อ่านละคร เพชร ตอนที่ 3 วันที่ 19 ก.พ.62

อ่านละคร เพชร ตอนที่ 3 วันที่ 19 ก.พ.62

ที่ชายหาดบางแสน ท่ามกลางแสงอาทิตย์ยามเช้าที่อบอุ่นสวยงาม เพชรประคองรินทร์เดินลงไปในทะเลพร้อมกับช่อดอกไม้ รินทร์ประคองช่อดอกไม้ขึ้นจูบ เอ่ยด้วยสีหน้าสงบนิ่ง

“ครูขา...รินทร์ฝากความรักของรินทร์ให้กับดอกไม้นี่นะคะ...ขอให้ครูมีความสุขนะคะ”

รินทร์ยกช่อดอกไม้ขึ้นกอดอย่างรักใคร่แล้วค่อยๆ วางบนคลื่นเล็กๆตรงหน้า เพชรยืนมองยิ้มให้กำลังใจ รินทร์วางช่อดอกไม้แล้วหันมายิ้มกับเพชร



“ขอบคุณนะคะ...คุณ...เอ่อ พี่เพชร...รินทร์ขอเรียกว่าพี่เพชรเหมือนพิมกับยุทธนะคะ เรื่องวุ่นๆที่ผ่านมาก็ช่างมันเนอะ ตอนนี้เรามาทำความรู้จักกันใหม่นะคะ... พี่เพชร”

“ก็ดีครับ...เอ่อ...”

“รินทร์...หรือไอ้รินทร์ก็ได้”

“รินทร์เฉยๆดีกว่า” เพชรบอกขำๆ แต่แล้วก็ตกใจเมื่อคลื่นใหญ่ม้วนซัดเข้ามาทำให้รินทร์ที่เจ็บขาเสียหลัก เพชรรีบคว้าตัวไว้และล้มไปในน้ำด้วยกัน พอทะลึ่งขึ้นมาก็คลานเข้าฝั่งหัวเราะกันเสียงดัง

เพชรเอามือลูบหน้า ร้องว่าเค็มจริงๆ เหมือนที่ย่าบอกเลย เพชรทิ้งตัวนอนที่ชายหาดถอนใจพึมพำอย่างมีความสุข

“ชีวิตมันแปลกๆแบบนี้จริงๆนะ เรื่องที่เราไม่เคยคิดว่าจะเกิด จู่ๆมันเกิดขึ้นมาซะอย่างงั้น แต่อย่างบางเรื่องเราพยายามแทบตายก็ยังไม่เคยเกิดขึ้น”

รินทร์บอกว่าพี่เพชรต้องเข้มแข็ง อย่ายอมแพ้ เพชรบอกว่าตนไม่ได้หมายถึงเรื่องที่บ้านหรือปัญหามากมายที่เกิดขึ้น...พี่หมายถึง...เพชรทำท่าลังเลก่อนดีดตัวขึ้นมองหน้ารินทร์ เอ่ยหน้านิ่งจริงจัง

“อย่าหาว่าพี่เพ้อเจ้อเลยนะ พี่แค่...มีความฝันของตัวเอง สำหรับคนอย่างพี่มันอาจจะดูเป็นเรื่องยากที่ไม่มีทางเกิดขึ้น...แต่มันทำให้พี่มีกำลังแรงใจในการทำอะไรต่างๆมากมายกับเรื่องที่ผ่านมาในชีวิต ความฝันก็ไม่ทำให้พี่เคยท้อหรือยอมแพ้กับอุปสรรคทั้งหลายที่เกิดขึ้นเลย รินทร์เชื่อไหมล่ะ”

“เชื่อค่ะ”

รินทร์ตอบทันทีอย่างหนักแน่นจริงใจ บอกว่าถ้าเป็นเมื่อก่อนตนคงยิ้มเยาะในใจและไม่เชื่อสักอย่าง

