อ่านละคร รักกันพัลวัน ตอนที่ 1 วันที่ 18 ต.ค.60

อ่านละคร รักกันพัลวัน ตอนที่ 1 วันที่ 18 ต.ค.60

อาภรณ์พาแมตต์ขึ้นไปที่ห้องพระที่มีรูปและโกศอัฐิของแม่เขา แมตต์นั่งพับเพียบเอาพวงมาลัยมะลิพนมมือไหว้ วางพวงมาลัยลงบนพานแล้วก้มกราบ...

อาภรณ์บอกว่าต่อไปนี้เราก็ไม่ต้องไลน์ ไม่ต้องโทรศัพท์คุยกันอีกแล้ว ไม่อย่างนั้นมาเมืองไทยแค่ปีละหน ตนกับพิมมี่คิดถึงจะแย่

“ถ้าไม่มีน้ากลางกับพิมมี่ ผมก็คงทำใจกลับเมืองไทยไม่ได้เหมือนกัน”



“ที่จริงแม่เขาก็จากไปนานแล้ว แมตต์ควรทำใจยอมรับความเป็นไปของชีวิตนะลูก”

“แต่ผมเห็นบ้านนี้ทีไรก็อดคิดถึงแม่ไม่ได้ อดนึกสาเหตุการตายของแม่ไม่ได้ ถ้าเขาไม่ทิ้งครอบครัว ถ้าแม่ไม่ต้องไปหย่า แม่กับน้าเล็กก็คงไม่...”

“เรื่องหย่ามันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่นะแมตต์เท่าที่น้ารู้ พ่อกับแม่เขาจากกันด้วยดี”

“ขึ้นชื่อว่าแยกกัน มันก็ไม่มีทางจะรู้สึกดีได้หรอกครับ มันต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเจ็บปวดอยู่แล้ว และฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ว่าก็คือแม่ของผม”

“ยิ่งจมกับอดีตยิ่งติดกับปัญหา เราจะยิ่งทุกข์นะลูก ชีวิตคนเรามันสั้น ต้องรู้จักลืมให้ไวอภัยให้เร็ว ยังไงเขาก็เป็นพ่อ เขาส่งเสียเลี้ยงดูเรา แมตต์ควรเปิดใจเข้าใจเขาบ้างนะลูก”

“แค่อยู่ร่วมโลกกันได้ก็พอแล้ว อย่าให้ถึงขนาดต้องเข้าใจเขาเลยครับน้ากลาง”

แมตต์พูดอย่างยังทำใจไม่ได้ อาภรณ์ได้แต่อ่อนใจกับความแข็งกร้าวของเขา

ooooooo

วันนี้...ที่สวนสัตว์ Blue Planet มีคณะนักเรียนมาทัศนศึกษาหลายโรงเรียน มนตรีบอกโตมรที่เดินคุยกันมาว่า มัคคุเทศก์กับพีอาร์ออกไปดูแลเด็กๆหมด ให้เขาช่วยรับนักท่องเที่ยวหน่อย

โตมรบอกว่าสบายมากเรื่องเอนเตอร์เทนคน ขอให้บอก พอดีครูคนหนึ่งถือแผ่นพับมาถามมนตรี เขาอธิบายเส้นทางให้อย่างกระตือรือร้น

ทันใดนั้นแมตต์ก็เดินเข้ามาหาโตมร พูดภาษาอังกฤษเป็นไฟ โตมรหูไม่กระดิกเครียดขึ้นมาทันทีขอให้เขาพูดใหม่ช้าๆอีกครั้ง

“Can you show me around and inform me about all animals?” แมตต์พูดช้าๆชัดๆ

โตมรเริ่มเดาได้ว่าแมตต์ต้องการอะไร เอ้ออ้า ตอบรับแต่ให้รอเดี๋ยว พูดไทยผสมอังกฤษว่าใจเย็นๆนะ ขณะเดียวกันก็มองหาคนช่วย แต่ไม่มีใครอยู่เลย ตัดสินใจเป็นไงเป็นกันหันบอกแมตต์ให้ตามมา ถามว่าต้องการรถกอล์ฟไหม แมตต์บอกว่าตนชอบเดิน

โตมรบอกว่ามันกว้างมาก แมตต์ก็ยังอยากเดิน สุดท้ายโตมรก็ตามใจเดินนำไปแอบบ่นกระปอดกระแปดว่า

