อ่านละคร ลมซ่อนรัก ตอนที่ 9
“นอนไปเถอะ ผมยังไม่ง่วง เดี๋ยวอยู่เฝ้ายามให้ คุณจะได้หลับอย่างสบายใจ” ปราณนต์เอ่ย“ไม่ต้องมาสุภาพบุรุษเลย” ภัทรินด้งตัวขึ้นมา
“นอนนนนน” ปราณนต์จับตัว กดหัวให้อีกฝ่ายล้มไปนอน
“ชั้นไม่นอนคนเดียวหรอก” ภัทรินไม่ยอมแพ้
“อ๋อ อยากให้ผมนอนด้วยเหรอ”
“ไม่ใช่!!! แต่ชั้นไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว จะให้ชั้นหลับสบาย แล้วปล่อยให้นายนั่งตากลมหนาวอยู่คนเดียวได้ยังไง..นอนก็ต้องนอนด้วยกัน หนาวก็ต้องหนาวด้วยกันสิ”
ภัทรินยื่นผ้าห่มให้ “นี่ของนาย นี่ของชั้น นายไม่หลับ ชั้นไม่หลับ อย่างนี้สิยุติธรรม” พูดไม่ทันขาดคำก็หาวฟอดใหญ่
“หึๆๆ จะไหวเหรอ นอนเถอะ”
“อย่าดูถูกชั้น” ภัทรินตั้งท่าจริงจังว่าจะนั่งยันเช้า ห่มผ้าห่มปิดถึงคอ
“แล้วคุณจะนั่งทำอะไร”
“นั่งชิวๆ รู้จักป่ะ..ฮ้า นั่นดาวหมอปากเสียโผล่ออกมาแล้ว..อุ๊ย ดาวตก..ตกลงมาอยู่ตรงนี้” ภัทรินเอ่ยพลางทำท่าว่าดาวตกลงมากลายเป็นปราณนต์
“ตลกนักเหรอ” ปราณนต์เข้าไปกระชากผ้าห่มออกมา
“นี่ เอาผ้าห่มมานะ” ภัทรินเอ็ดขึ้น
“ฮะๆๆ อยากได้เหรอ ขอร้องผมสิ” ปราณนต์เอ่ยแหย่
“ไม่ให้ก็ไม่ง้อ อากาศแค่นี้ สบาย” ภัทรินทำท่าว่าไม่แคร์ สักพักมีลมพัดมาแรง ภัทรินถึงกับตัวเกร็ง คอย่น สั่นสะท้าน แต่ชายหนุ่มทำท่าสบายใจ ภัทรินวิ่งไล่ปราณนต์เพื่อแย่งผ้าห่ม อีกฝ่ายชักผ้าหลบไปหลบมา จนในที่สุด ปราณนต์จงใจปล่อยให้ภัทรินวิ่งเข้ามาแนบอก แล้วตวัดเอาผ้าห่มห่มร่างของภัทรินเอาไว้ ชายหนุ่มห่มผ้าให้ภัทรินอย่างอ่อนโยน
“ตรงนี้ลมแรง ผืนเดียวเอาไม่อยู่หรอก”
“แล้วนายล่ะ”
“ผมอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เด็ก ผมชินกับอากาศมากกว่าคุณเยอะ” ปราณนต์เอ่ยแบบนั้นแต่ก็มีอาการสั่นๆ ที่ปาก
“เหรอออออ” ภัทรินเยาะๆ ขำๆ เอ่ยประชด “อวดเก่ง..มานี่ มาห่มด้วยกัน” หญิงสาวจริงจังมากขึ้น ยื่นปลายผ้าห่มให้ ปราณนต์จำยอมห่มด้วย ทั้งสองคนนั่งห่มอยู่ในผ้าห่มด้วยกัน
“นี่ถ้าไม่มีลมพัดก็ไม่หนาวหรอก” ปราณนต์เอ่ย ภัทรินรีบหันมาเป่าลมใส่หูปราณนต์ “เฮ้ย”
“ยังจะอวดเก่งอีก หนาวก็บอกหนาว” ภัทรินเอ่ยอย่างหมั่นไส้ชายหนุ่ม
เวลาต่อมา ภัทรินกับปราณนต์นั่งอยู่ใต้ผ้าห่มด้วยกัน ตัวชิดกันเพื่อสร้างความอบอุ่น
“รู้สึกเหมือนกำลังรอเวลาให้ละครเปิดม่านเลย” ภัทรินเอ่ยขึ้น
“ยังไง” ปราณนต์ถามสงสัย
“ทุกอย่างมืดสนิท คนดูพร้อมดู นักแสดงพร้อมแสดง เมื่อทุกอย่างพร้อม ม่านก็จะเปิดออก แสงสีเสียงสวยงามอลังการก็จะจัดเต็ม..ชั้นจะนั่งอยู่อย่างนี้ รอเวลาละครของดอยผาหมอกเปิดม่าน”
“ช่างจินตนาการ” ปราณนต์เอ่ยอย่างทึ่งๆ
