อ่านละครเรื่อง สายธารหัวใจ ตอนที่ 2 วันที่ 19 ต.ค.60

อ่านละครเรื่อง สายธารหัวใจ ตอนที่ 2 วันที่ 19 ต.ค.60

ปฐวีกำลังจะรุกต่อ เผอิญเกียรติศักดิ์เดินเข้ามา ก็รีบเปลี่ยนท่าทีหันไปคล้องแขนเขา ออดอ้อนว่าหายไปนาน ปล่อยตนเหงา เกียรติศักดิ์หัวใจฟูรวบมือเธอมาจูบ หญิงสาว ปรายตามองณรังค์หวังให้เขาหึง แต่เขาไม่แสดงอาการใดๆ จึงทำเสียงหวานขอให้เกียรติศักดิ์หาเครื่องดื่มให้ เขาโบ้ยให้ใช้เด็กในบ้านอย่างณรังค์ ปฐวียั่วยวนอยากรู้ว่าเขาจะเดาใจตนถูกหรือไม่

“ชอบเล่นเกมซะจริงๆคุณหญิงของผม แบบนี้สิ อยู่ด้วยแล้วไม่น่าเบื่อ รอผมเดี๋ยวนะ”



พอเกียรติศักดิ์เดินไป ณรังค์จะแยกไปอีกทาง ปฐวีเรียกไว้ข่มว่าถ้าตนไม่ได้สั่งห้ามไปไหน ณรังค์ให้เหตุผลว่าเธอมีคนดูแลแล้วตนจะไปรอที่รถ หญิงสาวโพล่งออกมาว่าเขาหึง

ณรังค์ชะงักหันมาโต้ “คำว่าหึงมันน่าจะใช้กับคนที่เขารักกันมั้งครับ แต่กับเรามันไม่ใช่”

ปฐวีโกรธ จังหวะนั้นเห็นเกียรติศักดิ์ถือเครื่องดื่มกลับมา ก็แกล้งทำเป็นเซเข้าไปโอบณรังค์แล้วโวยวายว่าเขาลวนลาม เผอิญสิริกันยาเดินมาเห็นเกียรติศักดิ์ทิ้งแก้วเครื่องดื่มตรงเข้าผลักณรังค์แล้วด่าทอ ณรังค์ตั้งตัวได้ผลักกลับ ปฐวีเข้าขวางเอ็ดใส่ ณรังค์เสียใจที่เสียทีเธออีก

สิริกันยาเดินกลับ รู้สึกผิดหวังกับคนดีของย่า ณรังค์เห็นจำเธอได้จะเข้าไปทัก พอดีลุงแช่มสามีป้านก เข้ามาส่งซองเงินให้เธอและลูบหัวอย่างเอ็นดู ณรังค์เข้าใจไปว่าสิริกันยาทำงานหารายได้พิเศษกับเสี่ย พลันแม้นเทพโทร.ตามจะกลับจึงไม่ได้เข้าไปซักถาม

ขณะเปิดประตูรถให้แม้นเทพ ณรังค์รายงานว่าปฐวีกลับไปกับคนรักของเธอ ท่านชายกริ้วไม่ให้พูดว่าเกียรติศักดิ์เป็นคนรักของลูกสาว แล้วสั่งให้เขาไปส่งที่โรงแรม ณรังค์เผลอเตือนอย่างห่วงใยว่าดึกแล้ว กลับโดนสวนกลับอย่าสาระแนออกความเห็น

สุนันทากลับบ้านด้วยท่าทางอ่อนเพลีย แต่พอลูกชายเดินมาก็รีบทำท่าทางสดชื่นพูดคุยด้วย แก้ตัวแทนยิ่งยศว่าเจอเพื่อนเลยไปต่อกัน อ๋องรู้แก่ใจว่าพ่อเป็นอย่างไร เข้านวดเฟ้นแม่อย่างเอาใจและห่วงใย ผู้เป็นแม่ยิ้มรับว่าตนชินแล้ว สักวันพ่อคงรู้ว่าความสุขที่แท้จริงคืออะไร

“ซึ่งแม่เจอแล้ว...”