แต่ตอนนี้ตนได้เห็นกับตาและหัวสมองของตัวเองแล้วทำให้เชื่อได้อย่างสนิทใจ” รินทร์ยิ้มถามว่า “แล้วบอกรินทร์ได้ไหมคะ ว่าความฝันของพี่เพชรคืออะไร”

ooooooo

เพชรหายไปทั้งคืน เช้านี้ย่าพุดจึงถามยุทธ ยุทธบอกว่าที่อู่ก็ไม่มี แต่อาอ่องบอกว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องนิดหน่อย ย่าหน้าเสียกำลังจะถามว่าเกิดอะไรขึ้น ก็พอดีเพชรกับรินทร์เดินมา เพชรเดินเกือบเป็นวิ่งเข้ามากอดย่าอย่างประจบขอโทษที่หายไปทั้งคืน

“เป็นความผิดของรินทร์เองค่ะย่าพุด ย่าอย่าดุพี่เพชรเลยนะคะ” รินทร์รีบออกตัวรับแทน ย่าถามว่าเกิดอะไรขึ้น ถามเพชรว่าทำอะไรไม่ดีกับหนูรินทร์หรือเปล่า ทั้งสองตอบพร้อมกันว่าเปล่า แล้วรินทร์ขอเป็นคนเล่า

เมื่อรินทร์กลับไปถึงบ้านเช่า แก้วตาดีใจที่เห็นเพื่อนรักกลับมา ซักถามแทบไม่ได้หายใจจนรินทร์ไม่มีช่องตอบ รินทร์ขอเอารถเข้าบ้านก่อนเดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง แก้วตาบอกชาญวิทย์ที่ยืนอยู่ด้วยให้ช่วยเอารถเข้าแล้วปิดบ้านให้เรียบร้อยด้วย บอกว่าตนหิวแล้วขอข้าวเช้าอร่อยๆด้วย บอกรินทร์ให้ไปอาบน้ำแล้วรีบมาเล่าให้หมดเลย ตนอยากฟังมากๆ

รินทร์อาบน้ำสระผมแล้ว ขณะนั่งเช็ดผมก็เอาถุงเล็กๆมาเปิด หยิบเกาะเล็กๆที่ทำจากเปลือกหอยมีต้นมะพร้าวสองต้นออกมาดู คิดถึงวันที่เพชรเล่าโครงการในความฝันของตนให้ฟังแล้วพูดเขินๆว่า ไม่รู้ว่าตนคิดเพ้อเจ้อเกินไปหรือเปล่า

รินทร์ตื่นเต้นบอกว่ามันดีมากเลยและมันต้องทำได้แน่ เพราะพี่เพชรเก่งเรื่องรถอยู่แล้ว แต่เรื่องบริการครบวงจรแบบนี้ตนคิดไม่ถึงจริงๆ จับแขนเพชรอย่างลืมตัว พูดอย่างตื่นเต้นมั่นใจว่า

“พี่เพชรต้องทำได้แน่ๆ รินทร์มั่นใจ รินทร์ตื่นเต้นแทนเลย พี่เพชรต้องทำนะ ต้องทำจริงๆ อย่าทิ้งความฝันเรื่องนี้นะ...นะ...พี่เพชร” รินทร์จับแขนเพชรเขย่าอย่างลืมตัว แต่เมื่อรู้สึกตัว ต่างมองแขนและมือที่จับ รินทร์ปล่อยมือเขินๆ เพชรมองขำๆ แล้วต่างมองไปที่ชายหาด

เด็กสองคนกำลังช่วยกันหิ้วตะกร้าขายของที่ระลึกมา เพชรลุกขึ้นวิ่งไปหาเด็กครู่หนึ่งกลับมาพร้อมของระลึกที่เป็นเกาะเล็กๆมาให้ รินทร์ถามว่า “ซื้อมาทำไมคะ เปลืองตังค์”

“ไม่เปลืองหรอก พี่อยากให้รินทร์เก็บไว้...เพราะรินทร์เป็นคนแรกที่พี่เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง...และนอกจาก

รินทร์จะไม่หัวเราะเยาะพี่แล้ว ความยินดีที่จริงใจของรินทร์ที่ให้พี่ ทำให้พี่มีกำลังใจมากๆอย่างที่พี่ไม่รู้จะพูดยังไงเลยล่ะ เพราะฉะนั้นรับไปเถอะนะ มันอาจจะไม่ได้มีราคาอะไร แต่...”