“นี่เพศอะไรล่ะ” ภัทรินเอ่ยย้อนแล้วทั้งคู่ก็หัวเราะขำ
“งั้นนี่ก็เท่ากับเราตีตั๋วคู่มาชมละครด้วยกันสิ ตื่นเต้นจัง” ปราณนต์อย่างนึกสนุกไปด้วย
“จะตื่นเต้นทำไม”
“อ้าว พาที่รักมาดูละครเวทีครั้งแรก ผมก็อยากให้คุณประทับใจ”
“มันก็แค่ละคร” ภัทรินทำท่าไม่อินด้วย
“แต่มันก็ทำให้เราอินไปกับบทบาทการแสดงได้..ความรู้สึกที่เรามีตอนดูละคร จะสุข เศร้า ตื่นเต้น โกรธ เกลียด หรือแม้แต่รัก มันก็เป็นสิ่งที่เรารู้สึกจริงๆ ไม่ได้เสแสร้ง”
“แต่สุดท้าย เมื่อละครจบ ม่านปิด เราก็กลับมาสู่ชีวิตเดิมของเราอยู่ดี”
“แต่เราอาจจะได้เรียนรู้ ได้ข้อคิดอะไรจากละคร ที่ทำให้เราเปลี่ยนแปลงไป ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป”
“นายอยากให้ละครกลายเป็นชีวิตจริงงั้นเหรอ” ภัทรินย้อนถาม ปราณนต์นิ่ง ลังเล ไม่แน่ใจ “เงียบเกินสามวิ แปลว่าไม่”
“แต่..” ปราณนต์ทำท่าจะค้าน
“ชู่ว์......มีมารยาทในการชมละครหน่อย” ภัทรินเอ่ยตัดบท ทั้งคู่นิ่งไป รู้สึกสับสน สักพักภัทรินซบหัวลงกับบ่าของปราณนต์ หลับตา และหลับไป
เวลาต่อมา ปราณนต์อุ้มภัทรินที่หลับสนิทและถูกห่อด้วยผ้ากลับเข้ามาในห้อง พาไปวางไว้ที่เตียงนอนอย่างอ่อนโยน ภัทรินหลับไม่รู้เรื่อง ซุกตัวเข้าไปในผ้าห่ม
ปราณนต์นั่งบนเตียงมองภัทริน “ม่านไม่ทันเปิด ม่านตาปิดซะแล้ว” เขามองหญิงสาวอย่างอ่อนโยน หลงรัก ชายหนุ่มเห็นผมปรกใบหน้าเข้าไปในปาก ก็รีบจัดระเบียบผมให้ภัทรินอย่างอ่อนโยน แผ่วเบา แล้วโดยไม่รู้ตัว ปราณนต์ก็เผลอไล้หลังมือสัมผัสแก้มนุ่มของภัทริน
“เฮ้ย ทำบ้าอะไรไปวะ” ปราณนต์ตกใจ ที่ตัวเองทำอะไรลงไป รีบผละออก ถึงกับไถลลงไปนั่งกับพื้นข้างเตียง
ภัทรินยังนอนสงบที่เดิม ชายหนุ่มตกใจ ตื่นเต้น หายใจถี่ขึ้นไม่รู้ตัว รีบตั้งสติ เอาหัวแนบผนัง มองตรงไปข้างหน้า ควบคุมอารมณ์ พอเริ่มควบคุมอารมณ์ได้ จังหวะหายใจเริ่มปกติ ชายหนุ่มก็หันหน้ามามองที่เตียง แต่ปรากฏว่าภัทรินพลิกตัวหันหน้ามาตรงหน้าเขาตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ใกล้ชิดกัน
ปราณนต์อึ้ง วาบหวิว เคลิ้ม เหมือนถูกดึงดูด สับสน แล้วก็ห้ามใจ หันหน้าหนี พยายามตั้งสติ แล้วก็ไม่สามารถห้ามได้ หันกลับมา คิดอยากจะจูบ ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ แล้วก่อนที่ริมฝีปากจะชนกัน อยู่ๆ ภัทรินลืมตาขึ้น
มามอง นิ่งสงบ ปราณนต์ชะงัก แต่ไม่ถอย ยังคงอยู่ใกล้กัน
“จะทำอะไร” ภัทรินถามขึ้น
“เอ่อ..” ปราณนต์อึกอัก
“จะจูบชั้นเหรอ”
“ได้มั้ย” ปราณนต์ยื่นหน้าเข้าใกล้
“อย่า” ปราณนต์ชะงัก ภัทรินมองด้วยสายตาที่ต้องการให้ตอบคำถามก่อน“ ทำไม”
