อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 7 วันที่ 22 ม.ค.61

อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 7 วันที่ 22 ม.ค.61

ในขณะที่ขวดออกมาซื้อยาสมุนไพรเพื่อไปต้มให้ธานีกินเพิ่มพลังปึ๋งปั๋ง เห็นไหมฟ้ากับนกขมิ้นกอดนัวเนียกัน เดินเข้าบ้านเช่าก็ตาโต รีบเอาเรื่องกลับมารายงานธานี... ธานีแค้นใจที่โดนสวมเขา ตรงดิ่งไปที่บ้านนกขมิ้น เห็นภาพตำตาด่าว่าและไล่ไหมฟ้าให้ออกไปจากชีวิต

ด้านชยุติโดนวลี วลัย และกนกวิภา วางแผนให้ยิ่งจันทร์ดึงเขาไปตัดชุดแต่งงาน ยิ่งจันทร์ดีใจหน้าบานเกาะแขนชยุติอย่างกับปลิง

“จันทร์ดีใจที่ในที่สุดเราก็ไปด้วยกันได้แล้ว...”



ชยุติพูดนิ่งๆแบบเป็นนัยๆว่า “ยังไงเราก็ฝืนชะตาไม่ได้หรอกครับ...”

วลีกับวลัยเข้าใจไปว่าคู่กันแล้วไม่แคล้วกัน ยังไงก็หนีกันไม่พ้นกับยิ่งจันทร์ ระหว่างนั้นชยุติสบตากับจี๊ดทำนองมีแผน ตั้งใจให้กนกวิภาเห็น...

บัวยังก้มหน้าซบมือเจียงร้องไห้ หลอเข้ามาสะกิด บัวเงยหน้ามาเห็นมาลัยมากับจี๊ดก็รีบปาดน้ำตายกมือไหว้ มาลัยถามว่าเป็นอะไร บัวอ้างว่าเหนื่อยนิดหน่อย มาลัยยิ้มให้อย่างเอ็นดูก่อนจะบอกข่าวที่ตั้งใจมา พอมาลัยเกริ่นว่าเป็นข่าวดีของหลานชาย บัวรู้ทันทีว่าเรื่องอะไร รีบขอตัวไปขอยาแก้ปวดหัวจากพยาบาล หลอจึงให้เธอกลับบ้านไปพักผ่อนเลย

จี๊ดฉวยโอกาสเดินตามบัวออกมาเห็นบัวแอบมานั่งร้องไห้ จึงยื่นจดหมายใส่มือเธอบอกว่าชยุติฝากมาให้ แล้วขอตัวกลับไปดูแลมาลัย...ระหว่างนั้น เจียงรู้สึกตัวขึ้น มาลัยกับหลอดีใจ

ชยุติวางแผนนัดพบบัวที่ร้านกาแฟข้างร้านที่พายิ่งจันทร์กับกนกวิภามาเลือกชุดแต่งงาน ยิ่งจันทร์ตื่นเต้นลองชุดหลายชุด ชยุติฉวยโอกาสออกมานั่งรอบัวที่ร้าน กนกวิภาเอะใจเกรงว่าเขาจะแอบนัดพบกับบัว จึงชวนยิ่งจันทร์ตามออกไปดู

บัวเปิดจดหมายออกอ่าน ข้อความที่ชยุตินัดพบ เพื่อพูดคุยให้เข้าใจถึงเรื่องราวทั้งหมด ถ้าเธอเห็นเขาเป็นเพื่อนคนหนึ่ง ขอให้ออกมาพบกันอีกสักครั้ง...บัวตัดสินใจไป ชยุติเปิดฉากขอโทษที่เอาสัญญาคืนจาก

อาม้าไม่ได้ บัวรีบถามว่าสัญญาฉบับนั้นมาจากวลีหรือ

“มันเป็นสัญญาที่อาม้าจงใจร่างขึ้นมาให้คุณลงชื่อตัดหน้าผม เพื่อให้คุณกลายเป็นลูกหนี้ของอาม้าแทนผม แต่คุณไม่ต้องห่วงนะ อาม้าบอกว่ายอมคืนสัญญาให้กับผมทันทีที่ผมแต่งงาน”

“คุณก็เลย...”

