อ่านละครเรื่อง สายธารหัวใจ ตอนที่ 2 วันที่ 21 ต.ค.60
ณรังค์นั่งทำงานอยู่ในห้องนอน ได้รับโทรศัพท์จากปฐวีให้ขับรถไปรับที่ศูนย์การค้า เขารู้สึกไม่ชอบมา พากล ตัดสินใจส่งบรรจงขับรถไปรับแทน...พอบรรจงเดินนอบน้อมเข้าไปหาปฐวีที่ยืนคอแข็งรออยู่ พอเธอเห็นว่าไม่ใช่ณรังค์ก็ตากร้าวเสียงเขียวทันที“ทำไมณรังค์ไม่มารับตามคำสั่ง! ทำไมเป็นแก!”
“เอ่อ ผมเองก็...เอ่อ...ทำตามคำสั่งคุณณะมาอีกทีน่ะครับ” บรรจงเสียงสั่นด้วยความกลัว
ต่างจากสิริกันยาที่ได้รับความเมตตาจากเจ้านาย ซื้อชุดสำหรับใส่ไปทำงานให้หลายชุดและยังมาส่งถึงบ้านด้วยความเอ็นดู สร้างความตื้นตันให้แก่เธออย่างมาก
ooooooo
เช้าวันใหม่ ประคองแปลกใจลอบมองแม้นเทพที่วันนี้ดูมีสติสีหน้าสดชื่น ด้วยความรักและบูชา ท่านชายหันมาเห็นถามตนมีอะไรติดหน้าหรืออย่างไร
“มิได้เพคะ คองแค่รู้สึกว่าเช้านี้ฝ่าบาททรงดูอารมณ์ดีมากกว่าทุกวัน”
“แกจะบอกว่า ทุกวันฉันเอาแต่เมาหัวราน้ำงั้นสิ”
ประคองลนลานปฏิเสธ ท่านชายหัวเราะเบาๆ
ยอมรับว่าวันนี้ตนมีสติดีกว่าทุกวัน เพราะมีเรื่องสำคัญที่ต้องไปทำ แล้วถามถึงปฐวีว่าเมื่อคืนกลับดึกแค่ไหน ประคองรายงานว่าบรรจงไปรับกลับไม่ดึกเท่าไหร่ ท่านชาย แปลกใจทำไมกลับกับบรรจง
“คงจะทะเลาะกับเพื่อนเพคะ ตอนแรกสั่งให้ตาณะไปรับ แต่ตาณะให้บรรจงไปแทนเพคะ เพราะไม่อยากให้คุณหญิงหรือใครเข้าใจผิด”
“แกกำลังบอกฉันว่า ไอ้ณะมันไม่ได้คิดอะไรกับหญิงวีแล้วอย่างนั้นรึ”
“เพคะ และหม่อมฉันก็เชื่อตาณะ เด็กคนนี้ยึดถือความกตัญญูเป็นที่ตั้งนะเพคะ”
แม้นเทพครุ่นคิด ประคองแอบมองลุ้นว่าท่านจะเชื่อสิ่งที่ตนพูด ไม่ทันไรปฐวีเดินลิ่วลงมาในชุดนอนผ่านโต๊ะที่ท่านชายนั่งอยู่ไปอย่างไม่ทักทาย ทั้งท่านชายและประคองแปลกใจ
ระหว่างนั้นณรังค์กับละมุลเดินออกจากเรือนจะไปทำงาน ละมุลยังมีสีหน้าหวาดระแวงเดินห่างๆณรังค์ จะเลิกกลัวต่อเมื่อเขาออกไปอยู่ที่อื่น หรือไม่ก็คุณหญิงแต่งงานออกเรือนไปแล้ว ณรังค์พยายามปลอบให้เลิกกลัว ไม่ทันขาดคำ ปฐวีปรี่เข้ามากระชากละมุลไปตบ
อย่างเดือดดาล หาว่าเป็นเพราะเธอที่ทำให้ณรังค์ไม่ไปรับตนเมื่อคืน
ณรังค์ตั้งสติได้ดึงมือปฐวีไว้แล้วผลักเธอเซไป แม้นเทพเข้ารับตัวลูกสาวไว้ทัน ถามเสียงกร้าวว่านี่มันอะไรกัน ปฐวีโวยวายให้ท่านพ่อลงโทษณรังค์กับละมุล ประคองเข้ากอดละมุลที่ร้องไห้หน้าตาแดงเป็นรอยนิ้วมือ ทนไม่ไหวที่ทำกับลูกซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงทูลฟ้องบ้าง
