อ่านละคร เพชร ตอนที่ 6 วันที่ 26 ก.พ.62

อ่านละคร เพชร ตอนที่ 6 วันที่ 26 ก.พ.62

เพชรกลับมาพยายามซ่อมอีแก่อีก กะว่าซ่อมเสร็จจะไปรับพ่อกลับบ้านด้วยกัน แต่ซ่อมไม่ทันเสร็จก็เห็นไกรสรมายืนรอรถเมล์ที่ป้ายแล้ว เพชรเข้าทัก พอไกรสรรู้ก็มาช่วยดูให้ ครู่เดียวก็เจอปัญหา

ไกรสรบอกว่าสายไฟเก่าจนขาดมันถึงชาร์จไฟไม่เข้า เพชรจึงหาสายไฟเก่ามาให้เปลี่ยนเพื่อขับไปให้ถึงบ้านก่อนแล้วค่อยแก้ไขต่อไป สองคนพ่อลูกช่วยกันซ่อมอีแก่กันด้วยบรรยากาศอบอุ่น

คืนเดียวกันนี้ร้านอาหารที่รินทร์ร้องเพลงก็ถูกพวกวัยรุ่นกลุ่มเดิมมาป่วนอีก ดีที่คราวนี้ชาญวิทย์อยู่ด้วยจึงเข้าแก้สถานการณ์ แต่กลับถูกกลุ่มวัยรุ่นบอกกันว่าไอ้นี่เป็นตำรวจเพื่อนมัน พวกวัยรุ่นรุมกันเล่นงานชาญวิทย์ตะลุมบอนกับมันจนร้านเละ ผู้จัดการวิ่งมาตะโกนลั่น



“อะไรกัน เกิดบ้าอะไรกันขึ้นมา รินทร์นั่นเพื่อนเธอไม่ใช่เหรอ โอ้ย...หยุด หยุด! ร้านพังหมดแล้ว”

เมื่อกลับถึงบ้านเช่า ชาญวิทย์ขอโทษรินทร์ที่ทำให้เธอเดือดร้อนไปด้วย รินทร์บอกว่าแขกกลุ่มนี้ตั้งใจมาป่วนรินทร์อยู่แล้ว ชาญวิทย์แน่ใจว่าพวกมันต้องรู้จักรินทร์และคนรอบตัวรินทร์ดี เพราะรู้ด้วยว่าตนเป็นตำรวจ

จุดประสงค์มันต้องการมาป่วนการทำงานของรินทร์ เชื่อว่ารินทร์กับแก้วตาน่าจะเดาได้ว่าเป็นฝีมือของใคร

แก้วตาเชื่อว่าเป็นฝีมือปริม จะว่าทำเพราะหึงพี่เพชรหรือ พี่เพชรก็ไม่เคยมีท่าทีอะไรด้วยเลย ชาญวิทย์บอกว่าจะยังไงก็แล้วแต่รินทร์กับแก้วตาต้องระวังตัวหน่อย ตนอาจจะอยู่ด้วยทุกครั้งไม่ได้ เน้นให้รู้ว่า

“เพราะช่วงนี้เรื่องผู้มีอิทธิพลในละแวกนี้มันดุดันเหลือเกิน แล้วยังมีเรื่องคดีของเพชรอีก” รินทร์ถามว่าคดีไปถึงไหนแล้ว “ก็คืบหน้าไปเยอะเลยล่ะ แต่พี่ยังบอกอะไรมากไม่ได้นะ แต่รินทร์ไม่ต้องเป็นห่วง ยังไงพี่ก็ต้องหาหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์ของเพชรให้ได้”

รินทร์บอกให้ชาญวิทย์ทุ่มไปเรื่องของเพชรให้เต็มที่เลย เรื่องของตนตนพอจะรับมือได้ สัญญาว่าจะระวังตัวให้มากที่สุด แก้วตาเตือนชาญวิทย์ว่าจะทำอะไรก็ต้องระวังตัวด้วย อย่าบุ่มบ่ามวู่วามแบบวันนี้อีก

ooooooo

วันนี้ขณะเสี่ยทรงชัยนั่งอ่านนิตยสารอยู่ในห้อง ปริมผลักประตูเข้ามาถามว่ามีอะไรที่หน้าบ้าน ทำไมพวกลูกน้องพ่อไปยืนกันเต็มไปหมด ทำอย่างกับบ้านเจ้าพ่อ พวกมือปืน ตนไม่ชอบเลย

