อ่านละคร ลมซ่อนรัก ตอนอวสาน[1]
ภายในห้องประชุม พวกกรรมการได้รู้ความจริงว่า ธนาฒน์เป็นคนโกงเงิน17 ล้านไปภัทรินทำหงอ จะยอมอีกฝ่าย “ถ้าชั้นให้คุณแล้วชั้นจะแน่ใจได้ยังไงว่าคุณจะรักษาสัญญา..คุณกล้าสาบานมั้ยล่ะ”
“อย่าลีลากับผมนะภัทร” ธนาฒน์โมโห
“ถ้าคุณไม่สาบาน ชั้นจะวิ่งเข้าไปในตึกแล้วตะโกนบอกความจริงกับทุกคนเดี๋ยวนี้..ถ้าคุณสินธรรู้ คุณเสร็จเขาแน่”
“ไอ้สินธรเหรอ ฮะๆๆ ป่านนี้มันขึ้นสวรรค์ไปแล้วมั้ง” ธนาฒน์หัวเราะขึ้น
“ทำไม”
“หึๆ อีกวันสองวันก็รอดูข่าวแล้วกัน ว่าจะมีคนพบศพเขาที่ไหน” ธนาฒน์หัวเราะสะใจ แต่หารู้ไม่ว่าภัทรินก็แอบกระหยิ่มในใจเช่นกัน
ชมนาดได้ยินธนาฒน์พูดออกมาหมดทุกเรื่องได้แต่แหกปากร้องโวยวาย “ไอ้ธนาฒน์ ไอ้โง่!!!”
“หลักฐานรอบด้านขนาดนี้แล้ว ไม่ทราบว่าคุณชมนาดยังมีนิทานอะไรจะมาเล่าให้พวกเราฟังอีกมั้ยครับ” ปราณนต์ประชด
ชมนาดผลักคนที่จับตัวอย่างแรง จนล้มคว่ำไปหมด แล้วตัดสินใจวิ่งหนีออกจากห้องประชุมทันที
“ตามไปสิ ตามไป!!!” สินธรสั่ง คนของจีแอลเอสรีบตามไป
ปราณนต์หันไปบอกคู่แฝด “ภัทร..พี่ปราณ ผมต้องไปหาภัทรก่อน“
“เออ รีบไป” ปราณเอ่ยอย่างเข้าใจ
ชมนาดวิ่งออกมาด้านนอก กดโทรศัพท์ไปด้วย กำลังจะวิ่งออกไปนอกตึก แต่เห็นมียามวิ่งมาดักที่ทางออกหลัก พวกยามวอถึงกันหมด ชมนาดถอยไปอีกทาง
ชมนาดรอสาย “รับสิ รับสิ!!” เมื่อมีคนรับสายก็ใส่เป็นชุด “ไอ้ธนาฒน์ ไอ้โง่ แกถูกภัทรินหลอก ทุกคนรู้ความจริงหมดแล้วว่าแกกับชั้นร่วมมือกัน”
“อะไรนะ” ธนาฒน์ตกใจ
ชมนาดไม่ทันพูดต่อ พวกยามวิ่งมาเห็นพอดี ชมนาดต้องรีบวิ่งหนีไปอีกทาง ธนาฒน์วางสาย หันมาจ้องภัทริน สายตาเย็นชา ภัทรินชักกลัว ถอยๆ แล้วตัดสินใจจะวิ่งหนี แต่ธนาฒน์โผเข้าตะครุบตัวเอาไว้ ภัทรินดิ้น ยื้อยุดจนภัทรินล้มไป โทรศัพท์มือถือของภัทรินหล่นออกมาจากกระเป๋าของภัทริน เห็นว่ากำลังโทรหาอัณณาอยู่
ธนาฒน์เอ่ยแค้นมาก “ภัทรหลอกให้ผมพูด..ทำไมถึงทำอย่างนี้..ทำไม!!”