“คุณหญิงทำร้ายละมุลมันทำไมอีกคะ คราวที่แล้วยังไม่พออีกเหรอคะ ละมุลไปทำอะไรให้นักหนา”
“นังคอง! อย่ามาพูดให้ขาวเป็นดำ” ปฐวีกราดเกรี้ยวใส่
“ดิฉันพูดความจริง ไม่ได้พูดบิดเบือนอะไรเลย คุณหญิงทำร้ายละมุลครั้งแล้วครั้งเล่าตั้งแต่เด็กจนโต เหมือนไม่ใช่น้องเลือดพ่อเดียวกัน”
“ฉันไม่เคยนับมันเป็นน้อง ฉันเกลียดมัน ท่านพ่อทรงฟังหญิงเอาไว้นะเพคะ นังละมุลคือต้นเหตุทำให้ณะขัดคำสั่งหญิง
คราวที่แล้วที่หญิงลงโทษมันเพราะมันระริกระรี้ตัวสั่นเวลาอยู่ใกล้ผู้ชายจนดูน่าทุเรศ คราวนี้มันคงจะตั้งใจยั่วยวนจนณะไม่อยากออกไปไหน แม่มันก็คงเป็นใจอยากให้ลูกมีผัว โดยเฉพาะผู้ชายที่เคยรักหญิง มันคงคิดจะทำให้หญิงเจ็บใจ”
ณรังค์แทรกให้หยุดพูดเสียที ปฐวีท้าจะทำอะไรถ้าตนไม่หยุด ณรังค์หันไปมองแม้นเทพด้วยสายตาวิงวอน
“กระหม่อมอาจจะไม่ได้อยู่ทดแทนพระคุณของฝ่าบาท กระหม่อมอาจจะต้องจำใจยอมให้ฝ่าบาทด่าว่าเป็นคนเนรคุณ”
แม้นเทพอึ้งครุ่นคิด ปฐวีโวยหาว่าณรังค์กล้าขู่ท่านพ่อกับตน หันไปจิกด่าละมุลว่ายอมนอนกับณรังค์
กี่ครั้งแล้วเขาถึงได้หลงจนหูหนวกตาบอดแบบนี้ แล้วปราดเข้าจะตบอีกครั้ง ประคองเข้าขวางจึงโดนตบแทนเต็มๆ ละมุลกับณรังค์ตกใจกันปฐวีให้ออกไป ละมุลโอบกอดประคองถอยห่าง คุณหญิงยังกราดเกรี้ยวไม่หยุด ด่าว่าสาดเสียเทเสียจนแม้นเทพทนไม่ไหว ดึงลูกสาวมาตบหน้าอย่างแรงเพื่อให้สงบสติอารมณ์ ปฐวีช็อก
ไม่เคยโดนตีมาก่อน น้ำตาไหลพราก
“กลับไปรอพ่อที่ห้องแล้วห้ามออกไปไหนจนกว่าพ่อจะกลับมา และถ้าหญิงไม่เชื่อพ่อ หญิงจะต้องเสียใจไปตลอดชีวิต”
แม้นเทพสั่งบรรจงใส่กุญแจขังคุณหญิงไว้ แล้วไปเอารถออก
ปฐวีร้องไห้วิ่งไปโดยไม่กล้าขัดคำสั่งท่านพ่อ แต่ก็ไม่วายอาละวาดขว้างปาข้าวของในห้องเสียงดังโครมคราม ท่านชายยังสั่งณรังค์ให้ออกไปเดอะแกรนด์รอยัล
ด้วยกันแล้วเดินไป ณรังค์หันมาขอโทษละมุลที่คุ้มครองเธอไม่ได้ ละมุลส่ายหน้า
“ไม่ใช่ความผิดของพี่ณะ ไม่มีใครคิดว่าคุณหญิงจะคลั่งได้ถึงขนาดนี้ พี่ณะเถอะ หนูว่าคุณหญิงคงไม่กล้าทำอะไรพวกเราอีกแล้วล่ะ สมน้ำหน้า”
ประคองเอ็ด “ละมุล อย่าซ้ำเติมคุณหญิงเลย เกิดมาไม่เคยถูกท่านพ่อลงโทษ ตีสักนิดยังไม่เคย คุณหญิงคงเสียใจมาก”
