อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 2 วันที่ 7 ม.ค.61
ชยุติเข้าบ้านอย่างเซ็งๆ วลัยถามวลีคิดอย่างไรกับเด็กบัว วลีคิดว่าบัววางแผนจับชยุติจนตัวสั่น ดีที่เราไปเจอก่อน แล้วเปลี่ยนมากังวลกลัวคืนนี้อาม่าจะสร้างเรื่องอีกมาลัยเดินมาได้ยินถามว่าใคร ทั้งสองสะดุ้ง เธอว่าไม่ต้องห่วง ตนรู้ว่าคนแก่ไร้ค่าอย่างตนต้องทำอะไร
ทั้งสองรีบปลอบว่าอย่าน้อยใจ พวกเธอไม่เคยคิดอย่างนั้น มาลัยเบ้หน้าใส่เดินไป
ค่ำนั้นรถหรูคันยาวแล่นมาจอด วลีนำสมาชิกครอบครัวมาต้อนรับ กนกวิภากับวลัยตื่นเต้นไปด้วย ล้วน แสงเดือนและยิ่งจันทร์ลงจากรถมาด้วยชุดหรูแบบงานกาลาดินเนอร์ วลีกับวลัยแย่งกันเข้าต้อนรับอย่างถึงเนื้อถึงตัว วลัยลูบคลำรถอย่างลืมตัว
“รถสวยจังเลยค่ะ อุ๊ย! คุณพี่ขา สวยอะไรอย่างนี้ แพงมากใช่ไหมคะ”
“จะว่าแพงก็แพงล่ะค่ะคุณน้องขา แต่แลกกับความสะดวกสบายเล็กๆน้อยๆก็ต้องยอม รถในกรุงเทพฯติดเหลือเกิน ทีแรกเราตั้งใจจะมาด้วยเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัวกันนะคะเนี่ย แต่ไม่แน่ใจว่าที่นี่จะมีที่ให้ลงจอดรึเปล่า”
ไชโยบอกจอดหน้าบ้านได้เลย ยิ่งจันทร์สวัสดีผู้ใหญ่ทุกคนแล้วหันไปกรี๊ดกร๊าดกับกนกวิภา เอาสะโพกบั๊มพ์กันเป็นท่าทักทายประจำตัว ชยุติเดินมาสมทบ ยิ่งจันทร์ตะลึงกับความหล่อจนเก็บอาการไม่อยู่ โผเข้าไปไหว้แนบอกแทบจะกลายเป็นกอด ชายหนุ่มตั้งตัวไม่ทันไม่รู้จะเอามือไว้ไหน มาลัยเห็นกิริยาของยิ่งจันทร์ก็เบะปากส่ายหัวเดินไป
ล้วน แสงเดือนและยิ่งจันทร์เห็นอาหารบนโต๊ะก็ตาโตแอบเลียปากกันนิดๆ วลีออกตัวว่านี่เป็นอาหารปกติที่ทานกัน ส่วนใหญ่มาจากภัตตาคารห้าดาวที่เยาวราช มาลัยนั่งเซ็งที่หัวโต๊ะ แกล้งบ่นดังๆว่า ผักกาดดองของโปรดตนไปไหน กุนเชียงทอดด้วย วลีกับไชโยหน้าเจื่อน
กนกวิภารีบแก้แทน “อาม่าท่านคงจะหลงๆลืมๆน่ะค่ะ อาม่าคะเดี๋ยวลองทานปลากะพงดีกว่านะคะ เนื้อไม่เหนียว ทานง่าย อาม่าน่าจะชอบ”
“หนกเอ๊ย! ลื้อไม่สบายอะไรรึเปล่า ทำไมวันนี้เอาใจอั๊วจัง”
