อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 6 วันที่ 18 ม.ค.61
“ก็ดีนะคะ มีงิ้วเอาใจคนจีนดีงามค่ะ ฉันเห็นด้วย จ้างคณะที่อยู่ใกล้บ้านเรานี่แหละไปเล่น ดีไหม คณะของยัยหนูบัวน่ะ...ดีไหมตาติ”ชยุติแปลกใจแต่ก็รับคำ...ตกค่ำ ท่าทางวลีอารมณ์ดีจนไชโยแซว ชยุติข้องใจเข้ามาถามทั้งสองตรงๆว่าทำไมยอมจ้างคณะของเจียงวันเปิดตึก วลีตีหน้าเศร้า
“ม้าว่าแล้วว่าแกต้องถามเรื่องนี้ ถ้าป๊ากับม้าบอกว่า เรารู้สึกผิดกับสิ่งที่เราทำกับคณะของยัยหนูบัว ติจะเชื่อม้าหรือเปล่าล่ะ”
ไชโยเสริม เรามาคิดๆดูว่าพวกเราทำไม่ถูก เลยจ้างพวกนั้นเป็นการไถ่โทษ ชยุติยิ้มดีใจบอกป๊ากับม้าคิดได้ ทุกคนในคณะบัวก็คงดีใจ วลีแย้งว่าพวกนั้นอาจโกรธไม่รับงาน ฉะนั้นเขาอย่าเพิ่งบอกจนกว่าจะถึงวันงาน ชยุติรับคำขอให้การกระทำเป็นเครื่องพิสูจน์
วันต่อมา ชยุติเล่าให้มาลัยฟัง หญิงชรารู้สึกว่าแปลก ชยุติบอกตนก็แปลกใจแต่ถ้าคิดในทางดี ป๊ากับม้าอาจคิดได้อยากช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันจริงๆ สักวันตนจะทำให้ป๊ากับม้าเห็นว่าการมีเพื่อนดีๆ วิเศษกว่ามีสมบัติอะไรทั้งหมด มาลัยแย็บว่าตนจะอยู่ทันเห็นไหม ชยุติรีบบอกว่าอาม่ายังแข็งแรงต้องอยู่ทันเลี้ยงเหลน มาลัยแซวทันทีจนชยุติหน้าแดงซ่าน
“ยังไม่ทันได้คบหาดูใจ คิดเลยไปถึงเรื่องมีลูกแล้วเหรอวะไอ้ตี๋ เพ้อใหญ่แล้วนะลื้อเนี่ย”
สายวันนั้น มีชายแต่งตัวภูมิฐานใส่ทองเส้นใหญ่มาติดต่อคณะเจียงไปเล่นงิ้วงานฉลองเปิดตึกใหม่ ขอเป็นชุดใหญ่ เจียงกับทุกคนมองหน้ากันดีใจ ดำเกิงโพล่งขึ้นขอค่ามัดจำก่อน
“มัดจำทำไม เดี๋ยวจะเขียนเช็คไว้ให้ทั้งหมดเลยดีกว่า จะได้สบายใจกันทั้งสองฝ่าย”
เจียงให้เขียนครึ่งหนึ่ง ที่เหลือค่อยจ่ายตอนงานเสร็จ แต่ชายคนนั้นบอกจะเขียนทั้งหมด มีข้อแม้ว่าต้องให้บัวเล่นเป็นนางเอกเท่านั้นห้ามให้ใครแทน บัวรับคำทันที แต่พอเขากำหนดวันออกมาตรงกับวันที่เธอต้องไปสอบก็นิ่งอึ้ง ไม่กล้าปฏิเสธเพราะเห็นทุกคนกำลังดีใจ
