อ่านละคร ลมซ่อนรัก ตอนอวสาน[3]

อ่านละคร ลมซ่อนรัก ตอนอวสาน[3]

“ทำไมล่ะภัทร..คุณไม่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นกับชีวิตคุณให้น้าภาฟัง ก็เพราะคุณไม่อยากให้แม่คุณเสียใจใช่มั้ย..ทำไมคุณไม่คิดบ้างว่าที่ผมทำกับคุณก็เพราะผมไม่อยากให้คุณเสียใจเหมือนกัน”
“ไม่เหมือน นายรวมหัวกันจัดฉากหลอกชั้น นายจงใจทำให้ชั้นเข้าใจผิด ทำให้ชั้นเสียใจ เจ็บปวดซ้ำแล้วซ้ำอีก”

“ผมไม่ได้ตั้งใจให้เป็นอย่างนั้น แต่มันไม่มีทางเลือก”
“นายก็เลยเลือกทำร้ายจิตใจชั้น” ภัทรินสวนกลับ
“ไม่ใช่นะภัทร”
“ชั้นไม่อยากเห็นหน้านายอีกแล้ว เราต่างคนต่างอยู่ได้มั้ย” ภัทรินกึ่งสั่งกึ่งขอร้อง
แต่ปราณนต์ไม่ยอม พร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ภัทรินคืนมา “ไม่ได้ ผมจะไม่ยอมเสียคุณไป ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้คุณกลับมา..ผมรักคุณ..และผมหมายความอย่างที่พูดจริงๆ”


ภัทรินน้ำตารื้น “ไม่มีประโยชน์”
“มีสิ มันต้องมี น้ำตาของคุณยืนยันว่าคุณยังรักผมอยู่“
“น้ำตาของชั้นคือความเจ็บปวด”
“คิดว่าคุณเจ็บคนเดียวเหรอ..ผมก็เจ็บ!! ผมเจ็บที่ต้องหลอกคุณ เจ็บที่ต้องเห็นคุณร้องไห้เสียน้ำตาเพราะผม แต่ผมทำได้แค่มองดู ปล่อยให้คุณเจ็บไปอย่างนั้น ทั้งๆที่ผมอยากจะปลอบคุณใจจะขาด..ผมเจ็บไม่น้อยไปกว่าคุณเลยนะภัทร”
“งั้นเราจะทนเจ็บกันไปทำไม..จบกันเถอะ”
“ภัทร..”
“ชั้นต้องการหย่า” ปราณนต์ช็อก ภัทรินจริงจัง ชัดเจน “ชั้นใช้หนี้ที่ชั้นไม่ได้ก่อด้วยชีวิตและหัวใจของชั้นแล้ว ชั้นก็ควรจะได้อิสรภาพคืน..พรุ่งนี้เจอกันที่อำเภอ” ปราณนต์นิ่ง ภัทรินเดินฝ่าฝนออกไป
ปราณนต์โผตามเข้าไปกอด “ไม่จริง คุณไม่ได้อยากให้เป็นอย่างนั้น คุณรักผม” ปราณนต์จับภัทรินหันมามองหน้า ถามชัดเจน “ใช่มั้ยภัทร คุณรักผม!”
ภัทรินจ้องหน้าตอบ “ใช่ ชั้นเคยรักนาย แต่ตอนนี้นายคือสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตชั้น และชั้นไม่ต้องการมีนายในชีวิตอีกแล้ว..ปล่อยชั้นไปเถอะ” หญิงสาวแน่วแน่ ไม่อ่อนข้อ ปราณนต์ยิ่งฉุน ทำท่าจะจูบภัทริน แต่ภัทรินโพล่งเสียงดังออกมาก่อน “จะขืนใจชั้นเหรอ!!”
ปราณนต์ผงะ เจ็บจี๊ด จุก พูดไม่ออก ยิ่งเห็นสีหน้าของภัทรินที่เจ็บช้ำ ปราณนต์จึงยอมจำนน ค่อยๆ ปล่อยมือออก
ภัทรินกำลังจะก้าวออกไป แต่ปราณนต์โพล่งถามขึ้นมา “คุณไม่สงสารลูกเหรอ” ภัทรินอึ้ง ชะงักไป ไม่คิดว่าปราณนต์จะรู้ “ผมรู้ว่าคุณไปฝากท้องที่โรงพยาบาล”
“ชั้นจะให้ลูกใช้นามสกุลชั้น และเราจะไม่เรียกร้องสิทธิ์หรือทรัพย์สินใดๆ จากนายและจีแอลเอสสักบาทเดียว”
“ผมไม่ได้ห่วงเรื่องนั้น”
“งั้นก็ไม่มีอะไรต้องห่วงอีก” ภัทรินชัดเจน ตัดบท เดินหนีออกไป
ปราณนต์ได้แต่หมดเรี่ยวแรงอยู่ตรงนั้น ไม่สามารถขยับไปไหนได้