“ก็แค่แป๊บเดียวเองน่าลูก พ่อสั่งให้พวกมันรีบจัดการแล้วเดี๋ยวก็เรียบร้อย”

“สั่งอะไรคะ...แล้วตกลงมีเรื่องอะไรคะ”

พอดีมีเสียงเคาะประตู เสี่ยทรงชัยมองที่ประตูสั่ง

“เข้ามาโว้ย” ลูกน้องเข้ามาบอกว่ามันไปแล้วครับ “อะไรวะ มันยอมง่ายๆแบบนั้นเลยเหรอวะ”

ลูกน้องบอกว่าไม่ได้โวยวาย แต่มันบอกว่าจะมาเอาคืนเรื่องนี้แน่ๆ

“ก็ลองดู” เสี่ยยิ้มเหี้ยม ปริมเห็นหน้าพ่อก็ไม่กล้าเซ้าซี้อีก เสี่ยยิ้มอ่อนโยนลุกไปหาปริม “ไม่มีอะไรแล้วลูก หนูจะไปไหนก็ไปได้เลยนะลูก จะขับรถไปเองหรือจะให้คนของพ่อขับไปส่งดีล่ะ เออ...แล้วตกลงเรื่องไอ้ช่างเพชรเป็นยังไงบ้างล่ะลูก พ่อก็มัวแต่วุ่นวายเรื่องงานเลยไม่ได้ตามข่าวเลย”

ปริมสีหน้าหงุดหงิดขึ้นมาทันที เสี่ยทรงชัยหัวเราะหยอกว่า

“ท่าทางแบบนี้แสดงว่ายังไม่สำเร็จอีกแล้วล่ะสิ เออ...ไอ้นี่มันดวงดีจริงๆ พ่อว่าหนูเลิกสนใจมันเถอะ มีคนดีๆมีอนาคตอีกเยอะแยะเลยนะสำหรับปริมของพ่อ”

“ไม่ค่ะ ปริมไม่มีวันยอม” ปริมเสียงแข็งแล้วเดินออกไปเลย เสี่ยทรงชัยมองตามส่ายหน้าพึมพำ...ผู้หญิงแล้วสั่งลูกน้อง “ไปส่งของขวัญให้ไอ้เอมันหน่อย เอาแค่เบาะๆให้มันรู้ว่าไม่ใช่ทุกคนกลัวมัน”

แล้วเอก็ถูกมอเตอร์ไซค์ขี่มาประกบและปาระเบิดใส่รถขณะแล่นอยู่บนถนน เอสั่งป๋องให้ทิ้งรถแล้วโดดลงจากรถได้ก่อนระเบิดจะทำงาน ทั้งสองปลอดภัยอย่างหวุดหวิด

เมื่อกลับถึงบ้าน เอได้รับโทรศัพท์จาก “เฮีย” เขาบอกเฮียว่าตนไม่เป็นไร ฟังปลายสายแล้วรับคำ “ครับเฮีย...ได้ครับเฮีย” หลังจากนั้นก็นั่งนิ่งพยายามระงับความพลุ่งพล่าน เดือดดาล

ฝ่ายปริมแปลกใจที่เข้าไปในห้องพ่อแล้วเห็นณรงค์นั่งหน้าบานอยู่ ถามพ่อว่าแล้วลูกน้องพ่อหายไปไหนหมด

“อ้าว ก็นี่ไง ณรงค์นี่ไง ลูกน้องคนใหม่ของพ่อ คนสำคัญซะด้วย”

“เธอทำอะไรสำเร็จเหรอณรงค์ คุณพ่อถึงได้ปลื้มเธอขนาดนี้”

“โอ้ย...สำเร็จมหาศาลเลยล่ะ เพราะความใจกล้าใจถึงของณรงค์ทำให้กิจการของพ่อจะต้องเดินหน้าไปได้ไกล และได้เงินกลับมาอย่างมหาศาลแน่ๆ” ทรงชัยตอบแทน

“เหรอคะ...ในที่สุดก็มีอะไรที่เธอทำได้สักทีนะ หลังจากล้มเหลวไม่เป็นท่ามาหลายครั้ง” ปริมยิ้มเหยียด

