อ่านละคร เพชร ตอนที่ 1 วันที่ 13 ก.พ.62

อ่านละคร เพชร ตอนที่ 1 วันที่ 13 ก.พ.62

บรรยากาศใน พ.ศ.2517 เป็นช่วงที่เพิ่งผ่านเหตุการณ์ระหว่างนักศึกษากับรัฐบาลเผด็จการในเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 นักศึกษายังเป็นกลุ่มปัญญาชนที่พยายามผลักดันช่วยเหลือสังคม...

ธุรกิจไนต์คลับ บาร์ และเพศพาณิชย์ ยังคงบูม ผู้หญิงจำนวนมากหาเงินด้วยการขายร่างกายทั้งด้วยการยินยอมและโดนบังคับ โดยอยู่ในความดูแลของนักเลง มาเฟีย อั้งยี่และผู้มีอิทธิพลมากมาย

และสาวโรงงานคืออาชีพสำคัญสำหรับเด็กสาวจากต่างจังหวัด



เพชร เด็กหนุ่มวัย 17 เติบโตในชุมชนแออัดแห่งหนึ่งในเมืองหลวงแห่งความรุ่งเรืองในยุคนั้น...

เพชรเรียนจบแค่ ป.4 ทำงานที่อู่ของเฮียตงที่มีความเมตตา เพชรทำงานอย่างขยันขันแข็งมุ่งมั่นหมั่นศึกษาจนมีฝีมือการซ่อมรถที่ลูกค้าเชื่อถือทั้งด้านฝีมือ ความ รับผิดชอบและความซื่อตรง

วันนี้เพชรรับซ่อมรถเก่าคันหนึ่ง ซ่อมแล้วให้ลุงเจ้าของรถลองสตาร์ตดู ปรากฏว่าสตาร์ตติด

“เรียบร้อย” เพชรภูมิใจบอกลุงว่า “แบตมันเก่าแล้วน่ะลุง ขั้วก็หลวม สายไฟก็เริ่มเปื่อยหมดแล้ว  ถ้าลุงว่างก็เอารถไปอู่เฮียตงนะ เดี๋ยวผมช่วยดูให้อีกที”

ลุงขอบใจเพชรแล้วเอาค่าเสียเวลาให้ เพชรบอกไม่เป็นไร เล็กน้อยเอง บอกลุงให้รีบไปเถอะป้ารอนานแล้ว เดี๋ยวโดนเล่นงานอีก ลุงนึกได้ ขอบใจแล้วรีบไป

พอลุงขับรถออกไป เพชรก็สะดุ้งเพราะได้ยินเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือของเด็กสาว เพชรออกมามองตามเสียง เห็นที่ลานโล่งฝั่งตรงข้าม ชายฉกรรจ์สองคน กำลังฉุดกระชากเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ที่ดิ้นรนหวีดร้องอย่างหวาดกลัว เด็กผู้ชายอีกคนอายุประมาณ 10 ปีพยายามเข้าไปช่วยแต่ถูกชายฉกรรจ์ถีบจนคว่ำแล้วลากเด็กหญิงไป

เพชรมองตามชายฉกรรจ์ที่ลากเด็กหญิงไปแล้ววิ่งลัดตัดไปอย่างชำนาญเส้นทาง พลางตะโกนบอกคนแถวนั้นให้แจ้งตำรวจด้วย

ที่อีกมุมหนึ่งในสลัม ณรงค์กับเอ กำลังยืนเผชิญหน้ากันอยู่อย่างตึงเครียด ณรงค์ตะคอกอย่างเกรี้ยวกราดว่า “มึงตัดหน้ากูไอ้เอ...งานนี้เป็นของกู มึงต้องแบ่งเงินมาให้กูด้วย”

“อะไรของมึงวะรงค์ งานอะไร คนสูงส่งมีเกียรติอย่างมึงจะมีงานอะไรให้กูแย่งได้ งานของกูมีแต่งานร้อนๆ ผิดกฎหมาย หรือว่ามึงก็ทำงานแบบนี้...ถ้ามึงอยากได้เงิน ก็ไปบอกแม่มึงให้มาจัดการให้เหมือนทุกครั้ง...กล้าไหมล่ะ ไอ้ลูกแหง่”

