืออด สวนไม่ไว้หน้า “นั่นภรรยาคนก่อนของคุณนะคะที่กลัวเข็มน่ะ แล้วภรรยาที่คุณเพิ่งหย่าไปก็แพ้นม คุณอย่าสับสนอีกนะคะ...ที่เห็นเอาใจๆนี่ สร้างภาพทั้งนั้นล่ะค่ะ”

ชาคริตไม่สะทกสะท้าน ตีมึนทำตัวเป็นสามีตัวอย่างคอยประคองและประคบประหงมภรรยาอย่างดีตลอดการเจาะเลือดจนเหล่าเจ้าหน้าที่เชื่อสนิท ญาดาคร้านจะขัดขืน ปล่อยให้เขาทำตามใจจนเสร็จกระบวนการ

“คุณเหนื่อยแล้วล่ะสิ”

“เหนื่อยสู้กับคุณนี่แหละ คนที่นี่เห็นเราเป็นตัวประหลาดไปหมดแล้ว”

“เรามาคุยกันดีๆสักครั้งได้ไหม...ก่อนวันรู้ผล”

“เราจะคุยดีๆกันได้ก็ต่อเมื่อคุณหยุด เรื่องคุณพ่อ... ถ้าหากว่าคุณเข้าใจผิดล่ะ”

“ไม่มีทาง...ผมมีสายแค่ไหนคุณก็รู้ ผมอยากให้คุณเตรียมใจไว้...คุณจะต้องผิดหวังเมื่อรู้ว่าพ่อคุณเคยทำอะไร”

ญาดาถอนใจยาวกับความรั้นของสามี ย้อนเสียงเย็น “แล้วคุณล่ะ...ถ้าเรามีลูกจริงๆ ลูกเราต้องเตรียมใจเหมือนกันใช่ไหม คุณคิดว่าคุณพร้อมจะเป็นพ่อแล้วเหรอ ลูกจะภูมิใจไหมที่มีพ่ออย่างคุณ...”

ooooooo

ญาดาไม่ละความพยายามจะหาทางหนี ชาคริตตามขวางทุกทางจนเธอเหนื่อยใจ ยอมรับข้อเสนอจะค้างคืนเพื่อรอผลตรวจถึงวันรุ่งขึ้น

“ถ้าพรุ่งนี้คุณรู้ผลแล้ว...คุณจะปล่อยฉันกลับบ้านใช่ไหม”

ชาคริตบ่ายเบี่ยง เลี่ยงตอบให้รอถึงพรุ่งนี้ญาดาเบื่อจะเซ้าซี้ ประกาศกร้าว

“อย่าคิดว่าฉันจะยอมนอนด้วย”

“ที่นี่เขาให้สามีคอยดูแลภรรยาตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง ยิ่งพ่อแม่ใกล้ชิดกันก็จะดีกับลูกในท้อง”

“เลิกพูดคำนี้ได้ยัง...ลูกในท้อง...ฉันไม่อยากได้ยินคำนี้แล้ว”

พูดพลางเดินหนี ชาคริตรั้งตัวไว้และดึงไปนอนด้วยกันบนเตียง ญาดาแตะท้องอย่างอัตโนมัติด้วยความเป็นห่วงลูก ทำให้ชาคริตมั่นใจว่าเธอท้องลูกของเขาแน่ๆ

“ผมขอกอดคุณเท่านั้น”

“คุณบอกเองว่าผู้ชายไม่เคยหยุดแค่นั้น”

“เพื่อคุณ...ผมทำได้”

ชาคริตกระชับอ้อมแขนแน่นขึ้น ระดมจูบตั้งแต่ขมับระเรื่อยจนถึงมุมปาก ญาดาต้องร้องห้าม

“อย่าค่ะ...คุณไม่รู้เหรอว่าสามเดือนแรก... เขาห้าม”

คำพูดหลุดปากของเธอทำให้ชาคริตชื่นใจอย่างบอกไม่ถูก

“ผมไม่ต้องรอฟังผลพรุ่งนี้แล้วใช่ไหม พูดให้ชัดๆเคลียร์ๆอีกครั้งได้ไหม”