“ครับ ผมยอมแต่งงาน ยังไงผมก็จะเอาสัญญาฉบับนั้นมาคืนคุณให้ได้”

“คุณไม่จำเป็นต้องทำขนาดนี้ก็ได้ ฉันจะเป็นหนี้คุณหรือแม่คุณ ยังไงก็ต้องใช้คืนอยู่ดี”

“เพราะผมรู้ว่า ถ้าสัญญายังอยู่ในมืออาม้า มันจะไม่ใช่แค่นั้นแน่”

ระหว่างที่ทั้งสองคุยกัน กนกวิภากับยิ่งจันทร์ตามมาเห็น ยิ่งจันทร์เดือดดาลแต่กนกวิภารั้งไว้ให้แอบฟังทั้งสองคุยกันก่อน...ชยุติรู้ว่าสองสาวต้องตามมา เข้าแผน

ที่เขาจะพูดกับบัวว่า

“ผมจะแต่งงานกับยิ่งจันทร์ให้เร็วที่สุด”

“คุณยืนยันที่จะทำแบบนี้จริงๆใช่ไหม”

“เพราะผมไม่ต้องการให้คุณเดือดร้อนอีก...”

ไม่ทันที่ชยุติจะพูดต่อ กนกวิภากับยิ่งจันทร์ก้าวเข้ามา กนกวิภาจิกว่าบัวได้ยินชัดหรือยังว่าพี่ชายตนจะแต่งงานกับยิ่งจันทร์ ฉะนั้นเลิกยุ่งกับเขาเสียที บัวฝืนยิ้มรับ บอกไม่ต้องห่วงเพราะตนกำลังจะแต่งงานเหมือนกัน ชยุติหน้าเสีย กนกวิภาเยาะว่า

“แต่งงานหรือไปเป็นผู้หญิงขัดดอกของเสี่ยเงินกู้กันแน่”

“ฉันจะแต่งกับใคร มันก็นับเป็นข่าวดีทั้งของฉันและของพวกคุณด้วยไม่ใช่เหรอคะ”

“แน่นอนล่ะย่ะ แกจะได้เลิกทำตัวเป็นแมววิ่งไล่จับหนูอย่างพี่ติซะที เพราะหนูตัวนี้กำลังจะมีเจ้าของแล้ว” ยิ่งจันทร์เข้าไปเกาะแขนชยุติแสดงความเป็นเจ้าของ

บัวปวดใจกับภาพที่เห็นแต่กลบเกลื่อนแสดงความยินดีกับทั้งสอง ชยุติขอโทษและย้ำว่าจะรีบทำตามสัญญา บัวกลับหลังหันเดินไปก่อนที่น้ำตาจะทะลักออกมา สองสาวหัวเราะร่าสวมกอดชยุติกันใหญ่ที่เขาตัดใจจากบัวได้ ชายหนุ่มยิ้มรับแต่ในใจแอบเป็นห่วงบัว

บัวเดินตาแดงเข้าซอยบ้าน ดำเกิงเห็นปรี่เข้ามาถามอย่างห่วงใยว่าเป็นอะไร บัวกลบเกลื่อนว่าสะดุดล้มไม่มีอะไร เขาจึงบอกข่าวดีว่าเจียงฟื้นแล้ว บัวหัวใจพองขึ้นในทันที

หมอตรวจเช็กอาการเจียงแล้วบอกทุกคนว่า ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง อีกสองวันก็กลับบ้านได้ ทุกคนดีใจรวมทั้งมาลัยที่เข้ามากุมมือเจียงยินดีด้วยอย่างจริงใจ

เจียงปรายตามองบัวแล้วทัก

“ลื้อดูซูบไปมาก เป็นอะไรหรือเปล่า”

