อ่านละคร สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ตอนที่ 14 วันที่ 27 ต.ค. 56
“นั่นเป็นแผนเดิมของป๋า...ป๋าให้นายหรั่งเอาพลอยและจิวเวลรี่ในสต๊อกของเราทั้งหมดไปขายให้คนเก่าแก่แถวเมืองจันทบุรีและเจรจากับบริษัทประกันภัย นายหรั่งเจรจาเป็นผลสำเร็จทั้งสองเรื่องเลย ผู้เฒ่าที่เมืองจันทบุรีรับซื้อของของเรา”“แต่นายหรั่งก็เกือบเอาชีวิตไม่รอด” รำไพเสริม
“โชคยังดีที่ผมได้เจอเจ้านายเก่า เขาเป็นญาติกับเถ้าแก่เส็ง”
วันนั้นที่เจ้านายเก่าของเขาช่วยชีวิตเขาไว้จากเหล่ามือสังหารและพามาซ่อนตัวที่บ้านพัก มีรถตำรวจมากมายพุ่งตรงมายังบ้านหลังนั้นอย่างเงียบเชียบ จากนั้นไม่นาน นายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ของจังหวัดพาเถ้าแก่เส็งซึ่งถูกรายล้อมด้วยตำรวจหลายสิบนายเข้ามาในบ้าน ทั้งหรั่งและเถ้าแก่เส็งจึงได้พบปะพูดคุยกันเป็นครั้งแรก
“อั๊วคุ้นเคยกับคนแซ่ตั้งมานานแสนนาน พวกเรามีบุญคุณต่อกันมาโดยตลอด ดังคำสั่งเสียของบรรพบุรุษของสองตระกูล ที่ให้ลูกหลานเรานั้นพึ่งพาอาศัยกันและกัน เพราะฉะนั้น ไม่มีความลับอะไรในตระกูลนี้ที่อั๊วไม่รู้เช่นเดียวกันที่ไม่มีอะไรที่อั๊วจะทำไม่ได้เพื่อคนแซ่ตั้ง”
“ผมจะเรียนคุณเผ่าลาภให้ครบทุกคำพูดของเถ้าแก่ครับ” หรั่งค้อมหัวอย่างนอบน้อม
ooooooo
เผ่าลาภยังคงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้แพรวาฟังอย่างต่อเนื่องว่า บริษัทประกันพบร่องรอยทุจริตในบริษัทจินดาเซอร์วิสจึงเร่งตามสืบเรื่องนี้อยู่ พร้อมทั้งยินยอมชดเชยค่าเสียหายของเรือส่งข้าวของเราทั้งหมด แพรวาอดสงสัยไม่ได้ ทำไมถึงไม่แจ้งความให้ตำรวจจัดการ ในเมื่อ พ.ต.อ.ยุทธก็สนิทสนมกับคุณป๋า
“เราวางแผนร่วมกัน ผู้การยุทธกับป๋า นายหรั่งถึงออกมาจากห้องขังได้”
แพรวาบ่นใส่หน้าหรั่งว่าเข้าไปในนั้นทำไมก็ไม่รู้ เขาจำเป็นต้องเข้าห้องขังเพื่อให้แสงเทพกับพวกตายใจ บริษัทเทพทอแสงต้องการใช้พื้นที่เหมือง M.S. เป็นฐานผลิตสิ่งผิดกฎหมายทุกประเภท งานนี้มีกลุ่มทุนต่างชาติหนุนหลังอยู่หลายรายเพราะมีข้อมูลลับว่าพื้นที่บริเวณรอบภูเขาลูกนั้นเต็มไปด้วยทองคำ
“ใครอยากจะได้ทองคำก็ช่างเขา ก็ให้เขาขุดไปจะได้จบๆ”
