อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 2 วันที่ 31 ม.ค.61

อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 2 วันที่ 31 ม.ค.61

“พ่อเนี่ยนะเลี้ยงผม ตั้งแต่ผมจำความได้ พ่อก็เอาแต่ทำงาน ชีวิตผมก็มีแค่แม่ และสุดท้ายพ่อก็มาพรากแม่ไปจากผม พ่อทำให้แม่ตาย!” มาร์คพูดใส่หน้าสมบัติอย่างมีอารมณ์ สมบัติโกรธมากทำท่าจะตบแต่เปลี่ยนใจ มาร์คยังคงพูดต่ออย่างอารมณ์ติดพันว่า “เพราะพ่อเป็นแบบนี้ไง ผมถึงไม่อยากกลับมาเหยียบบ้าน”

พูดจบมาร์คก็เดินไปเลย สมบัติได้แต่มองตามด้วยความเจ็บใจ

ขณะที่สมบัติยังนั่งเครียดอยู่ วรรณาน้องสาวของแม่มาร์คกับหมอโอบ หมอประจำตระกูลก็เดินเข้ามา โดยมีแก้วตาถือกาแฟเข้ามาให้สมบัติและ



หมอโอบตามเข้ามาด้วย

วรรณาบอกสมบัติว่าหมอมาหา สมบัติย้อนถามหงุดหงิดว่ามีอะไร คนกำลังเช็งๆ

“ก็มาดูไง ว่าความดันแกสูงทะลุถึงเพดานหรือยัง ฉันจะได้เรียกทนายมาให้แกทำพินัยกรรม”

หมอโอบขี้เล่น เลยโดนสมบัติปรามให้เงียบไปเลย วรรณาเอ่ยว่าเห็นเด็กบอกว่าคุณพี่ทะเลาะกับ

มาร์คอีกตามเคย สมบัติบอกว่าเหมือนเคย คุยกันได้

ไม่เกินสามคำ

“คุณท่านยังไม่ชินอีกเหรอคะ แก้วเห็นเป็นแบบนี้มาตั้งแต่คุณมาร์คอยู่ประถม” แก้วตาพูดประสาคนเก่าแก่

“ไม่ชิน” สมบัติพูดแล้วมองวรรณา “ถ้าได้คุณมาเป็นแม่เจ้ามาร์คมันคงไม่เป็นแบบนี้”

วรรณามองดุๆ ติงว่าเรากำลังคุยเรื่องเครียดและตนก็เป็นน้องแม่ของมาร์คด้วย สมบัติหน้าเสียเลย

แก้เกี้ยวว่าแค่พูดเล่นเท่านั้น วรรณาติงว่าเรื่องมาร์คก็ให้ปล่อยไปบ้างเถอะ สมบัติถามว่าแล้วจะปล่อยให้คน

เขานินทาว่าเป็นตุ๊ดเป็นเกย์เนี่ยนะ

“เป็นเกย์แล้วมันทำไม เขาไม่ได้มีกฎหมาย

ห้ามเป็นซะหน่อย ฉันเป็นเกย์ก็เป็นหมอรักษาแกได้ปกติ” หมอโอบย้อนถาม เลยถูกสมบัติตัดบทว่า หมอจะเป็นอะไรก็เป็นไป แต่ไม่ต้องมาถือหางมาร์ค ย้ำว่า

“เรื่องมาร์ค ถึงมันจะไม่ยอมทำงานบริษัท ฉันก็พอรับได้ทุกอย่าง แต่ไม่ใช่เรื่องนี้”

มาร์คนั่งคุยกับกันต์อยู่ในรถสปอร์ตหรูที่จอดอยู่ที่สวนสาธารณะเรื่องพ่อรับไม่ได้ที่ตนเป็นเกย์ กันต์ถามว่าจนป่านนี้พ่อยังไม่รู้หรือว่าเขาชอบผู้ชาย มาร์คบอกว่าอาจจะสงสัยแต่หลอกตัวเองรับความจริงไม่ได้มั้ง

กันต์ปลอบว่าอย่าเครียด พ่ออาจจะยังไม่ชิน มาร์คบอกว่าชินแต่ไม่ชอบเลยหงุดหงิด กันต์ปลอบว่า