“นี่เห็นว่าเปิด AEC แล้วนะ ไม่งั้นกรูไม่ลำบากขนาดนี้หรอก”

โตมรพาแมตต์ไปที่กรงนกฟลามิงโก้ที่ตุลกำลังเดินตรวจอยู่ อธิบายกระท่อนกระแท่นว่านี่คือฟลามิงโก้ ทำท่าเหนื่อยลิ้นห้อยถามแมตต์ว่า ตนจะหยุดพักสักนิด ให้เขาเดินดูรอบๆนี้ก่อนได้ไหม แมตต์โอเค แล้วเดินดูในบริเวณใกล้ๆนั้น

ตุลได้ยินเสียงโตมรจึงหันดู โตมรบ่นว่าถ้ามัคคุเทศก์เหลือ ตนก็ไม่ลำบากอย่างนี้หรอก ตุลบอกให้เขาดูแลลูกค้าต่อไป ตนต้องตรวจฟลามิงโก้ก่อนเพราะดูท่าทางตัวนี้ไม่ค่อยสบาย

แมตต์เดินกลับมา พอดีตุลสวมหน้ากากอนามัยตรวจฟลามิงโก้ตัวหนึ่งตรงหน้า แมตต์ชี้ไปที่นกถาม “How’s she?”

“She is my fan เป็นแฟนกัน” โตมรตอบอย่างมั่นใจ

แมตต์รู้ว่าโตมรหมายถึงตน บอกชัดๆว่า “I mean that flamingo”

“อ๋อ...นก Not sure. She look อยู่ But she is my fan. Good girl.”

ทีแรกแมตต์นึกว่าตุลเป็นผู้ชาย กระซิบถามอย่างแปลกใจว่า Girl?

“คือ...Sometimes girl, sometime boy.”

“OK. Let’s see another zone.” แมตต์บอกมึนๆ แต่โตมรงงถามตุลว่าเขาว่าอะไร ตุลบอกว่าเขาชวนให้ไปดูที่อื่นต่อ โตมรทำหน้าเหนื่อยบ่นอุบอิบ...

“เฮ้อ...ซื้อบัตรวีไอพีรึไงวะเนี่ย ดูละเอียดทุกซอกทุกมุมอย่างกับจะไปแข่งแฟนพันธุ์แท้”

“อย่าบ่น เขาเป็นลูกค้า เขามีสิทธิ์จะเดินดูกี่รอบก็ได้ ถึงหน้าที่ดูแลนักท่องเที่ยวไม่ใช่หน้าที่โดยตรง แต่ถ้าขาดคนเราก็ต้องช่วย ถ้าเราบริการไม่ดีแล้วเขาเอาไปต่อว่าในโซเชียล ใครจะมาเที่ยว Blue planet”

“จ๋าจ้ะ...ไม่รักไม่เชื่อนะเนี่ย” โตมรหยอดจีบแล้วหันบอกแมตต์ “Go next. Follow I, Please.”

ตุลถอดหน้ากากอนามัยออก แมตต์เดินตามโตมรไปพอดี เลยไม่ได้เห็นหน้าเธอ

ชมสวนสัตว์แล้ว บ่ายแก่ๆแมตต์ไปที่ร้านขายเสื้อผ้าของพนิตพิชาหรือที่เรียกกันเองว่าพิมมี่ พอเห็นแมตต์ พิมมี่ก็วิ่งเข้ากระโดดกอดอย่างสนิทสนม ถามว่ากลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่

แมตต์บอกว่ามาถึงเมื่อเช้านี้เอง แวะบ้านแล้วไปเที่ยวนิดหน่อยก่อนมาที่นี่ พิมมี่ดักคอว่าเจอไฟลท์

บังคับให้กลับมาอยู่ที่นี่เลยใช่ไหม แมตต์หน้านิ่งบอกว่า “ก็ทำนองนั้น”

“พี่แมตต์อาจจะฝืนใจแต่พิมมี่ดีใจมากที่ต่อไปนี้จะได้เจอพี่แมตต์ทุกวัน แล้วก็อุ่นใจด้วยที่พี่แมตต์จะได้มาช่วยงาน” แมตต์ถามอย่างเอ็นดูว่าใครรับปากจะช่วยงานเรา “แหม...พี่แมตต์มีน้องสาวคนเดียวคือพิมมี่ไม่ช่วยพิมมี่แล้วจะไปช่วยใครล่ะคะ”