“มันไม่จบแค่นั้นน่ะสิครับคุณแพรวา นอกจากเอาทรัพยากรของชาติเราไปแล้ว นายแสงเทพยังมีเรื่องความแค้นส่วนตัวกับตระกูลของคุณตั้งแต่หนหลังอีกด้วย คนแถวเมืองจันทบุรีรู้รายละเอียดเรื่องนี้ดี”
“มันเป็นเรื่องเก่าตั้งแต่เฮียย้ง ลุงของหนูยังมีชีวิตอยู่ ดั้งเดิมพวกเรารักใคร่กันดี ทั้งป๋าทั้งเฮียย้งและก็นายแสงเทพเป็นเพื่อนฝูงก๊วนเดียวกัน เรามักจะนัดกันเข้าป่าล่าสัตว์อยู่เสมอๆ”
“น้องแพรเคยเห็นรูปในห้องทำงานคุณป๋า”
เผ่าลาภเล่าเพิ่มเติมว่าเฮียย้งหรือเผด็จศึกรักเพื่อนฝูงมากเสียจนเตี่ยและอาม่าคิดว่าเขาไม่รักใคร่ไยดีพ่อแม่และญาติพี่น้อง สุดท้ายก็โดนอากงไล่ออกจากตระกูล เฮียย้งจึงไปเข้าหุ้นกับนายแสงเทพทำกิจการค้าพลอย ที่เมืองจันทบุรี เพราะความชาญฉลาดและสายตาที่กว้างไกลของเขา ทำให้กิจการค้าพลอยที่นั่นประสบความสำเร็จอย่างสูง แต่ดูเหมือนจะยังไม่เป็นที่พอใจของแสงเทพซึ่งต้องการผลกำไรแบบไม่ต้องลงทุน
“เมื่อพลอยที่เมืองจันทบุรีหมด เฮียย้งเป็นผู้เสาะหาแหล่งแร่ใหม่ด้วยตัวเองจนได้ที่ดินผืนใหญ่ผืนหนึ่งที่อำเภอบ่อพลอย จ.กาญจนบุรี ซึ่งก็คือเหมือง M.S.ของเรา เฮียย้งต้องการจะทำเหมืองพลอย แต่แสงเทพตั้งใจจะใช้ที่ผืนนี้เป็นแหล่งค้าของเถื่อนและยาเสพติด ในที่สุดทั้งสองคนก็แตกคอกัน เฮียย้งชิงตัดหน้าแสงเทพซื้อที่ผืนนี้มาได้ก่อน แต่แล้ววันหนึ่งขณะที่เฮียย้งกำลังจะนำหลักฐานการค้ายาเสพติดของแสงเทพไปส่งมอบให้ตำรวจ รถของเขาก็วิ่งตกเขาไปเฉยๆ รถระเบิดไฟลุกท่วม ทั้งคันทำให้เราไม่สามารถค้นหาร่องรอยหลักฐานใดๆ ได้เลย”
หรั่งเสริมว่าคนที่เมืองจันทบุรีรู้กันดีว่าเป็นฝีมือของแสงเทพ แต่หลักฐานไม่เพียงพอให้ตำรวจเข้าจับกุมคงต้องรอให้ได้หลักฐานแบบคาหนังคาเขาเสียก่อน แพรวางงจะทำได้อย่างไร
“คนในตระกูลมหาโชคตั้งศิริ คนสุดท้ายที่มันต้องการฆ่าก็คือคุณ”
แพรวาถึงกับหน้าเสีย เผ่าลาภอธิบายแผนการให้ฟังว่า ในเมื่อแสงเทพต้องการจะซื้อกิจการของเรา ก็ให้แพรวาโทร.ไปบอกเลยว่าเราจะขายให้ แต่มีเงื่อนไขว่าเขาต้องเข้ามาพบเราก่อน
“และเมื่อถึงวันนั้น วันที่มันเดินเข้ามาตกหลุมเรา มันก็จะสารภาพทุกอย่างกับวิญญาณของป๋าเอง”
“แล้วถ้าเขาไม่มาล่ะคะ”
เผ่าลาภมั่นใจคนอย่างแสงเทพต้องมาแน่นอน...