บัวส่ายหน้ายิ้มๆ ไม่อยากให้เจียงต้องกังวลใจอะไรอีก ดำเกิงทนไม่ได้ โพล่งออกมาว่าบัวจะต้องแต่งงานกับธานีเพื่อรักษาบ้านกับคณะงิ้วเอาไว้ เจียงอึ้งไปชั่วขณะ มาลัยเองก็ตกใจ

ooooooo

ค่ำนั้น กนกวิภา ยิ่งจันทร์และชยุติกลับมา วลีและวลัยเห็นสีหน้าสองสาวยิ้มแย้มมีความสุขก็ถามว่าได้ชุดถูกใจกันหรือเปล่า กนกวิภารีบตอบว่าถูกใจและมีเรื่องน่าประทับใจด้วย

ชยุติตัดบทขอตัวไปหามาลัยก่อน ปล่อยสาวๆคุยกัน วลีเปรยว่าไปดูอาม่าหน่อยก็ดี ตั้งแต่กลับมาเห็นเก็บตัวเงียบเหมือนไม่สบาย ไม่รู้แอบไปดูงิ้วโรงไหนมาอีก กนกวิภาบอกยิ้มๆว่าไม่ต้องห่วงแล้ว ต่อไปนี้อาม่าคงอดดูงิ้วถาวร และเล่าเรื่องในวันนี้ให้ฟัง วลีกับวลัยฟังแล้วดีใจ

มาลัยนั่งเก้าอี้โยกอยู่ในห้อง มีหีบใบหนึ่งวางอยู่ข้างๆ พอชยุติเข้ามาเธอก็บอกข่าวที่เจียงฟื้น เขาดีใจ มาลัยดักคอ ถ้าเขาเห็นหน้าบัวตอนที่เจียงฟื้นจะยิ่งดีใจมากกว่านี้ ชยุติสลดลง

“ไม่รู้ว่าผมยังจะมีสิทธิ์ได้เห็นหน้าบัวอีกหรือเปล่านะครับ บ้านเราทำกับบัวถึงขนาดนั้น แล้วบัวก็ตัดสินใจจะแต่งงานกับไอ้เสี่ยธานีแล้วด้วยครับ”

“แล้วลื้อจะยอมให้อาบัวแต่งกับไอ้เสี่ยชีกอนั่นจริงๆเหรอไง”

 “ผมไม่มีทางยอมแน่ครับอาม่า เสี่ยธานีจะ

ไม่มีวันได้แตะต้องบัวแม้แต่ปลายเล็บ”

 “มันต้องอย่างนี้ถึงจะสมเป็นหลานชายคนเดียวของอั๊ว”

ชยุติพูดถึงเรื่องสัญญาเงินกู้ของเจียงกับธานี ไม่ได้ระบุอะไรเกี่ยวข้องกับบัวเลย มาลัยจึงบอกว่าเราสามารถช่วยบัวได้ แต่ชยุติจนปัญญาเพราะไม่มีเงิน โดนวลีระงับบัญชีทั้งหมด มาลัยยิ้มบอกเขาไม่มีแต่ตนมี แล้วให้เขาเปิดหีบ ปรากฏว่าเป็นทองแท่งและทองรูปพรรณจำนวนมาก

ชยุติอึกอักรู้ว่าเป็นของที่อาม่าเก็บมาทั้งชีวิต มาลัยบอกว่าทั้งหมดนี้ตนยกให้เขา เพราะตนตายก็เอาไปไม่ได้ สู้เอามาช่วยเหลือคนยังมีประโยชน์กว่า และให้เขาเลือกชิ้นสวยๆไว้เป็นสินสอดทองหมั้นบ้าง ชยุติสวมกอดอาม่าด้วยความดีใจสุดซึ้ง

ooooooo

เช้าวันใหม่ ขณะที่ไหมฟ้ามาง้อธานีที่บ้านแต่ถูกเขาขับไล่ไม่ไยดี ตรึงจิตกับชาวบ้านมุงดูหน้าบ้านอย่างสนุกสนาน ตรึงจิตได้ยินว่าชู้รักของไหมฟ้าคือนกขมิ้นก็หันมาเล่นงานยกใหญ่

