อ่านละคร เพชร ตอนที่ 5 วันที่ 23 ก.พ.62
คืนนี้เพชรจะออกไปขับรถส่งของวันแรกแล้ว ย่าพุดกรองบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงย่าอยู่กับพิมได้และเตือนเพชรให้ขับรถดีๆ กลางคืนถ้าเลี่ยงได้ก็เลี่ยงเพราะอันตรายพิมบ่นไม่พอใจที่เถ้าแก่หูเบาฟังคนใส่ร้ายเพชรจนต้องออกจากงาน
“อย่าเสียใจเลยนะหนูพิม จำที่ย่าสอนไม่ได้หรือ อุปสรรคไม่ใช่เรื่องใหม่ ถ้าใจเราไม่ท้อทุกอย่างอยู่ที่ใจ ยังไงพี่จะสู้ใหม่เพื่อให้มีอู่ของตัวเองให้ได้”
“หนูพิมจะทำขนมช่วยอีกแรงจ้ะ พี่เพชรจะได้เป็นเจ้าของอู่เร็วๆ”
ทั้งย่า เพชร และพิม ล้อมวงกินข้าวกันอย่างมีความสุข
คืนนี้เพชรไปที่บ้านเช่าของรินทร์กับแก้วตา เพชรเล่าเรื่องราวของตนให้แก้วตาฟัง แก้วตาถามว่าจะให้พี่ชาญวิทย์ไปช่วยการันตีให้ไหมจะได้ไม่ต้องไปขับรถไกลๆ หายไปสองสามวันอย่างนี้ เดี๋ยวรินทร์คิดถึงอกแตกตาย เลยถูกรินทร์ด่าแก้เขิน แต่บอกเพชรว่าถ้าเขาอยากทำตนก็คงได้แต่ให้กำลังใจและเป็นห่วง
“พี่จะดูแลตัวเองให้ดีไม่ทำให้รินทร์เป็นห่วงนะ ...ถึงงานนี้จะไม่ใช่งานในฝัน แต่ในเมื่อมันเลือกไม่ได้ ปากท้องก็ต้องมาก่อนความฝัน”
“รินทร์เข้าใจจ้ะ”
“พี่ไม่รู้ว่าต้องทำงานนี้อีกนานแค่ไหน แต่ถ้ามันยังไม่มีทางเลือกพี่ก็ต้องสู้ทุกอย่าง แต่ไม่ว่าอะไรจะยาก
จะง่าย...แค่ได้รู้ว่ามีคนให้กำลังใจอยู่ มันก็...มันก็ดีมากๆแล้ว”
รินทร์เขิน บอกว่ารู้สึกดีที่ตนมีความหมายกับใครสักคน...แล้วต่างยิ้มให้กันอย่างใจตรงกัน...
เมื่อเพชรไปที่บริเวณลานจอดรถขนของ รินทร์ก็หิ้วปิ่นโตไปให้บอกว่าเป็นมื้อกลางวันกับมื้อเย็น ตนทำแต่ของทอดมาจะได้ไม่บูดง่าย กำชับให้เพชร
ขับรถดีๆ เพชรถามแซวว่า “นี่สั่งใช่ไหม”
“ถ้าสั่งแล้วจะฟังไหมล่ะ” รินทร์ถามเขินๆ
“เชื่อฟังยิ่งกว่าเจ้านายอีก”
รินทร์หัวเราะเขิน พอดีเด็กติดรถมาบอกว่าพร้อมออกเดินทางแล้ว เพชรบอกรินทร์ว่าไม่ต้องห่วงนะ ยื่นปิ่นโตให้เด็กติดรถเอาไปไว้ที่รถ
รินทร์ยืนโบกมือส่งเพชรจนรถลับตา จึงกลับด้วยสีหน้าเป็นห่วง
ooooooo
ศักดิ์คิดหาทางช่วยเพชร ไปขอครูหมายให้มาช่วยพูดกับเฮียตงว่าเพชรไม่ได้ขโมยของอย่างที่ถูกกล่าวหา ครูถามว่าเฮียตงจะเชื่อหรือว่าเพชรถูกณรงค์แกล้ง
