อ่านละคร ลมซ่อนรัก ตอนที่ 22/2
ชมนาดเดินออกมาด้านนอกโกดังอย่างหงุดหงิด รู้สึกฉุน“เอายังไงดีพี่ชม จัดการมันไปเลยแล้วค่อยมาจัดการยัยคุณแอ๋วทีหลังดีมั้ย”
“อย่าหาเรื่อง..เราจะกลับไปทำงานตามเดิม ส่วนไอ้สินธรขังมันไว้ก่อน แล้วชั้นจะหาทางจัดการมันทีหลัง”
“ได้ไงอ่ะพี่ชม”
“ธนาฒน์ นี่คือคำสั่ง ถ้าไม่อยากให้ทุกอย่างจบเห่ เธอต้องเชื่อชั้น”
ธนาฒน์ขัดใจ แต่ก็ยอมหงอให้ชมนาด “แล้วพี่ชมจะเอาไงต่อครับ”
“จัดการไอ้คุณปราณก่อน..ให้คนของเธอเฝ้าสินธรไว้ ส่วนเธอไปกับชั้น แวะไปเยี่ยมคุณพสุวัฒน์หน่อย ดูสิว่าพอจะมีทางทำให้ไอ้คุณปราณโผล่หัวออกมาจากที่ซ่อนได้บ้างมั้ย” ชมนาดเอ่ยยิ้มมุมปาก อย่างมาดร้ายเต็มที่
อีกด้านหนึ่ง ภัทรินนอนลืมตาอยู่บนเตียง มองไปที่ที่นอนของปราณนต์ที่ถูกพับเรียบร้อยวางเข้ามุมเป็นระเบียบ ภัทรินยังคงนอน ไม่อยากลุก ครุ่นคิดทบทวน มองไปนอกประตู เห็นกังหันลมที่ปักเอาไว้คู่กันกำลังหมุนด้วยแรงลม สักพัก มีเสียงบานหน้าต่างส่งเสียงเอี๊ยดอ๊าดเพราะแรงลมเช่นกัน ภัทรินมองกังหันและฟังเสียงที่เกิดจากลมอย่างสับสน นึกถึงคำพูดของปราณนต์ที่เอ่ยบอกตนเมื่อคืนนึกถึงสายตาและความรู้สึกเผลอไผลที่เกิดขึ้น
เสียงเพลงจากวิทยุดังมาจากด้านนอกดังขึ้น ราวกับจะตอกย้ำความรู้สึกหวาดกลัวสับสนของหญิงสาว
“ลมเอยเจ้าหอบรักมาให้ใคร จงพัดกลับไป เพราะดวงฤทัยข้าไม่ต้องการ ข้ากลัวเหลือเกิน กลัวรักที่สิ้นสงสาร กลัวรักจะทรมาน กลัวดวงวิญญาณจะต้องร้องไห้”
ภัทรินเดินออกมาด้านนอก เห็นวิทยุเครื่องเก่าของป้าชุวางเปิดเพลงอยู่ ปราณนต์ถือสำรับอาหารเช้า พวกข้าวต้ม น้ำผลไม้ออกมาจากอีกด้าน ปราณนต์ฮัมเพลงไปด้วย เข้าจังหวะ
ภัทรินมองปราณนต์พาลคิดไปถึงหมอณนต์ หลายๆ เหตุการณ์ที่ภัทรินรู้สึกว่าปราณนต์คนนี้เหมือนหมอณนต์ของเธอมาก
“ตื่นแล้วเหรอ” เสียงปราณนต์ทักดังขึ้น ภัทรินได้สติทันทีที่ได้ยินเสียงปราณนต์เรียก นิ่งๆ รอดูท่าที แต่ปราณนต์ทำตัวปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “เดี๋ยวผมจะข้ามไปโทรศัพท์หาอัณณา..จะไปด้วยกันมั้ย ถ้าไปก็รีบทานนะ..อ่ะ นี่น้ำ” ปราณนต์ยื่นขันน้ำที่มีมะลิลอยมาให้
ภัทรินรับขันน้ำมา มองดอกมะลิที่ลอยอยู่ ตัดสินใจจะพูดกับปราณนต์ให้ชัดเจน “คุณปราณ..”
“หือ?”