ภัทรินจะหนี แต่ธนาฒน์เข้าคว้าตัว ลากกลับไปที่รถ
ทันใด ปราณนต์วิ่งออกมาจากตึกจีแอลเอสเช่นกัน เห็นภัทรินและธนาฒน์ยื้อยุดกันอยู่ รีบวิ่งเข้ามา “ภัทร”
ธนาฒน์พยายามจะผลักภัทรินขึ้นรถ แต่ภัทรินไม่ยอมขึ้น กระแทกประตูรถใส่ธนาฒน์ แล้วจะหนี ธนาฒน์กระชากคอเสื้อไว้ ไม่ให้ไป แต่อยู่ๆปราณนต์เข้ามาถึง พุ่งชกธนาฒน์กระเด็น ธนาฒน์ตั้งหลักได้พุ่งเข้าชกกับปราณนต์
ชมนาดวิ่งหนีมาอีกด้านของตึก แต่ต้องผงะ เพราะปราณกับอัณณาโผล่มาขวาง ชมนาดผงะ ถอยหนีไปอีกด้าน แต่ก็มีคนของจีแอลเอสไล่ต้อนมา ชมนาดไม่มีทางไป วิ่งกลับเข้าไปในตึก ทุกคนไล่ตามไป
ชมนาดวิ่งหนีไปตามทางภายในตึก ผลักทุกคนที่เกะกะขวางทาง
ชมนาดหนีลนลานเข้ามาในแผนกๆ หนึ่งในออฟฟิศ ถอยหาทางหนี แต่ไม่มีทางออก สักพัก ปราณ อัณณา สินธร และคนอื่นๆ ทยอยตามกันเข้ามา
“คุณหนีไม่รอดหรอกคุณชมนาด” ปราณเอ่ย
“ไม่รอดงั้นเหรอ!!” ชมนาดตัดสินใจวิ่งไปที่ผนังกระจก ยกเก้าอี้ขึ้นทุ่ม ผนังกระจกแตก..เพล้ง! ชมนาดไปยืนทำท่าจะกระโดด “อย่าเข้ามา! ชั้นจะไม่ยอมติดคุก”
“อย่าทำอะไรโง่ๆนะ ชมนาด” สินธรเตือนสติ
“ชั้นโง่ตั้งแต่ร่วมมือกับคุณแล้ว!!..จะทำเรื่องโง่ๆ อีกสักเรื่องจะเป็นไร!!”
“คุณอย่าเพิ่งคิดไปเอง มันต้องมีทางออกที่ดีกว่านี้ “อัณณาเกลี้ยกล่อม
“คุณใจเย็นๆ ก่อน แล้วเรามาคุยกันดีๆ เถอะ” ปราณช่วยพูดอีกแรง
“สิ่งที่ชั้นทำ ยอมความไม่ได้ ยังไงก็ต้องติดคุก..ชั้นจะไม่ยอมให้ตัวเองมีสภาพอย่างนั้น ชั้นจะไม่ยอมให้พวกคุณหัวเราะเยาะ ไม่เป็นเบี้ยล่างให้พวกคุณกดขี่อีกแล้ว!! ถ้าที่นี่ไม่มีที่ให้ชั้นยืน ชั้นก็ไม่อยู่!!”
ปราณรีบห้าม “ผมจะไม่เอาผิดคุณ!!! คุณชมนาด ผมจะไม่เอาผิดคุณในทุกเรื่อง และจะให้โอกาสคุณเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง..ผมสัญญา”
ชมนาดยิ้มเยาะเย้ย “หึ เก็บคำสัญญาไปให้อาของคุณเถอะ” ชมนาดหันกลับไป ทำท่าจะจะโดดลงไป แต่อยู่ๆ คนของจีแอลเอสอีก 2 คนก็พุ่งเข้าไปถึงตัวชมนาดได้ ตะครุบแล้วดึงเข้ามาอย่างรวดเร็ว “กรี๊ด ปล่อยชั้น!!!!” ชมนาดโวยวายถูกจับดึงออกมา ล็อกเอาไว้แน่น ดิ้นไม่หลุด ชมนาดดิ้นอย่างคลั่งจนสิ้นฤทธิ์
อีกด้านหนึ่ง ที่หน้าริษัท ธนาฒน์กระเด็นหงายไป ปราณนต์ตามมาคร่อมร่างแล้วชก ธนาฒน์จับหมัดปราณนต์ไว้ เอาหัวโขก
ปราณนต์เสียท่า ธนาฒน์พลิกมาได้เปรียบ และเป็นฝ่ายเอาคืนปราณนต์ ชกไม่ยั้ง แล้วลุกขึ้นเตะ ปราณนต์ได้แต่ป้องกันตัว ธนาฒน์เตะไม่เลิก “เก่งนักใช่มั้ย!!! คิดว่าแน่ใช่มั้ย!!!”