“เราเป็นสามีภรรยากันแล้ว”
“เราแค่แต่งงานกันหลอกๆ”
“ทำให้จริงคงไม่ยาก” ปราณนต์ยื่นหน้าเข้าไปอีก
ภัทรินหันหน้าหนี ลุกขึ้นมานั่ง “ชั้นว่า..ชั้นกลับไปนอนบ้านแม่ดีกว่า” ภัทรินจะลุกหนี แต่ปราณนต์รีบมาขวางหน้า จับมือเอาไว้
“ทำไม” ปราณนต์ย้อนถามขึ้น
“เราควรอยู่ให้ห่างกัน ไม่อย่างนั้นจะต้องมีคนเสียใจ” ภัทรินดึงมือออก จะไป
ปราณนต์ตามรั้งไว้ จับตัวหญิงสาวไม่ให้ไป ถามจ้องหน้ “คุณไม่รู้สึกอะไรบ้างเลยเหรอ..ระหว่างเรา”
“จะให้ชั้นรู้สึกอะไร”
“ตอนที่กลับมาเห็นคนร้ายอยู่ในบ้าน ผมแทบคลั่งคุณรู้มั้ย ผมเป็นห่วงคุณ กลัวว่าคุณจะมีอันตราย แล้วพอได้เห็นคุณปลอดภัย ผมโล่งใจมาก ผมก็ไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไร แต่นี่คือสิ่งที่ผมรู้สึก”
ภัทรินอึ้ง หวั่นไหวที่ได้รับรู้ความรู้สึกของปราณนต์ แต่ข่มใจไม่ให้แสดงออก ไม่อยากเจ็บจากความรักอีก “ให้ชั้นกลับบ้านเถอะ”
วันนี้ผมไปทำงาน ในสมองก็มีแต่เรื่องคุณ เรื่องที่ผมแอบหอมคุณ แล้วคุณก็รู้ ผมคิดตลอดว่ากลับมาแล้ว
จะพูดอะไรกับคุณดี จะเล่นมุกไหน จะตอบยังไงถ้าคุณถาม..คุณร้อยเปอร์เซ็นต์เลยที่อยู่ในนี้ คุณว่ามันใช่ความรักหรือเปล่า” ปราณนต์ชี้ที่หัว ภัทรินถึงกับชะงัก น้ำตาไหล “คุณร้องไห้..คุณก็ไม่ได้รังเกียจผมใช่มั้ย..แล้วคุณกลัวอะไร”
“ชั้น..เจ็บมามากพอแล้ว ชั้นไม่อยากเสียใจ..” ภัทรินเอ่ยออกมา
ปราณนต์รีบกุมมือภัทรินประสานไว้แน่น “ไม่ ผมไม่เหมือนแฟนเก่าคุณ..เพราะผมจะไม่มีวันปล่อยมือคู่นี้ก่อนแน่” ลมหนาวพัดมา ภัทรินสั่น ปราณนต์ดึงภัทรินมากอดเอาไว้ “ผมจะไม่ทำให้คุณเสียใจ” ปราณนต์ปาดน้ำตาให้ภัทริน แล้วจะจูบ
ภัทรินยกมือขวางปากไว้ “นายเคยสาบานว่าจะไม่ล่วงเกินชั้น”
“ผมจำได้” ชายหนุ่มช้อนคางหญิงสาวขึ้นมา สบตาอ่อนหวาน “คำสาบานปลอมๆ ในการแต่งงานหลอกๆ คงไม่ศักดิ์สิทธิ์หรอก..และที่สำคัญ..คุณไม่ได้คิดว่าถูกผมล่วงเกินใช่มั้ย”
ปราณนต์โน้มตัวจูบ ภัทรินนิ่ง ยินยอม หลับตา และกอดตอบฝ่าย สายลมพัดผ้าม่านปลิว พริ้ม อ่อนละมุน
เช้าวันใหม่ ปราณลืมตาตื่นขึ้นมา กะพริบตามองเพดาน แล้วหันมองไปทางหน้าต่าง สีหน้าสงบเงียบ เรียบเฉย
เสียงของอัณณาดังสดใสเข้ามา “ตื่นแล้วเหรอคะ”
ปราณหันไปมองพบว่าอัณณานั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียงนั่นเอง ปราณสีหน้าเรียบ ไม่ยินดียินร้าย “คุณจะมาเฝ้าผมทำไม”
“ถ้าอัณไม่ทำ แล้วใครจะทำล่ะคะ ไม่มีใครรู้ใจปราณดีเท่าอัณแล้ว”
“แต่ผมไม่อยากเห็นหน้าคุณ”
“แน่ใจเหรอ..วันนี้อัณขออนุญาตคุณหมอพาปราณออกจากห้องนี้ได้ชั่วคราวนะ..ถ้าไม่อยากเห็นหน้าอัณ...ก็อดนะ”
