อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 3 วันที่ 9 ม.ค.61
เช้าวันใหม่ บัวกำลังทำข้าวต้มให้เจียง ใจลอยคิดถึงคำพูดของหมอเมื่อคืนที่บอกว่าเจียงมีอาการเครียดและอ่อนเพลีย ประกอบกับความดันโลหิตสูงอยู่ก่อน จึงหน้ามืดหมดสติ ต่อไปให้ระวังอย่าให้เครียดหรือกังวลอะไรอีก จะเป็นอันตรายต่อร่างกาย
เจียงนอนให้น้ำเกลือเสร็จขอหมอกลับบ้านอ้างว่าไม่ได้ยินเสียงงิ้วนอนไม่หลับ เช้านี้บัวจึงต้องทำข้าวต้มให้ ดำเกิงเดินมาเห็นบัวใจลอยจึงแกล้งจี้เอวแล้วร้องว่าข้าวต้มไหม้แล้ว บัวตกใจรีบยกลงจากเตา ดำเกิงถามว่าใจลอยเรื่องเจียงหรือ บัวพยักหน้ารับ
“ป๊านี่ดื้อเนอะ ความจริงน่าจะอยู่โรงพยาบาลดูอาการอีกสักวันสองวันก่อน แล้วค่อยกลับบ้าน” ดำเกิงบ่น
“ป๊ายอมใครที่ไหนล่ะ ถ้าไม่ล้มทั้งยืนบัวว่าป๊าไม่มีทางไปโรงพยาบาลหรอก”
“ถ้าป๊าไม่ป่วย เมื่อคืนนี้บัวก็คงไม่ได้ขึ้นเวทีหรอก รู้ไหมเมื่อคืนบัวแสดงดีมากเลยนะ เกิ่งถึงขนาดเก็บเอาไปฝันเลยล่ะ”
บัวจุ๊ปากให้เบาเสียงกลัวเจียงได้ยิน และบอกที่ทำเพราะความจำเป็น ดำเกิงว่าฝีมือขนาดบัวจะกลัวอะไร ถ้าป๊าเห็นต้องทึ่งและยอมให้เป็นนางเอกคณะ บัวไม่คิดอย่างนั้น ทันใดเสียงเจียงเรียกหาบัว บัวรีบสั่งดำเกิงตักข้าวต้มตามไปให้ป๊า
เจียงลุกเดินมานั่งที่ม้าหิน บัวติงว่ายังไม่หายดีไม่ควรลุกจากเตียง ดำเกิงยกข้าวต้มมาวางให้บอกว่าบัวลุกมาทำแต่เช้า เจียงตำหนิจะทำให้เสียเวลาทำไมแทนที่จะรีบแต่งตัวไปเรียน บัวรีบบอกว่าวันนี้ไม่มีเรียน...เจียงตักข้าวต้มเข้าปากก็รู้ว่ามีเผือกมีมัน ต่อว่าอีก
“นี่ลื้อซื้อเผือกมันมาใส่เหรอ มันเปลืองตังค์นะ ลื้อไม่รู้เหรอว่าเราต้องเก็บเงินไว้จ่ายค่าตัวนักแสดงน่ะ ไหนจะค่ามดค่าหมอ หยูกยาอีก”
ทันใดเสียงธานีดังขึ้นว่าค่าดอกเบี้ยตนด้วย ทุกคนหันขวับไปมอง ธานียืนหนีบกระเป๋าเน้นว่าสองเท่า เจียงอึกๆอักๆจะขอผัด แต่บัวแทรกว่ามีจ่ายแล้วควักเงินส่งให้ ธานีไม่วายเนียนลูบมือบัว และบอกว่าเงินนี่หอมจริงๆ ดำเกิงเสียงเขียว
“ได้เงินแล้วก็รีบไปสิ จะมายืนหน้าทู่อยู่ตรงนี้ทำไม”
