อ่านละคร เพชร ตอนที่ 6 วันที่ 25 ก.พ.62
“แค่นี้ปอดแหกแล้วหรือไง มึงไม่ต้องกลัวตำรวจหรอกน่า เสี่ยเขาเคลียร์ได้” วุธบอกว่าตนไม่กลัวตำรวจแต่กลัวเจ้าถิ่นมันเอาตนตายแน่ “ถิ่นใครกูไม่สน ถ้ามึงไม่เสี่ยงแล้วจะซื้อใจเสี่ยเขาได้ยังไง”วุธจะติง ณรงค์ตัดบทว่างานนี้ตนปฏิเสธเสี่ยไม่ได้ ถ้าวุธปอดตนก็จะให้คนอื่นทำแทน งานนี้เสี่ยงก็จริง แต่ถ้าวางแผนดีๆมันก็ไม่ยากหรอก วุธหันไปถามจิ๊บว่าไง จิ๊บบอกว่าพี่ว่าไงผมก็ว่างั้น วุธบอกณรงค์ว่างั้นก็ได้
ตี๋มาเห็นจิ๊บท่าทางขี้ยาก็ไม่พอใจถามว่าทำอะไรกัน แล้วนั่นใคร ณรงค์รีบออกหน้ารับแทนว่า
“นี่จิ๊บครับเฮีย เพื่อนไอ้วุธมัน ผมเห็นหน่วยก้านมันดีเลยจะชวนมาลองงานที่นี่ เผื่อจะมาเป็นลูกมือในอู่ได้” เห็นตี๋มองไม่แน่ใจก็บอกว่า “ถ้าเฮียไม่สบายใจ ผมให้มันกลับไปก็ได้ครับ” สั่งวุธให้พาเพื่อนกลับไปก่อน แล้วขอโทษตี๋ที่ตนไม่ได้บอกก่อน
ณรงค์รับปากว่าตนจะช่วยดูแลเด็กที่นี่เต็มที่ ตนรักอู่นี้เหมือนที่พ่อตนรัก เฮียอย่ากังวลเลยเดี๋ยวจะเครียดเปล่าๆ
“งั้นทีหลังจะทำอะไรก็บอกก่อนนะ อย่าให้เตือนอีก” ตี๋ปรามแล้วเข้าไปในอู่ ณรงค์มองตามยิ้มเยาะ...
“เฮียก็ได้แต่เตือนเท่านั้นแหละ ทำอะไรผมไม่ได้หรอก”
ตกเย็นกลับถึงบ้านเล่าเรื่องตี๋ให้จิตราฟังอย่างหงุดหงิด จิตราผสมโรงตำหนิตี๋เอาใจลูกทันทีว่า
“คุณตี๋นี่ก็จริงๆเลย รงค์อุตส่าห์ช่วยยังมีหน้ามาด่าอีก ไม่เอาล่ะ แม่ไม่ยอมแล้ว แบบนี้มาหลายครั้งแล้ว แม่ต้องคุยกับคุณหลินแล้วไม่ว่าจะเป็นไอ้ตี๋ ไอ้เอ ไอ้เพชร รงค์ก็เหยียบหัวมันให้จมดิน ไม่ให้มันได้โงหัวขึ้นมามองหน้าใครได้อีกเลย ไอ้เพชรกับไอ้เอนั่นแม่เข้าใจนะลูก แต่ยังไงคุณตี๋น่ะ เขา...”