ปราณนิ่ง เถียงไม่ออก อัณณายิ้มแย้มเหมือนไม่กังวลใดๆ
เวลาต่อมา อัณณาเข็นรถเข็นที่มีปราณนั่งมาด้วย เข้าไปในบริเวณสวนหย่อมเล็กๆ ชั้นดาดฟ้าของโรงพยาบาล
“ปกติสวนนี้ก็เปิดให้คนทั่วไปมาใช้บริการได้ค่ะ แต่ช่วงนี้ปิดให้เฉพาะปราณคนเดียวเท่านั้น.. โชคดีเช้านี้อากาศดี แดดไม่ร้อนมาก..ปราณอยากไปทางไหนคะ” อัณณาชวนคุยเอ่ยถาม ปราณนิ่ง ไม่พูดไม่ตอบ “เดี๋ยวอัณพาวนไปรอบๆแล้วกัน ถ้าอยากหยุดตรงไหนก็บอกนะคะ” อัณณาเข็นปราณมาอีกด้านของสวน
“ทำไมคุณไม่ไปทำงาน จะมาเสียเวลากับผมทำไม” ปราณเอ่ยถามเสียงรำคาญนิดๆ
“นี่แหละค่ะงานของอัณ อัณเป็นผู้ช่วยปราณนะคะ” อัณณารับมืออย่างใจเย็น
“งั้นผมสั่งให้คุณกลับไปออฟฟิศ” ปราณออกคำสั่ง
อัณณายิ้มแย้ม รู้ทัน “ไม่ต้องไล่หรอกค่ะ เพราะยังไงอัณก็ไม่ไป ยิ่งปราณอารมณ์ขึ้นๆลงๆอย่างนี้ อัณยิ่งทิ้งให้ปราณอยู่คนเดียวไม่ได้”
ปราณขัดใจ ฮึดฮัด อัณณาเข็นรถต่อไป แต่ทันใดนั้น มือถือของอัณณาดัง อัณณาชะงัก หยิบมือถือมาดูเบอร์แล้วรับสาย“ขออนุญาตนะคะ สวัสดีค่ะคุณท่าน..ค่ะ คุณปราณฟื้นแล้ว” เธอเหลือบมองปราณ แกล้งพูดแหย่ “ไม่มีอะไรน่าห่วงเลยค่ะ ยิ้มแย้ม อารมณ์ดี ไม่มีอาการเครียดเลยสักนิด” ปราณจะเข็นรถหนี แต่อัณณาจับเอาไว้ เอี้ยวคอมองเหมือนตำหนิเด็กดื้อ แล้วพูดโทรศัพท์ต่อไป “เรื่องงานสัมมนาวันจันทร์ อัณเคยแจ้งคุณณนต์ไปแล้วค่ะ..เดี๋ยวอัณจะโทรไปย้ำอีกทีค่ะ..ได้ค่ะท่าน” อัณณาวางสาย
ปราณที่ได้ยินเรื่องของปราณนต์ หันมาสนใจ “คุณณนต์..น้องชายฝาแฝดของผมใช่มั้ย..มีเรื่องอะไร”
“วันจันทร์นี้ มีสัมมนาใหญ่ของวงการแพทย์ค่ะ..ปราณจะต้องไปปรากฏตัวในฐานะผู้บริหารจีแอลเอส เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้หน่วยงานต่างๆ”
“แล้วทำไมต้องตามณนต์” ปราณสงสัยอีก
“เรื่องที่คุณถูกลอบทำร้ายจนเป็นอย่างนี้..ไม่มีใครรู้..เราช่วยกันปกปิดเพราะไม่อยากให้กรรมการบริษัทหมดความเชื่อมั่นในตัวคุณ..อัณกับพ่อของคุณก็เลยขอให้หมอณนต์มาช่วย..ปลอมตัวเป็นปราณ”
“ปลอมเป็นผม?”
“ค่ะ ที่ผ่านมาก็ได้ณนต์นี่แหละที่ช่วยจัดการงานทุกอย่างแทนปราณ”
“งั้นตอนนี้ผมฟื้นแล้ว ผมไปงานเองได้”
อ่านละคร ลมซ่อนรัก ตอนที่ 9
ลมซ่อนรัก บทประพันธ์โดย นราเกตต์ลมซ่อนรัก บทโทรทัศน์โดย ศักดิ์ชัย
ลมซ่อนรัก กำกับการแสดงโดย ชุดาภา จันทเขตต์
ลมซ่อนรัก ผลิตโดย บริษัท ฟีล กู๊ด เอนเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ลมซ่อนรัก ผู้จัดโดย ธิติมา สังขพิทักษ์
ลมซ่อนรัก ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสี ช่อง 3