“ไอ้เอ อย่าคิดว่ากูไม่กล้านะมึง...ไอ้วุธ” ณรงค์หันไปเรียกวุธที่ยืนอยู่ใกล้ๆ วุธโวยอย่างรู้ทันว่ากูไม่เกี่ยว มึงอยากได้ก็เข้าไปเอาเองสิวะ ณรงค์คำราม “มึง” จ้องหน้าวุธ ต่างมองเกี่ยงกัน

เอมองทั้งสองอย่างดูถูกแล้วหมุนตัวออกไปก็ต้องตกใจร้องเฮ้ย! เมื่อถูกเพชรที่วิ่งตะบึงมาชนอย่างจัง จนกระเด็น “ไอ้เพชร อะไรของเอ็งวะ”

“ไอ้พวกจับเด็กพี่...มันมาอีกแล้ว...ผมจะไปดักมันที่ริมถนน”

“ไอ้พวกสารเลว เอ็งวิ่งตามมันไม่ทันหรอก...” เอเข้าไปกระชากวุธออกจากมอเตอร์ไซค์ “ไปเพชร ไปกระทืบไอ้พวกเดนนรกพวกนั้นด้วยกัน”

เพชรโดดซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ทันที วุธที่นั่งกองอยู่กับพื้นลุกไม่ทัน ได้แต่ตะโกนโหวกเหวก

“ไอ้เอ รถกู...รงค์ ไอ้เอมันเกี่ยวอะไรด้วยวะ หรือมันกลายเป็นพวกจอมเสือกเหมือนไอ้เพชรอีกคนนึง”

“ก็เรื่องผู้หญิงไง...ผู้หญิงเหมือนแม่มัน ไอ้นี่มันทำเป็นเจ๋งไม่สนใจใคร แต่ถ้าเรื่องผู้หญิงมันอยู่เฉยไม่ได้หรอก” ณรงค์เหยียดปากอย่างดูถูก

ooooooo

รถกระบะทรงสูงมีผ้าใบปิดทึบเลี้ยวออกมาจากซอยอย่างเร็ว แต่แล้วก็ติดหนึบเพราะการจราจรที่ติดขัด มอเตอร์ไซค์ที่เอกับเพชรขี่ซ้อนกันมาพุ่งออกมาจากซอยอีกฝั่ง เพชรชี้

“พี่เอ...นั่นไงพี่ คันนั้นไง”

เอพุ่งรถไปจอดข้างรถกระบะแล้วโดดลงไปเคาะประตูรถฝั่งคนขับ ส่วนเพชรวิ่งไปกระชากผ้าใบแต่มันมัดไว้แน่นหนามาก เพชรร้องขอมีดจากเอแล้วกรีดผ้าใบแหวกออก

คนขับรถเปิดประตูลงมาถูกเอถีบจนตัวงอ แล้ววิ่งไปหาเพชรที่พยายามดึงผ้าใบออก มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังมาจากใต้ผ้าใบ เพชรขอมีดจากเอแล้วกรีดผ้าใบพยายามช่วยเด็กออกมา

ทันใดนั้นมีรถเก๋งคันหนึ่งแล่นเข้ามาจอด ชายฉกรรจ์สามคนกรูออกมาตรงเข้าล้อมกรอบเพชร เอกลับไปเล่นงานคนขับ ชายฉกรรจ์คนหนึ่งวิ่งไปช่วยคนขับแต่กลับถูกเอไล่ถลุง

ขณะที่เพชรกำลังยืนประจันหน้ากับชายฉกรรจ์สองคนอยู่นั้น ณรงค์ขี่รถตามมาหยุดดู พูดอย่างสะใจ

“มึงตายแน่ไอ้เพชร ชอบแส่เรื่องชาวบ้านดีนัก”

แต่แล้วเสียงไซเรนรถตำรวจ ดังมาจากหลายทาง ทุกคนหยุดชะงัก มีชายฉกรรจ์คนหนึ่งตัดสินใจพุ่งเข้าไปหยิบของในรถก่อนวิ่งหนีไป เพชรจะตามก็ถูกพวกมันถีบล้มแล้ววิ่งหนีไปคนละทิศละทาง