พอชายคนนั้นกลับมารายงานวลี ไชโยและวลัยว่าสำเร็จ วลีสะใจมาก วลัยเกรงว่าพวกเจียงจะฟ้องกลับ วลีสวนจะกลัวทำไม เงินจ้างทนายพวกนั้นก็ไม่มี ไชโยเสริม คนอื่นรู้มีแต่จะหัวเราะเยาะสมน้ำหน้าที่จนแล้วยังโง่อีก วลีเข่นเขี้ยว กระสุนนัดเดียวต้องใช้ให้คุ้ม บัวหมดอนาคตจะได้ไม่กล้ามาไล่ล่าชยุติอีก
เย็นวันนั้น บัวกินอะไรไม่ลง เจียงมองอย่างห่วงๆ หลอถามถึงวันสอบ บัวบอกวันที่ไม่ตรงกับวันแสดง ดำเกิงปลื้มปริ่มที่คณะงิ้วเราจะมีนางเอกเป็นถึงบัณฑิตมหาวิทยาลัย เจียงถึงกับบอกว่าบัวสอบเสร็จจะฉลองใหญ่ บัวฝืนยิ้มจะยกจานไปล้าง ดำเกิงให้บัวไปดูหนังสือ
เขาล้างเอง
บัวเดินเข้าห้องด้วยสีหน้าเศร้าหมอง หยิบตำรามาลูบคลำน้ำตาคลอเพราะเมื่อตอนบ่าย ได้ไปขออาจารย์มาสอบทีหลัง แต่อาจารย์บอกว่าทางมหาวิทยาลัย
ไม่อนุญาต และยังปลอบใจว่า ชีวิตคนเราไม่ได้อะไรมาง่ายๆ เธอต้องเลือกเอาว่าจะเอาทางไหนและทำมันให้ดีที่สุด...บัวกอดหนังสือร่ำไห้ พึมพำขอโทษป๊าที่ทำให้ผิดหวัง
ooooooo
วันงานเปิดตึกโรงงานน้ำปลา ขบวนสิงโตเชิดสวยงาม แปะยิ้มคอยหลอกล่ออย่างสนุกสนานครื้นเครง ไชโยกับวลียืนยิ้มต้อนรับแขกเหรื่อซึ่งนำกระเช้ามาอวยพร
ชยุติถูกยิ่งจันทร์ ล้วนและแสงเดือนตามประกบจนรำคาญ มาลัยสงสารหลานแทรกตัวเข้ามาเกาะแขนชยุติ ยิ่งจันทร์ร้องลั่นว่าอะไรกัน มาลัยบอกจะให้หลานพาไปฉี่แล้วดึงตัวเขาไป
รถบัสแล่นเข้ามาจอด คณะงิ้วของเจียงทยอยกันลงจากรถ ดำเกิงพูดว่าจะได้เห็นหน้าเจ้าของโรงงานใหญ่ยักษ์เสียที ทันใดมาลัยกับชยุติเดินมาต้อนรับ บอกหน้าตาเหมือนตนเพราะทุกคนเป็นลูกหลาน ดำเกิงกับบัวตกใจ เจียงกับหลอทำหน้าไม่ถูกเมื่อรู้ว่าเป็นครอบครัวนี้
วลีกับวลัยตามออกมามองบัวอย่างเหยียดๆ บอกให้ทุกคนไปเตรียมตัว วลัยเสริมว่าอยากดูงิ้วใจจะขาดอยู่แล้ว เจียง หลอ บัวและดำเกิงพูดไม่ออกได้แต่เดินตามไปยังที่ที่จัดให้แต่งตัว
ooooooo