“แต่มันมีคุณค่าที่สุดค่ะ...รินทร์จะเก็บไว้อย่างดีที่สุดเลยค่ะ”

รินทร์คิดถึงเช้าวันนั้น มองเกาะเล็กๆในมือแล้วยิ้มปลื้ม...

ฝ่ายเพชรก็ถูกโก้กับโต้งสองหนุ่มวัยคะนองมียุทธผสมโรงด้วยถามซอกแซกแซวทะเล้นว่าหายไปสองคนทั้งคืนกลับมาตอนเช้า หมายความว่า...เพชรทำหน้าขรึมบอกว่าไม่มีความหมายอะไรทั้งนั้น ไล่ให้ไปทำงานได้แล้ว ทำท่าขยับแข้งขา ยุทธรีบบอกว่าไปแล้วๆ วันนี้ตนมาทำงานวันสุดท้ายอยากทิ้งทวนทำงานให้ดีที่สุด

ก่อนที่ทั้งสามจะแยกกันไปทำงานโต้งถามยุทธว่าเปลี่ยนใจเรื่องไอ้รงค์แล้วจริงเหรอ ยุทธบอกว่าทำไม่ลงเพราะมันก็โดนหนักแล้วปล่อยไปดีกว่า โก้ถามว่าแล้วพี่บอกว่าจะเปิดโปงเรื่องอะไร บอกหน่อยได้ไหมเผื่อเอาไว้เป็นไม้ตายขู่ไอ้รงค์มัน

ยุทธบอกเพชรว่าอยากเล่าแต่จะเล่าแค่เรื่องที่ไอ้รงค์มันเคยเป็นเด็กวิ่งส่งยาเหมือตนแต่มันทำงานก่อนตน และวันที่กวาดล้างครั้งใหญ่ ไอ้รงค์มันหักหลังพี่โบ้ หักหลังทุกคนเอาตัวรอดคนเดียว เพชรปรามว่าเรื่องมันผ่านมาแล้วอย่าไปรื้อฟื้นเลยไม่มีประโยชน์กับใคร

“มีสิเพชร มีมากด้วย” เสียงอ่องแทรกขึ้นจนทุกคนสะดุ้ง โก้กับโต้งสะกิดกันแล้วหลบไป

อ่องจ้องหน้าเพชรกับยุทธด้วยสีหน้าเจ็บปวด ยุทธอยากกลั้นใจตายไปตรงนั้นเลย แต่แล้วก็รอดตายเมื่อศักดิ์มาบอกว่าเถ้าแก่เรียกให้ไปพบที่ห้องทำงาน ยุทธลุกวิ่งไปทันที อ่องมองหน้าเพชรถามอย่างเจ็บปวดว่า

“เพชร ยุทธมันพูดจริงใช่ไหม เพชรรู้เรื่องนี้ด้วยใช่ไหม”

เพชรมองหน้าอ่องด้วยสีหน้าลำบากใจ...

ooooooo

หลังจากพิมหนีไปแล้ว แตนตื่นตระหนกมากเมื่อได้รับโทรศัพท์จากเสี่ยให้เอาตัวพิมกลับมาให้ได้

แตนจึงวางแผนให้ไกรสรไปเอาตัวพิมมาคืนนี้แตนกลับมาเห็นไกรสรนอนหลับรอบตัวมีขวดเหล้าเกลื่อนก็ตรงเข้าไปทุบปลุกให้ตื่นไปเอาตัวพิมมา ไม่อย่างนั้นคราวนี้ได้ตายกันหมดแน่ๆ ไกรสรตื่นขึ้นมาเมาๆงงๆ จับต้นชนปลายไม่ถูก