พอไหมฟ้าถูกโยนออกไป ชาวบ้านสลายตัวไปหมด ชยุติกับชูดวงก็เข้ามาพบธานี เสนอใช้หนี้แทนเจียง ธานีเยาะว่าเงินมากมายขนาดนี้ เป็นอะไรกันถึงต้องมาใช้แทน ชูดวงเกือบพลั้งปากแต่ชยุติปรามไว้ทัน ขวดจำได้ว่าเคยเห็นชยุติตามบัวต้องหวังจะเป็นลูกเขยเจียงแน่ ธานีไม่ยอมให้เขาแย่งบัวไป เอาสัญญาจะยึดบ้านและคณะงิ้วมาขู่ ชยุติจึงสวนด้วยข้อมูลกฎหมาย

“ใครเป็นคนลงชื่อเป็นลูกหนี้ในสัญญา แล้วในสัญญาระบุไว้ไหมว่าเถ้าแก่เจียงไม่มีเงินจ่าย จะยอมยกบัวให้แต่งงานขัดดอก”

ธานีหน้าเจื่อน ขวดตอกย้ำแบบนี้เสี่ยทำไม่ได้ ผิดกฎหมาย ธานีพยักหน้าแล้วนึกได้ถามขวดอยู่ฝ่ายไหน ชูดวงขู่เลือกให้ดี ไม่อย่างนั้นได้ไปคุยกับตำรวจยาว...สองนายบ่าวหน้าซีด ชยุติสำทับเสียงแข็ง จะรับเงินห้าแสนแล้วทำหนังสือปลดหนี้ให้เจียง มีเงินใช้สบายๆ

หรือจะแต่งงานกับบัวแล้วเข้าไปกินข้าวแดงในคุก คำขู่

ของชยุติทำให้ธานีกลัวลานยอมรับเงินและทำหนังสือปลดหนี้ แต่ชยุติยังบังคับให้เขาทำอะไรให้อีกอย่าง...

ด้านบัวกำลังเตรียมปิ่นโตและข้าวของจะไปเยี่ยมเจียงที่โรงพยาบาล ดำเกิงขอไปด้วยแต่เธอยังโกรธที่เขาบอกเจียงเรื่องธานีจึงไม่พูดด้วย ดำเกิงขอโทษที่บอกเพราะอยากให้ช่วยกันหาวิธีช่วยบัวไม่ต้องแต่งงาน บัวสวนว่าจะยิ่งทำให้ป๊าเครียดมากกว่า แล้วบัวก็สอนดำเกิง

“ชีวิตเราจะมีคุณค่าอะไรถ้าไม่ได้ทำหน้าที่ตอบแทนผู้มีพระคุณอย่างป๊ากับซินแส คิดดูว่าถ้าป๊า

ไม่เลี้ยงดูบัวมา บัวจะมีวันนี้ไหมเกิ่ง แค่แต่งงานเพื่อล้างหนี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ”

จังหวะที่ดำเกิงเถียงไม่ออก หลอประคองเจียงก้าวเข้ามา บัวกับดำเกิงตกใจที่หมอยอมให้เจียงกลับบ้านได้...เจียงนั่งคุยกับบัวและดำเกิง เจียงขอบใจที่บัวยอมแต่งงานเพื่อช่วยคณะงิ้ว แม้จะแลกด้วยความสุขทั้งชีวิต บัวตอบว่าความสุขของตนคือเห็นป๊ากับหลอและทุกคนในคณะมีความสุข ชีวิตตนไม่มีค่ามากไปกว่านี้ เจียงนิ่งอึ้งไปสักครู่ก่อนจะบอกว่าตนเคารพการตัดสินใจของเธอ ดำเกิงไม่ยอมต้องมีทางออกอื่น เขาโวยวายวิ่งออกไป หลอถอนใจกับสถานการณ์นี้