ณรงค์โกรธที่ถูกเหยียดแต่พยายามปั้นหน้าให้ดูอ่อนโยน เอ่ยอ่อนน้อม

“ผมต้องขอโทษนะครับคุณปริมสำหรับเรื่องต่างๆที่ผ่านมา แต่สำหรับตอนนี้ ถ้าคุณอยากให้ผมลองทำอะไรให้ใหม่อีกครั้ง ผมรับรองว่าจะทำให้คุณพอใจได้แน่ๆ...คุณพอจะให้โอกาสผมอีกสักครั้งได้ไหมครับ”

ณรงค์คุยโวแต่ท่าทางอ่อนน้อม ปริมมองนิ่ง...

ooooooo

เอกลับบ้านไปด้วยความแค้นที่ถูกลอบกัด ครูหมายไปหา เอพาลประชดว่าถ้าครูจะมาดูว่าตนตายหรือยังก็เสียใจด้วยเพราะตนยังไม่ตาย

“เอ็งต้องต่อสู้กับเรื่องแบบนี้ไปอีกนานแค่ไหนวะเอ” เอมองหน้าครูนิ่ง “ข้าไม่ได้จะมาซ้ำเติมหรือสมน้ำหน้าเอ็ง แต่ข้ามาเพื่อจะบอกให้เอ็งรู้ ชี้ให้เอ็งเห็นว่าไอ้วงการที่เอ็งพยายามยืนน่ะ มันเป็นดินแดนแห่งความทรยศ หักหลังแล้วก็หลอกลวง เอ็งก็น่าจะเห็นแล้วนี่ เอ็งทำทุกอย่าง แต่สุดท้ายเอ็งก็โดนลอยแพ เอ...ถอนตัวซะเถอะว่ะ ถอนตัวตั้งแต่ตอนนี้ เอ็งยังมีเวลากลับเนื้อกลับตัวอีกเยอะ อย่าปล่อยชีวิตตัวเองให้จมดิ่งลงนรกไปมากกว่านี้เลยว่ะ”

เอบอกครูหมายว่าช้าไปแล้ว ตนจมอยู่ในนรกนั่นแทบมิดหัวแล้ว แต่ตนก็ไม่เคยเสียใจ ตนมีความสุขดีกับชีวิตแบบนี้ เออ้างว่าถ้าตนรามือตั้งแต่ตอนนี้ต่อไปในชุมชนของครู บนถนนที่ลูกศิษย์ครูเดินไป ก็จะมีทั้งยาเสพติด ทั้งผู้หญิงหากินอยู่เกลื่อนไปหมด ตนจะไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นแน่ๆ แล้วเอก็พูดดักคอครูว่า

“ครูอาจจะหัวเราะดูถูกในใจว่าแล้วที่ผ่านมามันต่างกันตรงไหน ยังไงไอ้สลัมเหม็นๆนั่นก็มีแต่ยาเสพติดเต็มไปหมดอยู่ดี แต่...”

“แต่เอ็งไม่เคยชักจูงเด็กที่ใฝ่ดีคนไหนให้มายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด...แล้วก็ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนที่โดนหลอกไปขายตัว  เอ็งส่งงานให้กับคนที่ยอมทำลายชีวิตตัวเองเท่านั้น แต่เอ็งไม่เคยบังคับหรือฝืนใจใครทั้งนั้น คนที่สลัมนั่น

ต่างก็เลือกชีวิตของตัวเองด้วยตัวเองทุกคน เอ็งไม่เคยหลอกล่อให้ใครเดินทางเส้นนี้ทั้งนั้น”

เอสูดลมหายใจลึกๆก่อนยิ้มบอกว่า

“ครูรู้ทุกอย่าง แล้วครูก็น่าจะรู้อีกเรื่องนะ ว่าผมยังยืนยันคำเดิม ผมต้องหาทางไปของผมเองจนได้ ครูไปเถอะ อย่ามาเสียเวลากับผมเลย” ครูหมายถอนใจลุกขึ้น “ครูครับ...บอกเพชรด้วยนะครับว่าไม่ต้องมา”