ขณะที่เผ่าลาภ แพรวา หรั่งและรำไพกำลังวางแผนย้อนเกล็ดคู่อริเก่าแก่อยู่ที่บ้านกลางทุ่ง แสงเทพฝันร้ายเห็นวิญญาณเผ่าลาภตามมาทวงชีวิตคืน เขาหยิบปืนขึ้นมาสาดกระสุนใส่ไม่ยั้ง แต่ไม่อาจระคายเคืองร่างของเผ่าลาภที่ย่างสามขุมเข้ามาหาได้ ร่างนั้นร่อนกระดาษที่มีข้อความเขียนด้วยหมึกสีแดงว่า “มึง...ตาย”
แสงเทพพยายามปัดให้พ้นตัว แต่กระดาษเหล่านั้นยิ่งปลิวเข้าหาไม่หยุด เขาสะดุ้งตื่น เหงื่อท่วมควานไปหยิบแก้วเครื่องดื่มมากระดกแก้กระหาย พอหันเอาแก้วไปวางอีกทีเห็นกระดาษแผ่นหนึ่งเขียนข้อความแบบเดียวกับในความฝันวางอยู่ ถึงกับหน้าเสียรีบคว้ามือถือโทร.หาตะวันฉายแต่ติดต่อไม่ได้ เขาจึงโทร.หาแองจี้แทน
“ฮัลโหล นี่อาเองนะแองจี้ อาอยากพบตะวันฉาย ตอนนี้เขาอยู่กับหนูหรือเปล่า”
“อยู่...ไม่อยู่...เอาแน่ไม่ได้หรอกค่าอา...เพราะงานเขายุ่งมาก...ยุ่งกับหนูเสร็จไปยุ่งกับงาน ยุ่งกับงานเสร็จก็มายุ่งกับหนู...มันสุดๆเลยค่ะอา” แองจี้เสียงอ้อแอ้คล้ายคนเมา แสงเทพถามด้วยความเป็นห่วงว่าเป็นอะไรไปทำไมถึงพูดไม่ค่อยรู้เรื่องเมายาหรือเปล่า เธอเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกัน ต้องให้เขามาดูด้วยตัวเอง...
ครู่ต่อมา แพรวาตามหรั่งขึ้นมาดูรูปตัวเองที่ติดอยู่บนแผ่นไม้ที่ถูกชักขึ้นไปไว้บนเพดานอีกครั้ง ก่อนจะถามว่าเคยมีใครเห็นของพวกนี้บ้างไหม เขาส่ายหน้าแทนคำตอบ เธอกระเซ้าว่าอายหรือ หรั่งไม่เคยอายในสิ่งที่ตัวเองเป็น เพียงแต่ขี้เกียจอธิบายความรู้สึกในใจของเขาให้ใครฟัง แพรวาต่อว่าว่าแล้วคนอื่นจะรู้ได้อย่างไร
“ผมรู้คนเดียวก็พอแล้วครับ”
“แล้วนายเคยรู้บ้างไหมว่าคนคนนั้นจะรู้สึกอย่างไร” แพรวาว่าแล้วชี้ขึ้นไปที่รูปตัวเองบนเพดานห้อง
ooooooo
แพรวาพยายามโทร.ติดต่อตะวันฉายทันทีที่ถึงออฟฟิศ แต่ติดต่อไม่ได้ จึงฝากข้อความเอาไว้
“ตกลงว่าเราจะขายกิจการ M.S. ทั้งหมด แต่คุณต้องทำตามข้อแม้ของเรา เพียงข้อเดียวเท่านั้น เราขอพบคนที่จะเข้ามาบริหารกิจการต่อจากเราและขอพบเป็นการส่วนตัว เพราะเราอยากรู้ว่าเขาจะดูแลกิจการของเราได้ดีแค่ไหน กรุณาบอกลูกค้าของคุณให้ไปตามวันและเวลาที่เรานัดด้วย จากแพรวา”...
ด้านตะวันฉายฟังเสียงฝากข้อความของแพรวาแล้ว ยิ้มพอใจ ก่อนจะลบมันทิ้งไม่ให้เหลือหลักฐาน...
ในเวลาเดียวกัน บนศาลาสวดศพของเผ่าลาภ ขณะที่บารมีกำลังนั่งอยู่หน้าโลงศพด้วยสีหน้าหม่นหมอง ลุงแก่ๆคนเดิมซึ่งสวมหน้ากากอนามัย และสวมหมวกปีกกว้างเข้ามาเก็บกวาดทำความสะอาดอยู่ใกล้ๆ เขาจึงหันไปถามว่ารู้ไหมทำไมญาติยังไม่เอาคนตายไปฝังอีก
“เห็นว่ารอญาติพี่น้องพร้อมหน้าแล้วก็รอให้เมียหายป่วยก่อนหรือไงนี่แหละ...เป็นอะไรกับคนตายหรือ”
“เป็นน้อง...เป็นน้องเลวๆคนหนึ่งที่ทำให้พี่ชายต้องเข้าไปอยู่ในนั้น”