หลังฉากจัดเป็นที่แต่งตัวให้คณะงิ้ว จ๊าดย่องเข้ามาจะเทสลอดใส่ถังน้ำกิน แต่ทุกคนเข้ามาเสียก่อน จึงมุดแอบใต้โต๊ะ ดำเกิงบ่นว่าไม่เชื่อใจพวกวลีที่มาจ้างคณะเรา บัวให้คิดในทางที่ดี เจียงบอกดำเกิงว่าเราจะกลับไม่ได้ รับเงินเขาแล้วต้องทำงานอย่างมืออาชีพ
ดำเกิงยังบ่นว่ามันแปลกๆ บัวให้รีบแต่งตัว เราต้องแสดงให้ดีที่สุดให้สมกับเป็นลูกหลานงิ้ว อย่าให้ใครดูถูกได้...นกขมิ้นกับตรึงจิตแอบมองไปหน้าเวที เห็นนักข่าวมากมายก็ตื่นเต้นจะได้มีข่าวออกสื่อ อาจดังกันเสียที ระหว่างนั้นจ๊าดพยายามเอื้อมมือเพื่อเทยาลงถังน้ำ
วลีจูงมือชยุติเข้ามายืนคู่กับยิ่งจันทร์ ให้นักข่าวสัมภาษณ์ นักข่าวถามยิ่งจันทร์จะมีงานถ่ายแบบอีกเมื่อไหร่ ยิ่งจันทร์ชะงักเล็กน้อยแล้วตีขลุมทำเอียงอายว่าโดนถามเรื่องข่าวดี
“อ๊าย...ถามอะไรยังงี้คะ อ๊ายอายไม่อยากตอบเลยอ่ะ แต่แบบเกรงใจพี่ๆนักข่าว อุตส่าห์อยากรู้ คือเราสองคนก็เพิ่งจะ...หมั้นกันน่ะค่ะ แต่แบบพี่ติเขารอไม่ไหวแล้วอ่ะค่ะก็เลยจะแต่งกันเร็วๆนี้ล่ะค่ะ ใช่ไหมคะพี่ติ”
นักข่าวฮือฮาจดข้อมูลกันยิก ชยุติไม่ได้สนใจฟังเหลียวมองไปทางเวที วลีต้องตอบแทนว่าชยุติไม่อยากให้ผู้หญิงดีๆอย่างยิ่งจันทร์หลุดมือเลยเร่งเช้าเร่งเย็นให้หาฤกษ์แต่งงาน นักข่าวจี้ถามชยุติว่าจริงไหม เขาหันกลับมาตอบไปอีกเรื่อง
“อ๋อ คณะงิ้วที่จะแสดงวันนี้ชื่ออะไรน่ะเหรอครับ จดเลยครับ ชื่อไซป้อครับเป็นคณะที่เก่าแก่ฝีมือดีมาก ใครได้ดูการแสดงนี้รับรองติดใจทุกคน”
วลีหมั่นไส้แทรกว่า “นี่ก็เป็นความคิดของหนู
ยิ่งจันทร์เขาล่ะค่ะ ที่อยากให้เราจ้างคณะงิ้วมาเล่น เพราะเธออยากจะใช้โอกาสนี้เผยแพร่ศิลปะการแสดงที่งดงาม ออกสู่สายตาของชาวไทยทุกคน จริงไหมจ๊ะหนูจันทร์”
“ใช่ค่ะ จันทร์หลงใหลการแสดงงิ้วมากเลยนะคะ เพราะมันเริ่ดสะแมนแตนอย่าบอกใครเลย” ยิ่งจันทร์
หายเหวอกับคำตอบของชยุติ รับมุกวลีได้ทัน
มาลัยฟังอยู่นานรำคาญสุดๆเลยตะโกนแทรก “ลองให้หนูยิ่งจันทร์เขาร้องงิ้วให้ฟังสิ หนูยิ่งจันทร์เขาเก่งนะ เรื่องการแสดงนี่ไม่มีใครเทียบติดหรอก”