“แม่อย่าเป็นคนดีให้มากนักเลย หนูจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว”
“พี่บอกแล้วไงว่าให้อดทนไว้ เห็นไหมมันกำลังเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี...อย่าคิดมาก ทำหน้าที่ของเราต่อไปก็พอ พี่ไปก่อนนะ ผมไปก่อนนะครับแม่”
ละมุลไม่อยากเชื่อ แต่ประคองให้เชื่อ มันกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี อย่างน้อยวันนี้ท่านชายก็ปกป้องลูก ละมุลน้ำตาร่วง หวังให้เป็นอย่างที่แม่พูดจริงๆเสียที
ooooooo
เช้าวันนั้น เสี่ยกำธรพ่อของเกียรติศักดิ์ เตือนลูกชายอย่าชะล่าใจ ท่านชายแม้นเทพไม่ใช่หมู อย่าคิดว่าจะรอเก็บเกี่ยวผลจากเมล็ดที่หว่านไปได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่ผู้เป็นลูกมั่นใจว่าท่านเป็นหมูชรารอวันขึ้นเขียงให้เชือด
“จะยังไงก็อย่าประมาท มันเป็นคนฉลาด ไม่ยอมถูกแกไล่ต้อนให้จนมุมง่ายๆแน่”
“ผมก็มั่นใจในวิธีการของผม หนี้การพนันมหาศาลต้องใช้คืนภายในสิบวัน ต่อให้ขายโรงแรมโทรมๆมาใช้ ก็ไม่มีทางทัน นอกจากขายลูกกินวิธีเดียวเท่านั้น”
“แน่ใจรึ ว่าที่แกลงทุนไปกับผู้หญิงที่มีดีแค่คำนำหน้าชื่อและนามสกุลคนนั้นมันจะให้ผลคุ้มค่า”
“นอกจากนามสกุลมันจะเป็นใหญ่เป็นโตในวงราชการ ซึ่งถ้าเราดองเป็นญาติ ย่อมได้รับความสะดวกต่อการทำธุรกิจไม่รู้ตั้งเท่าไหร่ ไม่นับวังจงสวัสดิ์และโรงแรมนั่น มันคือสุดยอดความคลาสสิกมูลค่ามหาศาล ที่หลายคนช่วงชิง ใครได้ไปก็จะมีแต่คนก้มหัวให้การยอมรับ ตรงนี้แหละที่ผมถือว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม”
เสี่ยกำธรเตือนอีกครั้งในฐานะที่อาบน้ำร้อนมาก่อน ว่าธุรกิจมีการชิงไหวชิงพริบกันตลอดเวลา ฉะนั้นอย่าประมาท เกียรติศักดิ์เริ่มไม่สบายใจขึ้นมานิดๆ...
จริงอย่างที่เสี่ยกำธรคาดคิด แม้นเทพไม่ใช่หมูที่รอถูกเชือด เขาบอกณรังค์ว่าต้องการเจรจากับสุนันทา ณรังค์ตกใจกับการตัดสินใจปัจจุบันทันด่วนของท่านชาย ในขณะที่เกียรติศักดิ์พยายามโทร.หาปฐวีแต่เธอไม่มีแก่ใจจะรับสาย ทำให้เขาหงุดหงิดไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงโทร.เข้าเบอร์ของวัง ชื่นรับสายอึกๆอักๆไม่กล้าพูดอะไร ประคองดึงโทรศัพท์มาจะคุยเอง
ไล่ชื่นให้กลับไปทำงาน กำชับห้ามเล่าเรื่องเมื่อเช้าให้ใครฟัง เกียรติศักดิ์ให้ตามปฐวีมาพูดสาย
“คงไม่ได้ค่ะ เพราะเธอไม่ได้อยู่ที่นี่”
“ไปไหน?”