กนกวิภาหน้าเสีย ยิ้มเรี่ยๆกลบเกลื่อน ยิ่งจันทร์ตักอาหารเอาใจชยุติ วลัยบอกให้เรียกพี่ติจะได้ดูสนิทสนมกัน ยิ่งจันทร์หันมาอ้อนถามแม่ว่าควรเรียกแบบไหนดี มาลัยแทรกขึ้น
“จะเรียกอะไรก็เรียกไปเถอะ ปกติอั๊วก็เรียกมันไอ้ตี๋ตลอดอยู่แล้ว”
ชยุติขำในขณะที่คนอื่นๆขำไม่ออก...แขกพิเศษทั้งสามพ่อแม่ลูกหันมาสนใจอาหารบนโต๊ะ และจ้วงกินอย่างตายอดตายอยาก ขัดกับมาดที่วางไว้ตั้งแต่ตอนมาถึง
สุดท้ายอาหารทั้งโต๊ะเหลือแต่จานเปล่า ล้วนเรอเอิ้กออกมาก่อนจะชมว่าอร่อยทุกอย่าง ไชโยออกตัวว่าบ้านเราทานแต่ของดีๆ ถ้าไม่เกรงใจมาทานได้ทุกวัน แสงเดือนตาโพลง
“ได้จริงเหรอคะ แต่ดิฉันกับสามีก็อายุเยอะแล้ว จะเดินทางไปมาบ่อยๆก็คงไม่ได้ ขอส่งหนูจันทร์มาเป็นตัวแทนเพื่อทานข้าวละกันนะคะ”
กนกวิภาชมว่ายิ่งจันทร์แต่งตัวสวย อยากสวยเหมือนเธอบ้าง วลัยบอกว่ายิ่งจันทร์เป็นนางแบบมืออาชีพ ช่วงนี้คงทำงานหนัก ยิ่งจันทร์ยิ้มเรี่ยๆอ้างช่วงนี้อยากพักไม่รับงาน อยากหางานอื่นทำบ้าง อาจจะรับงานแสดงละคร วลีสบตากับวลัยทำนองไม่ค่อยชอบแต่ต้องยิ้มกลบเกลื่อน ทำทีขอลายเซ็นล่วงหน้า ล้วนตัดบทหันมาทักชยุติว่าเรียนจบกลับมาดูมีราศีขึ้นเยอะ
“จันทร์ว่าจะถามอยู่พอดีเลยค่ะ ตอนพี่ติเรียนที่ฟิลิปปินส์ อยู่จังหวัดอะไรคะ”
ทุกคนทำหน้างงๆ ล้วนกระซิบลูกสาวว่าเขาเรียก เมืองไม่ใช่จังหวัด ยิ่งจันทร์หัวเราะบอกปกติอยู่บ้านพูดอังกฤษตลอดเลยนึกคำไทยไม่ออก ชยุติพยักหน้าแล้วตอบว่าตนอยู่เมืองเกซอนซิตี้ บนเกาะลูซอน ยิ่งจันทร์ทำท่าใหญ่มากหลุดคำพูดติดปากออกมา
“บรรเจิดเริ่ดสะแมนแตนซะไม่มี เกาะลูซอน จันทร์ไปบ่อยค่ะ ที่มีลิงเยอะๆใช่ไหมคะ”
“เอ่อ...อันนั้นเกาะสมุยหรือเปล่าครับ”
ยิ่งจันทร์หน้าแตกเพล้ง แสงเดือนแก้แทนให้ลูกสาวว่า ยิ่งจันทร์เดินทางท่องเที่ยวรอบโลกเลยจำสับสน... มาลัยเหน็บให้ไปหาแปะก๊วยกินเสียบ้างจะได้บำรุงสมอง วลีเปลี่ยนเรื่องชวนทุกคนทานเค้กของโรงแรมที่ขึ้นชื่อมาก มาลัยอมยิ้มเรียกจ๊าดมาพากลับห้องทันที วลีกับวลัยเห็นอาม้าตัวเองกลับห้องก็โล่งใจ ไม่ต้องมีใครคอยขัดอีก
