อ่านละคร สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ตอนที่ 13 วันที่ 22 ต.ค. 56

อ่านละคร สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ตอนที่ 13 วันที่ 22 ต.ค. 56

เรียกว่าดูอย่างไรก็แยกไม่ออกก็แล้วกัน...แต่ตอนนี้ เต้นรำกันก่อนดีกว่า เพลงกำลังมัน” ธนูจับซูซานทั้งโยกทั้งคลึงอยู่ตรงนั้น หัวอกกัมปนาทแทบจะระเบิดตายให้รู้แล้วรู้รอด ซูซานนึกขึ้นได้ยังไม่ได้แนะนำสุดเลิฟให้รู้จักกับเพื่อนรัก

“เดี๋ยวก่อนจ้ะโทนี่ มารู้จักเพื่อนพี่ก่อน เพื่อนรักเพื่อนเลิฟเลยล่ะ ฮิวอี้จ๊ะ หันหน้ามาทางนี้หน่อย มารู้จัก กับโทนี่ ยาหยีของฉัน” สิ้นเสียงซูซาน กัมปนาทค่อยๆหันมาเผชิญหน้ากับธนูช้าๆ “ฮิวอี้เป็นเพื่อนนักเรียนเก่าที่ฝรั่งเศส พลอยของโทนี่เนื้อจะดีเท่าของ M.S.JEWELRYหรือไม่ต้องให้ฮิวอี้เขาพิสูจน์”


“ของโทนี่เนื้อคงจะดีจริง มองตาก็รู้แล้วว่าน่าจะเชี่ยวชาญเรื่องพลอยมากเป็นพิเศษ แต่ต้องระวังจะเป็นพลอยโจรนะ” กัมปนาทแดกดันเสียงสั่น ขณะที่ซูซาน ยิ้มแย้มไม่รู้เรื่องอะไรด้วย...

ในระหว่างที่แพรวาพาเผ่าลาภมาดูดวงดาวบนดาดฟ้าของอาคาร M.S. โดยมีหรั่งคอยดูแลใกล้ชิด กัมปนาทโทร.มาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟังด้วยความเคียดแค้น แพรวาต้องขอร้องให้เขาใจเย็นๆก่อน อาจจะไม่ได้มีอะไรเลวร้ายอย่างที่เขาคิดก็ได้ กัมปนาทเล่าเพิ่มเติมทั้งน้ำตาอีกว่าอรทัยคือผู้บงการเรื่องนี้ทั้งหมด

“เธอตั้งใจจะทำลาย M.S. เธอเอาพลอยไปขายทอดตลาดกินกำไรคนเดียว น้องแพรจ๋า เราไว้ใจใครไม่ได้เลยนะ ทั้งหมดนี้มันเป็นเพราะคนของเราเองที่ไม่ดี น้องแพรต้องระวังคนใกล้ตัวให้มากนะรู้ไหม อย่าเชื่อใครง่าย อย่าใจอ่อน แล้ววันหนึ่งหลานอาจะพา M.S.ไปได้ไกลกว่านี้ อารู้ ไม่ว่าวันนั้นอาจะมีโอกาสได้อยู่ดูหรือไม่ก็ตาม” กัมปนาทวางสายทั้งน้ำตานองหน้า ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งกับพื้นหน้าคลับหรูแห่งนั้นอย่างหมดอาลัยตายอยาก...

ด้านแพรวาถ่ายทอดเรื่องราวที่กัมปนาทเล่าให้หรั่งฟังอีกทอดหนึ่ง ยอมรับว่าอรทัยเป็นอย่างที่เขาคาดไว้ไม่มีผิด กัมปนาทยังเตือนเธอว่าอย่าไว้ใจคนใกล้ตัวเป็นอันขาด หรั่งอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาหมายถึงตนเองด้วยหรือเปล่า แพรวาไม่ตอบได้แต่ยืนเครียดอยู่ตรงนั้น

ooooooo

ก้อยมีคิวไปขึ้นคอนเสิร์ตครั้งแรกตอนสายของวันนี้ ทั้งเท่ห์ เช็ง น้าเบิ้มและเจ๊โอ๋ดูจะตื่นเต้นกว่าเจ้าตัวเสียอีก โดยเฉพาะโบ้เร่งให้ทุกคนรีบขึ้นรถแท็กซี่เกรงก้อยจะไปขึ้นเวทีไม่ทัน น้าเบิ้มมัวแต่เสริมหล่อ ออกมาขึ้นรถเป็นคนสุดท้าย และไม่มีที่ว่างให้นั่งถึงกับบ่นอุบว่าจะไปอย่างไร เท่ห์ตะโกนออกมาจากในรถแท็กซี่

