อ่านละคร สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ตอนที่ 8 วันที่ 8 ต.ค. 56
“แปลว่าเขารักไม่จริงมากกว่าครับ” คำพูดของหรั่งทำให้แพรวานึกถึงตะวันฉายขึ้นมาทันที...ด้านเผ่าลาภพยายามโทร.ติดต่อจะขอเข้าพบสุริยะเพราะรู้ว่ากลับจากเกาหลีใต้แล้ว แต่ทางนั้นอ้างว่าเดินทางเหนื่อยต้องการพักผ่อน เขาถึงกับถอนใจ เหนื่อยใจ นายสยามสังเกตเห็นอาการของเจ้านาย ถามว่าคุณสุริยะกลับมาแล้วหรือ ได้ความว่าเพิ่งมาถึง ระยะหลังมานี่เผ่าลาภจะเข้าพบเขาแต่ละทียากเย็นเหลือเกิน
“ทำไมไม่ให้คุณหนูแพรวาช่วยล่ะครับ” นายสยามแนะนำ
แพรวาถึงกับยิ้มหน้าบานเมื่อเห็นดอกไม้ช่อใหญ่พร้อมการ์ดจากตะวันฉายวางอยู่บนโต๊ะทำงานบนการ์ดเขียนข้อความไว้ว่า “หลังจากใช้เวลาชั่วครู่ พี่ก็พบแล้วว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนที่พี่ควรจะมอบช่อดอกไม้ให้นอกจากน้องแพร ขอโทษที่หายหน้าไป แต่ก็ไม่เคยไปไหนได้ไกล เพราะหัวใจพี่ถอดฝากไว้ที่นี่ ถ้าเป็น ไปได้เราน่าจะได้เดินกินลมชมพระจันทร์กันในเร็ววันนี้นะจ๊ะน้องแพร”
“เขารักฉันจริง เขาง้อฉัน” แพรวาพูดจบ ชูการ์ด และช่อดอกไม้ให้หรั่งดู จังหวะนั้น เผ่าลาภเข้ามาขอให้ลูกสาวไปบ้านของสุริยะด้วยกันเย็นนี้ แล้วถามว่ามีอะไรรังเกียจรังงอนกับตะวันฉายอีกหรือเปล่า
“หายหมดแล้วค่ะ เดี๋ยวน้องแพรโทร.ไปบอกพี่ตะวันก่อนนะคะ”...
ครู่ต่อมาแพรวากับเผ่าลาภมาถึงบ้านของสุริยะ ตะวันฉายออกมาต้อนรับทันทีที่สองพ่อลูกลงจากรถแพรวาขอบคุณเขามากสำหรับดอกไม้และการ์ดหวานๆ แล้วหยิบดอกไม้ช่อสวยจากในรถให้เขาเป็นการตอบแทน เผ่าลาภขอตัวเข้าไปพบสุริยะ ก่อนจะก้มลงไปบอกหรั่งซึ่งเป็นสารถีให้ช่วยโทร.ไปบอกคุณรำไพทีว่าวันนี้เขาคงกลับค่ำ ตะวันฉายรอจนเผ่าลาภคล้อยหลัง ก้มดูในรถถึงกับยิ้มหยันที่เห็นหรั่งนั่งอยู่
“อ๋อ คนขับรถคนนี้นี่เอง น้องช่วยเลื่อนรถไปจอดทางโน้นนะ ระหว่างรอก็เช็ดรถล้างรถไปพลางๆ ก็ได้ แต่อย่าใช้น้ำเปลืองนักล่ะ” ตะวันฉายแขวะจบ โอบไหล่แพรวาเข้าไปในตัวบ้าน หรั่งมองตามอย่างไม่สบอารมณ์...