“จะเชื่อหรือไม่เชื่อก็แล้วแต่เถอะครู แต่อย่างน้อยเฮียเขาต้องรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่อู่บ้าง ก่อนที่ทุกอย่างจะแย่ไปกว่านี้”
“บอกตรงๆนะศักดิ์ ข้าก็ไม่แน่ใจหรอกว่าข้าจะช่วยไอ้เพชรให้กลับมาทำงานที่อู่ได้อีก แต่ข้ายืนยันกับเฮียตงได้ว่ามันไม่มีนิสัยอย่างนั้น”
ศักดิ์บอกว่าแค่นั้นก็ดีแล้ว ขอแต่ให้เฮียฟังพวกเราบ้างเท่านั้น
แต่ทั้งสองเข้าไม่ถึงเฮียตงเพราะถูกหลินมาสกัดไล่ให้กลับไปเลย ครูหมายขอโอกาสเพราะอย่างน้อยเฮียเจ้าของอู่จะได้รับรู้บ้าง หลินยืนกรานไม่ให้พบ และไม่ต้องมาพยายามอีก ปรามว่า
“แกอย่าคิดว่าอยู่กับเฮียมานานแล้วฉันจะให้แกออกไม่ได้นะไอ้ศักดิ์ อยากตามไอ้เพชรออกไปอีกคนหรือไง”
หลินพูดใส่หน้าครูหมายกับศักดิ์แล้วสะบัดเดินเข้าบ้านไปเลย
ศักดิ์มองตามหลินแล้วหันมองครูหมายอย่างสิ้นหวัง ครูหมายบอกศักดิ์ว่า
“ถึงขนาดนี้แล้ว เอ็งอย่าหวังเลยไอ้ศักดิ์ แม้แต่จะพูดเขายังไม่เปิดโอกาสเลย”
ooooooo
หลินกลับมาที่ห้องนั่งเล่นที่จิตรานั่งอยู่ก่อนแล้ว จิตราถามว่าพวกนั้นมาข่มขู่คุณหลินหรือเปล่า หลินยิ้มเยาะว่าไม่มีทาง ตนไล่ตะเพิดไปหมดแล้ว
หลินคุยว่าตนรู้ทันว่าพวกนั้นต้องมาอ้อนวอนขอให้หัวขโมยนั่นกลับมาทำงานอีกแน่ จิตรายุว่าอย่าใจอ่อนเด็ดขาด อวดอย่างมีแผนว่า ณรงค์จ้างเด็กๆให้กันพวกนี้ออกไปห่างๆแล้วก็ยังตามมากวนได้อีก หลินอุทานว่า “โถ...ไม่น่าจะต้องเสียเงินเสียทองเลย”
“ก็เพื่อความสบายใจของคุณหลินกับเฮียตงน่ะค่ะ แค่นี้เอง ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”
จิตราชำเลืองกระเป๋าเงินของหลินอย่างมีความหวัง แต่หลินแค่ยิ้มไม่มีทีท่าจะหยิบเงินจากกระเป๋า
แต่พอจิตรากลับถึงบ้าน ณรงค์ถามทันทีว่าแม่กล่อมคุณหลินสำเร็จไหม จิตราคุยหน้าบานว่ามีเหรอจะไม่สำเร็จ พลางหยิบซองเงินออกมายื่นให้ณรงค์ ถามว่าจะไม่บอกแม่จริงๆหรือว่าจะทำอะไรไอ้นั่น
ณรงค์ยิ้มแต่ยังไม่บอก พอวุธเข้ามาก็ถามว่า “ไอ้เพชรมันไปอยู่อู่ไหน”
“มันไม่ได้ทำงานอู่แล้วพี่ มันไปขับรถส่งของ ออกไปตั้งแต่เมื่อเช้าแล้ว...แล้วเราจะเอายังไงต่อพี่ จะเล่นมันยังไง” วุธมองหน้าณรงค์รอคำตอบ แต่ณรงค์ยังไม่ตอบ