“ใช่ แม่ได้ดูแลลูกจนเรียนจบ เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่แยกแยะได้ว่าอะไรถูกอะไรผิดและรู้จักรับผิดชอบ
คนนี้ ได้ดูแลงานที่แม่ชอบ นี่แหละคือความสุขที่แท้จริงของแม่...ความสุขจากในบ้านไม่ใช่จากที่อื่น”

อ๋องบอกว่าแม่คือไอดอลของตน สุนันทามีกำลังใจมากขึ้น ดีใจที่ลูกเรียนจบกลับมาช่วยดูแลบริษัท จะได้มีคนเก่งที่ไว้ใจได้ อ๋องนึกได้บอกแม่ว่าตนมีเพื่อนคนหนึ่งอยากแนะนำ เป็นคนเก่งเรียนด้วยกันที่อเมริกา ผู้เป็นแม่สนใจขึ้นมาทันทีให้นัดมาเจอกัน

ค่ำคืนนั้น ณรังค์ขับรถมาส่งแม้นเทพที่โรงแรมเดอะแกรนด์รอยัล สาวคู่ขาเซ็กซี่ปรี่เข้ามาประคองกอดกันเดินเข้าไป หัวหน้าพนักงานโรงแรมออกมาต้อนรับ คิดว่าณรังค์เป็นคนขับรถคนใหม่ จึงบอกให้กลับไปได้ พรุ่งนี้รถที่โรงแรมจะไปส่งท่านชายเอง แล้วกระซิบเม้าท์ว่าท่านมาเป็นประจำ ชั้นบนสุดเป็นห้องพักส่วนตัวของท่าน

ณรังค์มองไปรอบๆเปรยว่าที่นี่ทรุดโทรมลงมาก หัวหน้าพนักงานพลั้งปากบ่นจะเจริญได้อย่างไร แล้วนึกได้รีบหุบปากเดินเลี่ยงไป

เกียรติศักดิ์ส่งปฐวีที่วังแล้วบอกให้เธอฟ้องท่านชายเรื่องเด็กในบ้านลวนลาม ปฐวีมีท่าทีเหินห่างไม่ออดอ้อนอย่างที่ผ่านมา ปัดให้เขากลับไปเรื่องนั้นตนจัดการเองได้ ชายหนุ่มรู้สึกถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปแอบคิดในใจ อีกไม่นานตนจะเข้ามาเป็นคนจัดการทุกอย่างในวังนี้เอง

ณรังค์ขับรถกลับมาถึงเจอประคองยืนรอ แล้วทำหน้าผิดหวังที่ท่านชายไม่กลับมาด้วย ณรังค์ต้องโกหกว่าท่านมีธุระทำต่อ แล้วย้อนถามเธอรอท่านทุกคืนหรือ ประคองอ้างว่าตรวจตราความเรียบร้อยทุกคืน และเผื่อท่านต้องการให้รับใช้อะไร

ละมุลทำข้าวต้มมาให้ณรังค์พร้อมกับบ่นเรื่องแม่ที่เฝ้าคอยรับใช้ท่านชายทุกคืน แต่ท่านก็ไม่เคยเหลียวแล ณรังค์เปลี่ยนเรื่องคุยถึงโรงแรมที่ดูทรุดโทรมลง ละมุลพูดอย่างเหยียดๆว่ามันเสื่อมลงเหมือนเจ้าของ
ณรังค์สะดุ้งเอ็ดไม่ควรว่าท่านแบบนั้น ละมุลน้ำตาซึมระบายความอัดอั้น

“เมื่อไหร่แม่จะตาสว่างยอมรับความจริง ละมุลจะได้พาแม่ออกไปจากที่นี่สักที ไม่งั้นแม่ก็ไม่ยอมไป”