“เรื่องเมื่อคืน..ไม่ใช่ความผิดคุณนะ เป็นเพราะชั้นเอง ชั้นคงจะรักและเป็นห่วงหมอณนต์มาก เลยเผลอคิดว่าคุณคือหมอณนต์..ชั้นขอโทษ และมันจะไม่มีทางเกิดขึ้นอีก”
“ผมก็ต้องขอโทษคุณด้วย..กับทุกเรื่องที่เกิดขึ้นไปแล้ว และที่กำลังจะเกิด”
ภัทรินแปลกใจ แปลว่าอะไร “เรื่องที่กำลังจะเกิด? คืออะไร”
ปราณนต์ยิ้มแห้งๆ ตัดบท เดินกลับเข้าไป ภัทรินแปลกใจ ค่อยๆ ทานข้าวต้มไป สายตาข้องใจสงสัยไม่เลิก เสียงเพลงลมจ๋ายังดังแว่วมา
อัณณาจอดรถที่บริเวณริมทางแห่งหนึ่ง แล้วนั่งนิ่งก่อนเอ่ยขึ้น “ที่นี่แหละ”
ปราณลงจากรถมา มองออกไป พบว่าที่ตรงหน้าคือทุ่งดอกทานตะวัน ปราณมองอย่างตะลึง
ภาพอดีตในความทรงจำแวบเข้ามา สั้นๆ ราวกับเป็นมีดที่แทงฉึ่ก! เข้าที่หัวใจ เป็นภาพปราณสมัยยังเป็นนักศึกษาพาอัณณาที่ถูกปิดตาเดินเข้ามาในทุ่งทานตะวัน คนทั้งคู่ต่างหัวเราะสดใส
ปราณรู้สึกมีอาการปวดหัวขึ้นมาเล็กน้อย
ปราณเดินเข้ามาภายในทุ่ง อัณณาเดินตามมาห่างๆ แล้วปราณก็ค่อยๆ เดินเร็วขึ้น เร็วขึ้น เลี้ยวไปทางมุมนั้นทีมุมนี้ที
อัณณาคอยตามตลอดด้วยความเป็นห่วง “ปราณ เดินระวังๆ หน่อย”
ปราณหันกลับมามองตามเสียงของอัณณา แล้วตาโต ตะลึงกับภาพที่เห็นในหัว
ภาพอัณณาในชุดนักศึกษา ที่ถูกปิดตาแล้วพาเดินเข้ามาในทุ่งทานตะวัน
“ปราณ!..ปราณ เอาผ้าออกได้ยัง”
“โอเคๆ..นับหนึ่งถึงสามนะ”
“หนึ่ง สอง สาม” อัณณาแกะผ้าออก มองทุ่งทานตะวันตรงหน้า “หูวววว ทุ่งทานตะวัน”
“อัณอยากมานานมากแล้วไม่ใช่เหรอ”
“สวยยย” อัณณาตื่นเต้นดีใจ วิ่งเข้าไปดูดอกไม้ใกล้ๆ เอาหน้าไปเทียบกับดอกว่าดอกหรือหน้าใหญ่กว่ากัน
ปราณมองอัณณาแล้วมีความสุข
ปราณยืนตะลึง ความทรงจำเหมือนจะไหลเร็วรี่ ชายหนุ่มหันมองไปด้านพระอาทิตย์ แล้วหันกลับมามองเงาตัวเองที่ตกกระทบ เป็นภาพเงาของปราณกับอัณณา ที่ยืนอยู่ตรงหน้าทานตะวันดอกหนึ่งโดยยืนเอาตัวเองบังแสงอาทิตย์เอาไว้ให้มากที่สุด โดยที่มือของปราณข้างนึงถือไฟฉายแบบกำลังสูง อ้อมไปส่องแสงทานตะวันจากอีกด้าน
อัณณาพูดกับดอกไม้ “แสงอยู่ทางโน้น หันหน้าไปทางโน้นซะดีๆ..ปราณ ยืนดีๆ อย่าให้แสงเข้าสิ” หญิงสาวขยับไปชิดกับปราณอีกเพื่อบังแสงจากพระอาทิตย์ให้มิดยิ่งกว่าเดิม สองคนขยับเข้าหากัน แล้วกลายเป็นกระแทกกัน เซไปทั้งคู่ แล้วหัวเราะขึ้นมา
ปราณกับอัณณาร้องเพลง You are my sunshine ด้วยกัน สนุกสนาน หัวเราะ มีความสุข
อัณณาเดินอยู่ในทางเดินภายในทุ่งทานตะวัน โดยหันหน้าหาพระอาทิตย์ ในขณะที่ปราณเดินขนานกับอัณณา แต่หันหน้ามองอัณณาตลอด อัณณาหันมา เห็นว่าปราณมองตนไม่หยุด ซ่อนบางอย่างไว้ข้างหลัง
“ปราณ..”
“Keep your face to the sunshine and you cannot see the shadow It’s what sunflowers do.”
“เชิดหน้าเข้าหาแสง แล้วคุณจะไม่มีวันเห็นเงามืด เช่นเดียวกับดอกทานตะวัน Helen Keller พูด..อัณเคยเขียนใส่การ์ดก่อนสอบไฟนอลให้ปราณ”
“ใช่..วันนี้ผมอยากบอกอัณเหมือนกันว่า..Like a sunflower that follows every moment of the sun, so I turn to you, to follow you, ..my..”
อัณณารีบพูดสวนกลับมา “my God ..Carey Landry พูด”
“ใช่ เขาพูดว่าmy god แต่คำพูดของผมคือ..”
อัณณาชิงตัดบท เบี่ยงประเด็น ไม่อยากให้ปราณพูดความรู้สึกในใจออกมา กลัวเสียเพื่อน “เราน่าจะชวนณนต์มาด้วย กลับเถอะ”
แต่ปราณยื่นดอกทานตะวันดอกนึงให้ มีป้ายเขียนติดไว้ว่า “ You are my sunshine.” มาขวางไว้ “my sunshine.” ปราณเอ่ยคำที่เอ่ยค้างไว้จนจบ อัณณาอึ้ง
“ที่ผมพาอัณมาวันนี้ เพราะผมอยากให้อัณรู้ความรู้สึก..”