ญาดาอยากจะกัดลิ้นตัวเองนัก สุดท้ายก็ต้องสารภาพแต่ยังไว้ฟอร์ม

“ฉันท้องค่ะคุณคริต แต่...แต่ไม่รู้ว่าท้องกับคุณหรือเปล่านะ”

ชาคริตไม่ถือสาคำพูดกวนประสาท แกล้งกอดแน่นขึ้นและทำท่าจะปล้ำ ญาดาหวีดร้องอย่างลืมตัว เขาเลยเลิกแกล้งแล้วโอบเธอเบาๆอย่างปลอบโยน กระซิบอ้อนข้างๆหู

“ผมพร้อมเป็นพ่อแล้ว...ดา”

ระหว่างที่ชาคริตปรับความเข้าใจกับญาดาเขมิการ้อนรนที่พี่สาวหายตัวไปทั้งคืน ต้องแล่นมาขอความช่วยเหลือจากทัศนะถึงบ้าน แล้วก็ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นสภาพบ้านโล่งเหมือนพร้อมจะย้ายออก

เพ็ญขวัญให้การต้อนรับอย่างดีเหมือนเคย จนเขมิการู้สึกผิดที่เคยวีนใส่อีกฝ่ายเมื่อครั้งก่อน ทัศนะมองมาด้วยสีหน้าเย็นชา ก่อนจะเดินมาหาและเปิดฉากสนทนาอย่างรู้ทัน

“ไม่ต้องห่วง ขวัญไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น”

“ค่ะ...เขมดีไม่ถึงครึ่งของน้องขวัญ ถ้าใครทำเขมเจ็บ...เขมต้องใช้เวลา”

“คุณมาเรื่องคุณดาไม่ใช่เหรอ คุณไม่ต้องห่วงหรอก คุณดาเอาตัวรอดได้ ไม่กี่วันก็คงกลับ”

พูดจบก็จะผละหนี แต่เขมิการั้งไว้ อ้อนวอนด้วยสายตาจนเขาใจอ่อนเหมือนเคย

“ถ้าคุณยังไม่สบายใจ ผมจะโทร.ถามนายคริตให้”

“คุณเปลี่ยนไปมาก”

ทัศนะถอนใจยาว สวนอย่างเหลืออด “คุณต้องการให้ทุกอย่างเหมือนเดิม...เหมือนเดิมแบบไหน แบบที่ตามใจคุณทุกอย่างงั้นเหรอ คุณต้องการเวลา แต่ผมไม่มีเวลาให้คุณแล้ว”

“แล้วที่คุณบอกว่ารักเขม”

“ไม่รู้สิ...ผมคงแค่อยากยื้อคุณไว้มั้ง”

“นี่คุณเอาคืนเหรอ พูดให้เขมเจ็บ...เหมือนตบหน้าเขมกลับ”

“แล้วแต่จะคิด...”

ooooooo

ทัศนะมีท่าทีหมางเมินจนเขมิกาใจเสีย เจ็บแปลบหัวใจอย่างบอกไม่ถูกที่เขาทำเหมือนไม่เหลือเยื่อใย เพ็ญขวัญเดินมาหาและโอบปลอบ คุณหนูคนสวยเลยปล่อยโฮอย่างสุดกลั้น

“เราคงไม่ได้เจอกันอีกแล้วใช่ไหม”

“พี่เขมยังอยากเจอเราอีกเหรอคะ”

“บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่อบอุ่นที่สุด...พี่จะไม่มีวันลืม ขอบคุณขวัญสำหรับทุกๆอย่างนะ”

“พี่เขมไม่ต้องขอบคุณ ขอแค่ยกโทษให้พี่นะก็พอ... ได้ไหมคะ ที่ผ่านมา...พี่นะไม่รู้ว่าพี่คริตมีแผนอะไร

แล้วพี่นะก็พูดอะไรไม่ได้เพราะความเป็นเพื่อน”

“พี่รู้ๆ...พี่ยกโทษให้เขานานแล้ว แต่สำหรับคุณนะ... พี่ไม่รู้ เขาโกรธเกลียดพี่ไปแล้ว”

“พี่เขมยังรักพี่นะอยู่ใช่ไหม”

คำถามตรงประเด็นทำให้เขมิกาไปไม่ถูก เพ็ญขวัญมั่นใจว่ามาถูกทางเลยคิดหาทางให้อีกฝ่ายคืนดีกับพี่ชาย...