ครูหมายพยักหน้าแล้วเดินออกจากบ้านเอไป เมื่อครูหมายมาเล่าให้เพชรฟัง ปลอบใจเพชรว่าอย่าคิดมากเลย เอใจแข็ง ดื้อรั้นแบบนี้แหละ บอกเพชรว่าครูเห็นด้วยที่เอบอกว่าตอนนี้เพชรอย่าเพิ่งเข้าไปวุ่นวายกับเรื่องของเอเลย เพราะเรื่องคดีของเพชรก็ยังไม่คลี่คลาย ถ้าเข้าไปแวะเวียนแถวบ้านเอเดี๋ยวเรื่องจะยิ่งดูไม่ดี

“ตอนนี้เอ็งมีงานสำคัญที่ต้องทำก็รีบทำซะเถอะ อย่าให้เรื่องเอมาทำให้เอ็งไขว้เขวเลย”

เพชรรับคำครูแล้วชวนยุทธไปช่วยกันซ่อมรถ

ครูหมายมองเพชร ไกรสร ยุทธ โก้กับโต้งที่ช่วยกันซ่อมรถด้วยความรู้สึกทั้งโล่งใจที่เด็กคนหนึ่งกำลังเริ่มต้นใหม่ด้วยดี แต่อีกคนกำลังเข้าตาจน

ooooooo

คืนนี้ที่บ้านชาญวิทย์ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดเมื่อมีโทรศัพท์เข้ามากลางดึก ชาญวิทย์รับโทรศัพท์แล้วนิ่ง ถามว่าแกเป็นใคร ไม่มีเสียงตอบ แต่มีเสียงขว้างก้อนหินใส่กระจกแตก ชาญวิทย์จะลุกไปดู เสียงโทรศัพท์ก็เรียกไว้อีก ชาญวิทย์ฟังแล้วถามเสียงดัง

“เพชร...ทำไม แกจะทำอะไรเพชร เฮ้ย...เดี๋ยวสิโว้ย แกมีหลักฐานอะไร...เฮ้ย” ชาญวิทย์มองโทรศัพท์อย่างหงุดหงิดแล้วเดินไปดูที่หน้าต่าง เห็นก้อนกระดาษสีขาววางอยู่บนเศษกระจกที่แตกจึงหยิบมาคลี่อ่าน

“ถ้าอยากได้ข้อแก้ต่างให้เพื่อนแก ตามหาไอ้จิ๊บ”

ชาญวิทย์มองกระดาษในมือแล้วเดินกลับมาที่กองเอกสารรื้อบางแผ่นออกมาดู พึมพำ...

“ข้อมูลตรงกัน แกเสร็จแน่ไอ้จิ๊บ”

เพียงเช้าวันรุ่งขึ้นณรงค์ก็โวยวายกับวุธที่ยืนจ๋องอยู่ในห้องรับแขกที่บ้านว่าไอ้จิ๊บโดนไหม มันโดนจับหรือเปล่า วุธยืนจ๋อย ณรงค์ด่าลั่น

“ไอ้โง่เอ๊ย...ไหนมึงบอกไงว่าไอ้จิ๊บมันเจ๋ง มันเอาตัวรอดได้แน่ๆ แล้วทำไมมันโดนจับ มันโดนเรื่องอะไร”

“เรื่องไอ้เพชร”

จิตราได้ยินเสียงโวยวายลงมาดูได้ยินพอดีถามว่าไอ้เพชรมันหาเรื่องอะไรรงค์อีก ณรงค์ทำใจเย็นปดแม่ว่าก็น่าจะเป็นคดีของมัน ตำรวจคงหาทางช่วยไอ้เพชร ก็เลยมาลากตัวไอ้จิ๊บไป

จิตราแค้นว่าทำแบบนี้ได้ยังไง กฎหมายลงโทษมันไม่ได้  แม่จะเอาสังคมไปลงโทษมันเองแล้วผลุนผลันออกจากบ้านไปอย่างหัวเสีย พอจิตราออกไปแล้ว ณรงค์ถามวุธว่ามันจะพูดไหม วุธอึกอัก ณรงค์ยิ้มเหี้ยมบอก

“กูจะทำให้มันพูดไม่ได้เอง!”