พิมมี่กอดแขนแมตต์ออดอ้อนจนเขาเก๊กขรึม

ไม่ไหวเลยยิ้มอย่างเอ็นดู

ooooooo

เย็นเลิกงานแล้วตุลเดินซึมออกมาทางด้านหน้า โตมรขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดเรียกให้ขึ้นรถ เดี๋ยวตนจะไปส่ง ตุลบอกยังไม่อยากกลับบ้าน

“โตไปส่งได้ทุกที่น่า จะไปไหนบอก มอเตอร์ไซค์คันนี้รับดามใจคนอกหักไม่มีเซอร์วิสชาร์จ ไปไหนว่ามา”

“ไปไหนก็ได้ที่ไม่มีนาย!!” อโนมาตอบแทนตุล เลยถูกโตมรด่าว่าไม่สวยแล้วยังมารยาททรามอีก อโนมาไม่สนใจเรียกตุลให้ขึ้นรถโฟล์คสีชมพูหวานของตน บอกตุลว่ามารับไปหาหมอ

ตุลบอกว่าดีเหมือนกันจะขอยาแก้เครียดมากินสักเดือนสองเดือนแล้วเดินไปขึ้นรถอโนมา

“อ้าว...ตุล ทำไมทิ้งโตแบบนี้ล่ะ! โตมาก่อนนะ!! ยายแว่นเนิร์ดแตกเอ๊ย มาทีไรวงแตกตลอด”

อโนมาพาตุลไปที่ตึกแถวกลางเก่ากลางใหม่

บอกตุลว่าดารินทร์บอกว่าหมอคนนี้เก่งและเป๊ะมาก พอดีดารินทร์วิ่งมาหาทั้งสอง ขอโทษที่ตนคุยกับลูกค้าเลยเลทไปหน่อย ถามว่าเข้าไปหาแม่หมอกันหรือยัง

“แม่หมอ??” ตุลทำหน้างง ดารินทร์บอกว่าใช่เป็นหมอยิปซี ดูดวงแม่นมาก

ตุลบอกว่าไม่เอา คิดว่าจะพาไปหาหมอแก้เครียด อโนมาบอกว่านี่แหละแก้เครียดได้ยิ่งกว่ากินยาอีก ดารินทร์อวดว่าแม่หมอเขาไปเรียนวิชากับพวกยิปซีมา 20-30 ปี เพิ่งกลับมาเมืองไทยได้อาทิตย์เดียว ลูกค้าตนคอนเฟิร์มว่าแม่นเว่อร์เลยล่ะ

ตุลหันหลังกลับทันที ดารินทร์ถามว่าจะไปไหน ส่วนอโนมาตะโกนตามหลังว่า

“แกไม่อยากรู้เหรอว่าแกจะเป็นผู้หญิงสำเร็จไหม แล้วผู้ชายคนแรกของแกหน้าตาเป็นไง”

“ไม่อยากรู้!!!” ตุลตะโกนตอบ แต่ในที่สุดตุล

ก็กลับไปหาแม่หมอตามความหวังดีของเพื่อน

แม่หมอหลับตา สองมืออังอยู่บนลูกแก้ววิเศษ

ตุลถามว่าเห็นหรือยัง แม่หมอบอกว่าเห็นลางๆ ครู่เดียวก็บอกว่า

“เห็นแล้ว...เห็นแล้ว ผู้ชายคนนั้นคือคนที่มอบจูบแรก มอบชีวิต และมอบลมหายใจให้กับเจ้า”

อโนมากับดารินทร์กิ๊วก๊าวดีใจยิ่งกว่าตุล ตบบ่าเพื่อนบอกว่า

“แกมีผัวชัวร์!”

ตุลพลอยตื่นเต้นไปด้วย ดารินทร์ถามว่าอีกนานไหมกว่าจะได้เจอกัน แม่หมอบอกว่าเจอกันแล้ว สามสาวสะดุ้งโหยง แม่หมอย้ำว่าเป็นหน้าเก่าไม่ใช่หน้าใหม่ สามสาวมองหน้ากันสายตาเต็มไปด้วยคำถาม อโนมาเดาว่า “หรือจะเป็นไอ้โต?”