“มอเตอร์ไซค์ฉันก็ได้น้าเบิ้ม กุญแจอยู่บนโต๊ะ แน่ะ ไปก่อนนะ”สิ้นเสียงเท่ห์ รถแท็กซี่เคลื่อนออกไป ทันทีที่รถแล่นลับสายตา หรั่งซึ่งยืนหลบมุมอยู่ เดินมาหา น้าเบิ้มที่นั่งยองๆอยู่หน้าบ้าน

“เฮ้ย!...ไอ้หรั่ง มาตั้งแต่เมื่อไหร่ วันนี้ก้อยมันไป โชว์ดนตรี เอ็งรู้หรือเปล่า”

หรั่งพยักหน้าแทนคำตอบ แล้วฝากกล่องของขวัญ ชิ้นหนึ่งให้ก้อยด้วย เขาตั้งใจจะให้รับขวัญในวันที่เธอมองเห็น แต่คิดว่าให้วันนี้จะเหมาะกว่า น้าเบิ้มคะยั้นคะยอให้หรั่งเอาไปให้เองจะได้เห็นกับตาว่าเวลาที่ก้อยอยู่บนเวที สวยงามและมีความสุขขนาดไหน

“ให้ไอ้โบ้มันได้เห็นคนเดียวก็พอแล้ว ฉันไปล่ะ” หรั่งพูดจบ ลุกออกไป...

หลังจากเจอแต่เรื่องเลวร้าย หรั่งทนเห็นบริษัทเป็นผู้ถูกกระทำอยู่ฝ่ายเดียวไม่ได้อีกต่อไป จึงแนะให้แพรวาเปิดเกมตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามกลับไปบ้าง โดยออกหนังสือเวียนให้ทุกคนในบริษัททราบทั่วกันว่า มีคำสั่งห้ามอรทัยเข้ามาเกี่ยวข้องกับทุกๆกิจกรรมของบริษัท และให้ถือว่าเธอและครอบครัวเป็นผู้บ่อนทำลายความมั่นคงของบริษัท เช่นเดียวกับธนูและปีเตอร์ หากผู้ใดพบเห็นบุคคลดังกล่าว รวมทั้งบ่าวไพร่และบริวาร ให้แจ้งโดยตรงที่ รปภ. เพื่อทำการไล่ออกจากพื้นที่ของบริษัททันที คำสั่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป...

ทางฝ่ายอรทัยถึงกับเต้นเป็นเจ้าเข้าเมื่อทราบ คำสั่งนี้ ทนงศักดิ์แนะให้ยกทั้งครอบครัวตามไปอยู่แอลเอ กับตองดีกว่า อรทัยไม่ยอมหนีไปไหนทั้งนั้น ให้เขากับกฤษฎาไปกันสองคน ส่วนเธอจะอยู่สู้ต่อไป

“ให้มันรู้ไปสิว่า ไอ้เด็กเมื่อวานซืนอย่างมันจะ เอาชนะคนอย่างฉันได้” อรทัยว่าแล้ว เดินเลี่ยงออกไปโทรศัพท์เล่าให้ตะวันฉายฟังถึงเรื่องที่เกิดขึ้น และขอเลื่อนการขายบริษัท M.S.Group ออกไปก่อน โทษว่าเป็นเพราะเผ่าลาภคอยหนุนหลัง หรั่งถึงได้กล้าวางก้ามกับเธอ ตะวันฉายทักท้วงว่าเผ่าลาภป่วยอยู่ไม่ใช่หรือ

“ก็เพราะป่วยน่ะสิ ถึงได้โดนไอ้หรั่งมันครอบ มีอย่างที่ไหนพาคนเส้นเลือดแตกไปดูดาวได้ทุกคืน อาว่ามันต้องวางแผนคิดจะฮุบ M.S. อยู่แหงๆเลย ยายแพรเองก็เห็นดีกับมันไปหมดทุกอย่าง เดี๋ยวเถอะ เดี๋ยวต้องได้เสร็จไอ้ลูกครึ่งคนนี้แน่ หลานตะวันนั่นแหละ ไม่น่าทิ้งยายแพรไปก่อนนี่นา”

