อ่านละครเรื่อง สายธารหัวใจ ตอนที่ 5 วันที่ 31 ต.ค.60

อ่านละครเรื่อง สายธารหัวใจ ตอนที่ 5 วันที่ 31 ต.ค.60

ประคองสงสารลูกจับใจ ปลอบว่าลูกไม่ผิดและเคืองแค้นปฐวีที่ทำร้ายจิตใจละมุลไม่หยุดหย่อน ตัดสินใจโทรศัพท์หาณรังค์...

ณรังค์มาทำงานกำลังจะเข้าห้องทำงาน สิริกันยาลุกขึ้นไหว้แล้วรายงานอย่างคล่องแคล่วว่า “นัดประชุมคุณวิเชียรและลงนัดในตารางงานเรียบร้อยแล้ว ประเด็นการประชุมคือ นัดประชุมสายการบินและ ATTA สมาคมไทยธุรกิจท่องเที่ยว TTAA สมาคมไทยบริการท่องเที่ยว ATTO สมาคมผู้ประกอบการนำเที่ยวแห่งประเทศไทยค่ะ”

ณรังค์พยักหน้าแอบยิ้มในใจที่สิริกันยาขวนขวาย... ประคองโทร.เข้ามา ณรังค์รับสายฟัง ประคองขอร้องให้รับปากสัญญาว่าจะดูแลละมุลให้ดีที่สุด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นจะไม่ทิ้งน้อง เขาสัญญา ประคองย้ำโดยในใจหวังให้แผนของปฐวีไม่ราบรื่น



“แม่รู้ว่าณะเป็นคนรักษาสัญญา ถ้าอย่างนั้นต่อไปนี้ ไปรับไปส่งละมุลให้แม่ได้ไหม แม่เป็นห่วงน้อง แม่กลัว แม่อยากให้ละมุลอยู่ในสายตาและใกล้ชิดณะให้มากที่สุด”

ณรังค์รับคำอย่างไม่มีทางเลี่ยง แล้วต้องมากลุ้มใจที่จะไม่มีเวลาเป็นตัวของตัวเอง

ooooooo

เมื่อแม้นเทพเห็นปฐวีแต่งตัวจะออกไปข้างนอก ก็ดักคอ ที่อยากไปนอนโรงแรมเพราะต้องการอยู่ใกล้ณรังค์ อย่าลืมที่ตนเตือนไว้ ปฐวียิ้มเจ้าเล่ห์

“ท่านพ่ออย่ามองหญิงในแง่ร้ายสิเพคะ หญิงมีเหตุผลอย่างที่พูดจริงๆ แต่ถ้าท่านพ่ออยากจะคิดก็ช่วยไม่ได้ เพราะก็อย่างว่าณะเองก็ตัวเปล่าไม่ได้มีใคร ท่านพ่อก็เลยไม่ไว้ใจ ใช่ไหมเพคะ สงสัยต้องรีบยุให้ณะมีแฟนซะแล้วล่ะมั้ง จะได้ไม่มีใครคิดอกุศล!”

แม้นเทพรู้สึกจุกที่โดนลูกสาวตอกกลับพยายามทำใจให้เย็นเพื่อไม่ให้อาการกำเริบ แต่ก็คิดตามสิ่งที่ปฐวียุ

บ่ายวันนั้นปฐวีและเกียรติศักดิ์พาลูกน้องสองสามคนมาที่บ้านสิริกันยา เจ๊หวานเห็นไม่ชอบมาพากลรีบโทร.ไปรายงานสิริกันยาพร้อมถ่ายรูปส่งมา เธอตกใจมากจะรีบกลับบ้าน ณรังค์เห็นสิริกันยาร้อนรนก็เข้ามาถามมีอะไร เธอเอารูปในมือถือให้ดูสีหน้าร้อนใจ

ศรีนวลเดินมามองปฐวี เกียรติศักดิ์และลูกน้องที่ประตูด้วยความแปลกใจ...ระหว่างสิริกันยานั่งมาในรถกับณรังค์ก็คุยมือถือถามข่าวคราวเจ๊หวานตลอดทาง พอรู้ว่าปฐวีกับเกียรติศักดิ์เข้าไปในบ้านก็ร้อนใจ บอกให้เจ๊หวานตามเข้าไป เจ๊หวานขยาด