“ไม่นะ!!!” ตุลสยอง แม่หมอหลับตาคลำลูกแก้วอีกทีบอกว่า

“ผู้ชายคนนี้...สูง...เท่...ดูดีและมาพร้อมดอกไม้”

สามสาวมองหน้ากันอย่างตื่นเต้น เดาไม่ออกว่าเป็นใคร? กลับมานั่งที่ร้านไอศกรีมแล้วก็ยังเดากันไม่ออก ตุลบอกว่าถ้าเป็นไอ้โตตนขอกลับไปเป็นทอมถูกทิ้งอย่างเดิมดีกว่า สาธยายคุณสมบัติของโตมรว่า

“มันเป็นเพื่อนที่ดี โคตรดีแต่ไม่ไหวจะแบกมันเป็นแฟน ฉันอยากแค่เป็นเมีย ไม่อยากเป็นแม่คอยสั่งงานมันทุกอย่าง เป็นผู้ชายมันต้องลุกขึ้นมานำผู้หญิงสิวะ หรือเดินไปข้างๆกันก็ยังดี”

ดารินทร์ติงว่าอย่าเพิ่งคิดมาก อโนมาย้ำว่าแม่หมอ บอกว่าหน้าเก่าถ้าไม่ใช่ไอ้โตก็ต้องเป็นพี่ตรี

“เฮ่ย...พี่ตรีแกมีเมียแล้ว อายุก็น้องๆพ่อฉัน แกตัดออกไปได้เลย” ตุลตัดบท

อโนมายังพยายามคิดว่าเป็นใคร ทบทวนที่แม่หมอบอกมองไปรอบๆ พลันก็ตื่นเต้นเมื่อเห็นฐานัทเดินเข้าร้านมาพร้อมช่อกุหลาบขาวผูกโบสีชมพูอย่างพร้อมที่จะมอบให้ใครคนหนึ่ง

“นั่นไง...พี่นัท!!” อโนมาโบกมือเรียก

ฐานัท สถาปนิกหนุ่มหล่อมาดเซอร์หันมาตามเสียงเรียก ตุลถึงกับตะลึงเมื่อเห็นฐานัท ฉุกคิดคำทำนายของแม่หมอที่ว่าผู้ชายคนนั้นมาพร้อมช่อดอกไม้ ก็ยิ้มตาเป็นประกาย ฐานัทเดินมาที่โต๊ะทัก

“ไง มากินไอติมกันเหรอ อโน...ดา...” มองตุลแล้วหยุดนึก

“จำตุลไม่ได้เหรอพี่นัท” ดารินทร์ถาม ฐานัทมองตุลแล้วยิ้มเมื่อนึกถึงอดีต...

ooooooo

ตอนนั้นเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปี 3 ช่วงซัมเมอร์มีหนุ่มสาวร่วมออกค่าย 10–20 คน สร้างห้องสมุดครั้งนั้น ฐานัทและตุลก็ออกค่าย แต่บรรดาสาวๆชาวค่ายต่างกลุ้มรุมดูแลเอาอกเอาใจตุลจนฐานัทอึ้ง

ตุลจ้องหน้าฐานัทลุ้นให้จำได้ พอเห็นสีหน้าเขาก็เดาว่า สงสัยจะจำไม่ได้ ฐานัทยิ้มหวานเท่กระชากใจย้อนถามว่าทำไมจะจำไม่ได้ ทำเอาตุลเขินแทบกรี๊ดอโนมากับดารินทร์ต่างตื่นเต้นสงสัยว่า ฐานัทจะเป็นคนที่แม่หมอบอกแน่ๆ ชายหนุ่มพูดต่อว่า

“ใครจะจำตุลสุดหล่อขวัญใจสาวๆไม่ได้ล่ะ”

ทั้งสามแป่ว...หน้าเจื่อน เพราะเขาไม่ได้มองตุลเป็นผู้หญิงเลย ซ้ำยังพูดต่ออีกว่า

“พี่จำตุลได้แม่นตั้งแต่วันแรกที่เจอ วันนั้นพี่ลงแข่งรักบี้กับคณะวิดยา แทนที่สาวๆจะเชียร์นักรักบี้ถาปัด กลับเฮไปกรี๊ดประธานเชียร์ของวิดยาซะนี่ ช่วงนั้นฮอตโคตรๆเลยนะเรา สาวๆเพียบ”