เพชรชะงักเมื่อได้ยินเสียงเอร้องอย่างเจ็บปวดที่รถ วิ่งไปเห็นเอนอนเค้เก้อยู่หน้ารถเพราะถูกรุม เพชรประคองถามว่าเป็นไงมั่งพี่ เอบอกว่าไม่เป็นไร แต่เจ็บใจที่มันหนีไปได้หมด ถามว่าเด็กเป็นยังไง ก็ได้ยินเสียงณรงค์พูดอย่างภูมิอกภูมิใจว่า

“ลงมาเลย ลงมา น้องไม่เป็นไรแล้วครับ ผมมาช่วยไว้ทัน”

เพชรกับเอจึงอ้อมมาดู เห็นณรงค์กำลังโอ้อวดกับตำรวจ เพชรกับเอมองหน้ากันแล้วยิ้มขำๆก่อนเดินหนีไปอีกทาง

ooooooo

เอกับเพชรเดินคุยทั้งขำทั้งสมเพชการกระทำของณรงค์ว่าทำไมมันหน้าด้านแบบนี้...ป่านนี้หน้ามันคงบานเป็นกระด้งไปแล้ว นี่ถ้าไม่ติดว่าตนไม่ชอบตำรวจ ก็คงได้ไปยืนเสนอหน้าแข่งกับมันสนุกไปแล้ว

“พี่รงค์เขาก็เป็นแบบนี้แหละ เขาชอบทางนี้ซะแล้ว ปล่อยเขาไปเหอะพี่”

“เอ็งมันก็ชอบปิดทองหลังพระ แต่ทำแบบนี้

เมื่อไหร่คนเขาจะรู้ว่าเอ็งต่างหากที่เป็นคนทำ”

“แหมพี่เอ ผมก็ไม่ได้ดีอะไรมากขนาดนั้น ผมช่วยใครได้ผมก็ช่วย ใครจะรู้หรือไม่รู้ก็ช่างเขาเถอะ ผมไม่ได้สนใจ ขอแค่ย่ากับหนูพิมรู้ แค่นี้ผมก็พอใจแล้วพี่”

เพชรพูดถึงย่าพุดกรองกับหนูพิมน้องสาววัย 10 ขวบของตนอย่างรักใคร่ห่วงใย เอมองอย่างชื่นชมแกมหมั่นไส้แล้วจะแยกไปอีกทาง สวนกับภารโรงสมที่วิ่งออกมาอย่างดีใจที่เจอเพชร บอกให้ไปดูพ่อคือไกรสรที่เมาอาละวาดอีกแล้ว เพชรกับเอมองหน้ากันยิ้มแหยอย่างเกรงใจภารโรงสม แล้วรีบเดินตามเข้าไปในโรงเรียน

ooooooo

ที่ตลาดสด...แม่ค้าพ่อค้าที่มีแผงขายก็ดูดีมีของขายเยอะและบ้างก็แบกะดินมีของเล็กๆน้อยๆวางระเกะระกะ ถัดจากตลาดสดคือร้านอาหารโต้รุ่งที่ขายอาหารทั้งที่สำเร็จและตามสั่งสลับกันขายทั้งวันทั้งคืน

อ่อง ชายวัยกลางคนกำลังเดินตามจิตราภรรยาที่เดินกรีดกรายรับไหว้การทักทายจากพ่อค้าแม่ค้าในตลาดอย่างไว้ตัว พ่อค้าคนหนึ่งทักอย่างรู้เรื่องดีว่า

“อ้าว...คุณนายจิตกลับจากโรงพักแล้วเหรอครับ แล้วคุณรงค์เป็นไงบ้างครับ ได้โล่ได้รางวัลอะไรจากทางการบ้างหรือเปล่าครับ”

“อุ้ย...รางวี่รางวัลอะไรกัน ตารงค์น่ะเขาเป็นเด็กดี ชอบช่วยเหลือผู้คนแบบนี้เอง ไม่ได้อยากทำดีเอาหน้าเอารางวัลอะไรหรอก” จิตราพูดถึงณรงค์อย่างปลื้มอกปลื้มใจ

ขณะพ่อค้าแม่ค้ากำลังยอลูกชายให้จิตราได้ปลื้มอยู่นั้น เสียงเอะอะจากขี้เมาไกรสรก็ขัดจังหวะขึ้น

“ปล่อยกู อย่ามายุ่งกับกู”