ตะวันฉายไม่ได้ทิ้ง แค่ลองใจดูเล่นๆไม่คิดว่าแพรวาจะเลิกกับตนเองจริงๆ อรทัยคิดจะยื่นฟ้องต่อศาลให้ชี้ขาดว่าใครควรจะดูแลรับผิดชอบบริษัทในเครือ M.S. ระหว่างตนเองกับแพรวา รับรองว่าตนเองต้องชนะแน่นอนถึงตอนนั้นแล้ว เราสองคนค่อยมาตกลงซื้อขายกิจการกันอีกครั้ง ขอให้ตะวันฉายใจเย็นๆอดทนรอไปก่อน

“ผมน่ะใจเย็นอยู่แล้ว แต่ไม่รู้ว่านายทุนผมเขาจะรอได้หรือเปล่าสิครับ”...

ในระหว่างที่อรทัยเตรียมเปิดศึกกับแพรวาและหรั่งอีกรอบหนึ่ง ณ เวทีแสดงดนตรีกลางแจ้ง ก้อยเปิดตัวในฐานะแขกรับเชิญพิเศษของวงดนตรีร็อก ร่วมเล่นกีตาร์กับวงได้มันสะใจ เรียกเสียงกรี๊ดจากคนดูสนั่นหวั่นไหว

ooooooo

แสงเทพนำรูปถ่ายที่มีข้อความข่มขู่มาให้ ตะวันฉายดู พร้อมกับเล่าความเป็นมาเป็นไปว่าเป็น รูปถ่ายเมื่อครั้งตนเองกับเผ่าลาภยังเป็นเพื่อนรักกัน อยู่ส่วนคนที่ยืนข้างชายต่างชาติในรูปคือพี่ชายของเผ่าลาภชื่อเผด็จศึก ซึ่งตกเขาตายด้วยฝีมือของตนเอง ส่วนพวกที่เหลือก็พากันล้มหายตายจากไปหมดแล้ว

“ใครบางคนกำลังคิดจะล้างแค้นอา ซึ่งก็ต้องเป็นคนที่ยังมีชีวิตอยู่ และก็คงเป็นคนเดียวกันกับที่ขุดเอาเรื่องของอามาแฉกับหนังสือพิมพ์” ตะวันฉายสรุป แสงเทพขบกรามแน่น เริ่มไม่ไว้ใจบารมีขึ้นมาตงิดๆ

“เขาจะรู้เรื่องพวกนี้ด้วยหรือครับ”

เจ้าพ่อธุรกิจมืดก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน หรือบางทีอาจจะเป็นตัวเผ่าลาภเองก็ได้ที่ทำเรื่องนี้ ตะวันฉายหมดข้อสงสัยแล้วว่าทำไมทางนั้นถึงเปลี่ยนใจไม่ยอมขายกิจการของบริษัท M.S. ให้ แสงเทพเห็นมีหนทางเดียวที่จะยุติเรื่องนี้คือต้องจัดการกับเผ่าลาภให้สิ้นซาก...

ค่ำวันเดียวกัน ขณะที่รำไพกำลังบอกกับเผ่าลาภที่นั่งนิ่งอยู่บนรถเข็นว่านิพนธ์ลูกชายผู้ใหญ่เต้จะแต่งงาน ทางนั้นส่งการ์ดเชิญมาให้ มีโทรศัพท์แจ้งข่าวร้ายจากโรงพยาบาลว่า กัมปนาทกินยาตายเมื่อเช้า ทั้งลินจงที่มาเยี่ยมพี่ชาย ทั้งกันทิมาและรำไพต่างช็อกไปตามๆกัน...

แพรวาเองก็ตกใจแทบสิ้นสติเช่นกันเมื่อทราบ ข่าวนี้ หนีขึ้นไปร้องไห้บนดาดฟ้าของอาคาร M.S.เพียง ลำพังท่ามกลางท้องฟ้าที่มืดมิด สักพัก หรั่งตามขึ้นมาบอกข่าวดีว่าหมอล้างท้องกัมปนาทได้ทัน ตอนนี้ปลอดภัยแล้ว แม้จะดีใจแต่แพรวายิ้มแทบไม่ออกเพราะยังทำใจไม่ได้กับเรื่องร้ายๆที่ถาโถมเข้าใส่

“มะรืนนี้มีงานแต่งงานลูกชายผู้ใหญ่เต้ที่กาญ– จนบุรี ผู้ใหญ่คนนี้เป็นคนเก่าคนแก่ในพื้นที่ รักใคร่กันดีกับคุณพ่อของคุณ เขาช่วยเราได้มากในเรื่องของกิจการเหมืองผมคิดว่าคุณควรจะไปแทนคุณพ่อ เพื่อที่...”