ณรังค์เข้าใจปลอบว่าสักวัน ต้องมีสักวัน...ประคองแอบฟังอยู่ไม่ห่าง น้ำตาตกอยู่ในอก

ooooooo

รุ่งเช้า สิริกันยามาสัมภาษณ์งานที่บริษัทสุนันทาพร็อพเพอร์ตี้ เห็นมีคนรออยู่ก่อนสองสามคนก็เริ่มหวั่นใจกลัวตัวเองไม่ได้งานนี้ ใจดี เลขาสุนันทาที่ท่าทางเหมือนครูเจ้าระเบียบ มองพิจารณาแต่ละคนก่อนจะส่งให้เจ้านายสัมภาษณ์

เช้าวันเดียวกัน ปฐวีลงมาหน้าตาอิดโรยถามหาท่านพ่อ ประคองอึกอักๆ จึงตอบเอง “เพิ่งกลับมาสิ
ความจริงน่าจะขายวังไปซะเลย ยังไงก็นอนตามโรงแรมตามม่านรูดอยู่แล้ว”

ประคองเผลอมองอย่างไม่พอใจ จึงโดนตวาดใส่แล้วถามหาณรังค์อีกคน ประคองก้มหน้านิ่ง คุณหญิงเสียงกร้าวด้วยความโกรธ ว่าหูหนวกหรืออย่างไร ประคองรีบตอบว่าอยู่ที่เรือน

“ถ้าจะแก่แล้วหูตึงจนน่ารำคาญแบบนี้ ควรจะลาออกไปให้พ้นๆได้แล้วนะ ไปบอกให้ณรังค์ไปพบฉันที่สระว่ายน้ำ ฉันมีธุระ”

ประคองทำหน้าไม่สบายใจแต่ไม่กล้าขัดใจปฐวีแอบยิ้มอย่างมีแผนการ...เมื่อณรังค์มาตามคำสั่งยืนที่ริมสระ หญิงสาวยิ้มยั่วโผล่ตัวเองเหนือน้ำอวดทรวดทรง ไม่ได้มีธุระอะไรแค่อยากให้มาดูตนว่ายน้ำ ชายหนุ่มหน่ายใจจะเดินกลับ คุณหญิงแกล้งร้องลั่นว่าเป็นตะคริวทำท่าจมน้ำ ณรังค์หลงเชื่อกระโดดลงไปช่วย คุณหญิงสมใจเยาะเย้ย

“นี่น่าจะพิสูจน์ได้นะ ว่าจริงๆแล้วณะยังรักและเป็นห่วงหญิงไม่เคยเปลี่ยน” ปฐวีโอบกอดคอณรังค์ไว้แน่น เอาหน้าแนบชิดทำท่าจะจูบแล้วผละออกหัวเราะร่า ว่ายน้ำไปขึ้นขอบสระ ณรังค์โกรธเอามือชกน้ำระบายอารมณ์ที่หลงกลปฐวีอีกครั้ง

เหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ในสายตาแม้นเทพ...พอณรังค์เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ ชื่นมาบอกว่าท่านชายเรียกพบด่วน เขาแปลกใจรีบมาที่ห้องโถง แม้นเทพนั่งดื่มกาแฟหน้าเครียด เปิดฉากพูดเปรียบเทียบว่าเขากลับมานั่งๆนอนๆหายใจทิ้งไปวันๆหลายวันแล้ว ไม่คุ้มกับเงินที่ส่งเสีย ขนาดควายยังทำนาตอบแทนชาวนา

“ท่านชายมีพระประสงค์ให้กระหม่อมทำอะไรก็รับสั่งมาได้เลย กระหม่อมรู้ดีว่าตัวเองมีหน้าที่ต้องตอบแทนบุญคุณกระหม่อม”

“ดีที่รู้ว่าจะต้องตอบแทนบุญคุณ อย่างน้อยก็ไม่ได้โง่ซะทีเดียว ฉันจะให้แกไปบริหารโรงแรม ฉันสั่งกับผู้จัดการไว้แล้ว เริ่มทำงานได้เร็วเท่าไหร่ยิ่งดี”