วันเดียวกันนี้ รินทร์เปิดลิ้นชักของตนในห้องแต่งตัว เจอจดหมายและเศษกระดาษหลายใบในลิ้นชักและเมื่อคลี่อ่านก็แปลกใจมาก นัดชาญวิทย์มาพบที่ลานจอดรถแล้วเอาให้ดู ชาญวิทย์พึมพำว่าใบเสนอราคา ถามว่ารินทร์กับแก้วตาก็เจอแบบนี้บ่อยๆไม่ใช่หรือ

รินทร์บอกว่าเคยเจอแต่ไม่เยอะขนาดนี้ทั้งกระดาษและจำนวนเงิน ที่ผ่านมาตนกับแก้วก็พยายามห่างจากพวกเจ้าพ่อมาหลายปี พี่เองก็มีส่วนช่วยทำให้คนมองกันว่าตนกับแก้วเป็นเด็กของคนในเครื่องแบบ บ่นๆว่า

“แต่พักหลังๆมันมีเพิ่มขึ้น และมันก็เหมือนเจาะจงมาที่รินทร์คนเดียวซึ่งมันแปลกมาก...อย่างกรณีของเสี่ย ทำไมจู่ๆถึงกล้าเข้ามาหารินทร์แบบนี้...รินทร์ว่ามันแปลกๆนะพี่”

ชาญวิทย์ฟังแล้วเห็นด้วย บอกรินทร์ไม่ต้องห่วงตนจะตามเรื่องให้แบบเงียบๆ รับรองไม่ให้แก้วรู้เพราะตนกลัวหูชาเหมือนกัน เผลอๆจะโดนทุบจนน่วมด้วยซ้ำ แต่ระหว่างนี้ให้รินทร์ระวังตัวด้วย ตนจะแว่บมาดูบ่อยเท่าที่จะทำได้

ooooooo

วันนี้ขณะณรงค์จะขับรถออกจากบ้าน อ่องมาเปิดประตูให้ พ่อลูกต่างบึ้งตึงเย็นชาต่อกัน จู่ๆยุทธก็เข้ามาเดินผ่านอ่องไปหาณรงค์ที่นั่งอยู่ในรถ กระชากประตูด้านคนขับยื่นหน้าไปกระซิบ

“มึง...ยังไม่รู้ใช่ไหมว่าหัวมึงกำลังจะขาด” ณรงค์โวยวายฟ้องอ่องว่ายุทธจะต่อยตน “มึงดีแต่ลอบกัด ถ้ามึงไม่รู้ก็ฟังไว้ พี่เอเขารู้ทุกอย่างว่ามึงทำอะไรไว้ รถที่มึงทุบแล้วโยนความผิดให้กู เป็นรถที่พี่เอต้องใช้งานคราวนี้มึงระวังหัวให้ดีๆ ถ้าพี่เพชรเปลี่ยนใจไม่ช่วยมึง คราวนี้แหละมึงเสร็จแน่ เสร็จเหมือนที่มึงเคยทำไว้กับคนอื่น...ไอ้ตาขาว!”

ณรงค์หน้าซีดเป็นไก่ต้ม ยุทธพูดจบก็เดินไปเลย อ่องมองอย่างรู้ว่าความเดือดร้อนกำลังจะมา...