“หยุดนะ” ภัทรินเข้ามาห้ามธนาฒน์ พยายามจะกระชากออก
แต่ธนาฒน์เหวี่ยงภัทรินกระเด็น “อย่ามายุ่ง!!!“ ภัทรินล้มไป ธนาฒน์หันมาเล่นงานปราณนต์ต่อ
แจ๊ควิ่งเข้ามาห้าม “อย่าทำอะไรคุณหมอณนต์!!”
“ก็เข้ามาห้ามสิ เข้ามา!!!” ธนาฒน์เอ่ยท้าทาย
“บอกให้หยุด!!” ธนาฒน์หันกลับไปยังต้นเสียง ทันใดนั้นเอง เดียถือกระถางต้นไม้ฟาดหัวธนาฒน์เต็มแรง..พลั่ก!!! กระถางแตก ธนาฒน์ล้มคว่ำ ลงไปดิ้นกับพื้น เดียรีบทิ้งเศษกระถางที่ยังถือคามืออยู่ แล้วตกใจตัวเอง “ว้าย ผู้หญิงใสๆ อย่างชั้นทำอะไรลงไป”
แจ๊คกับยามของจีแอลเอสเข้ามารวบตัวธนาฒน์ไว้ เดียเข้าไปช่วยด้วย
ภัทรินเป็นห่วงปราณนต์ จะเข้าไปดูอาการ “หมอ..” แต่อยู่ๆ ภัทรินก็ชะงัก นิ่งไป แล้วก้าวถอย
ปราณนต์มองอีกฝ่าย ภัทรินก้าวถอยอีก แล้วหันหลังเดินหนีไป “ภัทริน เดี๋ยว..”
ภัทรินเดินออกมาที่ถนนด้านหน้า ปราณนต์ลากสังขารรีบเดินตามมา “ภัท..ภัทริน..รอผมก่อน” เขารีบตามจะสะดุด “โอ๊ย!!!”
ภัทรินที่ใจแข็งเดินหนีออกมา แต่พอได้ยินเสียงปราณนต์ล้มก็ชะงัก หันกลับมามอง เห็นว่าปราณนต์ทรุดคุกเข่าข้างนึงอยู่
“ให้โอกาสผมได้พูดในสิ่งที่อยากพูดหน่อยได้มั้ย” ปราณนต์ขอร้อง
“เราจบกันแค่นี้เถอะ..ชั้นอโหสิกรรมให้คุณ และหวังว่าคุณจะอโหสิกรรมให้ชั้นด้วย..ตั้งแต่นี้ไป เราอย่าพบ อย่าเจอ อย่าติดต่อกันอีก ถ้าเจอกันโดยบังเอิญก็ไม่ต้องทัก ไม่ต้องยิ้มให้ ทำเหมือนชั้นไม่มีตัวตน ปล่อยให้มันผ่านๆ ไป เหมือนสายลม” ภัทรินเอ่ยตัดสัมพันธ์กับชายหนุ่ม
“ผมทำไม่ได้ ภัทริน ผมรักคุณ” ภัทรินอึ้ง “ถึงหลายๆ เรื่องผมจะโกหกหลอกลวงคุณ แต่เรื่องที่ผมรักคุณ มันคือความจริงนะภัทร”
ภัทรินน้ำตาไหล ทำท่าจะใจอ่อน แต่ก็เปลี่ยนใจ “ชั้นรักคุณ แต่มันผ่านไปแล้ว..ตอนนี้ ชั้นไม่ต้องการมีคุณในชีวิตอีก..นี่ก็คือความจริงเหมือนกัน”
ปราณนต์อึ้ง หญิงสาวตัดใจ หันหลัง แล้วจะก้าวไป “ภัทร” คำเรียกของปราณนต์ดึงสติภัทรินไว้ได้ชั่ววูบหนึ่ง แต่แล้วภัทรินก็แน่วแน่ เด็ดขาด ก้าวเดินจากไป
ปราณนต์รู้สึกราวกับถูกกระชากหัวใจ ภัทรินเดินจากไป ทั้งน้ำตาในขณะที่ปราณนต์เองก็เศร้า เจ็บปวด แต่ก็ยอมรับชะตากรรมของตนโดยดี
ภัทรินนั่งในแท็กซี่ น้ำตานองหน้า ส่วนปราณนต์ยังนั่งอยู่ที่เดิม ท่าเดิม สมองชอร์ต เบลอ หยุดสั่งการไปชั่วครู่ ได้แต่นั่งอยู่อย่างนั้น อย่างเจ็บปวดหัวใจ