ณรังค์รับคำ แม้นเทพกำชับว่าต้องทำให้พ้นสภาวะขาดทุนภายในเวลาหกเดือน

ณรังค์ตกใจจะทำได้อย่างไรในเมื่อตอนนี้โรงแรมทรุดโทรมลงมาก แม้นเทพไม่สนใจถ้าเขาทำไม่ได้เท่ากับเขาเนรคุณ ประคองซึ่งอยู่ตรงนั้นด้วยตกใจสงสารลูกเลี้ยงจับใจ

ขณะเดียวกัน สิริกันยาเห็นผู้สมัครที่เข้าไปสัมภาษณ์ก่อน ออกมาด้วยสีหน้าไม่ค่อยดี แต่ไม่กล้าถาม จนมาถึงคิวตัวเอง พอเดินตามใจดีเข้ามาในห้องเห็นสุนันทาก็ตื่นเต้นเผลอชี้หน้าอย่างลืมตัว ใจดีเอ็ดว่าเสียมารยาทชี้หน้าท่านประธานแบบนั้นได้อย่างไร หญิงสาวนึกได้รีบยกมือไหว้ขอโทษ สุนันทาขำบอกเลขาคู่ใจที่กำลังจะอำลาว่าตนเองก็ไม่คิดว่าจะเจอกับเด็กคนนี้อีก

“นั่งสิ เด็กเสิร์ฟจอมแสบ” สุนันทาอ่านใบสมัครแล้วแปลกใจกับการศึกษาและตำแหน่งเลขาที่มาสมัคร ถามแล้วทำไมถึงไปเป็นเด็กเสิร์ฟ

สิริกันยาตอบว่าเป็นงานพิเศษระหว่างรองานประจำ แต่พอสุนันทาถามทำไมถึงลาออกจากที่เก่า
หญิงสาวถอนใจย้อนถามอยากให้ตอบตามจริงหรือไม่

“ขอคนโกหกอยู่ข้างตัวฉันแค่คนเดียวพอเถอะ” สุนันทาหมายถึงสามีแต่สิริกันยาทำหน้างง จึงขยายความ

“เลขาที่จะมาแทนใจดี ต้องทำงานใกล้ตัวฉัน คุณสมบัติข้อแรกคือซื่อสัตย์และไว้ใจได้ ฉันเข้มงวดกับตำแหน่งนี้มาก เลยต้องมาสัมภาษณ์งานเองนี่ไง”

“หนีแก๊งทวงหนี้นอกระบบที่ย่าพลาดไปค้ำประกันให้เพื่อนแม่ค้าแผงข้างๆค่ะ”

สุนันทาทึ่ง เชื่อและเห็นใจที่ต้องมาชดใช้หนี้ที่ ตัวเองไม่ได้ก่อ สิริกันยากลับคิดว่าถือเป็นบทเรียนให้ย่าไม่คิดไว้ใจใครสุ่มสี่สุ่มห้าอีก สุนันทาฟังแล้วยิ่งประทับใจ ปิดแฟ้มบอกให้มาเริ่มงานได้ ทดลองงานสามเดือน
ผ่านทดลองงานจะขึ้นเงินเดือนให้ตามประเมินผลงาน

สิริกันยาเดินออกจากห้องสัมภาษณ์โผกอดใจดีด้วยความดีใจ สาวสูงวัยกว่ากระซิบเตือนเรายังไม่สนิทกันเลย สิริกันยานึกได้รีบผละออกขอโทษ ใจดีให้กลับไปดีใจที่บ้านต่อแล้วพรุ่งนี้ค่อยมาเริ่มงาน หญิงสาวรับคำเดินยิ้มไป สวนกับยิ่งยศเขามองตาฉ่ำ พอรู้สึกว่าใจดีมองอยู่เขาก็รีบเก็บอาการ ใจดียกมือไหว้ ยิ่งยศทักว่าขายออกเสียทีถึงลาออกไปแต่งงาน โล่งอก