เช้าวันเดียวกันที่สถานพยาบาล...ชาคริตตื่นมาแล้วไม่เห็นญาดาก็ตกใจ วิ่งพล่านป่วนไปทั่วจนบรรดาเจ้าหน้าที่หัวหมุน จนกระทั่งเจอว่าญาดาไม่ได้หายตัวไปไหน แต่ไปเข้าคอร์สบำบัดกับว่าที่คุณแม่คนอื่น

ชาคริตกอดภรรยาแน่นด้วยความรักและโล่งอก หมดมาดมาเฟียหนุ่มเลือดร้อนจากฮ่องกง ญาดายืนอึ้งแต่ก็ปลื้มใจไม่น้อยที่เขาร้อนรนด้วยความเป็นห่วง แล้วก็ถึงกับน้ำตารื้นเมื่อเห็นเขาดีใจที่รู้ผลจากหมอว่าเธอตั้งท้องจริงๆ

ญาดายอมให้ชาคริตดูแลเพื่อตัดรำคาญ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดีที่มีเขาป้วนเปี้ยนใกล้ๆ ชาคริตทำตัวเป็นว่าที่คุณพ่อและสามีที่ดี ดูแลเธอดีทุกเรื่อง จะมีแค่เรื่องอาหารที่เขาบังคับให้เธอกินแต่อาหารรสจืดๆ

ชาคริตเห็นเธอจ้องจานสเต๊กของเขาตาละห้อยก็สงสาร แต่ยังใจแข็งไม่ยอมให้เธอคว้าขวดเครื่องปรุง

“คนท้องห้ามกินเค็ม”

“ก็มันจืดมาก ถ้าฉันอยู่ต่ออีกวัน ฉันตายแน่”

“คุณท้องอยู่...คนท้องอย่าพูดคำไม่เป็นมงคล”

ญาดาหงุดหงิดมาก โวยอย่างเหลืออด “ฉันอยู่ที่นี่ไม่ไหวแล้วนะ ฉันจะไม่กินน้ำผักปั่นทุกวัน ฉันจะไม่ตื่นตีห้าเพื่อสัมผัสแสงอาทิตย์ทุกเช้า หรือว่านั่งสมาธิวันละสามชั่วโมง”

ชาคริตเข้าใจความรู้สึกเธอดี ตัดสินใจป้อนสเต๊กในจานตัวเองให้เพื่อปลอบใจ

“ได้...คุณไปจากที่นี่ได้ทุกเมื่อ ผมตามใจคุณทุกอย่าง”

“แน่นะ...คุณจะตามใจทุกอย่าง”

ญาดาได้ใจมาก ลากสามีไปออกกำลังอย่างที่ชอบ ชาคริตหัวใจจะวายกับสารพัดท่าผาดโผนของภรรยา ห้ามเธอเสียงเข้มทุกอย่างจนญาดาทนไม่ไหว แหวลั่น

“คนท้องไม่ใช่คนป่วยนะ ฉันทำการบ้านมาเหมือนกัน ตอนนี้ร่างกายฉันทำงานเพิ่มเป็นสองเท่า...ฉันต้องเตรียมตัวให้แข็งแรง ฉันทำเพื่อลูกเรานะ”

ชาคริตยิ้มกว้างเมื่อได้ยินคำว่าลูกของเราจาก

ปากภรรยา

“ผมก็ดูแลคุณเพื่อลูกเราเหมือนกัน”

ญาดายิ้มเจื่อนที่เผลอหลุดปาก แก้เก้อด้วยการโต้งอนๆ

“คนท้องอยากออกกำลังกาย!”

ชาคริตต้องยอมให้ภรรยาเล่นโยคะสำหรับคนท้อง โดยมีตัวเองตามประกบ แต่สุดท้ายก็ทนหวาดเสียวแทนไม่ไหว ต้องลากเธอออกจากห้องโยคะกลางคัน!