ธานีหันไปถามขวดว่าดำเกิงว่าใคร ขวดบอกว่าเสี่ยแหละ ตนหน้ากลม ธานีนิ่วหน้าไม่โกรธ กลับพูดเสียงหวานกับบัวว่าแล้วจะมาเก็บดอกเบี้ยหอมๆอีก...บัวกับดำเกิงถอนใจ เจียงถามทันทีว่าเอาเงินมาจากไหน บัวหน้าซีดหลบตาอย่างคนมีความผิด
บัวคุกเข่าลงยกมือไหว้ขอโทษที่ขัดคำสั่งขึ้นเล่นงิ้วเมื่อคืน เจียงโกรธเบื่อคำขอโทษ ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ว่าบัวหัวแข็งดื้อรั้น ควรจะทำอย่างไรกับเธอดี ดำเกิงแก้ตัวแทนว่าบัวทำเพราะหวังดีต่อคณะ เสียงเจียงดังขึ้นจนชาวคณะวิ่งมาดู
“ลื้อไม่ต้องมาหวังดี หน้าที่ลื้อคือเรียนหนังสือก็ต้องเรียน เรียนให้สูงๆจะได้ทำงานดีๆ”
หลอต่อว่าเจียง “เฮียไม่มีเหตุผล อาบัวอีไม่ได้อยากขัดคำสั่งเฮีย แต่เมื่อคืนมันจำเป็นจริงๆ ไม่อย่างนั้นวันนี้เราจะมีจ่ายดอกเสี่ยธานีไหม”
ชาวคณะส่งเสียงสนับสนุน บัวร้องไห้เสียใจที่หลอกับเจียงต้องมาเถียงกัน จึงขอร้องอย่าเถียงกัน ตนผิดเอง จะลงโทษตนก็ได้แล้วยื่นไม้เรียวให้ เจียงโกรธหาว่าท้าทาย ดึงไม้มาเงื้อขึ้น ดำเกิงคุกเข่าลงข้างบัวและขอให้เจียงลงโทษตนด้วย ชาวคณะต่างเข้าห้อมล้อมบัวขอให้เจียงตีพวกเขาด้วย หลอเข้าไปร่วมวงให้ตีตนด้วยอีกคน เจียงโพล่งออกมาท่ามกลางเสียงเซ็งแซ่
“พวกลื้อคิดว่า อาบัวคนเดียวจะช่วยคณะเราได้เหรอ”
“แล้วเฮียคิดว่า เฮียจะเอาอดีตที่แก้ไขไม่ได้ของเฮีย มาทำลายอนาคตของทุกชีวิตในคณะไซป๋อได้เหรอ เฮียเอาการกระทำของผู้หญิงคนหนึ่งที่ตายไปแล้ว มาตัดสินอาบัวได้ยังไง” เจียงห้ามไม่ให้หลอพูด “ไม่! อั๊วจะพูด อั๊วทนมานานแล้ว ทนเห็นเฮียจมปลักอยู่กับอดีต จนลืมไปว่า ตอนนี้เฮียและทุกคนที่นี่ยังมีชีวิต และยังต้องเดินต่อไป ถ้าเฮียอยากตายไปพร้อมกับผู้หญิงคนนั้น เฮียก็ควรตายไปคนเดียว ไม่ใช่ให้คณะไซป๋อและพวกเราทุกคนตายไปพร้อมกับเฮียด้วย”
เจียงทนฟังไม่ไหวทิ้งไม้เดินหนีขึ้นห้อง ดำเกิงปรี่เข้าหาหลอด้วยความอยากรู้ หลอมองหน้าบัวและดำเกิงไปมา...ด้านเจียงเข้าห้องปิดประตูนั่งน้ำตาซึม หยิบกล่องใส่ปิ่นขึ้นมาเปิดดูคิดถึงอดีตที่ฝังใจเมื่อยี่สิบปีก่อน
เหมยหลินเป็นนางเอกคณะที่สวยโดดเด่นและเป็นคนรักของเจียง เขามอบปิ่นปักผมนี้ให้แก่เธอ เหมยหลินบอกว่าถ้ามีลูกสาว จะยกปิ่นนี้ให้เป็นเครื่องเตือนใจว่าป๊ากับม้ารักอีมาก เจียงมั่นใจว่าลูกจะต้องสวยเหมือนเหมยหลิน...