“แหมพ่อ...ถ้าปล่อยจริงๆพ่อจะเดินไหวเหรอ” เสียงเพชรถามพ่ออย่างใจเย็น

ทุกคนหันมองไกรสรอย่างชินตากับสภาพเมาหัวราน้ำ ของเขา จิตรามองอย่างรังเกียจ แต่อ่องที่เป็นนายช่างใหญ่ประจำอู่ของเฮียตงเป็นเพื่อนรักกับไกรสรและคนในครอบครัว เพราะย่าพุดกรองเลี้ยงโตมาด้วยกันกับไกรสรกลับมองขำๆ ที่เอะอะโวยวายไม่ยอมกลับบ้านในขณะที่เพชรก็พยายามจะพากลับบ้านบอกว่าย่าเป็นห่วงพ่อมากนะ

อ่องถามเพชรว่าไปเจอซากพ่อที่ไหน เพชรบอกว่าหน้าโรงเรียน อ่องถามไกรสรว่าเมื่อไหร่เอ็งจะเลิกก็ถูกไกรสรตวาดว่าไม่ใช่เรื่องของเอ็งอย่ามายุ่ง แล้วเดินไปฟ้องจิตราที่ยืนทำหน้าแหยงสมเพชอยู่ว่า

“จิตจ๋า ช่วยพี่สรด้วย บอกไอ้ผัวตัวดีของจิตว่าอย่ามายุ่งกับพี่”

“อย่ามายุ่งกับฉันนะ ไอ้ขี้เมา” จิตราถอยห่าง ไกรสรเลยเสียหลักเซล้มลงไปในรถเข็นเล็กๆ ก็เลยเป็นจังหวะดีที่อ่องกับเพชรช่วยกันเข็นรถพาไกรสรกลับบ้าน

ooooooo

เวลาเดียวกันนั้นย่าพุดกรองกับพิมอยู่ที่บ้าน กำลังถูกแก๊งทวงหนี้คุกคามอย่างหนัก ย่าอ้อนวอนขอผัดอีกสองวันจะเอาดอกไปส่งที่บ้านเจ๊เอง แต่วันนี้ขอเอาเงินไปจ่ายค่าหมอก่อน

นักเลงตะคอกว่าไม่ได้ ต้องส่งทุกวันก็คือทุกวัน ใครจะเจ็บจะตายไม่เกี่ยว แล้วสั่งพรรคพวกให้ไปค้นที่รถเข็นและตัวย่า ย่าถูกกระชากจากพิมไปค้นตัวจนข้าวของกระจัดกระจาย พิมร้องไห้อย่างหวาดกลัว

ขณะที่ย่ากำลังเผชิญกับแก๊งทวงหนี้โหดอยู่นั้น เพชรกับอ่องก็กำลังทุลักทุเลกับการพยายามพาไกรสรกลับบ้าน

ขณะนั้นเอง เบี้ยว หลานชายวัย 7 ขวบของยายเจียมก็วิ่งมาบอกให้เพชรไปช่วยยายพุดหน่อย ยายแย่แล้ว เพราะไอ้พวกทวงหนี้มันจะเอาเงินจากยาย แต่ยายไม่มี มันก็เลย...

เพชรไม่รอฟังจบ เขาวิ่งข้ามสะพานไปทันที

เบี้ยววัย 7 ขวบแต่ใจสู้ ซอยเท้ายิกๆตามไป อ่องจึงดูแล ไกรสรคนเดียว

เมื่อเพชรไปเห็นยายเจียมกำลังกอดปลอบพิมและย่ากำลังเก็บข้าวของที่ระเนระนาดยับเยินรวมใส่หาบเพชรหยุดกึกสีหน้าเปลี่ยนจากความห่วงใยเป็นโกรธแค้น ย่าเห็นสีหน้าเพชรก็ตกใจแต่ไม่ทันที่ย่าจะลุกไปหาเพชรก็วิ่งตะบึงไปแล้ว

เพชรวิ่งทะลุซอยนั้นซอยนี้ตามหาพวกแก๊งทวงหนี้ที่ทำร้ายย่ากับน้อง พอวิ่งเข้าซอยหนึ่งก็ถูกท่อนไม้ใหญ่ยื่นมาขวาง ทำให้เพชรสะดุดตัวลอยกระแทกพื้นจนจุก

เพชรถูกโบ้คู่อริรุ่นพี่ดักเล่นงาน พอเพชรล้มจุก โบ้ก็ถือท่อนไม้ใหญ่หัวเราะร่าออกมาถามเย้ยกวนๆ