เพชรขับรถไปพักกลางวันที่ศาลาริมทาง เอาปิ่นโตออกมากินข้าวเที่ยงกัน ปรากฏว่าทั้งปิ่นโตจากที่บ้านและจากรินทร์เป็นปลาสลิดทอดเหมือนกัน เด็กรถสังเกตเพชรแซวว่าพี่เพชรกินแต่ปิ่นโตสาวๆนะ มันอร่อยกว่าตรงไหน เด็กรถสองคนคุยกันเองแต่แซวเพชรว่า อร่อยกว่าตรงที่กินไปเห็นหน้าคนทอดไปไง
“ของแบบนี้มันเห็นด้วยใจ” เพชรพูดหน้านิ่งจนเด็กทั้งสองเงียบ กินข้าวต่อ เพชรหยิบปลาสลิดมาแกะจะกิน มองปลาแล้วยิ้มนึกถึงคนทอด... “กว่าจะทอดเสร็จ คงหน้ามันแย่เลยสิ”
เพชรขับรถไปส่งของ จากสินค้าที่เต็มรถค่อยๆลดลงเหลือแค่อย่างสองอย่าง เพชรมองสินค้าที่เหลืออย่างพอใจ...มีกำลังใจ
พุดกรอง พิม และรินทร์ไปเยี่ยมไกรสรที่มูลนิธิ ไกรสรพูดอย่างมีความหวังว่าถ้าตนหายดีเมื่อไหร่คงไปช่วยส่งขนมได้บ้าง รินทร์ถามว่าไม่กลับไปทำงานที่อู่หรือ ลุงยังมีฝีมือนะ
ไกรสรพึมพำว่าสภาพตนอย่างนี้ใครเขาจะรับ หยิบจับอะไรก็ลำบากมันจะไปทำอะไรได้ รินทร์ให้กำลังใจว่าลองไปทำกายภาพบำบัดดู ตนเชื่อว่าลุงต้องกลับมาเหมือนเดิมได้ ย่าพุดเสริมว่าถึงไม่เหมือนเดิมแต่ยังไงก็ต้องดีกว่าเดิม พิมเห็นด้วย รินทร์บอกว่าตนจะไปติดต่อเจ้าหน้าที่ให้ ทางนี้เขาคงมีช่องทางแน่ๆ
พูดแล้วรินทร์ลุกไปเลย ไกรสรพึมพำว่ามันยุ่งได้ทุกเรื่องเลย พิมติงว่าพี่รินทร์ยุ่งเพราะรักและหวังดีกับพ่อ ย่าพุดเสริมทันทีว่า
“เห็นไหมสร มีแต่คนเอาใจช่วยเอ็งทั้งนั้น แค่เอ็งรับความหวังดี พวกข้าก็ดีใจกันทั้งบ้านแล้ว”
ไกรสรฟังแล้วคิดตาม มองแม่กับพิมอย่างเข้าใจ
ooooooo
ณรงค์เอาวุธไปฝากทำงานที่อู่เฮียตง สอนวุธด่ากระทบพวกศักดิ์ โก้กับโต้งที่อยู่แถวนั้นว่า
“มือไม้อ่อนอย่างนี้ถูกแล้วไอ้วุธ แล้วก็อย่ากินบนเรือนขี้รดหลังคาเหมือนไอ้คนบางคนก็แล้วกัน ไม่งั้นจะโดนเฉดหัวไล่อย่างกับหมาเลย ใช่ไหมน้าศักดิ์”
เห็นศักดิ์ไม่สนใจก็พูดยั่วยุเย้ยหยันว่า
“อุตส่าห์แบกหน้าไปขอความเห็นใจเถ้าแก่ถึงบ้าน แล้วโดนไล่กลับมาแบบนี้ เป็นผมคงอายแทบแทรกแผ่นดินหนีไปแล้วล่ะ”
ศักดิ์โมโหบอกว่าตนไม่ได้ทำเรื่องเลวๆถึงต้องอาย โก้ผสมโรงว่าแต่บางคนทำเรื่องเลวก็ยังไม่เห็นอายเลย โต้งรับลูกว่านั่นสิ ณรงค์หันเล่นงานว่าระวังปากให้ดี เผลอๆจะโดนไล่ออกยกแก๊งสักวัน
