อ่านละคร ภูผา ตอนที่ 8 วันที่ 8 ก.พ.62
กลับจากไปหาเวหาแล้ว เส็งตรอมใจจนล้มป่วย เดือนเช็ดตัวให้ก็ไล่ไปบอกว่าหนาว ข้าวปลาก็ไม่ยอมกิน เพ้อว่าอยากนอนแล้วไม่ตื่นมาอีกเลย เดือนบ่นว่าพูดอะไรแบบนี้ พูดไม่เป็นมงคล“...ลูกชายคนโตเป็นความหวังของอั๊ว ไม่มีแล้ว อั๊วไม่มีลูกชายไว้สืบสกุลแล้ว ตายไปจะมองหน้าบรรพบุรุษยังไง อั๊วนี่มันแย่จริงๆอาเดือน เลี้ยงลูกชายสองคน ไม่ได้ดีสักคน...”
“เรื่องเวหา เฮียก็ทำใจให้ได้ซะทีเถอะ...มันโตแล้วจะไปบังคับอะไรมันก็ไม่ได้”
“ชื่อที่อั๊วตั้งให้มันไม่เพราะตรงไหนอาเดือน ทำไมลูกไม่ชอบ ทำไมต้องไปเปลี่ยน ที่อั๊วตั้งให้ว่า ‘หมอเวหา’ ก็เพราะอยากให้ชีวิตมันสูงส่งเหมือนท้องฟ้า มันไม่ดีตรงไหนเดือน มันไม่ดีตรงไหน...”
เส็งยังคงพร่ำเพ้ออย่างตรอมใจไม่หยุด...“แล้วนามสกุลเรามันต่ำต้อยนักเหรอเดือน คำว่า ‘กล้าแกร่ง’ เตี่ยอั๊วเป็นคนตั้งขึ้นมาเพื่อให้ลูกหลานเข้มแข็งอดทน แล้วก็ใจสู้ ทำไมลูกไม่ชอบล่ะ”
“นอนเถอะเฮีย เดี๋ยวลูกมันคิดได้มันก็เปลี่ยนกลับมาเองแหละ” เดือนปลอบอย่างไม่รู้จะพูดอะไรอีก
เส็งยังนอนหมดอาลัยตายอยาก พร่ำเพ้อถึงแต่เวหา...
ooooooo
ภูผาทำธุรกิจด้านการเกษตรอย่างมานะมุ่งมั่น กิจการเจริญก้าวหน้าจนสร้างบ้านหลังใหม่ได้ มีห้องทำงาน โต๊ะทำงาน ตู้เอกสารและอุปกรณ์การทำงานที่จำเป็นครบครัน
ที่โต๊ะทำงาน ลิ้นชักหนึ่งมีกล่องเก็บจดหมายของทอรุ้งไว้เฉพาะ และมีดิกชันนารีวางอยู่กับกล่อง
แต่วันนี้เขาตกใจเมื่อดึงลิ้นชักออกมาเปิดกล่องจดหมายดูไม่มีจดหมายเหลืออยู่เลย เขาปิดลิ้นชักพรวดออกไปทันที เจอกานต์ก็ถามว่าจดหมายตนหายไปไหน กานต์อึกอักว่าไม่รู้แล้วจะเดินหนี ภูผาตรงเข้าจับตัวกานต์ไว้ถามแทบเป็นตะคอกว่า “บอกมา! ใครเอาจดหมายเราไป ต้อยติ่งใช่ไหม”
กานต์ยิ่งตกใจตอบตะกุกตะกักอย่างมีพิรุธ ภูผาผละจากกานต์ไปทันที ไปเจอต้อยติ่งนั่งเหม่อริมคลองมองน้ำอยู่ ก็ตรงเข้าไปดุว่า ไม่คิดเลยว่าเธอจะถือวิสาสะแบบนี้