“เจ๊กลัวว่ะ มีคนเฝ้าหน้าบ้าน ท่าทางดุฉิบ”

สิริกันยารีบติดสินบน “หนูเหมาขนมจีบเจ๊ห้าวันเลย...เยอะไป สองวันพอ เข้าไปดูย่าให้หนูก่อนระหว่างรอหนูไปถึง”

“เฮ้ย! ไม่ต้อง เจ๊ทำดีไม่เคยหวังผล...จัดไป”

ณรังค์แอบขำที่สิริกันยายอมทุ่มเพราะความรักย่า เธอหันมาบอกให้เขากระทืบเลย

“กระทืบใคร...ในรถมีแต่คุณ”

“กระทืบคันเร่ง!”

“โอเค ผมจะรีบ อย่ากระทืบเลย อันตราย”

สิริกันยาจึงบอกจะอย่างไรก็ได้แต่ขอให้ถึงเร็วที่สุด รถณรังค์แล่นเร็วขึ้น...เจ๊หวานทำใจกล้าจะเข้าไปในบ้าน ถูกลูกน้องที่เฝ้าหน้าบ้านกันไม่ให้เข้าแถมโชว์ปืนที่เหน็บเอว เจ๊หวานจึงล่าถอยกลับโทร.รายงานสิริกันยาด้วยความร้อนใจ สิริกันยาสวนไปว่า

“ก็แค่ปืน อย่ากลัวเจ๊”

“กลัวเห้อะ...” เจ๊หวานเสียงสั่น

สิริกันยาหันมาพูดกับณรังค์ “อย่าโกรธถ้าฉันขอไม่เกรงใจ...ถ้าไม่ถึงบ้านฉันภายในสิบนาที ฉันจะแจ้งตำรวจ ไม่สนแล้วว่าจะลูกใครหลานใคร อยากจะกร่างก็ไปกร่างที่อื่น วันนี้...ไม่ใครก็ใครต้องพังกันไปข้างนึง!”

ณรังค์เครียดที่หญิงสาวดูจะเอาเรื่องจริงๆ รีบบึ่งรถไปให้ทัน ในใจโกรธปฐวีเป็นที่สุด...ในขณะที่ปฐวีกับเกียรติศักดิ์เข้ามานั่งในบ้าน ขู่ศรีนวลด้วยคิดว่าจะกลัวลนลานและทำตาม เกียรติศักดิ์ชวนกลับ คุณหญิงพยักหน้ารับ

“หญิงไม่ได้อยากอยู่นานนักหรอก เห็นแล้วยิ่งสมเพช อยู่กันแบบนี้นี่เอง มิน่าถึงได้สั่งได้สอนกันแบบนั้น...ก็เข้าใจนะว่าความหวังในชีวิตมันไม่ค่อยมี นอกจากรอถูกหวย ก็ไม่รู้จะลุ้นกับอะไรได้อีก นอกจากไล่จับผู้ชายรวยๆ”

ศรีนวลนั่งฟังอยู่นาน กำหมัดแน่นเงียบๆ พอปฐวีลุกขึ้นจะกลับ ก็ลุกตามเรียกไว้มองแก้วน้ำที่วางเสิร์ฟ แล้วด่าขี้ขลาด...ปฐวีหันกลับมาเขม่นมอง เกียรติศักดิ์เตือนให้ระวังปาก

“เอ็งก็เหมือนกัน เหลือความภูมิใจในตัวเองบ้างไหม เดินตามชายกระโปรงนังนี่ต้อยๆ ถ้าไม่รู้มาก่อนว่าเป็นว่าที่คู่หมั้น จะคิดว่าเป็นหมาที่นังนี่มันเลี้ยงไว้”