เมื่อไปที่อู่ อ่องขอคุยกับเพชร เพชรมองหน้าอ่องอย่างเห็นใจ รับว่าพี่เอรู้เรื่องที่ณรงค์ทำทั้งหมด และรถคันนั้นก็เป็นเดิมพันสำคัญ ตนไม่รู้ว่าเดิมพันอะไรกัน แต่บอกอ่องว่า

“ไม่ต้องกังวลครับ ผมตกลงกับพี่เอแล้วว่าผมจะทำ แล้วพี่เอจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับพี่รงค์หรือยุทธอย่างเด็ดขาด อาอ่องสบายใจได้” อ่องมองเพชรอย่างเกรงใจ “ไม่เป็นไรครับอาอ่อง ผมจะทำเต็มที่...อาเชื่อผมนะครับ อย่างน้อยผมก็โตมากับอู่ คลุกคลีกับรถทุกแบบ ขับรถมาแล้วทุกชนิด เพราะฉะนั้นถือว่าผมได้เปรียบคนอื่นและผมจะใช้ความได้เปรียบนี้ให้เป็นประโยชน์ครับ”

“ขอบใจนะเพชร ขอบใจที่เพชรช่วยรงค์อีกครั้ง” อ่องเอ่ยอย่างซึ้งใจ

เอมีแหล่งซ่องสุมอยู่ที่โรงงานร้าง เป็นทั้งแหล่งซ่องสุมและที่ทำงาน ป๋องเดินเข้ามาพร้อมลูกน้องสองคน หยิบปืนในกระเป๋าออกมา

“เฮียเน้าฝากให้พี่เป็นพิเศษ ส่วนปืนที่จะส่งต่อ เดี๋ยวเฮียเขาเอามาให้เองที่สนาม” เอพยักหน้า ป๋องถามว่า “พี่เอ...พี่แน่ใจจริงๆเหรอว่าแผนนี้จะได้ผล”

“ได้ผลสิวะ เอ็งเตรียมเก็บเงินเดิมพันจากไอ้พวกฝั่งธนได้เลย รับรองว่าคราวนี้นอกจากข้าจะได้มาคุมเขตนี้อย่างเต็มตัวแล้ว เรายังจะมีเงินใช้สบายๆไปอีกหลายเดือนเลย”

แต่ไม่ทันไรลูกน้องอีกคนก็วิ่งหน้าตื่นเข้ามา เอถามว่ามีอะไร ลูกน้องไม่ทันตอบ ครูหมายก็เดินตามเข้ามาหน้าตาเคร่งขรึมแบบที่เอรู้สถานการณ์ดี

ooooooo

ที่บ้านอ่อง ขณะจิตรากำลังดูหนังสือที่ณรงค์เอามาให้อย่างเพลิดเพลิน อ่องก็เข้ามาถามณรงค์หน้าเครียดว่าสนุกมากใช่ไหม จิตราไม่พอใจบอกว่าพี่จะทำอะไร ลูกกำลังสนุก

“ก็อยากสั่งสอนมันไง...ที่จริงพี่ควรสั่งสอนมันมาตั้งนานแล้ว สั่งสอนให้มันมีความเป็นลูกผู้ชายมากกว่านี้ ลุกขึ้น ไปกับพ่อ ลุก!”

จิตราไม่ให้ณรงค์ไป หาว่าอ่องชอบทำร้ายจิตใจลูก แค่นี้ลูกก็เจ็บปวดมากพอแล้ว

“มันแค่เจ็บปวดหัวใจ แต่จิตรู้ไหมว่าลูกชายคนดีของจิตมันทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจของคนอื่นมากมายแค่ไหนแล้ว รู้บ้างไหม” จิตราเถียงข้างๆคูๆ ถามว่าลูกเลวร้ายตรงไหน “ตรงที่มันเป็นเด็กส่งยาไงล่ะ เด็กส่งยาให้พวกชั่วที่สลัมฝั่งโน้นไง มันเป็นคนหยิบยื่นความตายให้คนอื่นรู้ไหม เข้าใจหรือยัง”

ณรงค์ก้มหน้าไม่กล้าสบตาอ่อง จิตราได้แต่ครางถาม “จริงเหรอรงค์...รงค์...”