ประคองคิดแก้แค้น พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่าคุณหญิงไปไหนไม่เคยบอกตน แต่ที่เห็นเมื่อคืนกลับมาอาการไม่ค่อยดี
หลังจากออกไปเที่ยวกับเพื่อนชายคนสนิท พอเกียรติศักดิ์ร้อนใจถามว่าใครคือเพื่อนสนิท ประคองยิ่งยั่วยุว่าตนไม่รู้เพราะเธอไม่เคยบอกแต่ที่คิดว่าสนิทเพราะมารับมาส่งกันบ่อยครั้ง เกียรติศักดิ์โกรธต้องการพูด กับแม้นเทพแทน
“ท่านเสด็จไปทรงงานที่โรงแรมแต่เช้าแล้วค่ะ ถ้าอยากจะคุยกับท่าน รบกวนไปเจอองค์ที่โรงแรมดีกว่านะคะ ทำแบบนี้เสียมารยาทกับผู้ใหญ่ สวัสดีค่ะ” ประคองตัดบทวางสายยิ้มสมใจ
เกียรติศักดิ์โกรธจนแทบปามือถือทิ้ง ด่าคนที่วังไม่มีมารยาท จองหองตั้งแต่หัวยันหาง ได้แต่งงานเมื่อไหร่จะเฉดหัวออกจากวังให้หมด พลันฉุกคิดว่าแม้นเทพลุกขึ้นมาทำงานทำไม
ooooooo
บริษัทสุนันทา อ๋องเดินอ่านเอกสารเพลินชนเข้ากับสิริกันยาที่หอบแฟ้มกองโตล้มก้นจ้ำหน้าตาเหยเกด้วยความเจ็บ เขารีบขอโทษและจะช่วยพยุง แต่เธอดีดตัวเองขึ้นเก็บแฟ้ม บอกเขาว่าเจ็บนานไม่ได้เสียเวลาทำงาน อ๋องขำท่าทางเธอจะช่วยหอบของไปส่งที่โต๊ะ
“ไม่ต้องๆฉันไปเองได้ คุณไปทำงานเถอะ อย่ามาทำเป็นอู้งานด้วยการเดินไปส่งฉันที่โต๊ะ ถึงบอสจะใจดีแต่คงไม่ปลื้มถ้ารู้ว่าพนักงานเอาเวลางานมาเดินเล่น”
อ๋องหน้าเหวอที่สิริกันยาคิดว่าเขาเป็นพนักงานคนหนึ่ง มองเธอเดินหอบแฟ้มไปอย่างประทับใจ... ระหว่างนั้น ยิ่งยศไดรฟ์กอล์ฟอยู่กับเสี่ยกำธร แต่เลี่ยงมาคุยโทรศัพท์กับสุนันทา ว่าแม้นเทพอาจจะยอมขายโรงแรมให้เธอเพราะกำลังดิ้นรนเอาตัวรอดจากการถูกบีบคั้น
“เสี่ยกำธรมันมาพูดเปรยๆว่าอีกไม่นานอาจจะต้องเรียกมันว่าพระญาติ...ท่านชายแม้นเทพอาจจะขายลูกกินจริงๆอย่างที่เราคาดเดา แต่คนอย่างท่านชายต้องหาทางหนีทีไล่ก่อนจะทำอย่างนั้นแน่นอน ไม่อย่างนั้นไม่เรียกคุณเจรจาแน่ เพียงแต่จะออกมาในรูปไหนเท่านั้นเอง”
“ค่ะ ฉันจะลองวางแผนดู”
“แต่ไม่ว่าจะเป็นทางไหน คุณไม่มีทางเสีย แต่อาจจะได้ไม่เท่ากับที่คาดหวัง”
“ฉันเตรียมใจไว้แล้ว ขอบคุณนะคะสำหรับคำแนะนำ” สุนันทายิ้ม ถึงยิ่งยศจะเป็นสามีที่ไม่ค่อยดีแต่ก็ยังเป็นที่ปรึกษาที่ดีเสมอ
ในขณะเดียวกัน ณรังค์เดินตามแม้นเทพมาตามล็อบบี้ เขาสังเกตเห็นความทรุดโทรมของโรงแรมแม้จะคงความคลาสสิกและหรูหราไว้ จู่ๆแม้นเทพก็ถามขึ้นว่าเขาคิดอย่างไรกับปฐวี
“กระหม่อมไม่มีทางทำผิดอีกเป็นครั้งที่สอง”
ณรังค์ตอบอย่างจริงจัง
“ที่แกกลับมาไม่ใช่ต้องการแก้แค้นฉันหรอกรึ แกอาจจะแกล้งทำให้ฉันต้องฉิบหายหมดตัว ให้สมกับที่ฉันขัดขวางความรักของแก”