นักข่าวหันมารอฟัง ยิ่งจันทร์ทำหน้าอยากร้องไห้ที่ต้องพยายามร้องงิ้ว เสียงเธอแหลมปรี๊ดจนคนรอบๆต้องเอามือปิดหู ชยุติอาศัยจังหวะนั้นหลบออกมา
เสียงยิ่งจันทร์ดังไปถึงหลังเวที ทุกคนต้องอุดหูบ่นว่าเสียงเปรตที่ไหน จ๊าดรีบโผล่มาเทยาลงถังน้ำ ดำเกิงเห็นเงาในกระจกโวยวายขึ้นว่าใครทำอะไร จ๊าดตกใจรีบกินซองยาเข้าไปแล้วจะวิ่งหนี แต่ชนกับนกขมิ้นล้มทับปากประกบกันพอดี ตรึงจิตเห็นเข้ากระชาก
หัวจ๊าดขึ้นมาตบ จ๊าดเจ็บทนไม่ไหว ถีบตรึงจิตกระเด็นไปโดนถังน้ำหกคว่ำกระจาย จ๊าดรีบวิ่งหนีออกไป เจียงให้ทุกคนเตรียมตัวให้พร้อมแสดง ตรึงจิตหน้างอกระฟัด– กระเฟียดใส่นกขมิ้น
บัวแต่งตัวเสร็จนั่งทำสมาธินิ่งๆ ชยุติโผล่มายืนมอง ยิ้มชมว่าเธอสวย บัวลืมตามาเห็นแอบเขิน ชายหนุ่มทำท่าให้เธอสู้ๆ บัวบอกตนทำเต็มที่อยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่คุ้มค่าจ้าง ดำเกิงเข้ามาขวางมองอย่างหาเรื่องไล่ใครไม่เกี่ยวเชิญออกไป ชยุติจึงบอกบัวว่า เจอกันหน้าเวที บัวมีแววตาชุ่มชื่นกับกำลังใจที่เขาส่งให้
การแสดงงิ้วเริ่มขึ้น แขกในงานสนใจบ้างไม่สนใจบ้าง ไชโยคุยกับล้วนและแสงเดือน วลีมองหาจ๊าดแต่ไม่เจอ มีเพียงมาลัยกับชยุติที่ตั้งใจดูอย่างไม่คลาดสายตา ยิ่งจันทร์แทบทนไม่ไหวแต่ต้องนั่งข้างชยุติเพื่อสร้างภาพให้นักข่าวถ่ายรูป
ชยุติมองบัวแสดงด้วยสายตาหยาดเยิ้ม ยิ่งจันทร์เห็นเกิดความหมั่นไส้ แกล้งเอียงหัวซบไหล่เขา บัวมองลงมาเห็นเกิดอารมณ์สะดุดเล็กน้อย แต่กลับมาแสดงได้อย่างมืออาชีพ นักข่าวชื่นชมการแสดงของบัวพากันถ่ายรูปพึ่บพั่บจนวลีไม่พอใจ จ้องบัวด้วยสายตาเกลียดชัง คิดว่าต้องทำอะไรให้พวกงิ้วได้อายที่สะเออะมาเล่นที่นี่
หลังงิ้วเล่นจบ นักแสดงทุกคนยืนหน้าเวทีเพื่อขอบคุณ ชยุติลุกขึ้นปรบมือเป็นคนแรก ตามด้วยมาลัยและนักข่าว มาลัยชมว่าบัวไม่เคยทำให้ผิดหวัง ชยุติเสริมว่าตนละสายตาจากเธอไม่ได้เลย ยิ่งจันทร์ได้ยินถามคุยอะไรกัน มาลัยเอ็ดว่ายุ่ง...หญิงสาวหน้าเจื่อน
วลียิ้มร้ายลุกขึ้นโยนเหรียญขึ้นไปบนเวที แล้วขยิบตาให้วลัยกับแสงเดือน “รออะไรกันอยู่คะ งิ้วเล่นดีขนาดนี้ก็ต้องตบรางวัลหน่อยสิคะ”