เค้กถูกยกออกมาพร้อมเทียนปักให้ชยุติเป่าเนื่องจากวันเกิด ไชโยกล่าวอวยพรที่เขาเป็นลูกที่สร้างความภาคภูมิใจให้วงศ์ตระกูล ตนขอมอบตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของโรงงานน้ำปลาให้แก่เขา ทุกคนกรี๊ดกร๊าดปรบมือดีใจ ชยุติขอบคุณรับปากจะพยายามทำให้ดีที่สุด วลีเข้ากอด
“ม้ารักและภูมิใจในตัวลูกม้ามากรู้ไหม วันเกิดปีนี้ม้าจะให้ของขวัญที่มีค่าที่สุดกับลูก”
“ไม่เป็นไรหรอกครับม้า เท่าที่ผ่านมาม้าให้ทุกอย่างผมมากพอแล้วครับ”
“น่ารักจริง แต่เป็นลูกผู้ชาย อะไรม้าก็ไม่ห่วงเท่าเรื่องเลือกคู่ครองคู่ชีวิตหรอกนะ”
“โธ่ม้าครับ ผมยังไม่เคยคิดถึงเรื่องแบบนั้นหรอกครับ คงจะยังอีกนาน”
วลัยยุให้วลีพูดไปเลย วลีจึงหันไปพูดกับแสงเดือน ว่าในฐานะแม่ของชยุติ ขอยิ่งจันทร์ให้มาเป็นสะใภ้บ้านนี้ มาเป็นคู่ครองของลูกชาย ชยุติตกใจปรามวลี ล้วนกับแสงเดือนรีบรับคำและฝากชยุติดูแลลูกสาวพวกตนด้วย ยิ่งจันทร์ดีใจแต่ต้องแอ๊บเขิน
“เดี๋ยวครับ มันจะไม่เร็วไปหน่อยเหรอครับ”
“ของแบบนี้รอช้าไม่ได้หรอกจ้ะ ลูกจันทร์อย่ามัวแต่อายสิลูก ลูกเตรียมของขวัญวันเกิดมาเซอร์ไพรส์พี่เขาด้วยไม่ใช่เหรอลูก มอบให้พี่เขาซะสิ”
ยิ่งจันทร์รับคำหยิบกล่องแหวนออกมา เปิดให้ชยุติ เป็นแหวนเพชรเม็ดโต “แฮปปี้เบิร์ธเดย์ค่ะพี่ติ ชอบไหมคะ ชอบใช่ไหมล่ะ นึกแล้วเชียว บรรเจิดเริ่ดสะแมนแตนซะไม่มี”
ไชโยจับมือชยุติยื่นให้ยิ่งจันทร์สวมแหวน กนกวิภาช่วยถ่ายรูป ยิ่งจันทร์ขยับเข้าชิดชยุติจนแทบจะเกยบนตัว ชยุติทำหน้าอย่างกับนักโทษโดนจองจำด้วยเครื่องพันธนาการ ยิ่งจันทร์สวมแหวนให้เขาแล้วจู่โจมจุ๊บแก้มเขาเต็มรัก ทุกคนเฮปรบมือ
ชยุติจำใจตัดเค้กใส่จานส่งให้ทุกคน ไชโยยุให้ลูกชายป้อนยิ่งจันทร์ จะได้ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึก
ยิ่งจันทร์ทำท่าเขินอายก่อนจะอ้าปากรอ แต่พอเค้กเข้าปากก็หน้าเจื่อนกับรสชาติทั้งเค็มทั้งเผ็ดของเค้ก ไชโยถามอร่อยไหม เธอต้องฝืนกลืนและยิ้มรับว่าอร่อยมาก ทุกคนยิ้มชื่นตักเค้กเข้าปาก ยกเว้นชยุติ แล้วทุกคนต้องทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่เสแสร้งว่าอร่อย