“ค่ะ โล่งอกค่ะ มีผัว เอ๊ย สามีกับเขาได้สักที” ใจดียิ้มเขินอาย

“ผมที่โล่งอก...วิวแถวนี้ดีขึ้นเยอะ” ยิ่งยศสวนแล้วเดินเข้าไปในห้องสุนันทา

ใจดีเพิ่งนึกออกว่าถูกหลอกด่า หน้าง้ำกลับไปทำงานต่อ...ยิ่งยศเข้ามาถามสุนันทาได้เลขาคนใหม่แล้วหรือ หน้าตาดีใช้ได้ สุนันทารีบกำชับห้ามยุ่งกับคนในที่ทำงานถ้ายังให้เกียรติตนอยู่ และถ้าไม่อยากเจอของแข็งก็อย่ายุ่งกับเด็กคนนั้น เพราะเธอไม่ธรรมดา ยิ่งยศฟังแต่ไม่เข้าใจ

สิริกันยาซื้อของกินกลับบ้านเพื่อฉลองกับย่า ในสมองยังคิดถึงเรื่องณรังค์ จึงแย็บถาม “ย่าว่าคนที่เราคิดว่าเหมือนจะเป็นคนดี แต่ความจริงไม่ดีอย่างที่เราคิด ต่างกันเหมือนเป็นคนละคน ในชีวิตจริงมันมีไหมย่า หรือมีแต่ในละคร”

“มีสิวะ ไม่งั้นเขาจะเรียกมนุษย์เหรอ มันก็มีทั้งที่เคยดีแล้วมาเลว หรือเลวแล้วมาดี หรือไอ้พวกต่อหน้าดีลับหลังน่ากลัวก็มีถมไป ทำไมแกไปเจอใครทำไม่ดีกับแกเหรอ ย่าจะไปจัดการ”

สิริกันยาเล่าเรื่องณรังค์ให้ฟัง ศรีนวลผิดหวังไม่คิดว่าคนดีของตนจะชกต่อยแย่งแฟนคนอื่น จึงเตือนให้หลานสาวอยู่ห่างคนแบบนั้นเข้าไว้ จะได้ไม่เดือดร้อน

เย็นวันนั้น ณรังค์เห็นละมุลมีครูหนุ่มขับรถมาส่ง ก็เข้าไปทักทาย สวัสดิ์เป็นครูพละหนุ่มมารยาทดีหลงรักละมุลมานานและพยายามจีบอย่างสุภาพ แต่ละมุลก็ให้เป็นแค่เพื่อนเท่านั้น...ณรังค์เดินตามกระเซ้าเย้าแหย่ละมุลทำนองน้องสาวขายออกเสียที ละมุลเขินวิ่งไล่ตี ปฐวีมองสองคนเล่นกันด้วยสายตาดุดันน่าสะพรึงกลัว

ในขณะที่แม้นเทพยังสนุกกับการเข้าบ่อนและเล่นเสียเป็นหนี้สินเพิ่มขึ้น...อ๋องเสียดายที่ณรังค์มาทำงานด้วยไม่ได้กลับมาบอกสุนันทาว่า ณรังค์ต้องทำงานทดแทนบุญคุณให้ท่านชายแม้นเทพ สุนันทาหูผึ่งยิ่งรู้เรื่องราวของณรังค์ยิ่งอยากทำความรู้จักโดยเร็ว

เย็นวันเดียวกัน ขณะที่ละมุลกำลังจัดดอกไม้ลงแจกัน ปฐวีถือถุงเดินเข้ามาขอยืมกรรไกรจะไปตัดชุดเก่าทำผ้าขี้ริ้ว ละมุลไม่ได้สงสัยอะไรส่งกรรไกรให้...

