อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 14 วันที่ 4 ม.ค.61
ไตรทศรอด้านหน้ารีสอร์ตเพื่อรับพี่สาว ญาดาผลุนผลันออกมาจากห้องพัก โดยมีชาคริตตามติด แต่เธอไม่สนใจ ก้าวตามน้องชายไปขึ้นรถอย่างเร่งรีบตามอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน เลยไม่ทันระวังรถกอล์ฟที่พุ่งสวนมา!ชาคริตใจหายวาบ พุ่งตัวไปรวบตัวญาดาให้พ้นจากถนนจนรอดมาได้หวุดหวิด
“คุณคิดทำอะไร คุณจะฆ่าลูกของเราด้วยวิธีนี้เหรอ”
ญาดาพยายามตั้งสติจะอธิบาย แต่เพราะชาคริต สวนก่อนเลยแหวกลับด้วยความโมโห
“ลูกฉัน! ฉันมีสิทธิ์ทำอะไรก็ได้”
“นี่เป็นลูกของเรา...ลูกของเรา!”
ไตรทศถลามาประคองพี่สาว ชาคริตยอมปล่อยมือแต่สั่งให้เธอไปเช็กที่โรงพยาบาล
“ฉันไม่ไป”
“ดา...อย่าทำเรื่องที่คุณจะเสียใจทีหลัง”
“ถ้าทำให้คุณเสียใจได้ล่ะก็...ฉันทำได้ทุกอย่าง เมื่อกี้คุณก็เห็นแล้ว”
ไตรทศพาญาดากลับกรุงเทพฯหลังจากนั้น ทิ้งชาคริตให้ยืนหน้าเครียดตามลำพัง กลัวไม่ได้เห็นหน้าลูก...
เขมิการับรู้ทุกอย่างด้วยท่าทางไม่ทุกข์ร้อน ต่างจาก
ญาดาที่วิ่งพล่านด้วยความเป็นห่วงพ่อ
“เรื่องคุณพ่อไม่ต้องเป็นห่วง เขมเชื่อว่าคุณพ่ออยู่ในที่ปลอดภัย แต่ถ้าเราตามหาคุณพ่อเจอ พี่ดาจะตอบคำถามเรื่องหลานในท้องยังไงหรือคะ”
คำถามของเขมิกาทำให้ญาดาไม่พอใจ เช่นเดียวกับไตรทศ โต้แทนพี่สาวคนโต
“เด็กไม่มีความผิดอะไรนะพี่เขม”
“แต่ถ้าเด็กเกิดมาท่ามกลางปัญหา เด็กจะมีความสุข เหรอ แล้วที่สำคัญ...ถ้าพี่ดาไม่มีลูก นายชาคริตยอมตัดขาดจากพี่ดาแน่นอน”
“ทำไมพี่เขมใจร้ายอย่างนี้...นี่หลานเรานะ”
“พี่ก็แค่เสนอทางเลือกให้พี่ดา ยกเว้นพี่ดายังมีใจกับฆาตกร พี่ดาจะเก็บลูกไว้เชื่อมสัมพันธ์ต่อก็ตามใจค่ะ”
ญาดายิ้มเย็น เอือมระอาความคิดน้อยของน้องสาว แต่ไม่ได้คัดค้านจริงจัง
“พี่รับทางเลือกของเขมไว้พิจารณานะ ไม่ต้องห่วงว่าพี่จะตัดสินใจผิดพลาดอีก พี่รู้ว่าพี่จะเล่นกับไฟยังไง...”
แผนตลบหลังชาคริตของครอบครัวเมธาสิทธิ์ถูกเตรียมการอย่างดี โดยที่เจ้าตัวไม่ระแวดระวังแม้แต่น้อย มัวยุ่งรวบรวมหลักฐานจากกสิณที่ส่งปิงไปเอา
บรรยากาศเงียบเหงาและวังเวงของบริษัทโกริช ...บริษัทแชร์ลูกโซ่ในคราบบริษัทขายอาหารเสริม เพราะถูกลูกค้าร้องเรียนเมื่อวันก่อนทำให้กสิณจิตตก กลัวจะถูกจับ เมื่อเห็นปิงมาถึงจึงรีบลากไปคุยในมุมลับตา
“แกจะบ้าเหรอ เดี๋ยวคนก็เห็นหรอก”
“มิน่า...ถึงนัดผมตั้งแต่บริษัทยังไม่เปิด บริษัทคุณเงียบอย่างกับป่าช้า คุณจะกลัวใครเห็น...นี่ใช่ไหมเอกสาร”
ปิงเหลือบตาไปทางซองเอกสาร กสิณเลยยื่นให้แบบไม่เต็มใจนัก
“ฉันรวบรวมมาได้เท่านี้ แล้วบอกนายแกอย่ามายุ่งกับฉันอีก”
“ถ้ายังทำตัวเป็นประโยชน์กับนาย นายก็จะไม่ยุ่งกับคุณ”
“อย่าบีบกันมาก คนสติแตกทำอะไรก็ได้นะโว้ย!”