“แม่ไม่ต้องไปยกย่องมันหรอก มันก็แค่คนมีเงินที่โง่ แล้วก็เก่งแต่ปากเท่านั้นเอง ทำมากร่าง แต่อีกไม่นานหรอกนะแม่ เสี่ยไว้ใจรงค์เมื่อไหร่ ตอนนั้นล่ะรงค์จะใช้ทุกอย่างที่มีเอาคืนกับพวกมันให้หมดทุกคน โดยเฉพาะไอ้เพชร”
ณรงค์จิกตาแค้น เกลียดชัง จนจิตรามองอึ้ง
ooooooo
เอเตือนให้เพชรระวังตัวเพราะณรงค์จะไม่ปล่อยเขาไว้แน่ เพชรบอกว่าตนพอจะเดาได้เหมือนกันเพราะพี่รงค์กับอาจิตเกลียดตนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว
เอถามว่าแล้วเพชรจะทำยังไงต่อไป ถามว่าจะปล่อยมันไปง่ายๆแบบนี้เลยหรือ มันเล่นงานเอ็งแรงขึ้นทุกวันเลยนะ
“แรงแค่ไหนผมก็ต้องทนให้ได้” เพชรหน้าสลด
“เออ...เอ็งทนได้ก็ทนไปเถอะ แต่เอ็งเชื่อพี่เหอะว่าอาอ่องของเอ็งน่ะต้องเสียใจแน่ๆที่เอ็งและคนในครอบครัวเอ็งมัวแต่ยอม หงอให้ไอ้รงค์กันแบบนี้ แต่นั่นมันก็เรื่องของเอ็งนะเพชร เอ็งทนได้เพราะอยากแก้ตัวกับความรู้สึกผิดที่เกิดขึ้นก็เรื่องของเอ็ง แต่สำหรับข้าไม่มีทาง”
เพชรหวั่นใจแทนณรงค์ แต่เอบอกว่าไปกังวลแทนมันทำไมหรือเอ็งคิดว่าข้าเป็นคนโหดเหี้ยมไม่มีเหตุผล เพชรนิ่ง ไม่ทันพูดอะไรเด็กขนของในบริษัทก็วิ่งออกมาบอกว่ารถอีแก่ของหัวหน้ารวนอีกแล้วให้เพชรไปช่วยดูหน่อย หัวหน้าต้องเอาไปทำงานคืนนี้ด้วย
เพชรจึงขอตัวกับเอไปดูรถให้หัวหน้าก่อน บอกเอว่า
“แล้วเรื่องพี่รงค์ ถือว่าผมขอได้ไหมพี่”
“เออๆ ข้าจะไม่ยุ่งกับมันก็ได้” เพชรยิ้มขอบคุณจับมือเอเขย่าแรงๆ “เออๆพอแล้ว ไอ้เด็กนี่มันงงใหญ่แล้ว”
เพชรพยักหน้าแล้วรีบเข้าไปในบริษัท เอยืนมองตาม...
ooooooo
เพชรไปซ่อม “อีแก่” ให้หัวหน้าที่ยืนบ่นว่าจะไปรอดไหมเนี่ย งวดนี้หลายเที่ยวด้วย คันอื่นก็ไม่อยากไปสักคน ทั้งขอร้องทั้งบังคับยังไม่มีใครยอมเลย
เด็กรถบอกว่าเพิ่มค่าแรงค่าเที่ยวให้หนักหน่อยรับรองเงินถึงใครๆก็อยากไปทั้งนั้น
“ถ้าไม่มีใครอยากไป เดี๋ยวผมวิ่งให้ก็ได้ครับเอาเส้นที่ไกลที่สุดก่อนก็ได้ ส่วนอีแก่คันนี้ผมว่าจะไปไกลสุดแค่ประจวบก็พอนะครับ แล้วต้องรีบเอากลับมาเข้าอู่อีกที สภาพเต็มทีแล้วเหมือนกัน”