“จะไปไหนวะไอ้ขี้ดิน อ้อ หรือกำลังจะไปตามหาแม่ที่หนีตามผู้ชายอื่นไป เหมือนพ่อขี้เมาของมึง”

โบ้พูดเยาะเย้ยดูถูกเพชรอย่างคะนองปาก ถูกเพชรจ้องเขม็งก็เดินเข้าหาสั่งลูกน้องให้จัดการเลย เอาให้หายซ่าสักที เพชรจึงถูกลูกน้องโบ้ 4 คนดาหน้าเข้าหา แต่เพชรไม่มีท่าทีหวาดกลัวตั้งการ์ดสู้เต็มที่ พอลูกน้องเข้าล็อกตัวเพชร โบ้ก็กร่างเดินเข้าหาพูดเย้ย

“มึงจะทนได้สักเท่าไหร่วะ”

“รุมกัดกันเป็นหมาเลยนะพวกเอ็ง” เสียงเอดังขึ้น พวกโบ้หันมองเห็นเอเดินเข้ามาพร้อมพวกที่มากกว่า “5 รุม 1 แบบนี้ มันไม่ทุเรศไปหน่อยเหรอวะไอ้โบ้ ไหนเอ็งคุยโม้นักไงวะ ว่าเอ็งน่ะเป็นลูกศิษย์เอกของครูหมาย แล้วทำไมไม่กล้าสู้ตัวต่อตัวกับไอ้เพชรมันล่ะวะ”

“ใครบอกว่าข้าไม่กล้า แต่ไอ้ขี้ดินที่สะเออะอยากจะเป็นเพชรนี่ต่างหากที่มันไม่กล้าสู้ เอาแต่หลบอยู่หลังผ้าถุงย่าของมัน”

เอมองเพชรที่หน้าตาโกรธแค้นเกรี้ยวกราดอย่างไม่เคยเห็น คิดแผนบางอย่างออก ถามเพชรว่ากลัวโบ้จริงหรือ เพชรบอกว่าเปล่า

“งั้นทำไมเอ็งไม่กล้าสู้กับมันวะ”

“ผมรับปากกับครูหมายไว้แล้วว่าจะไม่ใช้วิชาของครูไปมีเรื่องกับใคร”

โบ้เยาะเย้ยว่ากลัวก็บอกมาเถอะ  อย่าอ้างย่ากับครู เพชรจะถลันเข้าหาโบ้ เอรีบขวาง

“เฮ้ย...ใจเย็นๆโว้ยเพชร มาตีกันตรงนี้ก็ไม่มีประโยชน์หรอก เผลอๆใครมาเห็นเดี๋ยวก็ซวยกันหมด พี่ว่าถ้าเอ็งอยากกระทืบใครแก้เครียด โดยเฉพาะไอ้โบ้ เอ็งไปหาที่เงียบๆกระทืบมันดีกว่า แล้วเผลอๆเอ็งอาจจะได้เงินไปใช้เล่นๆด้วยนะโว้ย”

“หมายความว่าไงวะเอ” โบ้งง

“ก็ถ้าเอ็งอยากจะฟัดกันแล้วจะปล่อยให้มันเสียเปล่าทำไมวะ ถ้ามีอะไรติดปลายหมัดสักหน่อยมันจะสนุกกว่าไหมวะโบ้ หรือเอ็งไม่กล้า”

“ถ้าไอ้ลูกแหง่นี่ชนะข้าได้ เอ็งเอาไปอีก 2 เท่าเลยไอ้เอ ว่าแต่เอ็งลากมันไปให้ได้เหอะวะ ไอ้แหยเนี่ยมันไม่กล้าหรอก” โบ้ดูถูกเพชรทั้งด้วยคำพูดและสายตา

เอมองเพชรหยั่งท่าที ถามว่าจะเอาด้วยไหม เพชรนิ่ง เอโวยว่า

“เฮ้ย...ไม่เห็นต้องคิดเยอะเลย งั้นเอาแบบนี้ ถ้าเอ็งชนะไอ้โบ้ได้ ข้าจะเป็นพยานว่าไอ้โบ้มันจะไม่มายุ่งกับเอ็งอีก ดีไหม” แล้วเอก็ถามโบ้อย่างท้าทายว่า “เอ็งกล้ารับกติกานี้ไหมวะโบ้”