ณรังค์กลับขอบพระทัยท่านชายที่ทำให้หลุดพ้นจากภาพลวงตาที่คุณหญิงสร้างไว้หลอกให้ตนเชื่อว่ารัก ท่านชายหัวเราะหยันพูดทิ้งท้ายก่อนจะเดินนำไป
“แกรู้แล้วสินะว่าหญิงวีไม่เคยรักใครนอกจากตัวเอง”
“คุณหญิงคือประติมากรรมที่ฝ่าบาททรงสร้างโดยถอดแบบมาจากองค์เอง” ณรังค์พึมพำก่อนจะเดินตามไป
พอเข้ามาในลิฟต์ ท่านชายก็ถามขึ้นว่า จะมีทางที่ไม่ต้องเสียโรงแรมให้แร้งทึ้งอย่างสุนันทาไหม ณรังค์แนะนำให้ขายหุ้นเพียงครึ่งเดียว เพื่อยังมีสิทธิ์ในการบริหาร ใช้เงินและคอนเนกชั่นของเธอเป็นทุนพัฒนาโรงแรม ท่านชายพอใจในข้อเสนอนี้มากแต่เกรงสุนันทาจะไม่เห็นด้วย
“ให้ผมเดาใจ คุณสุนันทาเป็นนักธุรกิจที่ไม่บุ่มบ่าม เธอจะรอคอยอย่างใจเย็น อย่างน้อยการก้าวเข้ามาก่อนหนึ่งขา ก็เป็นโอกาสที่จะได้ก้าวเข้ามาอีกขาหนึ่งในอนาคต ถ้าเรา...อ่อนแอ”
“แต่ถ้าเราแข็งแรงและไม่ยอมให้มันกลืนกินเราทั้งหมด...”
“เธอก็อาจจะขายหุ้นคืนในราคาที่สูงกว่าตอนซื้อมา งานนี้ไม่มีคำว่าขาดทุนสำหรับคุณสุนันทา แต่สำหรับเรา...แค่ขาดทุนกำไร วิธีนี้บวกกันทั้งสองฝ่ายกระหม่อม”
แม้นเทพไม่สนใครจะบวกใครจะลบ สนแค่ไม่ให้เสียอะไรแก่พวกแร้ง แต่ถ้ามันจำเป็นต้องเสียก็ต้องส่วนน้อยเพื่อรักษาส่วนใหญ่ ณรังค์ไม่เข้าใจท่านหมายถึงอะไร...
เมื่อเข้ามาในห้องประชุม สักพักวิเชียรผู้จัดการทั่วไปกับไพโรจน์หัวหน้าฝ่ายการเงินและบัญชีตามเข้ามา แม้นเทพแนะนำให้ทั้งสองรู้จักณรังค์ในฐานะผู้ช่วยบริหาร ทั้งสองจึงให้ความเคารพ...
ใจดีเดินนำสิริกันยาเข้ามาในห้องทำงาน สุนันทาให้ทั้งสองไปเดอะแกรนด์รอยัลด้วยและจะคุยรายละเอียดในรถพร้อมลูกชายที่มาช่วยดูแลโปรเจกต์นี้ ขาดคำอ๋องเดินเข้ามา สิริกันยาตาโพลงตกใจที่ตัวเองปล่อยไก่ไปเมื่อครู่ อ๋องลอบมองขำๆยิ่งประทับใจในความซื่อตรงของเธอ
มาถึงเดอะแกรนด์รอยัล ระหว่างเดินตามกันมา สุนันทาเจอกับเกียรติศักดิ์กลางล็อบบี้ ต่างฝ่ายยิ้มให้กันทำนองไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ เกียรติศักดิ์วางมาดประหลาดใจที่เห็นเธอที่นี่
“แต่ดิฉันไม่ประหลาดใจที่เห็นคุณที่นี่ คงจะมาสร้างความคุ้นเคยกับสถานที่ที่อาจจะไม่ได้เป็นของตัวเอง...ขอตัวนะคะ ท่านชายแม้นเทพเรียกดิฉันมาคุยเรื่องสำคัญ คงไม่มีเวลาเสวนากับคุณมากนัก ขอโทษด้วย” สุนันทายิ้มเย้ยเดินผ่านไป สิริกันยาสะใจจำเขาได้ที่มีเรื่องกับณรังค์