ภัทรินเดินมาท่ามกลางฝน เสียใจ พยายามจะไม่ร้องไห้ แต่แล้วก็หมดแรง หยุดยืนนิ่ง ปล่อยให้ความรู้สึกไหลผ่านออกมาให้หมด สักพัก มีร่มมากางให้จากด้านหลัง ภัทรินหันขวับกลับมา พบว่าปราณนต์ยืนอยู่ตรงหน้า ถือร่มให้ ภัทรินอึ้ง
“คุณไม่ต้องรักผมก็ได้ แต่อย่าห้ามผมรักคุณเลย”
ภัทรินมองหน้าปราณนต์ด้วยความซาบซึ้ง รัก อยากได้รับการปลอบ แทบอยากโผเข้ากอด แต่ชั่วแวบเดียวที่เกิดทิฐิ ภัทรินรีบกลับหันหลังขวับทันที ปราณนต์อึ้งไป ภัทรินก้าวเดินต่อโดยที่มีปราณนต์ก้าวเดินตามอยู่ห่างๆ
ภัทรินหยุดกึก เพราะรู้ว่าปราณนต์ก้าวตาม ภัทรินยืนนิ่ง ชั่งใจว่าจะหันกลับไปขับไล่ หรือปล่อยเลยตามเลย แต่สุดท้ายก็ทำเฉย เดินต่อไปตามจังหวะของตัวเอง ปล่อยให้ปราณนต์เดินกางร่มตามให้ไปตลอดทาง

ปราณนต์ที่เดินกางร่มให้ภัทรินกลับมาที่บ้าน อยู่ในสภาพเปียกม่อลอกม่อแลก ภัทรินเดินมาถึงก็เข้าบ้านไปเลย ไม่ใส่ใจ ไม่แยแสปราณนต์ ชายหนุ่มหยุดอยู่ที่หน้าบ้าน ไม่ได้ตามเข้าไป แค่มาส่งภัทรินไม่ให้ต้องเดินตากฝน
ภารตีที่ออกมาเห็นภัทรินกลับมาพอดี “อ้าว ภัทร” แต่ภัทรินเดินเข้าไปเลย ภารตีงงว่าเกิดอะไรขึ้น หันมาหาปราณนต์ “หมอณนต์ เรื่องอะไรกันคะ”
ชายหนุ่มยิ้มหมอง คล้ายบอกว่าไม่เป็นไร แล้วหันหลังเดินกลับไป ภารตีงงๆ

เวลาต่อมา ภัทรินนั่งเช็ดผมตัวเองอยู่ แต่สายตาเหม่อลอย ตกอยู่ในห้วงความคิดตัวเอง ไม่ได้โฟกัสที่การเช็ดผมเลย จนกระทั่งภารตีเข้ามานั่งข้างๆ คว้าผ้าไปเช็ดผมให้
“ภัทรจะเลิกกับหมอณนต์เหรอ”
ภัทรินอึ้ง ที่แม่จับสังเกตได้ “แม่..”
“ถึงแม่จะไม่รู้ แต่แม่ก็สัมผัสได้ว่าปัญหามันหนักมาก มากจนลูกอาจจะไม่อยากแบกมันต่อไปอีกแล้ว..ใช่มั้ย”
“ถ้าภัทรตอบว่าใช่ แม่จะว่าอะไรมั้ยคะ”
“แม่ก็จะบอกให้ถามตัวเองให้แน่ใจว่าลูกยังรักหมอณนต์อีกมั้ย..เอาแค่ความรู้สึกลูกนะ อย่าเอาเรื่องราวที่เขาเคยทำไว้มาเกี่ยว..ความรู้สึกของลูกคือรักหรือไม่รัก?” ภัทรินเศร้า กอดแม่เอาไว้ราวกับเป็นเด็กน้อยของแม่ “แล้วที่ลูกโกรธเขาเพราะอะไร ..เพราะเขาไม่รัก..หรือเพราะเขาไม่เป็นอย่างใจ”
“เขาหลอกภัทรค่ะแม่ หลอกอย่างเลวร้ายที่สุด”
“ภัทร..พ่อของลูกก็เคยหลอกแม่..ลูกก็เคยหลอกแม่” ภัทรินอึ้งที่แม่รู้ “แต่ที่แม่ไม่ถามไม่พูด เพราะแม่รู้ว่าลูกทำอย่างนั้นทำไม ลูกก็คงไม่ได้มีความสุขที่โกหกแม่หรอก จริงมั้ย?..ภัทร..คนรักกัน แค่รักอย่างเดียวไม่พอนะ แต่ต้องมองให้เห็นความรักของกันและกันด้วย มองให้เห็นถึงความรักที่ซ่อนอยู่ แล้วจะอยู่กันอย่างมีความสุข”
“แม่..” ภัทรินกอดแม่ ครุ่นคิดถึงคำสอนไป แววตาอ่อนลง