ตะวันฉายพาแพรวามาที่ห้องนั่งเล่นซึ่งติดกับสนามหน้าบ้าน ใช้ความกะล่อนแก้ตัวว่าที่หายหน้าไปเพราะมัวแต่ยุ่งกับการทำบริษัทโฆษณา บางทีวันหนึ่งข้างหน้า เขาอาจจะขอรับงานจากบริษัทของเธอบ้าง แพรวาแกล้งอำว่าถ้ามารับงานไปจากเธอจะกดราคาให้ต่ำๆ
“โธ่...อย่าแกล้งพี่นักเลยจ้ะ ขอให้พี่ได้เรียนรู้งานจาก M.S. เถอะนะ พี่จะได้เติบโตและยังมีโอกาสใกล้ชิดน้องแพรมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย...นะ...แล้วพี่จะขอเข้าไปคุยอย่างเป็นทางการอีกทีนะจ๊ะ” ตะวันฉายหอมแก้ม แพรวาอย่างเอาใจ หรั่งยืนพูดโทรศัพท์อยู่ที่สนามหันมาเห็นพอดี เดินเลี่ยงไปทางอื่นไม่อยากเห็นภาพบาดตา...
ขณะที่ตะวันฉายปรับความเข้าใจกับแพรวาได้อย่างราบรื่น เผ่าลาภกลับมีปัญหากับสุริยะ เพราะถูกต่อว่าเรื่องที่ไปแจกเงินให้ชาวชุมชนจานเดี่ยวซึ่งโดนไฟไหม้จนเป็นข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับ สุริยะอ้างว่า การกระทำครั้งนี้ของเผ่าลาภทำให้พรรคเสียชื่อ เพราะเขาเป็นหนึ่งในกรรมการบริหารพรรค ผู้คนจะพากันคิดว่าเขาแจกเงินซื้อเสียงล่วงหน้า บ้างก็หาว่าเขาเลี้ยงคนไว้ปลุกระดม เผ่าลาภถึงกลับหน้าเสีย
จังหวะนั้น หรั่งถือโทรศัพท์มือถือเข้ามาหาเผ่าลาภ แจ้งว่ารำไพจะขอพูดด้วย เขาหงุดหงิดโดยไม่รู้ตัว
“มีอะไร เดี๋ยวค่อยกลับไปคุยที่บ้านได้ไหม... โอเคนะ” เผ่าลาภพูดจบส่งมือถือคืนให้หรั่งซึ่งผละจากไปแล้วหันไปถามสุริยะเรื่องขอประทานบัตรที่ดินรอบภูเขา ฝ่ายถูกถามชักสีหน้าทันที
“คุณก็รู้ว่ามันรีบร้อนไม่ได้ ยิ่งตอนนี้คุณไปทำเรื่องไว้อีก ถ้าเกิดคุณได้ที่ผืนนี้ไป นักข่าวเขาไม่เขียนแซวใหญ่หรือว่ายกที่ให้คนกันเอง เฮอะ...แล้วก็ไม่ใช่ใครที่ไหน นายทุนหัวหน้าสลัมนั่นไง โอ้โฮ แล้วทีนี้พรรคจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน เคยคิดบ้างหรือเปล่า...ขอโทษนะที่วันนี้ต้องพูดแรงๆ กับคุณ มันเก็บอัดอั้นไว้ในใจนานแล้ว ถ้าผมไม่พูดเสียวันนี้ วันหน้ามันอาจจะต้องพูดกันด้วยถ้อยคำที่แรงกว่านี้เยอะ”
เผ่าลาภถึงกับอึ้ง พูดอะไรไม่ออก หรั่งซึ่งยืนมองอยู่ไกลๆ พลอยเครียดไปด้วย
ooooooo
ทันทีที่กลับถึงบ้าน แพรวาหอบช่อดอกไม้ ที่ได้จากตะวันฉายเดินขึ้นห้องอย่างร่าเริง ผิดกับเผ่าลาภที่ทรุดตัวลงนั่งที่โซฟาด้วยสีหน้าท้อแท้และผิดหวังสักพัก หรั่งตามเข้ามา เขามองแปลกใจทำไมยังไม่กลับบ้านอีก หรั่งรอให้แน่ใจก่อนว่าเจ้านายจะไม่เรียกใช้อะไรอีกเผ่าลาภอยากมีเพื่อนคุยอยู่พอดีจึงชวนเขาให้นั่งด้วยกันก่อน