ดำเกิงพุ่งมาหาธานีที่บ้าน ขู่ให้เขายกเลิกการแต่งงานกับบัวถ้าไม่อยากตาย ธานีสวนว่ายกไม่ได้ ดำเกิงเงื้อหมัด ธานีดึงขวดมาบังไว้ ขวดละล่ำละลักขู่กลับ

“เอาสิวะ ถ้าแกฆ่าเสี่ย ฉันก็จะแจ้งความกับตำรวจ หลักฐานคือศพเสี่ย ส่วนพยานก็คือฉัน แกได้กลับเข้าไปในคุกอีกทีแน่ ได้ข่าวว่าเพิ่งออกมาไม่ใช่เหรอวะ โดนอีกหนึ่งคดี คราวนี้ประหารชีวิต แกอยากให้ไอ้เถ้าแก่เจียงกับนังบัวเดือดร้อนอีกก็เอาซี้”

ดำเกิงชะงักได้แต่กำหมัดแน่น ธานียิ้มร่า “นี่ไงไม่กล้าแล้ว ดีๆอย่าทำอะไรอั๊วเลย เรื่องดีๆเรื่องมงคลกำลังจะเกิดขึ้นแท้ๆ อิๆฝากไปบอกอาบัวด้วยว่า อั๊วจะส่งชุดเจ้าสาวไปให้ ให้อาบัวอีแต่งตัวสวยๆรอเป็นเจ้าสาววันศุกร์นี้ได้เลย” ดำเกิงตกใจที่กะทันหัน “ตกใจ? กลัวหาชุดหล่อๆไม่ทันใช่ไหม ไอ้เกิ่งลื้อไม่ใช่เจ้าบ่าว อย่าคิดมาก ใส่ชุดงิ้วไปกินเลี้ยงก็ได้นะอั๊วไม่ถือ ฮ่าๆ”

ขวดเยาะใส่หน้าดำเกิงให้ท่องไว้ คุก...คุก...คุก... ดำเกิงกำหมัดแน่นด้วยความแค้นใจ

ooooooo

ฤกษ์วันศุกร์ เวลารับเจ้าสาวคือตีสี่สี่สิบเก้านาที เป็นฤกษ์ที่วลีได้มา ไชโยบอกจำนวนสินสอดกับ

แสงเดือนและล้วนว่า เงินสดเก้าแสนเก้าหมื่นเก้าพัน

เก้าร้อยบาทพร้อมทองแท่งสิบเก้าบาท เครื่องเพชรเครื่องทองอีกชุดใหญ่ ยิ่งจันทร์ซึ่งนั่งฟังตาโตอุทานออกมาว่า

“ต้องเป็นงานที่บรรเจิดเริ่ดสะแมนแตนมากแน่ๆ”

กนกวิภารับว่าใช่ และยิ่งจันทร์ต้องเป็นเจ้าสาวที่น่าอิจฉาที่สุด นักข่าวได้รับเชิญมาเกือบทุกสำนัก

กนกวิภาขอไปรับตัวเจ้าสาวด้วย ชยุติค้านอยากให้เธออยู่ช่วยวลีรับแขก ครอบครัวยิ่งจันทร์รู้สึกตื่นเต้นออกนอกหน้า ยิ่งจันทร์กระโดดเข้ากอดชยุติ เขาทำท่าพะอืดพะอมบอกไม่ถูก

วันต่อมา บัวได้รับกล่องใส่ชุดเจ้าสาว เธอมองน้ำตารื้น เจียงถามอีกครั้งจะเปลี่ยนใจไหม

“บัวไม่เปลี่ยนใจ ตลอดชีวิตที่ผ่านมา นอกจากเล่นงิ้วแล้ว บัวก็ไม่เคยทำอะไรให้ป๊าภูมิใจได้เลย เรียนก็ไม่จบ แถมยังเป็นตัวสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นกับครอบครัวกับคณะงิ้วของเราต้องลำบาก ถึงเวลาที่บัวจะต้องรับผิดชอบเพื่อแก้ปัญหาทุกอย่าง และวิธีนี้เป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว”