หัวหน้าถามว่าถึงประจวบแน่นะ งั้นก็เอาแค่เที่ยวนี้เที่ยวสุดท้ายของมัน กลับมาก็ต้องปลดระวาง ไม่งั้นก็ต้องพึ่งเพชรทุกที แทนที่เพชรจะได้กลับบ้านไปพักผ่อนแบบคนอื่นเขา เพชรมองรถอย่างครุ่นคิด หัวหน้าสั่งว่า เส้นทางปักษ์ใต้เดี๋ยวให้ไปดูแผนที่โรงงานที่สุราษฎร์ที่ห้องทำงานตนเลย
ooooooo
รินทร์ไปร้องเพลงที่ห้องอาหารเหมือนปกติ เพื่อนนักร้องอีกสองคนยืนรอที่จะร้องเพลงต่อไป ชมว่า
“รินทร์มันเสียงดี๊ดีเนอะ เสียดายนะที่มันบอกว่าจะเลิกร้องเพลงแล้ว”
“ก็เลิกร้องตามร้านเท่านั้นแหละ แต่ตามงานวันเกิดงานแต่งงานรินทร์มันก็ยังรับอยู่นะ ถ้าคิดถึงก็ตามไปฟังได้นี่” แก้วตาบอก
นักร้องอีกคนบ่นว่างานแต่งงานก็ใหญ่ๆทั้งนั้น ใครจะตามเข้าไปได้ นึกได้ถามว่า
“เออ...แล้วที่โรงแรมล่ะ เห็นบอกว่ามันไปคุยกับเขามานี่ ตกลงเขารับมันหรือเปล่า”
แก้วตาบอกไม่รู้เห็นเงียบไป แล้วชะงักถามว่า “เอ๊ะ อะไรน่ะ” แก้วตาชี้ไปที่กลุ่มวัยรุ่นที่นั่งกินเหล้ากันอยู่หน้าเวทีที่กำลังลุกขึ้นมา
รินทร์ร้องเพลงอยู่บนเวทีด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม แต่ตาจ้องที่วัยรุ่นกลุ่มนั้น
วัยรุ่นกลุ่มนั้นเข้ามาป่วนรินทร์ให้เปลี่ยนเพลงได้ไหม เพลงนี้เบื่อแล้ว ซ้ำถามอย่างปากโสโครกว่า
“เป็นนักร้องอย่างเดียวหรือเปล่า หรือว่าขายด้วย”
“ไอ้บ้านั่นมันพูดอะไรของมัน” แก้วตาฉุนขาด นักร้องอีกคนบอกว่ามันเมาแน่ๆเลย บอกติ๋วให้ไปตามพวกหลังร้านมาทีเผื่อไอ้พวกนี้มันอาละวาด
วัยรุ่นกลุ่มนั้นยังป่วนไม่เลิก ตะโกนว่าไม่อยากฟังเพลง อยากอย่างอื่นมากกว่า
รินทร์ยิ้มเยือกเย็น ถามเสียงอ่อนโยนว่า
“แล้วน้องคิดว่าพี่ขายหรือเปล่าจ๊ะ อุ๊ย...แต่น้องคงเดาไม่ออกหรอกนะ เพราะพี่ดูจากหน้าตาท่าทางแล้วน้องน่าจะเพิ่งจบประถมมาใช่ไหม ปากยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนมเลยนี่” แล้วถามผู้จัดการว่าทำไมให้น้องคนนี้เข้ามาเที่ยวดึกๆแบบนี้ เดี๋ยวผู้ปกครองที่บ้านเป็นห่วงแย่ เร่งให้รีบกลับบ้านกันทั้งโต๊ะเลยเดี๋ยวพ่อแม่เป็นห่วง