ณรังค์กำลังคุยเรื่องงานที่โรงแรมให้ประคองฟังที่เรือนเล็ก ชื่นวิ่งหน้าตาตื่นเข้ามาบอกว่าละมุลทะเลาะกับปฐวี ทั้งสองตกใจรีบวิ่งไปดู เห็นละมุลร้องไห้ยื้อยุดไม่ให้ปฐวีตัดชุดสวยๆของตน

ณรังค์เข้ามาจับมือปฐวีไว้ “คุณหญิงทำแบบนี้เพื่ออะไร ทำไมต้องไปรังแกละมุล” ปฐวีหันมาจ้องหน้า “อีมุลมันจะได้รู้ไงว่าเวลาที่โดนแย่งของรักของหวง มันจะรู้สึกยังไง นี่ยังแค่เล็กน้อย อีกหน่อยถ้ามันยังไม่เลิก จะเจอมากกว่านี้”

ประคองขอร้องบอกละมุลไม่เคยแย่งของใคร

ปฐวีตวาดว่ากำลังทำ ทำเหมือนที่แม่มันเคยทำ ณรังค์ปรามให้หยุดก้าวร้าวประคอง ปฐวีปรี๊ดชี้หน้าทุกคนเป็นแค่เด็กในบ้านไม่มีสิทธิ์สั่งตน ตนอยากจะทำอะไรก็ทำได้แล้วพูดใส่หน้าณรังค์ก่อนจะกระแทกเท้าออกไป

“รวมทั้งตัวเธอด้วย ณะ เธอก็เป็นของของฉัน คนอื่นไม่มีสิทธิ์มายุ่ง จำไว้”

ประคองกอดปลอบละมุลที่ร้องไห้สะอึกสะอื้น พอพาเข้านอนได้ ณรังค์ตามมาปลอบผู้เป็นแม่ รับรองจะดูแลละมุลไม่ให้โดนคุณหญิงแกล้งอีก ประคองกลับบอกว่าเขาควรอยู่ให้ห่างละมุลมากกว่า ที่ปฐวีทำวันนี้เพราะ
หวงเขา ณรังค์อึ้งครุ่นคิด ผู้อาบน้ำร้อนมาก่อนถามอีกครั้ง

“แม่ถามจริงๆ ณะลืมคุณหญิงได้แน่แล้วเหรอ” ณรังค์รับว่าใช่ “เคยเผลอตัวทำอะไรให้คุณหญิงยังคิดว่าณะเป็นของเธออยู่หรือเปล่า ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ทำกับละมุลอย่างนี้ คิดให้ดีๆ”

ณรังค์เครียด เจ็บใจตัวเองที่เผลอห่วงใยเธอจะต้องเคลียร์เรื่องนี้ให้เด็ดขาด

ooooooo

วันต่อมา สิริกันยารีบไปทำงานแต่เช้า ใจดีชื่นชมพาเดินดูทุกแผนกและบอกว่าที่นี่ทำงานแบบพี่น้อง อยู่กันมานานเพราะบอสของเราใจดีมีเมตตาแถมทำงานเก่ง ใจดีพูดด้วยท่าทางโอเว่อร์นิดๆแต่แล้วชะงักนึกได้เตือนว่า อยู่ที่นี่ต้องระวังตัวเพราะสามีบอสชอบยุ่งกับคนหน้าตาดี

สิริกันยาพยักหน้า ใจดีเม้าท์ต่อว่า บอสของเรา น่าสงสารทำงานทุกอย่างในบริษัท ยิ่งยศเป็นที่ปรึกษาไม่ค่อยเข้าที่ทำงาน เอาเวลาไปอยู่กับนางเล็กๆ เธอต้องรู้หลบเป็นปีกรู้หลีกเป็นหาง

ระหว่างนั้นอ๋องพาณรังค์มาคุยกับสุนันทาในห้องทำงาน ณรังค์จำได้ว่าเจอเธอที่งานเปิดตัวคอนโด ถึงว่าคุ้นหน้า สุนันทาอยากคุยเรื่องโรงแรมเดอะแกรนด์รอยัล ณรังค์ออกตัวก่อนว่าตนแค่ใช้นามสกุลจงสวัสดิ์ เป็นเพียงเด็กในอุปการะของท่านชายเท่านั้น สุนันทาไม่สนใจเห็นว่าเขาเป็นคนใกล้ชิดที่สุด อยากให้ช่วยเจรจากับท่านชายเรื่องการเทกโอเว่อร์โรงแรม