รำไพเดินถือน้ำเย็นเข้ามาให้ เผ่าลาภถามว่าเมื่อ ตอนเย็นโทร.ไปหาเขามีเรื่องอะไรหรือเปล่า เธอแค่จะบอก ว่าพรุ่งนี้หมอนัดให้ไปพบตอนสิบโมงเช้าเขาพยักหน้า รับรู้แล้วบอกให้เมียรักไปนอนได้เลย เขายังไม่อยากนอน ทันทีที่เธอคล้อยหลัง เผ่าลาภหันไปปรับทุกข์กับหรั่งว่าเวลาที่คนเราตกอับ ทำไมอะไรๆถึงดูแย่ไปหมด
“คนที่เราเคยคิดว่าเขาจะช่วยเราได้กลับพึ่งพา ไม่ได้ คนที่เคยคิดว่าจะไปด้วยกันได้ดีก็เปลี่ยนไป ตำหนิเราซ้ำอีกต่างหาก สุขภาพที่เคยคิดว่าแข็งแรงก็กลายเป็นย่ำแย่”
หรั่งพูดให้กำลังใจจนเผ่าลาภรู้สึกดีขึ้น ความ เครียดคลายลงอย่างเห็นได้ชัด ถึงกับออกปากว่ามีอะไรบางอย่างทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยกับหรั่ง นับตั้งแต่วันแรกที่เราสองคนเจอกัน แม้เกมชีวิตของเขาอาจจะจบลงด้วยความล้มเหลว แต่เขามั่นใจว่าการเข้ามาของหรั่งคือการต่อเวลาให้เขา หรั่งนิ่งไปอึดใจก่อนจะสารภาพ
“เราไม่ได้เพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรกหรอกนะครับ สิบเจ็ดปีที่แล้ว มีเด็กชายคนหนึ่ง เติบโตอยู่ในกองคาราวาน ก่อสร้าง แคมป์ของพวกเขาตั้งอยู่ข้างบ้านริมทะเลของเศรษฐีคนหนึ่ง เขามีชื่อว่า เผ่าลาภ”
จากนั้นเหตุการณ์เมื่อ 17 ปีก่อนก็พรั่งพรูออก จากปากหรั่ง ตอนนั้นเขากำลังเล่นอยู่กับเด็กหญิงแพรวาที่หน้าบ้านหลังนั้น เผ่าลาภออกมาตามลูกสาวให้เข้าบ้านได้แล้ว แพรวาออดอ้อนขอเล่นต่อไปอีกสักพักเขาให้เวลาลูกอีกสิบนาทีเท่านั้น แล้วถามเธอว่ากำลังเล่นอยู่กับใคร แพรวาไม่รู้จักชื่อเด็กชายที่เล่นด้วย ได้แต่บอกพ่อว่าเล่นอยู่กับลูกครึ่ง หรั่งเห็นแพรวามัวแต่คุยคว้าตุ๊กตาหมีที่มีลูกเกาะอยู่บนหลังไปจากมือเธอซึ่งวิ่งไล่เอาคืน
“เย็นวันนั้น นานเกินกว่าสิบห้านาที เจ้าของบ้าน ผู้ใจดีก็ออกมาอุ้มลูกสาวเข้าบ้านไป พร้อมกับเอาขนม มาส่งให้เด็กชายคนนั้น เป็นขนมที่เขากินเข้าไปตั้งสิบวัน มันก็ยังไม่หมด”
“นายนั่นเองหรือ” เผ่าลาภมองหรั่งอย่างพิจารณา
“ครับ...ลุงช่างไม้ในแคมป์ก่อสร้างนั่นเก็บผม มาเลี้ยง ผมก็เลยมีนามสกุลว่านาคำ มีบ้านเกิดอยู่ศรีสะเกษ อยู่ตรงไหนผมยังไม่เคยไปเลย”
“นายเก่งมากที่มาจนถึงตรงนี้ได้...ขอบใจนายมากนะที่เล่าเรื่องนี้ให้ฟัง” เผ่าลาภพูดจบ หยิบกล่องคุกกี้ของรำไพที่วางอยู่ใกล้มือให้เขา “ฉันให้...ไม่ต้องเก็บไว้จนถึงสิบวันหรอกนะ”
หรั่งขอร้องเผ่าลาภอย่าเพิ่งเล่าเรื่องนี้ให้แพรวาฟัง เพราะเธอคงจำไม่ได้และที่สำคัญเขาอาย...