โบ้หน้าเครียดแต่ไม่ยอมเสียเชิงตะโกนบอกลูกน้องให้ไปเลือกที่นั่งดีๆดูไอ้กากเพชรนี่เละคาตีนตน

โบ้เดินนำลูกน้องไปอย่างฮึกเหิม เอมองหน้าเพชรที่ยืนนิ่งครุ่นคิด

ooooooo

การประลองกำลังเปิดฉากที่มุมเปลี่ยวในสลัม โดยมีไทยมุงทั้งที่เป็นวัยรุ่นและผู้ใหญ่มุงดูและลุ้นกัน ป๋องลูกน้องเอเห็นเพชรตัวเล็กกว่าโบ้และถูกโบ้ไล่ถลุงก็กระซิบถามเอ

“มันจะไหวไหมเนี่ยพี่ ไอ้โบ้ตัวมันใหญ่กว่าตั้งเยอะ โธ่...ถ้าแพ้เสียดายเงินแย่เลย”

“ใจเย็นๆโว้ยป๋อง ไอ้เพชรน่ะตัวมันเล็กแต่ใจมันเด็ดนะโว้ย มันไม่ยอมแพ้ง่ายๆหรอกเอ็งคอยดู”

เพชรพลาดถูกโบ้ถลุงล้มกลิ้ง พอโบ้จะตามกระทืบซ้ำ เพชรก็กลิ้งหลบได้เฉียดฉิวแต่ยังลุกไม่ขึ้น โบ้ตามกระทืบเพชรที่กลิ้งหลบไปทั่ว จนป๋องทนไม่ไหวตะโกนให้เพชรลุกขึ้น!

โบ้ย่ามใจทั้งไล่กระทืบทั้งดูถูกเพชรว่ากลิ้งหาชายผ้าถุงย่ามึงเหรอ ด่าสวะ ท้าให้ลุกขึ้นมาสู้ เย้ยว่า

“เพราะมึงตาขาวแบบนี้ไง  พ่อกับแม่มึงถึงไม่สนใจมึง”

เพชรกัดฟันกรอดนอนนิ่งไม่กลิ้งหนี โบ้ย่ามใจกระโดดกระทืบถูกเพชรจับเท้าเหวี่ยงกระเด็นแล้วพยายามลุกขึ้น ร้องท้า

“มา ไอ้โบ้ อย่าดีแต่เห่าเหมือนหมาขี้เรื้อนข้างถนน”

กองเชียร์สองฝ่ายต่างตะโกนกันอย่างเมามัน

“อัดมันให้คว่ำเลยนะโว้ยเพชร เอ็งเก่งกว่ามันแน่ๆ ข้าเชื่อมือเอ็ง ทำให้มันรู้ไปเลยว่า เด็กแม่ทิ้งอย่างเอ็ง กับเด็กที่แม่เลี้ยงด้วยมือด้วยตีนแบบไอ้โบ้ ใครมันจะแน่กว่ากัน” เอตะโกนสุดเสียง

โบ้ย่ามใจว่าตัวเองเหนือกว่าพุ่งเข้าหาเพชร ถูกเพชรสวนหมัดเข้าชายโครงจนสะดุ้งเฮือกหน้าเหยเก ทรุดลงอย่างหมดท่า แต่เพชรไม่ซ้ำถอยไปยืนตั้งหลัก ในจังหวะที่ไม่มีใครสังเกตนั่นเอง ตุ้ยลูกน้องโบ้ก็ควักสนับมือไปยัดใส่มือให้โบ้ โบ้ปรี่เข้าหาเพชร เงื้อหมัดที่ใส่สนับมือจะซัดหน้าเพชร

ทันใดนั้นมือใหญ่หนาแข็งแรงก็ยื่นเข้ามากระชากแขนโบ้อย่างแรงจนหงายหลัง ทุกคนตกใจ

ครูหมายนั่นเอง!