อย่างน้อยมาร์คก็ยังมีตนที่เข้าใจเขาทุกอย่าง

“ขอบใจมากนะกันต์ที่เข้าใจเรา แล้วอยู่ข้างเรามาตลอด ไม่ไปไหน ถ้าไม่มีกันต์คอยให้กำลังใจ เราคงไม่มีบริษัทใหญ่โตจนทุกวันนี้หรอก”

“ออกไปเดินเล่นแก้เครียดกันไหม” กันต์ชวน มาร์คจึงไปเดินเล่นกัน

ที่อีกมุมหนึ่งของสวนสาธารณะ ซินกับแดนนัดพบกันที่นั่น ซินขอบใจที่แดนอยู่กับตนเป็นกำลังใจให้ในวันที่รู้สึกแย่ที่ถูกไล่ออกจากงาน แดนมองหน้าซินเหมือนมีอะไรจะพูด ซินถามว่ามีอะไรหรือ?

“เราเลิกกันเถอะ” แดนบอก ซินอึ้งถามว่าพูดอะไรนะ แดนยืนยันว่า “เราคิดดีแล้ว ขอโทษนะ”

ซินตั้งสติถามว่าเพราะอะไร ตนมีอะไรไม่ดี เขาอยากได้อะไรอยากทำอะไรตนก็ทำให้ ดูแลเขาทุกอย่าง แดนบอกว่าเพราะเธอดีเกินไปแล้วเราก็เข้ากันไม่ได้

“ประโยคเบสิกมาก เชื่อเถอะ มีคนอื่น” มาร์คเดินมาได้ยินพอดีเอ่ยขึ้น กันต์สะกิดไม่ให้พูด ได้ยินแดนพูดต่อไปอีกว่า

“เธอไม่เคยมีเวลาให้เราเลย เราชวนเธอไปต่างจังหวัดไปค้างด้วยกัน เธอก็ไม่เคยไป อย่าว่าแต่ไปค้างด้วยกันเลย แค่จับมือเธอก็ยังไม่ยอม แล้วเราจะคบกันทำไม คบเพื่อจ้องหน้ากันไปมาเหรอ”

ขณะนั้นเอง มือถือแดนมีสายเข้า ซินเห็นรูปแดนถ่ายกับผู้หญิงแว้บๆจึงแย่งโทรศัพท์ไปดู เห็นแดนถ่ายคู่กับทราย ซินกดรับ เสียงทรายถามมาว่า “บอกเลิกกับยัยซินรึยัง”

ซินถามทั้งน้ำตาว่าแดนคบกับทรายหรือ แดนพยักหน้า ซินบอกว่าอย่าเอาแต่เงียบให้พูดมาเลย

“เราไม่มีอะไรจะพูด” แดนพูดแล้วผละไปเลย ซินร้องไห้ทรุดลงอย่างหมดแรง

มาร์คที่ได้ยินการคุยกันทั้งหมด มองซินสงสารจับใจ

เมื่อซินกลับบ้านคืนนี้ ทรายจ้องหน้าพูดอย่างผู้ชนะว่ารู้แล้วใช่ไหมว่าแดนเลือกตน ซินถามว่าพี่ทรายทำแบบนี้ได้ยังไง ตนเป็นน้องสาวพี่นะ

“แกไม่ใช่น้องฉัน คนละพ่อคนละแม่กัน จะมาเป็นพี่น้องกันได้ยังไง ไอ้ซันนั่นน้องแก” ซินบอกว่าตน

ไม่เคยเห็นว่าพี่เป็นคนอื่น ทรายได้ทีขอหน้าด้านๆว่า “ถ้าแกเห็นฉันเป็นพี่ แค่ผู้ชายคนเดียวก็ยกให้ฉันได้ไหมล่ะ”

“พี่แย่งแฟนพี่ซินเหรอ” ซันถามโพล่งขึ้น ทรายทำหน้าไม่ถูกหันไปพูดกับสมศรีแทนว่าก็เขามาชอบตน แล้วเบนเรื่องเปลี่ยนประเด็นบอกแม่ว่า “ก่อนที่แม่จะมาสนใจเรื่องนี้ สนใจเรื่องซินตกงานดีกว่า”