ต้อยติ่งอ้างว่าตนกำลังช่วยพี่ให้กลับมาสู่โลกความจริงเพราะทอรุ้งไม่เอาพี่แล้ว ภูผาตวาดว่าพี่จะทำอะไรมันก็เรื่องของพี่ เธอไม่มีสิทธิ์มายุ่ง
“มีสิ พี่ภูผายังมีสิทธิ์ห่วงต้อยติ่ง ต้อยติ่งก็มีสิทธิ์ห่วงพี่เหมือนกัน เลิกหวังซะที คิดเหรอว่าพ่อแม่เขา จะยอมให้ลูกสาวมาคบกับคนที่เคยทำงานบ่อน วิ่งหนีตำรวจอย่างพี่”
ภูผาสะท้านไปทั้งตัวเพราะต้อยติ่งพูดความจริง สั่งให้ต้อยติ่งเอาจดหมายคืนมา ต้อยติ่งดื้อเงียบ ภูผาถามว่าจดหมายอยู่ไหน ต้อยติ่งบอกว่าทิ้งน้ำไปแล้ว ภูผาโกรธกำหมัดแน่นเดินเข้าหา ต้อยติ่งตกใจถามว่า
“พี่ภูผาจะทำอะไร จะตีต้อยติ่งเหรอ” แล้วลุกเดินไปรื้อกองฟางล้วงจดหมายที่ซุกไว้ออกมาปาใส่ภูผาตัดพ้อเสียงสั่น “พี่ภูผารักยัยคุณหนูนั่น พี่ภูผาไม่รักต้อยติ่ง!” แล้ววิ่งเตลิดไป
ooooooo
สายวันรุ่งขึ้นภูผาเห็นต้อยติ่งหิ้วกระเป๋าเสื้อผ้าเดินผ่านมาถามว่าทำไมไม่ไปทำงาน ต้อยติ่งบอกว่าพี่ภูผาเกลียดตนแล้วจะอยู่ไปทำไม ตนจะกลับบ้าน
ภูผาขอโทษที่เมื่อวานอารมณ์ร้อนไปหน่อย บอกให้เอาของไปเก็บแล้วกลับไปทำงานเสีย ต้อยติ่งกอดขอโทษบอกว่าต่อไปจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว ภูผาบอกว่าไม่เป็นไรตนยกโทษให้ แต่ปล่อยพี่ได้แล้ว
ภูผาไปธนาคาร ธนาคารต้อนรับด้วยความยินดีเพราะเป็นคนสู้ชีวิต ถามว่าวันนี้มาทำอะไร ภูผาบอกว่ามาซื้อเช็คจะเอาไปให้ที่บ้าน พนักงานธนาคารติงว่าเพิ่งเริ่มกิจการเก็บเงินไว้หมุนก่อนดีกว่าไหมถ้าที่บ้านยังพอมีกินมีใช้ ภูผาบอกว่าเงินหมุนตนพอมีแล้ว พนักงานถามว่าเอาเท่าไหร่ ภูผาบอก “หมื่นนึงครับ”
เส็งตรอมใจยังนอนซมหมดอาลัยตายอยาก ถามเดือนที่นั่งเซ็งอยู่ข้างๆว่าเวหารู้หรือยังว่าตนป่วยมันจะได้มาเยี่ยม เดือนบอกว่าโทร.ไปแล้วพยาบาลบอกว่าไม่ว่าง ถ้าว่างจะโทร.กลับมาเอง
“ถ้ามันรู้ว่าอั๊วป่วยเพราะมัน มันจะยอมเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุลกลับมาไหม” เดือนว่าจะไปรู้เหรอ แค่มันโทร.กลับมาก็ดีใจตายแล้ว “เดือน...ชื่อที่อั๊วตั้งให้มันไม่เพราะตรงไหน นามสกุลของเราไม่ดีตรงไหน”