แขกในร้านหัวเราะชอบใจ วัยรุ่นกลุ่มนั้นทำฮึดฮัดแต่ถูกเด็กหลังร้านที่ตัวใหญ่ล่ำเข้ามาที่โต๊ะ พวกนั้นหน้าเสียเลยเดินออกไปเอง แขกในร้านปรบมือชอบอกชอบใจ แก้วตาพยักหน้าให้รินทร์อย่างชอบใจ
ooooooo
เพราะเฮียตงป่วยและตี๋มาทำงานแทนระยะหนึ่ง วันนี้ตี๋นั่งดูเอกสารเกี่ยวกับการเงินของอู่แล้วหัวเสียโวยวายณรงค์ว่าเบิกค่าอะไรอีก ทำอะไรแบบนี้ใครจะไปรู้เรื่อง
หลินเข้ามาถามว่าเป็นอะไรเสียงดังไปถึงข้างนอก ตี๋จะเอาเอกสารให้ดูเหมือนที่ผ่านมา ก็ชะงักเมื่อเฮียตงเดินย่องแย่งเข้ามาพูดทีละคำไม่ชัดแต่ฟังได้ว่า เตี่ยบอกแล้วว่าให้เอาเสมียนบัญชีของเตี่ยมาดูให้ ตี๋สวนทันควันว่าบอกแล้วว่าตนไม่เอา เตี่ยจะมาบังคับทำไม ตัดพ้อว่าเตี่ยไม่เคยไว้ใจไม่เคยเชื่อตนเลยไม่ว่าเรื่องอะไร
หลินบอกว่าเตี่ยหวังดี ให้พูดกับเตี่ยดีๆ ตี๋โต้ว่าเตี่ยคอยจับผิดตน ให้เสมียนคอยเช็กงาน ตามเช็กเงินจากลูกค้าจากร้านอะไหล่มาตั้งแต่ตนมาทำอู่ ถามว่าแค่นี้เตี่ยก็ไม่ไว้ใจ ตนโง่ขนาดทำอู่กระจอกๆคนเดียวไม่ได้เลยรึไง! เฮียตงถามว่าแล้วทำได้ไหม ตี๋จ้องหน้าบอกว่าตนทำได้ เตี่ยคอยดูก็แล้วกัน ว่าแล้วก็หอบเอกสารทั้งหมดออกไป หลินรีบตาม เฮียตงได้แต่มองอย่างหนักใจ
ฝ่ายไกรสรเมื่อผ่านการบำบัดและทำกายภาพจนดีขึ้นแล้วก็ช่วยงานแม่กับพิมอย่างเอาการเอางาน ไม่เลือกว่าจะเป็นงานอะไร สายวันนี้พอตลาดใกล้จะวายก็มากวาดตลาดที่เลอะเทอะเฉอะแฉะ แม้จะทำอย่างลำบากเพราะแขนไม่ดีแต่ก็ไม่ย่อท้อ จนพ่อค้าแม่ค้าในตลาดต่างมองอย่างดีใจที่ไกรสรเปลี่ยนแปลงแล้ว แต่พอณรงค์มาเห็นก็ด่าไกรสรที่กำลังกวาดเก็บขยะว่าเกะกะ เอาขยะโสโครกมากองไว้ตรงนี้ทำไม พอไกรสรมองก็ตะคอกว่ามองทำไม มีหน้าที่กวาดขยะก็กวาดไป บรรดาพ่อค้าแม่ค้าเริ่มมองณรงค์อย่างไม่พอใจ
เมื่อเห็นณรงค์แกล้งเตะกระป๋องให้น้ำสกปรกกระเด็นใส่หน้าไกรสร ยายเจียมทนไม่ได้วิ่งมาด่าลั่นตลาด ด่าทั้งณรงค์และจิตราที่ไม่สั่งสอนลูก
“อีป้าปากดีอย่ามาพาดพิงถึงแม่กู อยากโดนใช่ไหม” ไกรสรพยายามเรียกเตือนณรงค์ก็ถูกด่าว่า
“ไม่ต้องมาเรียกชื่อกูด้วยปากสกปรกของมึง กูไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับพวกโสโครกแบบมึง ไม่ต้อง...”