“ถ้าเอ็งหมายถึงข้าด้วย เอ็งก็คิดผิดแล้วล่ะไอ้รงค์ วันไหนข้าอยากออกก็ออกเองไม่ต้องรอใครไล่” ณรงค์ท้าว่างั้นก็ออกเสียวันนี้เลยสิจะรออะไร ศักดิ์สวนทันควันว่า “ก็รอดูความฉิบหายของไอ้พวกสอพลอไง”
ณรงค์ยิ้มยโส บอกว่าไม่ต้องห่วง ตนรู้ว่าต้องอยู่ยังไง ประชดว่าน้านั่นแหละดูแลตัวเองให้ดีเพราะตนไม่เห็นเงาหัวน้าแล้ว แล้วสั่งวุธว่า “นอกจากข้ากับเฮียตี๋ เอ็งก็ไม่ต้องไหว้ใครนะไอ้วุธ” แล้วพาวุธเดินกร่างไป
โก้ถามศักดิ์ว่าทนฟังมันได้ยังไง ศักดิ์บอกว่าฟัดกับมันเดี๋ยวก็บ้าไปด้วย ปล่อยมันบ้าไปคนเดียวเถอะแล้วเร่งให้ทำงานกัน พอโก้กับโต้งไปทำงานต่อ ศักดิ์ก็รำพึง...
“ไอ้อ่อง เอ็งไม่อยู่ลูกเอ็งมันเป็นเสียอย่างนี้ไปแล้ว ข้าเศร้าแทนเอ็งจริงๆ”
ooooooo
คืนนี้ทรงชัยกลับบ้านอย่างอารมณ์ขุ่นมัว
ปริมถามว่าพ่อเป็นอะไร ทรงชัยบอกว่าถูกพวกนั้นเอาผู้หญิงอย่างว่ามาย้อมแมวขายเลยถูกไล่ตะเพิดไปแล้ว
ปริมถามว่าพ่ออยากได้พวกหน้าใหม่ใช่ไหม แล้วแนะนำไปที่ร้านอาหารที่รินทร์ร้องเพลง ทรงชัยซุ่มดูรินทร์ร้องเพลงอยู่กับผู้จัดการร้านที่มุมหนึ่ง รินทร์รู้สึกผิดปกติแต่เห็นไม่ชัดว่าเป็นใคร คืนนี้กลับบ้านแล้วก็ยังกังวลจนแก้วตาถามว่าเป็นอะไร
พอรินทร์เล่าให้ฟัง แก้วตาก็ปลอบว่าคงเป็นแค่ลูกค้าธรรมดา ถามหยอกว่าเพราะพี่เพชรไม่อยู่ใช่ไหมเธอเลยรู้สึกไม่ปลอดภัย ถามว่าจะให้พี่ชาญไปดูแลระหว่างพี่เพชรไม่อยู่เอาไหม รินทร์ติงว่าพี่ชาญไม่ได้กินเงินเดือนตนจะให้มาดูแลได้ไง ตัดบทว่าตนอาจคิดมากไปเองจริงๆ รีบไปนอนดีกว่าพรุ่งนี้จะได้รีบตื่นแต่เช้าไปซื้อของทำกับข้าวให้พี่เพชร
“นึกว่าจะมาทำกับข้าวใส่บาตรเสียอีก”
“ยัยบ้า!!” รินทร์ด่าแก้เขินแล้วพยายามไม่คิดเรื่องนี้อีก
แต่ที่หน้าบ้านนั่นเอง มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งมาจอดซุ่มดูคนในบ้านอยู่ ก่อนที่จะขี่กลับไป
รุ่งเช้า...รินทร์ถือตะกร้ากลับจากจ่ายตลาด ขณะกำลังจะเข้าบ้านก็มีรถแฉลบเข้ามาจอด แล้วชายฉกรรจ์สองคนก็ลงจากรถตรงมาบอกรินทร์ว่า
“คุณรินทร์ครับ เสี่ยเชิญคุณไปกินข้าวที่บ้าน คุณสะดวกนะครับ”
รินทร์ถามว่ารู้จักชื่อตนได้ยังไง แล้วเสี่ยอะไรนั่นตนก็ไม่รู้จัก มันบอกว่าเดี๋ยวก็รู้จัก ยังพูดสุภาพว่า