จิตราพาเจ๊ไฝเจ้าแม่เงินกู้ไปที่บ้านครูหมาย เจอรินทร์ แก้วตา พิม ย่าพุดกรองและครูสร้อยกำลังจัดอาหารและของหวานใส่ปิ่นโตกันอย่างสดใสชื่นบาน ก็แหวเข้าไปทันทีว่า

“รวมหัวกันอยู่นี่เอง ตกลงบ้านนี้เป็นแหล่งรวมพวกชั่วร้าย เดนสังคมไปแล้วเหรอครูสร้อย” ครูสร้อยถามว่ามีอะไรเข้าใจผิดกันหรือเปล่า จิตราชี้หน้าด่ากราดว่านั่นไง โคตรเหง้าของพวกค้ายากับพวกพาร์ตเนอร์ราคาถูก หันไปถามไฝว่าคนแบบนี้หรือที่เจ๊จะใจดีกับพวกมัน ยุว่าเจ๊ให้มันยืมเงินแล้วเจ๊ไม่กลัวรึไงว่าคนอื่นจะมองว่าเจ๊เป็นพวกค้ายาแบบไอ้เพชร

รินทร์กับแก้วตาออกมาโต้ บอกว่าจะไปแจ้งความหมิ่นประมาท จิตราเงื้อมือที่ถือกระเป๋าจะฟาดแก้วตา แก้วตาหลบจิตราเลยถลาจะล้มแต่กลับโวยวายว่า “นี่พวกแกรุมฉันหรือ”

“ไม่มีใครรุมคุณสักคนนะคะคุณนาย มาร้องแรกแหกกระเชอสร้างความเดือดร้อนในเขตบ้านฉันนี่ ฉันแจ้งความได้นะคะถ้าคุณนายไม่หยุด”

ชาวบ้านได้ยินเสียงจิตราโวยวายก็พากันออกมาดู จิตราโพนทะนาให้ชาวบ้านมาดูพวกหน้าด้านเป็นหนี้แล้วไม่ยอมจ่าย ถามครูสร้อยว่าคนแบบนี้เอามาอยู่ในบ้านได้ยังไง

ย่าพุดรู้ว่าจิตรามาด่าตนก็ตอบโต้ว่าตนไม่คิดจะโกงจ่ายดอกเบี้ยครบทุกครั้งไม่เคยขาด เงินต้นก็ส่งสม่ำเสมอ จะมาป้ายสีกันอย่างนี้ไม่ได้

จิตรายุให้เจ๊ไฝทวงหนี้เอาทั้งต้นทั้งดอกคืนให้หมดเลย อ้างว่าไม่อยากให้เงินบริสุทธิ์ไปแปดเปื้อนกับเงินค้ายาค้าผู้หญิง

ไกรสรกับเพชรกลับมา จิตราด่าไกรสรว่าไอ้ฆาตกร ยุชาวบ้านว่าดูซิ ทำไมครูจึงให้พวกชั่วร้ายเหล่านี้มาอยู่ด้วย ไกรสรปรามว่าอย่าลามปามถึงครูสร้อยกับครูหมาย จิตรายิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุด่ากราดหนักกว่าเดิมจนครูหมายออกมาประกาศว่า

“ตอนนี้ถ้าใครไม่ออกไปจากบ้านข้า ข้าก็จะลากตัวไปเข้าคุกจนไม่ได้ผุดได้เกิดเหมือนกัน”

เจ๊ไฝเห็นท่าไม่ดีขยับจะถอย จิตราดึงไว้ตราหน้าว่าครูหมายทำได้ก็แต่กับเด็กไม่มีทางสู้เท่านั้น แต่ตนเป็นแม่ตนไม่กลัว ไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายลูกตนฝ่ายเดียวแน่ ครูหมายถามว่าที่แท้จิตราต้องการมาหาเรื่องที่ตนกระทืบณรงค์ใช่ไหม จิตรารับว่าใช่ ถามว่าครูทำลูกชายตนได้ยังไง ลูกชายตนเป็นเด็กดีไม่เหมือนไอ้เพชรที่ค้ายา พ่อมันก็เป็นอาชญากร ยุเจ๊ไฝให้ทวงหนี้คืนให้หมดเลย

เพชรไม่อยากให้ครูลำบากใจจึงเอาเงินทั้งหมดของตนให้แต่ก็ยังไม่พอ ครูหมายบอกครูสร้อยเอาเงินมาเติมให้ครบแล้วไล่จิตรากับเจ๊ไฝออกจากบ้านไป

ooooooo

หลังจากณรงค์บอกว่าจะทำให้จิ๊บพูดไม่ได้ เช้านี้ผู้ต้องขังห้องเดียวกับจิ๊บก็ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพราะทุกคนถูกวางยาโดยเฉพาะจิ๊บ จ่าบอกว่าหนักกว่าใครเพื่อน จะรอดหรือไม่ก็ไม่รู้