ณรงค์ต้องหยุดกึกเมื่อคนในตลาดฮือเข้ามาด้วยความโกรธแค้น ไล่ณรงค์ออกไปให้พ้น คิดว่าตัวสูงนักก็ไปที่อื่น ที่นี่เป็นตลาดมีแต่คนทำมาหากิน อย่ามาเก่งกับคนที่ไม่อยากมีเรื่อง ณรงค์ถูกรุมด่ารุมไล่ก็ตกใจ วุธกระซิบให้รีบไปเถอะอย่าเสี่ยงเลยไม่คุ้มหรอก แล้วลากณรงค์ออกไปท่ามกลางเสียงด่าไล่ของคนในตลาด
เฮียงพ่อค้าหมูเข้ามาให้กำลังใจบอกว่าดีใจที่ไกรสรกลับตัวได้ ถ้าอยากทำงานเพิ่มคืนนี้ให้มาช่วยตนเหมือนที่เพชรเคยมาทำ ไกรสรมองแขนข้างพิการของตน เฮียงบอกว่าแขนไม่ได้ด้วน ข้างเดียวก็ทำงานได้ขอแต่ให้ตั้งใจจริง ไกรสรบอกว่างั้นตนช่วยงานแม่เสร็จแล้วจะมา ขอบคุณเฮียงกับน้าเจียมที่มาช่วยตน
“ไม่ต้องขอบคุณอะไรหรอก เอ็งเป็นแบบนี้ข้าก็ดีใจจะแย่แล้ว ไป...ไปทำงานต่อเหอะ” ยายเจียมชื่นชม
ไกรสรหันไปทำงานต่ออย่างมีความสุขที่ชาวบ้านเริ่มรู้สึกดีกับตน
ฝ่ายเพชรรับงานที่คนอื่นไม่ยอมทำ ขับรถไปจอดริมถนนที่สองข้างเต็มไปด้วยสวนยาง ลงไปล้างหน้าให้สดชื่น หยิบแผนที่มาดู บอกตัวเองอย่างดีใจว่า ครึ่งทางแล้ว ใกล้ความจริงแล้ว แล้วขึ้นรถขับต่อไป
ooooooo
ไกรสรเดินกลับบ้านด้วยความดีใจที่ได้งานใหม่ที่ได้รับ เจอณรงค์ขวางหน้าตะคอกถาม
“จะรีบไปไหนไอ้ฆาตกร”
ไกรสรไม่ทันจะหันไปมองก็ถูกถุงขยะขว้างใส่ ทั้งขยะและน้ำสกปรกเลอะเทอะไปทั้งตัว ณรงค์ด่าไกรสรว่าทำไมไม่ตายเสีย กลับมาทำไมอีก ไกรสรขอโทษ ณรงค์ตวาดว่าไม่อยากฟัง แล้วลูกน้องณรงค์ก็กรูกันเข้าถีบ เตะต่อยกระทืบไกรสรที่นอนกองกับพื้น
“ไอ้รงค์!” เสียงครูหมายตวาดแล้วเข้าเล่นงานวุธกับพวกที่กำลังรุมไกรสร ด่า “ไอ้พวกหมาหมู่...มาสิ ถ้ามึงอยากสู้มึงมาสู้กันอย่างลูกผู้ชาย มาสิ ไอ้รงค์...มา!”