ในเวลาต่อมา เผ่าลาภล้มตัวลงนอนข้างๆรำไพ พลางบอกว่าเขาเจอเด็กลูกครึ่งคนนั้นแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าเด็กนั่นจะอยู่ใกล้ๆตัวเรานี่เอง รำไพมองสามีอย่างคาดไม่ถึงเช่นกัน...
ทางด้านหรั่งหยิบตุ๊กตาลูกหมีที่แยกมาจากตุ๊กตาแม่หมีของแพรวาเมื่อ 17 ปีก่อนขึ้นมาดู แล้ววางรวมไว้กับข้าวของที่เกี่ยวข้องกับแพรวาในกล่องไม้อย่างทะนุถนอม ก่อนจะเก็บไว้บนหลังตู้เสื้อผ้าในห้องนอน
ooooooo
ค่ำวันเดียวกัน กัมปนาทกำลังเมาได้ที่ กอดคอธนู โยกตัวไปมาอยู่แถวเคาน์เตอร์บาร์ในผับหรูอย่างมี ความสุขแต่ไม่วายต่อว่าว่าเมื่อไหร่เขาถึงจะยอมเต้นรำเป็นเรื่องเป็นราวกับตนเองสักที ธนูอ้างว่าเต้นไม่เป็น
“เธอไม่พยายามต่างหาก เรื่องอื่นๆยากกว่าเต้นรำตั้งเยอะ เธอยังทำเพื่อฉันได้เลย”
ธนูกำลังพยายามอยู่ จังหวะนั้น รสสุคนธ์ตามเข้ามาสมทบ บอกให้กัมปนาทฟังสิ่งที่เธอจะพูดให้ดี เพราะเกี่ยวกับโปรเจกต์ของเขาโดยตรง เนื่องจากกลุ่มธุรกิจ ท่องเที่ยว โรงแรมและห้างสรรพสินค้าเห็นพ้องต้องกันว่างานใหญ่ขนาดนี้ไม่ควรให้บริษัท M.S. ผูกขาดแต่ผู้เดียว จึงเรียกร้องให้เป็นมหกรรมที่จัดโดยภาครัฐจะเหมาะสมกว่า พวกนั้นจึงขอถอนตัวจากโปรเจกต์นี้ กัมปนาทถึงกับร้องอ้าว แล้วที่เขาติดต่อกับต่างชาติและลงทุนไปหลายส่วนแล้วจะให้ทำอย่างไร รสสุคนธ์แจ้งว่าหน่วยงานของรัฐจะเข้ามาสานต่องานนี้เอง โดยผ่านทางสมาคมแห่งหนึ่ง
กัมปนาทปรี๊ดแตกโวยลั่นว่าทำแบบนี้เท่ากับหักหลังกันชัดๆ งานนี้ตนเองปั้นมากับมือ จะมาชุบมือเปิบได้อย่างไร ตนไม่ยอมเด็ดขาด แล้วกรีดร้องสุดเสียงก่อนจะลงไปดิ้นกับพื้น
“ธนูพาเจ้านายของเธอกลับไปก่อนเถอะ ฟื้นเมื่อไหร่ช่วยอธิบายให้เขาเข้าใจด้วยนะ” รสสุคนธ์ว่าแล้วเดินเลี่ยงออกไป ธนูพยายามประคองกัมปนาทให้ลุกขึ้นแต่เขาดิ้นหนี พนักงานร่างบึ้กในร้านเข้ามาช่วยเหลือ ธนูบอกให้เขาพากัมปนาทไปรอข้างหน้าผับ อีกสักครู่ตนจะไปถอยรถมารับ แล้ววิ่งไปที่ห้องน้ำชาย หยิบผ้าขนหนูชุบน้ำ ก่อนจะวิ่งกลับออกมา อารามรีบร้อนชนเข้ากับสาวใหญ่หุ่นดีคนหนึ่ง พอรู้ว่าเธอเป็นครูสอนเต้นรำ ธนูสนใจขึ้นมาทันที ต่างแลกนามบัตรกัน แล้วแยกย้ายกันไปตามทางของตัว...