หลอตัดสินใจเล่าเรื่องในอดีตให้บัวและดำเกิงฟัง ว่าเหมยหลินเป็นแม่ของบัว เป็นนางเอกคนแรกของคณะ ทั้งร้องทั้งรำงิ้วได้อ่อนช้อย เจียงรักเธอมากจนคิดสร้างครอบครัว แต่แล้วเธอก็ปันใจให้ชายอื่นที่มาเฝ้าดูงิ้วทุกคืน แล้วหนีตามเขาไป...ผ่านไปไม่ถึงปี เหมยหลินกลับมาในคืนที่ฝนตกหนักด้วยสภาพท้องแก่ เจียงกำลังอุ้มดำเกิงที่เพิ่งได้สองขวบอยู่ เขาตกใจ
“เฮียเจียง อั๊วขอโทษนะที่ทิ้งเฮียไป ยกโทษให้อั๊วด้วย โอ๊ย...” เหมยหลินเกิดเจ็บท้อง เจียงรีบวางดำเกิงวิ่งไปประคองเหมยหลิน แล้วคืนนั้นเธอก็คลอดบัวออกมา พร้อมทิ้งจดหมายลาตายไว้ฉบับหนึ่ง ฝากเจียงเลี้ยงบัวดวงใจของเธอ ก่อนจะแอบไปผูกคอตายที่โรงงิ้ว
พอบัวรู้เรื่องรีบไปหาเจียงที่ห้อง บอกเขาว่าตนจะไม่เล่นงิ้วอีก สาบานจะไม่ขัดคำสั่งอีก เจียงแทรกขึ้นว่า ไม่ต้องสาบาน ตนไม่ได้ไม่อยากให้เธอเล่นงิ้ว แต่ตนกลัว...
“จ้ะ บัวเข้าใจ ซินแสเล่าให้บัวฟังแล้ว ทำให้บัวเข้าใจว่าทำไมป๊าถึงห้ามบัว บัวผิดเองที่บัวดื้อ ป๊าเมตตาบัวกับอาม้าบัวขนาดนี้ บัวก็ไม่ควรขัดใจป๊าหรือทำให้ป๊าผิดหวังอีก” บัวคุกเข่าลง “บัวขอบคุณอาป๊าที่รับเลี้ยงบัวมา ขอบพระคุณที่อาป๊าไม่โกรธอาม้า ขอบพระคุณที่ทำทุกอย่างให้กับบัว บัวสัญญาจะเชื่อฟังอาป๊าไม่ดื้อดึงอีกแล้ว”
เจียงน้ำตาไหลอาบแก้ม บัวคิดว่าไม่เล่นงิ้ว ก็ทำงานอื่นได้ แล้วจะมาปรึกษาว่าควรทำอะไรเพิ่มเติมอีกดี เจียงโพล่งขึ้นว่าให้บัวเล่นงิ้ว บัวแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
“ซินแสพูดถูก ลื้อกับอาเหมยหลินเป็นคนละคนกัน อั๊วจะเอาอีมาตัดสินลื้อไม่ได้ แล้วอั๊วก็ตั้งใจเอาไว้แล้วว่า ถ้าอั๊วมีลูกสาวจะฝึกอีให้เป็นนางเอกงิ้วที่เก่งที่สุด และลื้อก็คือลูกสาวอั๊ว”
บัวตื้นตันโผกอดเจียงร้องไห้ สัญญาจะไม่ทำให้ผิดหวัง เจียงมอบปิ่นของเหมยหลินแก่บัว...หลอดีใจมากที่เจียงยอมให้บัวเล่นงิ้ว จัดพิธีไหว้ฟ้าดินรับบัวเป็นลูกศิษย์ทันที
ooooooo
ธานีกำลังนั่งนับเงินที่เก็บดอกเบี้ยมาได้ เสียงคนทุบประตูบ้านโครมๆ ขวดทักว่าตำรวจมา ธานีไม่คิดอย่างนั้นเพราะมีพี่ชายเป็นสายที่ สน. ขวดถามว่าเป็นตำรวจหรือ ธานีส่ายหน้าบอก
ติดคุกอยู่ที่นั่น ขวดทำหน้าเซ็งกับลูกพี่เสียนี่กระไร