“เก่งนักใช่ไหมเอ็ง ไอ้โบ้” ครูหมายจ้องโบ้เขม็ง โบ้หน้าเสีย ครูหมายบีบมือโบ้อย่างแรงจนมันร้องว่ายอมแล้วครู ทิ้งสนับมือลงพื้น ครูเตะสนับมือออกไป เหวี่ยงโบ้ไปอีกทาง กวาดตามองไปรอบๆปรามดุดัน

“บอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ามาฟัดกันเป็นกุ๊ยข้างถนนแบบนี้”

เพชรไม่กล้าสู้ตาครู เอจึงออกมารับหน้าแทนว่า

“แต่มันไม่ได้กัดกันเล่นๆนะครับครู ครั้งนี้มีข้อตกลงระหว่างกันด้วย เพราะถ้าไอ้เพชรมันชนะ ไอ้โบ้มันรับปากแล้วว่าจะเลิกหาเรื่องวุ่นวายกับเพชรอีก...ใช่ไหมโบ้”

“ใช่ครับครู”

“ดี...ถ้าพวกเอ็งอยากต่อยกันนัก งั้นก็เอาเลย ข้าเป็นกรรมการให้เอง แต่ถ้าใครตุกติก ข้าจะจัดการเอง เข้าใจไหม”

“ครับ” เพชรกับโบ้ตอบพร้อมกัน

ครูหมายมองไปที่ลูกน้องของโบ้กับเอและกลุ่มวัยรุ่นให้ขยับถอยหลัง แล้วเข้าไปจับคอเสื้อโบ้กับเพชรลากมากลางวง ประกาศกติกา

“กฎกติกาพวกเอ็งรู้อยู่แล้ว ถ้าอยากแสดงความเก่งกล้าของลูกผู้ชายก็ใช้แต่ฝีมือของตัวเอง อย่าตุกติก เหมือนหมาลอบกัด”

ครูหมายปล่อยมือจากทั้งสองแล้วถอยออกมาคุมเชิง

โบ้โถมเข้าใส่เพชรที่ยังไม่ทันตั้งตัวจนเพชรกระเด็นกองกับพื้น เพชรลุกขึ้นพุ่งเข้าใส่โบ้ แล้วทั้งสองก็ต่อสู้กันด้วยฝีมือล้วนๆจนโบ้เริ่มเซและเดินหนี ขณะที่เพชรยังไล่ถลุงอย่างมันมือ จนกระทั่งโบ้ถูกหมัดเพชรเข้าปลายคางกระเด็นลงไปกองกับพื้น เพชรหยุดแล้วถอยไปดูนิ่งๆ

ครูหมายมองเพชรอย่างถูกใจ แล้วเดินไปดูโบ้ที่นอนตาลอยเรียกจนโบ้ได้สติขานรับ ครูจึงพยักหน้า ลูกน้องโบ้รีบเข้าไปพยุงลูกพี่ให้ลุกขึ้น

ครูหมายถามโบ้ว่ายังจะสู้ต่อไปไหม โบ้ฝืนใจ

บอกว่า “ไม่” ครูหมายย้ำว่างั้นก็ต้องยอมรับกติกา โบ้ฝืนใจบอกว่าก็ได้ เอย้ำว่า “งั้นต่อไปนี้ เอ็งห้ามมายุ่งกับเพชรมันอีก ใช่ไหมวะ”

โบ้จ้องหน้าเออย่างไม่พอใจ ถามครูหมายว่าตนไปได้แล้วใช่ไหมแล้วเดินออกไปเลย เพชรไหว้ขอบคุณครู ครูหมายถามว่าจะกลับบ้านสภาพนี้ย่าจะว่ายังไง ครูจะไปส่ง แต่เพชรบอกว่าไม่เป็นไร ตนทำผิดก็ต้องยอมรับผิด แล้วไหว้ลาครูและหันขอบคุณเอ เอกระซิบบอกเพชรว่า

“เรื่องเงินเดี๋ยวค่อยคุยกันนะ ข้าก็กลับเหมือนกัน ไปโว้ยป๋อง”

เอเหลือบมองครูหมายแล้วเดินไป เพชรมองตามแล้วมองครูหมายก่อนเดินออกไป ครูหมายมองทั้งสองก่อนจะเดินตามเอไป

ooooooo

อ่านละคร ซีรีส์ลูกผู้ชาย เรื่อง เพชร ตอนที่ 1 วันที่ 13 ก.พ.62

บทประพันธ์โดย: ชล พรรษกร
บทโทรทัศน์โดย: ไผ่พญา โมนะ
กำกับการแสดงโดย: แมน เมธี
ผลิตโดย: บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ช่องออกอากาศ: สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