เช้าวันใหม่ พระอาทิตย์ขึ้นผ่านเหลี่ยมเขา แสงสีทองตัดกับหมอกจางๆ สวยงาม อบอุ่น ภัทรินในชุดนอน สวยพลิ้ว มีเสื้อคลุมกันหนาว ถือถ้วยกาแฟร้อนๆ ที่มีควันอุ่นๆ ลอยออกมาด้วยสองมือประคอง กำลังนั่งดื่มอย่างจมลึกไปในห้วงความคิด
“ภัทร..คนรักกัน แค่รักอย่างเดียวไม่พอนะ แต่ต้องมองให้เห็นความรักของกันและกันด้วย ถึงจะอยู่กันอย่างมีความสุข”
ภัทรินนึกถึงตอนที่ปราณนต์ดำผุดดำว่ายเพื่องมแหวนแต่งงานให้ภัทริน และช่วงเหตุการณ์ประทับใจต่างๆของปราณนต์กับภัทริน เช่น ตอนที่ปราณนต์ชกกับธนาฒน์ที่บริษัทยา ตอนที่เล่นกังหันลมกัน ตอนที่ดูแลกันในไซต์ก่อสร้าง ฯลฯ
ภัทรินยกกาแฟจิบ สีหน้าสงบ แววตาอ่อนลง แต่ยังแฝงความดื้อเอาไว้ ทันใดนั้นเอง มีลมพัดมากระทบ ภัทรินรู้สึกเย็น เงยหน้าขึ้นรับลม มองสิ่งต่างๆ รอบตัวที่ถูกลมพัดผ่าน แล้วจากนั้นภัทรินก็หลับตา ปล่อยให้ลมระผ่านใบหน้าไป สัมผัสความรู้สึกของลมนั้นเอาไว้ ซึมซาบ เป็นความรู้สึกที่ดี เย็น สบาย สดชื่น
แล้วเมื่อภัทรินลืมตาขึ้นมาอีกที ก็ปรากฏว่าปราณนต์ยืนอยู่ตรงหน้า ทั้งสองคนมองหน้ากัน
“ภัทรป่วยง่าย เมื่อคืนตากฝน ผมก็เลยเอายามาฝาก” ปราณนต์เอ่ยในมือถือถุงยาไว้ ภัทรินจ้องนิ่ง ซาบซึ้ง แต่ปากหนัก ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรยังไง ปราณนต์เข้าใจไปว่าภัทรินไม่อยากพูดด้วย “ผมเอาไปฝากไว้กับน้าภานะ” เขาหันเดินกลับออกไป ภัทรินอยากเรียกไว้ แต่ปากหนักปล่อยให้อีกฝ่ายเดินจากไป

ช่วงสายๆ ภัทรินเสร็จธุระจากที่ไร่ก็เดินกลับมาที่บ้าน เบญจคีย์ เนตรมณีกำลังมารับภารตีออกไปข้างนอก
“ยัยภัทรมาแล้วน้าภา!!!!” เบญจคีย์เอ่ยขึ้น
“ไปเร็ว ไปเปลี่ยนชุดๆๆ” ภารตีเร่งลูกสาวให้รีบแต่งตัว
“แม่จะไปไหน” ภัทรินภามอย่างแปลกใจ งุนงง