ทั้งสองคนโยนเหรียญตาม ทำให้คนอื่นๆทำบ้าง ชยุติพยายามห้าม เจียง หลอ บัวและดำเกิงหน้าเสียกับการกระทำของคนที่เรียกตัวเองว่าผู้ดี ตรึงจิตกับนกขมิ้นตาวาวช่วยกันเก็บ ดำเกิงโมโหตวาดลั่นว่า
พวกเราไม่ใช่ขอทาน วลียิ้มเยาะมองบัวด้วยแววตาเหยียดหยาม
“เอ้า แม่นางเอกงิ้วทำไมไม่เก็บเงินล่ะยะ”
แสงเดือนแกล้งบอกว่าเศษเงินหมด วลีเปิดกระเป๋าหยิบเหรียญออกมาอีก แล้วจ้องไปที่หน้าบัว บอกทีหลังอยากได้เงินก็เอ่ยปากขอกันดีๆ จากนั้นก็ปาเหรียญไปที่ตัวบัวยกใหญ่ ชยุติตกใจกระโดดขึ้นไปบังตัวบัวไว้ วลีโวยลั่นให้ลงมา นักข่าวถ่ายรูปกันใหญ่ วลีร้องลั่น
“ห้ามถ่ายรูปนะ หยุดถ่าย ห้ามเอารูปในงานไปเผยแพร่ ไม่อย่างนั้นฉันฟ้องพวกคุณแน่ วลัยไปสั่ง
นักข่าวให้หยุดเดี๋ยวนี้!”
วลัยกุลีกุจอห้ามนักข่าว ในขณะที่บัวกับชยุติ
จ้องมองกันนิ่งราวกับโลกหยุดหมุน...กนกวิภาไปสอบกลับมาถึงบ้านเห็นความวุ่นวายแถมมีพวกงิ้วอยู่ในบ้านก็แปลกใจ ดำเกิงโมโหสุดขีดพุ่งเข้าผลักชยุติให้ออกห่างจากบัว แล้วกระโดดลงจากเวทีตรงเข้าหาวลี บัวได้สติร้องห้ามดำเกิง วลีร้องกรี๊ดๆให้คนช่วย เกิดความชุลมุน กนกวิภาวิ่งมาขวางวลีแล้วผลักอกดำเกิง
“ไอ้หมาบ้า! แกคิดจะทำอะไรอาม้าของฉันห๊ะ!”
“ฉันก็จะฆ่าแม่แกไง”
“ไอ้เลว ไอ้ป่าเถื่อน ไอ้คนไม่มีการศึกษา แจ้งความเลยค่ะพี่ติ คนอันตรายอย่างมันต้องตั้งข้อหาหนัก พยายาม ฆ่าเป็นไงคะ”
ชยุติปรามให้หยุดแค่นี้ กนกวิภาโวยว่าเขาเห็นพวกงิ้วชั้นต่ำดีกว่า แล้วหันไปด่าว่าบัว “หึ นึกว่าหายไปไหน ไม่เห็นไปสอบ ที่แท้ก็มารำงิ้วแลกเศษเงินอยู่นี่เอง”
บัวหน้าเสีย เจียงตกใจมากมองบัวอย่างต้องการรู้ความจริง วลี วลัย ยิ่งจันทร์และแสงเดือนหัวเราะสะใจ วลีย้ำ ไม่ได้ไปสอบก็แสดงว่าเรียนไม่จบ น่าเวทนา เจียงสะเทือนใจตัดบท
“แต่การแสดงจบแล้วครับ ผมและชาวคณะต้องขอขอบคุณเจ้าภาพที่จ้างคณะของเรามาแสดงในวันนี้ ขอบคุณมากนะครับ...ทุกคนกลับบ้าน!”...