วุธได้ข่าวก็ไม่พอใจต่อว่าณรงค์ว่าทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ เพราะจิ๊บเป็นเพื่อนตน ณรงค์ปรามว่าไม่อยากฟังเรื่องเพื่อนโง่ๆแบบนั้นอีกแล้ว บอกวุธให้ทำงานให้เสร็จอย่าโชว์โง่เหมือนเพื่อนอีก

เพชรไม่สบายใจที่มาอยู่บ้านครูหมายแล้วทำให้ครูเดือดร้อน ชาญวิทย์บอกว่าตนอยู่คนเดียวและบ้านก็กว้างขวาง รินทร์เสนอว่าน่าจะแบ่งบ้านให้เพชรเช่าเพราะอยู่คนเดียว และเวลาเขาไม่อยู่บ้านก็จะได้มีคนเฝ้าบ้าน ทั้งยังจะได้กินฝีมือกับข้าวอร่อยๆจากย่าพุดทุกวันด้วย

เมื่อตกลงกันแล้ว ย่าพุดก็จะย้ายไปอยู่พรุ่งนี้เลย ปรุงถามยุทธว่าแล้วงานของเพชรล่ะ

“พี่เพชรก็จะซ่อมรถเท่าที่พอจะใช้ได้ เพราะพี่เพชรรับปากหัวหน้าคิวรถไว้แล้วว่าจะเริ่มวิ่งส่งของให้รอบแรกวันอาทิตย์นี้”

ปรุงให้ยุทธนั่งรถไปกับเพชร อย่างน้อยรถเสียก็จะได้ช่วยกันซ่อมช่วยกันดู ยุทธบอกว่าตนกับโต้งและโก้ก็คิดอย่างนั้น ปรุงกำชับว่าจะไปวันไหนให้บอก แม่จะได้เตรียมอาหารไว้ให้แม่ลูกคุยกันโดยไม่รู้ว่าวุธผ่านมาและแอบฟังเก็บข้อมูลอย่างละเอียดไปแล้ว

รินทร์รู้ว่าภาระของเพชรมากจะให้เงินมาแก้ปัญหาเพชรก็คงไม่เอา จึงเสนอเอาเงินมาร่วมทุนและจะช่วยทำงานด้วยเพราะตัวเองก็ตั้งใจจะลดงานร้องเพลงลงแล้ว เป็นข้อเสนอที่เพชรรับได้ ทั้งสองจึงร่วมงานกันในฐานะหุ้นส่วน

ในวันต่อมานั่นเอง เจ้าของร้านอาหารก็ให้ผู้จัดการมาบอกเลิกจ้างรินทร์ร้องเพลง แม้จะเสียใจที่ไม่ได้ทำงานที่รักอย่างกะทันหันแต่รินทร์ก็ทำใจได้เพราะเตรียมการมาบ้างแล้ว

แก้วตาบอกชาญวิทย์ว่า ตนเชื่อว่าทุกเรื่องที่เกิดกับรินทร์นั้นเป็นฝีมือของปริม เพราะนับแต่ปริมเข้ามาชีวิตของรินทร์ก็มีแต่ความวุ่นวาย เพชรฟังอยู่รู้สึกผิดเพราะเหมือนตัวเองเป็นคนชักนำปริมเข้ามาในชีวิตของรินทร์ ไกรสรดูออกจึงเอากุญแจรถให้เพชรบอกให้เอารถไปลองแล้วขากลับให้แวะซื้อโจ๊กร้านไนซ์มาฝากด้วย

คืนนี้รินทร์กล่าวอำลาแฟนเพลงและขอมอบเพลงสุดท้ายแก่แฟนๆด้วยความรัก เพชรเข้าไปซื้อโจ๊กจึงรู้เรื่องของรินทร์ เขามองรินทร์ด้วยความเห็นใจและห่วงใย

เมื่อรับรินทร์กลับ เพชรขอโทษรินทร์ที่นับแต่รู้จักกันชีวิตรินทร์ก็เหมือนมีแต่เรื่องแย่ๆเกิดขึ้น รินทร์บอกไม่ใช่เลย แต่ถ้าเขามีเรื่องไม่สบายใจอะไรตนก็พร้อมที่จะรับฟังทุกอย่าง เพชรบอกว่าตนไม่มีอะไรจริงๆ ถามรินทร์ว่าเสียใจมากไหมกับเรื่องวันนี้