ซินเลยถูกสมศรีเล่นงานหาว่ามัวแต่ยุ่งกับผู้ชายทำให้ตกงาน ถูกทรายซ้ำเติมว่าซินเป็นตัวซวยเกิดมาพร้อมความซวย พ่อกับแม่ถึงได้ตาย ซันพยายามห้ามทราย สมศรีบอกซันให้พาซินเข้าห้องเสีย ร้องไห้น่ารำคาญ

ซันจะพาซินไป ซินปาดน้ำตาบอกว่า “ไม่เป็นไร พี่ไปเองได้” แล้วเดินขึ้นข้างบนไปเลย

ooooooo

บุญสิตาปาดน้ำตาขึ้นห้องนอนที่เล็กและโทรม ของใช้ในห้องทั้งเก่าและชำรุด หยิบรูปเก่าๆ สมัยตัวเองเพิ่ง 5 ขวบที่ถ่ายกับพ่อและแม่มาดู คิดถึงเรื่องราวในอดีต...

วันนั้นเด็กหญิงบุญสิตาวัย 7 ขวบ นั่งเล่นตุ๊กตาอยู่ริมน้ำอย่างมีความสุข บังเอิญทำตุ๊กตาตกน้ำ ซินพยายามเอื้อมเก็บเสียหลักพลัดตกน้ำ แม่มาเห็นรีบโดดลงไปช่วยขึ้นมา ซินนอนหมดสติอยู่ริมน้ำ แต่แม่กลับเป็นตะคริวถูกน้ำซัดหายไป

ในงานศพแม่...ซินร้องไห้หาแม่จนบุญลือผู้เป็นพ่อต้องกอดปลอบ...

“แม่อยู่บนสวรรค์ หนูต้องเป็นเด็กดี ถ้าหนูเชื่อฟังผู้ใหญ่ เป็นเด็กดี หนูจะได้เจอแต่สิ่งดีๆ จะมีนางฟ้าเสกสิ่งดีๆมาให้หนูแบบในนิทานที่พ่อเล่า แล้วหนูก็จะได้เจอแม่บนสวรรค์ด้วยนะ”

“หนูจะเป็นเด็กดีค่ะคุณพ่อ” บุญสิตาสะอึกสะอื้น

วันนี้...บุญสิตาถามพ่อในรูปว่า “หนูเป็นเด็กดี ทำทุกอย่างที่คุณพ่อบอกแล้ว เมื่อไหร่ชีวิตหนูจะเจอแต่เรื่องดีๆซักทีคะ” ถามแล้วก็อดคิดถึงคำพูดของแนนซี่เพื่อนหมอดูที่ทำนายไว้ไม่ได้ว่า

“เธอต้องผ่านปีชงนี้ก่อน ถ้าเธอผ่านความเป็นความตายครั้งนี้ไปได้ ชีวิตเธอจะเจอแต่เรื่องดีๆ...ปีนี้เธอจะดวงตกถึงจุดต่ำสุด เธอจะตกงาน ความรักจะถึงจุดจบ ชีวิตจะมีแต่ความวุ่นวาย ที่สำคัญจะมีวิญญาณอาฆาตตามติดตัวเธอไปทุกที่ ให้ระวังตัวให้ดี!”

คิดถึงคำทำนายของแนนซี่แล้วบุญสิตาพึมพำ “งานก็ตกแล้ว แฟนก็เลิกแล้วเหลือแต่...” แล้วคำทำนายของแนนซี่ก็ก้องขึ้นในหัวอย่างน่ากลัวว่า “วิญญาณอาฆาตติดตัวเธอไปทุกที่ ให้ระวังตัวให้ดี”

ooooooo

เช้าวันนี้...ขณะพุฒิเมธกำลังหลับสบายนั้น เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์ถามทั้งที่ยังหลับตา

“ว่าไงครับ”

“รีบเข้าออฟฟิศมาเดี๋ยวนี้เลย ระเบิดจะลงแล้ว” โหน่งพูดเบาๆ แต่เสียงตื่นเต้นตกใจ และที่ข้างหลังโหน่งห่างออกไป ณฤทธิ์นั่งดูอะไรจากไอแพดอย่างหงุดหงิดหัวเสียมาก