ooooooo
บัวนั่งก้มหน้าต่อหน้าเจียง หลอและดำเกิง
นั่งอีกมุม เจียงถามบัวด้วยน้ำเสียงโกรธว่าโกหกป๊าทำไม ทำอย่างนี้ได้อย่างไร บัวร้องไห้สะอึกสะอื้น
“ถ้าบัวไปสอบวันนี้แล้วใครจะมาเล่นงิ้วให้ป๊า
บัวทิ้งป๊าทิ้งคณะงิ้วของเราเพียงแค่ไปสอบเอาปริญญาไม่ได้หรอกป๊า”
เจียงอึ้งไปชั่วขณะแล้วค่อยๆเย็นลง “ป๊าเคยบอกแล้วใช่ไหม ความสุขของป๊าคือการได้เห็นลูกสาวคนนี้ของป๊าเรียนจบปริญญาตรี ป๊าถึงทุ่มเททั้งชีวิต อดมื้อกินมื้อก็ยอม เพื่อจะได้ส่งลื้อไปเรียนหนังสือ เพราะป๊าหวังว่าสักวัน แกจะยืนได้ด้วยตัวเอง จะได้เท่าเทียมคนอื่น จะได้ไม่มีใครหน้าไหนมาดูถูกเหยียดหยามว่าเรามัน
ก็แค่งิ้วชั้นต่ำ ไม่มีการศึกษา...บอกป๊าคำเดียวว่าบัว
จะต้องไปสอบ ป๊าจะไม่รับงานนี้ก็ได้ งานอื่นมีถมไป คนจะจ้างเรามีอีกเยอะนะลูก”
“แต่บัวจะยอมให้เสี่ยธานีมายึดคณะงิ้วไม่ได้หรอกจ้ะ ป๊ารักคณะงิ้วของเราเท่าชีวิต บัวรู้”
“นั่นมันหน้าที่ของป๊า ไม่ใช่ลูกอย่างลื้อ ลื้อ
ไม่เข้าใจหรือบัว ไอ้เกิ่งมันเป็นผู้ชาย ยังไงมันก็พอจะเอาตัวรอด แต่ลูกผู้หญิงอย่างลื้อ ถ้าไม่มีการศึกษา ภายหน้าจะลำบากแค่ไหน ถ้าป๊าตายไปลื้อจะทำยังไง” เจียงน้ำตาไหลพราก
บัวก้มกราบร้องไห้ตัวโยน เจียงดึงเธอขึ้นมากอด ดำเกิงกับหลอเห็นแล้วเช็ดน้ำตาป้อยๆ
ด้านวลีกับพวกชนแก้วหัวเราะสะใจที่ทำร้าย
คณะงิ้วและบัวได้อย่างสะใจ ชยุติเดินเข้ามามองทุกคนแล้วต่อว่าวลีทำได้อย่างไร เอาศักดิ์ศรีของคนอื่นมาเหยียบย่ำแบบนี้ วลีกลับย้อนถามว่าพวกนั้นมีศักดิ์ศรีด้วยหรือ ชยุติแทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าแม่ของตนร้ายได้ขนาดนี้
“แกไม่ต้องมาพูดแทนคนชั้นต่ำไม่มีการศึกษาพวกนั้นหรอกนะ แล้วก็เลิกยุ่งกับพวกมันซะที คนพวกนั้นมีแต่จะดึงให้แกต่ำลงไปด้วย” วลีย้ำ มาลัยทนไม่ไหวโพล่งขึ้นมาลอยๆ
“สูงต่ำอยู่ที่ทำตัว ดีชั่วอยู่ที่ตัวทำ”
“ใช่ค่ะอาม้า โดยเฉพาะยัยบัวนั่น มารยาสาไถยพยายามยั่วให้ตาติติดกับ หวังจะรวยทางลัด หน้าด้านเกินทน” วลียังไม่สำนึก
“อาม้าครับ บัวไม่เคยยั่วผมนะครับ เขามีแต่ไล่”
“มารยาน่ะสิ อย่าไปหลงกลมันนะตาติ มีของดีอยู่ตรงหน้าแท้ๆ ยังไม่รู้จักรีบคว้าไว้”