ภัทรินพูดโทรศัพท์กับแม่ พยายามยิ้ม ปั้นเสียงไม่ให้แม่รู้ “ภัทรกำลังจะกลับบ้านแล้วค่ะแม่..ค่ะ กลับคนเดียว” หญิงสาวสะเทือนใจขึ้นมาอีก “ภัทร ไม่ได้เป็นอะไร ภัทรดีใจที่จะได้กลับบ้าน..แม่คะ แม่รักภัทรใช่มั้ยคะ แม่ตอบภัทรก่อนสิ..ขอแค่แม่รักภัทร ภัทรไม่ต้องการใครอีกแล้ว”
ภัทรินก็วางสาย รู้สึกเจ็บปวดกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ทั้งภัทรินและปราณนต์ ต่างคนต่างเจ็บปวด
ในห้องประชุมแถลงข่าวโครงการ “กิจที่หนึ่ง” ผู้เข้าร่วมฟังเป็นแพทย์ แขกผู้ใหญ่ในแวดวง รวมถึงนักข่าวทุกแขนง ถือเป็นโปรเจ็กต์สำคัญโปรเจ็กต์หนึ่งในวงการแพทย์
ปราณนต์ อัณณา พสุวัฒน์เข้าร่วมประชุมอยู่ในการประชุมนั้นด้วย พสุวัฒน์ไม่ได้นั่งรถเข็นแล้ว พอจะเดินได้ แต่ยังคงต้องได้รับการดูแลใกล้ชิด ทุกคนมีสีหน้าชื่นชมยินดีกับปราณ
ปราณยืนพูดอยู่หน้าที่ประชุม หน้าตาสดใส หายดีจากอาการบาดเจ็บทั้งหมดแล้ว ““โครงการ“กิจที่หนึ่ง” เป็นชื่อที่เราได้อัญเชิญมาจากส่วนหนึ่งในพระราชดำรัสของพระราชบิดา ในความที่ว่า “ขอให้ถือประโยชน์ส่วนตัว เป็นที่สอง ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ เป็นกิจที่หนึ่ง ลาภทรัพย์และเกียรติยศ จะตกแก่ท่านเอง ถ้าท่านทรงธรรมะแห่งอาชีพ ไว้ให้บริสุทธิ์ คำว่า“กิจที่หนึ่ง” นี้ ก็เพื่อแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะทำหน้าที่ของแพทย์อย่างแท้จริง คือการรักษาคนไข้ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน”
อีกด้านหนึ่ง ในชนบทที่ห่างไกล รถฉุกเฉินแล่นมาจอดที่แผนกฉุกเฉิน โรงพยาบาล เจ้าหน้าที่รีบเข้าไปรอรับคนไข้อย่างรวดเร็วแข็งขัน ประตูรถเปิดออก เป็นหญิงท้องกับสามีที่ดูเป็นคนยากจนมากๆ เจ้าหน้าที่รีบนำตัวหญิงท้องใกล้คลอดใส่เปลตามหน้าที่
“คนไข้ท้องแก่ ไม่มีบัตรประชาช..น..” เจ้าหน้าที่เอ่ย
“เรื่องนั้นไว้ทีหลัง รักษาคนไข้ก่อน” หมอตัดบท ทุกคนรีบไปช่วยคนไข้ ไม่สนใจว่าจะเป็นใครมาจากไหนมีเงินหรือไม่ก็ตาม
สามีคนไข้ที่พูดไทยไม่ชัด ยกมือไหว้ เข่าทรุด ร้องไห้ที่ได้รับความเมตตาอย่างที่ไม่เคยได้รับมาก่อน “ขอบคุณมากครับหมอ ขอบคุณที่ช่วยเมียกับลูกผม”
หมอรีบไปประคอง “ไม่เป็นไรครับๆ ไปช่วยเป็นกำลังใจให้แฟนคุณ”
ทุกคนพากันตามหมอไป
ภายในห้องประชุมของจีแอลเอส
ปราณนต์กระซิบอัณณาที่นั่งข้างๆ ท่าทางปลื้มพี่ชายมาก “แหม นี่ผมดูเท่มากขนาดนั้นเลยเหรอ”