เกียรติศักดิ์หน้าชา ปฐวีโกรธจิกเรียก อีแก่!...ขาดคำศรีนวลคว้าแก้วน้ำสาดใส่หน้าทั้งสองคน ตวาดกลับพร้อมหยิบถาดมาถือไว้เป็นอาวุธ

“เออ กูแก่ แก่ขนาดนี้แต่พวกมึงก็ยังจะรังแก ถุย!...อย่าคิดว่าขู่แค่นี้แล้วจะกลัว มึงเข้ามา”

พวกลูกน้องที่ยืนหน้าบ้านได้ยินเสียงศรีนวลเรียกหมาเฝ้าบ้านหน้าเหี้ยมเข้ามาก็สะดุ้งรู้ว่าเป็นพวกตน ปรี่เข้าไป เจ๊หวานตกใจรีบโทร.รายงานสิริกันยา รถณรังค์มาถึงพอดี สิริกันยาไม่รอช้าวิ่งเข้าไปในบ้าน เจ๊หวานเอาป้ายหยุดพักห้ามใครขโมยตั้งที่แผงขายของก่อนจะวิ่งตามเข้าไป...เกียรติศักดิ์กำลังห้ามลูกน้องไม่ให้ทำอะไรศรีนวล หญิงชรายังด่ากราด

“เรียกตัวเองว่าผู้ดี ไฮโซ แต่ทำตัวไม่ต่างจากพวกอันธพาล พาพวกมาเยอะ จะรุม คิดว่ากูกลัวเรอะ...มึงออกไปเลย ไม่งั้นกูแจ้งตำรวจแน่ ข้อหาบุกรุก”

“ใจเย็นก่อนยาย ผมไม่ทำอะไรยายหรอก มาคุยด้วยดีๆ ยายทำตามที่คุณหญิงบอกซะเถอะ จะได้ไม่มีปัญหา”

“กูไม่ทำ!”

สิริกันยาและเจ๊หวานวิ่งเข้ามาปราดไปยืนข้างผู้เป็นย่า ถามอย่างห่วงใยเป็นอะไรหรือเปล่า ปฐวีหน้าเจื่อนเมื่อเห็นณรังค์วิ่งเข้ามาไม่คิดว่าเขาจะตามมาด้วยอีกคน

ooooooo

เมื่อศรีนวลเห็นว่าณรังค์มาที่บ้านตนด้วย จึงประกาศกร้าวกับปฐวีและเกียรติศักดิ์ว่า

“มาก็ดีแล้ว ประกาศตรงนี้เลย ถ้านังกันยามันจะออกจากงาน ก็ต้องถูกเจ้านายมันไล่ออกเพราะมันทำงานไม่ดี ไม่ใช่เพราะใครมาขู่ให้ออก”

“นี่เล่นกันอย่างนี้เลยเหรอ!” สิริกันยาได้ฟังโกรธมาก

ปฐวีไม่สะทกสะท้านขึ้นเสียงกลับว่า...มากกว่านี้ตนก็จะทำ สิริกันยาปรี๊ดคว้าขวดน้ำสาดใส่ปฐวีและเกียรติศักดิ์ พร้อมกับไล่ตะเพิดให้กลับไป ศรีนวลสำทับสาดให้หมดเดี๋ยวตนจะล้างบ้านไล่เสนียดจัญไรด้วย ปฐวีเต้นผางด่ากราด...นังสลัม

“เคยเจอสลัมตบด้วยถาดนี่ไหม” สิริกันยาดึงถาดจากมือศรีนวล

ปฐวีถอยหนีสั่งลูกน้อง “แกจะยืนเฉยทำไม ไม่เห็นเหรอมันทำอะไรฉัน”

เกียรติศักดิ์ยกมือห้าม จังหวะเดียวกันณรังค์เข้ายืนขวางเสียงเข้มใส่ปฐวี...ถ้าแตะต้องคนในบ้านนี้แม้แต่ปลายนิ้ว ตนจะแจ้งความทันที เกียรติศักดิ์มองท่าทีปฐวีว่าจะจัดการอย่างไร