ในห้องพระ มาลัยบ่นกับภาพเทียนสามี ด้วย ความรู้สึกอ้างว้าง “บ้านช่องใหญ่โตมันก็แค่เปลือกฉาบฉวย ทุกคนอยากได้ใคร่มีจนไม่รู้ว่าความสุขที่แท้จริงคืออะไร เมื่อไหร่นะ อั๊วถึงจะหลุดออกไปจากกรงขังนี่เสียที”
ooooooo
ช่วงพักเปลี่ยนฉาก บัวกลับเข้ามาหลังเวที เจียงถามคิดอะไรดูไม่ค่อยร่าเริง บัวบอกว่ากลัวคนดูไม่ชอบ หลอปลอบอย่าคิดมาก คนดูมาเยอะเพราะตั้งใจมาดูเธอแสดง ตรึงจิตหมั่นไส้บ่นแทรกเข้ามาว่า ทำอย่างกับไม่เคยดูงิ้วมาก่อน กับแค่งิ้วฝึกหัดเล่นแค่ไม่กี่วัน
“เก่งไม่เก่ง คนก็มาดูอาบัวเยอะกว่ามาดูลื้อละว้า อาตรึงจิต” หลอเถียงแทน ดำเกิงเสริม
“ใช่ ทำได้อย่างเขารึเปล่าล่ะ ถ้าทำไม่ได้ก็อย่าพูดเลยดีกว่า เฉาฉุ่ยเหม็นขี้ฟัน!”
ตรึงจิตเข่นเขี้ยวจะคอยดูว่าไปได้สักกี่น้ำ ดำเกิงบ่นว่าบัวอุตส่าห์มาช่วยยังไม่สำนึก...ด้านชยุติ ครอบครัวยิ่งจันทร์กำลังลากลับ แสงเดือนเชิญทุกคนวันหลังไปทานข้าวที่บ้านบ้าง วลีรับปากทันทีเพราะอีกไม่นานจะเป็นทองแผ่นเดียวกันแล้ว ยิ่งจันทร์เข้าอ้อนชยุติ
“รักษาแหวนวงนี้ให้ดีเหมือนกับ...หัวใจของจันทร์ฝากไว้ที่พี่ติแล้วนะคะ”
“ว้าย...หวานจังเลยค่ะพี่จันทร์ขา” กนกวิภาชื่นชม
“บรรเจิดเริ่ดสะแมนแตนใช่ไหมคะ คุณน้อง”
แสงเดือนดึงลูกให้ขึ้นรถ สองแม่ลูกเปิดหน้าต่างรถโบกมือราวกับคนดัง วลีกับวลัยมองอย่างปลาบปลื้ม ไชโยหันมาย้ำกับชยุติว่า รู้แล้วใช่ไหมทำไมต้องจับยิ่งจันทร์ให้อยู่มือ ชยุติจะแย้ง ไชโยยกมือห้าม บอกป๊าวางแผนชีวิตให้หมดแล้ว หน้าที่เขาคือทำตามที่ป๊าม้าสั่งเท่านั้น
“พี่จันทร์ทั้งสวย ทั้งรวย ทั้งโก้ พี่ติเป็นผู้ชายที่น่าอิจฉาที่สุดในโลกเลย รู้ไหมคะ” กนกวิภาแย่งพูดทำให้ชยุติเถียงไม่ทัน
วลีนึกได้แว้ดออกมาเรื่องเค้กที่มีรสชาติอุบาทว์อย่างนั้น กนกวิภายุให้เอาเรื่องให้ได้ วลีเล่นงานจี๊ดกับจ๊าด ไล่เลียงจนพอจะรู้เลาๆว่าน่าจะเป็นฝีมือมาลัย วลีอยากจะบ้าตายที่อาม้าของตัวเองไม่คล้อยตามบ้างเลย
ชยุติมาบ่นกับมาลัย ถ้าตนจะมีเมียสักคนอยากเลือกด้วยตัวเอง มาลัยหัวเราะที่แผนคลุมถุงชนคงไม่สำเร็จแน่ ชยุติกลับเข้าห้องถอดแหวนที่ยิ่งจันทร์ให้วางไว้ แล้วนั่งลงสีรูปบัวจนเสร็จ