“พอเถอะ อย่าให้ฉันทำอะไรมากกว่านี้อีกได้ไหม ฉันเหนื่อยเกินกว่าจะรับอะไรไหวอีกแล้วนะ”

หรั่งปลอบใจว่าทุกอย่างกำลังจะดีขึ้นในอีกไม่ช้า แพรวาระเบิดอารมณ์ใส่ทันทีว่า พ่อของเธอป่วย เหมือง ไม่มีคนงาน ข้าวสารของลินจงเจ๊ง พลอยก็ขายไม่ได้หนำซ้ำอาฮุยก็มากินยาตาย เขายังมีหน้ามาบอกว่าจะดีขึ้นอีกหรือ หรั่งขอให้เธออดทนเอาไว้ แพรวาทนไม่ไหวอีกแล้ว ใครอยากจะทำอะไรเชิญทำตามสบาย เธอไม่เอาด้วยแล้ว หรั่งผิดหวังในท่าทีของเธอ ต่อว่าต่อขานต่างๆนานา หญิงสาวปล่อยโฮอย่างอัดอั้น

“ฉันเป็นผู้หญิงนะ ฉันไม่ได้กล้าหาญ เข้มแข็ง อย่างนายนี่ นายมันก็เหมือนคุณป๋านั่นแหละ ทำอะไรๆได้ ทุกอย่าง แต่ไม่เคยเข้าใจหัวอกลูกผู้หญิงเลยสักนิด ฉันบอบบาง ฉันต้องการทะนุถนอม ผู้หญิงที่ถูกผู้ชายทิ้งอย่างฉันยังจะให้เข้มแข็งอยู่ได้อย่างไร” แพรวาตัดพ้อน้ำตานองหน้าหรั่งสงสารเธอจับใจ ได้แต่ยืนอึ้ง

“นายเคยคิดบ้างไหมว่าผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างฉันต้องการอะไร...จะบอกให้นะถ้าฉันเป็นผู้ชาย ฉันจะเข้า ไปใกล้ๆผู้หญิงที่กำลังร้องไห้อยู่ตรงหน้า จะยกมือขึ้น ปาดน้ำตาที่กำลังไหลริน จะเอียงไหล่มาให้เธอเอาหน้าซบจะใช้สองแขนค่อยๆโอบเธอไว้แน่นๆ เพื่อให้เธอรู้สึกปลอดภัย จะมองเธอด้วยสายตาอ่อนโยน จะกุมมือเธอไว้ จะยิ้มอย่างให้กำลังใจและจะกระซิบกับเธอว่าจะไม่มีวันปล่อยให้เธอต้องรู้สึกโดดเดี่ยว”

หรั่งค่อยๆเช็ดน้ำตาให้ ดึงมือแพรวามากุมไว้ก่อนจะกระซิบข้างหู “หลับตาสิ แล้วผมจะเป็นทุกอย่างที่คุณอยากให้เป็น จะอยู่เคียงข้างคุณตลอดไป จะเป็นกำลังให้คุณตราบสิ้นลมหายใจ” แล้วดึงเธอมากอดไว้แน่น

ooooooo

แพรวายังคงหลับตาซุกหน้ากับอกหรั่งอยู่บนดาดฟ้าของอาคาร M.S. พึมพำเบาๆว่าถ้าวันนี้เธอไม่มีเขาไม่รู้ชีวิตจะเป็นอย่างไร หรั่งให้คำมั่นว่าเธอจะมีเขา วันนี้เดี๋ยวนี้และตลอดไป

“ฉันไม่อยาก มั่นใจอะไรอีกแล้ว ฉันอยากหลับตาอยู่อย่างนี้ไม่อยากตื่นมาพบกับความเป็นจริงที่เลวร้ายอีกเลย แม้แต่นิดเดียว” แพรวาเบียดตัวเข้าไปในวงแขนของหรั่งแน่นขึ้นอีกราวกับต้องการที่พักพิง เขาตอบรับท่าทีของเธออย่างทะนุถนอมสุดชีวิต...