ไหมฟ้าถีบประตูโครมเข้ามาด้วยท่าทางราวหมาบ้า ประกาศว่าไหนๆตนก็เป็นเมียธานีแล้ว บ้านนี้ต้องเป็นของตนครึ่งหนึ่ง และเขาต้องมีหน้าที่หาเลี้ยงตนอย่างเมีย ธานีไม่ยอม ไหมฟ้าอาละวาดลั่นบ้าน
เสียงโครมครามทำให้ชาวบ้านตกใจ เป็นห่วงว่าไหมฟ้าโดนซ้อมสะบักสะบอม ชาวบ้านวิ่งมาป่าวประกาศที่ตลาด ตรึงจิตกับนกขมิ้นนั่งกินโอเลี้ยงอยู่ ตรึงจิตหัวเราะก๊ากที่ไหมฟ้าไปขอเป็นเมียธานี ชาวบ้านบอกจะรีบกลับไปดูว่าไหมฟ้าเป็นอย่างไรบ้าง
ผิดคาดที่ชาวบ้านเห็นไหมฟ้าลากธานีในสภาพสะบักสะบอมตาเขียวปั้ดออกมาประกาศให้ชาวบ้านรู้ว่า นี่คือคู่ผัวตัวเมียคู่ใหม่ ธานีนิ่งอึ้ง ขวดซึ่งสะบักสะบอมไม่แพ้กัน กระทุ้งเจ้านายให้พูดตามไหมฟ้า ธานีจำต้องพูดตามว่าจะเลี้ยงดูไหมฟ้า
เป็นเมีย มีสุขร่วมเสพมีทุกข์จะแบกไว้คนเดียว...
ไหมฟ้าลูบหัวธานียิ้มย่องราวแม่ลูบหัวลูกก็ไม่ปาน
บ่ายวันนั้น ยิ่งจันทร์นั่งรถหรูมาที่บ้านชยุติ
วลี วลัยและกนกวิภาต้อนรับราวแขกวีไอพี เตรียมอาหาร สุดหรูจนเธอต้องร้องออกมาว่า...บรรเจิดเริ่ดสะแมนแตนซะไม่มี วลีให้ยิ่งจันทร์บอกคนรถกลับไปได้เลย จะให้ชยุติไปส่ง ยิ่งจันทร์หอบกระเป๋ามาชวนกนกวิภาตีเทนนิส วลีชื่นชมว่าชอบกีฬาเหมือนชยุติ ยิ่งจันทร์ดึงไม้เทนนิสราคาแพงออกมาอวด กนกวิภาทัก
“พี่จันทร์ขา ความจริงไม่น่าเตรียมมาเลย ใช้ชุดของกนกก็ได้ กนกมีชุดสปอร์ตแฟชั่นตั้งสองสามตู้แน่ะค่ะ”
ยิ่งจันทร์ตาโต วลีพาไปนั่งพักรอชยุติลงมา...จี๊ดกับจ๊าดแย่งกันถือกระเป๋ายิ่งจันทร์ ซึ่งดูใหญ่ราวกับจะหอบของมาค้างคืน จ๊าดชื่นชอบยิ่งจันทร์แต่จี๊ดไม่ชอบตรงที่เธอแต่งตัวโป๊เกินไป
อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 3 วันที่ 9 ม.ค.61
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว บทประพันธ์โดย กราตร ศักตาละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว บทโทรทัศน์โดย ยิ่งยศ ปัญญา, สรรัตน์ จิรบวรวิสุทธิ์
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว กำกับการแสดงโดย ธนากร โปษยานนท์
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ผลิตโดย บริษัท ดู เอนเตอร์เทนเมนต์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ควบคุมการผลิตโดย ธัญญา-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