พุฒิเมธงัวเงียถามว่าเรื่องอะไร ขอนอนอีกนิด โหน่งบอกว่าไม่ต้องถามให้รีบมาเลย พุฒิเมธถอนใจบ่นว่าเกิดอะไรขึ้นอีก ลุกขึ้นแต่งตัวรีบออกไป ข้าวเช้าที่วรรณนาเตรียมไว้ให้แล้วก็ไม่ได้กิน

ณฤทธิ์ดูไอแพดเป็นข่าวพุฒิเมธกำลังทำคลอดถูกแชร์ว่อนในเน็ต เห็นภาพหญิงท้องแก่จิกผมพุฒิเมธ

เห็นพุฒิเมธช่วยหญิงท้องแก่เบ่งคลอดลูกจนเหงื่อท่วมหน้า พร้อมข้อความโพสต์แซวตลกๆมากมาย พอพุฒิเมธมาถึง ณฤทธิ์ก็บ่นใส่อย่างหัวเสียทันที

“หมดกัน ภาพลักษณ์ที่ฉันอุตส่าห์สร้างแกมาให้ดูดี ไม่เหลืออะไรแล้ว งานก็ชวด ไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้ไปแคสต์กับเขา” พุฒิเมธถามว่าที่เรียกมาเพื่อบ่นแค่นี้หรือ “แค่เหรอ...แกรู้ไหมว่าฉันเสียหายเท่าไหร่”

ระหว่างนั้นโทรศัพท์มือถือของณฤทธิ์ดังขึ้น พุฒิเมธขยับจะไป ณฤทธิ์พูดดักอย่างรู้ทันว่า

“อย่าเพิ่งไป ฉันยังด่าไม่เสร็จ” แล้วคุยโทรศัพท์เสียงอ่อนหวาน “ว่ายังไงครับ...จะให้เมธเล่นหนังเรื่องนี้ โดยไม่ต้องแคสต์ด้วยเหรอครับ ได้ครับ...ได้ครับขอบคุณครับ”

ณฤทธิ์ดีใจมาก พอวางสาย ก็อารมณ์ดีอย่างฉับพลันกลับลำทันทีว่า

“ถึงภาพแกจะออกมาน่าเกลียดดูไม่ได้ แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ก็ทำให้แกดูดีจากภายในสู่ภายนอก”

พุฒิเมธกลอกตาเซ็งถามว่าลูกค้าว่ายังไงพูดมาเลยดีกว่า “ลูกค้าเขาบอกว่าข่าวที่ออกไป เขาชอบมาก แกดูเป็นธรรมชาติ ติดดิน สร้างกระแสเข้ากับหนัง ก็เลยจะเลือกแกมาเล่นหนังเรื่องนี้ ถือเป็นบุญของแกที่ดันมีผู้หญิงท้องแก่ผ่านมาให้แกทำคลอดพอดี แกเลยได้งานนี้ตัดหน้าทุกคน”

พุฒิเมธกับโหน่งมองหน้ากันแทบไม่อยากเชื่อ โหน่งถามว่าจริงหรือ ณฤทธิ์ยืนยันว่า

“จริงจ้ะ รีบไปเตรียมสัญญาก่อนดีกว่า เรากำลังจะโกอินเตอร์แล้ว” พูดจบก็เข้าห้องทำงาน อารมณ์ดี

โหน่งดีใจกับพุฒิเมธ เพราะใครๆก็อยากได้งานนี้ทั้งนั้น

“จะว่าไปต้องขอบคุณผู้หญิงคนนั้นนะ ที่ดึงผมเอาไว้วันนั้น ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นยังไงบ้าง”

พุฒิเมธคิดถึงบุญสิตาขึ้นมา

ooooooo

ทำเรื่องเดียวกัน แต่ผลลัพธ์ต่างกัน พุฒิเมธได้งานใหญ่โดยไม่ต้องแคสต์ แต่บุญสิตาถูกไล่ออกจากงานเพราะไปสาย ที่เจ็บปวดมากกว่านั้นคือถูกแฟนทิ้งไปคบกับพี่สาวตัวเอง