“ไปด้วยกันนะครับ”
“ฉันไม่ไป”
รินทร์จะหลบเข้าบ้าน ชายทั้งสองก็กลายเป็นคนร้ายทันที มันดักไม่ให้รินทร์เข้าบ้าน รินทร์จึงเอาผักสดและของที่ซื้อมาจากตลาดขว้างใส่มันแล้ววิ่งหนี มันวิ่งไล่ล่าทันที รินทร์อาศัยความชำนาญทางวิ่งหลบไปตรอกนั้นตรอกนี้แต่ก็หนีไม่พ้น ถูกมันชกท้องจนหมดสติแล้วมันก็แบกรินทร์ไปที่รถ
เพชรกลับจากส่งของก็มาหารินทร์ที่บ้านทันที เห็นผักและข้าวของกระจายเต็มหน้าบ้านก็เอะใจตะโกนเรียกรินทร์ แก้วตาออกมาบอกว่ารินทร์ไปซื้อของที่ตลาดยังไม่กลับ แต่พอเห็นสภาพที่หน้าบ้านก็ตกใจ แต่ไม่รู้จะไปตามรินทร์ที่ไหน
รินทร์ถูกแบกมาที่รถ พอรู้สึกตัวรินทร์ก็ดิ้นสุดชีวิตไม่ยอมขึ้นรถ และร้องขอความช่วยเหลือ
เพชรกับแก้วตาได้ยินเสียงรินทร์ร้องจึงวิ่งมาตามเสียงเห็นรินทร์กำลังจะถูกยัดเข้ารถ เพชรพุ่งเข้าตะลุมบอนนักเลงทันที แก้วตาคว้าไม้จากข้างทางช่วยกระหน่ำพวกมันอีกคนจนพวกมันขึ้นรถขับหนีไป
ที่แท้มันคือลูกน้องเสี่ยทรงชัย มันกลับไปมือเปล่าถูกเสี่ยด่าว่าไอ้บ้านั่นตัวเดียวยังจัดการไม่ได้หรือ
“มันเป็นมวยครับเสี่ย แล้วยังจะเพื่อนนังผู้หญิงอีกคนมันทุบเอา...ทุบเอา”
“พวกมึงมันสวะ ไปไกลๆหน้ากูเลย”
พอลูกน้องจะออกไป ปริมเรียกไว้ถามว่าคนที่มาช่วยเป็นมวยหรือ มันบอกว่าใช่แต่ไม่รู้ว่าเป็นแฟนหรือเปล่า ได้ยินเรียกพี่เพชร...พี่เพชร เสี่ยทรงชัยชะงักถามปริมว่า
“ลูกรู้จักไอ้นั่นใช่ไหม”
“ค่ะ...พ่ออย่าทำอะไรเขานะคะ” เสี่ยถามว่าทำไม “ปริมรักเขา...ถ้าพ่อยังอยากได้นังรินทร์ ปริมจะหาทางนะคะพ่อ แต่อย่าทำร้ายเพชร...นะคะพ่อ”
เสี่ยทรงชัยเดินออกไปไม่ตอบ ปริมมองตามพ่ออย่างกังวล
เพชรช่วยรินทร์แล้วพากลับบ้าน บอกว่าตนจะขอลางานกับเถ้าแก่สักสองวันเพราะกลัวพวกนั้นจะย้อนกลับมาอีก รินทร์บอกไม่ต้องห่วง ตนก็คงจะไม่ไป ร้องเพลงสักสองสามวันเพราะไปในสภาพนี้คงไม่น่าดู แต่เมื่อเพชรยังเป็นห่วง รินทร์บอกว่าเห็นทีตนจะต้องเปลี่ยนที่ทำงานใหม่เป็นที่โรงแรมใหญ่ๆน่าจะปลอดภัยกว่า เพชรบอกว่าตนเข้าใจว่ารินทร์รักงานร้องเพลงมาก ตนคงห้ามไม่ได้ และเชื่อการตัดสินใจของเธอ