ในรถหรูคันงาม ยิ่งจันทร์บ่นกระปอดกระแปดไม่น่ารีบกลับ พร้อมถอดเครื่องประดับทั้งหมดส่งให้คนขับรถ แสงเดือนก็ถอดเช่นกัน บอกลูกสาวว่า
“ขืนอยู่ต่อแล้วเราจะมีปัญญาจ่ายค่าเช่ารถคันนี้เพิ่มอีกไหมล่ะ ชั่วโมงละไม่ได้ถูกๆนะยะ ส่งรถคืนช้าเศษชั่วโมงมันก็คิดเป็นหนึ่งชั่วโมง เค็มซะไม่มี”
“แหม อุตส่าห์ลงทุนแล้วก็น่าจะทุ่มซะหน่อยถือซะว่าเอากุ้งฝอยไปตกปลากะพง”
ล้วนสวนคำพูดของลูกสาว ว่าห้าชั่วโมงนี่ก็หมื่นห้าแล้ว ยิ่งจันทร์ว่าทีแหวนยังลงทุน แสงจันทร์บอกแหวนนั้นล้วนซื้อของหลุดจากโรงจำนำ ยิ่งจันทร์ตกใจเกรงพวกวลีจะรู้ แต่แสงจันทร์รู้ว่าวลีตาถั่ว ซื้อของปลอมให้ยังได้ ล้วนย้ำยิ่งจันทร์ต้องจับชยุติให้อยู่หมัด...คนขับรถจอดให้สามพ่อแม่ลูกลงกลางทางเพราะหมดเวลาเช่า ทั้งสามต้องโบกรถสามล้อต่อกลับบ้าน
ในขณะที่บัวแสดงเสร็จ ยังตื่นเต้นไม่หายที่คนดูเพิ่มขึ้นมาก หลอบอกเจียงว่าแบบนี้คงต้องให้บัวแสดงตลอดไป แต่เจียงกลับยืนกรานว่าให้แสดงแค่คืนนี้คืนเดียว... บัวเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จออกมาเก็บกวาดขยะหน้าเวที
ชยุติเข้ามายื่นซองรูปภาพที่วาดให้ บอกว่าเป็นของขวัญวันเกิดเล็กๆน้อยๆจากเขา บัวเปิดดูเห็นภาพตัวเองในชุดนางพญางูขาวสวยสง่าก็ยิ้มปลื้ม ชยุติถามวันเกิดทั้งทีทำไมมาอยู่ตรงนี้คนเดียว บัวตอบด้วยสีหน้าเศร้า จะวันไหนๆ สำหรับตนก็ไม่ต่างกัน
ชยุติอยากให้เธอระบายความไม่สบายใจออกมาบ้าง บัวสบตาแล้วปัดว่าดึกแล้วจะกลับบ้าน พลันบนท้องฟ้ามีดาวตก บัวรีบหลับตาอธิษฐาน ชยุติเห็นแล้วอมยิ้มหลับตาอธิษฐานบ้าง พอลืมตาเขาก็ถามบัวว่าอธิษฐานอะไร เธอไม่บอกเดินเลี่ยงไปอย่างเขินๆ
เข้าบ้านมาบัวได้ยินเสียงกรนของดำเกิงก็รู้ว่าคงเหนื่อยมากจึงช่วยพลิกตัวให้ ดำเกิงละเมอสู้เขานะบัว เธอขำเดินเข้าห้องยืนมองท้องฟ้าริมหน้าต่าง คิดถึงชยุติอย่างชื่นมื่นหัวใจ
ooooooo
เช้าวันใหม่ ดำเกิงทำเส้นบะหมี่และหมักหมูแดงเอง ทำก๋วยเตี๋ยวให้บัวชิม บัวยอมรับว่าอร่อยมากสามารถทำขายได้เลย ดำเกิงบ่นว่าเจียงไม่ยอมให้ขาย กลัวไปแย่งอาชีพชาวบ้าน
