อ่าน ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนอวสาน วันที่ 6 ต.ค. 56

อ่านละคร ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนอวสาน วันที่ 6 ต.ค. 56

“สำหรับคนที่ไม่เจียมตัวอย่างแก ฝันไปเถอะ! นังพนักงานกระจอก!!” พูดแล้วสะบัดไปเลย

“กระจอกเหรอ! แล้วเจอกัน...นังดาหลา!!”

เย็นนั้นเอง เมื่อรื่นฤดีรู้ว่าดาหลาท้องก็ปลอบใจว่าไม่เป็นไรเพราะหมั้นกันแล้วไม่นานก็แต่งกันถือว่านี่เป็นข่าวดีทั้งยังจะจัดฉลองให้ด้วย น้องนุชเข้ามาขัดจังหวะ บอกว่าก่อนไปฉลองกันตนอยากให้ดูอะไรบางอย่างก่อน แล้วเอาเทปวงจรปิดเปิดให้คุณชาย รื่นฤดี ชนะศึก ดาหลาและดารัณดู


พอดูคลิปเสร็จ ดาหลากรี๊ดลั่นปฏิเสธว่าไม่ใช่ตนอาจเป็นคนหน้าเหมือนเท่านั้น ดารัณช่วยแก้ต่างให้ลูกว่า ผู้ชายที่มาช่วยประคองคุณชายนั้นเป็นบ๋อยที่อยู่แถวนั้นพอดี

“บ๋อยเหรอคะ...บ๋อยคนเดียวกับคนนี้หรือเปล่าคะ” สิ้นเสียงน้องนุช แอปเปิ้ลก็เดินอาดๆเข้ามา ดาหลาแทบช็อก ดาหลาแว้ดใส่ว่ามาทำไม!

“แอปเปิ้ลก็จะมาพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า ผู้ชายที่ช่วยคุณดาหลาอุ้มคุณชายเข้าไปในห้อง เป็น ‘บ๋อย’ จริงไหมคะ” พูดแล้วหยิบมือถือของดาหลาออกมาเปิดคลิปให้ดู เป็นภาพดาหลานอนอยู่กับโชคบนเตียง!

ดาหลาช็อก คุณชายอึ้ง ส่วนรื่นฤดีถึงกับเป็นลมหงายตึง ดารัณนั่งโงนเงนเป็นลมไปอีกคน

“ถ้าดูไม่ชัด จะดูซ้ำในยูทูบก็ได้นะคะ แอปเปิ้ลช่วยโหลดให้เรียบร้อยแล้วค่ะ” แอปเปิ้ลยิ้มเยาะ

ดาหลาปราดเข้าตบแอปเปิ้ล คุณชายเข้าไปดึงดาหลาออกมา เธอกอดคุณชายร้องไห้น้ำตาเป็นเผาเต่าพูดแบบไม่ได้สติ

“ไม่จริง...คุณชายอย่าไปเชื่อมัน...มันโกหก มันใส่ร้ายดาหลา...อย่าไปเชื่อมัน ฮือๆๆโฮๆๆ”

บรรยากาศเวลานี้ ดูวุ่นวายไปหมด...

ooooooo

วันต่อมาข่าวดาหลาถูกปลดจากนางสาวไทยสยามเพราะทำตัวไม่เหมาะสมกลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ไปชั่วข้ามคืน

รื่นฤดีขอโทษคุณชายที่มองคนผิด คุณชายปรารภกับน้องนุชว่าเวลานี้พนักงานในห้างระส่ำระสายไปหมด ตนคนเดียวคงกู้วิกฤตินี้ไม่ได้ ทันใดนั้นพรเพ็ญเดินเข้ามาอย่างมุ่งมั่น ยกโทรโข่งขึ้นมาประกาศจะกลับมาช่วยกู้วิกฤติ

ที่แท้เป็นฝีมือของน้องนุชที่วางแผนและดำเนินการไว้พร้อมแล้ว คุณชายดีใจมีกำลังใจขึ้นมากแต่แล้วก็หน้าเสียเมื่อน้องนุชบอกว่าพรุ่งนี้ตนจะกลับสวิสแล้ว! จากนั้นไปลาบื้อ บื้อขอบคุณที่น้องนุชชักนำตนมาถึงจุดนี้ บอกว่าพรุ่งนี้จะไปส่ง น้องนุชพูดล้อๆว่าไม่ต้องเดี๋ยวแฟนคลับของบื้อจะหมั่นไส้เอา แล้วยกมือบ๋ายบายกันอย่างสนิทสนม