ไชโยย้ำคำพูดของวลีว่าแยกให้ออก ของดีหรือของถูก วลีสำทับถ้าไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นลูกอกตัญญู ชยุติเครียดรับคำว่าตนจะตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ด้วยการรับผิดชอบความผิดทุกอย่าง จะชดใช้ให้พวกบัว วลีกับไชโยอ้าปากค้าง มาลัยตัดบทให้ชยุติพากลับ แวะซื้อดอกบัวไปไหว้พระ เอาบัวที่โผล่พ้นน้ำ อย่าเอาบัวที่ฝังใต้ตม มันน่าเวทนา วลีสะอึกรู้ว่าโดนเหน็บ
เย็นวันนั้น ดำเกิงหน้าตื่นกลับเข้าบ้านบอกเจียงว่าเช็คเด้ง ทุกคนตกใจมาก บัวไม่อยากเชื่อว่าพวกนั้น
จะโกง เจียงหน้าซีดจะไปถามมาลัย ดำเกิงว่าอาม่าไม่เกี่ยว เป็นแผนของคุณนายใจยักษ์มากกว่า ตนจะไปเอาเรื่อง ไม่ทันที่ดำเกิงจะออกไป ตำรวจสองนายโผล่มา
“นายดำเกิงอยู่บ้านหลังนี้รึเปล่า”
“ผมเองครับ มีธุระอะไรครับ”
ตำรวจเข้ารวบตัวดำเกิงทันที เจียงรีบถามว่า
ลูกตนทำอะไรผิด ตำรวจบอกว่ามีเจ้าทุกข์แจ้งความข้อหาพยายามฆ่า ทุกคนตกใจรู้ว่าเป็นฝีมือใคร บัวแย้งว่า
พวกเราเป็นพยานได้ว่าดำเกิงไม่ได้ทำ แต่ตำรวจให้ไปเคลียร์ที่โรงพัก...ชาวบ้านมุงดูหน้าบ้านกันใหญ่
ชยุติฝ่ากลุ่มชาวบ้านเข้ามาเห็นดำเกิงถูกจับ
ก็รีบถามว่าเกิดอะไรขึ้น ดำเกิงโวยให้กลับไปถามแม่ตัวเอง ชยุติงงหันมาหาบัว เธอปัดไม่ต้องมายุ่ง ดำเกิงตะโกนด่าอีก
“ไอ้ขี้โกง แกกับครอบครัวของแกจะต้องได้รับผลกรรมที่ทำไว้ พี่ป้าน้าอาดูไว้เลย ไอ้ตี๋นี่มันเป็นลูกของนังขี้โกง มันโกงค่าตัวงิ้ว มันโกงพวกเรา!”
ชยุติยิ่งงงมันเรื่องอะไร บัวเสียใจมากบอกให้เขากลับไปถามแม่เขา ว่าทำกับพวกตนแบบนี้ได้อย่างไร พวกเราแสดงสุดความสามารถแต่ได้ผลตอบแทนคือความเจ็บปวด ชยุติขอโทษแต่เธอไม่รับและไล่ให้เขากลับไป
“ผมไม่ไป อย่าไล่ผมเลยบัว ตอนนี้ครอบครัวผมเป็นหนี้ครอบครัวคุณ ผมต้องชดใช้”
“คุณจะชดใช้ยังไง ถ้าคุณยังไม่รู้นะ ฉันจะบอกคุณให้ว่าที่บ้านของฉันต้องเจอเรื่องแย่ๆก็เพราะคุณนั่นแหละ เพราะงั้นคุณไปซะ อย่ามาให้ฉันเห็นหน้าอีก อย่าให้ฉันต้องเกลียดคุณไปมากกว่านี้เลย” พูดจบบัวเดินหนีเข้าบ้าน ปิดประตูใส่หน้า
ชยุติตะโกนไล่หลัง “ผมสัญญาว่าผมจะทวงความยุติธรรมให้ครอบครัวของคุณให้ได้ ผมจะไม่ยอมให้ใครมารังแกคุณกับครอบครัวอีกแล้วนะ”
“คุณจะสู้กับแม่คุณเหรอ” บัวตะโกนถาม
“ผมจะสู้กับความอยุติธรรมต่างหาก คุณยังไม่ต้องเชื่อตอนนี้ก็ได้ แต่ผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็น เราจะสู้ไปด้วยกันนะบัว” ชยุติเดินกลับไป