“อยู่ในนั้นสงบจะตาย ไม่รู้อะไร” ลุงแก่พึมพำ บารมีอยากให้พี่ชายลุกขึ้นมาอีกสักครั้ง แค่สองสามนาทีก็ยังดีจะได้มารับฟังคำขอโทษจากตนเอง หรือจะลุกมาด่าก็ได้ เขาจะได้รู้ว่าน้องเลวๆคนนี้รู้จักผิดชอบชั่วดีแล้ว และสำนึกตัวได้แล้ว เผื่อเขาจะอโหสิกรรมให้บ้าง ลุงแก่ๆ แนะให้ลองอธิษฐานดู
“ถ้าจิตเรามุ่งมั่นแน่วแน่ และตั้งอยู่บนความเป็นกุศลจิตแล้ว ปาฏิหาริย์ย่อมมีโอกาสเกิด”
บารมีทำตามคำแนะนำของลุงแก่ๆ หลับตานิ่งทำจิตใจให้สงบ ลุงแก่คนนั้นดึงหน้ากากอนามัยที่ปิดอยู่ออกเผยให้เห็นว่าเป็นเผ่าลาภนั่นเอง บารมีบ่นทั้งที่ยังหลับตาว่าไม่เห็นมีปาฏิหาริย์เลย
“มีแต่คุณไม่รู้” เผ่าลาภพูดจบหันหลังจะไปเป็นจังหวะเดียวกับบารมีเหลียวมองตามพลางร้องเรียกให้เขาหยุดก่อน เผ่าลาภชะงักฝีเท้า รีบดึงหน้ากากอนามัยขึ้นมาปิดไว้อย่างเดิม
“ฉันฝากลุงทำบุญหน่อยสิ สตางค์วางไว้ตรงนี้นะ คุยกับลุงแล้วสบายใจดี” บารมีเดินมาตบไหล่พี่ชายตัวเองในคราบลุงแก่ๆ แล้วผละจากไป เผ่าลาภมองตาม ก่อนจะเอื้อมมือไปเปิดวิทยุทรานซิสเตอร์ที่อยู่ใกล้ตัว
มีเสียงผู้ประกาศข่าวรายงานข่าวด่วนว่า บริษัทเก่าแก่อย่างจินดาเซอร์วิสซึ่งให้บริการอบและรมยาให้กับเรือบรรทุกข้าวสารมานานกว่าสี่สิบปี ตกเป็นจำเลยสังคมว่ามีเบื้องหน้าเบื้องหลังกับกลุ่มอิทธิพล ถึงขนาดเป็นเอเย่นต์ส่งยาบ้าข้ามทวีป โดยซุกไปกับเรือสินค้า
“ทางด้านโฆษกพรรคฝ่ายค้านได้แถลงต่อผู้สื่อข่าวว่าจะเดินหน้าขุดคุ้ยกรณีที่มีเสียงร้องเรียนพาดพิงไปถึงนายสุริยะ ประธานที่ปรึกษาพรรคไทยไท แกนนำรัฐบาลว่า ให้การสนับสนุนกลุ่มธุรกิจผิดกฎหมายโดยมีลูกชายเป็นตัวแทนเข้าไปรับผลประโยชน์จากธุรกิจเหล่านั้น ซึ่งรวมทั้งบริษัทจินดาเซอร์วิสที่กำลังตกเป็นข่าวอยู่ด้วย”
ooooooo
ขณะที่สุริยะถูกโจมตีอย่างหนักเรื่องความ โปร่งใส ตะวันฉายกำลังดูโปสเตอร์ที่มีรูป เผด็จศึก เผ่าลาภ และแสงเทพ โดยมีฉากหลังเป็นภาพกราฟฟิกของรถตกเขาและลิฟต์ระเบิด พร้อมกับมีตัวหนังสือสีแดงฉานเขียนว่า
“ขอเชิญร่วมสังสรรค์วันครบรอบรถตกเขา ฉลอง ความสำเร็จในการลอบวางระเบิดลิฟต์ของเรา...อย่าลืมเอาเงินติดตัวมา แล้วคุณจะรู้ว่า คราวหน้าเป็นคิวของใครกันแน่”
อ่านละคร สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ตอนที่ 14 วันที่ 27 ต.ค. 56
สุภาพบุรุษลูกผู้ชายบทประพันธ์โดย ศรัณยู วงษ์กระจ่างสุภาพบุรุษลูกผู้ชาย บทโทรทัศน์โดย เมจิก อีฟ
สุภาพบุรุษลูกผู้ชายกำกับการแสดงโดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
สุภาพบุรุษลูกผู้ชายผลิตโดย บริษัท คลิกเทเลวิชั่น จำกัด
สุภาพบุรุษลูกผู้ชายแนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
สุภาพบุรุษลูกผู้ชายวันเวลาออกอากาศ ทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.30 น.
ติดตามชมละครเรื่องสุภาพบุรุษลูกผู้ชายได้ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