อ่องเสียใจมากไปเล่าให้ย่าพุดฟัง ถามว่าตนทำผิดใช่ไหม ตนเป็นคนทำร้ายรงค์ใช่ไหม ย่าพุดลูบหัวอ่องที่ซบตักอย่างห่วงใย ให้กำลังใจว่า

“ความผิดของพ่อแม่คือรักอย่างไร้เหตุผลเท่านั้นเอง ต่อไปนี้เอ็งก็ต้องใช้เหตุและผลให้มากกว่าอารมณ์และความรู้สึก มันอาจจะใช้เวลานานพอสมควร กว่า

ณรงค์มันจะเข้าใจและคิดได้ แต่เชื่อย่านะอ่อง ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการเริ่มต้นใหม่ วันนี้อาจจะแย่ที่สุด แต่วันนี้เวลานี้กำลังจะผ่านไป เรื่องดีหรือร้ายแค่ไหนเดี๋ยวมันก็ต้องผ่านไป ทำใจให้เข้มแข็งนะลูก อย่ายอมแพ้”

อ่องซึ้งในความรักห่วงใยของย่าพุดจนน้ำตาซึม ย่าปลอบให้เข้มแข็ง พูดติดตลกให้อ่องผ่อนคลายว่าเดี๋ยวเจ้าพิมกลับมาเห็นจะถูกหัวเราะเยาะเอา ถ้าไม่สบายใจก็มาไหว้พระกันก่อน อ่องถามว่าพระช่วยได้เหรอ

“ท่านช่วยให้เราสมหวังในสิ่งที่เราขอไม่ได้หรอกอ่อง แต่ท่านช่วยให้เราสงบขึ้น จิตใจสงบขึ้น ไม่ฟุ้งซ่านจะทำให้เราคิดอะไรได้ดีกว่านะอ่อง”

ที่โรงงานร้าง ป๋องเอารถสำหรับแข่งเดิมพันมาสองคัน เอถามเพชรว่าแน่ใจหรือว่าจะเอาชนะพวกมันได้ เพชรพยักหน้าบอกว่าทั้งสองคันเครื่องดีมาก

“ดี...เพราะถ้าข้าชนะ ข้าก็จะอยู่ที่นี่แบบไม่ต้องก้มหัวให้ใครอีกแล้ว” เอกระหยิ่ม

ทันใดนั้นมีเสียงคนวิ่งมาจากมุมหนึ่ง ทุกคนตกใจ เอตะโกนว่าใคร ท้าให้โผล่หัวออกมา และจะไปตามเสียง เพชรกระโจนคว้าไว้ “พี่เอ ระวังพี่” เพชรกับเอล้มลงกับพื้นพร้อมกับเสียงปืนแผดสนั่นขึ้น

มันเป็นพวกนักเลงจากฝั่งธน 4 คนที่จะมาเก็บเอ เอบอกเพชรหลบไปเพราะมันมุ่งมาเก็บตน เพชรกระโดดขึ้นรถถอยมาบังเอที่พวกนักเลงฝั่งธนเล็งปืนใส่ เปิดประตูเรียกเอให้รีบขึ้นรถ พอเอกระโดดขึ้นรถ ป๋องกับลูกน้องก็กระโดดขึ้นรถอีกคันขับตามไป

“ไปเอารถมาเร็ว” เสียงนักเลงต่างถิ่นตะโกนบอกกัน

ooooooo

เจ๊แหม่มกับแตนไปซุ่มดูพิมขายขนมที่ตลาด เจ๊แหม่มถามแตนอย่างไม่สบายใจว่าต้องเป็นคนนี้หรือให้แตนไปหาเด็กใจแตกคนใหม่ไม่ดีกว่าเหรอ ตนไม่อยากโดนพี่ชายมันหักคอ

แตนบอกว่าถ้าทำได้ตนทำไปแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมเสี่ยถึงอยากได้มันนัก เจ๊แหม่มโทษว่าเพราะแตนที่โฆษณาไว้มาก และคนอย่างเสี่ยพงษ์อยากได้ใครก็ต้องได้ไม่เคยมีใครกล้าขัดใจ แล้วบ่นปวดหัว