“ปกป้องมันซะขนาดนี้ ไม่ต้องตอบคำถามของหญิง หญิงก็พอจะรู้คำตอบของณะ” ปฐวีเจ็บใจไม่ได้กลัวคำขู่ของณรังค์ ขณะเดียวกันสิริกันยาสงสัยว่าคำถามอะไร

ณรังค์หันมาถามศรีนวลว่าโดนขู่อะไร หญิงชราสาธยายว่า ถ้าหลานสาวไม่ลาออก จะให้แก๊งทวงหนี้ตามมาที่นี่ แต่ตนยอมตาย ไม่ยอมก้มหัวให้พวกนี้รังแก...ศรีนวลแย่งถาดกลับมาจะสู้

ณรังค์บอกปฐวีให้โทร.เรียกพวกนั้นมาตอนนี้เลย สองยายหลานตกตะลึง สิริกันยากระซิบณรังค์ว่าถ้ามาตอนนี้ตนหนีไม่ทันแน่

“คุณไม่จำเป็นต้องหนี อย่าปล่อยให้ความผิดพลาดของคุณถูกใช้เป็นเครื่องมือต่อรองให้คนอื่นเอามาทำร้าย...ผมจะใช้หนี้ให้คุณเอง”

ทุกคนคาดไม่ถึงว่าณรังค์จะใช้วิธีนี้ ปฐวีจ้องเขม็งไม่พอใจ เกียรติศักดิ์แอบยิ้มสะใจ...สองผู้บุกรุกจำต้องล่าถอยพร้อมลูกน้อง พอมาถึงหน้าบ้าน ปฐวีเห็นสีหน้าว่าที่คู่หมั้นมีรอยยิ้มก็กราดเกรี้ยวใส่ว่าพอใจหรืออย่างไร เขารับว่า...ใช่ เธอยิ่งโกรธ

“คุณเกียรติศักดิ์ คุณอยู่ข้างใครกันแน่!”

“ผมอยู่ข้างคุณหญิงเสมอ ที่ผมพอใจ ผมพอใจที่เห็นคุณกับไอ้เด็กในบ้านเป็นศัตรูกันต่างหาก ไม่ได้พอใจที่เห็นคุณหญิงเสียหน้าที่บีบผู้หญิงคนนั้นไม่สำเร็จ...ก็ดีนะ เห็นแบบนี้ ถ่านไฟเก่าระหว่างคุณหญิงกับมันคงจะคุยาก เพราะดูท่าทางมันกำลังจุดไฟกับผู้หญิงคนนั้นแทน ไม่งั้นคงไม่ออกตัวช่วยขนาดนี้ ก็เหมาะสมกันดี เด็กในบ้านกับผู้หญิงสลัม”

ปฐวีเจ็บแค้น เกียรติศักดิ์รู้ยิ่งตอกย้ำเพื่อให้เธอยอมรับความจริงเสียที “ผมจะเตือน อย่าประเมินคนอย่างผู้หญิงคนนั้นต่ำไป เห็นย่าเขาไหม สู้คนจนลืมตายยังไง ผมว่าหลานก็คงไม่ต่างกัน อยู่เฉยๆดีกว่า ไม่งั้น...สักวันจะไม่เหลือหน้าให้เสีย”

“ก็ให้มันรู้ไปสิว่าหญิงจะกดคนอย่างมันให้อยู่ใต้เท้าของหญิงไม่ได้”

เกียรติศักดิ์ว่าจะลดตัวไปมีเรื่องกับคนพวกนั้นทำไม ทำไปเด็กในบ้านก็ไม่มีทางหันกลับมาหา ปฐวีเข่นเขี้ยว ตอนนี้ตนทำเพื่อความสะใจอย่างเดียว ชายหนุ่มถอนใจสุดท้ายก็ต้องตามใจเธออยู่ดี

ด้านสิริกันยาไม่ขอรับเงินของณรังค์ อ้างไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณ ชายหนุ่มจึงเสนอว่าไม่ได้ให้เปล่าแต่จะใช้หักเงินเดือนจนกว่าจะครบจำนวน ศรีนวลชอบใจตกปากรับคำทันที