บริเวณสนามของโรงเรียน มีชาวบ้าน ชาวเขา ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่กำลังต่อคิวรอรับการฉีดวัคซีนฟรีของแพทย์อาสาอยู่ มีแถวสองสามแถวแยกเป็นแถวเด็กกับแถวผู้ใหญ่กระจายๆ กันไป ภารตี เบญจคีย์ เนตมณีรพาภัทรินเข้ามา
“วันนี้หมออาสามาฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ฟรี..ต้องฉีดนะภูมิคุ้มกันจะได้ส่งต่อไปถึงลูกด้วย” ภารตีเอ่ยบอกกับลูกสาว
“แม่..นี่แม่รู้..ใครบอก?!” ภัทรินตกใจ
“ไปต่อคิวก่อนๆๆ” เนตรมณีช่วยตัดบท
เนตรมณีกับเบญจคีย์ไม่ยอมให้ภัทรินได้อิดออด พากันลากไป

ปราณนต์กำลังจะฉีดวัคซีนให้กับเด็กชายชาวเขาหน้าตากวน แสบ โดยมีเด็กชาวเขาอีก 3-4 คนที่ฉีดเสร็จแล้วยืนล้อมหลัง จันทร์วิภาเป็นผู้ช่วยคอยส่งอุปกรณ์ให้ปราณนต์
“เก่งจริงหรือเปล่า เพื่อนๆ รอดูอยู่นะว่าเก่งแค่ไหน” ปราณนต์จ้องหน้ากับเด็กน้อย ในขณะที่ในมือ
ก็ฉีดยาไป เด็กน้อยจ้องหน้าปราณนต์เขม็ง ตาเบิกโต อย่างพยายามจะไม่แสดงความเจ็บออกมา ทั้งๆ ที่เจ็บมาก จนหน้าตาตึงๆ เกร็งๆ ดูน่าตลก
“เฮ้ย ไม่ร้องสักแอะ เก่งที่สุดเลย ปรบมือให้เพื่อนหน่อย” ปราณนต์ฉีดเสร็จ แท็กมือกับเด็กน้อย
ชายหนุ่มกำลังจะฉีดให้คนไข้คนต่อไป แต่ปรากฏว่าเป็นภัทริน ปราณนต์งง ภัทรินตั้งท่าจะกลับ แต่ภารตี เนตรมณี เบญจคีย์ประกบเอาไว้ ภัทรินเชิดหน้า ทำฟอร์มว่าไม่ได้เต็มใจมา ถูกบังคับ
“ฉีดยาให้ลูกสาวน้าทีนะคะ” ภารตีเอ่บบอกหมอ
“ดื้อๆ อย่างนี้ฉีดสัก 2 เข็มเลยก็ดีค่ะคุณหมอ” เบญจคีย์เอ่ยขึ้นบ้าง
ปราณนต์ยิ้มๆ “ด้วยความยินดีครับ..เชิญนั่งครับ”
พวกภารตีช่วยกันพาภัทรินนั่งลงมา หญิงสาวนั่งเชิดหน้า วางฟอร์ม
ปราณนต์จะเปิดแขนเสื้อ “ขออนุญาต..”
“ไม่ต้อง” ภัทรินตั้งท่าจะเปิดแขนเสื้อเอง
ภารตีรีบห้ามภัทริน “ไม่ต้อง..คนไข้อยู่เฉยๆ ให้เป็นหน้าที่หมอ..เชิญค่ะคุณหมอ”
ปราณนต์ยิ้มเพราะรู้ว่าภารตีช่วยชงให้ ปราณนต์เปิดแขนเสื้อให้ภัทรินขึ้นมา “เย็นนิดนึงนะครับ” ปราณนต์เอาแอลกอฮอล์มาเช็ดจุดที่จะฉีด ภัทรินเชิดหน้า
จันทร์วิภาขำคิกคัก “เอ้าเด็กๆ มาดูพี่ภัทรเร็ว ดูสิว่าจะร้องไห้หรือเปล่า”
“ยัยจันทร์!!” ภัทรินเอ็ดเพื่อนเสียงดัง
“ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมได้ชื่อว่าเป็นหมอมือเบาที่สุดเลยครับ” ปราณนต์เอ่ยพร้อมหยิบเข็มมา ภัทรรินหันหน้าหนี ไม่มองหน้า “พร้อมนะครับ..คุณครับ พร้อมนะครับ”
“พร้อมแล้ว!” ภัทรินเอ่ยตอบเสียงสะบัดๆ
“พร้อมแล้วก็มองหน้าผมสิครับ..แถวนี้เรามีกฎว่าจะต้องมองหน้าหมอ..เราจะได้รู้ว่าเก่งแค่ไหน”
“ใช่ๆ” กลุ่มเด็กๆ รีบขานรับสนับสนุนคำพูดของหมอ
ภัทรินมองหน้าปราณนต์ ถลึงตาใส่ คนอื่นๆ พากันหัวเราะคิกคัก ปราณนต์มองหน้าภัทรินยิ้มๆ แล้วฉีดยาให้
ภัทรินเบิ่งตาขึ้นเล็กน้อย แต่อดทนต่อความเจ็บ พยายามยิ้มเยาะ ลอยหน้าไปมา ทำหน้าตาว่าสบายๆ แม้จะแอบเจ็บก็ตาม พอฉีดเสร็จ พวกเด็กๆ ก็เฮ ดีใจที่ภัทรินไม่ร้อง
“เก่งที่สุดเลย” ปราณนต์เอ่ยชม
เด็กแสบคนหนึ่งโพล่งออกมา “เมียหมอณนต์เก่งที่สุดในโลก!!” ภัทรินอึ้ง
พวกเด็กๆ พากันร้องตามทุกคน “เมียหมอณนต์เก่งที่สุดในโลก!!”
ปราณนต์ยิ้ม ยักไหล่อย่างไม่รู้จะห้ามเด็กยังไง ส่วนภัทรินทำหน้าไม่ถูก เชิดใส่ หมั่นไส้ แล้วเดินหนี