เจียงไม่ให้บัวโทษตัวเองอีก แต่บัวว่าตนต้องรับผิดชอบ เจียงน้ำตาซึมกล่าวขอโทษบัวและสัญญาจะอยู่ข้างเธอไม่ทิ้งไปไหน จะเป็นกำลังใจให้ตลอด บัวซาบซึ้งน้ำตาไหลพราก ขณะเดียวกัน ยิ่งจันทร์เอาชุดแต่งงานที่เลือกซื้อมาทาบตัวด้วยความตื่นเต้นดีใจ ล้วนกับแสงเดือนปลื้มปริ่มที่พวกตนจะได้ปลดหนี้เสียที ทีวี ตู้เย็น พัดลมและเฟอร์นิเจอร์ในบ้านจะได้หากลับมา

ยิ่งจันทร์วาดฝันจะซื้อทุกอย่างที่อยากได้ ไม่ทันไรไฟในบ้านดับพึ่บเพราะถูกตัด ยิ่งจันทร์โวยแบบนี้ตนจะเอาไฟที่ไหนให้ช่างแต่งหน้าทำผม แสงเดือนนึกได้รีบสั่งล้วนหาอะไรไปจำนำเอาเงินจ่ายค่าไฟโดยด่วน

ตรึงจิตแม้จะมีเรื่องกับไหมฟ้าประจำ ไม่เคย

หวังดีกับใคร แต่งานนี้ก็อาสาแต่งหน้าทำผมให้บัว เพราะหวังประโยชน์ว่าจะได้พึ่งพากันบ้าง ทุกคนในคณะต่างอวยพรให้บัวมีความสุข ตรึงจิตบอกว่าพรุ่งนี้ตีสี่กว่าๆ

จะมาแต่งหน้าทำผมให้สวยพริ้ง แล้วนึกได้ว่าดำเกิงหายไปไหน หลอสำทับว่าจริงด้วย ทำไมไม่มาเตรียมตัว พรุ่งนี้เขาต้องถือตะเกียงนำขบวนไปบ้านเจ้าบ่าว

บัวฉุกคิดรีบไปที่หลังโรงงิ้ว เห็นดำเกิงยืนอยู่ข้างรถเข็นบะหมี่ที่มีผ้าคลุมไว้ พอเขาเห็นบัวก็โพล่งออกมาว่าไม่อยากให้ถึงพรุ่งนี้ บัวขอร้องให้กลับมาเป็น

พี่ชายคนเดิม อย่าทำตัวเป็นทุกข์ ชีวิตมันต้องดำเนินไป ดำเกิงแค้นใจทุบอกตัวเองอั้กๆที่ช่วยอะไรบัวไม่ได้ บัวห้ามทั้งน้ำตา

“ทำไมเกิ่งจะช่วยบัวไม่ได้ เกิ่งช่วยบัวได้แน่ๆ แค่อยู่ข้างๆบัว คอยให้กำลังใจบัวเหมือนเคย สิ่งที่บัวกำลังจะต้องเจอมันหนักหนามากนะเกิ่ง บัวต้องการกำลังใจจากคนที่บัวรู้ว่า จะไม่มีวันทิ้งบัวไปอย่างอาป๊า ซินแสแล้วก็...เกิ่ง เพราะฉะนั้นบัวขอร้อง เลิกโทษตัวเองเลิกคิดฟุ้งซ่าน เราต้องเผชิญหน้ากับความเป็นจริง

เราต้องทน...”