ห่านจะเอาข้าวไข่เจียวมาให้บื้อเห็นภาพนั้นถึงกับทำช้อนตก พอบื้อหันมองก็บอกหน้าเจื่อนว่าเอาข้าวไข่เจียวมาฝาก บื้อกินอย่างเอร็ดอร่อย ห่านพูดยิ้มๆว่านึกว่าเป็นซุป’ตาร์แล้วจะกินแบบนี้ไม่ได้เสียอีก

“ฉันไม่เคยเปลี่ยนแปลง” บื้อพูดหนักแน่นจริงจัง

บื้อถามห่านว่าเห็นข่าวคุณชายกับดาหลาในหน้าหนังสือพิมพ์หรือยัง ถามแล้วเห็นห่านหน้าเสีย บื้อถามใจไม่ดีว่า สงสารหรือสมน้ำหน้า ห่านไม่ตอบแต่ยิ้มเจื่อนๆ บื้ออ่านออกว่าคงสงสารเลยตื้อกินไม่ลง ห่านมองอย่างน้อยใจที่อุตส่าห์ทำมาให้แต่บื้อกินนิดเดียวเอง เลยงอนลุกไป บื้อ
มองตามงงๆ เห็นห่านลืมมือถือไว้เลยหยิบเดินตามไปให้

ห่านเดินกลับบ้านหน้างอนๆ พลันก็ชะงักเมื่อเห็นคุณชายถือกล่องใบใหญ่เข้ามา พอคุณชายเดินมาถึงก็คุกเข่าขอโทษที่ทำให้ห่านเสียใจและขอโอกาสตนสักครั้ง ยื่นกล่องให้ขอร้องให้รับไว้ ถ้าวันไหนยกโทษให้ตนเธอก็จะได้ใส่ แต่ถ้าไม่ยกโทษให้ก็โยนทิ้งไปเลย อ้อนวอนให้ห่านรับไว้ ถ้าไม่รับตนก็จะคุกเข่าอยู่อย่างนี้ ห่านจึงตัดปัญหารับไว้

บื้อหันหลังกลับอย่างผู้แพ้...

ในกล่องนั้นคือชุดเจ้าสาวหรูและรองเท้าส้นสูงสีเงิน แหม่มที่ดูอยู่ด้วยบอกว่านี่คือรองเท้าซินเดอเรลล่าที่ห่านรอคอย...บอกห่านอย่างตื่นเต้นว่า คุณชายขอเธอแต่งงาน ห่านอึ้งอย่างคาดไม่ถึง

ชุดเจ้าสาวและรองเท้าส้นสูงสีเงิน ทำให้ห่านคิดหนัก นั่งมองชุดและรองเท้าแล้วลุกไปยืนที่หน้าต่างมองไปทางห้องบื้อ เห็นปิดไฟเงียบไปแล้ว...

ooooooo

รุ่งขึ้น ห่านไปกราบขอโทษครูสมพรที่ตนเป็นคนอกตัญญูทำให้แม่ครูต้องเสียใจ ครูสมพรกอดห่านไว้บอกว่าครูไม่เคยโกรธห่าน ครูรู้ว่าห่านเป็นเด็กดีของครู

“บางครั้ง คนเราก็อาจพลั้งเผลอหรือจำเป็นต้องทำความผิดพลาดบ้าง แต่เมื่อรู้ตัวแล้วว่าผิดและแก้ไขก็ควรได้รับการอภัย” ห่านกราบครูด้วยความซาบซึ้ง “และก็ จำไว้ ห่านไม่ใช่คนอกตัญญู แต่ชีวิตคนเราก็เหมือนกับพระอาทิตย์ มีขึ้นมีลง วันนี้เราอาจเจอเรื่องเลวร้ายแต่พรุ่งนี้อาจเป็นวันที่ดีของเราก็ได้ เชื่อแม่ครูสิ คนทำดีต้องได้ดี”

ห่านตัดสินใจบอกครูสมพรว่าตนจะแต่งงาน ครูสมพรแสดงความยินดีอย่างจริงใจ เอ่ยด้วยความรักว่า

“พ่อหนุ่มผมยาวคนนั้นเป็นคนดีมาก เขาเป็นคนที่ยืนเคียงข้างห่านตลอดเวลาในช่วงที่โหดร้าย ในขณะที่บางคนเดินจากห่านไป นี่คงเป็นเรื่องที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่งในชีวิตของห่าน แม่ครูยินดีด้วยนะลูก”

แม่ครูกอดห่านไว้ด้วยความรัก ในขณะที่ห่านฟังแม่ครูแล้วอึ้งจนพูดไม่ออก

หลายวันต่อมาโย่งกับโจ๊กและลุงจ๊อดตื่นเต้นกันสุดๆ เมื่อบื้อมาบอกว่าจะไปอเมริกา โย่งถามว่าไปตั้งหลายเดือนไม่คิดถึงห่านแย่หรือ บื้อตอบเศร้าๆ ว่า “เขาคงไม่คิดถึงเรา”