เดือนขี้เกียจตอบ เส็งยังคงเพ้อไปเรื่อย ถามว่าเวหากลับมาหรือยัง มันอยู่ไหน เดือนทนไม่ไหวระเบิดออกมาว่าเฮียเลิกทำตัวอย่างนี้เสียที คร่ำครวญจนตายมันก็ไม่กลับมาหรอก ตนชักจะทนไม่ไหวแล้ว
ทันใดนั้นเสียงกริ่งดังขึ้น “เวหากลับมาแล้วเห็นไหม อั๊วบอกแล้วว่ามันต้องมา” เส็งร้องดีใจ
เดือนกับเส็งลุกเดินไปหน้าบ้านอย่างตื่นเต้น แต่แล้วเส็งก็เซ็ง ผิดหวัง เมื่อเห็นภูผาและมีรถกระบะจอดอยู่หน้าบ้าน ภูผาดีใจมากร้องทัก
“ป๊า แม่ อั๊วเอง”
ooooooo
หลังจากเวหาทิ้งให้เส็งกับเดือนช็อกอยู่ในห้องแล้วก็พาทอรักไปกินดื่มกันในร้านอาหารญี่ปุ่นจนทอรักเมา กลับถึงห้องแล้วเวหาอ้อนคืนนี้ขอค้างด้วย
ทอรักเห็นอนงค์เดินผ่านมาพอดีบอกว่าไว้วันหลังเดี๋ยวคนจะเอาไปนินทา ดันเวหาออกแล้วเชิดเข้าห้องไป เวหาผิดหวังอารมณ์ค้าง แต่พอหันกลับสบตาอนงค์ที่มองรออยู่ก็ยิ้มสมหวังทันที
รุ่งขึ้นเวหาเดินไปที่เคาน์เตอร์ถามอนงค์ว่าหมอนลินีล่ะ อนงค์บอกว่าเข้าห้องผ่าตัดไปแล้ว พอเวหาจะไปอนงค์จับแขนไว้บอกเบาๆ “คืนนี้อนงค์ไปหานะคะ”
ถูกเวหาดุว่าเดี๋ยวก็มีคนได้ยินหรอก ปรามว่าห้ามบอกเรื่องของเรากับใครเด็ดขาด บอกว่าตนอยากแต่งงาน อนงค์ตาเป็นประกายนึกว่าเวหาขอแต่งงานกับตน แต่แล้วก็หน้าเสียเมื่อเวหาบอกว่าคนที่ตนจะแต่งงานด้วยคือทอรัก เรื่องของเราขอให้จบแค่นี้ คิดเสียว่าเราไม่เคยมีอะไรกัน จับไหล่อนงค์บีบเบาๆแล้วผละไปเลย
อนงค์จิกตามองตามพึมพำ “ง่ายๆแบบนี้น่ะเหรอ...ไม่มีทาง!”
ooooooo
เมื่อภูผาเข้าไปนั่งในบ้านเส็งฟังเดือนเล่าเรื่องเวหาแล้ว เขาถามอย่างคิดไม่ถึงว่าเปลี่ยนชื่อไม่พอยังเปลี่ยนนามสกุลด้วยหรือ เดือนบอกว่าเปลี่ยนนามสกุลนานแล้ว เปลี่ยนก่อนชื่อด้วยซ้ำ
“ไอ้เลว! อั๊วไม่คิดว่ามันจะเลวอย่างนี้”
ภูผาแค้น เส็งเอาแต่คร่ำครวญว่าตระกูลกล้าแกร่งจะต้องมาจบลงที่รุ่นตนหรือนี่ เดือนปรามว่าภูผาอยู่นี่ทั้งคนพูดอย่างนี้ได้ยังไง เส็งโพล่งสวนทันทีว่า
“อั๊วไม่ถือว่ามันเป็นลูก อั๊วไม่นับมันเป็นคนในตระกูล อั๊วยอมให้ตระกูลเราหมดชื่อดีกว่าให้ไอ้ตัวซวยนี้มาสืบทอด”