“ตอนนี้อกหัก ไม่มีสาวในสต๊อกแล้วพี่” ตุลรีบบอก แทนที่ฐานัทจะเข้าใจกลับตบบ่าแมนๆ ปลอบ

“เฮ้ย...ใจเย็นๆ หล่อวัวตายควายล้มอย่างเรา เดี๋ยวก็มีเข้ามา”

ตุลเช็ง อโนมากับดารินทร์มองหน้าเพื่อนอย่างเข้าใจความรู้สึก แต่ตุลก็บอกฐานัทไปว่าตนก็จำเขาได้แม่นเหมือนกัน เล่าถึงความประทับใจในอดีตตอนเรียนปี 4 ว่า...

วันนั้นฝนตกพรำๆ ตุลกางร่มมาส่งมะปรางที่หน้าตึก พอหันจะเดินกลับ เจ้ากรรม...ลมพัดแรงจนก้านร่มพับไปด้านหลัง ตนรีบเก็บร่มแล้ววิ่งฝ่าสายฝนไป แต่จู่ๆก็มีร่มมากางให้ เอ่ยชวนสุภาพ

“ไปด้วยกัน”

ฐานัทนั่นเอง...ตุลบอกว่าไม่เป็นไรฝนแค่นี้เอง เขาติงอย่างห่วงใยว่า

“เปียกน่ะไม่เท่าไหร่ แต่จะไม่สบายเอาน่ะสิ วีกหน้าสอบไฟนอลแล้วนะ...อย่าลืม”

ความอบอุ่นอ่อนโยนห่วงใยของฐานัททำเอาสาวห้าวอึ้ง มองเขาอย่างชื่นชม คิดไม่ถึงว่าจะมีผู้ชายมาเดินกางร่มให้สาวทอมอย่างตน ฐานัทบอกว่านั่นเรื่องเล็กแท้ๆ

“เรื่องเล็กสำหรับคนอื่นแต่ใหญ่สำหรับตุล ไม่เคยมีเพื่อนคนไหนใจดีกับตุลแบบนี้มาก่อน ตุลเลยประทับใจมากเลย...จำได้ไม่เคยลืม”

แววตาอารมณ์ที่ตุลมองฐานัท ทำเอาอโนมากับดารินทร์มองหน้ากันอึ้ง ทึ่งที่เพื่อนรักบทจะเลิกเป็นทอมก็กระแดะได้เกินหญิงไปเลย

ooooooo

เวลาเดียวกัน...ที่ร้านขนมเก๋ๆ พิมมี่มานั่งรอแมตต์อยู่ แมตต์เข้ามาพร้อมช่อกุหลาบสีขาวเหมือนของฐานัทแต่ผูกโบสีขาว เขาเดินตรงมายื่นช่อกุหลาบให้พิมมี่

“กุหลาบขาวตามที่ออเดอร์มาเป๊ะ ไหนจะเลี้ยงอะไรพี่ ร้านนี้อะไรอร่อย”

พิมมี่บอกว่าตนไม่ได้เลี้ยง แต่มีคนอยากเลี้ยง แมตต์งงถามว่าใคร ทันใดนั้นมีมือนุ่มๆเอื้อมมาปิดตาเขาจากข้างหลัง แมตต์ถามว่า “ใคร”

“จำได้ไหม...ใครเอ่ย...” เสียงสดใสร่าเริง

“มือหอมๆ นุ่มๆแบบนี้จะเป็นใคร...ถ้าไม่ใช่โรส”

โรสดีใจมากชมว่าพี่แมตต์น่ารักที่สุดที่จำโรสได้ พิมมี่พูดแทรกว่าใครจะจำไม่ได้ล่ะโรสเล่นแบบนี้กับพี่แมตต์มาตั้งแต่ 8 ขวบแล้ว โรสบอกว่าตนไม่มีวัน ลืมพี่แมตต์ที่อดทนสอนตนขี่จักรยาน ตีแบต ว่ายน้ำ เล่นกีฬาสารพัดอย่าง กระทั่งบังคับให้กินผักผลไม้แทนของหวานด้วย

โรสเหลือบเห็นช่อกุหลาบชมว่าสวย ของใครหรือแมตต์จะบอกว่าของพิมมี่ แต่พิมพี่ชิงแทรกว่า

“ของพี่โรสไงคะ พี่แมตต์ซื้อมาให้พี่โรสน่ะค่ะ ว่าจะซ่อนให้เซอร์ไพรส์สักหน่อยไม่ทันแล้ว” ว่าพลางยื่นช่อกุหลาบให้โรส โรสรับไปดมอย่างชื่นใจ เอ่ยซึ้ง...