ครูหมายเข้าลุยครู่เดียวก็เล่นงานพวกเด็กกระดูกอ่อนจนหมอบราบ ไกรสรร้องห้าม ขอร้องครูปล่อยมันไปเถอะ ครูหมายจึงปล่อยมือจากณรงค์ที่น่วมไปทั้งตัวลงกองกับพื้น ปรามดุดัน
“พวกเอ็งจำใส่กะโหลกหนาๆไว้เลยนะ ถ้าเอ็งอยากแก้แค้นมาบอกข้า ข้าจะจัดเวทีให้ตัวต่อตัว จะฟัดกันจนปางตายยังไงก็ได้ข้าไม่ยุ่ง แต่ถ้าพวกเอ็งมาทำตัวเป็นหมาหมู่แบบนี้อีก พวกเอ็งได้เจอกับข้าแน่ ไป... ไปให้พ้น”
วุธกับพวกรีบช่วยประคองณรงค์ที่โดนหนักกว่าเพื่อนตะลีตะลานออกไป ไกรสรขอบใจครู ครูบอกให้รีบกลับไปทำแผลเสีย ไกรสรขอร้องครูหมายอย่าบอกเรื่องนี้กับแม่และเพชร แม้ครูหมายจะไม่เข้าใจแต่ก็ตามใจเมื่อไกรสรไม่ให้พูดก็จะไม่พูด บอกว่า “เอาเหอะ เอ็งเล่าแบบที่เอ็งอยากเล่าก็แล้วกัน แต่รีบไปทำแผลเสียก่อน”
แต่เมื่อไกรสรกลับไป แม่กับพิมถามว่าไปโดนอะไรมา ไกรสรปดว่าหกล้อม แม้ย่าพุดจะไม่เชื่อแต่ก็ไม่ซักไซ้อะไร
รุ่งขึ้นไกรสรถือตะกร้าใบใหญ่เดินย่องแย่งออกจากบ้านครูหมาย เจอรินทร์กลางทาง รินทร์ถามว่าไปโดนอะไรมา ไกรสรปดตามเดิมว่าหกล้ม รินทร์ไม่เชื่อเพราะที่เห็นเป็นรอยโดนชก แต่เมื่อไกรสรยืนยันอย่างนั้นก็ได้แต่เตือนว่าต่อไปให้ระวังตัวด้วย ไกรสรรับคำ แล้วบ่น
“เอ็งนี่มันถอดแบบจากแม่ลุงจริงๆเลยว่ะ ลุงไปแล้วเดี๋ยวสายของจะหมดเอา” ว่าแล้วก็เดินโขยกเขยกไป รินทร์ได้แต่มองตามอย่างสงสัย
ooooooo
เพชรขับรถไปตามแผนที่ที่ลอกมาจากหัวหน้า ผ่านทางแยกเล็กๆที่จะเข้าหมู่บ้านก็เอะใจเมื่อเห็นบางอย่างผิดปกติ เลี้ยวรถกลับไปดูอีกครั้งจึงเห็น “อีแก่” ของหัวหน้าที่ตนเพิ่งซ่อมจอดอยู่ข้างทาง
เพชรคิดถึงที่หัวหน้าบอกว่าเส้นทางนี้โจรชุมยิ่งกว่ายุง นึกเอะใจว่าต้องเกิดเรื่องแน่ๆ จึงไปหยิบเหล็กกับประแจเบอร์ใหญ่ถือติดมือไว้ป้องกันตัวแล้วเดินไปดู เห็นพวกโจรกำลังค้นหาของมีค่าในรถและหัวหน้าที่ฟกช้ำไปทั้งตัวนั่งอยู่ที่พื้น พวกมันค้นไม่ได้อะไรก็ตะคอกถามว่า “มึงเก็บเงินไว้ที่ไหน”
“ไม่มี...ผมแค่เอาของมาส่งไม่ได้มาเก็บเงินลูกค้า”
สิ้นเสียงหัวหน้าพวกโจรก็เข้ารุมจะบีบให้บอกที่ซ่อนเงินให้ได้ เพชรย่องเข้าไปแต่เสียงกิ่งไม้หักดังขึ้นข้างหลัง เพชรหันขวับก็เจอปืนลูกซองจ่อหลังแล้ว