“ย่าอ่ะ...” สิริกันยายังโยกโย้

“อะไรอีกล่ะวะ หรือว่าเอ็งจะอยู่รอความตาย บอกไว้ก่อนนะ ข้าไม่มีแรงหนีแล้ว อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิดเถอะ...นังหวาน วัดแถวนี้มีเมรุเผาศพไหม”

“ไม่มีอ่ะ ต้องเลยไปอีกถึงจะมี จะสวดกี่วันย่า” เจ๊หวานคล้อยตามเป็นปี่เป็นขลุ่ย

สิริกันยาโอดครวญว่าย่าจะรีบตายไปไหน ศรีนวลสวนจะเอาอย่างไร จะให้ตนตายคาตีนแก๊งทวงหนี้ไหม ณรังค์สรุปให้ว่า

“ในเมื่อมันมีทางแก้ปัญหา ทำไมไม่เลือก ติดอะไร...ศักดิ์ศรีรึ เป็นหนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก เข้าใจได้ แต่ถ้าเป็นหนี้แล้วไม่ชดใช้นี่สิแปลกและน่าดูถูก”

“ก็ได้ค่ะ...” สิริกันยาเสียงอ่อย

“นึกว่าที่พูดจะไม่ซึมเข้าหัวซะอีก”

สิริกันยาถลึงตาใส่ก่อนจะค้อนให้วงใหญ่ ศรีนวลกับเจ๊หวานดีใจ ณรังค์โล่งอกแต่ก็แอบหนักใจเกรงว่าปฐวียังไม่ยอมจบ

ooooooo

ณรังค์กับสิริกันยาเดินออกจากบ้านจะกลับไปทำงานต่อ สิริกันยาเดินตามกระชั้นชิด จู่ๆณรังค์หยุดหันกลับมา หญิงสาวหยุดไม่ทัน หน้าประชิดกัน ต่างคนต่างนิ่งอึ้งใจเต้นแรง สิริกันยาตั้งสติได้ถอยห่างแล้วถามเขามีอะไร

“ห้ามลาออก” ณรังค์พูดเบาๆ พอหญิงสาวทำหน้าฉงน เขาก็พูดใหม่ว่า “ในสัญญาที่เธอต้องเซ็นยอมรับสภาพหนี้เป็นลายลักษณ์อักษร จะระบุว่า ถ้ายังใช้หนี้ไม่หมด ห้ามลาออก”

“แน่นอน ไม่ต้องห่วง ฉันจะรับผิดชอบจนกว่าจะใช้หนี้หมด”

ณรังค์ข้องใจ “แปลว่าถ้าหนี้หมด เธออาจจะลาออก”

“ฉันจะลาออกก็ต่อเมื่อฉันไม่มีประสิทธิภาพพอที่จะทำงานตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย อย่างที่ย่าบอก”

ณรังค์มองด้วยสายตาชื่นชม หญิงสาวสะท้านถอยห่างอีกก้าว ขอบคุณเขาอย่างจริงใจ

“ผมต้องดูแลคุณ...ในฐานะพนักงานที่ผมต้องรับผิดชอบ และที่สำคัญ อ๋องฝากฝังคุณให้ผมช่วยดูแลคุณแทนเขา”

“อ๋อ ค่ะ...” สิริกันยาใจแป้ว ตัดสินใจถามข้อข้องใจ “ช่วยตอบคำถามให้ฉันหายข้องใจหน่อยได้ไหมคะ มันเป็นเรื่องส่วนตัว ฉันไม่อยากคุยที่ออฟฟิศ ถ้าคุณตอบได้” ณรังค์ให้ถาม “คุณหญิงปฐวีเป็นคนอาฆาตรุนแรงได้ขนาดนี้เลยเหรอคะ กับแค่ฉันทำไวน์หกใส่รองเท้าเขา การที่เขาเกลียดขี้หน้าฉัน ฉันเข้าใจได้ แต่ถึงกับตามรังควานกันแบบนี้ ฉันไม่เข้าใจ”