ฝ่ายคุณชายกดโทร.ถึงน้องนุชเท่าไรก็ไม่ติดบ่นอย่างหัวเสียว่าไปไหนทำไมไม่รับสาย ชนะศึกบอกว่ามีเรื่องอะไรปรึกษาพ่อกับแม่ก็ได้ คุณชายบอกว่าไม่เหมือนกัน เพราะน้องนุชเป็นคนที่รู้ใจตนที่สุด ชนะศึกถามว่าแล้วห่านล่ะ? คุณชายอึ้ง ชนะศึกเดินมาตบไหล่ลูกชายพูดยิ้มๆ อย่างรู้ใจลูกชายดีว่า

“ในชีวิตเรา อาจมีหลายคนที่ชอบ แต่สุดท้ายเลือกให้ดี เพราะจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้น ที่ใช่!!”

ส่วนห่าน กลับจากแม่ครูแล้วรุ่งขึ้นเธอเอาชุดและรองเท้าส้นสูงสีเงินไปคืนคุณชาย บอกว่ามันคงไม่ใช่ของของตน ถามว่าคุณชายคงไม่โกรธตนใช่ไหม คุณชายเองก็ถามว่าห่านก็คงไม่โกรธตนสำหรับทุกอย่างที่เกิดขึ้นใช่ไหม

นาทีนี้ทั้งห่านและคุณชายต่างรู้ถึงปรารถนาแห่งหัวใจของตัวเองแล้วว่าใครคือคนที่ใช่ ทั้งสองจากกันด้วยดีสัญญากันว่า จะรักษาความเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันไว้ คุณชายเดินจากไปไม่ได้เอากล่องชุดเจ้าสาวไปด้วย ห่านจึงต้องเอากลับไป

หลังจากนั้นสองวัน คุณชายเดินทางไปหาน้องนุชที่สวิส เห็นน้องนุชกอดกับเพื่อนหนุ่มชาวต่างชาติ คุณชายถึงกับคอตก แต่เมื่อได้พบน้องนุชเคลียร์กันแล้ว ปรากฏว่าหนุ่มชาวต่างชาติคนนั้นกอดขอบใจน้องนุชที่ช่วยพูดให้คนรักแต่งงานด้วยสำเร็จ

ในที่สุด ทั้งคุณชายและน้องนุชต่างเปิดใจต่อกัน คุณชายอุ้มน้องนุชหมุนไปรอบๆด้วยความดีใจ

แต่แม้ว่าจะเปิดใจต่อกันแล้ว น้องนุชขอให้คุณชายสัญญาว่า เรายังจะสัมพันธ์กันเหมือนเดิม ไม่ต้องพูดเพราะๆ กับตน ขอให้ทำตัวเหมือนเดิม คุณชายหัวเราะเสียงดังพูดอย่างร่าเริงว่า

“โอเค...โอเค...ฉันรักแกเว้ยไอ้นุช!! เป็นแฟนกับฉันนะเว้ย...โอเคไหมวะ”

“โอเคซิวะไอ้ชาย!!” น้องนุชตอบห้าวพอกัน คุณชายอุ้มน้องนุชหมุนไปรอบตัวอย่างมีความสุข

ooooooo

ห่านเอากล่องกลับไปลองใส่ชุดเจ้าสาวและรองเท้าสีเงินให้สมกับความใฝ่ฝัน ใส่แล้วบอกกับตัวเองว่า ดูสวยแต่ไม่สบายจริงๆ

ขณะห่านกำลังมองดูตัวเองอยู่นั้น แหม่มวิ่งหน้าตื่นมาลากห่านไปดูทีวี ที่กำลังแพร่ภาพแฟนคลับของบื้อที่ไปรอส่งเขาที่สนามบินเพื่อเดินทางไปทำงานกับค่ายเพลงที่สหรัฐอเมริกา

“นายบื้อจะไปอเมริกา!! ไปหลายเดือนเลยด้วย ตาโย่งเพิ่งบอกฉัน”

ห่านแทบสติแตกร้องเรียกลุงจ๊อด โดดขึ้นรถให้พาไปสนามบินทันที ห่านนั่งกระวนกระวายกลัวไม่ทันเวลาชี้ให้ลุงจ๊อดขึ้นทางด่วน ลุงจ๊อดบอกว่ารถตุ๊กๆขึ้นไม่ได้ ห่านทนไม่ไหวกระโดดลงจากรถตุ๊กๆถลกกระโปรงชุดแต่งงานใส่รองเท้าส้นสูงสีเงินวิ่งสุดฝีเท้า แม้จะเจ็บเท้าก็กัดฟันวิ่งโขยกเขยกไปปากก็ตะโกน