ปริมไม่วางใจ จึงไปหาเพชรที่บ้านถามว่าเขาย้ายที่ทำงานแล้วหรือเผื่อตนจะตามเอารถไปให้ซ่อมได้ถูกเพชรบอกว่าตนไม่ได้ทำงานอู่แล้ว ตอนนี้ไปขับรถส่งของต่างจังหวัด ปริมปรารภว่าคงเหนื่อยแย่และต่อไปเราคงพบกันยากขึ้นอีก หว่านล้อมว่า
“ปริมรู้ว่าคุณเพชรไม่ยอมรับความช่วยเหลือง่ายๆ แต่ถ้าคุณเพชรไม่มีทางอื่นก็ขอให้นึกถึงปริมนะคะ”
“ผมมีเรื่องนึงไม่รู้ว่าคุณปริมพอช่วยเหลือได้ไหม” ปริมดีใจถามว่าอยากให้ช่วยเรื่องอะไร “คุณปริมพอจะรู้จักร้านอาหารในโรงแรมดีๆที่ไหนบ้างไหมครับ”
ปริมตื่นเต้นนึกว่าเพชรจะชวนไปกินอาหารด้วยกัน แต่พอเพชรบอกว่าตนอยากหาร้านให้รินทร์ไปร้องเพลง เพราะร้านเก่าดูอันตรายไปหน่อย ตนเป็นห่วง ปริมก็หน้าเปลี่ยนเป็นเย็นชา นึกแค้นในใจว่า
“ฉันช่วยแกแน่นังรินทร์...ช่วยให้แกออกไปจากชีวิตเพชรเร็วขึ้นไง!”
ปริมนิ่งงัน เอามือจับที่หัวใจตัวเองรู้สึกเต้นแรงราวกับจะหลุดออกมา...ปริมรู้สึกถึงความผิดปกติของตัวเองอีกครั้ง
ooooooo
วุธบอกณรงค์ว่าเด็กรถบอกว่าเพชรกลับมาแล้ว ถามว่า “พี่จะเริ่มแผนของเราเลยไหม” ณรงค์ถามว่าวุธไปรีบสนิทกับเด็กรถแล้วใช่ไหม วุธบอกเรียบร้อยแล้ว ณรงค์ยิ้มสะใจว่าคราวนี้เพชรไม่ได้ผุดได้เกิดแน่
แผนการของณรงค์กับวุธคือเอายาเสพติดไปไว้ที่รถเพชรนั่นเอง!
เพชรขับรถไปตามปกติ เขาเห็นห่อกระดาษเล็กๆตกอยู่ก็นึกว่าเป็นของส่วนตัวของเด็กรถจึงไม่ได้สนใจ แต่ขับรถไปได้ระยะหนึ่งเห็นข้างทางมีเหตุการณ์ผิดปกติ เพราะมีชายฉกรรจ์กลุ่มหนึ่งกำลังรุมชายวัยกลางคนที่ข้างทาง จึงสั่งเด็กรถให้โบกรถไปหาป้อมตำรวจที่เพิ่งผ่านมา ส่วนตัวเองไปที่ชายกลุ่มนั้น
ไปถึงจึงรู้ว่าชายวัยกลางคนที่ถูกรุมทำร้ายนั้น ถูกอุ้มมาจากที่อื่นเพื่อบีบให้ใช้หนี้ แต่ชายคนนั้นบอกว่าตนไม่ได้เป็นหนี้มันแม้แต่บาทเดียว ถูกมันตะคอกว่า “ไอ้เพ้ง มึงหาว่าเสี่ยใส่ร้ายมึงหรือ”
“เสี่ยอะไรกูไม่รู้จัก”
“ปากแข็งนักนะมึง” มันหยิบปืนออกมาจ่อ เพ้งร้องขอชีวิตลนลาน ทันใดนั้นเพชรเข้ามาบอกให้ใจเย็นๆ นักเลงถามว่ามายุ่งอะไรด้วย ไม่ใช่เรื่องของมึง เดี๋ยวโดนไม่รู้ตัว เพชรบอกว่าตนไม่อยากยุ่งแต่ไม่ชอบเห็นคนโดนรุมไม่มีทางสู้แบบนี้ นักเลงพยักหน้าสั่งลูกน้อง “จัดการมัน”