ไม่ทันไร ขณะนั่งรอเข้าพบ สิริกันยาเห็นณรังค์เดินมาก็อุทานเสียงดัง ทุกคนหันมอง ใจดีถามเป็นอะไร เธอชี้ไปที่ณรังค์ ใจดีร้องอ๋อ...คนส่งพิซซ่า แต่สุนันทากับอ๋องกลับลุกขึ้นทักทาย ใจดีหน้าเสีย ตำหนิสิริกันยาที่ทำตนปล่อยไก่ไปด้วย ณรังค์ปรายตามองสิริกันยา
แต่ไม่สนใจ
ด้านนอก เกียรติศักดิ์นั่งรอนานจนลุกขึ้นโวยวายกับพนักงานที่ให้รอทั้งที่ตนมีเรื่องสำคัญจะคุยกับท่านชายแม้นเทพ สุนันทาประชุมเสร็จเดินออกมาแกล้งเหน็บเสียงดัง
“อะไรกันคะคุณเกียรติศักดิ์ ดิฉันคุยกับท่านชายเรียบร้อยแล้วค่ะ ไม่ต้องโวยวาย รอนิดรอหน่อยแค่นี้เองงอแงไปได้”
เกียรติศักดิ์โกรธจะเอาเรื่องที่ทำเหมือนตน
เป็นเด็กอมมือ ณรังค์กับอ๋องรีบเข้าไปขวาง เขายิ่งของขึ้นหาว่าเด็กในบ้านเสนอหน้ามาทำไม ณรังค์ย้อนให้เขารู้สึกตัวว่าไม่ควรทำกิริยาไม่ดีกับสุภาพสตรี เกียรติศักดิ์ยิ่งโกรธผลักอกณรังค์และจะเข้าชก เสียงแม้นเทพดังขัดให้หยุด ถ้าไม่รักษามารยาทตนจะไม่เกรงใจ เกียรติศักดิ์กลับยืดอกคิดว่าตัวเองถือไพ่เหนือกว่า
“ฝ่าบาทต่างหากที่ต้องเกรงใจกระหม่อม ในฐานะที่เป็นเจ้าหนี้ของฝ่าบาท และกำลังจะมีสิทธิ์ในทุกตารางนิ้วที่นี่”
“ผิดแล้ว เพราะฉันกำลังจะใช้หนี้ให้แกทุกบาททุกสตางค์ก่อนกำหนด”
เกียรติศักดิ์อึ้ง ไม่รู้ว่าท่านชายจะเดินเกมอะไร...
สุนันทาเดินคุยมากับลูกชายว่าข้อเสนอแม้นเทพเป็นอย่างที่คิด อ๋องชื่นชมความเก่งของแม่จะต้องเรียนรู้จากแม่ให้มากๆ ผู้เป็นแม่บอกว่าประสบการณ์และสัญชาตญาณจะเป็นคนสอนเขาเอง ตนจะคอยเป็นแบ็กอัพให้ อ๋องดีใจที่จะได้ทำงานร่วมกับเพื่อนรัก จะทำที่นี่ให้เจริญขึ้นในเวลาไม่นาน สิริกันยาพึมพำ คนเก่งแต่ไม่มีศีลธรรมจะเจริญได้อย่างไร ใจดีกระซิบถามบ่นอะไร เธอรีบปัดว่าไม่มีอะไร
ไม่ทันไรสุนันทาหันมาสั่งสิริกันยาว่าให้ไปเป็นเลขาอ๋อง ส่วนตนจะหาคนใหม่ เพราะเธอเรียนจบด้านการเงิน ความรู้นั้นจะช่วยอ๋องได้มาก อ๋องแอบดีใจที่จะได้ใกล้ชิดเธอ
ด้านแม้นเทพเดินนำเกียรติศักดิ์เข้ามาในห้องทำงาน ณรังค์รอปิดประตูแล้วตามเข้ามา ท่านชายเชิญให้เกียรติศักดิ์นั่ง เขาเชิดหน้ามองณรังค์ด้วยสายตาดูถูก
“กระหม่อมไม่นั่ง! ควรจะให้เด็กในบ้านออกไปก่อนดีไหมกระหม่อม ถ้าเราจะคุยกันอย่างสบายๆก็ไม่ควรมีส่วนเกิน”
“แต่มันเป็นเด็กในบ้านที่ฉันเพิ่งจะมอบหมายให้ช่วยฉันจัดการเรื่องทั้งหมดในตอนนี้...ทุกเรื่อง ทั้งเรื่องหนี้สินระหว่างนายกับฉัน และการบริหารโรงแรมร่วมกับสุนันทาที่เพิ่งจะเซ็นสัญญาร่วมทุนกับฉันในสัดส่วน 49 เปอร์เซ็นต์”
ณรังค์คาดไม่ถึงว่าท่านชายจะไว้ใจตนขนาดนั้น เกียรติศักดิ์เดือดดาลไม่ยอมแพ้ หาว่าแม้นเทพคงสมองเสื่อมเพราะพิษสุรา คำนวณดูคร่าวๆมูลค่าหุ้นที่ขาย