วลีเข้ามาในห้องชยุติ เห็นเขาไม่ใส่แหวนของยิ่งจันทร์ก็บ่นว่าทำแบบนี้คนให้จะเสียใจ ให้สวมติดนิ้วไว้ตลอด พอมองไปเห็นนกที่ทำด้วยขวดพลาสติกแขวนอยู่ก็บอกว่าไม่เข้ากับห้องให้เอาไปทิ้งเสีย ชยุติถอนใจ ปลดออกมาเก็บไว้ในตู้แทน
เช้านี้เจียงตัดสินใจมาหาไหมฟ้า ซึ่งนอนอยู่กับอาตี๋ขายกระเพาะปลา เจียงมองสภาพบ้านที่รกรุงรังแล้วหน่ายใจ แต่ด้วยความที่ไม่อยากให้บัวเล่นงิ้ว จึงขอร้องไหมฟ้าให้กลับไปเป็นนางเอกงิ้วของคณะต่อ ไหมฟ้ายืดอกอย่างลำพองที่ตนมีความสำคัญขึ้นมา จึงต่อรองให้ไล่ตรึงจิตออกถึงจะยอมกลับไป เจียงอึ้งมองไหมฟ้าด้วยความผิดหวัง
พอตรึงจิตรู้เรื่องก่นด่าไหมฟ้ายกใหญ่ ดำเกิงบอกดีแล้วที่เจียงไม่ทำตาม ต่อไปก็ให้บัวแสดงแทน แต่เจียงไม่ยอมให้บัวเล่นงิ้วอีก หลอช่วยขอร้องและจะเป็นคนขัดเกลาบัวให้
“ซินแส อั๊วคิดดีแล้ว ตรึงจิตอีก็เล่นได้เหมือนกัน บัวยังต้องเรียนหนังสือ มีอนาคตกว่าเล่นงิ้วแบบนี้ คนสมัยนี้เขาเลิกดูงิ้ว ไปดูหนังดูละครกันหมดแล้ว” เจียงยืนกราน
ตรึงจิตหลงดีใจบอกตนเป็นคนไม่มีอนาคต ตนสมควรเล่น นกขมิ้นกระซิบว่าไม่ใช่เรื่องดี เธอหน้าเหวอ... หลอพยายามเตือนสติเจียงว่า ถ้าไม่ให้คนที่มีพรสวรรค์ช่วยอนุรักษ์งิ้วไว้ สักวันงิ้วก็จะตายไปพร้อมกับตัวเขา เจียงเสียงแข็งว่าจะให้ตรึงจิตสืบทอด ทั้งหลอและดำเกิงค้าน แต่เจียงตัดบท ตนตัดสินใจแล้ว ตรึงจิตยิ้มร่าด้วยความดีใจ
ดำเกิงหงุดหงิดสั่งเด็กในคณะให้ช่วยกันขนของไปโรงงิ้ว จะได้ซ้อมกันก่อนขึ้นเวที ทุกคนหอบอุปกรณ์ใส่รถช่วยกันเข็นไปที่โรงงิ้ว ขณะนั้น กนกวิภาขับรถมาตามทาง ก้มหน้าค้นลิปสติกในกระเป๋าขึ้นมาทาปาก ทันใดเห็นพวกดำเกิงเข็นรถเข็นข้ามถนนอยู่ก็เบรกไม่ทัน ชนโครมข้าวของกระจายขึ้นมากองบนหน้าหม้อรถ ดำเกิงกับพวกล้มคะมำไปคนละทางสองทาง
เด็กในคณะวิ่งไปบอกหลอกับเจียง ดำเกิงโวยวายใส่กนกวิภาที่ขับรถไม่ดูตาม้าตาเรือ หญิงสาวโวยกลับว่าเขากับพวกข้ามถนนไม่ระวัง ทั้งสองเถียงกันหน้าดำหน้าแดงจนเจียงมาถึง กนกวิภาโวยวายหาว่าเอาพวกมารุม หลอปรามให้หยุดโวยวายแล้วคุยกันดีๆ เจียงตัดสินให้ดำเกิงขอโทษ หญิงสาวบอกไม่พอต้องกราบรถด้วย ดำเกิงตอบโต้เสียงแข็ง