ดำเกิงร้องไห้ทำไมต้องเป็นแบบนี้ บัวปลอบว่ามันเป็นไปแล้ว เรามีหน้าที่ต้องข้ามผ่านมันไปให้ได้ ขอให้เขาอยู่ข้างตน ดำเกิงยอมเข้าใจและสัญญาจะไม่มีวันทิ้งเธอไป

ในคืนนั้น หลอเตรียมจัดของแต่งงานตลอด

ทั้งคืน เจียงช่วยเท่าที่ทำไหว บัวพาดำเกิงเข้ามา เจียงบอกว่าดีใจที่เขายอมกลับมาทำหน้าที่ของตัวเอง แม้จะต้องฝืนใจอย่างยากลำบาก แต่ถ้ามันเป็นสิ่งที่ถูกต้องเราต้องทำให้ได้ ดำเกิงรับคำเศร้าๆ บัวสบตาเจียงอย่างโล่งอก

ใกล้เวลาฤกษ์ยาม ทั้งยิ่งจันทร์และแสงเดือนมีช่างมาแต่งหน้าทำผมอย่างเริ่ดสะแมนแตนไม่น้อยหน้ากัน ...ทางชยุติและทุกคนในบ้านแต่งตัวพร้อมสรรพ กนกวิภาเดินหาวหวอดๆมาส่งพี่ชายไปรับตัวเจ้าสาว ชยุติเดินประคองมาลัยที่แต่งตัวเรียบร้อยออกมา วลีกับไชโยย้ำเวลาฤกษ์ตีสี่สี่สิบเก้าอย่าให้คลาดเคลื่อน ชยุติขอเอาแหวนที่ยิ่งจันทร์ให้ไปด้วย อ้างว่าจะทำให้ยิ่งจันทร์เข้าใจทุกอย่างชัดเจน กนกวิภาเสริม

 “ดีเลยค่ะ พี่จันทร์จะได้เข้าใจว่า พี่ติกลับใจรักและเห็นค่าของพี่จันทร์คนเดียวแล้วแน่ๆ” วลีและไชโยเห็นจริง มอบแหวนให้ไป ชยุติรับคำจะพาสะใภ้กลับมาให้ตรงเวลา กนกวิภาแปลกใจทำไมอาม่าจะต้องไปด้วย ทั้งๆที่ไม่ได้ชอบยิ่งจันทร์เลยสักนิด วลีพูดขำๆ

“คนแก่ก็อย่างนี้แหละ ตอนแรกก็ทำตั้งแง่ แต่พอจะได้เห็นหลานเป็นฝั่งเป็นฝาก็ตื่นเต้นจนลืมเกลียด”

 “นี่ถ้าหนูจันทร์มีเหลนชายให้อาม้าอุ้มอีกนะ ขี้คร้าน จะทั้งรักทั้งหลงเหลนกับสะใภ้เข้าไปอีกแน่ๆเลยค่ะ” วลัยเสริมขำๆ ไชโยกับคนอื่นๆเห็นด้วย

ooooooo

เจียงเห็นบัวในชุดแต่งงานแล้วปลื้มปริ่มน้ำตาคลอ อวยพรด้วยความรักขอให้เป็นวันดีวันมงคลของชีวิต พร้อมมอบของขวัญเป็นปิ่นปักผมของเหมยหลินแม่ของบัวและรูปถ่ายแก่บัว เธอดีใจมากที่เห็นรูปแม่เป็นครั้งแรก เจียงปักปิ่นลงบนมวยผมของบัว

“นับจากวันนี้ไป ลื้อจะไม่ได้เป็นแค่ลูกสาวของป๊าแล้วนะ แต่ลื้อจะเป็นภรรยา จะเป็นลูกสะใภ้ และในอนาคตจะได้เป็นแม่คน...อย่าร้องไห้ นี่มันวันดีของลื้อ จำไว้นะอาบัว ต่อจากนี้ลื้อต้องอดทนอดกลั้น ไม่หวั่นไหว ซื่อสัตย์ต่อหน้าที่ ทั้งในฐานะของภรรยาและลูกสะใภ้”

“จ้ะป๊า บัวจะจำทุกคำที่ป๊าสอน บัวจะปฏิบัติตัวไม่ให้ขาดตกบกพร่อง จะไม่ทำให้ใครดูถูกเราได้ บัวสัญญา”