แต่จะเจ็บปวดอย่างไร ปากท้องของคนทั้งบ้านเป็นหน้าที่ที่เธอต้องรับผิดชอบ บุญสิตาจึงเดินหางานตามร้านอาหารและร้านกาแฟหลายแห่งแต่ก็ถูกปฏิเสธหมด จนกระทั่งมาเจอแนนซี่ตั้งโต๊ะดูดวงอยู่ริมถนน

บุญสิตาและแนนซี่ต่างดีใจที่ได้เจอกัน ไปนั่งคุยกันที่ร้านกาแฟ บุญสิตาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง แนนซี่ถามทึ่งว่า “นี่ฉันแม่นขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ใช่ ปีนี้ฉันคงดวงตกจริงๆ ฉันเพิ่งโดนแฟนทิ้งสดๆร้อนๆ แถมตกงาน ไปทางไหนก็เจอแต่เรื่องแย่ๆ”

แนนซี่ปลอบว่าถือเป็นการฟาดเคราะห์ก็แล้วกัน บุญสิตาถามว่าพอจะมีงานแนะนำบ้างไหม ตนทำได้ทุกอย่างขอแต่ให้ได้เงินสุจริต ไม่ผิดศีลธรรมหรือขัดต่อศีลห้าที่ตนยึดถือปฏิบัติมาตลอดชีวิต แล้วก็...

“งั้นสนใจมาเป็นตัวแทนประกันชีวิตไหมล่ะ” แนนซี่ขัดขึ้น บุญสิตาสนใจ แต่กลัวตัวเองจะทำได้หรือเปล่าเพราะพูดไม่เก่งขายไม่เก่ง แนนซี่บอกว่าไม่ยากตนจะสอนให้ ถามว่าพรุ่งนี้ว่างไหม บุญสิตาบอกว่าจะไปรับจ้างขายของที่ตลาดนัด แนนซี่ถามว่าวันอาทิตย์ล่ะ วันจันทร์ล่ะ บุญสิตาบอกว่าวันอาทิตย์ต้องทำขนมเตรียมให้คุณน้าไปขายที่ตลาด วันจันทร์ต้องไปทำงานจิตอาสาที่โรงพยาบาล แนนซี่ถามว่าแล้วตอนเย็นล่ะ

“ฉันทำงานสายด่วนบำบัดทุกข์น่ะ ฉันทำงานเยอะมาก มีแต่งานที่เงินน้อยๆไม่ก็ทำฟรี เงินเลยไม่ค่อยพอใช้จ่ายในบ้านน่ะ”

แนนซี่บ่นว่าทั้งบ้านมีเธอทำงานอยู่คนเดียวจะพอใช้จ่ายได้ยังไง เอาเป็นว่าถ้าเธอมีเวลาก็มาลองเป็นผู้ช่วยคอยช่วยตนทำงานก่อนดีไหมจะได้เรียนรู้งาน ถ้ามีงานพิเศษที่อื่นจะเรียกไปช่วยก็แล้วกัน แล้วส่งแผ่นพับประกันชีวิตให้บอกว่า นี่เป็นข้อมูลบริษัท ลองเอาไปอ่านเล่นๆดูก่อน

บุญสิตารับไปดูเห็นรูปพุฒิเมธเป็นพรีเซ็นเตอร์ ถามว่าผู้ชายคนนี้เป็นดาราหรือ แนนซี่บอกว่าใช่ พุฒิเมธเป็นแฟนเจนนี่ ปรากฏว่าบุญสิตาไม่รู้จักทั้งสองคน

แนนซี่มองอึ้งๆที่เพื่อนไม่รู้เรื่องของพวกดาราดังเลย

อ่านละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ตอนที่ 2 วันที่ 31 ม.ค.61

ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ บทประพันธ์โดย : ติณณา
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ บทโทรทัศน์โดย : ตฤณณา
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ กำกับการแสดงโดย : กิตติศักดิ์ ชีวาสัจจาสกุล
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ผลิตโดย : บริษัท ทีวีซีน จำกัด
ละครเรื่อง ชั่วโมงต้องมนต์ ออกอากาศเร็ว ๆ นี้ ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