“อย่าเพิ่งไปนะนายบื้อ นายต้องรอฉัน นายต้องรอฉัน...นายยังไปไม่ได้”

แต่แล้วห่านก็ทรุดนั่งอย่างหมดแรงร้องไห้โฮ เมื่อวิ่งไปเจอทางขาดไปต่อไม่ได้...

ooooooo

ห่านกลับไปที่ชายทะเลชลบุรี ทั้งที่อยู่ในชุดเจ้าสาว และรองเท้าส้นสูงสีเงิน ไปยังที่ที่เคยเดิน เคยนั่งเล่น
กับบื้อ ไปนั่งที่ชิงช้าน้ำตารินมองไปในทะเลเวิ้งว้าง...

ครู่หนึ่งยกเท้าขึ้นบีบนวดเพราะเจ็บช้ำ มองรองเท้าบ่น “ไอ้รองเท้าบ้า!! ไอ้รองเท้าซังกะบ๊วย...”

“สู้รองเท้าแตะไม่ได้เนอะ” เสียงบื้อเอ่ยขึ้น ห่านหันมอง เห็นบื้อชูรองเท้าแตะให้ดู ห่านดีใจสุดๆ แต่พอลุกขึ้นก็ทรุดลงเพราะเจ็บเท้า “ตลอดอ่ะ นี่ถ้าไม่มีฉันจะทำยังไง ยัยคอห่าน” บื้อทำเสียงดุเล่นๆ แล้วไปเอายาที่บ้านน้าตุ้มน้าเต๊ะมานวดให้ ถามว่า “ยาน้าฉัน จำได้ใช่ไหม”

“จำได้สิ จำแม่นเลย แล้วนายไม่ไปอเมริกาแล้วเหรอ” บื้อตอบกวนๆว่าถ้าไปแล้วจะเห็นหรือ ย้อนถามว่าแล้วทำไมห่านใส่ชุดนี้มา “ก็ฉันถอดไม่ทันนี่ มัวแต่จะรีบไปหานายไง”

แม้จะแกล้งทำไก๋ยั่วกันไปมาอย่างไม่กล้าพูดสิ่งที่หัวใจปรารถนา แต่ต่างก็รู้ใจกัน บื้อถามห่านว่าทำไมถึงได้มาถึงนี่

“ก็แล้วทำไมจะมาไม่ได้ล่ะ ก็นายเองเคยบอกว่าให้ฉันมาได้ตลอดเวลา มาอยู่นานๆก็ได้ อยู่ตลอดชีวิตเลยยังได้”

“แล้วจะอยู่รึเปล่า จะอยู่ไหม ตลอดชีวิตน่ะ” เห็นห่านมองๆบื้อเดาใจได้บอกว่า “ไม่มีหรอกแหวนม่งแหวน หมั้นน่ะ มีแต่นี่แหละ” พลางเอารองเท้าแตะมาสวมใส่ให้แทนรองเท้าส้นสูงสีเงินที่ใส่แล้วทรมานเท้า บอกห่านว่า “มันอาจจะไม่สวย แต่รับรองว่าใส่สบาย ไม่ทำให้เธอเจ็บหรอก ที่สำคัญ...ฉันรักจริง...”

ห่านไม่ตอบ ลุกขึ้นกระชากบื้อไปจูบอย่างแรงและเนิ่นนาน พอผละออกก็พูดขณะที่บื้อยังอึ้งอยู่ว่า

“จูบกระชากวิญญาณ ต่อไปนี้นายต้องเป็นนายซื่อบื้อ ของฉันคนเดียว” พูดแล้วต่างยิ้มแฉ่งให้กันเหมือนความรักที่บานฉ่ำในหัวใจ...

ooooooo

******อวสาน******

อ่านละคร ซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ตอนอวสาน วันที่ 6 ต.ค. 56

ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ บทประพันธ์โดย ภาคินัย บทโทรทัศน์โดย ปณธี
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ กำกับการแสดงโดย พีรพล เธียรเจริญ
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ สร้างสรรค์โดย อรพรรณ วัชรพล
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ผลิตโดย บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ เป็นละครโทรทัศน์แนว คอมเมดี้
ละครซินเดอเรลล่ารองเท้าแตะ ออกอากาศทาง สถานีโทรทัศน์สีกองทัพบกช่อง 7
ที่มา ไทยรัฐ