ooooooo
หลักฐานจากกสิณใช้เป็นหลักฐานมัดตัวดิลกได้อย่างแน่นหนา ชาคริตเบาใจได้เรื่องหนึ่ง แต่ไม่วายเป็นกังวลเรื่องญาดาที่จนป่านนี้ยังติดต่อไม่ได้
แล้วก็เหมือนฟ้าจะเห็นใจ เขมิกาเป็นคนแรกที่เปิดฉากโทร.หาชาคริตตามแผนของญาดา
“คุณอยู่ไหนคะตอนนี้”
“เกี่ยวอะไรกับคุณ”
“พูดดีๆหน่อยก็ไม่ได้ เขมอุตส่าห์หวังดีโทร.มาส่งข่าว กลัวคุณจะไปส่งพี่ดาที่สนามบินไม่ทัน”
“ดาจะไปไหน”
“เจอหน้าก็ถามกันเองนะคะ อีกสิบนาทีพี่ดาจะออกจากบ้านแล้ว หวังว่าคงมาทันนะคะ”
คำพูดทิ้งท้ายของญาดาครั้งสุดท้ายที่เจอกันทำให้ชาคริตสติแตก พุ่งไปบ้านเมธาสิทธิ์ทันที เขมิกาเตรียมพร้อมอยู่แล้ว ออกมารับหน้าด้วยท่าทางยิ้มแย้มผิดสังเกต
“ดาไปหรือยัง”
“เข้าไปคุยในบ้านดีกว่านะคะ”
“ผมถามว่าดาไปหรือยัง!”
“ยังค่ะ...แต่พี่ดาคงไม่อยากบอกลาคุณแน่”
“ดาจะไปไหน”
“ถามว่าพี่ดาจะไปทำอะไรดีกว่า”
“เลิกกวนประสาทซะที”
“ไม่ได้กวน...จุดหมายไม่สำคัญเท่าเป้าหมายว่าพี่ดาไปต่างประเทศทำไม พี่ดาเคยบอกนี่...คุณคงเดาไม่ยาก”
“ผมไม่เชื่อ ดาก็แค่ขู่”
“แค่ขู่...คงไม่ลงทุนไปไกลหรอกนะคะ อยากฟังชัดๆเคลียร์ๆใช่ไหมคะ...พี่ดากำลังไปจัดการลูกในท้อง!”
ชาคริตส่ายหน้าไม่เชื่อ พลันต้องชะงักเมื่อเห็นไตรทศขับรถออกไปพร้อมญาดา เขารีบตามแต่ไม่ง่ายเลย ไตรทศมีฝีมือในการซิ่งรถพอตัวทีเดียว กว่าจะตามทันญาดาก็ถึงสนามบินแล้ว
“ลงมาคุยกันให้รู้เรื่อง!”
“เรามีอะไรจะต้องคุยกันอีกเหรอ”
“คุณไม่มีสิทธิ์!”
“มีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่ไหม”
ญาดาไม่ต่อปากต่อคำด้วย สีหน้ารำคาญจนชาคริต เริ่มใจไม่ดี ยอมอ่อนท่าทีลง
“ถ้าคุณไม่ต้องการลูก...อดทนรอจนลูกคลอดได้ไหม ผมจะเลี้ยงลูกเอง”
“ขอมากไปเปล่า ให้ฉันอดทนเพื่อคุณนี่นะ เด็กคนนี้ควรจะมีโอกาสไปเกิดเป็นลูกพ่อแม่ที่เขาเต็มใจให้เกิดมา”
“ผมนึกว่าคุณพร้อมที่จะเป็นแม่”
“ตอนนั้นฉันมันโง่ที่เชื่อคุณ ถ้าเด็กต้องเกิดมาแล้วรู้ว่าพ่อทำแต่เรื่องเลวๆไว้ อย่าเกิดมาซะดีกว่า”
ไตรทศเห็นท่าไม่ดี พยายามช่วยขวางชาคริต
“คุณกลับไปดีกว่า คุณเปลี่ยนใจพี่ดาไม่ได้หรอก”
แต่ชาคริตไม่สนใจ โพล่งใส่หน้าญาดาเสียงดัง
“ผมจะไม่ยอมให้คุณทำลายลูก”
“คุณหยุดฉันไม่ได้หรอก!”