ด้านรสสุคนธ์รีบไปหาดวงใจซึ่งรออยู่บริเวณลานจอดรถลับตาคนของผับแห่งนั้น มอบเอกสารที่มีรายชื่อของผู้ให้การสนับสนุนโปรเจกต์ของกัมปนาทให้
“ทีนี้ก็เหลือแต่รถคอนเน็กชั่นของพี่ดวงใจ จับมาชนกันได้ งานนี้ก็ดังระเบิด”
ดวงใจชวนรสสุคนธ์เข้าไปดื่มฉลองความสำเร็จด้วยกัน เธอปฏิเสธว่าไม่ว่างต้องกลับไปนับเงินที่บ้านแล้วผละจากไป ดวงใจขยับจะไปเช่นกันแต่เหลือบเห็นแก้มจูงมือตองเดินไปที่ทางเข้าผับ
การ์ดเฝ้าประตูไม่ยอมให้ทั้งคู่เข้าเพราะอายุไม่ถึงเกณฑ์ แก้มอาศัยลูกมั่วจะพาตองเข้าไปให้ได้ จนเกือบจะมีเรื่องกัน โชคดีที่ดวงใจมาขวางไว้ ทันทีที่แก้มเห็นแม่ตัวเอง รีบพากันวิ่งหนี ดวงใจวิ่งตามจนทัน ขอร้องให้ลูกอยู่คุยกันก่อน แก้มไม่อยากคุยด้วยเพราะยังน้อยใจไม่หายที่แม่ทิ้งเธอกับพ่อไป คว้ามือตองวิ่งหนี
ooooooo
หรั่งพาก้อยเดินสำรวจรอบบ้านแต่เช้า ขณะที่เท่ห์ โบ้ และเช็งขึ้นไปซ่อมหลังคาบ้าน ส่วนเจ๊โอ๋พาน้องๆ ทั้งสามคนของโบ้ไปส่งโรงเรียน น้าเบิ้มเข้ามาถามว่ามีใครหิวบ้างไหม ทุกคนส่งเสียงอย่างพร้อมเพรียงกันว่าหิว หรั่งเห็นมีข้าวเหนียวเหลือจากเมื่อวานแต่ไม่มีกับข้าว เท่ห์อาสาจะไปตลาดให้แต่คงจะช้าเพราะอยู่ไกลมาก
“ขอแบ่งจากเพื่อนบ้านก่อนได้ไหม” ก้อยแนะ
เช็งตะโกนลงมาจากหลังคาว่าแถวนี้ไม่มีบ้านของคนอื่นนอกจากบ้านหลังนี้ของเราเท่านั้น...