ณรังค์อึ้งบอกไม่อาจตอบได้ เลี่ยงเดินไปขึ้นรถ สิริกันยาคาใจจะต้องหาคำตอบนี้ให้ได้

ระหว่างนั่งรถมาด้วยกัน สิริกันยาเห็นณรังค์นิ่งเงียบจนอึดอัด ถอนใจเฮือกออกมาเสียงดังแล้วรีบขอโทษ เขาก็ยังนิ่ง จู่ๆณรังค์เลี้ยวรถไปอีกทาง เธอจึงถามจะไปไหน เขาก็เงียบอีก

“ผู้ชายก็เป็นวัยทองได้ป่ะ แต่อายุยังไม่ได้นะ” สิริกันยาเบือนหน้าไปทางหน้าต่างบ่นเสียงดังไปหน่อย คราวนี้ณรังค์ถามพูดอะไรทองๆ เธอสะดุ้งแถว่า “ใช้หนี้หมด เก็บตังค์ได้ จะซื้อทองให้ย่าใส่ค่ะ”

ณรังค์แอบขำที่เธอช่างแถไปได้ แต่ไม่พูดอะไรออกมา...จนมาถึงสถานที่แห่งหนึ่ง เป็นที่ที่ณรังค์เคยมากับปฐวีสมัยรักกันวัยรุ่น เขาพาสิริกันยามายืนริมน้ำเป็นการยอมรับสิ่งที่เธอสงสัย

“คุณ...รักเธอมากไหม” สิริกันยาเอ่ยถามทำลายความเงียบ

“มากสิ ความรักที่มีให้เธอคือพลังที่ทำให้ผมอดทนใช้ชีวิตอยู่ที่วังจงสวัสดิ์ ในเวลาที่ผมกำลังเคว้งคว้าง สูญเสียโดยที่ไม่ได้คิดเลยว่า...ตัวเองถูกหลอกใช้” ณรังค์เริ่มเปิดปม

“แล้วเขาจะตามโกรธเกลียดทุกคนที่เข้าใกล้คุณทำไม ถ้าไม่ได้รัก”

“คนหรือของชิ้นไหนที่เคยเป็นของคุณหญิง มันจะเป็นของใครไม่ได้ ถึงเธอจะไม่ได้เห็นค่ามันแล้วก็ตาม”

“จะน่าสงสารหรือน่าสมเพชดีนะ”

“เพราะผม ทำให้คุณกับย่าคุณเดือดร้อน...ผมขอโทษ”

“ไม่ใช่เพราะคุณหรอก...เพราะหัวใจที่ไม่ยอมปล่อยวางของยัยนั่นต่างหาก ต่อให้คุณหรือท่านชายแม้นเทพอีกสิบคน ก็ทำอะไรเขาไม่ได้...ถ้าเขามีสติและยอมรับความจริงว่าไม่มีอะไรเป็นของเราได้จริงๆหรอก...แล้วตอนนี้...คุณเลิกรักคุณหญิงได้จริงๆแล้วหรอ”

“ตอนนี้ที่ผมรู้สึก มีแค่เพียงความปรารถนาดีที่อยากเห็นเขามีความสุขกับชีวิต ก่อนที่มันจะสายเกินไป ผมกำลังทำทุกอย่างเพื่อดึงสติคุณหญิงกลับมา”

“ยังจะดีอีก...เป็นฉันหนีไปแล้ว” สิริกันยาเผลอติติง

“ยิ่งหนี ความรู้สึกผิดที่ติดค้างใครมันจะตามตัวคุณเป็นเงา เคยมีใครหนีเงาตัวเองพ้นบ้าง”

อ่านละครเรื่อง สายธารหัวใจ ตอนที่ 5 วันที่ 31 ต.ค.60

ละครเรื่อง สายธารหัวใจ บทประพันธ์โดย วาสนา
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ บทโทรทัศน์โดย คนเขียนเงา
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ กำกับการแสดงโดย ชนะ คราประยูร
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ควบคุมการผลิตโดย ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิเวช
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางช่อง 33 HD
ที่มา ไทยรัฐ