“หือ?” อัณณาหันมาจ้องเหล่ๆ ขวางๆ ที่อีกฝ่ายช่างกล้าพูด
“ก็ฝาแฝด พี่ผมดูเท่ไง ผมก็ต้องดูเท่งั้น จริงปะ?” ปราณนต์เอ่ยถามท่าทางยืดๆ อัณณายิ้มอย่างหมั่นไส้ ไม่ใส่ใจ
ปราณพูดต่อ “จุดเริ่มต้นของโครงการนี้ มาจากแพทย์หญิงปริยา คุณแม่ของผมเอง ท่านคือหมอที่อุทิศชีวิตเพื่อคนไข้มาก ท่านเลือกที่จะเดินออกจากชีวิตผู้บริหารอาณาจักรจีแอลเอสเพื่อไปเป็นหมอบนดอย เพียงเพราะท่านรู้สึกว่า ที่นั่น ท่านได้ทำหน้าที่หมอมากกว่าที่เคยเป็น”
ที่ห้องพักรวมของคนไข้เด็ก..พวกเด็กๆ แต่ละเตียงกำลังชะเง้อมองกันว่าจะมีใครเข้ามา สักพัก มีชายในชุดกาวน์เดินถอยหลังเข้ามา แล้วเขาก็หันหน้ามา คือ ปราณนต์ ที่มีจมูกและหนวดแบบตัวตลกติดอยู่ “แท่มแท๊มมมมม”
พวกเด็กๆ หัวเราะขำ ปราณนต์เล่นกับเด็ก และหลอกล่อตรวจอาการเด็กไปด้วย จนกลายเป็นขวัญใจของคนไข้เด็กๆ
ปราณอธิบายแนวคิด “มากกว่าที่เคยเป็น หมายถึงการได้เป็นหมอที่มีความรู้สึก มีความผูกพันกับคนไข้ เหมือนญาติ เหมือนพี่น้อง เหมือนคนในครอบครัว ได้มีความสุขที่เห็นเขาเป็นสุข”
ที่ห้องพักคนไข้ ปราณนต์กอดเด็กคนนึงอย่างดีใจสุดตัว พวกญาติๆเด็กเข้ามาไหว้จับไม้จับมือแสดงความขอบคุณมากๆ ที่ช่วยรักษาให้
“หรือได้ร่วมเสียน้ำตา เมื่อเขาเสียน้ำตา”
ที่หน้าห้องไอซียู ปราณนต์เดินออกมารายงานข่าวร้ายให้ญาติคนไข้ ญาติคนไข้ร้องไห้โฮ ยกมือพยายามจะกลั้นน้ำตา ปราณนต์สงสารเห็นใจ กอดปลอบญาติคนไข้ ปราณนต์น้ำตาไหลไปด้วย รู้สึกผิดที่ช่วยเหลือคนไข้ไม่ได้
“แต่การแพทย์ยุคใหม่ เราปฏิเสธการใช้เทคโนโลยีไม่ได้ เพราะมันมีส่วนช่วยให้ประสิทธิภาพในการรักษาแม่นยำขึ้น ช่วยชีวิตคนไข้ได้มากขึ้น นี่คือสิ่งที่คุณพ่อของผม นายแพทย์พสุวัฒน์ ปุณณเวช ตั้งใจเอาไว้ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจีแอลเอส..ก็คือ..สร้างเทคโนโลยีมารองรับการทำหน้าที่หมอของแม่” พสุวัฒน์นั่งฟังอยู่ ยิ้มออกมา คิดถึงภรรยา
“คุณพ่อเคยพูดประโยคนึงกับผมว่า..เราทำให้เทคโนโลยีการแพทย์พัฒนาไปได้ไกลมากแค่ไหน เราต้องพัฒนาจิตใจเราให้ไกลยิ่งกว่า..เทคโนโลยีที่ดีจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยถ้ามันอยู่กับคนที่มีจิตใจเห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว” พวกแขกในงานลุกยืนปรบมือให้เกียรติกับพสุวัฒน์
