อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 10 วันที่ 1 ก.พ.61

อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 10 วันที่ 1 ก.พ.61

ด้านกนกวิภาถูกมัดมือมัดตัวติดกับเบาะรถ เธอร้องโวยวายตลอดทางจนดำเกิงต้องถอดเสื้อตัวเองมัดปากเธอไว้...ทางบ้านกนกวิภาเริ่มเป็นห่วงที่ค่ำมืดแล้วเธอยังไม่กลับ จ๊าดปรี่เข้ามารายงานว่าชยุติอยู่ที่บ้านบัว ตนเห็นจี๊ดไปส่งข้าว วลีครุ่นคิดด้วยจิตใจร้อนรุ่ม

ด้วยความเหนื่อยทำให้กนกวิภาหลับทั้งที่ถูกมัดอยู่กับเบาะรถ พอถึงหมู่บ้านประมงดำเกิงแกะผ้าปิดปากเธอออกแล้วตบแก้มให้ตื่น เธอสะดุ้งร้องลั่น มองไปรอบๆ มีแต่ความมืดก็ตกใจกลัวไม่ยอมลงจากรถ ดำเกิงจึงลากถูลู่ถูกังลงมา เหวี่ยงเข้าไปในบ้านเช่าเก่าๆอย่างแรง เธอร้องด้วยความเจ็บแล้วถามเขาต้องการอะไรจะเรียกค่าไถ่หรือ ดำเกิงหัวเราะเยาะ เธอยิ่งมั่นใจ

“อย่างที่ฉันคิดไม่มีผิด ไอ้สารเลว! คนอย่างแกมันเกิดมาเพื่อเป็นโจรแท้ๆ”



“มันก็เป็นอย่างที่ฉันคิดไว้ไม่มีผิด คนอย่างเธอมันไม่คิดอะไรไกลไปกว่าเรื่องเงินหรอก สงสัยป๊ากับม้าเธอให้เธอกินเงินแทนข้าว สมองถึงได้มีแต่สนิม”

“อ๊าย...ไอ้หมาบ้า!”

“เออ! ฉันมันโจร แล้วไอ้ตี๋พี่ชายเธอล่ะ มันต่างกันตรงไหนวะ ในเมื่อมันเอาบัวไปได้ แล้วทำไมฉันจะเอาเธอมาบ้างไม่ได้!”

กนกวิภาขู่ว่าป๊าม้าตนจะต้องเอาเขาเข้าคุก ดำเกิงไม่กลัวบอกตอนนี้ตนเป็นโจร เธอต้องทำตามที่ตนสั่งว่าแล้วก็หัวเราะใส่หน้าหญิงสาว เธอร้องกรี๊ดๆด่าเขาไอ้หมาบ้าโรคจิต

คืนนั้นวลัยผล็อยหลับอยู่ที่โซฟา ฝันร้ายว่ากนกวิภาถูกโจรจับตัวไป สะดุ้งตื่นร้องเอะอะโวยวายจนวลีกับไชโยตกใจวิ่งมา ทันใดเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น วลีดีใจคิดว่าเป็นชยุติ แต่พอรับสายเป็นเสียงกนกวิภาบอกว่าไปเที่ยวกับเพื่อนๆจะอยู่ค้างหลายวันไม่ต้องห่วง น้ำเสียงเธอเหมือนจะร้องไห้ แต่วลีไม่ทันสังเกต มัวแต่ซักถามว่าเพื่อนที่ไหนรวยหรือจน ไม่ทันได้คำตอบสายขาดไป

ดำเกิงดึงโทรศัพท์จากมือกนกวิภามาวาง เธอดิ้นพราดร้องไห้...ด้านวลีโล่งใจเรื่องลูกสาวแต่ยังเครียดเรื่องลูกชาย

ในคืนนั้น ชยุติล้มตัวลงนอนอย่างเหนื่อยอ่อนจากการทำความสะอาดบ้าน บัวพยายามหากิจกรรมทำง่วนจนผิดสังเกต ชยุติชวนให้เธอนอนบนเตียงข้างๆ เธอติงไม่ทันข้ามคืนก็ลืมกฎ เขาหัวเราะบอกไม่ได้ลืมและไม่ได้คิดจะล่วงเกินเธอ แต่บ้านนี้มีเตียงนอนเดียว เธอคงไม่คิดให้เขานอนพื้นได้ลงคอ บัวเน้นหนักแน่นว่าเขาต้องนอนพื้น ชายหนุ่มบ่นอุบ

“ทำงานเหนื่อยทั้งวันยังต้องนอนพื้นแข็งๆ หลังจะหักไหมนะ...” บัวถามบ่นอะไร เขารีบปฏิเสธแล้วลงไปนอนกับพื้นอย่างว่าง่าย บัวแอบขำก่อนจะปิดไฟนอนบนเตียงอย่างอ่อนเพลีย

ต่างกับกนกวิภาที่ถูกดำเกิงมัดมือติดกับขาเตียง ให้เธอนอนกับพื้น ส่วนเขานอนบนเตียงอย่างสบาย เธอพยายามจะแก้มัดตัวเองแต่เขาก็ตื่นขึ้นมาขวางทุกครั้ง เธอจึงโวยว่าหิว ตั้งแต่เขาจับเธอมายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลย ชายหนุ่มนึกได้ เข้าไปหยิบกล้วยในครัวมาโยนให้