ด้านตะวันฉายแวะไปหาแสงเทพที่บ้านต้องแปลกใจที่เห็นส่วนหัวของบรรดาสัตว์สตัฟฟ์น้อยใหญ่ติดอยู่เต็มผนังห้องโถง แสงเทพคุยว่าสิงสาราสัตว์เหล่านี้แม้จะดุร้ายแค่ไหนไม่เคยพ้นเงื้อมมือเขาแม้แต่ตัวเดียว แต่มีอยู่หนึ่งตัวท่าทางไม่ดุร้ายสักเท่าไหร่ แต่กลับรอดเงื้อมมือเขาไปได้ ตะวันฉายเดาได้ไม่ยากว่าเขาหมายถึงอะไร
“ตัวที่ชื่อ M.S. ใช่ไหมครับ แต่ตอนนี้ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของอาหมดแล้วนี่ครับ คนของผมก็เริ่มเข้าไปเจาะวงในแล้ว โปรเจกต์ใหญ่ของมัน ผมก็ดึงเอามาแล้ว ผมว่าไม่นานก็ล้มครับ”
แสงเทพไม่คิดเช่นนั้น หลังตรวจสอบแล้วพบว่าแหล่งเงินที่เป็นขุมกำลังของ M.S. Group. คือโรงสีข้าว ดังนั้นถ้าจะล้มพวกมันก็ต้องล้มธุรกิจข้าวของมันก่อน แต่ถ้าตะวันฉายส่งคนเข้าไปเป็นไส้ศึกได้จริง ก็ให้แอบเอารายละเอียดงบดุลของที่นั่นออกมาให้ตนเองดูเพื่อความแน่นอน ตะวันฉายอาสาจะลงมือด้วยตัวเอง...
เช้านี้แพรวามีนัดมาเซ็นสัญญากับทางเวดดิ้ง เซ็นเตอร์ แต่กัมปนาทเกิดป่วยกะทันหันมาไม่ได้ เธอจึงขอเลื่อนนัดเป็นคราวหน้า รอให้กัมปนาทหายป่วยเสียก่อน ผู้จัดการร้านยินดีไม่มีปัญหา แต่ไหนๆแพรวาก็มาที่ร้านทั้งทีแล้ว จึงชวนให้มาถ่ายแบบชุดแต่งงาน ขณะที่เธอรีๆรอๆจะเอาอย่างไรดี ตะวันฉายเดินเข้ามาในร้านพอดี
ผู้จัดการร้านจึงชักชวนให้เขาถ่ายรูปคู่กับแพรวาเผื่อติดโชว์หน้าร้าน แล้วเรียกช่างภาพมาจัดฉากให้ หรั่งได้แต่มองคู่รักโอบกอดกันอย่างเจ็บแปลบหัวใจ...
หลังจากถ่ายรูปเสร็จ ตะวันฉายสั่งให้หรั่งเอารถกลับออฟฟิศไปก่อน ส่วนเขากับแพรวาจะไปหาของอร่อยๆกินกันแล้วจะพาเธอไปส่งเอง หรั่งมองตามหญิงในฝันขึ้นรถไปกับศัตรูหัวใจจนลับสายตา แล้วขยับจะไปที่รถ แต่ต้องชะงักเมื่อผู้จัดการร้านเวดดิ้ง เซ็นเตอร์เดินหน้าเครียดเข้ามาหา
“คุณหรั่ง ผมมีเรื่องสำคัญต้องฝากกลับไปยังบริษัท M.S. ของคุณ เกี่ยวกับธุรกิจระหว่างเรา”...
ทางฝ่ายบารมีเดินตามแผนสำรองที่วางไว้กับตะวัน-ฉาย โดยแวะไปขอให้อรทัยช่วยฝากตนเองไปทำงานที่เหมือง เธอพอจะมองออกว่าน้องชายอยากไปทำงานที่นั่นเพราะคิดจะไปตักตวงผลประโยชน์เหมือนที่เธอกับสามีแอบทำ จึงเตือนว่าอย่ามูมมามให้ใครผิดสังเกตเด็ดขาด เธอจะให้ทนงศักดิ์คอยจับตาดูเขา...
ระหว่างจะออกจากบริษัท บารมีสวนกับหรั่งที่เพิ่งกลับเข้ามาซึ่งหยุดจ้องหน้าเขาเขม็ง บารมีไม่พอใจตะคอกถามว่ามองทำไม เมื่อไหร่จะเลิกมองตนเองเสียที หรั่งจะมองจนกว่าจะจับตัวคนที่เผาบ้านของเขาได้
“ฝันไปเถอะไอ้น้อง” บารมียิ้มเย้ย ก่อนจะผละจากไป...