“น่ารักที่สุด ขอบคุณนะคะพี่แมตต์ งั้นเดี๋ยวเราไปหาอะไรอร่อยๆกินกันค่ะ โรสเลี้ยงรับพี่แมตต์กลับมาอยู่เมืองไทยเอง ไปด้วยกันนะจ๊ะพิมมี่”

พิมมี่รู้ใจโรสว่าอยากดินเนอร์กับแมตต์ตามลำพังจึงขอตัวอ้างว่าต้องกลับไปเคลียร์งาน แต่แซวว่ากินเสร็จห้ามล็อกคอพี่แมตต์พากลับบ้านตัวเองนะ

“รับรองว่าส่งถึงหน้าประตูบ้านพิมมี่เลยจ้ะ ไปก่อนนะ” โรสกอดช่อกุหลาบมือหนึ่ง อีกมือกอดแขนแมตต์เดินไปอย่างสุดปลื้ม

ที่ร้านไอศกรีม...ดารินทร์ได้รับไลน์จากพี่อาร์ตคนรักว่ามารับ จอดรถรออยู่หน้าร้านแล้ว จึงขอตัวไปก่อน พอดารินทร์ลุกไป ฐานัทก็ได้รับโทรศัพท์จากแนนคนรักจึงขอตัวลุกไปรับโทรศัพท์

พอฐานัทลุกไป ตุลก็ดี๊ด๊าบอกอโนมาว่าใช่เลย ตรงตามคำทำนายแม่หมอเปี๊ยบ อโนมาเห็นด้วย แต่จะเตือนตุลว่าอย่าเพิ่งออกตัวแรง เพราะฐานัทมีแฟนแล้ว แต่ไม่ทันพูดตุลก็เพ้อต่ออย่างเคลิ้มฝันว่า

“จะไม่ให้ฉันออกตัวแรงได้ไงวะ ในเมื่อพี่นัทเป็นผู้ชายคนเดียวที่ฉันอยู่ใกล้แล้วไม่ขยะแขยง เป็นคนเดียวที่ฉันแอบรู้สึกดีมาตลอด”

อโนมาบอกตุลว่าตนมีเรื่องจะบอก แต่พอดีฐานัทเข้ามาบอกว่าตนต้องไปก่อนพอดีมีนัด ตุลรีบบอกว่าเราสองคนก็จะกลับพอดี เขาถามว่ากลับยังไง ตุลบอกว่าอโนมารอเตี่ยมารับ ส่วนตนนั่งรถแดงกลับ ฐานัทบอกว่าตนจะไปส่งลงตรงไหนให้บอกก็แล้วกัน

“ค่ะ” ตุลเด้งขึ้นราวกับติดสปริง รีบบอกลาอโนมา

“แต๊ดแต๋ก็เป็นนะแก” อโนมามองตามพึมพำหมั่นไส้

ooooooo

อ่านละคร รักกันพัลวัน ตอนที่ 1 วันที่ 18 ต.ค.60

ละครเรื่อง รักกันพัลวัน บทประพันธ์โดย เชอริณ
ละครเรื่อง รักกันพัลวัน บทโทรทัศน์โดย ปารดา
ละครเรื่อง รักกันพัลวัน กำกับการแสดงโดย ป้าแจ๋ว ยุทธนา ลอพันธุ์ไพบูลย์
ละครเรื่อง รักกันพัลวัน ผลิตโดย บริษัท ฟีล กู๊ด เอ็นเทอร์เทนเม้นท์ จำกัด
ละครเรื่อง รักกันพัลวัน วัน-เวลาออกอากาศ: ทุกวันศุกร์ - อาทิตย์ เวลา 20.15 น.
ติดตามชมละครเรื่อง รักกันพัลวัน ได้ทางไทยทีวีสีช่อง 3
ที่มา ไทยรัฐ