“ไม่มีข้าวหรอกนะยัยหมวย กินกล้วยไปก่อนแล้วกัน”

กนกวิภาโวยอีกว่าจะกินอย่างไรถูกมัดมือแบบนี้ ดำเกิงไม่ยอมแก้มัดให้กลับป้อนเธอเองแม้เธอจะยึกยักขัดขืนก็ตาม

ขณะเดียวกัน วลีทนไม่ไหวเข้ามาถามมาลัยในห้องว่าชยุติอยู่ที่ไหน เธอปัดไม่รู้ลูกเดียว วลีไม่เชื่อเพราะชยุติจะคุยกับอาม่าทุกเรื่อง มาลัยย้อนว่า ถ้ารู้คงไปตามเขากลับมาแล้วไม่รอให้ต้องถาม วลีไม่วายโทษที่ชยุติเป็นแบบนี้เพราะอาม่าให้ท้ายจนเอาแต่ใจไม่คิดถึงหัวอกพ่อแม่

มาลัยสวนทันที “แล้วลื้อล่ะ เคยนึกถึงหัวอกลูกบ้างไหม ไม่ใช่เพราะลื้อหรอกเรอะที่บังคับลูกมันจนเกินไป ทำให้ลูกอึดอัดหายใจไม่ออก จนไม่อยากจะอยู่บ้านนี้”

“ม้า! นี่ม้าจะโทษว่าเป็นความผิดของหนูเหรอ หนูผิดเหรอที่หนูอยากให้ลูกได้ดี”

“ผิดหรือถูกลื้อรู้อยู่แก่ใจ เพราะถ้ามันถูกทำไมลูกของลื้อมันถึงไม่มีความสุขล่ะ”

วลีเสียงกร้าวหาว่ามาลัยรู้แต่ไม่ยอมบอกว่าชยุติอยู่ไหน เข่นเขี้ยวจะสืบหาเองให้ได้ มาลัยข่มความเสียใจกับนิสัยก้าวร้าวของลูกสาว และนึกเป็นห่วงหลานชายกับบัวเหมือนกัน

รุ่งเช้า วลีกับไชโยพาชายฉกรรจ์สามคนมาพังข้าวของในบ้านเจียงเพื่อให้บอกว่าชยุติอยู่ไหน

เจียงกับหลอพยายามบอกว่าไม่รู้ก็ไม่ฟัง วลียังขู่จะแจ้งความข้อหากักขังหน่วงเหนี่ยวอีก เจียงอ่อนใจบอกอยากทำอะไรก็ทำขอเพียงอย่ามาพังบ้านตนอีกเพราะมันไม่มีประโยชน์

ยิ่งจันทร์รู้ข่าวว่าบัวพาชยุติหนีก็โวยวายร้องห่ม ร้องไห้ แสงเดือนกับล้วนเข่นเขี้ยวที่วลีกับไชโยไม่เคยทำอะไรสำเร็จ แต่ถึงอย่างไรพวกเราก็ต้องรอ เพื่อคอยสูบเงินพวกนั้นมาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ยิ่งจันทร์หยุดร้องไห้หันมายิ้มเห็นด้วย...

บรรยากาศทะเลยามเช้าอันสดชื่น บัวพลิกตัวตื่นขึ้นมาพบว่าชยุตินอนอยู่ข้างๆก็ตกใจ รีบลุกขึ้นเกือบตกเตียง ชายหนุ่มเอื้อมมือมากอดเธอไว้ทันแล้วซุกหน้ากับผมเธอ บัวเอ็ดเขาผิดกฎ

“กฎมีไว้แหกนี่นา...” ชยุติอ้อน

“คุณติ! คุณโดนฉันหักคะแนนเหลือศูนย์แน่ๆ”

“ต่อให้ต้องติดลบผมก็ยอมแล้วล่ะตอนนี้”

บัวพยายามจะดันตัวออก ชยุติขำยอมปล่อยแต่แล้วพอเธอลุกขึ้น เขาก็ดึงมือเธอจนล้มมาทับตัวเขา ทั้งสองประสานสายตากันนิ่ง บัวใจสั่นรัว เขาฉวยโอกาสจุ๊บหน้าผากเธออย่างรวดเร็วก่อนจะลุกหนี บัวนั่งอึ้งเขินหน้าแดง แต่มีความสุขลึกๆในใจ...