“จะปวดหัวตอนนี้หรือจะปวดตอนโดนลูกน้องเสี่ยรุมกระทืบ ก็เลือกเอา” แตนทิ้งไพ่ตาย

พิมขายของหมดก็เก็บหาบเตรียมกลับพูดคุยกับบรรดาแม่ค้าอย่างร่าเริง หารู้ไม่ว่าแตนกับแหม่มเลี่ยงออกไปก่อนแล้ว

พอตกเย็นยายเจียมก็วิ่งหน้าตาตื่นไปหายายพุดบอกข่าวเรื่องพิม แล้วย่าพุดกับยายเจียมรีบไปหาครูหมายขอให้ช่วยพิม เจอยุทธกำลังบอกครูหมายว่าเพชรกับเอแย่แล้ว มีคนบอกว่าพวกฝังธนส่งคนมาเก็บเอ พวกที่มีบ้านอยู่แถวโรงงานร้างได้ยินเสียงปืนรัวสนั่น ถามครูว่าจะทำยังไงดี

แต่พิมถูกส่งถึงมือเสี่ยพงษ์แล้ว เสี่ยพงษ์ลวนลามพิมอย่างหื่น ไม่สนใจว่าพิมจะอ้อนวอนอย่างไร แต่เสี่ยก็ถูกขัดจังหวะเมื่อลูกน้องเข้ามาบอกว่ามีเรื่อง เสี่ยให้ลูกน้องเอาพิมไปเก็บไว้ในห้อง แล้วไปโทรศัพท์หน้าเครียด

ที่โรงงานร้าง นักเลงจากฝั่งธนเอารถมอเตอร์ไซค์สองคันซ้อนกันไล่ตามรถของเพชรกับป๋องไปทันที

เอค้นหาปืนในรถ สบถหัวเสียที่ไม่มีสักกระบอก บอกเพชรว่าตนไม่ยอมเป็นเป้านิ่งให้พวกมัน ถามเพชรว่าไม่เป็นไรใช่ไหม เพชรบอกว่าไม่เป็นไร ชี้ให้ดูแยกหน้า เอบอกว่าซอยเล็กมาก จะทำอะไร

“ต้องวัดกับมันพี่ ว่ามันจะบ้าบิ่นแค่ไหน” เพชรบอกแล้วเร่งเครื่องห่างพวกนักเลง พวกมันร้องบอกกัน

“เฮ้ย...เร็วสิวะ มันเผ่นแล้ว” แล้วรถมอเตอร์ไซค์สองคันก็เร่งความเร็วตามรถของเพชรไป

เพชรขับรถเข้าไปในซอยแคบขนาดรถเก๋งคันเดียวที่ข้างๆเป็นพงหญ้า เอบอกเพชรให้หลบไปก่อนตนจะลุยเอง เพชรบอกไม่ทันแล้ว พวกมันมาแล้ว ถามเอว่าพี่พร้อมแล้วใช่ไหม

แล้วเพชรก็เร่งเครื่องสวนออกไปทำเอานักเลงต่างถิ่นตกใจรับมือไม่ทัน มันพยายามถอยหนีแต่ถูกรถของเพชรพุ่งเข้าหาและเปิดประตูกระแทกมันอย่างแรงจนล้มกลิ้งกันไม่เป็นท่า

เอโดดลงไปแย่งปืนจากมันเล็งใส่พวกมันที่กองกับพื้น เพชรวิ่งตามมาร้องห้าม

“พี่เอ...อย่านะพี่” เอบอกว่าเอ็งไม่ต้องยุ่ง

ถ้าไม่ฆ่ามันก็ต้องถูกมันฆ่า ยกปืนเล็งใส่มันคำราม...เอ็งพลาด เอ็งตาย “พี่เอ ถ้าพี่ข้ามเส้นนี้ไปชีวิตของพี่จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป อย่าทำแบบนี้เลยนะพี่”