สิริกันยาถือแฟ้มเต็มมือเดินมา เจอยิ่งยศเข้ามาเจาะแจะก็พยายามเลี่ยงหนี ณรังค์เดินอึ้งๆออกมา
เห็นก็เข้าใจผิดอีกคิดว่าเธอยั่วยวนสามีสุนันทา...พอสิริกันยาหนียิ่งยศพ้นมาได้ ณรังค์ส่งเสียงเหน็บ เชื่อแล้วว่าเธอทำทุกอย่างได้เพื่อเงิน หญิงสาวสะดุ้งแปลกใจเขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร

“ไม่สำคัญหรอก แต่ผมมาเห็นคุณกำลังทำอะไรนี่สิสำคัญกว่า” สิริกันยางงว่าตัวเองทำอะไร เขาย้ำ “กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้อง ไม่เห็นต้องถาม คุณกำลังทำในสิ่งที่คุณถนัด จะหนุ่มหรือแก่ จะเป็นเสี่ยหรือนักธุรกิจรับหมดเลยเหรอคุณ”

“นี่คุณกำลังคิดว่าฉันกำลัง...” สิริกันยาโกรธจนพูดไม่ออก

“ล่าเหยื่อมั้ง หรือไม่ใช่ แต่คุณก็แต่งตัวดูเหมือนสาวออฟฟิศทำงานกลางวัน แต่หารายได้พิเศษด้วยเหรอ นี่ย่าคุณรู้ไหมเนี่ยว่าหลานกำลังทำอะไร ที่มาพูดเพราะสงสารย่าคุณนะ เผื่อจะได้สติคิดถึงย่าขึ้นมาบ้าง”

“อย่าเที่ยวด่าคนอื่นถ้าตัวเองไม่ได้สูงส่งอะไร คนอย่างคุณก็แค่คนประเภทกินไม่เลือก แม้แต่แฟน
ชาวบ้าน สิ่งที่คุณทำมันน่าสมเพชมากกว่า”

ณรังค์งง ไม่ทันที่สิริกันยาจะด่าต่อ ใจดีเดินมาตามแล้วถามว่าคุยกับใคร จึงเอาคืนบ้างบอกเขาเป็น
คนส่งพิซซ่ามาถามหาห้องน้ำ คงอยากเข้าไปหาอะไรกิน ณรังค์ฉุนแต่ตอบโต้ไม่ทัน

พอสิริกันยาจัดแจงเอกสารการประชุมเสร็จ ใจดีขอให้เธอไปรับหนังสือที่สั่งไว้ที่ร้านแล้วกลับบ้านได้เลย...ระหว่างที่รับหนังสือมาแล้ว ยืนรอรถเมล์กลับบ้าน มีคนร้ายเข้ามากระชากกระเป๋า สิริกันยากอดถุงหนังสือวิ่งไล่ตามร้องตะโกนให้คนช่วย ณรังค์เดินมาได้ยินเสียง ขัดขาคนร้ายล้มลง แต่พอจะดึงกระเป๋าก็โดนผลักล้ม สิริกันยาวิ่งกระหืดกระหอบมาทันเอาหนังสือฟาดหัวคนร้ายยกใหญ่ แต่มีอีกคนขี่มอเตอร์ไซค์มาช่วยพวกมันไปได้พร้อมกระเป๋าของเธอ