“ป๊า...” ภูผาเดินเข้าหาเส็ง “อั๊วยังไงก็ได้ แต่อั๊วขอบอกป๊าว่าอั๊วภูมิใจที่เกิดมาเป็นลูกป๊า ภูมิใจที่ได้ใช้ นามสกุลกล้าแกร่ง อั๊วขอให้ป๊ามาดูอะไรหน่อย”
ภูผาพาเส็งกับเดือนเดินมาเปิดท้ายรถกระบะที่มีผ้าใบคลุมอยู่ ในรถเต็มไปด้วยปุ๋ยยี่ห้อ “กล้าแกร่ง” ภูผาบอกเส็งกับเดือนที่ยืนอึ้งอยู่ว่า
“อั๊วขอโทษที่อั๊วไม่ได้บอกก่อนว่าจะเอานามสกุลไปตั้งเป็นชื่อโรงงาน แต่ที่อั๊วใช้ชื่อนี้เพราะอั๊วอยากบอกทุกคนว่าอั๊วคือคนในตระกูลกล้าแกร่ง ตอนนี้ทุกคนในราชบุรีรู้จักปุ๋ยกล้าแกร่งกันหมดแล้ว แล้วอั๊วก็กำลังจะขยายตลาดไปเรื่อยๆ ใครมันจะไม่ใช้นามสกุลกล้าแกร่งก็เรื่องของมัน แต่อั๊วจะทำให้นามสกุลกล้าแกร่งของเราเป็นที่รู้จักไปทั้งประเทศให้ได้”
ภูผาพูดจบ เส็งร้องไห้โฮเข่าอ่อนทรุดลง ภูผารีบเข้าประคองแต่ถูกเส็งดันออกไม่ให้จับตัว เดือนมองเส็งพยักหน้าอย่างเข้าใจความรู้สึกผิดหวังกับลูกรักอย่างเวหา ที่ไม่ได้เป็นอย่างภูผาลูกซวยที่ไม่เคยทิ้งพ่อแม่
ooooooo
วันนี้เวหาไปทำงานสาย หมอนลินีถามว่าทำไมถึงมาสาย เวหาขอโทษบอกว่าเมื่อคืนดื่มหนักไปหน่อย
หมอนลินีเตือนว่าให้เบาๆลงหน่อยเพราะตอนนี้ ผอ.มีแววว่าจะให้ทุนเขาไปเรียนต่อ ถ้ามีเรื่องเสื่อมเสียอาจหลุดมือไปได้ เวหาตื่นเต้นมากถามว่าจริงหรือ หมอนลินีบอกว่าดูตอนนี้เป็นไปได้ 90 เปอร์เซ็นต์ ถามว่ารอมา 2 ปีแล้วไม่ใช่หรือ
เวหาขอบคุณหมอนลินีที่ช่วยสนับสนุนตน หมอบอกว่าเขาเป็นคนที่เหมาะสมที่จะได้เพราะในบรรดาหมอทั้งหมดตอนนี้เขาเป็นคนกระตือรือร้นที่...เวหาถามทันทีว่า “แล้วก็หล่อที่สุดด้วยหรือเปล่าครับ”
หมอนลินีขำในความน่ารักของเวหา บอกว่า “ก็อีกสองคนเขาเป็นผู้หญิงนี่” เวหายิ้มดีใจที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่คิด
ขณะเวหากำลังดีใจก็มีเหตุทำให้ยิ่งเชื่อว่าตนจะได้รับเลือกไปเรียนต่อเมื่อแป้นมาบอกว่า ผอ.เชิญหมอนลินีกับหมอภัทรที่ห้องประชุม 3 ท่านบอกว่าขอคุยแป๊บเดียว เวหาเชื่อว่าต้องเป็นเรื่องทุนเรียนต่อแน่ แต่แปลกใจที่แป้นบอกว่า ผอ.ให้ตามหมอสุนีย์กับหมอสมพิศด้วย นลินีคาดว่า ผอ.อาจเรียกไปปลอบใจ