ญาดาประกาศกร้าวแล้วจะผละไป ชาคริตจะตามไปขวาง แต่ถูกบอดี้การ์ดของเธอจับตัวไว้ ญาดาหมุนตัวกลับมาเผชิญหน้าสามีอีกครั้ง เอ่ยเสียงเย็น
“ลูกฉัน...ปัญหาของฉัน กำจัดทิ้งเมื่อไหร่ ฉันจะได้เป็นอิสระซะที เข้าใจหรือยังว่าทำไมฉันต้องทำ!”
พูดจบก็ผละไป พร้อมกับไตรทศที่กำชับบอดี้การ์ดทิ้งท้ายไม่ให้ซ้อมชาคริตเพราะไม่ชอบความรุนแรง ชาคริตได้แต่มองตามด้วยความเจ็บใจที่ห้ามหรือทำอะไรญาดาไม่ได้...
ooooooo
สถานการณ์ของชาคริตไม่ดีเลย ไม่ต่างจากทัศนะ ต้องหนักใจอาการดื้อเงียบของเพ็ญขวัญที่ประท้วงเขาด้วยการอยู่เฉยๆ ไม่ยอมจัดของหรือเตรียมตัวย้ายบ้าน
เพ็ญขวัญอาลัยบ้านเก่ามาก ไม่อยากย้าย เลยอ้างกับพี่ชายว่าไม่สบาย ทัศนะไม่เชื่อ ดุน้องสาวที่ทำตัวเรียกร้องความสนใจเหมือนเด็กๆ เพ็ญขวัญเลยต้องหยิบกระเป๋าเดินทางมาเก็บของแบบไม่เต็มใจนัก
ท่าทางของเพ็ญขวัญทำให้ทัศนะอ่อนใจ แกล้งถามทั้งที่รู้สาเหตุดี
“เป็นอะไร...ไม่สบายจริงๆเหรอ”
“ขวัญไม่อยากย้ายบ้าน”
“ใครๆก็อยากไปอยู่เมืองนอกทั้งนั้น ที่นั่นจะมีศูนย์บำบัดดีๆ”
“ขวัญไม่ต้องการ ขวัญรักบ้านหลังนี้ นี่เป็นโลกของขวัญ ขวัญไม่อยากไปเริ่มต้นใหม่ ไปเจอคนแปลกหน้า ภาษาก็พูดไม่เป็น แค่นี้ชีวิตขวัญยังเหงาไม่พออีกเหรอพี่นะ”
“เราตัดสินใจกันไปแล้วนะ”
“พี่นะเป็นคนตัดสินใจคนเดียว ไม่ถามความเห็นขวัญสักคำ”
“แล้วมาโวยวายอะไรตอนนี้ รู้ไว้ด้วยนะ...ไม่ว่าพี่จะทำอะไร พี่นึกถึงขวัญก่อนเสมอ ไม่เคยคิดถึงตัวเองเลย”
“ถ้าไม่มีขวัญ พี่นะจะได้มีชีวิตของตัวเองใช่ไหม”
พูดจบก็ผลุนผลันออกจากบ้าน ทัศนะต้องวิ่งตามด้วยความหัวเสีย แต่เพียงไม่นานก็ต้องเครียดจริงๆเมื่อพบว่าเพ็ญขวัญหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย!
อ่านละครเรื่อง ระเริงไฟ ตอนที่ 14 วันที่ 4 ม.ค.61
ละครเรื่อง ระเริงไฟ บทประพันธ์โดย โสภี พรรณรายละครเรื่อง ระเริงไฟ บทโทรทัศน์โดย พิมพ์ธนา และ เอกชยา
ละครเรื่อง ระเริงไฟ กำกับการแสดงโดย กฤษฎา เตชะนิโลบล
ละครเรื่อง ระเริงไฟ ผลิตโดย บริษัท ชิติเช่น เคน จำกัด
ละครเรื่อง ระเริงไฟ ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