“ห๊า! ต้องถึงกับกราบกันเลยเหรอ รถไม่บุบ ไม่มีรอยข่วนรอยขีดซะหน่อยยัยหมวย” กนกวิภาร้องกรี๊ดที่โดนเรียกว่าหมวย ด่ากลับยกใหญ่ เท่านั้นไม่พอ ขึ้นรถขับเหยียบโคลนสาดใส่ดำเกิงทั้งตัวอย่างสะใจ ดำเกิง เจ็บใจบ่นไล่หลัง เจียงหน่ายใจถามเขาเป็นผู้ชายหรือเปล่า
“ถามได้ป๊า ผู้ชายทั้งแท่ง”
“เออ ดีแล้ว เกิดเป็นผู้ชายทั้งทีมันต้องเป็นสุภาพบุรุษด้วยสิวะ เรื่องเล็กๆน้อยๆแค่นี้ ลื้อจะยอมยกโทษให้ผู้หญิงไม่ได้เลยหรือไง”
ดำเกิงกัดฟันกรอด ทั้งเจ็บทั้งแค้นใจ
ooooooo
ในขณะที่ยิ่งจันทร์ตื่นสายโด่งฟ้าลงมา แสงจันทร์บ่นใส่ หญิงสาวบอกแม่ว่าไม่มีงานมาหลายเดือนแล้วรีบตื่นไปทำไม ผู้เป็นแม่ทับถมก็เพราะชอบตื่นสายจนเสียงานใครเขาจะจ้าง ยิ่งจันทร์โวยที่พูดเรื่องเก่า หันมาพูดเรื่องอนาคต เรื่องชยุติจะดีกว่า
ทางชยุติกำลังเดินชมโรงงานน้ำปลาของตระกูล ไชโยกับวลีพูดถึงความยิ่งใหญ่และขั้นตอนการผลิต แล้วย้ำว่าเขาเป็นรุ่นที่สามที่ได้สืบทอด
“น่าภูมิใจนะครับ อากงหอบเสื่อผืนหมอนใบมาจากแผ่นดินใหญ่ จนสร้างเนื้อสร้างตัวมีกิจการโรงงานน้ำปลาใหญ่โตขนาดนี้”
“แต่ก่อนป๊าแกก็ทำงานที่โรงงานนี่แหละ ถ้าไม่ได้แต่งงานกับม้า ป่านนี้ก็คงเป็นแค่หัวหน้าคนงานต๊อกต๋อยคอยหมักน้ำปลา” วลีอดข่มสามีต่อหน้าลูกไม่ได้
ไชโยว่าวลีเป็นคนมาจีบตน วลียอมรับเพราะเขาเป็นคนขยันน่าเอามาดูแลกิจการ ไม่อย่างนั้นตนแต่งงานกับเจ้าของร้านทองสบายไปแล้ว ชยุติถามแม่ไม่ภูมิใจกับมรดกโรงงานนี้หรือ
“กะอีแค่โรงงานน้ำปลา ทั้งเหม็นทั้งคาวมันจะไปสู้ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ทำโรงแรมบ้านจัดสรรอย่างครอบครัวหนูยิ่งจันทร์เขาได้ยังไง อันนั้นน่ะเสือนอนกิน ลงทุนครั้งเดียวสบายไปทั้งชาติ” ไชโยแทรกว่าเสี่ยง วลีสวน “ฉันก็เห็นเขารวยกันมานักต่อนักแล้ว คุณมันไร้น้ำยาเองต่างหาก เดี๋ยวพาตาติเดินดูโรงงานให้ทั่วนะ ฉันจะเข้าไปนั่งตากแอร์ ร้อนแล้วหงุดหงิด”
ไชโยมองตามไล่หลังภรรยาแล้วส่ายหัวเบื่อนิสัยชอบข่มสามีของเธอ...ด้านวลัยเห็นมาลัยขลุกอยู่ในห้องพระก็เข้ามาดู มาลัยเหน็บว่าเป็นห่วงด้วยหรือ ทีเมื่อคืนเสือกไสไล่ส่ง วลัยโอดครวญว่าเมื่อคืนกลัวอาม้าทำเสียเรื่อง มาลัยเตือนเรื่องคลุมถุงชนมันไม่ดี วลัยแย้งเลยโดนดุ