ขณะเดินไปด้วยกันกับหมอนลินี เวหาขอเข้าห้องน้ำก่อน พอเปิดประตูเข้าไปเจอภูผาอย่างจัง ต่างจ้องหน้ากัน แล้วเวหาก็พาภูผาไปเดินคุยกันที่มุมลับตา
ภูผาตำหนิเวหาที่เปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุล ถามว่า ‘กล้าแกร่ง’ มันต่ำต้อยตรงไหนหรือ ทำอะไรน่าจะนึกถึงใจป๊าบ้าง เวหาปรามว่าอย่าสะเออะมาสอนตน ทำอย่างกับตัวเองเป็นคนดีนัก ถามว่า
“ฉันเปลี่ยนนามสกุลแล้วไม่ดีรึไง แกจะได้ใช้กล้าแกร่งคนเดียวอย่างที่อยากได้มาตลอดไง”
“ไอ้เวหา!” ภูผากระชากคอเสื้อเวหาต่อยหน้าโครม
แต่สู้กันไม่ทันไร รปภ.ก็เป่านกหวีดวิ่งเข้ามา ภูผาจ้องหน้าเวหา ในขณะที่เวหามองซ้ายมองขวากลัวคนเห็น
เวหาไปทำแผลที่ห้องพยาบาลโดยอนงค์เป็นคนทำแผลให้ ทอรักถามว่าทำไมปล่อยให้มันหนีไป เวหาอ้างว่าตนสงสารลุงกับป้าเพราะถ้ามันถูกจับก็ต้องเสียเวลาเสียค่าปรับอีก
หมอนลินีบ่นว่าไม่น่าลดตัวลงไปต่อยกับเขาเลย ทอรักไม่พอใจถามว่าหมอจะให้เวหาถูกต่อยฝ่ายเดียวหรือ คนแบบนั้นต้องโดนเสียบ้าง หมอนลินีคาดว่าอีกเดี๋ยวเรื่องคงรู้กันทั่วโรงพยาบาลแล้วว่าหมอเวหาไปมีเรื่องกับกุ๊ย ถามว่ามันคุ้มกันไหม เวหากังวลกลัวกระทบเรื่องทุน หมอนลินีบอกว่าเขาต้องไปอธิบายกับ ผอ.เอง
เวหาถามว่าที่ ผอ.เรียกคุยเมื่อกี๊เรื่องทุนใช่ไหม หมอนลินีบอกว่าไม่ใช่ พอดีเพื่อน ผอ.ที่เคมบริดจ์ฝากลูกศิษย์มาเป็นแพทย์ฝึกหัดที่นี่ อนงค์ทำแผลเสร็จแล้ว แต่ยังอ้อยอิ่งฟังการคุยกัน จนทอรักเสียงเขียวใส่ว่าเสร็จแล้วก็ไปสิ มัวทำอ้อยส้อยอยู่ทำไม อนงค์แอบชักสีหน้าแล้วออกไป
เย็นนี้เวหาเห็นหมอนลินีเดินมาก็รีบเข้าไปถามว่าจะเข้าห้องผ่าตัดหรือ หมอบอกว่าใช่ ผ่าไขสันหลัง เวหาขอเข้าไปด้วยเพราะกำลังว่างพอดี ถูกหมอนลินีปฏิเสธว่าเอาไว้เคสหน้าแล้วกันเพราะตนบอกให้เด็กใหม่เข้าไปแล้ว อยากเห็นฝีมือหน่อย
เวหาหน้าเสีย แต่พอเห็นหมอนลินีเดินไปกับเด็กใหม่ เวหาก็มองตาค้างอุทาน “นั่นมัน?!”