ญาดาขำระคนอ่อนใจกับความกังวลเกินกว่าเหตุของชาคริต แม้จะชอบใจที่เขาประคบประหงมเธออย่างดีตลอดเวลา แต่ก็อดขำไม่ได้ที่เขาทำท่าเหมือนคุณพ่อจอมเฮี้ยบที่กลัวทุกอย่างจนหมดมาดมาเฟีย

ชาคริตเห็นภรรยาหัวเราะก็นิ่วหน้างอนๆ ก่อนจะยิ้มกว้างด้วยความสุขใจอย่างบอกไม่ถูก

“ผมยอมเป็นตัวตลกให้คุณ ถ้าทำให้คุณหัวเราะ... แล้วก็ยิ้มให้ผมทุกวันแบบนี้”

ooooooo

ไตรทศมีนัดกับชญานีแต่ถูกบอดี้การ์ดของญาดากันทุกทางไม่ให้เจอกัน ชายหนุ่มนักซิ่งฉวยจังหวะตอนเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังทำกายภาพบำบัดที่โรงพยาบาล แอบหนีไปจนได้

ชญานีก็ถูกปิงที่ได้รับคำสั่งจากชาคริตให้ตามประกบจนกระดิกตัวแทบไม่ได้ แต่กระนั้นก็ไม่ยากเกินความสามารถอดีตเด็กสาวข้างถนน หลอกล่อจนบอดี้การ์ดหนุ่มคลาดสายตาจากเธอ!

สองหนุ่มสาวนัดเจอกันหน้าโรงพยาบาล ชญานีเห็นสภาพไตรทศแล้วอดขำไม่ได้ เพราะทั้งเขากับเธอดูไม่ได้ไม่ต่างกัน ต้องปลอมตัวและสวมเสื้อผ้าของคนอื่นเพื่อหนีออกมา

“อยากขำนะ แต่ขำไม่ออก”

“อย่างนี้ชีวิตถึงจะมีสีสัน”

“ขอให้ได้เจอกัน...ผมสู้”

“แต่ตอนนี้คงต้องถอยก่อน แล้วค่อยสู้ทีหลัง”

ชญานีเอ่ยเสียงเรียบเมื่อเห็นปิงเดินมาพร้อมบอดี้การ์ดของญาดา ไตรทศหน้าเครียด ก่อนจะส่งสายตาเป็นสัญญาณให้ จับมือเธอและวิ่งหนีไปด้วยกัน...

ชาคริตไม่ได้นึกถึงเรื่องชญานีกับไตรทศเลย มัวใช้เวลาอย่างคุ้มค่ากับญาดาในฐานะว่าที่คุณพ่อ ญาดา

ยอมให้เขานอนกอดจนพอใจ แล้วค่อยๆขยับตัวออก แต่ก็ถูกเขาดึงกลับไปกอดอีกครั้ง

“จะหนีไปไหน”

“ไม่ได้หนี ดา...เอ่อ...ฉันอยากให้คุณนอนสบายๆ”

ท่าทางเหมือนจะอ่อนลงของภรรยาทำให้ชาคริตได้ใจ อ้อนเสียงหวาน

“กลับมาเป็นดาคนเดิมของผมได้ไหม ทุกครั้งที่ผมมีคุณอยู่ข้างๆ...ผมหลับได้ยาว  ไม่ฝันร้ายเลย...คุณรู้ไหมว่าทำไมเด็กที่อยู่ในอ้อมกอดแม่ถึงได้หลับสนิท”

อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 13 วันที่ 3 ม.ค.61

ละครเรื่อง ระเริงไฟ บทประพันธ์โดย โสภี พรรณราย
ละครเรื่อง ระเริงไฟ บทโทรทัศน์โดย พิมพ์ธนา และ เอกชยา
ละครเรื่อง ระเริงไฟ กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง ระเริงไฟ ผลิตโดย บริษัท ชิติเช่น เคน จำกัด
ละครเรื่อง ระเริงไฟ ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