เอนิ่งจ้องหน้าเพชรที่มายืนขวาง ทันใดนั้นเสียงปืนดังขึ้นข้างหลังเอ เอกับเพชรสะดุ้ง นักเลงเล็งปืนที่เอ

“มึงก็พลาดที่ไม่จัดการพวกกูตั้งแต่แรก”

“แกก็พลาดนะ ที่ลืมไปว่าบ้านเมืองนี้ยังมีตำรวจอยู่” เสียงชาญวิทย์แทรกขึ้นแล้วเดินเข้ามาพร้อมตำรวจอาวุธครบมือ เย้ยพวกนักเลงว่า “แกไม่เร็วไปกว่าฉันหรอกไอ้ดำ”

เอจ้องหน้าดำ จำได้ว่ามันเป็นมือขวาของเฮียหลง ขยับจะเข้าไปหามัน เพชรรีบห้าม นักเลงเย้ยว่าตำรวจจะทำอะไรตนได้ แล้วทำท่าจะลั่นไก แต่ถูกชาญวิทย์ยิงที่แขนจนล้มกลิ้ง แล้วตรงเข้าไปเตะปืนออก ตำรวจที่เหลือรีบเข้ารวบตัวพวกนักเลงทันที ชาญวิทย์ถามว่าพวกมันแค่สามคนใช่ไหม เพชรจะตอบ แต่เอชิงบอกก่อนว่า “ใช่...พวกมันมีแค่นี้”

พอดีป๋องวิ่งเข้ามาหาเอ เอถามว่าหายหัวไปไหนมาปล่อยให้ตนโดนหมาบ้าพวกนี้ไล่กัดอยู่ได้

“ผมตามมาติดๆพี่ แต่ผมเห็นแล้วว่าใครมาช่วยพี่ ไอ้ยุทธมันไปโวยวายลั่นไปหมด แต่มันยังมีอีกเรื่องพี่”

เพชรมองขวับถามว่าเรื่องอะไร ป๋องหน้าเสียบอกอย่าพูดตรงนี้เลย รีบไปก่อนเถอะ ไม่งั้นต้องคุยกับตำรวจอีกยาว เอมองตำรวจแล้วพยักหน้า

“เออ...ไปทางนี้ แล้วเอ็งไปลากไอ้ตัวที่นอนจมอยู่ในปลักมาด้วย เงียบๆนะมึง...ไปเพชร”

เพชร เอกับป๋องหลบออกไปเงียบกริบ

ชาญวิทย์มองลูกน้องจัดการกับคนร้ายแล้วมองหาพวกเพชร พึมพำ “ไปไหนกันหมดแล้ว” เดินไปดูรถที่เพชรขับมา แล้วมองไปรอบๆที่มีแต่ความมืด...

ขณะที่ที่บ้านครูหมาย...ทั้งย่าพุด ครูสร้อย ยายเจียม รินทร์กับแก้วตากำลังนั่งเป็นทุกข์กันนั้น อ่องกับครูหมายเดินเข้ามา ย่าพุดถามว่าได้เรื่องไหม ทั้งสองส่ายหน้า รินทร์ถามว่าแล้วยุทธล่ะ ยุทธไปไหน อ่องกับครูหมายมองหน้ากัน อ่องถามว่า “นั่นสิ เจ้ายุทธมันหายไปตอนไหน”

“เพชรกลับมาหรือยังครับ” ชาญวิทย์เดินเข้ามาถามอย่างร้อนใจ

ทุกคนหันมองชาญยุทธเป็นตาเดียวอย่างร้อนใจยิ่งกว่า...

ooooooo

อ่านละคร ซีรีส์ลูกผู้ชาย เรื่อง เพชร ตอนที่ 3 วันที่ 19 ก.พ.62

บทประพันธ์โดย: ชล พรรษกร
บทโทรทัศน์โดย: ไผ่พญา โมนะ
กำกับการแสดงโดย: แมน เมธี
ผลิตโดย: บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ช่องออกอากาศ: สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