พอดีหมอสุนีย์เข้ามาถามว่าเจอเด็กใหม่หรือยัง เวหาบอกว่ายัง ถามว่าทำไมหรือ หมอสุนีย์บอกว่าตนอยากเทียบความหล่อ หมอกานดาสวนทันทีว่าไม่ต้องเทียบหรอก ตนว่าคนใหม่หล่อกว่าเยอะ หัวเราะแล้วพากันเดินไป ทิ้งให้เวหายืนเครียดนึกเดาว่าเด็กใหม่จะใช่ประเสริฐหรือเปล่า
ooooooo
ภูผากลับไปถึงโรงงานปุ๋ยตอนเย็นก็เจอปัญหาใหญ่เมื่อต้อยติ่งกับกานต์รายงานว่าเครื่องผสมปุ๋ยไม่ทำงานตั้งแต่บ่ายแล้ว ตามช่างแล้วแต่ช่างไม่ว่าง ถามว่าจะเอายังไงดีเพราะพรุ่งนี้ต้องส่งให้ตั้งหลายเจ้า
เพื่อแก้ปัญหาการส่งปุ๋ย ภูผาจึงระดมชาวบ้านมาช่วยกันทำ นับแต่การผสมจนถึงการบรรจุและเย็บถุง ชาวบ้านมาร่วมแรงกันแข็งขัน ภูผาขอบคุณทุกคน บุญคุณวันนี้จะไม่ลืมเลย และจัดอาหารเลี้ยงกันเต็มที่ ชาวบ้านบอกว่าไม่ต้องคิดเรื่องบุญคุณเพราะพวกตนก็ได้ค่าแรงและเต็มใจช่วย
ต้อยติ่งทำอาหารมาเลี้ยงชาวบ้านเต็มที่ บอกภูผาว่าคนช่วยกันเยอะขนาดนี้รับรองคืนนี้เสร็จตามออเดอร์แน่นอน ภูผาย้ำให้ดูแลชาวบ้านให้ดี พวกเขาอุตส่าห์มาช่วยต้องเลี้ยงดูให้เต็มที่
ต้อยติ่งรับคำแล้วมานั่งเย็บถุงปุ๋ยกับภูผาต่อ เย็บไปมองชาวบ้านไปอย่างปลื้มใจ
ooooooo
คืนนี้เวหามองหาทอรักอยู่นานจนเจอเดินคุยกันมากับชายหนุ่มคนหนึ่งอย่างออกรสร่าเริง พอเดินเข้าไปทัก ทอรักบอกให้ดูซิว่าเจอใคร เวหาจึงเห็นชัดๆว่าเป็นประเสริฐจริงๆ ถามว่ามาทำอะไรที่นี่
ทอรักชิงตอบอย่างดีอกดีใจว่าประเสริฐมาเป็นหมอฝึกงานคนใหม่จากเคมบริดจ์ไง ประเสริฐดีใจที่ได้เจอเพื่อนเก่าตั้งสองคนแล้วยังอยู่แผนกเดียวกับหมอเวหาอีก ทอรักบอกให้เลิกเรียกเวหาได้แล้วเพราะเขาเปลี่ยนชื่อเป็นจตุรภัทรนานแล้ว เวหาขอตัวกลับห้องก่อนเพราะพรุ่งนี้ต้องขึ้นวอร์ดแต่เช้า
“อย่าเพิ่งภัทร ไม่ได้เจอกันตั้งนานอยู่คุยกันก่อน ประเสริฐไปหาร้านนั่งเล่นกันดีกว่า ไปเร็ว”
ทอรักคล้องแขนเวหากับประเสริฐคนละข้างลากไป เวหาไม่อยากไปแกะแขนตัวเองออกบอกว่าวันหลังดีกว่า วันนี้เพลียๆอยากรีบเข้านอน
ทอรักตอบอย่างไม่แยแสว่าตามใจ แล้วเร่งประเสริฐไปกันสองคน พลางคุยเจื้อยแจ้วอย่างไม่แคร์เวหา
“เล่าเรื่องที่เคมบริดจ์ให้ฟังหน่อยสิ ท่าทางนักศึกษาที่นั่นคงจะเท่น่าดู...”