ทั้งสองสวมกอดกันอย่างตื้นตัน เสียงตรึงจิต

ร้องขึ้นว่า ขบวนเจ้าบ่าวมาแล้ว บัวพยายามทำจิตใจให้เข้มแข็ง...ตรึงจิตแทรกตัวจะไปกั้นประตูคนแรก จึงทะเลาะกับคู่ที่ยืนอยู่ก่อน ดำเกิงเอ็ดถ้ายังทะเลาะกันจะไล่ไปให้หมด แล้วตัวเขาก็ก้มหน้าจะเดินไปหลังบ้านเพราะทนดูไม่ได้ หลอรั้งไว้ เขาจึงหันกลับมาแล้วต้องตะลึง เมื่อเห็นคนนำขบวนเป็นมาลัยและชยุติเป็นเจ้าบ่าว

ด้านยิ่งจันทร์ชะเง้อรอขบวนขันหมากอย่างกระวนกระวายกลัวจะเลยฤกษ์ ทันใดมีสามล้อถีบเข้ามาคันหนึ่ง แสงเดือนร้องลั่น อย่าบอกนะว่าเจ้าบ่าวนั่งสามล้อมา...ธานีก้าวลงจากรถสามล้อกับขวด เอาแหวนมามอบให้ แสงเดือนร้องกรี๊ดไล่ธานีออกไปจากบ้าน

ยิ่งจันทร์ตกใจวิ่งเข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ขวดเสนอหน้าเข้ามาอธิบาย

“ขอโทษครับ นี่คือเสี่ยธานี ผู้ที่ได้รับมอบหมายจากว่าที่เจ้าบ่าวของคุณ ให้นำแหวนมาคืนน่ะสิ”

ธานีโชว์แหวนในมือ “เพราะแหวนวงนี้แท้ๆ ที่ทำให้อั๊วต้องตื่นเช้า รับไปสิคุณคนสวย เจ้าบ่าวเขาไม่เอาแล้ว รู้ตัวรึยัง”

“ไม่จริง! ฉันไม่เชื่อ เป็นไปไม่ได้ พี่ติไม่มีทางทำร้ายจิตใจจันทร์แบบนี้” ยิ่งจันทร์กรีดร้อง ล้วนรับแหวนมาพิจารณาแล้วบอกว่านี่ใช่แหวนเรา แสงเดือนจะเป็นลม

ขณะเดียวกันดำเกิงกับคนอื่นๆกำลังถกเถียงกันใหญ่ว่าทำไมเจ้าบ่าวของบัวเป็นชยุติ ยกเว้นเจียงกับหลอที่ไม่มีอาการตกใจอะไร แถมเชื้อเชิญมาลัยกับชยุติเข้าไปข้างใน ดำเกิงไม่ยอม มาลัยเกรงจะเสียฤกษ์รีบแจกซองคนกั้นประตูแล้วพาชยุติเดินฝ่าเข้าไป ดำเกิงขวางโวยวายเสียงลั่น บัวได้ยินตกใจ

เสียงเจียงเอ็ดดำเกิงให้หยุด แต่เขาโวยทำไมเจ้าบ่าวถึงเปลี่ยนตัว มาลัยแทรกถาม

“เป็นไอ้ตี๋หลานอั๊วแทนเสี่ยชีกอนั่น มันไม่ดีหรือไงอาเกิ่ง”

“เป็นใครก็ไม่ดีทั้งนั้นแหละ แกกลับไปเลยนะ บอกให้กลับไปไง” ดำเกิงผลักชยุติจนเซ

อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 7 วันที่ 22 ม.ค.61

ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว บทประพันธ์โดย กราตร ศักตา
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว บทโทรทัศน์โดย ยิ่งยศ ปัญญา, สรรัตน์ จิรบวรวิสุทธิ์
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว กำกับการแสดงโดย ธนากร โปษยานนท์
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ผลิตโดย บริษัท ดู เอนเตอร์เทนเมนต์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ควบคุมการผลิตโดย ธัญญา-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