เสร็จจากคอนเสิร์ต มีการเลี้ยงอาหารค่ำให้กับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ขณะที่ เท่ห์ เช็ง เจ๊โอ๋กับน้องๆทั้งสามคนของโบ้กำลังเอร็ดอร่อยกับการกิน โบ้แอบเอาดอกไม้ช่อใหญ่จะมาแสดงความยินดีกับก้อย แต่ยังสรรหาคำพูดโดนๆไม่ได้ ตัดสินใจคุกเข่าลงตรงหน้าหญิงสาว ไม่ทันจะเอ่ยปากอะไร หัวหน้าวงร็อกเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน

โบ้ลุกพรวด รีบเอาช่อดอกไม้ซ่อนไว้ด้านหลัง หัวหน้าวงร็อกชมก้อยไม่หยุดปากว่าเล่นกีตาร์ได้เก่งมากและอยากจะให้เธอไป ทัวร์คอนเสิร์ตกับพวกตนหนึ่งปี ต้องให้เขาขออนุญาตจากใคร คนที่ชื่อหรั่งหรือเปล่า ก้อยอ้ำๆอึ้งๆตัดสินใจไม่ถูก โบ้ตอบคำถามแทนที่ว่าเธออนุญาตได้ด้วยตัวเอง

“เยี่ยมเลย ถ้าอย่างนั้นพี่วางคิวทัวร์คอนเสิร์ตเรียบร้อยแล้วจะนัดซ้อมกันอีกทีนะ”

จังหวะ นั้น เท่ห์กับเช็งวิ่งเอาซองใส่เงินค่าตัวมาให้ ก้อย และจะขอมีเอี่ยวด้วยครึ่งหนึ่งเป็นค่านายหน้า เจ๊โอ๋พรวดเข้ามาคว้าซองใส่เงินไปจากมือเท่ห์ อาสาจะถือเงินไว้ให้เอง หัวหน้าวงร็อกชวนโบ้ เช็งและเท่ห์ไปเป็นเด็กยกเครื่องให้กับวงดนตรี มีค่าแรงให้ด้วย เท่ห์คุยอวดว่าตัวเองทำได้มากกว่านั้น แล้ววาดลวดลายหางเครื่องให้เขาดู หัวหน้าวงดนตรีได้แต่ยิ้มๆ แล้วขยับจะไปแต่นึกอะไรขึ้นมาได้ หันมากระเซ้าโบ้

“แล้วจะถือดอกไม้ไว้อย่างนั้นทำไม อยากให้ก้อยก็ให้เลยสิ เดี๋ยวก็เหี่ยวเสียก่อนหรอก”...

ใน ขณะที่ก้อยได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรัก หรั่งและแพรวายังคงยืนกอดกันอยู่ ณ จุดเดิม จนเห็นสมควรแก่เวลาเขาจึงชวนเธอกลับบ้าน แพรวาอดเป็นกังวลไม่ได้ ต่อจากนี้ไปเราจะมองหน้ากันอย่างไร

“แล้วแต่ใจของคุณครับ แต่สำหรับผมแล้ว ผมมองคุณแบบเดียวกันนี้มาเกือบยี่สิบปีแล้วครับ”

แพรวาผละจากอ้อมกอดหรั่ง มองสบตาเขาอย่างลึกซึ้ง “ฉันมัวแต่มองอะไรอยู่นะ ตั้งเกือบยี่สิบปี”...

ทาง ฝ่ายตะวันฉายไม่รอช้ารายงานให้แสงเทพทราบถึงแผนการกำจัดเผ่าลาภว่า ส่งคนที่เขาไว้ใจได้เข้าไปเป็น รปภ.แทนคนเก่าของอาคาร M.S. เรียบร้อยแล้ว อาศัยเส้นสายจากเพื่อนรุ่นพี่ที่อยู่ในบริษัทรักษาความปลอดภัยจัดการให้ ทั้งสองคนมัวแต่หัวเราะชอบใจที่แผนการขั้นแรกผ่านไปด้วยดี ไม่ทันสังเกตเห็นบารมีหลบมุมแอบฟังด้วยความสนใจ

ooooooo

ในเวลา ไล่เลี่ยกัน หรั่งขับรถพาแพรวาออกจากใต้ถุนอาคาร M.S. รปภ.หน้าตาไม่คุ้นวิ่งมาเปิดประตูรั้วให้แล้วโน้มตัวมาถามเขาว่าคืนนี้จะพา ท่านประธานมาดูดาวหรือเปล่า

“เหมือนเดิม...เพิ่งมาอยู่ใหม่หรือ”

“ผมมาแทนพี่เขาสองวันครับ”

หรั่งพยักหน้ารับรู้ แล้วเคลื่อนรถออกไปโดยไม่เอะใจว่ากำลังจะมีเหตุร้ายเกิดขึ้น...