“โครงการกิจที่หนึ่ง จึงเป็นโครงที่จีแอลเอสจัดขึ้นเพื่อสนับสนุนการทำหน้าที่ของแพทย์ที่แท้จริงในทุกด้าน เรายินดีสนับสนุนยา อุปกรณ์ทางการแพทย์ เทคโนโลยีทุกชนิดที่ลิขสิทธิ์เป็นของเรา ให้กับโรงพยาบาลหรือคลินิกที่ขาดแคลนทุกแห่ง โดยไม่มีเงื่อนไข..สิ่งเดียวที่จีแอลเอสจะขอ คือ ขอให้การสนับสนุนของเราเป็นไปเพื่อ“ประโยชน์ของเพื่อนมนุษย์ เป็นกิจที่หนึ่ง” ขอบคุณครับ” ปราณโค้งให้ผู้ฟัง เป็นการจบสุทนทรพจน์ แขกในงานทุกคนลุกยืน ปรบมือ ปราณนต์ อัณณา พสุวัฒน์ลุกยืนเช่นกัน ด้วยความภาคภูมิใจมาก
ปราณเดินออกมาจากห้องประชุม ปราณนต์กับอัณณาพาพสุวัฒน์ตามหลังออกมา พวกนักข่าวกรูเข้ามารุมสัมภาษณ์ปราณ
“คุณปราณคะ ขออนุญาตถ่ายภาพครอบครัวหน่อยค่ะ” ทีมพีอาร์บริษัทเอ่ยขึ้น ทีมพีอาร์จัดแจงให้ปราณกับปราณนต์ยืนประกบพสุวัฒน์ อัณณาถอยแยกไป
“อัณ มาถ่ายด้วยกันสิ” ปราณนต์ชวน อัณณาส่ายหน้า “คุณเป็นคู่หมั้นพี่ปราณนะ ก็คือครอบครัวเดียวกัน มาๆๆ” ปราณนต์ไปคว้ามืออัณณาพาให้มายืนข้างปราณ “ถ่ายเลยครับๆ อะไรนะครับ อยากได้ภาพที่แสดงความรักความอบอุ่นในครอบครัวมากๆ งั้นก็ต้อง
กอดสินะครับ กอดๆๆ” ปราณนต์ยิ้มเจ้าเล่ห์ทำทีกอดพสุวัฒน์ เพราะจะได้เปิดโอกาสให้ปราณกอดอัณณา
ปราณกับอัณณาเขินๆ กันทำอะไรไม่ถูก ปราณนต์ยิ้มเจ้าเล่ห์ พวกช่างภาพถ่ายกันพึ่บพั่บ
ที่เรือนจำ ปราณกับพสุวัฒน์ที่นั่งรถเข็นรออยู่ที่ห้องสำหรับเยี่ยมผู้ต้องหา ผู้คุมคุมตัวสินธรเดินเข้ามา เห็นสภาพเนื้อตัวสินธรมีร่องรอยบาดแผล จากการชกต่อย สภาพโดยรวมดูโทรม แก้มตอบ อิดโรย พามานั่งกับพสุวัฒน์ โดยมีผู้คุมคอยดูห่างๆ
“ทำไม หน้าตานายเป็นอย่างนี้” พสุวัฒน์ถามอย่างตกใจกับสภาพที่เห็น
“พี่พสุ..ผมรู้แล้วว่าผลตอบแทนของการทำผิดคิดชั่วมันเป็นยังไง ผมสัญญาว่าจะกลับตัว..พี่พาผมออกไปนะ” สินธรขอร้อง
“ชั้นก็ทำอะไรไม่ได้ ทุกอย่างมันต้องเป็นไปตามกฎหมาย” พสุวัฒน์เอ่ยขึ้นอย่างจนใจ
อ่านละคร ลมซ่อนรัก ตอนอวสาน[1]
ลมซ่อนรัก บทประพันธ์โดย นราเกตต์ลมซ่อนรัก บทโทรทัศน์โดย ศักดิ์ชัย
ลมซ่อนรัก กำกับการแสดงโดย ชุดาภา จันทเขตต์
ลมซ่อนรัก ผลิตโดย บริษัท ฟีล กู๊ด เอนเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ลมซ่อนรัก ผู้จัดโดย ธิติมา สังขพิทักษ์
ลมซ่อนรัก ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสี ช่อง 3