ขณะที่มาลัยกำลังกำกับชูดวงกับจี๊ดเอาต้นผักลงกระถาง วลีเดินกระแทกกระทั้นเข้ามาเตะล้มระเนระนาด มาลัยมองอย่างไม่พอใจ วลีไม่สนถามเสียงเข้มว่าชยุติอยู่ไหน

“เอ๊ะ! บอกว่าไม่รู้ก็ไม่รู้สิวะ เซ้าซี้อยู่ได้”

“อาม้ารู้ตัวหรือเปล่าคะว่า อาม้ากำลังส่งเสริมลูกชายของหนูไปในทางที่ผิด หนูเลี้ยงของหนูมายี่สิบกว่าปี

อาม้าใช้เวลาแค่ไม่กี่เดือน ทำลายอนาคตลูกหนูป่นปี้หมด รู้ตัวบ้างรึเปล่าคะ”

“ลื้อนั่นแหละ รู้ตัวรึเปล่าว่ากำลังเหยียบผักอั๊วแบนหมดแล้ว”

“หนูชักจะหมดความอดทนกับอาม้าแล้วนะคะ จะบอกหรือไม่บอกว่าตาติไปอยู่ที่ไหน”

มาลัยไม่สนใจร้องงิ้วอย่างสบายใจ พร้อมสาดปุ๋ยขี้วัวไปใส่เท้าวลี เธอร้องกรี๊ดๆหาว่าไล่เพราะกลัวจะหลุดความจริงออกมา วลีกราดเกรี้ยวปรักปรำว่ามาลัยทำลายอนาคตชยุติ ชี้ทางให้เขาไปอดตาย มาลัยโกรธโต้ว่า อดตายยังดีกว่าอยู่ตรอมใจตายที่นี่ แล้วว่าวลีได้แต่เลี้ยงลูกแต่ไม่รู้จักลูกตัวเองเลย วลีร้องกรี๊ดตวาดลั่นอย่างไม่เกรงใจ

“อาม้า! อาม้าฟั่นเฟือนไปแล้ว คอยดูนะคะหนูจะต้องเอาตัวตาติกลับมาให้ได้ หนูไม่ยอมแพ้อาม้าแน่คอยดู!” วลีหัวเสียเดินไปที่ห้องชยุติราวคนเสียสติ ปาดข้าวของในห้องล้มระเนระนาด แล้วได้เห็นภาพบัวที่ชยุติวาดไว้ ความแค้นยิ่งถาโถมเข่นเขี้ยว “ม้าไม่ยอมแพ้หรอกตาติ! ม้าไม่ยอม...ฉันไม่ยอมแพ้แกแน่นังบัว!” วลีปารูปบัวลงพื้นอย่างสุดแค้น

ooooooo

ไหมฟ้ามาช่วยเจียงจัดบ้าน ตรึงจิตกับนกขมิ้นซักถามว่าใครทำให้แจ้งความ แต่เจียงบอกว่าแค่อันธพาลปลายแถวไม่ต้องให้เป็นเรื่องใหญ่ ตรึงจิตไม่พอใจเชิดหน้ากลับไป ไหมฟ้าส่ายหน้าแทนที่จะช่วยกันเก็บกวาดกลับไปเข้าบ่อนเสียนี่ เจียงตกใจเมื่อรู้ว่าทั้งสองเข้าบ่อน

“ที่เงินไม่พอยาไส้อยู่ทุกวันก็เพราะเล่นเช้ายันเย็นน่ะแหละ สองคนนี้น่าเป็นห่วงนะป๊า”

เจียงอ่อนใจ “อืม...อีกไม่นานบ่อนจะสอนบทเรียนให้อีเอง”

สายวันนั้น ชยุติสเกตช์ภาพบัวไว้ทุกอิริยาบถ

บัวให้เขาหยุดแล้วทานอาหารก่อน เขาสูดกลิ่นแล้วชมว่าหอมน่ากิน บัวยิ้มรู้สึกมีความสุขที่ได้ปรนนิบัติเขา...พอเขาทานอิ่ม บัวก็ปรึกษาเรื่องที่เราต้องทำมาหากิน ชยุติอึ้งลืมเสียสนิท มัวแต่มีความสุขกับชีวิตใหม่

“บัวขอโทษนะคะ ที่พูดเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน”

“บัวทำถูกแล้วล่ะ ถ้าผัวเมียไม่คอยเตือนสติกัน แล้วใครที่ไหนเขาจะมาเตือนให้ล่ะ แต่เราก็คนต่างถิ่น แถมหาปูหาปลาไม่เป็นด้วย แล้วจะไปหางานทำที่ไหน”

“งานมีอยู่แล้วค่ะ ถ้าเราไม่เลือกงาน เราอยู่นี่ไม่จำเป็นต้องใช้จ่ายอะไรมากมาย ก็แค่ต้องการมีเงินไว้ใช้เท่าที่จำเป็น ค่ากินค่าหยูกยาเวลาไม่สบาย...

ป๊าสอนว่าถ้าเราขยัน อดทนไม่ย่อท้อ อยู่ที่ไหนก็ไม่อดตายค่ะ ยิ่งถ้าเรามีวิชาติดตัว เรายิ่งสบาย”

อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 10 วันที่ 1 ก.พ.61

ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว บทประพันธ์โดย กราตร ศักตา
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว บทโทรทัศน์โดย ยิ่งยศ ปัญญา, สรรัตน์ จิรบวรวิสุทธิ์
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว กำกับการแสดงโดย ธนากร โปษยานนท์
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ผลิตโดย บริษัท ดู เอนเตอร์เทนเมนต์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ควบคุมการผลิตโดย ธัญญา-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