“เห็นไหม อั๊วพูดแล้วลื้อฟังซะที่ไหนล่ะ” วลัยสะอึก “ลื้อก็รู้ใช่ไหมว่าอั๊วกับป๊าลื้อ กว่าจะมีวันนี้ได้ต้องฝ่าฟันอุปสรรคอะไรกันมาบ้าง ถ้าไม่รักกันจริง จะทนกัดก้อนเกลือกินด้วยกันตอนสร้างโรงงานน้ำปลาใหม่ๆ จนพวกลื้อได้สุขสบายอย่างทุกวันนี้ไหม”
“อาม้าพูดเหมือนจะทวงบุญคุณเลยนะคะ”
“อั๊วก็แค่พูดให้ฟัง ให้คิดได้...แล้วมาหาอั๊วมีธุระอะไร”
วลัยบอกให้ไปทานข้าวทานยา มาลัยส่ายหน้าอย่างปลงตกก่อนจะตามลงไป...ทางชยุติชมโรงงานและฟังไชโยอธิบายขั้นตอนการผลิต แล้วถามทำไมต้องใช้ปลาไส้ตันหรือปลากะตักมาทำ ไชโยอธิบายว่าปลาสองอย่างนี้มีความเค็ม หอม มัน อร่อยกว่าปลาชนิดอื่น ชยุติรู้สึกว่าขั้นตอนการผลิตยังไม่ค่อยสะอาด จึงเสนออยากปรับปรุงให้ดีกว่านี้ ไชโยเชื่อมั่นในฝีมือลูก
ooooooo
ในโรงอาหารมหาวิทยาลัย กนกวิภากับเพื่อนเห็นบัวเข้าแถวซื้ออาหารก็เยาะเย้ยถากถางให้เพื่อนๆ ฟังว่าบัวเป็นนางเอกงิ้วชั้นต่ำ ไม่สมควรร่วมโรงอาหารเดียวกัน บัวยิ้มสู้ตอบโต้
“คนเราเกิดมาความจำเป็นไม่เท่ากันหรอกพวกเธอน่ะโชคดีนะที่เกิดมาสมบูรณ์พร้อม ในขณะที่ฉันต้องดิ้นรนเล่นงิ้วร้องงิ้วเพื่อความอยู่รอด แต่อย่างหนึ่งที่ฉันคิดว่า ฉันมีในตัวไม่น้อยไปกว่าพวกเธอก็คือศักดิ์ศรี แล้วก็ความภาคภูมิใจที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์”
อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 2 วันที่ 7 ม.ค.61
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว บทประพันธ์โดย กราตร ศักตาละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว บทโทรทัศน์โดย ยิ่งยศ ปัญญา, สรรัตน์ จิรบวรวิสุทธิ์
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว กำกับการแสดงโดย ธนากร โปษยานนท์
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ผลิตโดย บริษัท ดู เอนเตอร์เทนเมนต์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ควบคุมการผลิตโดย ธัญญา-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