ณรังค์ถามในกระเป๋ามีเงินเท่าไหร่ สิริกันยาบอกมีสองร้อย ชายหนุ่มอึ้งเหนื่อยแทบตาย หญิงสาวโวยถึงสองร้อยก็เป็นเงิน แล้วในนั้นยังมีบัตรประชาชน เอทีเอ็มและของสำคัญอื่นๆ เขาจึงเตือนให้รีบโทร.อายัด...หลังจากทั้งสองแจ้งความ ณรังค์ก็ปลอบใจให้ถือว่าฟาดเคราะห์ แล้วส่งเงินให้เป็นค่ารถกลับบ้านสามร้อย สิริกันยาไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณ จึงเสนอให้เขานั่งแท็กซี่ไปส่งบ้านแล้วตนจะเอาเงินที่บ้านให้ ชายหนุ่มขำบอกแค่นี้ไม่ต้องคืน

“คุณเป็นเศรษฐีแล้วฉันเป็นขอทานหรือยังไง ฉันก็มีศักดิ์ศรีของฉันนะ”

“มีด้วยเหรอ...”

“เดี๋ยวนะ ฉันว่าคุณกับฉันมีเรื่องต้องเคลียร์กัน ไอ้ที่คุณถากถางฉันเรื่องรับจ๊อบหารายได้พิเศษเนี่ย คุณเอาอะไรคิด”

“ผมคิดตามสิ่งที่ผมเห็น ผมเห็นคุณรับเงินจากเสี่ยที่โรงแรมวันนั้น”

“บ้าไปแล้ว เสี่ยที่คุณเห็นคือสามีของคนที่จ้างฉันไปทำงานเสิร์ฟคืนนั้น แล้วคุณก็เอาไปคิดเองเป็นตุเป็นตะว่าฉันเป็นสาวไซด์ไลน์” สิริกันยาถลึงตาโกรธ “มองฉันสิ แล้วบอกมาว่าฉันมีคุณสมบัติอะไรที่จะไปทำงาน
แบบนั้นได้บ้าง”

ณรังค์มองหัวจดเท้าแล้วยอมรับว่าไม่มี ตนเข้าใจผิดไปเอง สิริกันยาบ่นถึงว่าเขาถึงกัดตลอดที่เจอกัน
ณรังค์โวยตนไม่ใช่สุนัข เธอยิ้มขำๆแล้วลากลับ ณรังค์รีบบอกให้กลับวิธีของเธอ แล้วโบกแท็กซี่นั่งไปด้วยกัน

พอมาถึงบ้านก็ให้แท็กซี่จอดรอ สิริกันยาวิ่งเข้าบ้านไปหยิบเงิน ณรังค์ลงมายืนรอ ศรีนวลออกมาเจอหน้าณรังค์ก็คว้าไม้กวาดไล่ตี เขางงว่าโกรธอะไร สิริกันยาออกมายื่นเงินให้แล้วย้ำว่าเราไม่ติดหนี้อะไรกันอีก ศรีนวลปิดประตูบ้านใส่หน้า ณรังค์ยืนงงอยู่พักใหญ่

ooooooo

กลับมาถึงวังจงสวัสดิ์ ณรังค์รีบเข้าไปพบแม้นเทพที่กำลังนั่งดื่มสบายๆในห้องทำงานเพื่อพูดตามที่สุนันทาขอ แต่พอเริ่มเกริ่นถึงการเทกโอเว่อร์โรงแรม ท่านถามกลับเขาคิดอย่างไร

“กระหม่อมเห็นว่า ถ้าเราไม่มีเงินทุนมากพอที่จะดำเนินกิจการต่อได้ การขายหุ้นทั้งหมดน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ดีกว่าแบกภาระทั้งหมดเอาไว้ อย่างน้อยก็ยังพอเหลือเงิน”

“อย่างนั้นรึ แกพูดเหมือนกับว่า มีคนสนใจจะมาซื้อหุ้นโรงแรมฉัน”

อ่านละครเรื่อง สายธารหัวใจ ตอนที่ 2 วันที่ 19 ต.ค.60

ละครเรื่อง สายธารหัวใจ บทประพันธ์โดย วาสนา
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ บทโทรทัศน์โดย คนเขียนเงา
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ กำกับการแสดงโดย ชนะ คราประยูร
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ควบคุมการผลิตโดย ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิเวช
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางช่อง 33 HD
ที่มา ไทยรัฐ