บัวน้ำตาไหลพราก เจียงเข้ามากอดปลอบด้วยความปวดใจไม่แพ้กัน
ooooooo
ห้องโถงบ้าน...จ๊าดหน้าซีดตัวสั่นจากการถ่ายไม่หยุด โดนวลีต่อว่าทำงานพลาด ไชโยบ่นน่าเสียดายที่พวกงิ้วไม่โดนยาถ่ายไม่อย่างนั้นเละกว่านี้ ชยุติกลับมาได้ยินแทบไม่อยากเชื่อ
“ว่าไงนะครับ นอกจากเช็คเด้ง ยังวางยาถ่ายด้วย นี่ม้าคิดจะทำอะไรกันแน่ครับ”
“ผิดเหรอที่ม้ากำลังพยายามกำจัดพวกเสนียดจัญไรออกไปจากชีวิตเรา หลังจากนี้คงต้องนิมนต์พระมาปัดรังควานที่โรงงาน”
ชยุติขอให้วลีจ่ายเงินคณะงิ้ว ที่ทำมันไม่ถูกต้อง วลีไม่จ่ายและจะแจ้งจับข้อหาทำร้ายร่างกายอีกด้วย วลัยโพล่งขึ้นว่า
“แต่ความจริงคุณพี่ก็ตั้งใจจะโกงพวกนั้นตั้งแต่แรกแล้วนี่คะ”
วลีเอ็ดให้เงียบ ชยุติถอนใจ ไชโยต่อว่าเป็นทนายให้ฝ่ายงิ้วหรือ แทนที่จะปกป้องครอบครัวตัวเอง ชยุติอธิบายว่าที่ตนทำเป็นการปกป้องครอบครัวไม่ให้ทำบาปมากไปกว่านี้ และเรื่องนี้ก็เป็นเรื่องผิดกฎหมาย ตนพร้อมเป็นพยานให้ฝ่ายนั้น ทั้งวลีและไชโยโกรธด่าว่าชยุติเป็นลูกอกตัญญู คิดจะเอาพ่อแม่เข้าคุก ชยุติส่ายหน้าระอาใจเดินหนีขึ้นห้อง...มาลัยยืนมองจากมุมหนึ่งด้วยความเวทนากับการกระทำของลูกสาวและลูกเขย
ในขณะที่ดำเกิงถูกจับเข้ากรงขัง โดยมีกนกวิภาเป็นเจ้าทุกข์ เขาโวยวายจะเล่นงานเธอ หญิงสาวแจ้งข้อหาขู่กรรโชกเพิ่ม ดำเกิงว่าผู้หญิงอย่างเธอน่าขยะแขยง สวยก็ไม่สวย นมก็แบน ก้นก็ฟีบ ปากก็ร้าย กนกวิภาร้องกรี๊ดๆด่ากลับลั่นโรงพัก
อ่านละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ตอนที่ 6 วันที่ 18 ม.ค.61
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว บทประพันธ์โดย กราตร ศักตาละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว บทโทรทัศน์โดย ยิ่งยศ ปัญญา, สรรัตน์ จิรบวรวิสุทธิ์
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว กำกับการแสดงโดย ธนากร โปษยานนท์
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ผลิตโดย บริษัท ดู เอนเตอร์เทนเมนต์ จำกัด
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ควบคุมการผลิตโดย ธัญญา-พงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง
ละครเรื่อง เสน่ห์นางงิ้ว ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