ไม่มีทางพอกับหนี้สิน ท่านชายสวนว่าวันนี้ตนสติสัมปชัญญะสมบูรณ์พอจะรู้ว่ากำลังคุยอะไรกับใคร
“เงินที่ฉันได้มาบวกกับค่าสินสอดที่ฉันจะเรียกจากนาย” ทั้งณรังค์และเกียรติศักดิ์ตกใจ “ใช่ ฉันยอมให้หญิงปฐวีแต่งงานกับนายภายใต้ข้อแม้...หนี้ทั้งหมดเป็นโมฆะ”
“ค่าตัวคุณหญิงดูจะมหาศาลเกินไปนะกระหม่อม”
“ก็คุ้มกับผลประโยชน์ที่นายจะได้รับเมื่อดองกับจงสวัสดิ์ไม่ใช่รึ นับว่าได้กำไรมหาศาลอีกต่างหาก ตัววังกับโรงแรมมันก็แค่ของเล็กๆ ไม่ต้องได้ไปก็ไม่ได้เสียหายอะไร”
เกียรติศักดิ์ยิ้มหยัน “พ่อของกระหม่อมพูดอะไรไว้ไม่ผิดเลยจริงๆ ฝ่าบาททรงเป็นนักธุรกิจที่เรียกได้ว่าไม่หมู”
แม้นเทพยิ้มรับที่ทำให้เจ้าหนี้อย่างเกียรติศักดิ์จำยอมรับข้อเสนอนี้ ณรังค์ไม่ชอบใจกับการกระทำเช่นนี้ของแม้นเทพเลย...พอมีโอกาสอยู่กันลำพัง จึงทูลเตือนว่าสังคมจะพูดถึงเรื่องนี้ ท่านชายดักคอคิดว่าตนขายลูกกินใช่ไหม ที่ผ่านมา
สังคมไม่เคยพูดถึงตนในแง่ดีอยู่แล้ว และที่สำคัญสังคมไม่สามารถใช้หนี้แทนตนได้ แล้วจะแคร์ทำไม
“ไม่แคร์ศักดิ์ศรีด้วยเหรอกระหม่อม”
“อย่าบังอาจมาสั่งสอนฉัน!”
“แต่ฝ่าบาทสั่งให้กระหม่อมรักษาศักดิ์ศรีของจงสวัสดิ์ กระหม่อมกำลังทำอยู่ ถ้าฝ่าบาทบอกกระหม่อมเรื่องหนี้พนันจำนวนนั้น กระหม่อมอาจจะหาทางออกอื่นโดยไม่จำเป็นต้องให้คุณหญิงแต่งงาน”
ท่านชายบอกนี่เป็นการรักษาศักดิ์ศรีวังและโรงแรมของตน แม้จะเสียอะไรไปบ้างก็รักษาส่วนใหญ่ไว้ได้ ณรังค์ไม่คิดว่าท่านชายจะไม่สนใจความรู้สึกของลูกแท้ๆ แถมคิดว่าเป็นหน้าที่ของจงสวัสดิ์ทุกคนที่ต้องทำตามคำสั่ง แม้แต่เขาก็อย่าสะเออะมาเถียงอะไรอีก จงทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ณรังค์จำต้องรับคำด้วยความรู้สึกเหนื่อยใจ สงสารปฐวีขึ้นมาจับใจ
ooooooo
อ่านละครเรื่อง สายธารหัวใจ ตอนที่ 2 วันที่ 21 ต.ค.60
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ บทประพันธ์โดย วาสนาละครเรื่อง สายธารหัวใจ บทโทรทัศน์โดย คนเขียนเงา
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ กำกับการแสดงโดย ชนะ คราประยูร
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ผลิตโดย บริษัท เมคเกอร์ กรุ๊ป จำกัด
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ควบคุมการผลิตโดย ณัฐพงศ์ เหมือนประสิทธิเวช
ละครเรื่อง สายธารหัวใจ ออกอากาศทุกวันพุธ-พฤหัสบดี เวลา 20.15 น. ทางช่อง 33 HD
ที่มา ไทยรัฐ