ตะวัน ฉายยังคงอธิบายแผนสังหารเผ่าลาภให้ แสงเทพฟังอยู่ที่มุมส่วนตัวภายในบ้านของฝ่ายหลังว่า รปภ.ที่เขาส่งไปคนนี้ จะคอยสังเกตการณ์ความเป็นไป วันไหนบ้างที่หรั่งจะพาเผ่าลาภขึ้นไปดูดาวบนดาดฟ้าอาคาร M.S. ส่วนหน้าที่หลังจากนั้นจะอยู่ที่คนของแสงเทพ

“ไม่ต้องห่วงหรอกหลานชาย เรื่องพวกนี้ไอ้ปื๊ด เก่งอยู่แล้ว มันจะเล็ดลอดเข้าไปถึงภายในอาคาร จากนั้น ไอ้ปื๊ดจะตรงไปที่ลิฟต์โดยสารส่วนตัวของไอ้ตงเพื่อติดตั้ง อุปกรณ์สำคัญ ทันทีที่ลิฟต์เคลื่อนตัวไปถึงชั้นดาดฟ้า ก็จะเป็นเวลาที่ระเบิดทำงานพอดี”

“ใครเป็นคนกดระเบิดครับ”

แสง เทพว่าไม่มีใครทำหน้าที่นี้ เพราะทุกอย่างทำงานโดยอัตโนมัติ เริ่มนับถอยหลังเมื่อมีคนกดเรียกลิฟต์และจะระเบิดเมื่อลิฟต์ถึงชั้นดาดฟ้า ระเบิดลูกแรกจะทำให้สลิงขาด ลิฟต์ตกลงมากระแทกพื้น ระเบิดลูกที่ สองจึงทำงานเพื่อผลาญทุกอย่างให้เป็นจุณ ชนิดไม่เหลือซากสำหรับกองพิสูจน์หลักฐานแม้แต่น้อย

“คุณอาจะลงมือเมื่อไหร่”

“พรุ่งนี้ สี่ทุ่ม นั่นคือเวลาที่ไอ้หรั่งพาไอ้ตงมาที่ตึก...ทีนี้แหละ ไอ้ตง...ตายแน่”

“ตาย บนดาดฟ้าขณะขึ้นไปดูดาว กลายเป็นดาวประดับฟ้า” ตะวันฉายพูดจบ หัวเราะร่วนอย่างมีความสุขเช่นเดียวกับแสงเทพ บารมีซึ่งแอบฟังอยู่โดยตลอดถึงกับหน้าเครียด

ooooooo

หรั่งลุกขึ้น แต่งตัวแต่เช้า เตรียมเดินทางไป จ.กาญจนบุรีกับแพรวา เขาหวนนึกถึงเหตุการณ์บนดาดฟ้าเมื่อคืน คิดถึงหญิงในฝันที่หลับตาพริ้มอยู่ในอ้อมกอดของตัวเอง และยังจำคำพูดที่บอกเธอให้หลับตาให้สบายนานเท่าไหร่ก็ได้เท่าที่ใจปรารถนา เมื่อใดที่ลืมตาขึ้นมา เขาจะอยู่ตรงหน้าเธอเสมอ

“ฉันถือเป็นคำสัญญานะ”

“มัน คือคำสาบานครับ” หรั่งหลับตาลงราวกับจะให้ภาพนั้นติดตรึงอยู่ในความทรงจำ แต่แล้วต้องชะงักเมื่อภาพ รปภ.คนใหม่ที่เจอกันเมื่อคืนผุดขึ้นมาแทนที่ เขาเริ่มเอะใจว่าต้องมีเรื่องไม่ชอบมาพากล...