ภัทรินเดินจ้ำอ้าวแยกออกมา
“ภัทร รอแม่ด้วย” ภารตีร้องเรียกแล้วเดินตามลูกสาวมาด้วย
ปราณนต์วิ่งตามเข้ามา ถือตะกร้าขนมเปงม้งมาด้วย“น้าภาครับ..ผมจำได้ว่าภัทรชอบทานขนมเปงม้งมาก..ผมเลยตื่นเช้ามาทำให้ครับ”
“โถ หมอณนต์ อะไรจะน่ารักขนาดนี้ ขอบใจมากนะ” ภารตีตื้นตันใจ
“ไม่ต้องไปเอาของๆ เขาค่ะแม่” ภัทรินดึงแขนแม่ออกในขณะกำลังจะรับขนมพอดี ทำให้ขนมหล่นตกพื้นเสียหาย
“ภัทร..ทำไมทำอย่างนี้” ภารตีหันมาดุลูกสาว
“ช่างเถอะแม่ ภัทรไม่ได้อยากกินซะหน่อย..กลับบ้านเถอะค่ะ” ภัทรินลากภารตีออกไป
ปราณนต์ได้แต่มอง เก็บขนมขึ้นมา รู้สึกเสียใจ พวกจันทร์วิภาเข้ามาให้กำลังใจหมอ
“อย่ายอมแพ้นะคะหมอ สู้ๆ” จันทร์วิภาเอ่ยขึ้น
“สู้ๆ” เบญจคีย์และเนตรมณีก็ให้กำลังใจหมอด้วย
ทุกคนกำมือทำท่าสู้ๆให้กำลังใจ แต่ปราณนต์นิ่ง ไม่มีอารมณ์ จันทร์วิภาเลยจับมือปราณนต์ขึ้นมาให้ทำท่าสู้ๆ แต่พอจันทร์วิภาปล่อยมือ มือปราณนต์ก็ตกลงต่องแต่ง จันทร์วิภาจับขึ้นมาอีกที พอปล่อยก็เป็นอย่างเดิม

อ่านละคร ลมซ่อนรัก ตอนอวสาน[3]

ลมซ่อนรัก บทประพันธ์โดย นราเกตต์
ลมซ่อนรัก บทโทรทัศน์โดย ศักดิ์ชัย
ลมซ่อนรัก กำกับการแสดงโดย ชุดาภา จันทเขตต์
ลมซ่อนรัก ผลิตโดย บริษัท ฟีล กู๊ด เอนเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ลมซ่อนรัก ผู้จัดโดย ธิติมา สังขพิทักษ์
ลมซ่อนรัก ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสี ช่อง 3