เมื่อถูกสั่งให้จัดการ เพชรไวกว่า จัดการลูกน้องมันที่ถือปืนจนปืนกระเด็นเตะปืนไปอีกทางแล้วลุยพวกที่เหลือ เพ้งรีบหนีไปซ่อนตัวที่รถของเพชร เพชรตามไปที่รถ ประตูรถสองข้างยังเปิดอยู่ พวกนักเลงตามมาจัดการเพชร มันยิงปืนใส่เพชรแต่ไม่โดน พอมันจะยิงซ้ำ ก็มีเสียงรถตำรวจแว่วมาแต่ไกลพวกมันจึงหนีไป
เพ้งมองเพชรอย่างขอบคุณที่ช่วยตนรอดตาย เมื่อตำรวจมาถึงเพ้งบอกว่าถ้าไม่ได้หนุ่มคนนี้ตนตายไปแล้ว แต่ไม่รู้จะตอบแทนยังไงเพราะมันอุ้มตนมาไม่มีอะไรติดตัวมาเลย
“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องตอบแทนผมหรอก”
“แล้วนี่จะไปไหนกัน” ตำรวจถาม เพชรบอกว่าจะไปส่งของที่เมืองกาญจน์ “ถ้าอย่างนั้นกลับมาแล้วช่วยไปเป็นพยานให้พี่ที่โรงพักได้ไหม เอาเบอร์โทรศัพท์ไว้แล้วกัน”
เมื่อไม่มีอะไรแล้วเพชรขอตัวไปทำงานต่อ เพ้งขอบใจอีกครั้งถามว่าชื่ออะไร
“เพชรครับ”
“เพชร...อยู่ที่บริษัทขนส่งนี่น่ะหรอ” เพ้งดูชื่อบริษัทที่ข้างรถ แล้วบอก “พี่ชื่อเพ้งนะ”
เพชรไหว้ลา เพ้งกับตำรวจเดินตามไปส่งที่รถ ตำรวจเห็นอะไรบางอย่างมองเพชรอย่างสงสัย
เพชรถูกจับไปที่สถานีตำรวจฐานมียาบ้าในครอบครอง สารวัตรโทร.คุยกับเจ้านายของเพชร บอกว่าเพชรปฏิเสธว่าไม่ใช่ของเขา ตนสอบสวนเด็กรถแล้วเห็นว่าไม่เกี่ยวจริงๆจึงปล่อยตัวไป แต่ต้องกันเพชรไว้ก่อน
สารวัตรบอกเจ้านายเพชรว่าถึงเถ้าแก่ยืนยันว่าเพชรเป็นคนดียังไง ตนก็ต้องว่าไปตามหลักฐาน
พอสารวัตรวางสายจากเถ้าแก่ก็หันมาพูดกับครูหมายที่นั่งอยู่ ครูถามว่าถ้าเพชรแก้ต่างไม่ได้ต้องโดนกี่ปี สารวัตรบอกว่า “อย่างน้อยสี่ปีขึ้นไปครับ”
“ผมต้องหาพยานมายืนยันให้ได้ว่าเพชรมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับของพวกนี้” ครูหมายยืนยันแม้จะหนักใจ
เมื่อไปเยี่ยมเพชร เพชรฝากครูให้ช่วยดูแลย่ากับพิมด้วย ครูหมายบอกไม่ต้องห่วงแต่คืนนี้เพชรคงต้องนอนห้องขังนี่ไปก่อน ครูจะไปหาคนมาประกันตัวมาสู้คดีให้เพราะเชื่อในความบริสุทธิ์ของเพชร
อ่านละคร ซีรีส์ลูกผู้ชาย เรื่อง เพชร ตอนที่ 5 วันที่ 23 ก.พ.62
บทประพันธ์โดย: ชล พรรษกรบทโทรทัศน์โดย: ไผ่พญา โมนะ
กำกับการแสดงโดย: แมน เมธี
ผลิตโดย: บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ช่องออกอากาศ: สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