พวกโจรตะคอกถามว่ามาด้วยกันใช่ไหม ซ่อนเงินไว้ที่ไหน โจรที่ถือปืนกับมีดยาวทำท่าจะเล่นงานแต่ถูกเพชรใช้ประแจฟาดจนอาวุธหลุดมือ ไม่กี่นาทีเพชรก็เล่นงานพวกโจรทั้งสามจนหมอบ
หัวหน้าทึ่งฝีมือของเพชร ขอบใจที่เสี่ยงมาช่วยถามว่าเพชรรู้ได้ยังไงว่าตนโดนปล้นที่นี่ เพชรมองไปที่อีแก่ที่จอดอยู่ หัวหน้าเดินไปแตะรถพูดกับอีแก่ว่า
“สงสัยเอ็งกับมันน่าจะเป็นคู่กันจริงๆแล้วว่ะ” เพชรตื่นเต้นถามว่าหัวหน้าขายอีแก่นี่ให้ตนแล้วเหรอ พอหัวหน้าพยักหน้า เพชรดีใจมากขอบคุณหัวหน้าไม่หยุดปาก
“เอ็งไม่ต้องขอบคุณหรอกว่ะเพชร ทั้งหมดนี่ก็มาจากสิ่งที่เอ็งทำทั้งนั้นแหละ แต่บอกก่อนนะเพชร อีแก่นี่เอาไปแล้วเอ็งอย่ามาคืนก็แล้วกัน เพราะเอ็งก็รู้แล้วว่านังนี่มันฤทธิ์เยอะแค่ไหน”
เพชรบอกว่าตนรับมือได้ หัวหน้าบอกว่างั้นก็ไปซ่อมบำรุงเตรียมทรหดกับเส้นทางที่เพชรต้องเจอ เพชรรับคำหนักแน่นมอง “อีแก่” อย่างมั่นใจเปี่ยมด้วยความหวัง
เพชรกลับมาบ้านครูหมาย เล่าให้ทุกคนฟังเรื่องหัวหน้ามอบหมายให้ตนดูแลการขนส่งตั้งแต่นครฯจนถึงหาดใหญ่ บอกว่าไปแต่ละเที่ยวคงต้องใช้เวลาหลายวัน พิมเป็นห่วงว่าเส้นทางนั้นมีพวกโจรเยอะ เพชรบอกว่าตนเจอมาแล้ว แต่ตนจะระวังตัวให้มาก ย่ากับพิมไม่ต้องห่วง
ครูหมายถามเรื่องรถว่าต้องจ่ายเงินให้เขายังไง มีหนังสือทำสัญญาอะไรไว้หรือเปล่า เพชรบอกว่าหัวหน้าร่างสัญญาไว้เรียบร้อยแล้ว ชมว่า
“หัวหน้าเขาเขียนไว้ยุติธรรมดีครับ เขาให้เพชรจ่ายเป็นงวดๆด้วยการหักออกจากค่าจ้าง แต่เพชรต้องวิ่งให้ได้เที่ยวมากขึ้นกว่าเดิมอีกประมาณ 5 เที่ยวถึงจะมีเงินเหลือมาให้ย่าใกล้เคียงกับยอดเดิม...”
ย่าบอกให้เพชรวิ่งตามปกตินั่นแหละ ทำเท่าที่ทำได้ก็พอไม่ต้องฝืน หักโหมมากร่างกายจะพังเอา
“จ้ะย่า เพชรไม่ยอมป่วยไม่ยอมตาย จะต้องอยู่หาเงินให้หนูพิมเรียนจบและอยู่ดีกินดีซะก่อน ถูกไหมจ๊ะหนูพิม”
เพชรหยอกน้องสาวอย่างเอ็นดู ไกรสรมองลูกชายลูกสาวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม
ooooooo
เสี่ยทรงชัยเร่งให้ณรงค์หาผู้หญิงเข้ามา บอกว่าเรื่องนี้ตนอยากทำมานานแล้วแต่ติดอยู่ที่เอ ด่าเอว่า