“ก็เสียใจนิดหน่อยค่ะ แต่ตอนนี้ดีแล้ว มันก็แค่อีกเรื่องนึงในชีวิตที่จบไปแล้ว...ก็เท่านั้น”

“แต่จุดจบของบางเรื่องมันมักจะเป็นจุดเริ่มต้นของอีกเรื่องเสมอไม่ใช่เหรอจ๊ะ วันนี้รินทร์ต้องจบบทบาทของการเป็นนักร้องเพื่อที่พรุ่งนี้รินทร์จะได้เริ่มต้นใหม่ในฐานะหุ้นส่วนของงานที่เราและอีกหลายๆ คนจะช่วยกันทำไงจ๊ะ”

“พรุ่งนี้ต้องดีกว่าวันนี้ใช่ไหมคะ”

“จ้ะ...พรุ่งนี้มักจะมาพร้อมความหวัง และความฝันที่สวยงามเสมอ”

ทั้งสองจับมือให้กำลังใจและความหวังแก่กัน

ooooooo

ที่อู่เฮียตงที่ตี๋มาดูแลแทนเตี่ย เพราะขาดช่างมีฝีมือและไม่ซื่อสัตย์ต่อลูกค้า เอาอะไหล่ด้อยคุณภาพ กระทั่งของปลอมมาเปลี่ยนให้ลูกค้า พลที่เอารถมาซ่อมจับได้ว่าทางอู่โกง แต่พอต่อว่าตี๋ก็เอาเอกสารการซื้ออะไหล่ให้ดูแต่ตัวเองดูไม่ออกอ่านไม่เข้าใจ พอดีเห็นศักดิ์ยืนอยู่ก็เรียกมาอธิบายให้พลแทน

พลบอกว่าไม่ต้องอธิบายอะไรหรอกเพราะตนดูแล้วเครื่องไม่ตรงกับที่ซ่อมแน่ๆ ตี๋โมเมว่าแสดงว่าพวกศักดิ์โกง ศักดิ์บอกว่าตอนที่พลเอารถมาซ่อมพวกตนออกจากอู่ไปแล้ว ตี๋เลยถามหาณรงค์ที่ยังไม่มา

พลไม่พอใจถามว่าจะเอายังไง ทำงานแบบนี้ปิดอู่เลยดีไหม ศักดิ์จึงแนะนำให้ไปซ่อมที่อื่นเพราะที่นี่ไม่เหมือนเดิมแล้ว พลถามศักดิ์ซ่อมที่อู่ไหนตนจะเอาไปซ่อม ศักดิ์บอกว่าไม่ได้ซ่อมแล้วตนรับจ้างทำอะไรก๊อกแก๊กไปเรื่อย ส่วนเพชรได้งานขนส่งมาทำ แล้วศักดิ์ก็เล่างานของเพชรให้พลฟัง

พลกับเฮียเพ้งจึงเสนอมาช่วยเพชรขยายกิจการ เฮียเพ้งถามว่าเพชรต้องการรถกี่คันให้บอกพลเพราะตนจะใช้งานของบริษัทเพชรเท่านั้น ถ้าเพชรไม่ทำก็เท่ากับตนจะไม่มีของมาส่งโรงงาน เพชรเกรงใจที่เฮียเพ้งเอางานให้แล้วยังจะเอารถให้อีก มูลค่ามากเกินไป

“มากเหรอ...สองครั้งสองหนที่ลื้อช่วยชีวิตอั๊ว อาเพชร อั๊วจะทำอะไรให้ลื้อเท่าไหร่มันก็ทดแทนกันไม่ได้ ลื้อเข้าใจไหม”

อ่านละคร ซีรีส์ลูกผู้ชาย เรื่อง เพชร ตอนที่ 6 วันที่ 26 ก.พ.62

บทประพันธ์โดย: ชล พรรษกร
บทโทรทัศน์โดย: ไผ่พญา โมนะ
กำกับการแสดงโดย: แมน เมธี
ผลิตโดย: บริษัท เมกเกอร์ เจ กรุ๊ป จำกัด
ช่องออกอากาศ: สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