อัณณาตัดบท ไม่อยากได้ยิน “ปราณ! อย่าพูด! อะไรที่พูดแล้วจะทำให้อะไรๆ มันเปลี่ยนไปในทางที่ไม่มีใครอยากให้เป็น..ก็อย่าพูดออกมาดีกว่า”
“แต่ผม..”
“อัณขอร้อง!!! ปราณคือเพื่อนที่ดีที่สุด เพื่อนที่อัณรักและไว้ใจมากที่สุด”
ปราณช็อกที่ถูกปฏิเสธรัก
อัณณาเห็นปราณนิ่งอึ้งไปนานก็เดินเข้ามายืนตรงหน้าปราณ จับมือแล้วเอ่ยขึ้น
“ความเป็นเพื่อนคือรักแท้ ไม่เปลี่ยนแปลง และไม่จางหายไป”
ปราณหวนนึกถึงตอนนั้น เขาเห็นอัณณาเสียใจ แล้วตัดใจ หันเดินหนีจากไป ปราณช็อก หัวใจราวถูกกระชาก ดอกทานตะวันในมือปราณร่วง ตกพื้น
ปราณจำได้แล้ว ก็ยืนนิ่ง สงบ เศร้าอย่างเข้าใจ “You are my sunshine.”
“You are my best friend.” อัณณาเอ่ยตามขึ้นมาด้วย
ในอดีต ปราณถึงกับทรุดลงไปคุกเข่า ตรงช่อทานตะวันที่มีป้ายเขียนอยู่ You are my sunshine.
ในที่สุดปราณก็จำเรื่องราวที่ทุ่งดอกตะวันทั้งหมดได้ เขามองอัณณาอย่างเข้าใจ ปราณน้ำตาไหลซึมออกมาเอง อัณณาเช็ดน้ำตาให้ ทั้งสองยิ้มให้กันอย่างเข้าใจกัน แล้วก็ค่อยๆ กลายเป็นหัวเราะออกมา
“You are my sunshine.” ปราณเอ่ยขึ้นมาอีก
“หือ?” อัณณาทำหน้าสงสัย
“รหัส” ปราณเอ่ยยิ้มๆ
อัณณาทำหน้างง แล้วก็ค่อยๆ เข้าใจว่าปราณหมายถึงรหัสปลดล็อก ตาโต อึ้ง
อีกด้านหนึ่ง ชายแปลกหน้า 2 คนเดินเข้ามาบริเวณร้านค้าใกล้สันเขื่อน แต่งตัวเหมือนเป็นนักท่องเที่ยวทั่วๆ ไป ระหว่างทางเจอใคร ทั้งคู่ก็เข้าไปยื่นรูปและถามอะไรบางอย่าง แต่คนที่ถูกถามส่ายหน้าหมด จนกระทั่ง ไอ้ช้างลูกชายป้าชุขี่จักรยานผ่านมา
“ไอ้น้องๆ..ถามอะไรหน่อย” ชายแปลกหน้าเรียกตัวเด็กชายเข้ามาถาม
ถัดออกไป ป้าชุกำลังผัดผ่อนเจ้าหนี้อยู่ตรงรถกระบะ “ถ้าเอารถชั้นไป แล้วชั้นจะหาเงินที่ไหนมาใช้หนี้..วันมะรืนค่อยมาใหม่นะ ชั้นไม่หนีหรอก..อ่ะๆๆ เอานี่ไปฝากลูกสาวเอ็งนะๆๆ”
“แม่!! แม่ๆๆ!” ช้างขี่จักรยานเข้ามาเรียก
“หยุดเลย เขาทวงหนี้แม่อยู่เนี่ย ยังกล้ามาขอสตางค์อีกเหรอ”
“ไม่ใช่ๆๆ นี่” ช้างยื่นรูปให้
ป้าชุรับมาดู เห็นเป็นรูปปราณกับภัทริน “เอ็งไปเอารูปมาจากไหน”
“พี่สองคนนั้นบอกว่าจะให้เงินหมื่นนึง ถ้าพาไปหาคนในรูป..แม่ว่าไง..ผมว่าโอ”
ป้าชุมองไปพบว่าคนของจีแอลเอส 2 คนนั้นเดินเข้ามา
อ่านละคร ลมซ่อนรัก ตอนที่ 22/2
ลมซ่อนรัก บทประพันธ์โดย นราเกตต์ลมซ่อนรัก บทโทรทัศน์โดย ศักดิ์ชัย
ลมซ่อนรัก กำกับการแสดงโดย ชุดาภา จันทเขตต์
ลมซ่อนรัก ผลิตโดย บริษัท ฟีล กู๊ด เอนเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ลมซ่อนรัก ผู้จัดโดย ธิติมา สังขพิทักษ์
ลมซ่อนรัก ออกอากาศทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางไทยทีวีสี ช่อง 3