“ไอ้เลวนั่นมันมือดี ใจถึง พวกตัวใหญ่ๆแล้วก็ที่เยาวราชชอบใจมันทั้งนั้นก็เลยยอมละเว้นละแวกนี้ให้ตามที่มันขอ แต่ครั้งนี้ฉันจะลองดูซิว่ามันซื้อง่ายขายคล่อง ทั้งยา ทั้งผู้หญิง นายใหญ่กับพวกนั้นมันจะกล้าอะไรฉันหรือเปล่า...ไอ้สลัมนั่นมันเสวยสุขข้ามหัวฉันมานานแล้ว ถึงเวลาเขี่ยไอ้คางคกนั่นลงจากวอทองสักที”
วันต่อมาเอคุยโทรศัพท์กับปลายสายที่เขาเรียกว่า “เฮีย” อย่างเคร่งเครียดว่าตนไม่มีวันยอม เฮียปล่อยให้พวกมันทำอย่างนี้ไม่ได้ ตนขอไว้แล้ว ย้ำเสียงเครียดว่า
“เขตนี้เป็นของผม ไอ้เสี่ยบ้ากามมันไม่มีสิทธิ์” เอหยุดฟังปลายสาย แต่ยังพูดเสียงเครียด “ขอบคุณที่เฮียเป็นห่วงผมแต่ผมมาไกลเกินกว่าจะลงให้เสี่ยทรงชัยที่กำลังโดนไอ้สารเลวณรงค์มันจูงจมูกอยู่” เอหยุดฟังปลายสายแล้วรับปาก “ครับเฮีย...” แต่พอวางสายแล้วพูดกับป๋องที่ฟังอยู่ว่า
“ไอ้รงค์มันกัดไม่ปล่อย” บอกป๋องให้ตามไปดูณรงค์กับพวกมันไว้ “ตอนนี้ข้ายังทำอะไรมันไม่ได้ แต่ข้าจะไม่ยอมอยู่เฉยๆโดยไม่รู้อะไรเลยสักอย่างแน่ๆ”
ณรงค์ให้วุธไปกว้านหญิงสาวกร้านโลกมาไว้ที่บ้านเช่าเก่าของเพชร วุธหัวเราะพูดอย่างย่ามใจว่า
“พี่รงค์นี่ร้ายจริงๆ เอาบ้านของศัตรูมาทำเป็นซ่อง... ถ้ามึงรู้ มึงจะเป็นยังไงวะไอ้เพชร”
รินทร์ยังคงช่วยครอบครัวของเพชรหาตลาดขายขนมและยังช่วยส่งอีกด้วย เอะใจว่าไกรสรหายไปไหน พิมบอกไปทำงาน ทำที่ไหนพ่อไม่บอกออกไปแต่เช้าและกลับดึกทุกวัน ย่าบอกว่ากลับมาเสื้อผ้ามีแต่ฝุ่นแต่ไม่มีกลิ่นเหล้า ทุกคนฟังแล้วโล่งใจที่ไกรสรไม่กลับไปติดเหล้าอีก
เพชรไปส่งของกลับมา หัวหน้าบอกว่าลูกค้าโทร.มาชมว่าส่งของได้ตรงเวลาดีและยังช่วยดูรถให้ลูกค้าด้วย เอากุญแจรถพร้อมเอกสารเกี่ยวกับรถให้ เพชรดีใจมากกับรถคันแรกของตน
แต่พอขับมาใกล้ตลาดเครื่องก็รวน เพชรเดินเข้าไปในตลาดเพื่อขอความช่วยเหลือก็เจอภาพสะเทือนใจเมื่อเห็นพ่อกำลังพยายามเข็นรถผักที่หนักมากและเข่งผักก็ซ้อนกันโงนเงน จนไกรสรต้องพยายามอย่างมากในการจัดให้เข้าที่ เพชรมองพ่ออย่างตื้นตันและสะเทือนใจ
ooooooo
อ่านละคร ซีรีส์ลูกผู้ชาย เรื่อง เพชร ตอนที่ 6 วันที่ 25 ก.พ.62
บทประพันธ์โดย: ชล พรรษกรบทโทรทัศน์โดย: ไผ่พญา โมนะ
กำกับการแสดงโดย: แมน เมธี
ผลิตโดย: บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ช่องออกอากาศ: สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