อรทัยถึงกับร้องเอะอะเมื่อรู้ข่าวร้ายจากหรั่งว่าทางเวดดิ้ง เซ็นเตอร์ขอยกเลิกทุกข้อตกลงที่คุยไว้กับทางเรา เพราะเราไม่ได้เป็นผู้จัดงานมหกรรมอัญมณีครั้งนี้แล้ว สมาคมผู้ค้าอัญมณีไทยและเครื่องประดับจะเป็นผู้จัดงานนี้อย่างเป็นทางการ โดยการสนับสนุนของกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
“ตัดหน้ากันเห็นๆ กัมปนาทว่าอย่างไรบ้าง”
หรั่งรายงานว่าวันนี้กัมปนาทไม่ได้ไปด้วย เขาให้เลขาฯหน้าห้องอรทัยโทร.ตามแล้ว แต่กัมปนาทไม่รับสาย ได้แต่ฝากข้อความเสียงไว้ว่าขอลาไปสิงคโปร์ไม่มีกำหนด
“ตาย...ตายกันพอดี ฉันจะเป็นคนบอกพ่อของยายแพรเอง นายออกไปได้แล้ว”...
ชาติชายหน้าเครียดไม่แพ้อรทัยเช่นกัน เมื่อได้ยินทนงศักดิ์คุยกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลของเหมืองว่าบารมีจะมาเป็นพนักงานใหม่ของที่นี่และให้ขึ้นกับทนงศักดิ์โดยตรง ส่วนจะรับผิดชอบงานด้านไหนเขาจะแจ้งมาอีกที
ooooooo
เนื่องจากบ้านหลังใหม่อยู่กลางทุ่ง ไม่มีเพื่อนบ้าน ใกล้เคียงทำให้ทุกคนไม่มีอะไรทำ น้าเบิ้มดูจะเหงากว่าใครเพื่อน ได้แต่นั่งเล่นหมากฮอสอยู่คนเดียว ขณะที่เท่ห์ เช็ง และโบ้ช่วยกันใช้หนังสติ๊กยิงขึ้นไปบนต้นมะม่วงที่มีลูกอยู่เพียงผลเดียวเพื่อฆ่าเวลา ส่วนเจ๊โอ๋เตรียมตัวจะไปตลาด แล้วจะเลยไปรับลูกๆที่โรงเรียน
หรั่งขี่มอเตอร์ไซค์กลับมาพร้อมกับถุงใส่อาหารหลากหลายชนิด ร้องทักเจ๊โอ๋ว่าจะออกไปข้างนอกใช่ไหมให้รอเขาสักครู่ จะได้ติดรถออกไปด้วยกัน แล้วหิ้วข้าวของเข้าไปเก็บในบ้าน ชวนก้อยให้กินขนมจีนน้ำยาเจ้าอร่อยที่เขาซื้อมาฝาก ก่อนจะไปหยิบจานกับขนมจีนมาวางไว้ให้ ก้อยแปลกใจทำไมวันนี้หรั่งเลิกงานเร็ว
อ่านละคร สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ตอนที่ 8 วันที่ 8 ต.ค. 56
สุภาพบุรุษลูกผู้ชายบทประพันธ์โดย ศรัณยู วงษ์กระจ่างสุภาพบุรุษลูกผู้ชาย บทโทรทัศน์โดย เมจิก อีฟ
สุภาพบุรุษลูกผู้ชายกำกับการแสดงโดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
สุภาพบุรุษลูกผู้ชายผลิตโดย บริษัท คลิกเทเลวิชั่น จำกัด
สุภาพบุรุษลูกผู้ชายแนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
สุภาพบุรุษลูกผู้ชายวันเวลาออกอากาศ ทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.30 น.
ติดตามชมละครเรื่องสุภาพบุรุษลูกผู้ชายได้ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