ในเวลาเดียวกัน รำไพเข้ามาช่วยแพรวาเก็บกระเป๋าเสื้อผ้าและบอกให้ค้างที่บ้านพักรับรองใน เหมือง ชาติชายเตรียมปัดกวาดเช็ดถูไว้ให้แล้ว เธออิดออดไม่อยากไป รำไพขอให้คิดเสียว่าไปทำหน้าที่แทนคุณพ่อ เผื่ออะไรๆ ทางโน้นจะได้ดีขึ้น เห็นชาติชายว่าพวกชาวบ้านในพื้นที่เริ่มจะเอนเอียงมาอยู่ข้างเดียวกับเรา แล้ว

“ต้องไปเพราะเหตุผลทางธุรกิจนี่เอง”

“มันก็ไม่ใช่เพราะธุรกิจ ทั้งหมดหรอกลูก เป็นเรื่องน้ำใจด้วย คู่บ่าวสาวที่เขาแต่งงานกัน เขาก็อยากให้คนมาร่วมงานเขาเยอะๆเป็นหน้าตาเป็นเกียรติสำหรับเขานะลูก เอาของขวัญไปให้เขาแทนคุณป๋าหน่อยนะ”

แพรวาไม่อยากทิ้งพ่อไปไหนไกลๆ รำไพติงแค่คืนเดียวเท่านั้นเอง ท่านจะให้ส้มเด็กรับใช้ไปกับลูกด้วย ส่วนหรั่งก็ให้นอนเรือนเล็ก อีกสักพัก เขาคงจะมารับ เร่งให้ลูกจัดกระเป๋าเร็วๆแล้วขอตัวไปบอกส้มให้เก็บเสื้อผ้าจะได้ไม่เสีย เวลา ทันทีที่รำไพออกจากห้อง หรั่งโทร.มาบอกแพรวาว่าคงจะไปกาญจนบุรีด้วยไม่ได้ บังเอิญมีธุระสำคัญ ต้องขอโทษเธอด้วย แพรวาตัดพ้อ ผ่านมายังไม่กี่ชั่วโมง เขาคิดจะผิดคำสาบานแล้วหรือ

“มันจำเป็นจริงๆครับ น้าหยามจะขับรถให้คุณแทนผม และขอให้คุณจำไว้ด้วยว่า ถ้าไม่ใช่เรื่องสำคัญ ผมไม่มีวันผิดคำสาบาน”

“ให้ฉันลืมเรื่องทั้งหมดที่นายพูดเมื่อคืนนี้ ดูจะง่ายกว่าให้จำคำแก้ตัววันนี้ของนาย”

“แล้ว คุณจะรู้เองคุณแพรวาว่าทำไมผมต้องตัดสินใจอย่างนี้” หรั่งวางสายทันที แหงนดูภาพของหญิงในฝันบนเพดานได้แต่หวังว่าเธอจะเข้าใจการกระทำครั้งนี้ของ ตนเอง...

ทางด้านบารมีหยิบมือถือขึ้นมาจะโทร.เข้าเบอร์บ้านเผ่าลาภ หวังจะเตือนให้พี่ชายรู้ตัวว่ากำลังถูกปองร้าย ขณะกำลังเรียบเรียงคำพูดอยู่นั้น แสงเทพเดินเข้ามาจากด้านหลัง

“คุณบารมี โทร.ไปไหนน่ะ ไม่เห็นพูดอะไรสักคำเลย”

บารมี รีบวางสาย อ้างว่าปลายทางไม่ว่าง แสงเทพ อยากให้เขาช่วยขับรถพาไปล่าสัตว์ บารมีรับคำด้วยความกระอักกระอ่วนใจและไม่สบายใจอย่างยิ่ง

ooooooo

อ่านละคร สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ตอนที่ 13 วันที่ 22 ต.ค. 56

สุภาพบุรุษลูกผู้ชายบทประพันธ์โดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย บทโทรทัศน์โดย เมจิก อีฟ
สุภาพบุรุษลูกผู้ชายกำกับการแสดงโดย ศรัณยู วงษ์กระจ่าง
สุภาพบุรุษลูกผู้ชายผลิตโดย บริษัท คลิกเทเลวิชั่น จำกัด
สุภาพบุรุษลูกผู้ชายแนวละคร : ดราม่าเข้มข้น
สุภาพบุรุษลูกผู้ชายวันเวลาออกอากาศ ทุกวันจันทร์ และวันอังคาร เวลา 20.30 น.
ติดตามชมละครเรื่องสุภาพบุรุษลูกผู้ชายได้ทางช่อง 7 สีทีวีเพื่อคุณ
ที่มา ไทยรัฐ