เวหาเดินไปแล้วอดเหลียวมองทั้งสองไม่ได้ พอถึงหน้าห้องพักกำลังจะไขกุญแจ อนงค์ก็โผล่มาชมว่าหมอประเสริฐหล่อดี มาดก็เท่ เวหาถามว่าเธอมาทำไม อนงค์บอกว่ามาดูคนอกหัก แล้วบอกว่าพูดเล่นเพราะตนเห็นทอรักสนใจหมอประเสริฐเป็นพิเศษแค่นั้นเอง หวังว่าคงไม่มีอะไรเกินเลยเหมือนตนกับหมอนะ
เวหาชักสีหน้าปรามบอกแล้วว่าอย่าพูดเรื่องนี้อีก อนงค์เข้าไปกอด เงยหน้าถามว่าแน่ใจหรือว่าอยากเลิกกับตน เวหามองหน้าอนงค์นิ่ง
“อนงค์รู้ว่าคุณก็ชอบเหมือนกัน...อย่าหนีความจริงดีกว่า” ว่าแล้วผลักเวหาเข้าห้องปิดประตูเลย
ooooooo
คืนนี้ภูผาฝันว่าตัวเองนั่งกินแตงโม กินไปก็คิดถึงทอรุ้งไปว่าถ้ามีเธออยู่ด้วยแตงโมคงหวานกว่านี้
แล้วก็เหมือนที่คิดเมื่อทอรุ้งมาจริงๆ บอกว่ามาเพราะคิดถึง ภูผาบอกว่านึกว่าเราจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว ทอรุ้งยืนยันว่าต้องเจอ ถ้าเรารักกันยังไงก็ต้องได้เจอ
แต่ไม่ทันไรดารกาก็เข้ามาสั่งทอรุ้งให้กลับไปเดี๋ยวนี้ ทอรุ้งไม่ยอมกลับก็ด่าว่าอยู่กับอันธพาลก็มีแต่เสียอนาคต ภูผาบอกว่าตนกลับตัวแล้ว ให้โอกาสตนด้วย ดารกาผลักภูผาล้มกลิ้งไป ภูผากลิ้งหลุนๆไปจนเวียนหัวตกใจตื่นจึงรู้ว่าฝันไป
เวลาเดียวกันดารกาได้รับรายงานจากนวลฉวีว่าแหม่มเจ้าของอพาร์ตเมนต์ที่ทอรุ้งพักโทร.มาบอกว่ามีจดหมายจากผู้ชายมาถึงทอรุ้งทุกเดือน ดารกาถามว่าใคร นวลฉวีบอกว่าก็ไอ้นักเลงหัวไม้นายภูผานั่นแหละ
ดารกาบ่นปวดหัวไม่รู้จะจัดการกับมันอย่างไรดี นวลฉวีบอกว่าตนมีวิธี...
เช้านี้ภูผาสั่งต้อยติ่งให้คนงานขนปุ๋ยใส่รถตนให้เต็มจะเอาเข้ากรุงเทพฯ ภูผาขนปุ๋ย ‘กล้าแกร่ง’ ไปให้เส็งกับเดือนช่วยขาย ปรากฏว่าขายดีมาก ลูกค้าซื้อแล้วสั่งเพิ่มและบอกต่อกันอย่างกว้างขวาง
ปุ๋ยขายดีจนเส็งมีกำลังใจมาก วันไหนขายหมดเร็วก็บ่นว่ากลับบ้านเร็วไม่รู้จะทำอะไร เดือนพูดขำๆว่า ขายดีก็บ่นขายไม่ดีก็บ่น พอดีภูผาขับรถขนปุ๋ยมาถึง เดือนบอกเส็งว่าลูกมาแล้วเอาปุ๋ยมาด้วย ภูผาจะถ่ายปุ๋ยใส่รถป๊าให้เลย เส็งบอกไม่ต้อง ขับรถมาเหนื่อยๆนั่งพักก่อน สั่งเดือนให้เอาน้ำมาให้กิน ถามว่าออกตั้งแต่กี่โมง
ท่าทีเส็งดีขึ้นจนภูผางง ไปไม่เป็นตอบไม่ถูก จนเส็งถามว่า “อ้าว...ถามไม่ตอบ”
“ครับป๊า...ตั้งแต่เช้าแล้วครับ”
เส็งจึงเดินเข้าข้างใน
ooooooo
อ่านละคร ซีรีส์ลูกผู้ชาย เรื่อง ภูผา ตอนที่ 8 วันที่ 8 ก.พ.62
บทประพันธ์โดย สลิลาบทโทรทัศน์โดย สลาลิ
กำกับการแสดงโดย ณัฏฐ์กรณ์ สุทธาวาส
ผลิตโดย บริษัท โซนิกซ์ บูม 2013 จำกัด
ช่องออกอากาศ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